![]() |
ถาม : เมื่อเจริญสติมาก ๆ จะเข้าถึงผู้รู้ หรือธาตุรู้ จะรู้สังโยชน์หรืออวิชชาที่แฝงตัวอยู่ในผู้รู้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใช่..แต่ถ้ารู้อย่างเดียวโดยไม่ละ ก็ยังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด |
ถาม : ศึกษาแนวทางของหลวงพ่อวัดท่าซุงมาบ้าง นอกจากสติปัฏฐานแล้วก็เพิ่มเติมอุปสมานุสสติ อธิษฐานขอพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ ทำแบบนี้ไม่ผิดใช่ไหมครับ ?
ตอบ : กองกรรมฐานใดก็ตามถ้ายังทำไม่ถึงที่สุด ไม่สามารถพูดได้ว่าถูกหรือผิดทาง จนกว่าจะเข้าถึงมรรคผลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป จึงจะมั่นใจได้ว่ามาถูกทางแล้ว |
ถาม : การภาวนาพระคาถาเงินล้าน ส่วนใหญ่ได้รับคำแนะนำว่าให้ภาวนาช้า ๆ แต่เมื่อทำแบบนั้นแล้วรู้สึกว่าล่องลอยและเบาเกินไป เหมือนกับจะหลับ จึงท่องรัว ๆ เร็ว ๆ ตามแบบการท่องพุทโธทางสายพระอาจารย์มั่น จะได้ผลเหมือนกันไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าจะเอาผลของพระคาถา ก็เอาช้า ๆ ตามคำแนะนำที่ได้รับมา แต่ถ้าต้องการที่จะสร้างสติจากการภาวนา ก็ให้ภาวนารัว ๆ เร็ว ๆ อย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ |
ถาม : หลวงพ่อจะสร้างท้าวมหาราชทั้ง ๔ ให้บูชาอีกไหมครับ ?
ตอบ : ยังไม่มีคำสั่งให้สร้าง ถาม : ถ้าผมบูชาท้าวมหาราชทั้ง ๔ จากร้านสังฆภัณฑ์ ตอนกราบไหว้บูชาท่านจะรับรู้ไหมครับ ? ตอบ : ถ้าทำด้วยความเคารพจริง ๆ ท่านรับรู้อย่างแน่นอน |
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้มีบางเรื่องที่ต้องหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกัน เรื่องแรกคือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-๑๙ ซึ่งน่าจะลดจำนวนลงแล้ว แต่กลับกลายเป็นมากขึ้น เพราะว่ามีพี่น้องบางศาสนา ที่กลับจากการทำศาสนกิจ แล้วนำเอาเชื้อมาแพร่กระจายเพิ่มขึ้นในบ้านเรา
ที่กล่าวตรงนี้ไม่ได้ตำหนิพี่น้องทั้งหลายที่นำเชื้อกลับมาแพร่กระจาย แต่อยากให้พุทธศาสนิกชนของเรานั้น ได้ดูศรัทธาของพี่น้องทั้งหลายเหล่านี้ ว่ามีความมั่นคงต่อพระเจ้าของเขาขนาดไหน ถึงแม้รู้ว่าไปแล้วอาจจะติดเชื้อโรคร้ายกลับมา อาจจะทำให้ต้องเสียชีวิตจากการปฏิบัติศาสนกิจครั้งนี้ แต่ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ยังคงมุ่งไปด้วยศรัทธาที่มั่นคง ไม่หวั่นแม้จะต้องถึงแก่ชีวิตก็ตาม" |
"ตรงจุดนี้เราทั้งหลายต้องพิจารณาตัวเองว่า หลายท่านปฏิญาณว่ามอบกายถวายชีวิตต่อพระรัตนตรัย แล้วเรามีความเข้มแข็ง มีความกล้าหาญ ที่จะเผชิญหน้ากับความตายเหมือนพี่น้องทั้งหลายเหล่านี้หรือไม่ ?
ถ้าท่านทั้งหลายมีศรัทธาที่มั่นคง มีความแกล้วกล้าที่จะทุ่มเทต่อการปฏิบัติธรรม ยอมสละแม้ชีวิตเพื่อให้เข้าถึงธรรมแล้วไซร้ เชื่อได้ว่าท่านทั้งหลายมีความหวังที่จะได้เป็นพระอริยเจ้ากันทุกคน นี่เป็นจุดหนึ่งที่ขอให้ทุกท่านพิจารณาตัวเองให้ดี" |
"อีกจุดหนึ่ง ขอกล่าวถึงสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวถึง คือ อธิโมกขสัทธา ได้แก่ ศรัทธาที่เชื่อโดยปราศจากปัญญาประกอบ ใครจะชักจูงไปทางไหนก็ตามไปโดยไม่ได้มีสติที่จะยั้งคิด เหมือนภาษิตจีนที่กล่าวว่า "คนตาบอดขี่ม้าตาบอด" มีแต่จะพากันตกเหวตายไปด้วยกัน..!
เมื่อพี่น้องทั้งหลายเหล่านี้กลับมา จึงพาเอาโรคร้ายมาติดคนใกล้ชิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนสำคัญในครอบครัว เป็นคนที่ท่านทั้งหลายเหล่านี้รักใคร่ จนทำให้เชื้อโรคร้ายแพร่กระจายไปในวงกว้าง กลายเป็นภาระที่แพทย์พยาบาลทั้งหลายต้องมารับ ทำให้งานของท่านทั้งหลายเหล่านี้ที่หนักมากอยู่แล้ว ก็ยิ่งซ้ำหนักขึ้นไปอีก จะเห็นได้ว่าศรัทธานั้นต้องมีปัญญาประกอบจริง ๆ ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะพาความเสียหายเดือดร้อนอย่างใหญ่หลวงมาให้แก่ตนเองและผู้อื่น ทำให้ทางราชการต้องเกิดความยากลำบากในการต่อสู้เพื่อเอาชนะไวรัส covid-๑๙ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่หาได้ยาก ต้องมาดูแลพี่น้องทั้งหลายเหล่านี้แทน ทำให้ตัดโอกาสในการอยู่รอดของคนอื่นลงไปอีกมาก" |
"อีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องยกขึ้นมากล่าวก็คือ ข่าวคราวที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะตัดเงินนิตยภัตของพระสังฆาธิการรูปละ ๒ เดือน เพื่อนำเข้ากองทุนวัดช่วยวัด แล้วเอาเงินจากกองทุนนี้ไปบรรเทาความเดือดร้อนของวัดต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส covid-๑๙
กองทุนวัดช่วยวัดนั้นเกิดจากมติมหาเถรสมาคมปี ๒๕๔๕ หักนิตยภัตหรือเงินเดือนพระสังฆาธิการ เข้ากองทุนปีละ ๑ เดือน มาตั้งแต่บัดนั้น ซึ่งในช่วงนั้นนิตยภัตของเจ้าอาวาสทั่วไป คือเดือนละ ๕๐๐ บาท จนกระทั่งมาเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ ๑,๘๐๐ บาท นิตยภัตนั้นคือเงินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถวายเพื่อเป็นค่าภัตตาหารของพระสงฆ์ที่รับภารธุระในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่โบราณ เมื่อมาถึงยุคหลังเห็นว่าเจ้าอาวาสทุกรูป เป็นผู้รับภารธุระในพระพุทธศาสนา ทางราชการจึงได้จัดนิตยภัตถวาย แต่อย่างไรก็ไม่พอ "ยาขี้ฟัน" |
"ขนาดนั้นแล้วก็ยังมีการมาเบียดบังเงินที่ไม่พอ "ยาขี้ฟัน" อีก ด้วยการหักเข้ากองทุนวัดช่วยวัดปีละ ๑ เดือน แล้วยังมีซ้ำเติมด้วยการหักเข้ากองทุนช่วยชาวพุทธอีกปีละ ๑ เดือน ตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงบัดนี้ ไม่ทราบว่ามีเงินในกองทุนจำนวนเท่าไร และไม่เคยเห็นว่าเอาไปช่วยใครบ้าง ?
จนมาถึงปี ๒๕๖๒ ทางมหาเถรสมาคมมีมติใหม่ เนื่องจากว่าการหักเงินนิตยภัตไปตั้งแต่ต้นทางนั้นผิดระเบียบราชการ จึงให้ทางจังหวัดเก็บนิตยภัตจากเจ้าอาวาสแล้วนำไปส่งเข้ากองทุนแทน ปฏิบัติมาดังนี้ได้ประมาณ ๒ ปี พอเกิดความเดือดร้อนขึ้นมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-๑๙ แทนที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะหางบประมาณอื่นมาถวาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน กลับตั้งใจที่จะล้วงย่ามพระเพื่อเอาเศษเงินเหล่านี้ไปช่วยพระ เป็น "อัฐยายซื้อขนมยาย" ที่ทุเรศสุด ๆ..!" |
"ดังนั้น...จึงเกิดเหตุการณ์ "กฐินลง" ที่เว็บไซต์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ บรรดาพระสังฆาธิการที่ทนต่อ ผนงรจตกม ไม่ได้ ก็เข้าไปชยันโตสรรเสริญเจริญพร จนกระทั่งบรรพบุรุษของผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติคนปัจจุบันนอนสะดุ้งอยู่ในหลุม..!
ทำให้ท่านต้องออกมาแก้ข่าวว่า เป็นความเข้าใจผิดของนักข่าว ที่เอาข่าวไปลงเองในลักษณะอย่างนั้น ท่านไม่ได้คิดที่จะหักนิตยภัตของพระสังฆาธิการดังที่ออกข่าวไป จึงทำให้ทั้งพระสงฆ์และญาติโยมมองไป ๒ แนวทาง" |
"ประการแรก พระภิกษุสงฆ์ท่านฉันข้าวเป็นภัตตาหาร แม้ว่าจะเป็นข้าวสวยบ้าง ข้าวเหนียวบ้าง ข้าวนึ่งบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ฉันหญ้าเป็นภัตตาหารอย่างแน่นอน ท่านโง่พอที่จะเห็นว่าพระสงฆ์ฉันหญ้าเป็นภัตตาหารหรืออย่างไร ?
ประการที่สอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรียกได้ว่าเป็นข้าราชการแทบจะตำแหน่งสูงสุดที่ดูแลงานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ควรที่จะเป็นผู้มีคุณธรรมศีลธรรมประจำใจ แต่กลับไม่ละอายที่จะบิดเบือนข่าว กล่าวคำโกหกซึ่ง ๆ หน้า เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ฉิบหายวายวอดที่ท่านสร้างขึ้นมาเอง โดยที่ไม่ได้ละอายชั่วกลัวบาปให้สมกับตำแหน่งของตนเลย แล้วอย่างนี้พระพุทธศาสนาของเราจะไปตั้งความหวังไว้กับใครได้ ? ในเมื่อทั้งนักการเมืองและข้าราชการประจำ ต่างก็ดีแต่เอาตัวรอด เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ในเมื่อทุกอย่าง "เน่าใน" ขนาดนี้ พระภิกษุสามเณรของเราก็คงได้แต่ตะเกียกตะกายพึ่งตนเองต่อไป สมดังพุทธภาษิตที่ว่า อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ด้วยประการฉะนี้" |
"วิธีการช่วยเหลือพระภิกษุของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาตินั้น เป็นขั้นเป็นตอนที่ดูน่าเลื่อมใสแต่น่าเบื่อหน่ายที่สุด คือให้ทุกจังหวัดสำรวจหาวัดที่เดือดร้อนจากผลกระทบของไวรัส covid-๑๙ แจ้งว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรบ้าง แต่จะช่วยเฉพาะค่าภัตตาหารเป็นเวลาไม่เกิน ๑๕ วัน ฟังแล้วด็อกเตอร์อย่างอาตมายังมึน..!
ในสถานการณ์เช่นนี้เดือดร้อนกันทุกวัด ทำไมถึงต้องเสียเวลาสำรวจหาด้วย ? ถ้าจะถวายแต่ค่าภัตตาหารแล้วถามทำไมว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรบ้าง ? เอกสารที่ต้องกรอกมากมาย ในสถานการณ์เช่นนี้คิดว่ามีใครจะมีอารมณ์ไปกรอกบ้าง ? เข้าใจอยู่ว่าขั้นตอนของทางราชการเป็นแบบนั้น แต่ในสถานการณ์พิเศษสามารถใช้วิธีการพิเศษได้หรือไม่ ? ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียเวลามาช่วย นอกจากทำให้หงุดหงิดรำคาญแล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย บางวัดกว่าจะกรอกเอกสารเสร็จอาจจะถึงแก่มรณภาพกันไปก่อนก็ได้..! ตอนเก็บเงินเก็บไปง่าย ๆ ไม่มีขั้นไม่มีตอนอะไรเลย แต่ตอนจ่ายเงินทำไมขั้นตอนถึงได้มากนัก ? เหมือนกับตั้งใจกลั่นแกล้งที่จะดึงเรื่องให้ช้าลง ถ้าพระทนรำคาญไม่ได้ก็จะได้ไม่มีใครมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งอาจจะเกิดจากการตั้งธงว่าไม่คิดที่จะช่วยอยู่แล้วก็เป็นได้" |
"ส่วนเอกสารทางราชการก็มากันแบบรัว ๆ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติส่งมาห้ามจัดงานวัดทุกประเภท แต่ให้ตั้งโรงทานตามคำสั่งของสมเด็จพระสังฆราช..!?? สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดก็ส่งเอกสารมาย้ำ ตามมาด้วยสำนักงานเจ้าคณะจังหวัด สำนักงานเจ้าคณะอำเภอ สำนักงานเจ้าคณะตำบล ซึ่งส่งเอกสารต่อกันมาตามขั้นตอน
งานไม่ให้จัด กิจนิมนต์ก็โดนงด บิณฑบาตก็แทบจะไม่พอฉัน การช่วยเหลือก็มาช้าสุด ๆ แต่ให้ตั้งโรงทานเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน โดยไม่ได้คิดว่าพระสงฆ์เองนั่นแหละเดือดร้อนที่สุด ช่างเป็นยุค ผนงรจตกม ที่น่าอเนจอนาถจริง ๆ..!" |
ถาม : ฝันว่ามีพระสงฆ์รูปร่างสูงใหญ่มาให้คาถาว่า "สมติงสบารมี" เมื่อเอามาภาวนาแล้วอารมณ์นิ่งดีมาก คำถามคือ
๑. ผมควรใช้คำภาวนานี้ต่อไปไหมครับ ? ตอบ : การภาวนาก็เพื่อระงับ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ให้กำเริบ ถ้าภาวนาพระคาถานี้แล้วช่วยให้สงบนิ่งได้ ก็ควรที่จะใช้ต่อไป ๒. คำภาวนานี้เมื่อถึงที่สุดจะให้ผลทางไหน ? ตอบ : โดยทั่วไปแล้วสมถภาวนาให้ผลเต็มที่ก็ไม่เกินฌาน ๔ ๓. ถ้าคำภาวนานี้ไม่เหมาะ กระผมควรจะใช้อะไรดีครับ ? ตอบ : กรรมฐาน ๔๐ กอง ไปเลือกเอาตามใจชอบได้เลย..! |
ถาม : วิชาพลังแสงทิพย์อริยธรรม มีผลจริงอย่างที่เขาว่าไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าอาบแสงทิพย์อริยธรรมแล้วสามารถเข้าถึงมรรคผล หรือเลื่อนมรรคเลื่อนผลได้ พระพุทธเจ้าก็คงพาพวกเราไปพระนิพพานหมดแล้ว ไม่เหลือให้ต้องมาลำบากอยู่ทุกวันนี้หรอก..! |
ถาม : น้ำมนต์มีน้ำธรรมดากระเด็นตกลงไปแบบไม่เจตนา จะเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : น้ำมนต์ไม่เสื่อมหรอก แต่ศรัทธาของคนรู้มากอย่างคุณน่าจะเสื่อม..! ถาม : น้ำมนต์ที่ทำโดยผู้ที่ไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า เอามาเททับน้ำพระพุทธมนต์ที่พระพุทธเจ้าสงเคราะห์ไว้ดีแล้วจะเสื่อมไหมครับ ? ตอบ : ไม่มีอะไรทำให้พุทธานุภาพเสื่อมได้ ยกเว้นว่าคุณจะเสื่อมศรัทธาเสียเอง บุคคลที่ไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า ถ้าอ้างคุณพระรัตนตรัยในการทำน้ำมนต์ พระพุทธเจ้าท่านย่อมสงเคราะห์อยู่แล้ว |
ถาม : บวชเป็นพระแล้วต้องอาบัติ ที่ไม่ใช่ปาราชิกหรือสังฆาทิเสส ยังไม่ได้แสดงอาบัติ จะขัดขวางผลการปฏิบัติตนหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ผู้ที่ศีลไม่บริสุทธิ์ ย่อมเกิดวิปฏิสาร คือความเดือดเนื้อร้อนใจเอง จิตใจเมื่อไม่สงบ การปฏิบัติธรรมย่อมได้ผลน้อย ถาม : ในการอุปสมบท ถ้ามีภิกษุต้องปาราชิกอยู่ในพิธี แต่มีภิกษุปกติเกิน ๕ รูป จะถือว่าบวชพระได้สมบูรณ์ไหมครับ ? ตอบ : ผู้ที่ต้องอาบัติปาราชิก หรืออาบัติสังฆาทิเสส เท่ากับขาดจากความเป็นพระภิกษุ ทั้งขาดแบบถาวร หรือขาดแบบชั่วคราว ก็เท่ากับเป็นอนุปสัมบันไปอยู่ในพิธี ย่อมไม่สามารถยกเราขึ้นเป็นพระได้ ต่อให้บวชเต็มพิธีขนาดไหนก็เป็นได้ไม่เกินสามเณรเท่านั้น |
ถาม : เนื้อคู่จะสังเกตได้อย่างไรคะ ? บางคนบอกว่าหน้าตาจะคล้ายกัน
ตอบ : ไม่ต้องสังเกต ชอบใครก็แต่งไปเลย สำคัญที่ว่าเมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว ต้องมีสมชีวิธรรม คือ มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีทานเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่ง |
ถาม : หนูบูชาพระคำข้าวมาแขวน แต่เคลือบแคลงสงสัยในคุณวิเศษของหลวงพ่อฤๅษีฯ จึงอธิษฐานขอพิสูจน์ ตอนนั่งสมาธิได้เห็นนิมิตสีแดงสีเหลืองสว่างจ้าเต็มไปหมด เมื่ออาราธนาคล้องคอแล้ว อาการป่วยที่เป็นอยู่ก็คลายตัวลงเกือบหมด หนูควรจะขอขมาท่านอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : จุดธูป ๕ ดอกหน้าหิ้งพระ ตั้งนะโมฯ ๓ จบ ว่าเป็นภาษาไทยก็ได้ "กรรมอันใดซึ่งลูกได้ล่วงเกินไปแล้วต่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีองค์หลวงพ่อฤๅษีฯ เป็นที่สุด จะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจก็ดี ลูกกราบขอขมากรรมนั้นต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอได้โปรดเมตตาอดโทษให้กับลูกตั้งแต่บัดนี้ ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ" |
ถาม : เวลานั่งสมาธิ จะเกิดอาการแปลก ๆ อย่างเช่น เห็นแสงสีต่าง ๆ ตัวเบาเหมือนจะลอยได้ จิตดิ่งลึกลงไปไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้รู้สึกกลัว เพราะมีคนบอกว่านั่งกรรมฐานแล้วจะบ้า หนูควรจะทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ถ้ากลัวก็ไปขึ้นครูที่สำนักกรรมฐานแห่งใดแห่งหนึ่ง แล้วให้ครูท่านช่วยคุมตอนปฏิบัติธรรม ถ้าตัดใจไม่กลัวได้ก็ทำเองไปเลย กำลังจะเริ่มดีแล้ว |
ถาม : นั่งกรรมฐานแล้ว บางทีรู้สึกขึ้นมาเองว่า ตัวเราเป็นแค่สสาร ไม่มีตัวตนจริง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเป็นแค่จิตเราไปรับรู้ ว่าเราคือใครเขาคือใคร จิตคอยดูทุกอย่างที่ดำเนินไป โดยไม่ได้เป็นส่วนเดียวกับกาย รู้สึกเศร้าว่าทำไมไม่มีอะไรให้ยึดเลย ? อาการแบบนี้สมควรทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : เป็นอาการของปัญญาล้ำหน้าสมาธิ ทำให้ไม่หนักแน่นมั่นคงพอ ถึงรู้เห็นชัดเจนแต่ก็ยังเกิดความกลัว ต้องเร่งสมาธิให้มากขึ้น ศึกษาเกี่ยวกับวิปัสสนาญาณ แล้วเอามาเปรียบเทียบกับสิ่งที่ตนเองรู้ ถ้าตรงกันก็ยอมรับว่าเป็นจริงตามนั้นไปเลย |
ถาม : กรรมอะไรทำให้สามีไม่ยอมรับลูกในท้องว่าเป็นลูกตัวเองคะ ?
ตอบ : ทำตัวง่ายกับเขามากจนเกินไป จนเขาระแวงว่าเคยง่ายกับคนอื่นมาแล้ว จึงไม่มั่นใจว่าเป็นลูกของเขาหรือเปล่า ถ้าเขายินยอมก็ไปตรวจ DNA พิสูจน์กัน |
ถาม : วิชา ๑๘ ฝ่ามือพิชิตมังกร ดัชนีสุริยัน กระบี่หกชีพจร ฝึกแล้วจะเก่งอย่างในนิยายเขาว่าจริงหรือไม่ครับ ?
ตอบ : แค่ไปฝึกกสิณ ๑๐ ก็เก่งกว่าทุกวิชาที่ว่ามาแล้ว..! |
ถาม : การเล่นหมากรุก หมากฮอส หมากล้อม หมากกระดานต่าง ๆ เหมาะสมกับผู้ถือบวชหรือไม่ ?
ตอบ : พระพุทธเจ้าทรงปรับอาบัติทุกครั้งที่จับ แปลว่าจับตัวหมากกี่ครั้ง ก็เกิดโทษผิดศีลเท่านั้นครั้ง..! |
ถาม : หากได้บริเวณบ้านไม่มีทิศที่เหมาะสมจะตั้งศาลพระภูมิแบบเสาเดียว จะตั้งเป็นหิ้งตามทิศนั้นภายในบ้านได้ไหมครับ ? ผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามที่พระอาจารย์เคยแนะนำให้ติดที่ศาลพระภูมิ ควรติดที่ตำแหน่งไหนครับ ?
ตอบ : ได้..ถ้าไปห้องสมุดวัดท่าขนุน จะเห็นหิ้งที่มีพระวิสุทธิเทพตั้งอยู่ นั่นคือศาลพระภูมิ..! ผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามถ้าติดในศาลเสาเดียว ก็ติดด้านในศาลแทนเจว็ดไปเลย ถ้าเป็นหิ้ง เมื่อตั้งหิ้งแล้วก็ติดไว้ตรงกลางเหนือหิ้ง |
ถาม : อาหารประเทศตะวันตกหลายอย่าง ผสมไวน์หรือบรั่นดี ผิดศีล ๕ หรือไม่ครับ ?
ตอบ : การปรุงรส แปลว่ายังปรากฏรส ปรากฏกลิ่นของไวน์หรือบรั่นดีอยู่ ถ้าอย่างนั้นก็ผิดแน่ ศีลพระอนุญาตให้ถ้าไม่ปรากฏรส ไม่ปรากฏกลิ่น แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะปรุงไปทำอะไร ? |
ถาม : หลวงพ่อรักษาสุขภาพอย่างไรครับ ? ดูไม่แก่เท่าอายุจริง
ตอบ : กินน้อย นอนน้อย ทำงานให้มาก พอลืมโลกลืมเวลา ก็จะลืมแก่ไปด้วย..! |
ถาม : สมองหนูมีปัญหาไม่แยกผิดแยกถูก เหมือนพวกสมองกลวง ถ้ามีคนชี้ว่าสิ่งนี้บาป สิ่งนี้ผิด แค่นี้ก็รวนไปหมดแล้ว มักจะถามตัวเองว่าอะไรคือผิด ? อะไรคือบาป ? พอรับฟังมาก ๆ เข้าก็เหมือนกับโดนบีบบังคับจากคนรอบด้าน จนตั้งสติเกือบไม่อยู่ อยากจะหนีไปอยู่ป่าคนเดียว หนูควรจะทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : เกิดจากสติปัญญาน้อย แก้ด้วยการนั่งภาวนาจับลมหายใจเข้าออกเท่านั้น เมื่อทำให้มากขึ้น สติมั่นคง ปัญญาก็จะเกิด ทำให้เห็นผิดเห็นถูกได้ง่ายขึ้น |
ถาม : ข้าราชการที่ได้ตำแหน่งใหญ่โตจากการประจบสอพลอ ชอบสร้างภาพ เอาเงินหลวงไปใช้เพื่อความสบายของตนเอง จะได้รับกรรมอย่างไรครับ ?
ตอบ : ลงไปดูในยมโลกียนรก ขุมที่ชื่อว่า ปิสสกปัพพตนรก ก็จะรู้ได้ชัดเจนเอง..! |
ถาม : มีความเป็นไปได้แค่ไหนคะ ที่ปีนี้จะมีการเป่ายันต์เกราะเพชร ?
ตอบ : ศูนย์เปอร์เซ็นต์..! |
ถาม : ถ้าพระสงฆ์มีสบงและอังสะอีกชุดหนึ่ง นอกเหนือจากไตรจีวร สามารถอธิษฐานเป็นบริขารโจลได้ไหมครับ ?
ตอบ : อังสะสามารถอธิษฐานเป็นบริขารโจลได้ แต่สบงเป็นส่วนหนึ่งของผ้าไตรจีวร ต้องทำวิกัปเป็นสองเจ้าของเท่านั้น |
ถาม : ให้เงินพ่อแม่แล้ว ต่อมาทราบว่าท่านเอาไปทำบาป เช่น ซื้อเหล้ากิน เล่นการพนัน ให้คนไปทำแท้ง เราเป็นเจ้าของเงิน จะได้รับผลกรรมเหล่านั้นไหมครับ ?
ตอบ : ให้พ่อแม่ไปแล้วเรายังจะเป็นเจ้าของเงินได้อย่างไร ? ก็ต้องเป็นเงินของพ่อแม่ ท่านจะใช้อย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว ยกเว้นอยากคิดหานรกใส่ตัวเอง..! |
ถาม : ตอนเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนฝึกให้นั่งสมาธิ เห็นลูกแก้วสีขาวสว่างจ้ามาก เคลื่อนเข้ามาหาอย่างช้า ๆ แต่คุณครูเรียกให้ออกจากสมาธิเสียก่อน หลังจากนั้นก็ไม่เคยทำได้อีกเลย นั่นคืออะไรคะ ?
ตอบ : เป็นไปได้ ๒ ประการ ๑. ในอดีตชาติเคยทำกสิณได้มาก่อน ถึงเวลาจิตสงบได้ที่ นิมิตกสิณเดิมก็ปรากฏขึ้น ๒. ดวงจิตจากภพภูมิอื่นอยากจะติดต่อด้วย แต่หลุดจากสมาธิเสียก่อน จึงต่อไม่ติด |
ถาม : ตั้งใจรักษาศีลทั้งวัน แต่ตอนเที่ยงมีเหตุให้จำเป็นต้องโกหก เมื่อโกหกแล้วก็ตั้งใจสมาทานศีลใหม่ทันที ผลจะเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ผลคือมีศีลบริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่ง..! |
ถาม : นอนเตียงผ้าใบแบบทหารผิดศีล ๘ หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ที่นอนสูงที่นอนใหญ่ ภายในยัดด้วยนุ่นหรือสำลี ในศีล ๘ นั้นต้องหนา ๑ คืบขึ้นไป เตียงผ้าใบอย่างเก่งก็หนาแค่ ๕ มิลลิเมตร เอามาซ้อนกัน ๒๐ เตียงยังไม่ผิดเลย..! |
