กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6931)

เถรี 17-03-2020 20:50

ถาม : หัวกะโหลกที่ตู้วัตถุมงคลของที่ไหนครับ ?
ตอบ : หลวงพ่อไฉน วัดสังโฆปรีดี มีรุ่นเดียวเท่านั้น ส่วนใหญ่เขาได้แต่ยันต์หรือเหรียญกัน อยากรู้ให้ค้นหาคำว่า “เสือหัวขาด” แล้วจะรู้ว่าตำรวจเขาเข็ดเขี้ยวกันแค่ไหน

เถรี 17-03-2020 20:51

ถาม : ทำบุญให้คนตาย อย่างสังฆทานหรือกรรมฐาน เราต้องนึกถึงท่านตอนนั้นเลย หรือว่าถอยออกไปแล้วค่อยนึก หรือว่าตอนเย็นรวบทีเดียวไปเลยดีคะ ?
ตอบ : ทำแล้วก็เป็นของเรา เป็นของเราแล้วจะให้ตอนไหนก็ได้ แต่ควรจะให้โดยเร็วที่สุด

ถาม : เต้ยบอกว่าต้องมีกรวดน้ำบ้าง ?
ตอบ : ก็ไอ้เต้ยอยากมือเปียก..! เราไม่อยากมือเปียกก็ไม่ต้องกรวด ผีเขาไม่ได้โง่เหมือนไอ้เต้ยหรอก..! แค่บอกว่าให้ผีก็โดดใส่แล้ว ไม่ต้องไปรอกรวดน้ำหรอก

เถรี 17-03-2020 20:54

พระอาจารย์กล่าวกับครอบครัวหนึ่งว่า “เด็ก ๆ เก่งนะ พ่อแม่สอนไว้ดี ใช้ภาษาอังกฤษแทบจะเป็นภาษาแรกของตัวเองเลย

ปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง ก็คือคนส่วนใหญ่สื่อสารกันได้ ประเทศอินเดียมี ๓๐๐ กว่าภาษา เขาต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสารกัน ภาษาหลัก ๆ ของเขาอย่างฮินดีหรือปัญจาบี ก็แค่คนส่วนมากเท่านั้น แต่พอไปเจออีกหลายภาษาที่ไม่สามารถจะคุยกันรู้เรื่อง ก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น..ภาษาราชการของอินเดียก็เลยกลายเป็นสันสกฤตกับอังกฤษ”

เถรี 18-03-2020 09:41

ถาม : ลูกชายเซลล์รากผมโดนเซลล์เม็ดเลือดขาวทำลาย ทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ถ้าจะใช้แบบโบราณ เขาใช้เปลือกต้นแค ถากมาสัก ๔-๕ ชิ้น แช่น้ำซาวข้าว ไม่ใช่น้ำข้าวนะ น้ำที่เขาล้างข้าวสารก่อนที่จะหุง แช่สักอาทิตย์หนึ่ง ไม่ต้องถึง ๗ วันก็ได้ สัก ๒-๓ วันก็พอ แล้วก็ทา แต่โอ้โฮ..เหม็นบูดน่าดู ถ้าทำก็ทำช่วงปิดเทอมนี่แหละ

เถรี 18-03-2020 09:41

พระอาจารย์พูดกับโยมที่มาถวายสังฆทานว่า “พระท่านมุ่งเอาบุญเอากุศล ท่านไม่ดูหรอกว่าเราไปทำอะไรกันมา”

เถรี 18-03-2020 09:43

มีโยมมาถวายสล่ามองโอสถ “ยาแก้ไอสล่ามอง ด้วยความที่สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้าฯ สั่งมาเสวยเป็นประจำ เขาก็เลยเรียกกันว่ายาพระเทพฯ ไปเลย”

เถรี 18-03-2020 09:44

พระอาจารย์เล่าว่า “อาตมาไปได้กะโหลกเสือโคร่งของไทยใหญ่มาชิ้นหนึ่ง หนาเกือบเซ็นต์ฯ..! อะไรจะใหญ่ปานนั้น ไอ้ที่เก่า ๆ เขาว่าหัวเท่ากระบุงน่าจะใช่ เขาน่าจะเจาะมาแต่หน้าผากกลม ๆ แล้วก็มี จารอักขระหน้าหลัง”

ถาม : จารเป็นตัวอะไร ?
ตอบ : จารตัวเมือง

เถรี 18-03-2020 09:45

ถาม : ทำไมตะกรุดหนังเสือที่ได้จากการร่วมบุญหล่อพระ จึงไม่มีสติ๊กเกอร์ ?
ตอบ : อ๋อ..ของส่วนตัวหลวงพ่อ ไม่ต้องมีสติ๊กเกอร์

เถรี 18-03-2020 10:49

ถาม : กะโหลกหน้าผากผีอันนี้ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ ?
ตอบ : ผู้ชายแน่ ๆ เลย อย่าปล่อยให้ความคิดว่าใช่ของเราหลอก

บางทีเขาเรียกว่า ผีลู ถ้าลูกศิษย์จะไปเล่นการพนันถล่มบ่อนที่ไหน ก็ให้เขายืมไปได้เลย บางคนเรียกว่าพญาปุริศาสตร์บ้าง ยักษ์กินผีบ้าง น่าจะมาจากโปริสาทชาดก ในเมื่อกินผี บรรดาผีในบ่อนก็เลยกลัว บ่อนการพนันเขาจะใช้ทิศทางก็คือพวกฮวงจุ้ย ใช้ผี และท้ายที่สุดก็ใช้มาเฟีย เขาใช้หลายอย่างประสานกัน โดยเฉพาะทางด้านฮ่องกง มาเก๊า เกาลูน ทุกบ่อนเลย ถึงเวลาคนไหนที่เล่นการพนันจนหมดเนื้อหมดตัว แล้วไปฆ่าตัวตาย เขาจะรีบไปติดต่อญาติขออนุญาตทำศพให้ ขออย่างเดียวคือ ขอผูกวิญญาณไปใช้..!

เถรี 18-03-2020 23:06

พระอาจารย์เห็นโยมใส่เสื้อยันต์มาทำบุญ “เอาเสื้อยันต์ไว้กันไวรัสใช่ไหม ? ไปไหนก็ใส่เสื้อยันต์ไปก่อน เมื่อถึงเวลาผีจะมาแพร่ไวรัส ก็บอกว่า “ดูเสียก่อนว่าลูกหลานใคร ? อย่ามาแพร่เชื้อส่งเดช..!”

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถ่ายท้องเกือบตาย มองไปที่ชานเรือน อยู่ ๆ ก็เห็นเรือวิ่งมา อย่าลืมว่าท่านอยู่ใกล้น้ำก็จริงนะ แต่ตัวบ้านอยู่บนบก เรือวิ่งมาเกยระเบียงบ้านเลย..! เสร็จแล้วก็มีพวกโดดตุ้บตั้บกันลงมา มาถึงก็กางบัญชี ดูว่ามีชื่ออะไรบ้าง จะได้เก็บไป ปรากฏว่าพอเห็นหลวงพ่อเข้าก็ตกใจ..! “เฮ้ย..ใครวางยาลูกเจ้านายวะ..?!?” ไอ้พวกนั้นก็ “ฉิบหายแล้ว..ดันไปวางยาถูกลูกพระอินทร์เข้า..!” กลับหลังหันได้ก็โดดขึ้นเรือเปิดแน่บไปเลย ก็คือหลวงพ่อท่านอยู่ในเขตของเขา ท่านก็เลยโดนไปด้วย

ไปจ๊ะเอ๋กับลูกพระอินทร์เข้า ท่านบอกว่าพอเขาถอยไปเท่านั้นแหละ เรี่ยวแรงกลับคืนมา ลุกขึ้นนั่งได้เลย”


ถาม : งงมานานแล้วค่ะ ว่าทำไมต้องมาเป็นเรือจริง ๆ อย่างนั้น ?
ตอบ : ถ้าเอาเฟอร์รารี่มาก็กลัวว่าพวกเราจะรับไม่ได้...! ก็เลยต้องมาเป็นเรือ

เถรี 18-03-2020 23:13

เรื่องของพาหนะ แล้วแต่เขาจะแสดงออก แบบเดียวกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ อดีตชาติท่านเคยถวายม้าให้กับวัด อำนวยความสะดวกให้กับพระเวลาเดินทาง เวลามีกิจนิมนต์ก็ขี่ม้าไป พอถึงเวลาท่านจะไปพระนิพพาน ก็มีม้าแก้วมารับ

ถาม : นึกว่าความเป็นทิพย์ไม่ต้องใช้รูปธรรม ?
ตอบ : พวกที่ไม่เข้าใจอะไร ตายใหม่ ๆ จะรู้เรื่องไหมล่ะ ? ในเมื่อไม่รู้เรื่องอะไรก็ต้องมีให้เขาไปก่อน

เถรี 19-03-2020 00:05

พระอาจารย์เล่าว่า “วันนี้คุณลูกเจนนี่มา หลังจากที่ไม่ได้มาถึงสองเดือน สาเหตุเพราะว่าไปผ่าตัด เป็นซีสต์ในมดลูก ใหญ่ ๑๐ เซนติเมตร..! พวกซีสต์ในมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากการไปดื่มน้ำเย็น โดยเฉพาะดื่มน้ำเย็นช่วงที่ประจำเดือนมา หมอรุ่นใหม่เขาไม่ได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับธาตุ ในเมื่อเขาไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้ เขาก็บอกว่าไม่ได้เกี่ยวกัน แต่ถ้าเป็นแพทย์แผนโบราณ แพทย์แผนจีน แพทย์แผนอินเดีย เขาบอกว่าไม่ใช่ไม่เกี่ยว เกี่ยวตรง ๆ เลย

เลือดเป็นธาตุไฟ ของเย็นก็เป็นธาตุน้ำ ถึงเวลาน้ำลงไปก็ดับไฟ บางคนประจำเดือนกำลังมานี่ถึงกับหยุดไปเลย ทีนี้พอเลือดหยุด จับตัวกันเป็นก้อน ไปไหนไม่ได้ก็กลายเป็นซีสต์แล้วก็โตขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น..ถ้าเปลี่ยนนิสัยมาดื่มน้ำร้อนแบบคนจีนได้ก็ไม่เป็นกันหรอก

หมอบริการดีมาก ถ่ายคลิปวีดีโอให้ดูด้วย เพราะว่าเขาใช้ส่องกล้องผ่าตัด มีการอธิบายประกอบไปด้วย ว่าอันนี้คือรังไข่ อันนี้คืออะไร มีตัวหนังสือเล็ก ๆ วิ่งขึ้นให้ดูเลยนะ คุณลูกเขาเปิดให้ดู หลวงพ่อก็ เฮ้อ..!”

เถรี 19-03-2020 00:05

พระอาจารย์บอกโยมว่า “อาตมาประกาศล้มเลิกการไปอินเดียแล้ว ทางบริษัทก็คงจะมีเงินบางส่วนคืนมาให้”

เถรี 19-03-2020 00:07

พระอาจารย์เล่าว่า “พระที่วัดท่าขนุนจะเห็นภาพประจำอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือกลับมาจากบิณฑบาต พอถึงเวลาล้างบาตรเสร็จ พระอาจารย์ก็ล้างมือด้วยสบู่ ประการที่สอง...ก่อนจะฉันข้าวก็ลวกจานลวกช้อนด้วยน้ำร้อน เขาเห็นอย่างนี้ กี่ปีต่อกี่ปีก็อย่างนี้ ทำจนเป็นนิสัย คนอื่นเพิ่งจะมาทำตอนเกิดโรคระบาด ไม่เคยชินแบบนั้นเดี๋ยวก็เผลอ

ที่อาตมาทำอย่างนั้นเพราะว่าตอนที่ไปอยู่พม่าหลายปี บ้านเขาบางอย่างยังล้าหลังอยู่ โดยเฉพาะจุดที่ไปสร้างวัดหนองบัวเป็นปากอ่าว ปากอ่าวนี่ตั้งแต่ต้นแม่น้ำมาจนถึงทะเล ของสกปรกทุกอย่างก็ไหลลงมาหมด ถ้าเราอยู่ต้นน้ำก็แล้วไป แต่นี่อยู่ปลายน้ำ ก็เลยใช้วิธีที่ว่า ถึงแม้ว่าเขาจะล้างมาสะอาด ก็ขออนุญาตลวกน้ำร้อนหน่อย ก็เลยกลายเป็นความเคยชินไป”

เถรี 19-03-2020 00:22

“พอมาเมืองไทยไปลวกให้เห็นไม่กี่ที แม่ชีเขาก็จัดมาให้เป็นประจำ เขาไม่รู้ว่าที่มาที่ไปมาจากไหน ส่วนที่ล้างมือเพราะว่าอาตมาเล่นกับหมาเป็นประจำ โดยเฉพาะกลับมาจากบิณฑบาต หมาวิ่งมารับ ก็เลียหน้าเลียหลังไปเรื่อย อาตมาไม่รังเกียจหรอก แต่ท่านอื่นเกิดไปเห็นแล้วมานั่งวงเดียวกัน เดี๋ยวท่านจะฉันข้าวไม่ลง ก็เลยต้องล้างมือสักหน่อย ล้างไปล้างมาจนกลายเป็นเคยชิน

ถึงเวลาก็ว่าคาถาล้างมือของทางสายเขาอ้อไปด้วย ทางด้านไสยศาสตร์เขาเชื่อว่า เวลาเราไปจับของสกปรก ของต่ำ อาจจะทำให้คาถาอาคมเสื่อมได้ เพราะฉะนั้น.. เขาจะมีคาถาล้างมือ แล้วก็คาถาเสกมือใหม่

คาถาล้างมือเขาว่า คงคาสระ (ออกเสียง สะ-ระ) ว่า ๓ จบ
เสร็จแล้วก็ไล่ของไม่ดีออก พุทธังปัจจักขามิ ธัมมังปัจจักขามิ สังฆังปัจจักขามิ
เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วก็ พุทธัง ปัจจุทรามิ ปริสุทโธ อธิษฐามิ

โบราณเขามีเคล็ดลับ เขามีวิชาการแบบนี้เพื่อให้คนมั่นใจในตัวเอง ว่าได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องตามเคล็ดลับ ตามสายครูบาอาจารย์แล้ว ก็จะเกิดความแน่วแน่มั่นคงในดวงจิต ถึงเวลาก็ใช้พวกคาถาอาคมอะไรได้ผล เพราะว่าความมั่นคงความมั่นใจทำให้เกิดพลังขึ้นมา พวกเราก็ลองดูนะ

อาตมาเคยแหกคอกมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกต ถึงเวลาทำคาถาบทนี้ใช้กำลังใจแค่นี้ ทำคาถาบทนั้นใช้กำลังใจแค่นั้น ถึงเวลากูไม่เอาตามเคล็ดแล้ว ใช้กำลังใจเท่ากัน ปรากฏว่าใช้ไม่ได้..!”

เถรี 19-03-2020 00:23

ถาม : ทำไมล่ะครับ ?
ตอบ : เพราะไม่เป็นไปตามสายครูบาอาจารย์ ในเมื่อขึ้นครูมาอย่างนี้ถึงจะใช้ได้ ถ้าครูท่านไม่สงเคราะห์ก็เดี้ยง ถ้าทำตามเคล็ด ลูกศิษย์ต้องเชื่อครู ทีนี้พอนอกครู ครูท่านไม่สงเคราะห์ ก็ทำไม่ได้เฉยเลย ทั้ง ๆ ที่ใช้กำลังใจเดียวกันเลย

เถรี 19-03-2020 00:25

มีอยู่อย่างหนึ่งที่นึกไม่ถึงก็คือ การเป่ายันต์เกราะเพชร ปรากฏว่ามีโยมคนหนึ่งป่วยปางตายไปเป็นอาทิตย์ มารู้ทีหลังว่าเขาไปครอบครูโนราห์มา ทีนี้พอครอบครูโนราห์มา เจอยันต์เกราะเพชรครอบลงไป ครูก็ติดอยู่ข้างใน..! เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าเกิดจากแรงครู ท้ายสุดก็เลยบอกว่า เอาอย่างนี้...ตั้งใจจุดธูปขอขมาพระรัตนตรัย ขอให้ครูเข้าออกสงเคราะห์ได้ตามเดิม ไม่อย่างนั้นก็ป่วยแหง็ก ๆ จะตายอยู่ร่ำไป ป่วยเป็นอาทิตย์เลย

ถาม : ในงานท่านจะไล่ของไม่ดีออกไปก่อน ?
ตอบ : ของไม่ดีหมายถึงว่าให้โทษ ถ้าหากไม่ได้ให้โทษ เป็นประเภทที่เรียกว่าไสยขาวแบบนั้นไม่เป็นไร ถ้าเป็นพวกไสยดำ พวกคุณผี คุณคน วัตถุอาถรรพ์ในด้านที่ให้โทษคนอื่น ไปยึด ไปเกาะ ไปดลจิตดลใจให้เขาทำเรื่องไม่ดีไม่งาม แบบนั้นจะโดนไล่ทิ้งหมด

เถรี 19-03-2020 07:45

พระอาจารย์พูดถึงแบบพระ “เห็นไหมว่าเขาสร้างเหมือนกันแบบเดียวกัน แต่ทำไมของเราเด่นมาก ? ขึ้นอยู่กับการออกแบบเหมือนกันนะ เขาเรียกว่าสถาปนึกหรือพุทธแบบ พระแบบเดียวกัน อะไรเหมือนกันหมดทุกอย่าง ทำไมทำองค์หนึ่งสวยติดตาติดใจ อีกองค์หนึ่งทำไปแล้ว ดูอย่างไรก็ดูไม่ขึ้น”

เถรี 19-03-2020 07:50

ถาม : ตอนนี้ผมกำลังสร้างบ้านอยู่ แล้วในอนาคตจะสร้างอพาร์ทเมนท์ มีศาลพระภูมิอยู่ตรงนี้ ถ้าผมแบ่งตรงนี้เป็นกำแพง ต่อไปผมต้องทำอีกศาลไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ต้อง เอาหลังเดียวพอ เพราะว่าถือว่าอยู่ในเขตเดียวกัน มุมก็ถูกต้องดีแล้ว

พระภูมิเจ้าที่แต่ละองค์ท่านดูแลหลายตารางกิโลเมตร อย่างท้าววาหนที่วัดท่าซุงนั่นท่านดูแล ๑๖ ตารางกิโลเมตร ๑ ตารางกิโลเมตรมี ๖๒๕ ไร่ ของคุณแค่ ๒๐๐ ตารางวา สร้างหลังเดียวก็พอแล้ว

เถรี 19-03-2020 07:59

พระอาจารย์อ่านหนังสือเกี่ยวกับสำเร็จลุน “ประวัติพระทางอีสานหลายรูปที่มีความข้องเกี่ยวกับหลวงปู่สำเร็จลุน ที่เขามักจะพิมพ์เป็นสมเด็จลุน

คำว่า สำเร็จ ก็คือพระผู้สำเร็จ ส่วนใหญ่ก็คือพระที่ท่านได้อภิญญา ประเภทที่ว่าเดินน้ำดำดิน ข้ามโขงด้วยเท้าเปล่า อะไรประมาณนั้น ด้วยความที่คนไทยไม่เคยชินกับภาษาอีสาน พอได้ยินคำว่า สำเร็จ ก็เลยเปลี่ยนเป็น สมเด็จ หมดเลย ในเล่มนี้ก็เหมือนกัน เปลี่ยนเป็นสมเด็จลุนกันหมด”


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:16


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว