กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๗ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4024)

เถรี 07-04-2014 09:40

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๗
 
ถาม : ไม่ทราบว่ามีวิธีแก้บ้านตรงทางสามแพร่ง ที่ถนนพุ่งตรงเข้าสู่ตัวบ้านไหมครับ ?
ตอบ : รื้อบ้านทิ้ง..!

ถาม : ทางสามแพร่งจะเป็นอัปมงคลหรือเปล่า แก้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่หรอก เป็นมงคลมาก..!

ถาม : อย่างไรครับพระอาจารย์ ?
ตอบ : ชีวิตคนเราท้ายสุดก็คือความตาย ถ้าสิบล้อมาเกยเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น..! เรื่องของการแก้ส่วนใหญ่แล้วเขาใช้หลักฮวงจุ้ยของจีน จะมีการติดกระจกสะท้อนสิ่งที่ไม่ดีออกไป หรือไม่ก็สร้างสระน้ำไว้หน้าบ้านเพื่อให้สิ่งไม่ดีทั้งหลายลงไปในน้ำแทน ไปถามหมอดูฮวงจุ้ยดีกว่าจะได้เสียเงินเยอะหน่อย..!

ถาม : แล้วมีผลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ หรือเรื่องทางผีผ่านอย่างไรไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าคิดมากก็มีผล มัวแต่แช่งตัวเองว่าไม่ดี ๆ อยู่นั่นแหละ ถ้ามั่นใจในคุณความดีของศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว ผลร้ายเกือบจะไม่มี

เถรี 07-04-2014 09:41

ถาม : นิยตโพธิสัตว์ที่มีกำลังใจเข้มแข็งสามารถลาพุทธภูมิได้ใช่ไหมครับ แล้วอย่างนี้คำทำนายของพระพุทธเจ้าที่ท่านพยากรณ์ถือว่าผิดหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เรื่องนี้ไปทูลถามพระพุทธเจ้าโดยตรงดีกว่า จะได้รับคำตอบที่ถูกต้อง อาตมาตอบไปก็ไม่จบหรอก พวกลูกช่างสงสัย..!

เถรี 07-04-2014 09:46

ถาม : ถ้าจะเดินทางไปเชียงตุงซึ่งตั้งอยู่ในรัฐฉานของประเทศพม่า นอกจากจะอาราธนาบารมีของพระพุทธองค์และครูบาอาจารย์ที่นับถือแล้ว ควรจะขอบารมีเทพเทวดาท่านใด เพื่อคุ้มครองการเดินทางให้ปลอดภัยคะ ?
ตอบ : ตั้งใจนึกถึงพระเจ้าเก้าเมือง จริง ๆ ก็คือเป็นเจ้าที่รักษารัฐฉาน ๙ องค์ด้วยกัน นึกถึงขอให้ท่านสงเคราะห์ อุทิศส่วนกุศลถวายท่านไปด้วย

เถรี 07-04-2014 09:47

ถาม : ได้ดินจากวัดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยมาไว้ในครอบครอง โดยได้ต่อมาอีกทอดหนึ่งค่ะ ที่มาเป็นดินจากการก่อสร้างบูรณะโบราณสถานภายในวัด และช่างก่อสร้างได้ขนดินและเศษก่อสร้างออกมาทิ้งภายนอกวัด จึงเก็บมาโดยตั้งใจจะนำไปสร้างวัตถุมงคล อยากเรียนถามว่า เป็นการติดหนี้สงฆ์หรือไม่และควรทำอย่างไรเพื่อให้ถูกต้องสมควร ?
ตอบ : ติดหนี้สงฆ์ ๒ เด้ง อันดับแรกหนี้สงฆ์คือดินนั้นเป็นของวัด อันดับที่ ๒ มาจากโบราณสถานที่เขาตั้งใจสร้าง ส่วนใหญ่ก็สร้างเพื่อเป็นพุทธบูชา เจอ ๒ เด้ง วิธีที่ดีที่สุดก็คือกะ ๆ ว่าราคาเท่ากับทองกี่บาทแล้วก็เอาถวายวัด

เถรี 07-04-2014 09:48

ถาม : ถ้ามีคนทำความผิดและโดนตัดสินลงโทษไปแล้ว เราซึ่งเป็นคนรู้จักควรจะให้กำลังใจเขา เพื่อไม่ให้ใจของเขาเศร้าหมองโดยไม่สนว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตัวเองได้หรือไม่ อย่างนี้เรียกว่าเมตตาเกินไปหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่เกิน ถ้าเมตตาเกินไปก็ต้องไปติดคุกแทนหรือรับโทษแทนเขา

ถาม : ถึงเขาจะเลวต่อไปเราก็ให้กำลังใจ ?
ตอบ : คบกันแค่ตอนดี ส่วนเขาทำเลวอะไรเราไม่รับรู้

เถรี 07-04-2014 09:49

ถาม : การพูดจาประชดประชัน เหน็บแนม จิกกัด จัดเข้าในหมวดไหนของวจีกรรม ๔ ? และการพูดลักษณะนี้มีโทษหรือไม่คะ ?
ตอบ : ผรุสวาทา แปลเป็นไทยว่า “คำพูดเหมือนขวานถาก” ถากได้ทุกอย่างยกเว้นด้ามตัวเอง ฉะนั้น..ถือว่าบกพร่องในวจีกรรม ถ้าเป็นพระเขาปรับอาบัติทุพภาสิต ศีลขาด ฆราวาสเขาถือว่าในส่วนของกรรมบถบกพร่อง

เถรี 07-04-2014 09:50

ถาม : เราซึ่งเป็นฆราวาสหรือแม่ชีต้องประเคนของให้เณรหรือไม่ ? เพราะบางที่ก็บอกว่าไม่ต้องประเคนให้ เณรสามารถฉันเองได้เลย
ตอบ : ถ้าเป็นธรรมยุตเขาบังคับว่าต้องประเคนก่อน เพราะว่าสามเณรคือผู้ที่เตรียมตัวจะเป็นพระ ต้องสร้างความเคยชินให้เขา แต่ถ้าทั่ว ๆ ไปเขาถือว่าเณรไม่มีศีลข้อนี้ ไม่ต้องประเคนก็ได้

เถรี 07-04-2014 09:55

ถาม : หากนำวัตถุมงคลต่าง ๆ หลอมเพื่อสร้างเป็นวัตถุมงคลชิ้นใหม่ขึ้นมา วัตถุมงคลชิ้นใหม่จะมีอานุภาพของวัตถุมงคลชิ้นเดิมที่นำมาหลอมสร้างเป็นชิ้นใหม่ทันทีหรือไม่ครับ หรือว่าไม่จำเป็นเสมอไป ?
ตอบ : ถ้ายึดเอาหลักที่หลวงปู่ดู่อธิษฐานตอนปลุกเสกพระ ก็แปลว่าหมดอานุภาพไปเลย..!

ถาม : อย่างไรครับ ?
ตอบ : หลวงปู่ดู่ท่านอธิษฐานว่า วัตถุมงคลของท่านถ้าละลายเป็นน้ำเมื่อไรก็หมดอานุภาพ ฉะนั้น..ท่านใดก็ตามถ้าอธิษฐานไว้ลักษณะนั้น ก็แปลว่าเราจะไม่ได้อะไรเลย แล้วถ้าเป็นรูปพระสงฆ์หรือรูปพระพุทธก็ยิ่งเฮงเข้าไปใหญ่ เพราะถือว่าทำลายพระพุทธหรือทำลายพระสงฆ์ด้วย โทษต่ำ ๆ ก็ลงอเวจีหนึ่งกัป

ถาม : ถึงแม้เราจะเอาไปหลอมแล้วสร้างเป็นพระใหม่ ?
ตอบ : ทำลายของเก่าคือทำลายของเก่า สร้างใหม่คือสร้างใหม่ โทษคือโทษ บุญคือบุญ ไม่ได้เกี่ยวกัน

ถาม : แต่ถ้าเรานำไปบรรจุในพระประธานอันนี้ไม่ถือว่าเป็นโทษใช่ไหมครับ ?
ตอบ : การบรรจุเขาทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว

ถาม : แล้วถ้ามีคนเอาไปทำแล้วละครับ ถ้าไม่ได้อธิษฐานไว้อย่างหลวงปู่ดู่ละครับ พุทธานุภาพจะยังอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : น่าจะมีสักนิดหนึ่ง

เถรี 07-04-2014 09:55

ถาม : หากวัตถุมงคลชิ้นเดิมเป็นรูปพระ หรือเป็นตะกรุดแต่จารอักขระเป็นองค์พระ หากนำมาหลอมจะโดนโทษทำลายพระเสมอไปหรือไม่ครับ ? มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดคืออย่าไปทำ

ถาม : แล้วพวกอักขระยันต์ละครับ ?
ตอบ : ถ้าคิดมากก็ทำไม่ได้ เพราะถือว่าอักขระตัวหนึ่งเท่ากับพระองค์หนึ่ง ฉะนั้น..ห้ามคิดมาก ตัดสินใจว่ากูลงอเวจีแน่นอน แล้วก็ทำไปเถอะ..!

เถรี 07-04-2014 10:00

ถาม : หากสร้างวัตถุมงคลแล้วนำไปขอพระอาจารย์เข้าพิธี เช่น สร้างเสือสมิง ลิงจับหลัก โดยอาจสร้างจำนวนมาก ๆ เช่นนี้ จะโดนปรับโทษใช้พระหรือไม่ครับ ? แล้วจะมีวิบากอย่างไร ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจก็เท่ากับว่าใช้ ตั้งใจว่าอย่างไรอาจารย์ต้องเสกให้กูแน่ แต่ไม่เห็นเขาจะกลัวกันนี่ หลวงพ่อคูณเดินไม่ไหวแล้วเขาก็เอานั่งรถเข็นออกมาเสก

ถาม : แล้วจะมีวิบากอย่างไรครับใช้พระแบบนี้ ?
ตอบ : ถึงเวลาก็โดนใช้คืนบ้าง แบบนางขุชชุตตรา ใช้นางภิกษุณีครั้งเดียวเป็นคนใช้เขาตั้ง ๕๐๐ ชาติ แต่เจ้านั่นเล่นหลวงพ่อคูณมาหลายยกแล้ว

ถาม : อย่างนี้ถ้าเรามีวัตถุมงคล อยากจะขอความเมตตาจากหลวงปู่หลวงพ่อต่าง ๆ ละครับ ?
ตอบ : ขอวิธีไหนก็ตาม ถ้าตั้งใจเท่ากับใช้ท่าน ส่วนใหญ่พระท่านสงเคราะห์ให้ เพราะถ้าไม่ทำให้ เขาโกรธท่านคราวนี้ลงอเวจีไปเลย แต่ถ้าทำให้เขาโดนแค่โทษใช้พระ ก็แค่ไปเกิดเป็นคนใช้เขา

ถาม : อย่างเวลามีพิธีพุทธาภิเษก ค่อยเอาไปเข้าไม่ถือว่าใช้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าอย่างวัดท่าขนุนอนุญาตให้เข้าอยู่แล้ว หมดเรื่องไปเลย

ถาม : ถ้าคิดเฉย ๆ ไม่ได้ทำล่ะครับ ?
ตอบ : โทษก็เกิดแค่มโนกรรม

ถาม : ผลเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็ถึงเวลาคนอื่นเขาก็คิดไม่ดีกับเราบ้าง

ถาม : แล้วเคยพลั้งพลาดไปแล้วแก้อย่างไรครับ ?
ตอบ : อย่าเกิด..แก้ได้แน่นอนที่สุด

เถรี 07-04-2014 10:00

ถาม : หากวัตถุประสงค์หลักที่สร้างวัตถุมงคลเพื่อการค้าหรือหากำไรส่วนตน ในการพุทธาภิเษกพระท่านจะสงเคราะห์ให้หรือไม่ครับ ? เพราะการสร้างไม่ได้เกิดจากพระสั่งหรือไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อพระพุทธศาสนาเป็นหลัก ?
ตอบ : ถ้าท่านอนุญาตให้เข้าพิธีได้ ก็แปลว่าใช้ได้ ส่วนในเรื่องอื่นนั้นถือว่าเป็นโทษเฉพาะตัวของท่านเอง

เถรี 07-04-2014 19:27

พระอาจารย์กล่าวว่า "พอเด็กคลอดแล้วอย่าให้เขากินนมผงหรือนมกระป๋อง ให้เขากินนมแม่อย่างเดียว เด็กก็เหมือนกับหมา ถ้าเขากินอะไรอร่อยแล้วจะเลือกกินแต่อย่างนั้น ไม่ยอมกินนมแม่ ปล่อยให้เขาหิวหน้ามืดไว้ แล้วเขาจะกินนมแม่เอง

โดยเฉพาะคนเป็นแม่อย่าไปกินของเย็น ทั้งที่เป็นอาหารธาตุเย็น หรือของแช่เย็น ของใส่น้ำแข็ง อย่าไปอาบน้ำเย็น ไม่อย่างนั้นน้ำนมจะหยุด คราวนี้จะไม่มีนมให้ลูกกิน ไปถามคนแก่ ๆ เอา แต่อาตมาก็แก่แล้วนะ เจอมาเยอะแล้ว

ที่แม่อ้วนตอนท้องเพราะต้องตุนไว้เผื่อลูกกินตอนคลอด คราวนี้ถ้าเราไม่ให้ลูกกิน ก็ไม่รู้จะยุบไปทางไหน อ้วนอยู่อย่างนั้นแหละ ถ้าลูกกินเยอะ ๆ พอถึงเวลาเราจะเหี่ยวเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก มีเด็กคนหนึ่งกินนมแม่จนซี่โครงขึ้นทุกซี่เลย เจ้านั่นร้ายกาจมาก ไม่ยอมกินนมกระป๋อง บังคับอย่างไรก็จะกินแต่นมแม่ อาตมากลัวแม่จะผอมตาย เพราะเหลือแต่ซี่โครง"

เถรี 07-04-2014 19:33

พระอาจารย์เล่าว่า "วันที่อาตมาไปสาธยายพระไตรปิฎก พระท่านถามเลย “ท่านอาจารย์มีเฟซบุ๊กไหมครับ ?” “ไม่มีครับ..ไลน์ก็ไม่มี” “แต่รูปของท่านอาจารย์ลงเฟซบุ๊กเยอะจังเลย” “เออ..ใช่” มีแต่คนเอาไปลงให้ ไม่ต้องเล่นเอง รูปที่เขาลงให้เยอะกว่าเล่นเองอีก"

เถรี 07-04-2014 19:55

ถาม : วัดตะคร้ำเอนอยู่ตรงไหนของราชบุรีคะ ?
ตอบ : วัดตะคร้ำเอนไม่ได้อยู่ที่ราชบุรี วัดตะคร้ำเอนอยู่ที่กาญจนบุรี แยกเดียวกับพระแท่นดงรัง เลี้ยวขวาเข้าไปไม่ถึง ๒ กิโลเมตร มีหลวงพ่อดำอยู่ ศักดิ์สิทธิ์สุด ๆ เขาว่าใครบนอะไรได้ทุกเรื่อง ท่านชอบดูหนัง เพราะฉะนั้น..จะมีจอใหญ่ขึงเอาไว้ตลอดปีตลอดชาติ เขาบอกว่าอย่างน้อยคืนหนึ่ง ๓ - ๔ เรื่อง คนไปบนพอสำเร็จก็จ้างเขาฉายหนังจอใหญ่เลย เขาเตรียมสถานที่ไว้เพื่อรับรถทัศนาจรโดยเฉพาะ

จากสี่แยกท่าเรือพระแท่น ถ้าขาลงจากท่าขนุนจะเลี้ยวซ้าย ถ้าขาขึ้นจะเลี้ยวขวา เข้าไปไม่ถึง ๒ กิโลเมตรหรอก เขาจะมีป้ายบอกแต่ไกลว่า ‘หลวงพ่อดำ วัดตะคร้ำเอน’ อย่าไปบนขอรางวัลที่หนึ่งพร้อม ๆ กันนะ เดี๋ยวพระเจ้าจะพลอยเครียดไปหมด..!

เถรี 07-04-2014 20:06

ถาม : ช้างที่มีงาอ้อมจักรวาลพอมีอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : งาอ้อมจักรวาลก็เหมือนกับเขี้ยวแก้วของคนนั่นแหละ จะขึ้นจากเพดานปาก ทีนี้พอออกจากเพดานปากลงมาก็จะติดงวง ก็เลยต้องโค้งอ้อมงวงไป เพราะฉะนั้น..ช้างงาอ้อมจักรวาลจะมีงาเดียว พลายสุระเป็นช้างพลายปกติ งายาวใช้ได้เลย ประมาณ ๑.๒ เมตร เจ้าของนอนเฝ้าทุกคืน

ถาม : พระเศวตฯ ก็ไม่ใช่ ?
ตอบ : ไม่ใช่..คนไม่รู้ก็ว่าไปเรื่อย พระเศวตฯ ก็ไม่ใช่ คือช้างงาถ้าไม่ได้ใช้งาน งาที่ยาวไปเรื่อย ๆ ก็จะโค้งไปเอง ถ้าอยู่ในป่าใช้งานแทงนั่นงัดนี่ไปเรื่อย งาก็ไม่ยาวมาก เพราะฉะนั้น..ช้างงายาวสวย ๆ ส่วนใหญ่เป็นช้างเลี้ยงทั้งนั้น ช้างในป่าถ้างายาว ส่วนใหญ่จะอยู่ลักษณะงาปลี คือค่อนข้างจะใหญ่และสั้น เพราะใช้งานอยู่ตลอด อย่างรูปที่ถ่ายไว้สมัยรัชกาลที่ ๕ ที่เขาเอาขบวนช้างมารับเสด็จ ที่เขาเรียกจ๊างปู้เลื้อย ยาวเกือบติดดิน น่าจะ ๒ เมตรเศษได้

ถาม : รอยแตก ๆ นี่ ?
ตอบ : รอยแตก ๆ เป็นเรื่องปกติ ผิวงาจะเป็นอย่างนั้น พอขัดเข้าไปก็กลายเป็นสีขาวสวย ถ้าอยากรู้ว่าสีเดิมเป็นอย่างไรก็ดูตรงข้างงวง งวงช้างจะสีอยู่ตลอดเวลา ก็จะเป็นสีเนื้องาขาวอมเหลืองตามปกติ

ถาม : สีหม้อใหม่คือสีอะไรคะ ?
ตอบ : นึกถึงหม้อดินเผาสิจ๊ะ ไม่ใช่สีหม้อสเตนเลส..!

เถรี 07-04-2014 20:25

ถาม : ที่แตกลายงาหมายถึงงาเขาแก่ตามสภาพ ?
ตอบ : ลายงาจริง ๆ อยู่ในเนื้องา ลักษณะคล้าย ๆ จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนจิ๋ว ๆ อยู่ในเนื้องา เวลาเขาพูดถึงลายงานี่ต้องแยกให้ออก ถ้าแตกแบบเปลือกงาเป็นลักษณะแตกแบบของเครื่องลายครามหรือของเก่า แต่ว่าลายงาจริง ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าแตกลายงานี่ขอให้รู้ว่าเป็นลายเปลือกงา แต่ถ้าลายเนื้องาจริง ๆ จะเป็นอีกลายหนึ่ง

เถรี 10-04-2014 11:41

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาสร้างศาลาไม่ทันเสร็จก็โดนลอกแบบแล้ว สมัยนี้เขาลอกการบ้านกันสุดยอดขนาดนี้เลยหรือ ? แสดงว่าแบบของวัดท่าขนุนใครเห็นก็ชอบ สร้างยังไม่ทันจะเสร็จเลยมีคนลอกแบบแล้ว แบบวัดท่าขนุนอาตมาลอกแบบมาจากหลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ลอกแบบมาจากหลวงปู่ปาน

หลวงปู่ปานท่านทำโบสถ์ ๒ ชั้น ชั้นล่างท่านทำเป็นนรก ๘ ขุม ต้องมุดลงไปดู หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำเป็นโบสถ์ ๒ ชั้น ท่านบอกว่าจะได้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น ส่วนอาตมาเคยชิน ในเมื่อครูบาอาจารย์เคยทำจึงทำบ้าง เพียงแต่ว่าทำเป็น ๓ ชั้นไม่พอ ชั้นล่างยังเอาสูงตั้ง ๘ เมตร เพื่อจะได้สร้างมณฑปเอาไว้ข้างในได้ โดยเฉพาะกำแพงหนามาก สั่งอิฐแดงก้อน
ใหญ่หนาพิเศษ ก่อโดยวางขวางตลอดแนว ปกติอิฐเขาจะก่อตามยาว ของอาตมาให้ก่อตามขวาง ซึ่งจะเปลืองของมากแต่จะได้ความหนา ในเมื่อมีความสูงและหนามาก อากาศข้างในจะเย็นเหมือนกับถ้ำ"

ถาม : ทำไมไม่ทำผนัง ๒ ชั้น ?
ตอบ : ผนัง ๒ ชั้นก็ดี เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่ต้องอาศัยเครื่องปรับอากาศ เพราะทึบ ของวัดท่าขนุนอาศัยความสูง และได้ความโปร่ง ถ้ากลางวันปิดประตูหน้าต่างไม่ให้อากาศเข้า เดินเข้าไปก็เหมือนกับห้องปรับอากาศ ต้องรอให้เสร็จก่อน หมดไป ๑๗ ล้านกว่าบาทแล้วยังมีแต่โครงอยู่เลย จะไปหนักอีกทีตรงหมู่เรือนไทย ค่าแรงช่างทำโครงหลังคาเรือนไทย ๒ หลังที่ตั้งพระชำระหนี้สงฆ์ข้างวัด เฉพาะค่าแรงทำโครงหลังคาอย่างเดียวนะ หลังละ ๗๐๐,๐๐๐ บาท วัสดุทุกอย่างเป็นของเรา

ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธิเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี รูปที่ ๑ ไปเห็นเข้าถามว่า “อาจารย์เล็กทำเรือนไทยสวยจริง ๆ เอาช่างมาจากที่ไหน ?” “บางปลาม้าครับ” “แล้วเขาคิดค่าแรงเท่าไร ?” “เจ้าคุณอาจารย์อย่าถามเลยครับ ผมไม่เคยบอกให้เขาตกลงราคา เขาทำเสร็จแล้วเอาเท่าไร ผมก็ให้เท่านั้น” ช่างเขาจะได้ทำแบบสบายใจ คุณมีปัญญาคุณก็ทำไป ต้องการเท่าไรมาเบิกแล้วกัน

ฉะนั้น..ช่างชุดนี้เขาอยู่กับอาตมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ จนป่านนี้ยังไม่ไปไหนเลย ทำงานกับอาตมาไม่มีขาดทุน ของทุกอย่างทางวัดออก คุณรับค่าแรงอย่างเดียว ต้องการเท่าไรมาเบิกได้ ไม่อย่างนั้นพอไปที่อื่น พอเซ็นสัญญากันว่ารับเหมาเท่านั้นเท่านี้ ถึงเวลาวัสดุขึ้นราคา หรือว่าระยะเวลายาวขึ้น ต้องจ่ายค่าแรงลูกน้องเพิ่ม เขามักจะขาดทุน อยู่กับอาตมาไม่มีขาดทุนหรอก มีแต่กำไร เบิกเท่าไรก็ให้เท่านั้น

เถรี 10-04-2014 11:43

เมื่อวานสัมภาษณ์ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระศรีธีรวงศ์ เจ้าคณะอำเภอดอนตูม วัดพระประโทณเจดีย์ ท่านบอกว่า “อาจารย์พระครู..สร้างศาลาร้อยปีหลวงปู่ด้วยจุดมุ่งหมายอะไร ?” อย่างแรกเลยก็คือ เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ และเป็นที่ระลึกในวาระสำคัญของท่าน

อย่างที่สองก็คือ อาคารของวัดไม่พอใช้งานจริง ๆ อย่างที่สามก็คือตั้งใจจะให้เป็นพิพิธภัณฑ์ กำลังดูว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน อีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เก็บของบางอย่างที่คนไม่ค่อยได้เห็น หรือไม่ก็อาจจะเป็นพิพิธภัณฑ์วัตถุมงคล เดี๋ยวจะดูความเหมาะสมอีกที

ช่วงนี้พระก็ตากแดดตัวดำปี๋ เพราะว่ากำลังพอกปูนที่ด้านหลังสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอก ดินที่ถมขึ้นมาไม่ได้พอกปูน พอโดนฝนแล้วน้ำพาหนีไปหมด พระท่านจึงไปช่วยกันทำ ดีอยู่อย่างว่าระบบของวัด อยู่ในลักษณะที่ว่าต่อให้เจ้าอาวาสไม่อยู่ งานก็ไปได้ เพราะว่าอาตมาทิ้งงบประมาณไว้ให้พระ ๓ - ๔ รูป แต่ละรูปรับผิดชอบงานต่าง ๆ กันไป ตัดสินใจจ่ายได้ในงบประมาณที่ตนเองมีอยู่ ถ้าเขาเห็นว่าสมควรก็ลุยไปได้เลย ถึงเวลาแจ้งรายละเอียดมาก็แล้วกันว่าใช้จ่ายไปอย่างไร

ระบบนี้ดีอยู่ตรงที่ว่า ไม่ได้ยึดติดอยู่กับตัวบุคคล ต่อไปถึงอาตมาไม่อยู่เขาก็อยู่กันได้ หน้าที่ตอนนี้ของอาตมาก็คือหาเงินเข้ากองทุนต่าง ๆ เอาไว้ ถึงเวลาเขาก็ก็บริหารกันเอง

เถรี 10-04-2014 11:49

พระอาจารย์พูดถึงเสื้อแจ๊กเก็ตยันต์เกราะเพชรพิชัยสงครามที่เพิ่งทำออกมา "สำหรับพวกที่อยากได้ลายแต่ไม่อยากสักจะได้มีไว้ เดี๋ยวเตรียมไปบูชาจากในเว็บ ข้างหลังคือส่วนหนึ่งของยันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ข้างหน้าคือยันต์เกราะเพชร ไปเตรียมจองกันได้ ราคาค่าปักแพงมาก คิดว่าน่าจะตัวไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท พอไล่ลงมาดูเหลือตัวไม่เกิน ๕๐๐ บาท โอ๊ย...โล่งอก ถ้าอกผายไหล่ผึ่งเสื้อจะพอดี แต่ถ้าหลังค่อม ๆ เอวจะลอยขึ้นมา เพราะฉะนั้น..ใส่เสื้อตัวนี้แล้วห้ามนั่งหลังโก่งนะ"

ถาม : ไม่ใส่ชื่อวัดด้วยหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ได้ใส่ชื่อวัดเพราะจะได้ไปวัดไหนก็ใส่ได้ ถ้าใส่ชื่อวัดแล้วจะจำกัดมากเกินไป เผื่อเอาไปเป็นของขวัญของฝากใครที่เขาไม่ชอบชื่อวัดท่าขนุนจะได้ใส่ได้ ต้องคิดเผื่อเขาหน่อย ต้องจ้างพรีเซ็นเตอร์หรือเปล่า ? คงไม่ต้องหรอกนะ สั่งทำไปตั้ง ๑,๒๐๐ ตัว..! ใส่ไว้สัก ๓ วันโชว์ให้เขาดู แล้วค่อยเปิดจอง ถ้าเสร็จทันน่าจะได้ในวันเป่ายันต์ ๓ พฤษภาคมนี้ ถ้าไม่ทันก็รอสิงหาคมอีกที

เถรี 10-04-2014 13:03

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนคุยกับผอ.สำนักพุทธฯ จังหวัดกาญจนบุรี มีมติจากคณะรัฐมนตรีให้ข้าราชการสตรีสามารถลาปฏิบัติธรรมได้ ๑ เดือน ออกมติมาตั้งหลายปีแล้ว วัดต่าง ๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ที่เข้าไปปฏิบัติธรรมได้ ก็ออกมา ๒๐๐ - ๓๐๐ แห่งแล้ว รวมทั้งวัดท่าขนุนด้วย แต่ไม่มีใครลาไปปฏิบัติสักคนเลย เขาบอกว่าเจ้านายไม่ให้ไป จนป่านนี้ยังไม่มีใครไปที่วัดท่าขนุนเลย อาตมาเองก็คิดว่าหน่วยงานเขาไม่รู้หรือเปล่า ?

ผู้ชายลาได้ ๔ เดือนเผื่อเข้าพรรษา แต่ผู้หญิงเขามีลาคลอดเลยได้ จึงได้สิทธิ์ลาปฏิบัติธรรมแค่ ๑ เดือน น่าจะถามเขาว่าถ้าไม่ใช้สิทธิ์ลาคลอด เอามาปฏิบัติธรรมทีเดียวเลยได้ไหม ? คลอดลูกไม่ใช่บวช จำไม่ได้ว่าประเทศไหน อนุญาตให้ผู้ชายลาไปช่วยเลี้ยงลูกได้ แต่บ้านเขาจ่ายภาษีแพง ได้ยินว่าฝรั่งเศสจะขึ้นไปถึง ๗๐% แสดงว่าบ้านเขานี่รัฐบาลรับผิดชอบ ชีวิตในส่วนที่เหลือไม่ต้องกังวล เข้าโรงพยาบาลรัฐ เจ็บไข้ได้ป่วยหนักแค่ไหนก็ได้ รัฐจ่ายให้ ถึงเวลามีโบนัสเที่ยวต่างประเทศให้อีกด้วย"

เถรี 10-04-2014 13:59

ถาม : ผมเช่าที่วัดแล้วผมจะบอกขายสิทธิ์ต่อ ?
ตอบ : เราเช่ากับใคร ?

ถาม : เช่ากับกรมการศาสนา
ตอบ : ถ้าเช่ากับกรมการศาสนา ขายสิทธิ์ได้..ไม่เป็นไร เพราะแค่เปลี่ยนคนเช่าเท่านั้นเอง เงินค่าเช่าก็คือเงินชำระหนี้สงฆ์ เขาเรียกว่าผาติกรรม

ถาม : ถ้าผมขายเช่าจะจัดการกับเงินส่วนนี้อย่างไร ?
ตอบ : เงินส่วนนี้ก็เท่ากับเป็นสิทธิ์ของคุณ จะเอาไปทำอะไรก็ได้ แค่เปลี่ยนสิทธิ์เท่านั้นเอง เขาซื้อสิทธิ์เรา ไม่ได้ไปขายของสงฆ์อะไรหรอก เราแค่ขายสิทธิ์ในการเช่า เพราะว่าที่ดินวัดทุกอย่าง ถ้าจะจำหน่ายจ่ายโอน ต้องออกโดยพระราชบัญญัติเท่านั้น เขากลัวพระจะขายที่กิน แปลว่าต้องเข้าคณะรัฐมนตรีให้ตกลงกันว่าจะยอมให้ขายหรือเปล่า ยากขนาดนั้น

เถรี 10-04-2014 16:21

ถาม : หาสังวาสมิได้คืออะไรครับ ?
ตอบ : แปลว่าคบกับใครเขาไม่ได้ อยู่ร่วมกับใครไม่ได้ คือพ้นสภาพพระไปแล้ว อยู่ร่วมกับพระอื่นไม่ได้

ถาม : ต้องอาบัติปาราชิกขาดความเป็นพระไปแล้ว ยังไม่ลงนรกหรือครับ ? การอวดอุตริมนุสธรรมคือการอวดเรื่องอะไรบ้าง ?
ตอบ : อาบัติปาราชิกนี่แค่ปิดมรรคผล แต่ไม่ได้ปิดสุคติ ถ้ายังรักษาความดีไว้ได้ ยังมีสิทธิ์ไปเป็นเทวดาเป็นพรหม อุตริมนุสธรรม (ธรรมอันยิ่งของมนุษย์ทั่วไป) บาลีเขาว่า ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ มรรค ผล ๕ อย่าง ไม่มีไปอวดว่ามี ท่านปรับขาดความเป็นพระไปเลย บวชใหม่ไม่ได้ ห่มผ้าเหลืองอยู่ก็ไม่ใช่พระ ถึงไม่ยอมสึกก็ไม่ใช่พระ

ถาม : ต้องมีโจทก์เท่านั้นหรือครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่มีโจทก์คณะสงฆ์ก็ปรับอาบัติไม่ได้ ก็มีที่ไหนขึ้นศาลแล้วมีแต่จำเลยฝ่ายเดียว ขนาดโจทก์ไม่เอาเรื่อง อัยการยังต้องฟ้องแทนเลย

เรื่องการขาดความเป็นพระนั้นขาดตั้งแต่ทำการอวดแล้ว แต่ถ้าหน้าด้านอยู่ในผ้าเหลือง ไม่มีใครฟ้อง ก็ลอยนวลอยู่ในโลก ไปรับโทษเอาตอนที่ตายไปแล้ว

เถรี 10-04-2014 16:25

สติวินัย ท่านเอาไว้สวดประกาศสำหรับพระอรหันต์ ว่าไม่ปรับอาบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ในด้านอภิสมาจารแก่ท่าน อมูฬหวินัย สำหรับสงฆ์สวดประกาศให้ภิกษุผู้เป็นบ้า เมื่อคืนสติกลับมาไม่ให้ปรับอาบัติที่ท่านทำระหว่างเป็นบ้า ปฏิญญาตกรณะ เป็นการปรับอาบัติตามที่ผู้ผิดยอมรับสารภาพ เยภุยยสิกา เป็นการปรับโทษโดยถือเสียงข้างมากเป็นประมาณ ตัสสปาปิยสิกา เป็นการปรับโทษพวก "จอมแถ" ผิดอย่างไรก็ไม่ยอมรับว่าผิด ติณวัตถารกวินัย อยู่ลักษณะไกล่เกลี่ยให้ยอมความกัน แต่ว่าสมัยนี้ไม่ค่อยจะยอมกัน

จริง ๆ แล้วถ้าหากว่าเสียงข้างมากว่าเขาทำผิดธรรมผิดวินัย ประธานต้องชี้แจงว่าผิดตรงไหน แล้วที่ถูกคืออะไร เขาไม่ได้ตัดสินไปเลยทีเดียว จะต้องมีการประกาศว่าท่านนี้ต้องอาบัติอย่างนี้ ข้าพเจ้าขอประกาศว่าท่านโดนอาบัติตัวนี้ สงฆ์ทั้งหลายมีใครจะคัดค้านบ้าง ? ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรม สามารถคัดค้านขึ้นได้โดยไม่ต้องเกรงใจ แต่ถ้าท่านทั้งหลายเห็นว่าเป็นธรรมแล้ว ก็ให้สาธุการขึ้น การตัดสินของพระท่านรอบคอบมาก


ถาม : แล้วถ้าเสียงออกมาเสมอกัน ประธานต้องทำหน้าที่ชี้ขาดหรือครับ ?
ตอบ : ของพระส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเสียงเสมอกัน เพราะถ้าหากว่าโจทก์ขึ้นมา ต้องความผิดชัดเจน ไม่อย่างนั้นถ้าสอบสวนแล้วจำเลยไม่ผิด โจทก์จะโดนอาบัติสังฆาทิเสส อยู่กรรมกันหน้ามืด..! แล้วส่วนใหญ่ท่านก็รู้อยู่ว่าศีลพระเป็นอย่างไร ในเมื่อรู้อยู่นี่ไม่มีเสียงก้ำกึ่งหรอก

ถาม : แล้วถ้าบังเอิญมีเสียงก้ำกึ่งละครับ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วผู้เป็นประธานก็สามารถทุบโต๊ะได้ แต่ไม่มีใครทำ เพราะว่าถ้าทำอย่างนั้นคนเขาจะกล่าวหาได้ว่าไม่ยุติธรรม เขาจะว่าใช้อำนาจไม่เป็นธรรม มีอาบัติห้ามไว้เลยว่า ถ้าสงฆ์ตัดสินโดยธรรมแล้วรื้อฟื้นขึ้นใหม่ คนรื้อฟื้นจะโดนอาบัติ พระพุทธเจ้าท่านห้ามไว้เลย พระทั้งวัดร่วมกันพิจารณา แล้วทั้งหมดจะโง่ขนาดนั้นเลยหรือ ? ถึงบอกว่าจำเป็นต้องใช้สัมมุขาวินัย พร้อมหน้าทั้งโจทก์ ทั้งจำเลย จะได้ไม่ต้องถึงเวลาลับหลังไปพูดกันอีก คุณว่าอย่างนั้น ผมว่าอย่างนี้ เถียงลับหลังกันไม่จบเสียที ต้องว่ากันต่อหน้าเลย จี้ถามกันทีละประเด็น

เถรี 10-04-2014 16:25

ถาม : การรื้อฟื้นอธิกรณ์คืออะไรครับ ?
ตอบ : เป็นการที่มีพระเอามาพูดว่าตัดสินไม่เป็นธรรม ต้องตัดสินใหม่ เอามาตำหนิกันภายนอก ก็ต้องเรียกมาในที่ประชุมสงฆ์ แล้วประกาศปรับอาบัติไอ้ปากหมานั่นด้วย เมื่อเห็นว่าไม่ถูกต้อง แล้วทำไมเอ็งไม่คัดค้านในที่ประชุม ? ศีลพระท่านรอบคอบ ก็ท่านประกาศแล้วว่าถ้าไม่เป็นธรรมให้คัดค้านขึ้นในท่ามกลางระหว่างสงฆ์ ไม่ได้บอกให้ไปพูดกันข้างนอก

ถาม : แล้วถ้าท่านเป็นสุขวิปัสสโก เข้าใจผิดว่าเป็นปฏิสัมภิทาญาณ แล้วไม่มีฤทธิ์ แสดงฤทธิ์ไม่ได้อย่างที่คณะสงฆ์สั่งให้พิสูจน์ ?
ตอบ : ใครบอกไม่มี อธิษฐานฤทธิ์มี บุญฤทธิ์ก็มี เพียงแต่ว่าพิสูจน์ไปจะมีประโยชน์อะไร พระท่านทั้งหลายเหล่านั้นท่านเป็นของแท้อยู่แล้ว ถามหลักธรรม หลักการปฏิบัติอะไร ท่านบอกได้หมดว่าตรงไหนจริง ตรงไหนปลอม

เถรี 13-04-2014 15:31

พระอาจารย์เล่าว่า "มีอยู่ครั้งหนึ่งอาตมาเจ็บไข้ได้ป่วยหนัก ๆ สภาพจิตออกจากร่างกายไปอรูปพรหม ซวยแล้วตู..! ถ้าเป็นของจริงวันนั้นยาวเลยนะ..ยังดีที่แค่ลอง ๆ ดูเท่านั้น"

เถรี 13-04-2014 15:34

พระอาจารย์กล่าวว่า "ครีมหน้าขาวที่เขาใช้กันในปัจจุบันนี้ ถ้าไม่คิดจะไปเล่นงิ้วไม่ต้องใช้หรอกจ้ะ เพราะหลอกตามากเลย เดินเข้ามาแล้วสงสัยว่าเขาไปทำอะไรมา ? หน้าขาววอกมาเชียว ขาวจริง ๆ แต่ขาวแบบน่าเกลียด ผิดธรรมชาติ ถ้าเป็นสมัยก่อนพวกนางงิ้วพอกหน้าเสร็จแล้ว เขาก็เอาสีอื่นวาดทับได้สบายเลย สมัยนี้ครีมยี่ห้ออะไรที่เห็นทาแล้วขาววอกเลย อาตมาก็ไม่รู้จัก แต่เห็นเขาเดินมา แขนสีน้ำตาลแต่หน้าขาววอก คราวหน้าต้องโปะตัวมาด้วย เพราะขาวต่างกันเกินไปหรือเปล่า ? พอทาหน้าขาววอกแล้วก็เอาผ้าคลุมหัว โผล่ขึ้นไปทางหน้าต่างตอนดึก ๆ..!"

เถรี 13-04-2014 15:42

พระอาจารย์เล่าว่า "มีโยมคนหนึ่งเขียนจดหมายไปหาที่วัด บอกว่าขอให้ช่วยด้วย เพราะชีวิตมีแต่ปัญหา ติดขัดขลุกขลักทุกอย่าง ภาวนาคาถาเงินล้านก็ไม่ได้ผล เพราะไม่มีสมาธิ แล้วอาตมาจะช่วยได้อย่างไร ? แสดงว่าโยมเขารู้ปัญหาแต่แก้ไม่ได้

วิธีสร้างสมาธิแบบฉุกเฉินที่ง่ายที่สุดคือกลั้นหายใจ พอกลั้นหายใจ ร่างกายรู้ว่าตัวเองจะตายแล้ว จิตจะทรงตัวเอง แต่วิธีนี้ถ้าทำบ่อย ๆ จะเคยชิน ภาวนาตามปกติเมื่อไรก็จะกลั้นหายใจ ในเมื่อเขาเองบอกว่าไม่มีสมาธิก็ต้องใช้วิธีนั้น แต่แหม..ถ้ากลั้นใจว่าคาถาเงินล้านกว่าจะจบ ก็อาจจะขาดใจตายจริง ๆ เหมือนกัน

สมัยนี้คนไม่ค่อยมีสมาธิ เพราะใช้กำลังสมาธิหมดไปกับกิจวัตรประจำวัน โดยเฉพาะนั่งเพ่งจอ นั่งเขี่ยไอแพ็ด นั่งเขี่ยไอโฟน ผ่านไปเป็นชั่วโมงไม่รู้ตัวหรอก ใช้กำลังระดับนิโรธสมาบัติเลย พอใช้กำลังสมาธิหมด ถึงเวลาให้ภาวนาก็ฟุ้งซ่าน สู้กิเลสไม่ได้ กิเลสเรียกร้องให้รีบไป เดี๋ยวจะกด Like ไม่ทัน

ตอนนี้ความนิยมใน Facebook ต่ำลง เพราะว่าพอ Add Friend แล้ว ผู้ใหญ่เข้าไปตรวจสอบได้ เด็ก ๆ ก็เลยทิ้งไปเล่นอย่างอื่นแทน ส่วน IG ลูกเล่นมีมากกว่า..ใช่ไหม ? อัพรูปได้ดีกว่า แต่อาตมาไม่เคยเล่น ขี้เกียจเป็นสาวก Apple ยี่ห้อน่าเกลียดมากเลย เต็มลูกก็ไม่เต็ม กัดแหว่งไปคำหนึ่ง เอาของกินเหลือมาเป็นยี่ห้อ ต้องเอาลูกเต็ม ๆ มาสิ..!

ไปนึกถึง "สหายเก่า" ที่แกบอกว่าแกครอบกิเลสเข้าไปตั้งกี่ชั้นไม่รู้กี่ชั้น สุดยอดจริง ๆ เอากิเลสมายัดใส่ถึงในมุ้งเลย นอนอยู่ต้องเขี่ยจอให้จบก่อน ตื่นขึ้นมาเมื่อไรรีบเปิดดู คนที่เปิดเครื่องใช้อิเล็กโทรนิกอยู่ใกล้ ๆ นอนหลับไม่สนิททุกคน เพราะคลื่นจากเครื่องไปรบกวนสมอง เพราะฉะนั้น..ใครอยากหลับสนิท ก่อนนอนให้ปิดเครื่องใช้พวกนี้ให้หมด เขาถึงขนาดแนะนำว่า แม้กระทั่งเครื่องปรับอากาศก็ให้ปิดด้วย แต่บ้านเรายุคนี้สร้างมาเพื่อเครื่องปรับอากาศ ขืนไปปิดก็ร้อนตายชัก"

เถรี 13-04-2014 15:51

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ความดี ความงาม อันนี้ต้องถือเป็นความงาม เป็นของที่ใคร ๆ ก็ปรารถนา จึงพากันยึดติดอย่างเต็มอกเต็มใจ ผลักไม่ไหว ไล่ไม่ออก เลยไปไหนไม่ได้ ในส่วนของสิ่งไม่ดีที่เข้ามาในชีวิตของเรา แกะออกง่ายกว่า ตัดได้ง่ายกว่า เพราะเราไม่ชอบ ไม่ปรารถนาอยู่แล้ว ในส่วนนั้นก็เลยกลายเป็นว่า พอถึงเวลาท้ายสุดแล้ว พวกเราก็จะติดดีกัน แต่ว่าก็ต้องติดดีไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย หลังจากทำจนถึงที่สุดแล้ว ก็จะปล่อยดีไปเอง

แม้กระทั่งพระนิพพาน แรก ๆ เราก็เกาะ แต่ถ้าเกาะก็ไปไม่ได้หรอก เราจะไปเชียงใหม่แล้วยืนกอดเสาอยู่ตรงนี้ จะไปได้ไหมเล่า ? ไม่ได้หรอก ต้องปล่อยเสาก่อน เพราะฉะนั้น..แรก ๆ เราก็เกาะความดี เกาะศีล เกาะสมาธิ เกาะปัญญา ท้ายสุดก็วาง คราวนี้ก็ตัวเบา ไม่มีอะไรให้ยึดให้เกาะ ลอยละล่อง คราวนี้ลอยไปไหน แรก ๆ ต้องตั้งเป้าให้ดี ไม่อย่างนั้นพอปล่อยแล้วลอยไปผิดที่ละยุ่งเลย

เถรี 14-04-2014 17:52

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำ ท่านดูเหมือนองค์ใหญ่ แต่จริง ๆ ท่านองค์เล็ก ส่วนหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศเหมือนจะองค์เล็ก แต่จริง ๆ แล้วท่านสูงใหญ่มากเลย"

เถรี 14-04-2014 17:53

พระอาจารย์กล่าวกับโยม "บางคน" ว่า "หลักการดำรงชีวิตง่าย ๆ ก็คือ อะไรที่เป็นความจริงก็ยอมรับไป อะไรที่ไม่จริงก็ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ แล้วชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ ถ้าใครพยายามปิดบังความจริง ก็ต้องสร้างเหตุขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้วจะต้องต่อความยาวสาวความยืดไม่มีที่สิ้นสุด วิ่งชนความจริงให้หงายท้องไปเลย ใครรับได้รับไม่ได้เรื่องของเขา ก็เราเป็นอย่างนี้"

เถรี 14-04-2014 18:02

มีโยมเอาหนังสือมาบริจาคที่บ้านวิริยบารมี พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่ต้องเอามาอีกนะจ๊ะ อาตมาด่าทิดคอมไปครั้งหนึ่งแล้วว่าทำอะไรไม่ได้คิด เฉพาะหนังสืออาจารย์ก็ไม่มีตู้จะใส่อยู่แล้ว เสือกทะลึ่งไปบอกบุญคนอื่นเขาอีก ทิดคอมบอกว่าเดี๋ยวหลวงพ่อก็ซื้อตู้เพิ่มได้ อาตมาบอกว่าแล้วจะเอาไปตั้งไว้ที่ไหน เพราะที่เต็มแล้ว เจ้านั่นก็ประเภททำอะไรไม่เคยเอาหัวแม่ตีนตรองดู..!

ซื้อตู้เพิ่มอาตมาไม่ได้รังเกียจหรอก แต่ไม่มีที่จะตั้ง เฉพาะหนังสือของอาตมายังมีอีกเป็นห้อง ไม่ได้เอาออกมาเพราะที่ไม่พอ ฉะนั้น..ใครจะเอาหนังสือมาบริจาค ไม่ต้องเอามาเลยนะ ไม่มีที่จะเก็บ"

เถรี 14-04-2014 18:05

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนดูการ์ตูนของคุณอรุณ วัชระสวัสดิ์ เขาเขียนภาพแผนที่อาเซียน แล้วก็มีรถไฟความเร็วสูงรอบบ้านเราเลย ยกเว้นประเทศไทยที่ยกเอาแผนที่สมัยอยุธยามา

สมัยนี้การสื่อสารเข้าถึงง่าย ข่าวสารต่าง ๆ ไปได้กว้างไกลมาก จึงไม่สามารถจะปิดหูปิดตาชาวบ้านได้เหมือนสมัยก่อน เพราะฉะนั้น..อะไรที่ส่อไปลักษณะ ๒ มาตรฐาน ทำให้คนที่เขารู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมเกิดความคับแค้นใจ ที่แน่ ๆ ก็คือศาลซึ่งเป็นสถาบันยุติธรรม ดันโดดลงไปเล่นด้วย โดยเฉพาะการตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ บรรลัยจริง ๆ เลย

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้าหมั่นไส้ใคร แค่ไปปิดหน่วยเลือกตั้งสักหน่วยเดียวก็พอแล้ว เขาไม่ได้นึกว่าใช้งบประมาณชาติไป ๓ - ๔ พันล้าน ไม่ได้นึกถึงคน ๒๐ ล้านคนที่ไปเลือกตั้ง นึกอยู่อย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะโค่นล้มฝ่ายตรงข้ามที่ส่วนใหญ่ได้รับเลือกเข้าไปเป็นส.ส. กลายเป็นช่วยกันสุมฟืนสุมไฟเผาประเทศของเราไปเรื่อย

เขาไม่ได้นึกถึงภาพส่วนรวม คือเขาเอาเฉพาะผลประโยชน์ของพวกเขา เมื่อเห็นแค่ผลประโยชน์ของตัวเอง มุมมองจะไม่กว้างไกลพอ งบประมาณ ๒ ล้านล้านบาทนั้นจำเป็น ถ้าไม่ลงทุนวันนี้ก็เหมือนกับสนามบินหนองงูเห่า หนองงูเห่าเริ่มต้นที่ ๕ พันล้านบาท มาจบที่ ๘ หมื่นกว่าล้านบาท ให้สิงคโปร์ตีกินไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร จนกระทั่งสมัยนั้นเขาพูดกันว่า นักการเมืองคนไหนอยากได้เงินสิงคโปร์ ให้พูดว่าจะสร้างสนามบินหนองงูเห่า พูดวันนี้ วันรุ่งขึ้น ลีกวนยูจะมาเยือนประเทศไทย

แปลกมากที่ตรงว่า ทำไมคนที่แย้งส่วนใหญ่มีการศึกษาสูง ๆ ทั้งนั้น เจตนามองไม่เห็นใช่ไหม ? ลาวตอนแรกว่าจะไม่สร้าง ตอนนี้เริ่มลงมือตอกเสาแล้ว สรุปว่ารอบบ้านเราสร้างหมด แต่บ้านเราศาลห้ามสร้าง..!"

เถรี 15-04-2014 14:44

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนนี้ที่วัดมีเด็กมูเซอ มีเด็กพม่า เด็กกะเหรี่ยง มาขออยู่เพื่อให้อาตมาส่งเรียนหนังสือ คนล่าสุดชื่อไข่หวาน กำลังเข้า ม.๑ กำลังทะมัดทะแมง พวกนี้เวลามาฝากเนื้อฝากตัว ผู้ปกครองเขาจะทำแบบสมัยเก่า คือเอาดอกไม้ธูปเทียนมาถวายตัวอย่างเป็นทางการ ดูแล้วเห็นว่าเป็นแบบธรรมเนียมที่ดี เอาลูกมาฝากให้หลวงพ่อช่วยส่งเรียนหนังสือด้วย นาน ๆ ไปจะอยู่ลักษณะว่า ถ้าพ่อแม่ไม่มีปัญญาส่งเรียนหนังสือให้ไปอยู่วัดท่าขนุน คราวนี้จำนวนเริ่มมากแล้ว

ต้องตั้งใจเรียนและต้องขยัน เพราะว่างานวัดโดยเฉพาะงานครัวมีเยอะ นอกเวลาแม่ชีก็ยังใช้ไปปลูกผักและเลี้ยงหมาทั้งวัน เด็กพวกนี้จะขยันไปโรงเรียน เพราะอยู่ที่วัดจะโดนใช้หัวทิ่มหัวตำ..!"

เถรี 15-04-2014 14:50

พระอาจารย์กล่าวถึงคนตั้งครรภ์ว่า "ถ้าท้องยกขึ้น โบราณเขาว่าเป็นลูกชาย ถ้าท้องลาดลงจะเป็นผู้หญิง ฉะนั้น..ไม่ต้องไปทำอัลตร้าซาวน์หรอก โบราณท่านไม่ค่อยพลาด

ส่วนตำราของอาข่าหรืออีก้อ ที่เขาหามิดะ ก็คือ ผู้หญิงที่จะสอนเพศศึกษาให้กับพวกวัยรุ่นในหมู่บ้าน เขาจะเอาเด็กผู้หญิงที่เกิดมาคว่ำหน้าลง เขาบอกว่าผู้หญิงที่คลอดออกมาท่านั้นจะเป็นหมันทุกคน ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เขาเลือกกันมาอย่างนั้น แล้วก็เป็นหมันจริง ๆ ลองสังเกตดู ใครคลอดธรรมชาติ ถ้าลูกผู้หญิงออกมาคว่ำหน้าลง ลองดูว่าจะเป็นหมันไหม ?

เรื่องมิดะ ทางเหนือเขาปฏิเสธว่าไม่มี เพราะว่าเขาอาย ความจริงเป็นเรื่องที่โคตรจะทันสมัยเลย ต้องบอกว่าเป็นการเปิดกว้างมาก เพราะว่าผู้หญิงถ้าท้องจะมีแต่คนแย่งกันสู่ขอ เขาถือว่าลูกเทวดามาเกิด ขณะเดียวกันถ้าแต่งงานผู้หญิงสาวมาจะขาดทุน ถ้าแต่งงานผู้หญิงท้องมาได้แรงงานเพิ่ม ฉะนั้น..ผู้หญิงท้องค่าตัวจะแพงกว่าปกติ

ปรากฏว่างานวิจัยที่พวกฝรั่งไปทำ เขาว่ามีทั้งนั้นแหละ สรุปว่าคุณจรัล มโนเพ็ชร โดนด่าฟรี ขนาดว่าเพลงมิดะเปิดไม่ได้เลย มีใครเก็บเพลงนี้ไว้หรือเปล่า ? บนฟ้ามีเมฆลอย บนดอยมีเมฆบัง มีสาวงามชื่อดังอยู่หลังแดนดงป่า มีกะลาล่าเซอ ฯลฯ ...... กะลาล่าเซอคือลานสาวกอด

จริง ๆ พวกลานสาวกอดต้องบอกว่าเป็นทางออกของสังคมอย่างหนึ่ง ถ้ามีอย่างนั้นคงไม่มีใครเสียเวลาไปฉุดสาว เพราะเลือกได้ตามใจชอบ ถ้าผู้หญิงเขาชอบผู้ชายคนไหน เขาจะหยิบหรือขโมยอะไรบางอย่างของผู้ชายไป ผู้ชายต้องไปขอว่าจะคืนหรือไม่คืน ไปตกลงกันเป็นคืนเป็นวัน..!"

เถรี 15-04-2014 15:45

มีโยมมาปรึกษาเรื่องการมีบุตร พระอาจารย์บอกว่า "โชคดีที่สุดในโลกแล้ว ถ้ามีลูกจะสาหัสกว่านี้อีกเยอะ ไม่รู้หรอกว่าไอ้ตัวเล็กกว่าจะเลี้ยงโตนั้นแสบแค่ไหน เลี้ยงโตมาแล้วจะดีหรือไม่ดีก็ไม่รู้อีก

ถ้าอยากมีลูกจริง ๆ ลงไปแถว ๆ อำเภอธารโต จังหวัดยะลา พวกเงาะซาไกแถวนั้นแม้จะล้าหลังก็จริง แต่เขามีสมุนไพรบางตัว กินแล้วไม่ให้มีลูก และถ้าอยากมีลูก ต้องไปกินสมุนไพรอีกตัวถึงจะมี ลองไปถามเขาดู แถวนั้น ขออย่างที่กินแล้วมีลูกมาลองดู

คนที่เขามีลูก เลี้ยงลูกไปก็แทบจะผูกคอตาย ส่วนคนไม่มีลูกก็ตะเกียกตะกายเพื่อจะให้ได้ผูกคอตาย เป็นเรื่องอะไรที่แปลกดีเหมือนกัน"

เถรี 15-04-2014 15:49

มีคนถามเรื่องหลวงปู่เนียม ว่าน่าจะเป็นลูกศิษย์หลวงปู่โต วัดระฆัง เพราะส่งลูกศิษย์ไปเรียนบาลีที่วัดระฆัง พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยก่อนหรือสมัยนี้ก็เหมือนกัน มีสายสัมพันธ์ที่ไหน ถึงเวลาก็ติดต่อไปที่นั่น อย่างวัดปากน้ำไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดบางปลาหมอจนสวยเลิศเลอไปเลย ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้วจะไปทำทำไม ?

แถวอำเภอสองพี่น้องก่อนนี้มีหลวงปู่องค์หนึ่ง ที่ชอบนั่งเรือพายไปพายมา ไม่ค่อยอยู่วัด นั่นก็สุดยอดฝีมือเหมือนกัน คนก็คิดว่าท่านเองไม่ค่อยอยู่กับวัดกับวา เตร็ดเตร่ไปเตร็ดเตร่มา ใครจะไปรู้ว่าพระดีขนาดนั้นท่านไปลอยเรืออยู่ในแม่น้ำ"

เถรี 15-04-2014 16:17

พระอาจารย์เล่าว่า "มีโยมคนหนึ่งบอกว่า มาวัดแล้ว พวกน้า ๆ เตือนว่าอย่าไปวัดบ่อยนัก เดี๋ยวจะโดนพระทำเสน่ห์ สรุปว่าในสายตาเขานี่พระเลวร้ายมากเลย ไม่รู้หรอกว่าพระพุทธเจ้าสอนให้ทำเสน่ห์

พระพุทธเจ้าสอนให้ทำเสน่ห์ด้วยสังคหวัตถุ ๔ ท่านบอกว่ามีทาน คือการให้ปันกับผู้อื่นเขา ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ปิยวาจา พูดดีพูดไพเราะ ใครฟังแล้วก็ยินดีชอบใจ อัตถจริยา ช่วยเหลือในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น เขาย่อมจะชอบใจในการช่วยเหลือนั้น สมานัตตตา เอาใจเขามาใส่ใจเรา เขาชอบอย่างไรเราทำอย่างนั้น เขาไม่ชอบอย่างไรเราไม่ทำอย่างนั้น

ท่านบอกว่าถ้าทำอย่างนี้จะเป็นคนมีเสน่ห์มาก จริง ๆ แล้วเขาก็เตือนถูกนะ อย่าไปหาพระบ่อยนักเดี๋ยวจะโดนทำเสน่ห์"

เถรี 19-04-2014 10:18

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานมีคนทำบุญมา เขียนหน้าซองว่า “สร้างสมเด็จองค์ปฐมทองคำ ๕๐ ศอก” ให้เขาไปสร้างเองก็แล้วกันนะ ที่สร้างอยู่ไม่ถึงศอกยังเกือบตาย คนเราก็มักจะจับแพะชนแกะกันไปเรื่อย ถ้าสร้าง ๕๐ ศอกนั้นต้องพากันไปภูเขาทองขนกันมา ไม่รู้ว่าเจ้าของเขาจะตีตายหรือเปล่า ? ตอนที่จะสร้างสมเด็จองค์ปฐมองค์ ๔ ศอกที่วัดท่าซุง ช่างคำนวณว่าใช้ทองตันครึ่ง ถ้า ๕๐ ศอกนั่นต้องใช้เท่าไร ?"

ถาม : จะมีพอหรือคะ ?
ตอบ : มีพอ..แต่คนแบกจะไหวไหม ? เพราะตอนนั้นกะว่าเอาทหารไปขน คนหนึ่งสัก ๓๐ กิโลกรัม หมอนพพรต้องบอกยกเลิกโครงการ เพราะคน ๔๐-๕๐ คน ต่างคนต่างถือปืน คุมกันไม่อยู่หรอก หมอเขาว่าอย่างนั้น

ที่ประกาศสร้างพระทองคำหน้าตัก ๑๖ นิ้ว เพราะว่าทองคำ ๔๐ กิโลกรัม ไม่ได้หนักใจ ถ้าโยมบริจาคมาไม่พออาตมาก็ไปขนเอา คนเดียวยังพอแบกไหว แต่ ๕๐ ศอกนั่นไปสร้างเองเถอะ ไม่ไหว..ขนลูกศิษย์ไปครบทุกคนยังไม่รู้ว่าจะแบกมาพอสร้างหรือเปล่า ?

ต้องบอกว่าเป็นวาระของประเทศชาติ เหมือนจะดี ๆ แล้วก็กลายเป็นเละ ไม่อย่างนั้นบรรดาทรัพย์แผ่นดินต่าง ๆ ถ้าขึ้นมาช่วยช่วงนี้จะเหมาะมากเลย แต่ถ้าฝ่ายบริหารไม่ดี ขึ้นมาก็เป็นของคนไม่กี่คน ไม่ใช่ของส่วนรวม ถ้าไปขนเอามา รถไฟความเร็วสูงนี่สร้างได้ทั่วประเทศเลย

เถรี 19-04-2014 10:24

ถาม : ถ้าไปสร้างรถไฟ เอาไปลงทุนเลือกตั้งไม่ดีกว่าหรือคะ ?
ตอบ : เขาไม่ได้นึกเลยว่าเลือกตั้งลงทุนไปตั้งเท่าไร สามสี่พันล้านบาท พอไปตัดสินเข้ากลายเป็นมาตรฐาน ครั้งต่อไปถ้าใครหมั่นไส้รัฐบาล แค่ปิดหน่วยเลือกตั้งหน่วยเดียวเท่านั้นเอง ซึ่งไม่ต้องใช้คนมากเลย ก็จะกลายเป็นวุ่นวายไม่รู้จบไปตลอด

เห็นใครเขาวาดการ์ตูน เขาว่า “สมัยนี้ต้องเอียง” แล้วก็วาดหอเอนปีซ่าไว้ ความจริงผู้ที่ออกมาประท้วง น่าจะประท้วงประเด็นเดียวเรื่องศาลให้ชัด ๆ ไปเลย เพราะว่าเอียงชัดเจนในสายตาของคนอื่น


ถาม : จะเสียหลักนิติธรรมครับ ?
ตอบ : ทุกวันนี้ก็เสียหมดอยู่แล้ว เพราะขนาดฝ่าฝืน พรบ.ฉุกเฉิน เขายังยกฟ้องหมด

เถรี 19-04-2014 10:29

ถาม : เราไปทำกรรมอะไรไว้คะ ถึงมาเจอแบบนี้ ?
ตอบ : ไปปล้นบ้านตีเมืองเขาจนระส่ำระสายไปหมด ก็เจอเอาคืนบ้าง ของเราเองที่ชัด ๆ เลยก็ ลาว เขมร ญวน เล่นเขาสาหัส ลองไปคุยกับคนลาวดูสิ เขาจะเกิดทัศนคติไม่ดีเหมือนกับที่เรารู้สึกกับพม่านั่นแหละ

ถาม : เราก็ชอบพูดจาดูถูกเขาด้วย ?
ตอบ : เรื่องดูถูกอะไรไม่เท่าไรหรอก ที่หนักก็คือเรื่องที่เราไปปล้นบ้านตีเมืองเขานั่นแหละ ขนาดใครไปหลวงพระบาง (เชียงทอง) มัคคุเทศก์คุยไปคุยมาก็จะชี้ว่า นี่แหละแท่นพระเจ้าแก้ว แต่ตอนนี้คนไทยปล้นไปแล้ว

ฉะนั้น..ไม่ว่าจะลาว เขมร ญวน เราเคยไปเฉ่งเขาเอาไว้เยอะมาก ยิ่งสมัยเจ้าพระยาบดินทร์เดชา ตามตีกันทีเป็น ๑๐ ปี ถึงขนาดในหลวงรัชกาลที่ ๓ ต้องมีพระราชหัตถเลขาไป ขอให้เจ้าพระยาบดินทร์เดชาพักทัพกลับมาเยี่ยมลูกเมียบ้าง ตอนไปเมียจะคลอด กลับมาลูกอายุ ๑๒ ขวบแล้ว..! คนที่ทุ่มเทให้กับงานได้ขนาดนี้ก็มีนะ ๑๐ กว่าปีไม่ได้เจอหน้าลูกหน้าเมียเลย รบอย่างเดียว สมัยนี้มีแต่ในหลวงทุ่มเทให้กับงาน คนอื่นก็เช้าชามเย็นกาละมัง เช้าชามเย็นชามก็ยังพอสมควรใช่ไหม ? นี่เช้าชาม เย็นกาละมัง เกินสมควรไปหน่อย

คุณสุเทพประกาศเมื่อวาน..ใช่ไหม ? ว่าจะเป็นผู้เสนอนายกฯ คนกลาง และลงนามสนองพระบรมราชโองการเอง แล้วเขาจะเอาอำนาจที่ไหนมาเสนอ ? มีกฎหมายอะไรมารองรับ ? ก็คือบ้านเมืองไร้ขื่อไร้แปดี ๆ นี่เอง


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:36


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว