![]() |
โยมเอาของมาถวาย "เป็นอย่างไร ? พระอังคารเสวยอายุใช่ไหม ? มาแต่ของมีคม
ถ้าพระอังคารเสวยอายุ ให้ถวายของมีคมให้กับวัดวาอาราม ถ้าหากว่าเป็นพระธุดงค์ก็ถวายมีดโกนไปเลย เขาว่าจะช่วยให้พระอังคารพอใจ แล้วปีนั้นเราก็จะไม่เลือดตกยางออก อันนี้เป็นความเชื่อทางด้านโหราศาสตร์ปนกับทางฮินดู ทางฮินดูเขาก็มีเทพเจ้าต่าง ๆ ต้องบอกว่าฮินดูเก่งมาก สร้างเทวดาได้ กำหนดคุณสมบัติเทวดาขึ้นมา ก็เลยทำให้ไปตรงกับอนุสติที่พระพุทธเจ้าสอน เทวดาก็เลยต้องหาผู้ที่ไปประจำการให้ แต่คนฮินดูนับถือเทวดาประมาณว่าเอาไว้ขอ ขอโน่นขอนี่ พระพุทธเจ้าของเราสอนให้คนทำตัวให้เป็นเทวดาทุกระดับ จนกระทั่งถึงระดับพระวิสุทธิเทพ ก็คือพระอรหันต์" |
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ทางด้านวัดวาอารามต่าง ๆ ที่กล้าออกวัตถุมงคลก็แทบจะไม่ค่อยมีเลย แม้กระทั่งกระแสแรง ๆ ระดับไอ้ไข่ก็ร่วงไม่เป็นท่า ติดหนี้ติดสินกันรุงรัง แม้แต่หลวงปู่พัฒน์ วัดห้วยด้วน ด้วยความที่คนไปขอท่านออกวัตถุมงคลมากไป ปีหนึ่ง ๒๐๐ - ๓๐๐ รุ่น ตอนนี้ก็อิ่มตัว ออกมาก็จำหน่ายไม่ได้ คนลงทุนก็หน้ามืดไปตามระเบียบ ส่วนของวัดท่าขนุนไม่ทำอะไร ถ้าพระไม่สั่งก็ไม่ขยับ ช่วยประกันความเสี่ยงได้"
|
พระอาจารย์กล่าวว่า "หาถังน้ำสำรองเก็บน้ำไว้ในบ้านบ้างนะ อย่างน้อย ๆ น้ำไม่ไหล ๒ วัน ๓ วัน เราจะได้มีน้ำใช้บ้าง ของวัดท่าขนุนก็จะทำแหล่งน้ำสำรอง จุดที่มองไว้ก็คือลานธรรม แต่ถ้าทำตรงจุดนั้น ต้นไม้จะเสียหายมาก ก็เลยเปลี่ยนใจใหม่ ไปทำในลำห้วย เพราะว่าลำห้วยลึกเป็นเหวอยู่แล้ว เราก็แค่ขุดให้ได้ขนาดที่ต้องการ แล้วก็หล่อคอนกรีต ถึงเวลาน้ำลงไปเต็ม ก็กลายเป็นแหล่งน้ำสำรองของวัด
ช่วงที่ผ่านมา ท่อหลักของการประปาแตก ทางเทศบาลทองผาภูมิใช้เวลาซ่อมอยู่ ๒ วัน ชาวบ้านเดือดร้อนกันหมด เพราะว่าไม่มีน้ำประปาใช้ ส่วนของวัดท่าขนุนเฉย ๆ เพราะว่ามีถังประปาใหญ่ ๑๒๐ คิวบิกเมตร ถ้าใช้ประหยัด ๆ หน่อยก็อยู่ได้ ๓ - ๔ วัน ระบบที่วัดตั้งเอาไว้ ประมาณช่วง ๕ ทุ่มถึงตี ๒ ไฟฟ้าจะเปิดระบบดูดน้ำขึ้นแทงค์ จะได้ไม่ไปแย่งน้ำชาวบ้านเขา เพราะว่าเวลานั้นก็น่าจะนอนกันหมดแล้ว พอถึงตี ๒ ระบบก็ตัด ถ้าเต็มถังก่อนหน้านั้น ก็จะตัดไปก่อน ช่วงนี้ก็เลยกลายเป็นว่า ถ้าในหมู่บ้านน้ำไม่พอใช้ ทางเทศบาลจะมาขอให้ทางวัดเปิดน้ำเข้าหมู่บ้านให้ด้วย เพราะว่าตอนที่ต่อท่อเชื่อม ทางเทศบาลขออนุญาตทำประตูน้ำทางด้านหมู่บ้านเอาไว้ แล้วก็ขออนุญาตติดตั้งหัวดับเพลิง ถึงเวลาถ้าหากว่าไฟไหม้ทางด้านฝั่งวังท่าขนุน จะได้ไม่ต้องไปวิ่งอ้อมทั้งตลาดเพื่อไปเอาน้ำ สามารถดึงจากทางวัดท่าขนุนโดยตรงได้เลย เพราะว่าถังของเราใหญ่พอ" |
ถาม : เริ่มรวมตัวกันทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องเงินดิจิทัล ขอคำแนะนำในการเริ่มดำเนินธุรกิจครับ ?
ตอบ : ผันผวนน่ากลัวมาก ตูมเดียวหายเป็นหมื่นเป็นแสนเลย ถ้าไม่โลภมาก ถึงเวลารู้จักยับยั้ง เอาแค่พอสมควร...ก็ไปได้ ไปเก็บแช่ไว้นาน ๆ โปรดระวังไว้ด้วย |
พระอาจารย์กล่าวว่า "สำหรับบรรดาผู้ที่เดินขบวนในปัจจุบัน อาตมานอกจากจะไม่เห็นด้วยแล้ว ยังจะสมน้ำหน้าอีกด้วย เพราะว่าการเดินขบวนที่ถูกต้องก็คือต่อต้านเผด็จการ ถ้าอย่างนี้โลกประชาธิปไตยทั้งโลกจะสนับสนุนคุณ แต่คราวนี้พอเผด็จการเข้ามายึดอำนาจ คุณดันเฮไปต้อนรับเขา ตอนนี้พอเขาไม่ได้ดั่งใจ แล้วจะไปเดินขบวนขับไล่ ก็เหลวไหลเกินไป กลายเป็นกบเลือกนาย ระวังจะไปได้นกกระสามา..!"
|
"ในเรื่องของประเทศพม่า เผด็จการทหารพม่าไม่กลัวโลกคว่ำบาตร เพราะว่าเคยโดนคว่ำบาตรมาหลายสิบปีแล้ว ไม่มีปัญหา สามารถที่จะอยู่ได้ ต่อให้โดนคว่ำบาตรอีก ก็แค่กลับไปเหมือนเดิม ฉะนั้น...พม่าจึงไม่ฟังเสียง เวลามีคนเดินประท้วงก็จะปราบปรามอย่างรุนแรง และที่แน่ ๆ ก็คือ ถ้าหากว่าเป็นคนพุทธเดินขบวน พม่าจะเอาทหารกะเหรี่ยงคริสต์มาปราบ..!"
|
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระมัดระวังดูแลตัวเองไปอีก ๒ ปีเป็นอย่างน้อย อย่าเพิ่งหวังว่าโควิด-๑๙ จะไปง่าย ๆ เวลาของเขากับเวลาของเราต่างกันมาก ปักธงลงไปพักเดียว ของเรานี่เจอไปหลายปีเลย..!"
|
พระอาจารย์ถามโยมที่เป็นห่วงว่าท่านไม่สบาย "อาตมาเหมือนคนไม่สบายไหม ? (ไม่เหมือนค่ะ) ไม่เหมือนก็อย่าเชื่อเขาสิ...เรามันบ้า..! ใครเขาจะมานั่งโอดโอยให้คนอื่นเห็น..!"
|
โยมเอาพระผงศีลขันธ์มาถวาย "ทางวัดศีลขันธารามสร้าง ท่านเจ้าคุณสนิทสร้าง แล้วก็ขอหลวงปู่เจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตให้ ต้องบอกว่าได้ความเป็นธรรมยุตด้วยกัน ก็เลยเกิดวัตถุมงคลชุดนี้ขึ้นมา
ปัจจุบันนี้ราคาก็ไปไกลมากแล้ว ถ้าถามว่าทำไมอาตมารู้ประวัติ ? ก็เพราะว่าอยู่ดูแลหลวงปู่มหาอำพันที่วัดเทพศิรินทราวาสมา ๔ ปี เป็นพระมหานิกายที่ไปอยู่กับธรรมยุตจนเป็นปกติ" |
"ตอนที่หลวงปู่สมเด็จพระวันรัต วัดเทพศิรินทราวาส ยังเป็นเจ้าคุณพระสาสนโศภณ ต้องบอกว่าเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะ มาภายหลังก็ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ เป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติสุดยอดมาก บิณฑบาตทุกวัน ไปแค่ประตูวัดก็ยังเอา ท่านอายุมากแล้วเดินไกลไม่ได้ ก็เดินแค่ประตูวัด แล้วบาตรของท่านใหญ่มาก อาตมาใช้บาตรเบอร์ ๘ บ้าง เบอร์ ๘ ครึ่งบ้าง หลวงปู่นิรันดร์ใช้เบอร์ ๙ ญาติโยมนิยมใส่บาตรท่านมาก ถึงเวลาก็มารอกันอยู่หน้าประตูวัด ท่านก็เดินออกไปรับบาตร บอกว่าเดินไกลไม่ได้ ก็ขอเดินใกล้ ๆ
อาตมาไปอยู่ที่นั่น ก็เหมือนกับไปอยู่บ้านของตัวเอง เพราะว่าอยู่กุฏิหลวงปู่มหาอำพัน แล้วหลวงปู่นิรันดร์ท่านก็สั่งพระสั่งเณรในวัดไว้ ว่า ให้ดูแลอาตมาให้ดี ๆ เพราะว่าอาตมาไปโดนท่านเล่นงานหงายท้องมา..!" |
"สมัยก่อน วันอาทิตย์ช่วงเช้าอาตมาจะไปดูแลหลวงปู่มหาอำพัน ช่วงบ่ายไปดูแลแม่ พอถึงวันอาทิตย์หลวงปู่ท่านก็ไล่ให้ไปฟังเจ้าคุณสาเทศน์ "อย่างนี้เลย" ยกหัวแม่มือให้ ๒ ข้าง ท่านคือตำแหน่งพระสาสนโศภณ เรียกสั้น ๆ ว่า เจ้าคุณสาสน์ อาตมาก็ไปแบบเสียไม่ได้ คือถ้าใครเคยฟังหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเทศน์มา จะรู้สึกว่าองค์อื่นท่านเทศน์แล้วจืดหมด
ปรากฏว่าไปนั่งฟังเทศน์ ท่านก็ว่ายาวไปครึ่งค่อนชั่วโมง เรื่องประตูแห่งความเจริญ ๖ ประการ อาตมาฟังนาน ๆ เบื่อ นึกในใจว่าเทศน์ไม่ถึงพระนิพพานสักที จะฟังให้เสียเวลาทำไมวะ ? ท่านหันขวับมาชี้หน้าอาตมาคนเดียวกลางโบสถ์เลย "ถ้าฟังแล้วคิดเป็น ทุกอย่างรู้จักใช้ปัญญา ก็ไปถึงพระนิพพานทั้งหมดแหละ" แล้วท่านก็พูดให้รู้ว่าตาเป็นอย่างไร หูเป็นอย่างไร จมูกเป็นอย่างไร ลิ้นเป็นอย่างไร กายเป็นอย่างไร ใจเป็นอย่างไร ถ้าสามารถดับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ ลงได้ ก็อยู่สุขอยู่เย็น เขาเรียกว่าพระนิพพาน แล้วท่านก็ว่าเป็นกลอน สิ่งทุกสิ่งเที่ยงแท้แน่ในโลก............แต่เป็นโอฆขังรักกักสังขาร ใครไม่หลงปลงเห็นเป็นสำคัญ.........เปรียบยวดยานนาวาพาหนะ มีพาหนะแล้วจะไปพระนิพพานก็ไปของคุณสิ เอวัง...ก็มีด้วยประการละฉะนี้ อาตมากราบได้ก็เผ่นแน่บ คิดในใจ "โดนจั่วกลางโบสถ์ซะเต็ม ๆ เลย" ถึงได้ยอมรับว่าทำไมหลวงปู่มหาอำพันท่านยกให้ ๒ นิ้วเลย พอมาครั้งหลัง ๆ ไป ก็คลานเข้าไปกราบบนตัก ท่านบอกว่า "เบา ๆ เดี๋ยวคนอื่นรู้หมด" เป็นพระนักปฏิบัติที่เก็บเนื้อเก็บตัวดีมาก" |
พระอาจารย์เล่าว่า "ระยะนี้อาตมาเดินทางกลางคืนหลายวัน เพราะว่าไปงานศพพี่ชาย แล้วทางวัดเจริญราษฎร์บำรุง (หนองพงนก) เขาสวดพระอภิธรรมกันตอน ๒ ทุ่ม ไม่ได้นึกว่าอาตมาอยู่ถึงทองผาภูมิ ซึ่งความจริงในฐานะเจ้าภาพ ถ้าเราไปคนเดียว พร้อมเมื่อไร ขอให้พระเขาสวดได้เลย แต่คราวนี้ดันมีผู้มีจิตศรัทธามาเป็นเจ้าภาพต่ออีก ๒ ราย ๓ ราย ก็เลยต้องสวดตามเวลา ซึ่งเวลานี้เป็นเวลาที่ตั้งแต่อาตมารู้ความ เขาก็สวดกันเวลานี้ เพราะว่าวัดอยู่ข้างบ้านเกิดของอาตมาเอง
เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า สมัยก่อนเขาทำไร่ทำนากัน กว่าจะเลิกงานก็โน่น...พระตีระฆังย่ำค่ำ ก็คือพระเตรียมทำวัตรค่ำแล้ว เมื่อกลับบ้านมาก็อาบน้ำอาบท่ากินข้าวกินปลา เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วถึงได้มีเวลาไปวัดกัน จึงต้องนัดเวลา ๒ ทุ่ม ปรากฏว่าทางวัดไม่เปลี่ยนเวลา ปัจจุบันนี้สภาพเศรษฐกิจและความเป็นอยู่เปลี่ยนไป แต่ทางวัดก็ยังคงสวดพระอภิธรรมกันตอนเวลา ๒ ทุ่ม คราวนี้มีปัญหาที่ว่า เวลาอาตมาเดินทาง มักจะมีนักเลงเจ้าถิ่นคอยที่จะกลั่นแกลัง ท้ายสุดก็อยากจะลองของบ้าง โชคดีที่พกมีดลูกพราหมณ์จันทร์เพ็ญไปด้วย ก็เลยขู่พวกนั้นว่า "ถ้ายุ่งมากจะชักมีด...!" เผ่นกันแน่บไปเลย..!" |
"ในเรื่องของมีดนั้น ตัวใบมีดถ้าเสกแล้วลงถูกกรรมวิธีจะเป็นธาตุไฟ แสลงพวกที่อยู่อีกมิติหนึ่ง ฉะนั้น...ฝักก็ต้องใช้ธาตุดิน หุ้มด้วยธาตุน้ำ แล้วก็เสริมด้วยธาตุลม เพื่อรักษาไฟไว้
คราวนี้ คำแนะนำของโบราณ ถ้าไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหน ท่านบอกว่าให้ปักมีดฝากพระแม่ธรณีไว้ แต่อาตมาไม่กล้าทำ เพราะว่าบางทีเป็นการทำร้ายท่านที่อยู่แถวนั้นไปเลย อาตมาอย่างเก่งก็วางไว้ที่หัวนอน รับประกัน..หลับสบายแน่นอน เพียงแต่ให้ภาวนาพระขรรค์เพชรพุทธเจ้า คือ บทกรณียเมตตสูตร (เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิงฯ) เอาไว้ให้เคยชิน" |
"มีผู้รู้เขาบอกว่า มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ เวลาพกไปไหนก็เหมือนเจ้านายมา ก็คือเขาเกรงใจ ไม่กล้ารบกวน แต่ก็ยังมีที่ยื่นหน้ามาสำรวจ แต่มีดหมอสายหลวงพ่อวัดท่าซุง เวลาพกไปไหนเหมือนกับในหลวงเสด็จ..เงียบสนิท ไม่มีใครกล้าหือ อันนี้ประสบการณ์จริง อาตมาใช้มาเอง...ขอยืนยัน เพราะว่าอย่างต่ำ ๆ ของเรา ท้าวมหาราชท่านก็แบ่งกำลังอาวุธท่านมาให้ ในเมื่อเจ้านายใหญ่ร่วมงานด้วย พวกตัวเล็กตัวน้อยไม่มีใครกล้าหือหรอก คือโดนเราเล่นงานไปนี่ยังพอทน แต่ถ้าโดนเจ้านายกระทืบซ้ำนี่สาหัสแน่นอน..!
โดยเฉพาะมีดลูกพราหมณ์จันทร์เพ็ญ อาตมาทำมาเพื่อให้ใช้งานจริง ก็แปลว่าโยมจะเอาไปตัดไปฟันไปหั่นอะไรก็ได้ทั้งนั้น ก่อนจะใช้งานแค่ยกมือไหว้ขอขมาพระท่านก็ใช้ได้เลย เพราะว่าอาตมาเห็นมีดหมอรุ่นเก่าของหลวงพ่อเดิม โดยเฉพาะมีดควาญช้าง เจ้าของลับคมกริบทุกเล่มเลย แปลว่าเอาไว้ใช้งานกันจริง ๆ" |
"แต่คราวนี้พอมารุ่นหลัง ๆ เมื่อลงอักขระเลขยันต์ไปแล้ว ญาติโยมก็ไม่กล้าที่จะลับ กลัวอักขระเลขยันต์เลือนหายหมด แล้วก็มีดหมอบางรุ่น อย่างเช่นมีดหมอเพชราวุธ ท่านบอกไว้เลยว่าห้ามคิดร้ายคนอื่น ตัวอย่างชัด ๆ มีอยู่แล้ว ต้องบอกว่าคิดร้ายคนอื่นก็เหมือนกับวางระเบิดตัวเอง แล้วก็จริง ๆ ด้วย โดนเขารังแกจนกระทั่งทนไม่ไหว ก็เลยใช้มีดหมอเพชราวุธอธิษฐาน ปรากฏว่าพังไปทั้งคู่ ทั้งเขาและเราตายไปด้วยกัน..!
อาตมาก็เลยขอสร้างมีดลูกพราหมณ์จันทร์เพ็ญขึ้นมา ปรากฏว่าท่านให้ทำน้อย ตั้งใจให้ไว้ใช้งานจริง ๆ จะเอาไปลับอย่างไรก็ได้" |
พระอาจารย์แจ้งกับโยมของตุ๊พ่อสิงห์ว่า "๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ นี้ อาตมาจะไปฉลองวันเกิดให้ท่าน ตุ๊พ่อท่านจะเกิดวันที่อาตมาว่าง แต่ละปีก็เลยเกิดไม่ค่อยจะตรงกัน"
|
โยมขออนุญาตถ่ายรูป "หลวงพ่อเหลือตัวกะเปี๊ยกเดียว ไม่เป็นไร...โยมถ่ายรูป โยมก็ต้องเป็นพระเอกนางเอก อาตมาก็เป็นได้แค่ตัวประกอบ เป็นได้แค่วอลล์เปเปอร์..!"
|
พระอาจารย์พูดกับแม่ของเด็ก "เด็กเกิดเดือนมีนาคม เขาว่าเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ มีนาคมเป็นเดือนปลาคู่ เขาว่าปลานั้นลื่น ถึงเวลาก็ลื่นไปได้หน้าตาเฉย
มีน แปลว่า ปลา มีน + อาคม = มีนาคม เดือนที่ ๓ ของไทย ถ้าใครชื่อน้องมีนา ให้รู้ว่าแปลเป็นไทยว่าปลา เป็นน้องปลา" |
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้กระบวนการจัดสร้างวัตถุมงคลพลิกชีวิตของวัดท่าขนุน ต้องบอกว่าโด่งดังไปทั่วประเทศ แม้กระทั่งหนังสือออกใหม่ก็ยังมีชื่อพลิกชีวิตไปด้วย ขอยืนยันว่าพวกบรรดาเหรียญเต่านี่อาตมาหวงนะ เหตุที่หวงเพราะว่าพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ท่านมาช่วยเสกให้ ไม่รู้ว่าอีกกี่ชาติถึงจะได้รับพระเมตตาแบบนี้อีก
โยมจะเห็นว่าออกเหรียญเต่ามาสารพัดเนื้อ แต่จนป่านนี้เพิ่งจะออกในเว็บมาให้แค่นิดเดียว ตั้งใจว่าถ้าท่านไม่ทำให้อีก จะได้หากินไปนาน ๆ จึงเอาออกให้บูชาแบบค่อยเป็นค่อยไป" |
พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาหมดไปกับวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีเป็น ๑๐ ล้านบาทไปแล้ว ช่างจะส่งงานวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ นี้ ขณะที่แห่งอื่น ขนาดเดียวกัน แบบเดียวกัน เขาสร้างก่อน ๓ ปี ก็ยังไม่เสร็จ เพราะว่าขาดความรอบคอบรัดกุมในสัญญา
ตอนแรกวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีก็สร้างแบบ "ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง" เพราะว่าช่างเบิกเงินไปแล้ว ๔ งวด ๑๗ ล้านกว่าบาท แม้แต่ตอหม้อก็ยังทำไม่เสร็จ อาตมากราบเรียนถามหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีในฐานะผู้อำนวยการ ท่านบอกว่าไม่ได้ทำสัญญาไว้ ก็เลยเรียกเขามาทำสัญญาใหม่ว่าเบิกเงินเท่าไร ต้องทำงานให้เราได้เท่าไร ถ้าไม่ยอมเซ็นสัญญาก็เลิกจ้างเลย ๑๗ ล้านบาทนี้ยกให้คุณไปเลย อาตมาไม่แล เขาอยากได้งาน ก็เลยต้องทำสัญญา ในเมื่อทำสัญญา มีระบุวันเวลาที่จะต้องสร้างเสร็จ มีระบุการปรับเงิน ถ้าส่งไม่ทัน ในแต่ละวันเท่าไรจะโดนปรับเท่าไร เขาก็เลยต้องเร่งงานให้ทัน" |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:09 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.