กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6377)

เถรี 27-11-2018 19:51

"ปัจจุบันนี้มีหลายตำราที่อ้างว่าเป็นลายมือหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ถ้าใครสงสัยเอามาถามอาตมาได้ว่าอันไหนเป็นลายมือจริง ลายมือหลวงพ่อท่านค่อนข้างหวัด เพราะท่านไม่มีเวลาเขียนบรรจง ถ้าไปเจอลายมือบรรจง ๆ ขอให้รู้ว่าลอกต่อกันมา ไม่ใช่ลายมือของหลวงพ่อท่านหรอก โดยเฉพาะถ้าเขียนยันต์เป๊ะ ๆ ทุกตัวเลย นั่นลายมือพระอาจารย์เล็ก

อาตมาเองก็ไม่ได้ศึกษาอะไรไว้หรอก แต่เป็นเรื่องแปลกที่เห็นแล้วรู้ว่าต้องเขียนอย่างไร ตอนหลังไปพอถามหลวงพ่อท่านก็ยืนยันว่าถูกต้องตามนั้นแหละ ส่วนใหญ่ยันต์ก็จะขึ้นอักขระ ยันตัง สันตัง วิกรึงคะเร บางคนก็ขึ้น อัฏฐิ ยันตัง สันตัง วิกรึงคะเร ตำราเดียวกันหมด

ตอนนี้ส่วนใหญ่ที่ทำไว้คือตะกรุดมหาสะท้อน ปาไป ๖ - ๗ รุ่นแล้วกระมัง ? ที่ทำออกงานจริง ๆ เลยก็มีตะกรุดโสฬสรุ่น ๑ ตอนนี้ก็หายากมากแล้ว ในเว็บก็ไม่มี สามสี่พันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปหยิบของเขาแล้ว แล้วก็มารุ่นนี้ ตั้งใจว่าถ้าญาติโยมบูชาแล้วอยากได้เป็นตะกรุดยันต์เกราะเพชรก็ไปม้วนเอาเอง อาตมาตั้งใจทำเป็นโลหะให้ เผื่อว่าใครอยากได้เป็นตะกรุดก็ไปม้วนเอง ใช้เป็นตะกรุด ถ้าใครคิดจะเอาไปหล่อพระเป็นชนวน ก็เอาไปใช้งานได้เลย"

เถรี 27-11-2018 19:54

"ตอนนี้ที่รออยู่ก็คือเมื่อไรจะได้อนุญาตให้ทำ ก็จะมีพวกตะกรุดคู่ชีวิต หรือตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราช แต่ว่าตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราชนี่ปกติแล้วเขาจะทำถวายพระเจ้าแผ่นดิน หรือไม่ก็บรรดาเชื้อพระวงศ์ชั้นผู้ใหญ่โน่น สมัยก่อนนี่ถวายเฉพาะพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น คนอื่นถ้าคิดอยากจะได้นี่ถือว่าตั้งใจตีเสมอ จัดการในฐานะขบถได้เลย

ไม่เป็นไรหรอก ตำรามีอยู่ ตอนนี้น้องแนนก็ศึกษาไว้ จนกระทั่งลงอักขระได้หมดทุกตัวแล้ว อาตมาเองถึงเวลาไม่ต้องเหนื่อย มีลูกสาวทำแทนได้"

เถรี 27-11-2018 20:11

ถาม : อยากถามว่าพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑ ชื่ออะไรครับ (เด็กถาม) ?
ตอบ : อย่าไปเรียกชื่อ สมมติว่าเราเจอปู่ทวดแล้วเราจะไปเรียกชื่อท่านก็น่าเกลียด เรียกสมเด็จองค์ปฐมแล้วกัน ท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรก

ถาม : องค์แรกของกัปหรือครับ ?
ตอบ : องค์แรกของโลกเลย เป็นเด็กเป็นเล็กขี้สงสัยขนาดนี้แล้ว ไปบวชก็แล้วกัน

ชื่อพระพุทธเจ้าส่วนใหญ่จะซ้ำ ๆ กัน เพราะว่าโบราณเขาถือว่าชื่อไหนเป็นชื่อที่เป็นมงคลก็ตั้งขึ้นมา ก็เหมือนกับพวกเราที่ชื่อซ้ำ ๆ กันนั่นแหละ

เถรี 27-11-2018 20:16

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์แรกของโลกจริง ๆ แล้วท่านมีพระนามว่า สิขี แปลว่า เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง เรียกว่า สมเด็จพระพุทธสิขีทศพลที่ ๑ เพราะว่ายังมีต่อ ๆ กันมาถึง ๕ องค์ด้วยกัน องค์ที่อยู่ในบทสวดพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์นั่น ที่เขาว่า สิขี สัพพะหิโต สัตถา ก็คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่าสิขี เป็นพระศาสดาผู้ประกอบด้วยสรรพประโยชน์ อันนั้นเป็นองค์ที่ ๕ ถ้าเรียกก็คือสมเด็จพระปัญจสิขีทศพล

คราวนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องรู้ รู้ไปแล้วเรียกชื่อท่านตรง ๆ เป็นการไม่เคารพ ถึงเวลาก็นึกถึงท่านก็ใช้ได้แล้ว

สัพพะหิตะ แปลว่า กอปรด้วยประโยชน์ทุกประการ สัตถา อันว่าศาสดา บางทีคาถาก็จะมี สัตถา สักการะ โลกัง นี่เป็นคาถาสำหรับลงไม้กันขโมย หรือไม่ก็ ตะมัตถัง ปะกาเสนโต ตัวกูคือพระยาราชสีโห สัตถาอาหะ อันนั้นหัวใจราชสีห์ แต่ว่าถ้าใครแปลได้หัวเราะตายเลย

โบราณาจารย์ที่ท่านได้อภิญญาสมาบัติ พอถึงเวลาท่านผูกคาถาขึ้นมาแล้วสำทับด้วยอภิญญา ถ้าหากว่าใครให้ความเคารพใช้ตามก็มีผล คราวนี้ถ้าแปลตามตัวคาถา ถึงได้บอกว่าห้ามแปล เพราะว่าแปลแล้วไม่มีความหมาย ไม่ก็พิลึกพิลั่น ถ้าไปแปลเมื่อไรหมดขลังเมื่อนั้น อย่างตะมัตถัง ปะกาเสนโต เมื่อจะประกาศพระศาสนา สัตถาอาหะ พระศาสดาว่าดังนี้ ดันมี ตัวกูคือพระยาราชสีโห โผล่มาได้อย่างไรไม่รู้ ฉะนั้น..ห้ามสงสัย..!

เถรี 27-11-2018 20:27

เรื่องของคาถาเป็นเรื่องการทดสอบความลังเลสงสัยในพระรัตนตรัยว่ามีจริงหรือเปล่า ถ้าไม่สงสัยก็ใช้ได้ผลทุกคน ส่วนใหญ่ไปลังเลสงสัย แปลไม่ได้ แปลไม่ออก

ถ้าแปลไม่ออกยิ่งขลัง สมัยก่อนหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี วัดของท่านเป็นสำนักเรียนบาลี พระนักเรียน เณรนักเรียน สามสี่ร้อยรูป หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ไปขอเรียนวิชากับท่าน เพราะว่าท่านไม่ได้เก่งแต่บาลี เรื่องอภิญญาสมาบัติท่านก็ไม่เป็นรองใคร ประเภทเสกวัตถุมงคลนี่ปืนแตกเลย

ถึงเวลาแม่ครัวก็มา "หลวงพ่อ..ข้าวหมดแล้ว ไม่มีหุงให้เณรฉัน" "หลวงพ่อกับข้าวไม่มีแล้ว" หลวงพ่อเรื่องก็ขึ้นกุฏิ จุดธูป ๓ ดอกบูชาพระ ตั้งนะโมฯ เสร็จ ก็ด่าลั่นไป ๓ บ้าน ๘ บ้านเลย ด่าหยาบ ๆ คาย ๆ ด้วย พักเดียวเท่านั้นแหละ ชาวบ้านหาบข้าวหาบผัก หาบปลาแห้งมาถวายเป็นหาบ ๆ เลย

หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ถาม "ทำไมต้องด่าหยาบคายขนาดนั้นด้วย ?" หลวงพ่อเรื่องบอกว่า "ก็คาถามันเป็นอย่างนั้นเองนี่หว่า ถ้าเอ็งสงสัยก็ไม่ต้องใช้"

เถรี 27-11-2018 20:31

พูดถึงเรื่องการลังเลสงสัยในการปฏิบัติ ส่วนใหญ่แล้วพวกเราสงสัยเพราะว่ายังทำไม่ถึง ถ้าเริ่มทรงฌานได้นี่ความสงสัยจะเหลือน้อยแล้ว จะเห็นชัดว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนเรานั้น เป็นคุณเป็นประโยชน์จริง ๆ

อาตมาเองตอนที่มีรุ่นน้องคือท่านชาติชาย ตอนนั้นเบื่อมาก ถึงเวลาบอกว่าพระท่านว่าอย่างนี้ คุณชาติชายจะมาซักถามต่อ แล้วทำไมอย่างนั้น ? แล้วทำไมอย่างนี้ ? อาตมาเองก็บอกว่าไม่รู้ คุณชาติชายถามว่าทำไมไม่รู้ ? ก็กูไม่ได้ถาม แล้วทำไมหลวงพี่ไม่ถาม ? ก็กูไม่สงสัย ท่านสั่งแค่ไหนก็ทำแค่นั้นก็จบแล้ว จะมาเอาอะไรนักหนา แต่กว่าจะถึงระดับเลิกสงสัยนี่ ก็สงสัยมาเยอะเหมือนกัน หลังจากที่พอมั่นใจ มั่นคงจริง ๆ ก็เลิกสงสัย สั่งอะไรมาก็ทำอย่างนั้น จบเลย

ฉะนั้น...ใช้ความพยายามนิดหนึ่ง แค่ทรงปฐมฌานได้ ความลังเลสงสัยในการปฏิบัตินี่หายเกือบหมด จะไปสงสัยอีกทีก็เรื่องมรรคเรื่องผล ซึ่งกลายเป็นเรื่องทีหลัง ขอให้ทรงฌานได้ก่อน อย่างอื่นว่ากันทีหลัง

เถรี 27-11-2018 20:38

พูดถึงบรรยากาศในบ้านเติมบุญ "อากาศเริ่มเย็น ตอนคนมาก ๆ เมื่อเช้าอากาศไม่เย็น เวลาเราอัดกันมาก ๆ ไอตัวออกมา ความชื้นในอากาศมีมากก็จะร้อน ถึงเวลาเครื่องปรับอากาศดูดความชื้นไป พอความชื้นในอากาศหมด ก็จะดึงความชื้นจากผิวหนังของเรา ยิ่งดึงไปมากเท่าไรก็ยิ่งหนาวเท่านั้น ฉะนั้น..ในที่หนาวแปลว่าความชื้นในอากาศมีน้อย

บรรดาท่านที่อยู่ในพื้นที่โลกน้ำแข็งอย่างขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้หรือไซบีเรีย จะใช้ไขมันมาพอกตัวเลย กันความชื้นในตัวจะออกไปหมด โดยเฉพาะพวกไขมันแมวน้ำ ไขมันปลาวาฬ เราจะเห็นว่าเอสกิโมใช้ไขมันแมวน้ำพอกหน้าเสียหนาปึ้กเลย ถ้าไม่พอกไว้ นอกจากความชื้นจะสูญเร็ว ผิวยังแตกอีกด้วย แต่ถ้าเราไม่เคยชินจะรู้สึกว่าเหม็นมาก อยู่ไปสักพักหนึ่ง เคยชินขึ้นมาก็ไม่รู้สึกอะไร

ถ้าใครดูสารคดีจะเห็นพวกเอสกิโมล่าสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำ เป็นนกน้ำ อยู่ในทะเลนะ ว่ายผลุบ ๆ โผล่ ๆ ยิงเปรี้ยง โดนทุกนัด อะไรจะแม่นขนาดนั้น แล้วทำอย่างไรเพราะว่าอยู่กลางทะเล ? เขาใช้ตะขอติดเชือกยาว ๆ หมุน ๆ ๆ แล้วก็เหวี่ยงไปเกี่ยวมา..แม่นมาก ในสารคดีที่อาตมาดูนี่แทบจะไม่เคยเห็นพลาดเลย ถ้าเป็นเราเหวี่ยงอยู่ครึ่งวันไม่รู้จะเกี่ยวติดหรือเปล่า ?

อันนี้เขาเรียกกัมมวิปากชาฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เกิดโดยวิบากกรรม ถ้าไม่เก่งก็อยู่ไม่รอด ก็แปลว่าเขาทำของยากเป็นของง่าย คือพวกมีฤทธิ์ บาลีเขาว่า สุทันตา เยวะ อิทธิยา ผู้ฝึกมาดีย่อมมีฤทธิ์"

เถรี 27-11-2018 20:41

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้บนยอดเขาพระพุทธบาทบรรยากาศสวยที่สุด เช้า ๆ นักท่องเที่ยวแห่กันไปชมทะเลหมอก ไปเซลฟี่แข่งกัน เดี๋ยวต้องให้เขาติดป้ายเตือนไว้ อย่าได้ขึ้นไปนั่งบนราวรั้วเชียวนะ ที่อื่นมีตัวอย่างหงายหลังไปไม่รู้กี่รายต่อกี่รายแล้ว

อย่าไปเสี่ยงกับการต้องการรูปสวย ๆ แล้วพลาดถึงแก่ชีวิต โดยเฉพาะยอดเขาพุทธเจติยคีรีภายในวัด อาตมาทำแท่นชมวิวไว้ ๒ ที่ ๓ ที่ มีบางแท่นเหมือนแท่นกระโดดน้ำขนาดใหญ่หน่อย วิศวกรเขาคำนวณแล้วว่ารับน้ำหนักได้กี่คน เขาติดป้ายเตือนไว้ ไม่ใช่แห่ขึ้นไปเซลฟี่ทีหนึ่งเกินจำนวน เดี๋ยวก็ได้หักโครมลงไปเท่านั้น"

เถรี 27-11-2018 20:43

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานนี้เขาจะบี้กันตาย ประมูลเหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม เดี๋ยวนี้นักประมูลเขารู้ เขามาสู้กันวินาทีสุดท้าย ถ้าสู้กันตั้งแต่วันแรกราคาจะโดนดันสูงมาก คราวนี้มาสู้กันนาทีท้าย ๆ ประเภทถ้าพลาดก็หมดเวลา บางคนอุตส่าห์ลงราคากะว่าชนะแน่ ที่ไหนได้ เวลา ๒๐.๐๑ น. อดไปเลย

ของดีจะหลุดมาเรื่อย ๆ อาตมาเองก็ต้องทำใจ บางอย่างอยากได้ แต่กติกาเขาคือต้องลงไปประมูล อาตมาก็ไม่กล้าประมูล เพราะว่าประมูลแล้วคนอื่นเขาก็ไม่กล้าสู้ ปล่อยให้เขาสู้ไปกันเองเถอะ

งวดก่อนมีเหรียญหลวงปู่ดู่เลี่ยมเงิน นั่งเล็งอยู่ ท้ายสุดต้องตัดใจ ของหลวงปู่ดู่เรามีเยอะแล้ว"



เถรี 27-11-2018 20:45

พระอาจารย์กล่าวว่า "ครูบาอาจารย์ประเภทพ่อเสือลูกสิงห์นี่ต้องบอกว่าหายากนะ หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ มาเป็นหลวงปู่อั้น หลวงปู่สี หลวงปู่ดู่ สืบสายกันมาชนิดไม่ขาดเลย

ปัจจุบันนี้ก็ต้องหลวงปู่เฉลิม สายวัดพระญาติ ซึ่งสายวัดพระญาติจริง ๆ ก็คือวัดประดู่ทรงธรรม เป็นสำนักวิชาการเก่าแก่ คราวนี้ว่าหลวงปู่กลั่นท่านไปเรียนวิชาชาตรีมาจากทางสายอิสลาม ท่านก็เลยกลายเป็นโด่งดังกว่าสายวัดประดู่ทรงธรรม"


เถรี 27-11-2018 20:55

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานมีโยมถามว่า ยันต์เกราะเพชรของหลวงปู่ปานมีแบบปั๊มจากโรงงานไหม ? มีนะ เป็นรุ่นท้าย ๆ ด้วย เพราะว่าพอความต้องการมาก ๆ แล้ว ท่านอาจารย์เจิมเขียนไม่ทัน ถักไม่ทัน ส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะตะกรุดหรือผ้ายันต์ของหลวงปู่ปาน ท่านอาจารย์เจิมจะเป็นคนเขียน หลวงปู่ปานท่านก็เสกให้ คราวนี้ความต้องการมาก ๆ เขียนไม่ทัน ก็ต้องสั่งโรงงานปั๊มมา

ถ้าถามว่าดูอย่างไรถึงรู้ ? ถ้าหากว่าเป็นแบบโรงงานปั๊มจะเห็นชัด ๆ เลย เพราะว่าทะลุหลังออกมาเป็นรูปยันต์ให้เห็น ก็ดูความเก่าของโลหะ โลหะทองแดงพอเก่ามาก ๆ เขาเรียกว่าเนื้อหมดยาง ก็คือจะไม่เงาแวววาว จะด้านลื่น ถ้าหากว่าใครใช้มาก ๆ นี่ บางทีหัวตะกรุดนี่แทบจะเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกันไปเลย พอที่จะดูกันออก

แต่ถ้าหากว่าเป็นรุ่นเก่าที่ท่านอาจารย์เจิมเขียน ม้วนแล้วก็ถัก ให้ดูลายถัก ดูขนาดตะกรุด ขนาดตะกรุดจะมี ๒ นิ้ว ๒ นิ้วครึ่ง ๓ นิ้ว ยาวสุดก็ไม่เกิน ๕ นิ้ว ให้จำลายถักแล้วก็การลงรักไว้"


เถรี 27-11-2018 20:57

"ส่วนลูกอมหลวงปู่ปานก็ดูเนื้อหา มีทั้งลูกเล็ก มีทั้งลูกใหญ่ นาน ๆ จะมีลูกใหญ่สักทีหนึ่ง ปกติเป็นลูกเล็ก แต่คราวนี้ก็อย่างว่า...มีคนชอบของใหญ่ ๆ ก็ปั้นขนาดลูกปิงปองเลย เปลืองผงตายชัก..! ลูกใหญ่แบ่งทำลูกเล็กได้ ๓ - ๔ ลูก

ที่อาตมาเก็บลูกใหญ่ไว้ก็คือเอาไว้ใช้งาน เก็บเอาไว้ใช้ผงของครูบาอาจารย์ ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเอง เพราะว่าหลวงปู่ท่านต้องปิดโบสถ์ เข้าสมาบัติ ๑๕ วันเพื่อลบผงไว้ใช้งาน เขียนอยู่ ๑๕ วัน มือไม้ล้าหมด อาตมาเข้ากรรมฐาน ๓ วันลุกพรวดพราดยังหน้ามืดเลย ฉะนั้น...ถ้าคลายสมาธิออกมาก็หงายตึง แต่หลวงปู่ท่านเข้าสมาธิลบผง ๑๕ วัน

ถ้าหากว่าไม่ได้พระหลวงปู่ปานรุ่นเก่า ๆ ที่บรรจุผงวิเศษข้างบน ที่เขาใช้ตอกไม้ไผ่เสียบแล้วทำรูไว้สำหรับบรรจุผง ก็หาของวัดคู้สลอด วัดคู้สลอดนั่นเป็นเนื้อผงวิเศษทั้งองค์เลย ความจริงดีกว่าด้วย แต่คนไปคิดว่าไม่ใช่ของวัดบางนมโคโดยตรง ก็หลวงปู่ปานเสกเหมือนกัน ทำเหมือนกัน เพียงแต่เอาไปบรรจุกรุให้วัดคู้สลอด หลวงปู่ปานท่านสร้างวัดเป็นร้อยวัด ไม่ใช่เฉพาะในเขตอยุธยา จังหวัดอื่น ๆ ก็ทำให้เขาด้วย"

เถรี 27-11-2018 20:59

"อาตมาเองก็พกของวัดคู้สลอด ปรากฏว่าโดนเพื่อนปล้นไป พระครูวาทีวรวัฒน์ เลขานุการรุ่นพระอุปัชฌาย์ ท่านถามว่า "ท่านประธานมีไหม ?" "มี..แต่แพง" "ท่านประธานรวยจะตาย บูชาให้ผม ๑ องค์"

อาตมาก็ไม่ได้บอกว่าพกอยู่ ท้ายสุดก็เห็นว่าท่านเป็นเลขานุการรุ่นที่อาตมาเป็นประธานรุ่น ก็เรียกใช้ท่านอยู่ตลอด จึงตัดใจสละให้ท่านไป กระซิบบอกท่านว่า ถ้าใครให้ต่ำกว่า ๓๐,๐๐๐ บาท อย่าไปปล่อยนะ เพราะว่าองค์นี้ผมบูชามาตั้ง ๓๐,๐๐๐ บาท"

เถรี 27-11-2018 21:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการฉันภัตตาหาร ถ้าหากว่าเป็นพระไทยเราก็คือ ๒ มื้อ เช้ากับเพล ถ้าเป็นสายวัดป่าก็มื้อเดียว ประมาณ ๙ โมงครึ่ง ๑๐ โมง แต่ถ้าเป็นพระพม่านี่ท่านฉันจนกระทั่ง ๕ โมงครึ่งตอนเย็น ก็คือเกือบ ๖ โมงเย็น ถามว่าทำไมพระพม่าฉันได้ขนาดนั้น ? เพราะว่าท่านตีความพระวินัยเท่ากัน

คือศีลพระมีอยู่ ๒ ข้อ ข้อหนึ่งว่าภิกษุฉันอาหารในเวลาวิกาลต้องอาบัติปาจิตตีย์ เวลาวิกาลนี่เราไปตีความว่าหลังเที่ยงไปแล้ว อีกข้อหนึ่งท่านบอกว่าภิกษุเข้าบ้านในเวลาวิกาล ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ตรงนี้เราไปตีความว่าพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว

คราวนี้ของพม่าเขาตีความเดียวกัน ก็คือพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วถึงเรียกว่าวิกาล เพราะฉะนั้น...ประเภท ๕ โมง ๕ โมงครึ่ง ถ้าท่านฉันกันอยู่ ถ้าเห็นอย่าไปตำหนิท่านนะ เพราะว่าท่านตีความพระวินัยเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ของเรานี่ตีความต่างกัน"

เถรี 27-11-2018 21:03

"ส่วนของทางด้านมหายานที่เขาฉันอาหารก็ลักษณะเดียวกัน แต่ว่ามหายานเขามีคำอธิบายเพิ่มเติมว่า สายมหายานนิยมฉันเจไปเลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเบียดเบียนเลือดเนื้อร่างกายของสัตว์ การฉันอาหารเจ เขาบอกว่าไม่อยู่ท้อง ก็เลยต้องมีการฉันเพิ่มเติมเป็นมื้อที่สาม ซึ่งก็อยู่ในลักษณะเดียวกันก็คือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

แต่ว่าความเคร่งครัดของพระไทยเราก็คือ ฉันอาหารแค่ไม่เกินเที่ยง ก็ขึ้นอยู่กับพวกเราเหมือนกัน เพราะว่าบางท่านต้องบอกว่าอยู่เพื่อกิน ไม่ใช่กินเพื่ออยู่ ท่านก็ฉันตั้งแต่เช้ายันเที่ยง ไม่รู้ว่ากี่มื้อ...! ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็ขาดโภชเนมัตตัญญุตามากไปหน่อย ต้องอยู่ในลักษณะที่ว่าพอเหมาะพอดี ก็คือให้เป็นมื้อเป็นคราว"

เถรี 27-11-2018 21:05

"ตอนที่หลวงพ่อเจ้าคุณพรหมบัณฑิตนำเอาปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ไปมอบให้หลวงปู่เจ้าอาวาสวัดม้าขาว ไป๋หม่าซื่อที่ประเทศจีน พอกลับมาอาตมาก็ถามอาจารย์ที่ติดตามไปด้วยว่า ตกลงได้ฉันมื้อเย็นไหม เพราะว่าพระจีนเขาฉันมื้อเย็นกัน ท่านบอกว่าเขารู้กันหมดแล้วว่าพระไทยฉันแค่ ๒ มื้อ ก็เลยไม่มีมื้อเย็นให้ มีแต่น้ำชาให้กาเดียว แหม...นึกว่าจะได้ไปฉันมื้อเย็นที่โน่น

ฉะนั้น ของเราในเมื่อนิยมว่าเวลาเพลก็คือ ๑๑ โมงเริ่มฉัน เที่ยงตรงก็จบ บางท่านก็ถือว่าถ้าลุกก็จบเลย บางท่านฉันจนเลยเที่ยงก็มี ยังไม่ยอมลุก แต่บางท่านถือเที่ยงตรงจบ ส่วนบางท่านก็ถือว่าอาสนะเดียว ถ้าลุกขยับพ้นพื้นก็จบกันแค่นั้น"

เถรี 28-11-2018 21:24

พระอาจารย์กล่าวว่า "วัตถุมงคลมีสักชิ้นสองชิ้นก็พอ ขอให้เรามั่นใจในคุณพระรัตนตรัยก็แล้วกัน ไม่ใช่ต้องมีทุกรุ่น มีทุกรุ่นนั่นเรียกว่าบ้าแล้ว..!

สมัยก่อนอาตมาก็บ้าแบบนี้เหมือนกัน ตุนไว้เพียบเลย บูชาพระคำข้าวหลวงพ่อวัดท่าซุงทีหนึ่ง ๓๐๐ องค์ ๕๐๐ องค์ ๗๐๐ องค์"


เถรี 28-11-2018 21:26

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้วันเสาร์ ตอนที่เข้ากรรมฐาน ๓ วันมีสุดยอดสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ก็คือคุณยายแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธวิกสิตาราม ท่านแวะมาสงเคราะห์ บอกว่าวันเสาร์ให้ตั้งน้ำอธิษฐานเอาไว้ ท่านจะเสกให้ บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่าน เขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น ฉะนั้น ถ้าหากว่าใครอยากรู้ว่าทำอย่างไร ให้ไปหาวิธีการดู อาตมาก็ตั้งไปแล้ว มีคนยอมเหนื่อยแทน ต้องรีบฉวยโอกาสไว้

พวกเราก็ไม่ต้องอธิษฐานอะไรมากหรอก ขอให้หายโรคหายภัย ใครมีโรคภัยไข้เจ็บอะไรที่หมอธรรมดารักษาไม่หาย ก็ขอบารมีคุณยายแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติมอธิษฐาน ขอพระธรรมของพระพุทธเจ้าสงเคราะห์ให้

อาตมาจำได้ว่าในกระทู้คนมีเงินฯ เคยเอาพระปิดตาล้มลุกของคุณยายแม่ชี กับพระอื่น ๆ ไปออกอยู่หลายองค์ อย่างสายหลวงพ่อฤๅษีของพวกเรา ท่านใช้คำว่าอาราธนาบารมีพระท่านสงเคราะห์ ของคุณยายแม่ชีท่านใช้คำว่า อธิษฐานขอพระธรรมของพระพุทธเจ้าสงเคราะห์ ก็ความหมายเดียวกัน ฉะนั้น...ใครก็ตามที่ขอบารมีพระได้ จะเสกของได้ขลังทุกคน"


เถรี 28-11-2018 21:28

"จะว่าไปแล้วนักปฏิบัติผู้หญิงเก่ง ๆ ในเมืองไทยเราก็เยอะ อย่างคุณยายแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ก็เป็น ๑ ในจำนวนนั้น รุ่นหลัง ๆ ก็อย่างคุณยายแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ เสียดายที่ว่าทางสายของหลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง มีฆราวาสหญิงชายที่เป็นนักปฏิบัติชั้นยอดอยู่มาก แต่ด้วยความที่เป็นฆราวาส ก็เลยยกเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นไม่ได้

ที่ยกเป็นตัวอย่างให้คนอื่นไม่ได้ เพราะว่าถ้าเราไปกราบไหว้บูชา คนก็จะรู้สึกว่าแปลก ๆ แต่ว่าทางด้านสายของหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงนี่ เป็นเครื่องที่พิสูจน์ได้ชัดว่า คนเราจะหญิงจะชาย ไม่จำเป็นต้องบวช ขอให้ตั้งใจปฏิบัติจริง ก็สามารถเข้าถึงธรรมได้ทั้งนั้น"

เถรี 28-11-2018 21:43

พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่าไปแย่งวัตถุมงคลรุ่นที่คนเขาชอบกัน หลวงพ่อโต วัดระฆัง ท่านบอกแล้วว่า พระของท่านจะจริงจะปลอม จะเก่าจะใหม่ ถ้านึกถึงท่านก็มีอานุภาพเท่ากัน แล้วเรื่องอะไรเราจะไปซื้อองค์ละร้อยล้านแบบเสี่ยวิชัยท่าน แต่ว่าพระร้อยล้านของท่านก็ขลังจริงเหมือนกัน ขนาดเฮลิคอปเตอร์ตก ไฟไหม้ทั้งลำ พระไม่ระคายผิว แม้แต่พลาสติกยังไม่เป็นอะไรเลย

ไปนึกถึงอีกคนหนึ่งก็คือเสี่ยเหลา (นายแคล้ว ธนิกุล) นั่นโดนเอ็มสิบหกกระหน่ำกระจายเลย อมสมเด็จวัดระฆังไว้ในปากก็ตาย
ไม่เข้าสักนัดเดียว แต่ กระดูกหักหมด ลูกศิษย์ที่เขาทำเกี่ยวกับมูลนิธิร่วมกตัญญูเขาบอก ช่วงนั้นอาตมาก็เป็นประธานมูลนิธิกู้ภัยอยู่ เขาเล่าให้ฟังว่าไปเก็บศพเฮียเหลานี่ไม่มีแผลเลย แต่ตาย กระสุนแรงมากจนกระดูกหักหมด พอรู้สึกว่าอีกฝ่ายหนึ่งตามล่า ก็อมพระสมเด็จวัดระฆังไว้ในปาก แต่ต้องบอกว่าหมดวาระจริง ๆ ก็เลยต้องตายจนได้

อย่างของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา นามสกุลเก่าจำง่ายกว่า แต่ว่านามสกุลใหม่เป็นนามสกุลพระราชทาน ท่านเองก็หมดวาระจริง ๆ เหมือนกัน พระเรียบร้อยทุกองค์ ไม่เป็นอะไรเลย ไฟยังไม่ไหม้เลย แต่ตัวเองตาย ท่านแขวนพระ ๓ องค์ มีพระสมเด็จวัดระฆัง พระรอดลำพูน แล้วก็ล็อกเก็ตหลวงพ่อเกษม เขมโก"

เถรี 28-11-2018 21:44

"เรื่องของพระ ขอให้เรามีความมั่นใจ ศรัทธาเท่านั้น ความเชื่อมั่นต่างหากที่ทำให้เกิดพลังอย่างแท้จริง เพราะว่าพลังก็คือพลังใจของเรา วัตถุมงคลส่งกำลังส่วนหนึ่ง เราต้องเปิดใจรับ สองฝ่ายประสานกันถึงจะได้เต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์

แบบเดียวกับที่มีคนอมพระไว้ในปาก ตีกับเขาแล้วพระหล่น ก็คว้าหมับยัดเข้าปาก แหม...หลวงพ่อดิ้นใหญ่เลย เห็นว่าหลวงพ่อจะช่วยก็เกิดกำลังใจ ตีฝ่ายตรงข้ามกระจาย ตัวเองไม่มีบาดแผลสักนิดเดียว พอคายออกมากลายเป็นลูกเขียด ตายแหงแก๋ไปแล้ว หยิบผิด...! กลางค่ำกลางคืนโดนเขารุมตี พระหล่นคว้าได้ก็ยัดใส่ปากเลย เห็นดิ้นใหญ่ก็นึกว่าหลวงพ่อช่วย นั่นแหละ...กำลังใจตัวเอง"

เถรี 28-11-2018 21:48

พระอาจารย์กล่าวว่า "สรุปแล้วกฐินวัดท่าขนุนได้เงิน ๒,๖๐๖,๖๔๐ บาทถ้วน ความจริงเป็นเศษแต่อาตมาเติมให้เต็ม พอหักรายจ่ายทั้งหมดแล้ว ก็ส่งเข้าบัญชีที่ต้องรายงานคณะสงฆ์ไป หนึ่งล้านเก้าแสนกว่าบาท

เงินกฐินนี้ทางคณะสงฆ์บังคับเลยว่าต้องเข้าบัญชีเป็นก้อนเดียว หักกลบลบล้างค่าใช้จ่ายแค่ที่อนุญาตให้มีได้ อย่างเช่นว่าค่าอาหารและน้ำดื่มเลี้ยงโยม ถวายพระภิกษุสามเณรที่อยู่ในงาน พยายามหักเต็มที่แล้ว หักไปได้แค่แสนกว่าบาท สรุปแล้วฝากไปประมาณล้านเก้าแสนกว่าบาท

สำหรับอาตมาแล้วเงินล้านกว่าก็ใช้ได้แค่เดือนเดียว ตอนนี้ที่รอจ่ายอยู่ก็คือเงินประกันผลงาน เงินประกันผลงานในการสร้างบันไดขึ้นสักการะรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน กับเงินประกันผลงานในการสร้างบันไดขึ้นสักการะพระพุทธเจติยคีรี สองฝั่งก็ล้านกว่าบาท ประกันผลงานนี่เราหักไว้ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ร้อยละ ๓๐ พูดง่าย ๆ ว่าภายใน ๖ เดือน ถ้าไม่มีอะไรให้ซ่อมให้แก้ไข ก็ส่งคืนเงินส่วนนี้ให้ช่างเขาไป ถ้ามีก็เอาเงินส่วนนี้หักมาซ่อม มาแก้ไข ฉะนั้น..เวลาเราทำสัญญาอะไรก็ต้องรัดกุม ถ้าเขาส่งงานให้ไม่ทันจะปรับเขาวันละเท่าไร ส่วนใหญ่ก็ปรับประมาณหนึ่งเปอร์เซ็นต์ สมมติว่าอาตมาทำไป อย่างเช่นว่า ๑๒,๘๐๐,๐๐๐ บาท ถึงเวลาก็ปรับไปวันละ ๑๒,๘๐๐ บาท โดนไปวันละหมื่นกว่าบาทนี่จุกเหมือนกันนะ

มีตอนที่หุ้มทองพระเจดีย์ ๘๔ พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก งานนั้นปรับช่างไปหกแสนกว่าบาท"


เถรี 28-11-2018 21:52

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยเป็นฆราวาส ถึงเวลาไปทำบุญวัดไหน หรือว่าไปเช่าวัตถุมงคลวัดไหน ถือว่าวันนั้นเป็นวันดีที่เราได้อัญเชิญพระเข้าบ้าน เอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นมงคลเข้าบ้าน พอมาเป็นพระ ถึงเวลาจัดงาน พระสงฆ์ที่ท่านมาเองโดยที่อาตมาไม่ได้นิมนต์ ปกติแล้วท่านจะเป็นส่วนเกิน แต่อาตมาถือว่าท่านมาเป็นเนื้อนาบุญให้ ก็ให้การต้อนรับขับสู้ ถึงเวลาก็ถวายปัจจัยไทยธรรมเท่ากับพระที่เรานิมนต์มานั่นแหละ ฉะนั้น...อาจจะเป็นเพราะว่าทำลักษณะอย่างนี้มา ทั้งตอนที่เป็นฆราวาสแล้วก็เป็นพระ ด้วยความรู้สึกว่าสิ่งดี ๆ ทั้งหลายจะได้เกิดขึ้นกับเรา

ตรงนี้เป็นกำลังใจที่เขาเรียกว่ามโนมยา คือ สำเร็จด้วยใจ เพราะว่าเรานึกถึงแต่ในเรื่องที่ดี พอถึงเวลาสิ่งที่ตอบสนองมาก็เป็นแต่เรื่องที่ดี ๆ ทั้งนั้น อย่างเช่นว่าถ้
าวันนี้อาตมาบูชายันต์เกราะเพชรไป ก็กลับบ้านด้วยความปลื้มใจว่า เราได้อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีบารมีพระเข้าบ้าน ให้ท่านช่วยปกปักรักษาคุ้มครองตัวเราและคนที่เรารัก เป็นต้น วางกำลังใจให้เป็น วางกำลังใจให้ถูก เรื่องดี ๆ จะได้เกิดกับเราทุกวัน"

เถรี 28-11-2018 21:54

"โดยเฉพาะมีสิ่งหนึ่งที่ไม่แนะให้โยมทำก็คือ อาตมาจะใช้พวกของหอมน้ำมันหอมในการเจิมบูชา ถือว่าถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา แต่ถ้าโยมทำตามนี่ เดี๋ยววัตถุมงคลจะกลายเป็นลายพร้อยไปหมด กลายเป็นสภาพต่างจากความเป็นจริง คนเขาจะไม่เชื่อ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา วัตถุมงคลด่างไปหมด

สมัยฆราวาสอาตมามีอาชีพอย่างหนึ่งก็คือ อุ้มพระอาบน้ำ เพราะว่าพี่ชายสร้างบ้านแล้วประหยัด ห้องพระกับห้องครัวอยู่ติดกัน มีแค่ผนังกั้น ตรงช่วงจั่วเพดานก็ไม่ได้ติดฝ้า ถึงเวลาทำกับข้าว พวกไอน้ำมันก็ข้ามไปเกาะองค์พระ อาตมาก็มีหน้าที่อุ้มพระอาบน้ำอยู่ทุกเดือน ถึงเวลาก็ละลายผงซักฟอกหรือไม่ก็น้ำยาล้างจาน เสร็จแล้วก็อุ้มพระลงกะละมังไปเลย ใช้ฟองน้ำใหม่ ต้องของใหม่นะ ถ้าใช้แล้วของเก่านี่ต้องเลิกใช้ไปเลย ใช้ฟองน้ำใหม่ชุบ เช็ด ขัด ล้างน้ำสะอาด แล้วก็ตากแดดให้แห้ง จากนั้นก็นิมนต์ขึ้นหิ้งใหม่ จุดธูปเทียนบูชาใหม่ กราบขอขมาพระรัตนตรัยไปด้วย

มีหน้าที่อุ้มพระอาบน้ำอยู่ทุกเดือน อาตมาทนเห็นอะไรที่สกปรกไม่ได้ โดยเฉพาะว่าถ้าพระสกปรกนี่ไม่ยอม ฉะนั้น...บางท่านจะสงสัย อย่างเช่นว่ามีดหมอเก่า ๆ อยู่กับอาตมาแล้วสวยแท้ อ๋อ...ก็ขัดเสียสะอาดเอี่ยมไปเลย"

เถรี 28-11-2018 21:57

"เมื่อสิ้นเดือนวันที่ ๓๑ ที่ผ่านมา อาตมาเอาเป้ใส่โน้ตบุ๊กไปซัก ใส่เครื่องปั่นเสียดิบดีเลย ปรากฏว่าวัตถุมงคลหลงอยู่ในนั้นชุดหนึ่ง สะอาดเอี่ยมไปเลย

ตัวเป้มีกระเป๋าลับอยู่นิดหนึ่ง อาตมาก็หยอดวัตถุมงคลไว้ในนั้นชุดหนึ่ง ชุดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นปลัดขิก มีปลัดขิกงาช้าง หลวงพ่อเหลือ วัดเขาชะโงก ปลัดขิกงาช้าง หลวงปู่สี วัดสะแก ปลัดขิกงาช้าง หลวงพ่อวุ่น วัดบางซอ แล้วก็มีปลัดขิกชินตะกั่วฝังงาช้าง หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม มีเม็ดพริกคหบดี หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ แล้วก็มีพระพิฆเนศงาแกะเข้าพิธีเสาร์ ๕ วัดท่าขนุนเอง

ปรากฏว่าลืม ออกมาใหม่เอี่ยมเลย สงสัยว่าท่านอยากอาบน้ำ ปกติอาตมาไม่เคยจับอาบน้ำ ได้แต่เช็ดด้วยน้ำมันเฉย ๆ เพราะว่าส่วนที่เป็นงาช้าง ถ้าไม่มีน้ำมันหรือขี้ผึ้งเลี้ยงไว้บ่อย ๆ ก็จะไม่สวย ยังดีว่าเครื่องปั่นแล้วไม่แตกไม่หัก ไม่อย่างนั้นได้น้ำตาเล็ดกันบ้าง เพราะว่าปลัดขิกงาช้างของหลวงพ่อเหลือ วัดเขาชะโงกหายากมาก ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ ถามว่าในเมื่อส่วนใหญ่เป็นไม้ แล้วรู้ได้อย่างไรว่าอันนี้เป็นของหลวงพ่อเหลือ ? เพราะว่าจำลายมือท่านได้"

เถรี 28-11-2018 22:00

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมใครจะไปตากอากาศที่ทองผาภูมิช่วงนี้ก็เชิญได้ อากาศกำลังสบายเลย แต่ขอร้องนะ อย่าขึ้นไปนอนบนรอยพระพุทธบาท เพราะว่ารอยพระพุทธบาทอยู่ในพื้นที่ป่าเขาเลยนะ ส่วนที่อาตมากลัวที่สุดก็คืองูจงอางใหญ่ ๒ ตัวจะมานอนด้วยหรือเปล่า ? ถ้าถามว่าใหญ่ขนาดไหนก็บอกไม่ถูก กะ ๆ ด้วยสายตาน่าจะเกินขวดน้ำปลา ความยาวของงูนี่หัวพ้นถนนไปแล้ว หางยังไม่ขึ้นมาเลย

เจ้าพวกนี้อาตมามีประสบการณ์เยอะ ก็คือตอนธุดงค์อยู่ในป่า ช่วงหน้าหนาวเขาจะมาหาที่อุ่น ๆ แล้วที่อุ่นที่สุดก็คือตัวเรา อาตมาโดนนอนทับอก โดนนอนเบียดข้างมาเยอะแล้ว ถึงเวลาภาวนาอยู่อะไรหนัก ๆ บนอก ต้องค่อย ๆ เอามือคลำ คลำให้เขารู้ตัว อย่าไปพรวดพราด พอเขารู้ตัวแล้วก็จับ ค่อย ๆ ดึงลงช้า ๆ ถ้าหากว่าดึงเร็วพรวดพราด มีหวังโดนกัดแน่นอน แต่ส่วนใหญ่พวกเราเองมักจะตกใจแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก

อาตมาไม่ได้ใจเย็นขนาดหลวงพ่อวัดท่าซุง งูมาเบียดท่านก็ทำเป็นหมอนเลย ได้ขนาดพอดี ท่านเล่าให้ฟัง ท่านบอกตื่นขึ้นมาอะไรเบียดอยู่ใกล้ ๆ คลำไปคลำมามีเกล็ด ๆ อยู่น่าจะเป็นงู ขนาดกำลังดี ขอเป็นหมอนหน่อยแล้วกัน แล้วก็หนุนไปเลย"

เถรี 28-11-2018 22:02

"ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมจำนวนหนึ่ง ชอบชีวิตกลางแจ้งที่เรียกว่าเอาท์ดอร์ ใจคอจะขึ้นไปกางเต็นท์บนรอยพระพุทธบาทเรื่อยเลย ที่นั่นอยู่นอกเขตวัด แล้วก็อยู่หลัง อบต. กลางคืนเจ้าหน้าที่ อบต.เขาก็ไม่มีใครอยู่ ถ้าเกิดมีมิจฉาชีพไปปล้นไปฆ่านี่ยุ่งตายชักเลย เพราะว่าอยู่ในที่ลับหูลับตามาก โยมแหกปากให้ดังแค่ไหนก็ได้ยินไม่ถึงข้างล่างหรอก โยมตะโกน อาตมาได้ยินเต็มที่ก็แค่ ๓๐๐ เมตร แล้วขึ้นยอดเขาตั้ง ๘๙๐ กว่าเมตรเกือบ ๙๐๐ เมตร ตะโกนให้ตายได้ยินสักครึ่งเขาก็ดีตายชักแล้ว

อาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะว่าเราไปเปิดโอกาสให้เขา
อย่างเช่นมีหลายรายที่เข้าไปข่มขืนเขา พอตำรวจสอบสวน บอกว่าเห็นประตูห้องเปิดอยู่ เห็นประตูห้องเปิดอยู่ ก็มุดเข้าไปล็อกประตู แล้วผู้หญิงตัวคนเดียวจะไปสู้อะไรเขาได้ ฉะนั้น...อย่าไปเปิดโอกาสให้เขา

อยากจะไปดูทะเลหมอกตอนเช้าก็รอโน่น...ทำวัตรเสร็จแล้ว ตี ๕ ครึ่งค่อยเดินขึ้นไป พอถึงเวลาขึ้นข้างบนก็พอดีได้อรุณ ได้ดูทะเลหมอก เวลากลางวันแล้วก็ไม่มีใครอยากจะยุ่งด้วยหรอก เพราะว่าพวกอาชญากรโจรขโมยพวกนี้กลัวเสียงดังกับกลัวแสงสว่าง สมัยอยู่วัดท่าซุงอาตมาปิดไฟตั้งแต่ตี ๕ ครึ่ง หลวงพ่อท่านบอกว่า คราวหน้าอย่าทำ กราบเรียนถามว่าทำไม ? ท่านบอกว่าถ้ายังจำหน้าคนไม่ได้อย่าเพิ่งปิดไฟ รอให้สว่างจำหน้าคนได้ก่อนแล้วค่อยปิด อย่าไปกลัวเปลืองไฟ"



เถรี 28-11-2018 22:04

"ด้วยความที่ว่ารอยพระพุทธบาทอยู่นอกเขตวัดไปคนละฝั่งถนน แล้วขึ้นเขาไปไกลมาก ถ้าจะเดินสายกล้องวงจรปิดไป ก็คงจะหมดอีกหลายแสน ก็เลยไม่ได้ทำ จึงกลายเป็นจุดปลอดจุดเดียวของวัดที่ไม่มีกล้องวงจรปิดควบคุม

ตอนนี้ญาติโยมกี่คน ๆ โทรมาก็ถามว่า จะขึ้นไปค้างข้างบนได้ไหม ? ขอร้องเถอะโยม มาค้างในวัดปลอดภัยกว่า ทำวัตรด้วยกัน สร้างบุญสร้างกุศลเสร็จก็ไม่เกินตีห้าครึ่ง ส่วนใหญ่
เต็มที่ก็ประมาณตีห้าสิบห้านาที เราเดินขึ้นยอดเขาก็สว่างพอดี แล้วยิ่งหน้านี้ยิ่งสว่างช้าเข้าไปใหญ่ เพราะว่าเป็นฤดูหนาว กลางคืนจะยาวกว่ากลางวัน

เราไม่รู้ว่าวาระกรรมจะมาถึงตอนไหน เพราะฉะนั้น...อย่าประมาท ในเมื่อพระพุทธเจ้าสอนเราไม่ให้ประมาทก็ต้องทำตาม จะเห็นว่าขนาดท่านเจ้าสัววิชัยพกพระดีขนาดนั้น ท่านเองพอถึงวาระก็ยังต้องไป เราเองไม่ได้สร้างบุญสร้างกุศลมาดีขนาดท่าน ทำอะไรแบบประมาท ระวังจะถูกหวยรางวัลใหญ่โดยไม่รู้ตัว"

เถรี 29-11-2018 08:41

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาเองก็พกวัตถุมงคลหลายชุด จะมีชุดพระ นำด้วยสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๒ วัดท่าซุงแล้วก็มีชุดสิงสาราสัตว์ อย่างเช่นว่าเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน แล้วก็มีชุดเบี้ยแก้ ชุดลูกอม ชุดตะกรุด พกรอบไปหมด คราวนี้ชุดปลัดขิกไปหย่อนไว้ในเป้ก็เลยซักเสียสะอาดไปเลย

ปกติไปไหนก็ยึดชุดพระเป็นใหญ่ ส่วนอื่นก็เป็นแค่ส่วนประกอบ ถ้าชุดผ้ายันต์ก็จะเป็นผ้ายันต์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ธงมหาพิชัยสงคราม หลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นต้น

ถามว่าพกทำไมเยอะแยะ ? ก่อนหน้านี้ไม่เคยพกเลย แล้วหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเตือน ท่านบอกว่า “ขนาดหลวงปู่ปานยังเผลอ แล้วแกแน่แค่ไหน ?” ก็เลยพกบ้าง พกไปพกมาเยอะก็ขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่ผ่านไป แต่พยายามเอาพระเป็นหลัก ถึงเวลาอาราธนาบารมีพระก่อน แล้วค่อยนึกถึงวัตถุมงคลอื่น ๆ ตามหลัง"


เถรี 29-11-2018 08:45

ถาม : หลวงปู่ปานท่านเข้าห้องน้ำแล้วถอดไว้หน้าห้องน้ำ ?
ตอบ : ท่านแขวนตะปูไว้ในห้องน้ำนั่นแหละ เพียงแต่ว่าของพ้นตัวแล้ววาระกรรมก็เข้ามาพอดี จึงโดนเขาบังฟันล้มทั้งยืนเลย

ถาม : อย่างนี้เข้าห้องน้ำแล้วเอาเข้าไปด้วยได้ไหมครับ ?
ตอบ : ก็ได้ แต่ว่าตอนถอดต้องอธิษฐานให้คุ้มกันเราด้วย หลวงปู่ท่านถอดแขวนเฉย ๆ เผลอหน่อยเดียว เวลาวาระกรรมเข้ามาอย่างไรก็ต้องเผลอ

ถาม : บังฟันนี่ไม่มีแผลใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มีแผลข้างนอก แต่ข้างในขาดหมด เท่ากับโดนฟันขาด ๒ ท่อน เพียงแต่ว่าหนังยังดีอยู่ คือจะต้องใช้มีดอาถรรพ์ที่เขาใช้ในพิธี แล้วก็ต้องใช้ต้นกล้วยหรือไม่ก็พวกฟักแฟงแตงน้ำเต้าอะไร ภาวนาจนกระทั่งกายนิมิตของคนที่เราจะฟันปรากฏขึ้นที่นั่น แล้วก็ฟันขาดท่อนไปเลย จะว่าไปก็เป็นอภิญญานะ เป็นกสิณด้วย แต่เขาเอาไปใช้ผิดเท่านั้น แทนที่เอาไว้ใช้ช่วยคนอื่น กลายเป็นไว้ใช้ทำร้ายเขา

เถรี 29-11-2018 08:50

ถาม : มีคนไข้ที่ทำหมันและท้องมา ทีนี้อาจารย์เขาใช้ให้เราไปขูดมดลูก ทำแท้ง ถ้าเป็นอย่างนี้หนูควรจะทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ใครเป็นคนทำแท้ง ?

ถาม : จริง ๆ เขาให้หนูไปทำ แต่...?
ตอบ : ถ้าคนอื่นทำแล้วเราเหลือแค่หน้าที่ขูดมดลูกก็ขูดไปเถอะ เรามีหน้าที่ช่วย หน้าที่ฆ่าเด็กปล่อยให้คนอื่นเขาทำไป

ถาม : ถ้าเราเป็นคนขูดละคะ ?
ตอบ : ถ้าเราเป็นคนทำ เด็กตายก็คือเราฆ่า คราวนี้เราไม่ได้ทำ เรามีหน้าที่ขูดมดลูก เป็นขั้นตอนในการรักษา ต้องแยกให้ออก

ถาม : เขาทำแท้งโดยการขูดมดลูกค่ะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าทำแท้งด้วยการขูดมดลูก อันนี้ก็ไม่รับประกันแล้วว่าโทษจะเกิดกับใคร ต้องดูว่าเด็กตายตอนไหน

ถาม : หนูควรจะต้องทำอย่างไร ?
ตอบ : ถ้าหากว่าถึงการแพทย์ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องจำเป็น เพราะหมอเป็นคนวินิจฉัยเอง เราถือว่าทำตามหน้าที่ เพราะว่าเราไม่ใช่คนที่มีความต้องการทำอย่างนั้น ถึงเวลาถ้าติดใจก็ไปปล่อยชีวิตสัตว์ อุทิศให้กับเด็กเป็นการชดเชยไป

เถรี 29-11-2018 08:52

ถาม : แล้วอย่างกรณีที่เด็กที่อยู่ในท้อง เป็นพวกมีความผิดปกติ เช่น ไม่มีหัว โครโมโซมผิดปกติ แล้วเขาจะต้องทำแท้ง ?
ตอบ : ต้องดูว่ามีจิตเข้าหรือเปล่า ? ตรงนี้ลำบาก ถ้าไม่รู้จริงนี่เจ๊งเลย ต้องมีเจโตปริยญาณ ถ้าหากว่ามีจิตปฏิสนธิอยู่ข้างในแล้ว ไม่ใช่แค่วิญญาณนะ วิญญาณนี่คือประสาทความรู้สึก ดิ้นได้ อะไรได้หมด แต่จิตที่เป็นตัวรู้มีหรือยัง ? ถ้าไม่มีก็ทำได้ ถ้ามีก็แปลว่าบาปกรรม

ถาม : คือถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไป ?
ตอบ : เลี่ยงได้ก็เลี่ยงไป ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ถือว่าเราทำตามหน้าที่ทำตามคำสั่ง ไม่ใช่ความต้องการของเรา พอถึงเวลาก็ปล่อยชีวิตสัตว์อุทิศให้เขา ขอให้เขาอโหสิกรรมให้ด้วย

เถรี 29-11-2018 08:54

มีคนแขวนประคำงามา พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครใช้ประคำทำจากงา ทำจากกระดูก ทำจากเขา ก็อุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าของเขาบ้าง อย่าปล่อยให้เขาเดินผอมโซตามอยู่ตลอด อาตมาใช้อันไหนก็อุทิศส่วนกุศลให้เขาไปเกิดเป็นพรหมเป็นเทวดา หมดเรื่องหมดราวข้ามขั้นตอนไปเลย ไม่ต้องเสียเวลามาลำบาก มีอยู่เที่ยวหนึ่งใช้ลูกประคำทำด้วยเขาจามรี เบื่อที่เขาเดินตาม รับส่วนกุศลไป ๆ ให้พ้นก็แล้วกัน พวกนี้เขามีความยึดติดเหมือนกัน ยึดติดว่าเป็นซากเป็นสังขารของเขา

ถ้าหากว่าเป็นส่วนที่ชอบอย่างเช่นว่าเป็นงาช้างกำจัด ถ้าอย่างนี้ไม่เป็นไร เพราะมันหลุดจากร่างกายขณะที่เจ้าของยังไม่ตาย ไปแทงไปสู้กันไปอะไรกันจนงาหักกระจาย อย่างนั้นจะไม่มีปัญหา แต่เพื่อความปลอดภัยก็อุทิศให้เขาไปก่อน

ปล่อยให้เขาเดินตามผอมโซเลย คนไม่เห็นก็ไม่เป็นไร คนเห็นก็สงสาร แล้วก็ไปยุ่งกับเขาไม่ได้ เพราะว่าเป็นของเขา เขาก็ต้องยึดติด ก็ต้องให้เจ้าของคนใช้เป็นคนอุทิศให้"


เถรี 29-11-2018 09:10

พระอาจารย์จ่ายค่าแบบบาตรน้ำมนต์ "เดี๋ยวนี้ค่าขึ้นแบบแพงมาก บาตรกว้างประมาณ ๑๐ กว่าเซนติเมตร เขาจะออกแบบแล้วขึ้นรูปเป็นสามมิติ เดี๋ยวนี้คอมพิวเตอร์ช่วยได้เยอะ ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องปั้นด้วยมือ

บาตรน้ำมนต์โบราณเรียกว่าครอบน้ำมนต์ ทีนี้ครอบน้ำมนต์ทั่วไปอาตมาเห็นแล้วเซ็ง ใบแค่นี้เอง จุ่มสลัด ๓ ทีก็หมดแล้ว อาตมาก็เลยทำให้ใบใหญ่หน่อย แต่ก็แพง เพราะว่าชนวนที่ใส่ลงไปก็คือส่วนที่เหลือจากการหล่อหลวงพ่อนาก ซึ่งเป็นส่วนผสมทองเสียเยอะ จึงคิดโยมแพงหน่อย เขาจองกันมาก็เกือบ ๑๕๐ ใบ ถ้าชนวนไม่พอ ก็ต้องเอาส่วนอื่นไปเพิ่ม

อาตมาลงทุนทำวัตถุมงคลแต่ละครั้ง จ่ายไปเป็นล้าน ๆ แต่โยมไม่รู้ คราวที่แล้วเฉพาะเรื่องยันต์เกราะเพชรหมดไป ๓ ล้านกว่าบาท ไม่น่าเชื่อ...เนื้อทองคำเขาคิดค่าปั๊มแผ่นหนึ่ง ๑,๒๐๐ บาท จะเป็นลม...! ถึงได้ขำ ๆ ว่าตอนที่แจกในงานกฐิน โยมเขาเวียนมาทำบุญคนละ ๒๐ บาทแล้วก็รับยันต์ไปแผ่นหนึ่ง ก็เลยบอกว่า "โยมรู้ไหมว่าอาตมาลงทุนไปเท่าไร เขาปั๊มโป้งเดียวก็ล่อไป ๔๐ - ๕๐ บาทแล้ว แต่โยมทำบุญให้อาตมาทีละ ๒๐ บาท..!"


เถรี 29-11-2018 09:13

ถาม : ถ้าอุทิศส่วนกุศลให้ท่านที่ตามมาแล้ว ท่านจะมาดูแลเราไหมครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่แล้วท่านทั้งหลายเหล่านี้ถ้าได้ดีเพราะเรา เขามีความกตัญญู แล้วเขามักจะตามรักษา แต่อาตมารำคาญ ส่วนใหญ่ให้แล้วก็ไล่ให้พ้น ๆ หน้าไป เบื่อที่ีตามมาขบวนใหญ่ ๆ บางทีไปกลางทาง เจอหมาโดนรถทับตาย พออุทิศส่วนกุศลให้ เขาไล่ตามเลย ต้องบอกว่าไม่ต้องตามมา เอ็งจะไปไหนก็ไปเถอะ

เถรี 29-11-2018 09:30

ถาม : อยากรู้ว่าเวลาที่เราอ่านนิยายจีน เราสามารถฝึกหรือว่าทำให้เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : นิยายจีนส่วนใหญ่จะเป็นปรัชญาในการดำเนินชีวิต ยกเว้นรุ่นหลัง ๆ อย่างหวงอี้ที่เขียนอย่างพวกมังกรคู่สู้สิบทิศ เทพมารสะท้านภพ จอมคนแผ่นดินเดือด จะมีการฝึกปฏิบัติที่เป็นแนวทางจิตกับทิพจักขุญาณพวกนั้นอยู่ด้วย ถ้าหากว่าเรามีพื้นฐานก็สามารถทำตามได้ นอกนั้นก็แค่ปรัชญาในการดำเนินชีวิตตามหลักของขงจื๊อ

ถาม : ที่เราฝึกคือ อ่านแล้วเราคิดตาม ?
ตอบ : ถ้าหากว่าจะเอาตามแบบพระพุทธศาสนาเราก็ดู รัก โลก โกรธ หลง ดูความทุกข์ของเขา เกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน

เถรี 29-11-2018 09:37

ถาม : ถวายทองคำกับปัจจัยร่วมหล่อพระทองคำ ยังถวายได้เรื่อย ๆ ไหมคะ ?
ตอบ : ได้เรื่อย ๆ เพราะว่าสร้างองค์นี้เสร็จแล้ว ยังมีต่ออีกองค์หนึ่ง

ถาม : หล่อเดือนไหนเจ้าคะ ?
ตอบ :
วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๒ หลังจากนั้นแล้วยังมีอีกองค์หนึ่งตามมา

ถาม : หลังจากสร้างพระทองคำแล้วจะสร้างพระอีกองค์หรือคะ ?
ตอบ : มีอีกองค์หนึ่ง จะสร้างเป็นปางห้ามสมุทรทรงเครื่องจักรพรรดิ เพราะว่าหลังจากที่คำนวณทองอย่างรอบคอบแล้ว เรามีเกิน ในเมื่อมีเกินก็สร้างอีกองค์หนึ่งไปเลย ตอนแรกคำนวณไว้ว่าอยู่ที่ ๑๔๐ กิโลกรัม ปรากฏว่าไป ๆ มา ๆ หลังจากที่หล่อองค์ใช้งานจริงด้วยเงินแล้ว สามารถคำนวณเนื้อทองละเอียดได้ว่าใช้เท่าไร ช่างเขาบอกว่าอยู่ที่ ๙๗ กิโลกรัม เรามีทองเหลือตั้งเยอะก็เลยสร้างอีกองค์หนึ่ง

ถาม : ทำไมถึงสร้างปางห้ามสมุทร ?
ตอบ : อยู่ใกล้เขื่อน ...(หัวเราะ)... เขื่อนแตกนี่จะน้ำจืดน้ำเค็มก็สึนามิทั้งนั้น สารภาพตรง ๆ ว่าเอาไว้กันเขื่อนแตก

ถาม : เวลาท่านสร้างปางห้ามสมุทร ท่านจะมีองค์เล็ก ๆ ด้วยไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มี

ถาม : นึกว่าจะเอาไปบูชาไว้ที่อื่น เพราะว่าตัวเองก็กลัวน้ำ ?
ตอบ : สารภาพตรง ๆ ว่าวัดใกล้เขื่อนก็เลยสร้าง

เถรี 29-11-2018 17:06

พระอาจารย์กล่าวว่า "อยากรู้ว่าใช่ไม้งิ้วดำหรือไม่ ให้หย่อนลงน้ำไปเลย ถ้าเป็นงิ้วดำจะลอยน้ำ มะเกลือนี่จมแน่นอน"

เถรี 29-11-2018 17:09

ถาม : คนเราเกิดมามากมาย เกิดมาในดินแดนที่ไม่ใช่ในพระพุทธศาสนา จะมีประโยชน์อะไรในการเกิดมา ?
ตอบ : สร้างบารมี โดยเฉพาะในเรื่องของการสงเคราะห์ผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าหากว่ายังไม่มั่นคงต่อพระรัตนตรัย อย่างไรก็มีสิทธิ์หลุดไปดินแดนอื่นนอกเขตพระพุทธศาสนา ถ้ามั่นคงแล้ว อย่างไรก็ไม่หลุด

ถาม : อย่างผมไปเมืองจีน ผมก็เห็นคนทั่วไปก็ไม่ได้มีโอกาสในการทำบุญ ?
ตอบ : ก็ของเขายังทำบุญมาน้อยหน่อย ของเราทำมามากกว่า มีโอกาสมากกว่า ก็เร่งทำเข้าไว้

เถรี 29-11-2018 17:10

ถาม : อย่างเวลาจับลมหายใจในการเดิน พอถึงจุด ๆ หนึ่ง ลมหายใจไม่เข้า ต้องหายใจทางปาก ลักษณะอย่างนั้นจะเป็นการกำหนดในอานาปานสติอยู่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าความรู้สึกยังอยู่ก็ยังใช่ ต่อให้ไม่มีลมหายใจก็ใช่ แต่เพียงแต่ว่าเป็นฌานในอานาปานสติ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:32


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว