![]() |
พุทธพจน์วันละบท
1 Attachment(s)
"ดูกร..อตุละ การนินทาหรือการสรรเสริญนี้มีมาแต่โบราณ มิใช่มีเพียงวันนี้ คนย่อมนินทาแม้ผู้นั่งนิ่ง แม้ผู้พูดมาก แม้ผู้พูดพอประมาณ ผู้ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก บุรุษผู้ถูกนินทาโดยส่วนเดียว หรือถูกสรรเสริญโดยส่วนเดียวไม่มี แล้วจักไม่มี และไม่มีในบัดนี้" คาถาธรรมบท โกธวรรคที่ ๑๗ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1299076141 "ตัณหานี้เป็นธรรมชาติลามก มักแผ่ซ่านไปในอารมณ์ต่าง ๆ ในโลก เมื่อครอบงำบุคคลใด ความโศกทั้งหลายย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น ดุจหญ้าคมบาง อันฝนตกรดแล้วงอกงามอยู่ แต่ผู้ใดย่อมย่ำยีตัณหานั้น ซึ่งเป็นธรรมชาติลามก ยากที่ใครในโลกจะล่วงไปได้ ความโศกทั้งหลายย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำตกไปจากใบบัว ฉันนั้น" คาถาธรรมบท ตัณหาวรรคที่ ๒๔ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1299220189 ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดี มากมายหลายอย่างนี้มีอยู่ในโลก เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไรและความทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหน ๆ ผู้นั้นเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้ปรารถนาความไม่โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รักในโลกไหน ๆ ฯ วิสาขาสูตร |
1 Attachment(s)
ตัณหาย่อมเจริญยิ่งแก่ชนผู้ถูกวิตกย่ำยี มีราคะจัด เห็นอารมณ์ว่างาม บุคคลนั่นแล ย่อมทำเครื่องผูกให้มั่น ส่วนภิกษุใดยินดีในธรรมเป็นที่เข้าไประงับวิตก เจริญอสุภฌานอยู่ มีสติทุกเมื่อ ภิกษุนั่นแลจักทำตัณหาให้สูญสิ้นได้ ภิกษุนั้นจะตัดเครื่องผูกแห่งมารได้. คาถาธรรมบท ตัณหาวรรคที่ ๒๔ |
1 Attachment(s)
ผู้ใดมีส่วนแห่งจิตประกอบด้วยเมตตาในสัตว์ทุกหมู่เหล่า ย่อมไม่ฆ่าเอง ไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ไม่ชนะเอง ไม่ใช้ผู้อื่นให้ชนะ เวรของผู้นั้นย่อมไม่มีเพราะเหตุอะไร ๆ เลย ๆ เมตตาภาวสูตร |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1300713180 ภิกษุไม่ควรดูหมิ่นลาภของตน ไม่ควรเที่ยวปรารถนาลาภของผู้อื่น ภิกษุเมื่อปรารถนาลาภของผู้อื่น ย่อมไม่ประสบสมาธิ ภิกษุแม้เป็นผู้มีลาภน้อย ก็ไม่ดูหมิ่นลาภของตน เทพยดาทั้งหลายย่อมสรรเสริญภิกษุนั้นแลว่า เป็นผู้มีอาชีพหมดจด ไม่เกียจคร้าน. คาถาธรรมบท ภิกขุวรรคที่ ๒๕ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1300818895 ดูกรภิกษุทั้งหลาย...บุคคลคนเดียว เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย บุคคลคนเดียวคือใคร? คือ บุคคลผู้เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปริต เขาทำให้คนเป็นอันมากออกจากอสัทธรรม แล้วให้ตั้งอยู่ในสัทธรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย...บุคคลคนเดียวนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1301229120 มารดาถนอมบุตรคนเดียวผู้เกิดในตน แม้ด้วยการยอมสละชีวิตได้ ฉันใด กุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์ พึงเจริญเมตตาในใจไม่มีประมาณ ในสัตว์ทั้งปวง แม้ฉันนั้น เมตตสูตร |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1301476405 ธรรมทานย่อมชนะทานทั้งปวง รสแห่งธรรมย่อมชนะรสทั้งปวง ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง ความสิ้นไปแห่งตัณหาย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง. คาถาธรรมบท ตัณหาวรรคที่ ๒๔ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1302013557 คนผู้ตระหนี่กลัวยากจน ย่อมไม่ให้อะไร ๆ แก่ผู้ใดเลย ความกลัวจนนั่นแล จะเป็นภัยแก่คนผู้ไม่ให้ คนตระหนี่ย่อมกลัวความอยากข้าว อยากน้ำ ความกลัวนั้นแหละ จะกลับมาถูกต้องคนพาลทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เพราะเหตุนั้น บัณฑิตพึงครอบงำมลทิน กำจัดตระหนี่เสียแล้ว พึงให้ทานเถิด เพราะบุญย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า พิลารโกสิยชาดก |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1302094440 ผู้ใดในโลกนี้ ไม่เชื่อฟังคำของผู้เจริญ ผู้นั้นย่อมถึงความพินาศ เพราะไม่ทำตามคำสอนของท่านผู้รู้ ดุจแร้งละเมิดคำสั่งสอน บินเลยเขตแดน ถึงความพินาศหมด ฉะนั้น. มิคาโลปชาดกที่ ๖ |
1 Attachment(s)
เมื่อเรือนถูกไฟไหม้ บุคคลผู้เป็นเจ้าของขนเอาสิ่งของอันใดออกได้ สิ่งของอันนั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่เจ้าของนั้น แต่ของที่ถูกไฟไหม้ย่อมไม่เป็นประโยชน์แก่เขา โลกถูกชราและมรณะเผาแล้วอย่างนี้ บุคคลพึงนำออกเสียด้วยการให้ทาน ทานที่ให้แล้วจะน้อยก็ตาม มากก็ตาม ชื่อว่าเป็นอันนำออกดีแล้ว. อาทิตตชาดก |
1 Attachment(s)
ความกำหนัดใดของชนทั้งหลายผู้กำหนัด ยินดียิ่งนัก ในแก้วมณีและตุ้มหูทั้งหลาย และความเยื่อใยในบุตร แลในภรรยาทั้งหลาย นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวความกำหนัดและความเยื่อใยนั่นว่า เป็นเครื่องจองจำอันมั่นคง มีปกติเหนี่ยวลง อันหย่อน แต่เปลื้องได้โดยยาก นักปราชญ์ทั้งหลายตัดเครื่องผูกแม้นั่นแล้ว เป็นผู้ไม่มีไยดี ละกามสุขแล้วบวช คาถาธรรมบท ตัณหาวรรคที่ ๒๔ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303138913 ทุกข์อันไม่น่ายินดี ย่อมครอบงำคนผู้ประมาทโดยความเป็นของน่ายินดี ทุกข์อันไม่น่ารัก ย่อมครอบงำคนผู้ประมาทโดยความเป็นของน่ารัก ทุกข์ย่อมครอบงำบุคคลผู้ประมาทโดยความเป็นสุข |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303202052 บุคคลพึงรีบขวนขวายในความดี พึงห้ามจิตเสียจากบาป เพราะว่าเมื่อบุคคลทำความดีช้าอยู่ ใจจะยินดีในบาป. คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303280666 ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงไม่ดีได้ฉันใด ราคะย่อมเสียดแทงจิตที่ไม่ได้อบรมแล้วได้ฉันนั้น ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงดีแล้วไม่ได้ฉันใด ราคะก็ย่อมเสียดแทงจิตที่อบรมดีแล้วไม่ได้ฉันนั้น เปือกตมคือกามอันผู้ใดข้ามได้แล้ว หนามคือกามอันผู้ใดย่ำยีได้แล้ว ผู้นั้นบรรลุความสิ้นไปแห่งโมหะ ย่อมไม่หวั่นไหวเพราะสุขและทุกข์. คาถาธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑ เรื่องพระนันทเถระ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303347775 ใจของชนเหล่าใด ยินดีแล้วในภาวนาทั้งกลางวันและกลางคืน ชนเหล่านั้นชื่อว่าเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ ตื่นดีแล้วในกาลทุกเมื่อ ปกิณณวรรคที่ ๒๑ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303454294 ผู้ใดยังเพลิดเพลินใจ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเพลิดเพลินทุกข์ ผู้ใดเพลิดเพลินทุกข์ เรากล่าวว่า ผู้นั้นยังไม่พ้นไปจากทุกข์ อภินันทสูตรที่ ๑ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303528281 ท่านจงปล่อยความอาลัยในขันธ์ที่เป็นอดีตเสีย จงปล่อยความอาลัยในขันธ์ที่เป็นอนาคตเสีย จงปล่อยความอาลัยในขันธ์ที่เป็นปัจจุบันเสีย จักเป็นผู้ถึงฝั่งแห่งภพ มีใจพ้นวิเศษแล้วในสังขตธรรมทั้งปวง จักไม่เข้าถึงชาติและชราอีก ตัณหาวรรค |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303672325 โทษของผู้อื่นเห็นได้ง่าย ส่วนโทษของตนเห็นได้ยาก เพราะว่าบุคคลนั้นย่อมโปรยโทษของคนอื่น ดุจบุคคลโปรยแกลบ แต่ปกปิดโทษของตนไว้ เหมือนพรานนกปกปิดอัตภาพด้วยกิ่งไม้ ฉะนั้น อาสวะทั้งหลายย่อมเจริญแก่บุคคลผู้ตามเพ่งโทษผู้อื่น มลวรรคที่ ๑๘ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303781803 ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาโดยแยบคายแล้วจึงฉันอาหาร ไม่ฉันเพื่อเล่น ไม่ฉันเพื่อเมามัว ไม่ฉันเพื่อประดับ ไม่ฉันเพื่อตกแต่ง ย่อมฉันเพียงเพื่อความดำรงอยู่แห่งกายนี้ เพื่อยังกายนี้ให้เป็นไป เพื่อกำจัดความเบียดเบียน เพื่อจะอนุเคราะห์พรหมจรรย์ สารีปุตตสูตร |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303869659 ดูก่อน...ท่านผู้มีอายุ การเกิดเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ การไม่เกิดเป็นเหตุให้เกิดสุข ดูก่อน...ผู้มีอายุ เมื่อมีการเกิด เป็นอันหวังได้ทุกข์นี้ คือ ความหนาว ความร้อน ความหิว ความกระหาย อุจจาระ ปัสสาวะ สัมผัสไฟ สัมผัสท่อนไม้ สัมผัสศาตรา ญาติก็ดี มิตรก็ดี มาประชุมพร้อมกันย่อมโกรธเคืองเขา สุขสูตรที่ ๑ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1303951541 ดูกรภิกษุทั้งหลาย...หากว่าภิกษุไม่เป็นผู้ฉลาดในวาระจิตของผู้อื่น ภิกษุนั้นพึงศึกษาว่า เราจักเป็นผู้ฉลาดในวาระจิตของตน สมถสูตร |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1304167278 ในเวลาเกิดความลำบาก บุคคลใดอดทนต่อความลำบากได้ บุคคลนั้นย่อมไม่เป็นไปตามความลำบาก บุคคลนั้นเป็นนักปราชญ์ ย่อมบรรลุสุข ปราศจากเครื่องประกอบอันเป็นที่สุดแห่งความลำบาก อินทริยชาดกที่ ๗ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1305291829 คนพาลย่อมสำคัญบาปประดุจน้ำหวาน ตลอดกาลที่บาปยังไม่ให้ผล แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ ๕ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1306157658 ภิกษุใดชนะหนาม คือ กาม การด่า การฆ่า และการจองจำได้แล้ว ภิกษุนั้นมั่นคงไม่หวั่นไหวดุจภูเขา ภิกษุนั้นย่อมไม่หวั่นไหวในเพราะสุขและทุกข์ ยโสชสูตร |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309434186 ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311127904 บุรุษคบคนเลว ย่อมเลวลง คบคนที่เสมอกัน ย่อมไม่เสื่อม ในกาลไหน ๆ คบคนที่สูงกว่า ย่อมพลันเด่นขึ้น ฉะนั้น จึงควรคบคนที่สูงกว่าตน เสวิสูตร |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311243796 ท่านจงปล่อยความอาลัยในขันธ์ที่เป็นอดีตเสีย จงปล่อยความอาลัยในขันธ์ที่เป็นอนาคตเสีย จงปล่อยความอาลัยในขันธ์ที่เป็นปัจจุบันเสีย จักเป็นผู้ถึงฝั่งแห่งภพ มีใจพ้นวิเศษแล้วในสังขตธรรมทั้งปวง จักไม่เข้าถึงชาติและชราอีก ตัณหาวรรค |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311320926 เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311581290 ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือหนอ ที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นตัวตนของเรา ราหุลสูตร พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๐ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1312190821 ราหุล....เธอพึงศึกษาว่า เราจักไม่กล่าวมุสา แม้เพราะหัวเราะกันเล่น จูฬราหุโลวาทสูตร |
1 Attachment(s)
ภิกษุ...เธอจงวิดน้ำออกจากเรือนี้ เมื่อวิดน้ำออกหมดแล้ว เรือจักแล่นเร็ว ทำลายราคะ โทสะ (โมหะ) เสียแล้ว เธอจักไปถึงพระนิพพาน คาถาธรรมบท ภิกขุวรรคที่ ๒๕ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1321267660 ดูกรพราหมณ์...สิ่งที่ควรรู้ยิ่ง เราได้รู้ยิ่งแล้ว สิ่งที่ควรทำให้เจริญ เราทำให้เจริญแล้ว สิ่งที่ควรละ เราละได้แล้ว ดังนั้นเราจึงได้ชื่อว่าตรัสรู้ ขุททกนิกาย พระสุตตันตปิฎก |
1 Attachment(s)
พระสารีบุตร : ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย....นิพพานนี้เป็นสุข พระอุทายี : ดูก่อนอาวุโสสารีบุตร....นิพพานนี้ไม่มีเวทนา จะเป็นสุขได้อย่างไร? พระสารีบุตร : ดูก่อนอาวุโส...นิพพานนี้ไม่มีเวทนานั่นแหละเป็นสุข นิพพานสูตร อังคุตรนิกาย พระสุตตันตปิฎก |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1321451438 คนเหล่าใด ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งพาลทั้งบัณฑิต ทั้งมั่งมีทั้งขัดสน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า ภาชนะดินที่นายช่างหม้อกระทำแล้ว ทั้งเล็กทั้งใหญ่ ทั้งสุกทั้งดิบ ทุกชนิด มีความแตกเป็นที่สุดฉันใด ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายก็ฉันนั้น มหาปรินิพพานสูตร |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1321972982 ดูกรภิกษุทั้งหลาย....กายนี้ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย ทั้งไม่ใช่ของคนเหล่าอื่น ดูกรภิกษุทั้งหลาย....กายนี้อันกรรมเก่าควบคุมแล้ว อันจิตประมวลเข้าแล้ว ท่านทั้งหลายพึงเห็นว่าเป็นที่ตั้งแห่งเวทนา พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1322129099 ทุกข์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ทุกข์ทั้งนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะว่าฉันทะ (ความพอใจ) เป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค |
1 Attachment(s)
บุคคลฆ่าความโกรธได้ ย่อมนอนเป็นสุข ฆ่าความโกรธได้ย่อมไม่เศร้าโศก ดูกรพราหมณ์...พระอริยเจ้าทั้งหลายย่อมสรรเสริญการฆ่าความโกรธ อันมีมูลเป็นพิษ มีที่สุดอันคืนคลาย เพราะว่าบุคคลฆ่าความโกรธนั้นได้แล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก พราหมณสังยุตต์ อรหันตวรรคที่ ๑ ธนัญชานีสูตรที่ ๑ |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1322741815 บุคคลไม่พึงใส่ใจคำแสลงหูของชนเหล่าอื่น ไม่พึงแลดูกิจที่ทำแล้วและยังไม่ได้ทำของชนเหล่าอื่น พึงพิจารณากิจที่ทำแล้วและยังไม่ได้ทำของตนเท่านั้น ปุปผวรรคที่ ๔ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:25 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.