ถาม : พ่อตายไปหลายปีแล้ว ถ้าหนูได้เป็นพระโสดาบัน ท่านจะได้อานิสงส์นี้หรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้าอยู่ในอบายภูมิ อรูปพรหม หรือในพระนิพพาน ก็ไม่ได้รับอานิสงส์นี้ อบายภูมิบางส่วน เช่น เปรต อสุรกาย หรือสุคติภูมิ เช่น มนุสสภูมิ เทวดา นางฟ้า รูปพรหม ต้องอนุโมทนาถึงจะได้อานิสงส์นั้น |
ถาม : ในพระวินัยที่ว่า "ภิกษุผู้ถือเอาด้วยคิดอย่างนี้ว่า เราจักคืน ไม่เป็นอาบัติ เพราะการถือเอาแม้เป็นของยืม" ถ้าเราหยิบไปโดยเจ้าของไม่รู้ เมื่อใช้เสร็จแล้วเอาไปคืนที่เดิม ไม่ถือว่าเป็นการขโมยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของคุณ ถ้าคุณตั้งใจก่อนว่าจะขโมย หยิบของนั้นให้เคลื่อนจากฐาน ก็ต้องอาบัติปาราชิกไปแล้ว ภายหลังมาคิดว่าจะคืน ก็ไม่สามารถแก้ไขอาบัตินั้นได้ การที่เราหยิบของนั้นมาโดยคิดว่าจะคืน นำไปใช้สอยแล้ววางคืนที่เดิม ถ้ามีสภาพชำรุด บกพร่อง บางส่วนหมดไป ไม่พ้นจากอาบัติ ต้องคืนเต็มสภาพเดิมเท่านั้น |
ถาม : การทำอาหารใส่บาตรโดยตั้งใจทำให้อร่อย จัดอาหารให้สวยงาม ไม่ให้อาหารนั้นซ้ำกัน เป็นการสร้างกิเลสให้พระหรือไม่คะ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับพระรูปนั้น ว่าเกิดกิเลสหรือไม่ ? เราถวายสิ่งที่ประณีต ถึงเวลาก็ย่อมได้สิ่งที่ดีที่สุดคืนมา ส่วนพระจะเกิดกิเลสหรือไม่ เป็นปัญหาของพระท่านเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา |
ถาม : ต้มน้ำมะตูม น้ำกระเจี๊ยบ น้ำขิง น้ำดอกคำฝอย ใส่ขวดถวายพระ จัดเป็นปานะหรือไม่คะ ?
ตอบ : เป็นทุกอย่าง ถาม : น้ำปานะห้ามทำให้สุกด้วยไฟ แล้วจะใช้วิธีไหนทำคะ ? ตอบ : คั้นสดแล้วกรองเอาแต่น้ำ |
ถาม : น้าคนหนึ่งตอนเป็นวัยรุ่นเคยทำแท้ง และเขาเป็นคนไม่เชื่อเรื่องกรรม จึงโกหกไปว่าลูกของเขาคนปัจจุบันกำลังดวงตก มีแต่แม่เท่านั้นที่จะช่วยได้ ต้องสวดมนต์ รักษาศีล นั่งสมาธิวันละประมาณครึ่งชั่วโมง แผ่กุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งของเขาและของลูก เขาถึงได้ยอมทำตาม แบบนี้ศีลของหนูจะบริสุทธิ์พอเป็นพระโสดาบันได้ไหมคะ ?
ตอบ : การโกหกนั้น จะเกิดโทษเต็มที่ก็ต่อเมื่อผู้รับผลประโยชน์จากการโกหกนั้นคือเราเอง การกระทำของเราเป็นการหวังดี ผลของการโกหกก็เกิดขึ้นกับน้าเอง และเป็นผลทางด้านดีอีกด้วย ไม่ถือว่าศีลขาด แต่ก็ต้องเรียกว่าศีลด่าง ศีลพร้อย ไม่บริบูรณ์เต็มที่ ให้ลืมเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไปเสีย แล้วตั้งหน้าตั้งตารักษาศีลให้บริสุทธิ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เมื่อศีลสมบูรณ์ก็จะมีคุณสมบัติพอเป็นพระโสดาบันได้ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:03 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.