กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6678)

เถรี 25-07-2019 17:59

ถาม : จาคานุสติกับทาน ต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : คิดให้กับลงมือให้ ถ้าแค่คิดเป็นจาคานุสติ ถ้าลงมือให้เป็นทานบารมี

ถาม : ถ้าให้ทานโดยไม่ลังเล เห็นหน้าแล้วให้เลย ถือว่ามีจาคานุสติอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : มี..แสดงว่าจาคานุสติเต็มที่พร้อมที่จะสละออก ทานบารมีก็มีเพราะว่าลงมือทำแล้ว

เถรี 25-07-2019 18:00

ถาม : เวลาที่เราเอาดวงแก้วมาไว้ข้างในกาย แล้วเราเห็นร่างกาย บางทีก็รู้สึกสกปรกโสโครก แต่ว่าไม่ใช่ของจริง แต่ก็ใช้ได้ คือเรารู้สึกสงัดกับอารมณ์นี้ อย่างนี้คือวิปัสสนาหรือสมถะครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับตัวเราตอนนั้นว่าเราคิดอย่างไร ? ถ้าสภาพจิตยอมรับว่าแท้จริงเป็นเช่นนี้ ก็เป็นวิปัสสนาญาณ ถ้าไม่ใช่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสมถะในกายคตานุสติกรรมฐานเท่านั้น

วิปัสสนาญาณจะเป็นได้ก็ต่อเมื่อใจยอมรับ เพราะคำว่า “วิ” คือ วิเศษ แจ้ง ต่าง “ปัสนา” ก็คือการเห็น การเห็นอย่างวิเศษคือเห็นแล้วยอมรับ

เถรี 25-07-2019 18:02

ถาม : ถ้าเกิดว่าเราทำธุรกิจ แล้วต้องการที่จะเอาชนะคู่แข่ง จะบาปไหมครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าเรามุ่งร้ายเขาหรือเปล่า ? ถ้าจะทำลายเขาก็ประกอบไปด้วยวิหิงสาวิตก ตรึกในการพยาบาทผู้อื่น ก็แปลว่านรกรออยู่

ถาม : ถ้าเราไม่พยาบาทผู้อื่น แต่ว่าหลักก็คือ เราต้องกินปลาเล็กละครับ ?
ตอบ : แล้วทำไมต้องกินปลาเล็ก ? สนับสนุนปลาเล็กให้โตด้วยกันไม่ได้หรือ ?

เถรี 25-07-2019 18:33

ถาม : หนูไปฝึกกสิณสีขาวมาค่ะ หนูไม่แน่ใจว่าต้องทำอย่างไร ?
ตอบ : ลืมตามอง หลับตานึกถึง สมมติว่ากระดาษขาวแผ่นหนึ่ง ลืมตามอง หลับตานึกถึง เราจะเห็นได้แค่แวบ ๆ หนึ่ง พอหายไปก็ลืมตามองใหม่ หลับตานึกถึง พร้อมกับคำภาวนา “โอทาตกสิณัง...โอทาตกสิณัง” ซึ่งถ้าว่าบาลียาก ก็ว่า “สีขาว....สีขาว” ในใจเหมือนกัน ว่าไปเรื่อย ๆ อาจจะเป็นแสน ๆ ครั้ง คราวนี้ภาพนี้จะเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ จะชัดจนเหมือนตาเห็น

หลับตาก็เห็น ลืมตาก็เห็น คราวนี้ก็ไม่ต้องใช้ภาพของจริงแล้ว เราก็แค่นึกถึงแล้วภาวนาไว้ตลอด จะหลับจะตื่น ก็นึกถึง

เถรี 25-07-2019 18:36

ถาม : เรื่องสีตามวัน ?
ตอบ : วันอาทิตย์สิทธิโชคโฉลกดี......ให้ใช้สีแดงทรงเป็นมงคล
เครื่องวันจันทร์นั้นควรสีนวลขาว..........จักยืนยาวชันษาสถาผล
อังคารช่วงม่วงงามสีครามปน.............เป็นมงคลอดิเรกอุดมดี
เครื่องวันพุธสุดจะดีด้วยสีแสด............กับเหลือบแปดปนประดับสลับสี
พฤหัสทรงเครื่องเขียวเหลืองดี............วันศุกร์สีเมฆหมอกออกสงคราม
วันเสาร์ทรงเครื่องดำจึงล้ำเลิศ............แสนประเสริฐเสี้ยนศึกจะนึกขาม

สรุปว่าไม่ตรงกับตำราที่เรารู้ ปัจจุบันนี้ก็อาทิตย์สีแดง จันทร์สีเหลือง อังคารสีชมพู พุธสีเขียว พฤหัสสีแสด ศุกร์สีฟ้า เสาร์สีม่วง พวกนี้ตอนอาตมาเรียนมาก็คนละอย่างกัน


เถรี 25-07-2019 18:40

สมัยนั้นเขาว่า
สัปดาห์หนึ่งนั้นมี..................จำให้ดีมีเจ็ดวัน
สีแดงนั้นวันอาทิตย์................เหลืองจับจิตคือสีวันจันทร์
วันอังคารสีสวยงาม.................สมนามคือสีชมพู
พุธนั้นดูเขียวขจี....................พฤหัสบดีเป็นสีน้ำเงิน (ไปคนละทิศแล้วนะ)
วันศุกร์สวยเกิน.....................มองเพลินเป็นม่วงงามขำ
เสาร์สีดำจำเอาไว้...................ท่องให้ขึ้นใจอย่าได้ลืมเอย

แค่ช่วงอาตมาเรียนหนังสือมาจนถึงเดี๋ยวนี้ยังเพี้ยนไปตั้งเยอะแล้ว เพราะฉะนั้น..อย่าไปถือสาหาความอะไรมากมาย

ถ้าโบราณหนักเข้าไปอีก
รวิสิทธิด้วยอาภรณ์....................งามพิจิตรอลงกรณ์ ก่องแก้ว
ทรงแสงธนูศรลีลาศ..................เสด็จสู่สงครามแผ้วผ่อง พ้นไพรี
จันทรวารภูษณพื้นโขมพัสตร์..........กรกลึงดาบขัดเพริศแพร้ว ฯลฯ

ไปคนละทิศเลย อย่าไปเอาเรื่องเอาราวอะไรมากนัก

เถรี 25-07-2019 18:41

ถาม : ทำไมเขาสีดำเป็นสีไม่เป็นมงคลคะ ?
ตอบ : โบราณเขาถือว่าเป็นการแช่งตัวเอง คราวนี้ถ้าใส่แล้วสบายใจก็ใส่ไปเถอะ เห็นสาวบางคนใส่ดำทั้งตัวแล้วกลับดูเด่น เพราะว่าเขาขาว

เถรี 25-07-2019 18:43

ถาม : หนูนั่งสมาธิ แล้วมีความคิดแวบออก ก็รู้สึกว่า เอ๊ะ..นี่ไม่ใช่ความคิดเรา หนูก็ดูว่าความคิดไม่ใช่ของเรา หนูก็มองมัน ?
ตอบ : เป็นความชำนาญของใจ อย่าไปสนใจว่าเป็นเราหรือไม่เป็นเรา ให้ดึงความรู้สึกทั้งหมดกลับมาที่ลมหายใจใหม่ ถ้ามัวแต่ไปนั่งเถียงว่าเป็นมันหรือเป็นเรานี่ กิเลสชอบมากเลยนะ เพราะว่าเราฟุ้งซ่านแล้วไม่ได้ปฏิบัติ

ถาม : ก็คือกลับมาภาวนา ?
ตอบ : กลับมาอยู่ที่ลมหายใจกับคำภาวนาใหม่ เผลอหลุดไปเมื่อไรก็ดึงกลับมาใหม่ พอกำลังสมาธิเราเริ่มสูงขึ้น ก็จะโดนบังคับให้อยู่กับลมได้ไม่ไปไหน

เถรี 25-07-2019 18:45

ถาม : ฟังเพลงแล้วรู้สึกอินกับเพลงค่ะ ?
ตอบ : ถ้าอินแปลว่าเราปรุงแต่งตามไป โทษเกิดเป็นรัก โลภ โกรธ หลงแล้ว ทำอย่างไรที่เราสักแต่ว่าได้ยิน ก็คือสมาธิต้องสูงพอ ถ้าสูงไม่พอก็จะไหลตามไป

ถาม : ทำอย่างไรจึงจะไม่ไหลตามคะ ?
ตอบ : ก็ฝึกสมาธิให้มากขึ้น อยู่กับลมหายใจเข้าออกให้มากขึ้น

เถรี 25-07-2019 18:47

ถาม : (การแต่งตัวเพื่อให้สวยงาม กับศีล ๘)
ตอบ : ในเรื่องของการแต่งเนื้อแต่งตัวตามหลักของศีล ๘ ถ้าผิดจริง ๆ ก็คือตั้งใจแต่งไปเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม แต่ว่าบางคนด้วยความที่แต่งหน้าจนชิน ถ้าไม่แต่งแล้วออกจากบ้านไม่ได้ เจตนาที่จะไปดึงดูดเพศตรงข้ามไม่มี ก็แต่ง ๆ ไปเถอะ ไม่อย่างนั้นออกไปเดิน เขาจะคิดว่าศพเดินได้

เถรี 25-07-2019 18:48

ถาม : เขียนหนังสืออย่างไร ให้คนอ่านรู้สึกได้ ?
ตอบ : อันนี้ต้องรู้จริง เขียนแล้วต้องให้เขารู้สึกเหมือนกับที่เราเห็น นึกอยู่เสมอว่าเรื่องนั้นคนอ่านไม่รู้ ในเมื่อคนอ่านไม่รู้ ทำอย่างไรเราจะอธิบายเพื่อให้เขาเข้าใจ ให้เห็นภาพพจน์มากที่สุด

เถรี 25-07-2019 18:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านที่เป็นเจ้าของบาตรน้ำมนต์ ๖๐ ปี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. สีบาตรที่เห็นนั่นไม่ใช่เนื้อจริง ๆ เขาเคลือบสีไว้ชั้นหนึ่ง เพราะว่าเนื้อเป็นนาก ในเมื่อเป็นนาก ซึ่งมีส่วนผสมของเงินอยู่ ถ้าทิ้งไว้นาน ๆ แล้วจะดำ พอหลาย ๆ ปีดำแล้วขัดไม่ออกด้วย เพราะว่าสนิมเงินจะหนาขึ้นไปเรื่อย ๆ

ทางโรงงานก็เลยแนะนำว่าให้เคลือบสีสักชั้นหนึ่ง ก็จะรักษาเนื้อไว้ในสีระดับนี้ได้ตลอดไป ฉะนั้น..ถ้าเห็นว่าเหรียญทำไมดำ แล้วเนื้อบาตรน้ำมนต์ไม่ดำก็โปรดทราบตามนี้ เหรียญที่เห็นนั่นก็คือเนื้อนาก ทิ้งไว้นาน ๆ โดนลมเดี๋ยวก็ดำ เนื้อเดียวกัน แต่ทำไมบาตรน้ำมนต์สีเข้มกว่า เพราะว่าอันนั้นเขาเคลือบสีไว้ชั้นหนึ่ง

อาตมาเองรีบบูชาไว้ ๓ ใบตั้งแต่ต้น กลัวว่าจะไม่ได้ คราวนี้มีคนมาขอต่อในราคา ๒๐๐,๐๐๐ บาท เดี๋ยวขอคิดดูก่อน ใบละ ๒๐๐,๐๐๐ บาทนะ ไม่ใช่ ๓ ใบ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ความจริงก็อยากจะสร้างให้มากกว่านี้ แต่เนื่องจากว่าชนวนหลวงพ่อนากมีจำกัด ในเมื่อมีจำกัด ทำได้แค่ไหนก็ต้องแค่นั้น"


เถรี 25-07-2019 19:03

ถาม : สมเด็จองค์ปฐมแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่สร้างหรือคะ ?
ตอบ : อยู่ที่ฝีมือช่าง ช่างแต่ละคนฝีมือปั้นไม่เหมือนกัน เหมือนกับคนเขียนหนังสือ ลายมือจะไม่เหมือนกัน ต่อให้ลอกแบบกัน ก็จะมีจุดต่างให้จับได้ ฉะนั้น..ขึ้นอยู่กับฝีมือช่าง

องค์ปูน ๒๑ ศอกที่อยู่หน้าวัดท่าขนุน เขาสร้างไปทั่วประเทศจะ ๑๐๐ องค์แล้ว แต่สวยที่สุดอยู่ที่วัดท่าขนุน เกิดจากสาเหตุที่ว่าช่างหล่อหรือว่าช่างที่ปั้น ถ้าเขาสบายใจ เขาจะทำออกมาสวย เพราะฉะนั้น..เขาไปวัดท่าขนุนก็เลยปล่อยเขาสบายใจที่สุด ถึงเวลา อาหารไปส่ง คุณไม่ต้องไปสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐานอะไรกับใครทั้งนั้น นึกอยากตื่นตอนไหนเชิญ นึกอยากทำตอนไหนเชิญ พอถึงเวลาอาทิตย์หนึ่ง ควักค่าบุหรี่ให้ ๕,๐๐๐ บาท เฉพาะบุหรี่อย่างเดียว ดูดให้ตายไปเลย...!



เถรี 25-07-2019 19:04

ความจริงเขาไปทำเป็นทาน แต่ว่าบางที่ก็เกินไป อย่างที่กำแพงเพชร เป็นวัดป่า ท่านฉันมื้อเดียว ท่านก็เลยเลี้ยงพวกช่างวันละจานเดียว แล้วจะเอาเรี่ยวเอาแรงที่ไหนไปทำ ? คราวนี้พระครูไพโรจน์ท่านเป็นเจ้าของแบบ พอถึงเวลาลูกน้องโทรมา บอกว่าไม่มีเรี่ยวแรงจะทำงาน ไม่มีอาหารจะกิน ท่านก็ต้องส่งขึ้นไปช่วยเขาเป็นคันรถ

แต่วัดท่าขนุนของเราให้ทุกอย่าง ขาดอะไรขอให้บอก แล้วไม่เร่งงาน คุณอยากจะทำกี่วันกี่เดือนเรื่องของคุณ ผมเลี้ยงไหว แล้วก็เตรียมรถเทรลเลอร์ไว้ให้เขา ๒ คัน ถึงเวลาขนแบบไปส่งต่อที่ใหม่ เขาก็ไม่ต้องกังวล ถ้าถามว่าค่าเช่ารถเทรลเลอร์คันละเท่าไร ? เป็นหมื่น วันที่ส่งเขากลับ ถวายปัจจัยไป ๑๐๐,๐๐๐ บาท บอกว่า "นี่ไม่ใช่ค่าแรง แต่อยากให้พวกท่านมีเอาไว้ใช้ เพราะว่าที่อื่นไม่แน่เหมือนกันว่าเขาจะเลี้ยงได้แบบที่วัดท่าขนุน ให้มีเงินเอาไว้สำรอง ถ้าเจ้าของเขาเลี้ยงไม่ไหว เราจะได้มีกินเอง" ทำให้ช่างเขาสบายใจที่สุด ผลงานจะออกมาสวยเอง

ฉะนั้น...ในเรื่องของการสร้างพระ ถ้าใครไปสร้างที่ไหน หรือเห็นเขาสร้างที่ไหน ให้คำแนะนำเขาด้วย บอกเขาว่าถ้าช่างอยู่สุขอยู่สบาย เขาก็จะมีกำลังใจ ทำแล้วจะออกมาสวย

เถรี 25-07-2019 19:07

ถาม : อานิสงส์ที่เขาทำตรงนี้ ?
ตอบ : นั่นเขาได้อยู่แล้ว อานิสงส์สร้างพระเลย พุทธบูชา มหาเตชะวันโต สร้างกี่องค์เขาได้เท่านั้นองค์

ถาม : ได้ไปพระนิพพานไหมคะ ?
ตอบ : อยู่ที่ใจ สุดท้ายเขาเกาะอะไร อย่าลืมว่านี่เป็นแค่บุญเบื้องต้นเท่านั้น จัดเป็นอามิสบูชา ไม่ใช่ปฏิบัติบูชา การจะไปพระนิพพานอยู่ในส่วนของปฏิบัติบูชา

เถรี 25-07-2019 19:33

ถาม : เวลาหนูทุกข์มาก ๆ ทำกรรมฐานมากแล้วได้แค่นี้ แล้วมันกด ?
ตอบ : อย่าเพิ่งไปกด ไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย ไปฟิตเนสไปอะไรให้หายบ้าไปสัก ๒ -๓ วันแล้วค่อยกลับมา ถ้าหากว่าตอนกำลังทุกข์ ถ้ากำลังเราไม่พอนี่เราจะไปกดกิเลสไม่อยู่ เดี๋ยวโดนฟัดหงายท้อง หรือไม่ก็ไปดูหนังฟังเพลง เต้นแอโรบิคให้หายบ้าสัก ๒ - ๓ วันก่อน เพียงแต่ว่าประคองศีลเอาไว้ อย่าให้ศีลขาด สมาธิไว้ทีหลัง

ตอนนั้นพังไปแล้ว เราสู้ไม่ไหวหรอก ถ้าทำอย่างอาตมาสมัยฆราวาสก็โน่น ปั่นจักรยานจากซอยอ่อนนุชไปสมุทรปราการ ไปกลับสัก ๒ - ๓ เที่ยวก็หายบ้าไปเอง


ถาม : เรื่องวิปัสสนาค่ะ ?
ตอบ : วิปัสสนาให้เห็นเป็นวิปัสสนาธรรมชาติ จะเหมาะสมที่สุด อย่างเช่นว่าเห็นว่านี่เด็ก โน่นกลางคน โน่นแก่ ไอ้นั่นใกล้ตายแล้ว ข้าวของทุกอย่างก็เหมือนกัน นี่ใหม่ นี่กลางเก่ากลางใหม่ นั่นเก่า นั่นพังหมดสภาพแล้ว ท้ายสุดก็โยงกลับมาหาตัวเราว่าเราก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน ถ้าไม่เห็นเป็นธรรมชาตินี่เราจะสู้ไม่ไหว ถึงเวลาแล้วค่อยไปพิจารณานี่เดี๋ยวตาย

เถรี 25-07-2019 19:52

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องเจ้ากรรมนายเวรอย่าไปเครียด มีโอกาสก็ทำให้เขา เพราะว่าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว กว่าจะมาเป็นเจ้ากรรมนายเวร แปลว่าเราลงมือสำเร็จไปนานแล้ว มีอย่างเดียวก็คือทำบุญให้เขาบ่อย ๆ แต่ไม่ใช่ไปผูกใจปักใจอยู่ตรงนั้น

เจอผู้หญิงบางคน โอย...หน้าตาดูไม่ได้ ถามว่าทำอะไรมา ? ท้ายสุดสารภาพว่าไปทำแท้งมา นึกถึงแต่เรื่องที่ตัวเองฆ่าลูก บอกว่า “อย่างนี้ลงนรกแน่นอน คุณรีบเปลี่ยนกำลังใจใหม่ กรณีนี้มีความจำเป็น ในเมื่อเราทำไปแล้ว มีวิธีเดียวก็คือทำอย่างไรที่จะแก้ไขให้ดีที่สุด ก็เอา ทาน ศีล ภาวนา เข้าสู้ เรื่องอย่างนี้ ต่อไปเราจะไม่ทำอีก ตั้งใจขออโหสิกรรมกับเขา แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำบุญอุทิศให้เขาไป ไม่อย่างนั้นใจก็จะผูกอยู่ตรงนั้น” โน่นก็เจ้ากรรมนายเวร นี่ก็เจ้ากรรมนายเวร ไม่ต้องไปไหนกันพอดี”

เถรี 25-07-2019 19:59

ถาม : ทำไมเวลาถวายสังฆทาน หลวงพ่อให้พรไม่เหมือนกันคะ ?
ตอบ : ให้ซ้ำ ๆ ก็เบื่อ ต้องเปลี่ยนบ้างสิ

ถาม : แต่ละบทต่างกันตรงไหนคะ ?
ตอบ : ต่างกันตรงเนื้อหา อันหนึ่งให้สำเร็จ อีกอันหนึ่งก็สำเร็จหลายอย่าง ขอมากก็ต้องหลายอย่างหน่อย

ความจริงยาวนะ เริ่มตั้งแต่โน่น สัพพะพุทธานุภาเวนะ แต่อันนี้ตัดท้าย เอาแค่ ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง

ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง ความชนะ ความสำเร็จ ทรัพย์สมบัติ ลาภผล
โสตถิ ความสวัสดี
ภาคะยัง ส่วนของ
สุขัง ความสุข
พะลัง กำลัง
สิริ มิ่งขวัญ
อายุ อายุ
วัณโณ วรรณะ ชาติตระกูล
โภคัง โภคทรัพย์
วุฑฒี จะ ยะสะวา ขอให้เจริญขึ้น ก็คือมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในสิ่งทั้งหลายที่ว่ามา
สะตะวัสสา จะ อายุ ขอให้มีอายุ ๑๐๐ ฤดูฝน ก็ ๑๐๐ ปีนั่นแหละ อยากอยู่ก็อยู่ไป

บาลีก็เหมือนภาษาไทย เพียงแต่เราฟังไม่ออก ก็เลยรู้สึกว่าขลัง


เถรี 25-07-2019 20:23

เอาอย่างเด็กคนนั้น ที่โดนหมอฉีดยา “ขอให้มีความสุขความเจริญ ๆ ขอให้สวย ๆ ขอให้รวย ๆ รักทุกคนนะครับ” โอ้...เด็กพูดคำหยาบไม่เป็นเลย พูดดี ๆ ทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่หมอฉีดยา ร้องซะขนาดนั้น แสดงว่ากำลังใจเขาเคยชินกับสิ่งดี ๆ ที่ผู้ใหญ่สอนให้

“ผมรักคุณหมอนะครับ หมอสงสารผมบ้างนะครับ” เด็กแค่ ๓ - ๔ ขวบเอง ผู้ใหญ่สามารถฝึกออกมาได้ขนาดนี้ ประเภทนี้แทบจะพระโสดาบันแล้ว ทำชั่วไม่เป็น

เถรี 25-07-2019 20:45

ถาม : ทำไมหลวงพ่อฤๅษีสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าพระเกตุเป็นแบบนั้นครับ ?
ตอบ : ตอนแรกต้องบอกว่าด้วยความรีบ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรให้ ก็เลยบอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้ช่างปั้นพระเกตุมาลาแล้วแยกแฉกออกมาหน่อยหนึ่ง คราวนี้ช่างโรงงานมักง่าย แทนที่จะแยก ดันเอาพระเกตุมาลาขององค์อื่นมาแปะใส่

จริง ๆ แล้วปลายเกตุมาลาให้แยกออกหน่อย แต่คราวนี้องค์ที่ช่างเสริฐปั้นให้หลวงพ่อดู ท่านไม่ชอบใจ เพราะเขาไม่ได้แยก เขาใช้วิธีทำให้ปลายเกตุงอนไปข้างหลัง หลวงพ่อก็เลยถามว่าเอ็งทำไว้แขวนรองเท้าหรือ ? ท้ายสุดองค์นั้นอาตมาก็เลยรีบขอช่างเสริฐ บอกว่าคิดเท่าไร เอามาเลย เดี๋ยวจะเอาไว้บูชาเอง เพราะหน้าตัก ๓๐ นิ้ว ปรากฏว่าสุดท้ายหลวงพี่นิพัทธ์ขอไปไว้ที่วัดพุทธไชโย ไม่รู้ว่ายังอยู่หรือเปล่า ?



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:08


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว