กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6903)

เถรี 22-02-2020 20:20

"การที่อนุญาตให้เพาะพันธุ์ได้อย่างเนื้อทราย เคยเป็นสัตว์ป่าสงวน ๑ ใน ๙ ชนิด แต่พอเพาะพันธุ์ได้ ปล่อยคืนธรรมชาติไป ก็ถอดเนื้อทรายออกจากสัตว์ป่าสงวน ๑๕ ชนิดได้

ละองหรือละมั่ง บ้านเราปกติแล้วเหลืออยู่แค่ตัวเดียว ก็ไปขอตัวผู้ประเทศอื่นเขามา เพาะพันธุ์ปล่อยคืนธรรมชาติไปได้จำนวนมาก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีคนเห็นนกกระเรียนพันธุ์ไทย แต่ไม่ได้ถือบัตรไทยนะ เพราะว่าบินมาจากเมืองจีน ลงมาเดินหากินในทุ่งแถวขอนแก่น ของเราเองเคยเพาะพันธุ์แล้วปล่อยคืนธรรมชาติที่ทุ่งกระมัง อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ปรากฏว่าบินหายไปหมด คงจะอพยพไปตามสัญชาตญาณบรรพบุรุษ ไปอยู่แถวจีนตอนใต้ ตอนนี้น่าจะคิดถึงบ้าน ก็เลยบินกลับมาเยี่ยมบ้านให้เขาเห็น ๑ ตัว"

เถรี 22-02-2020 20:22

"ถ้าอะไรที่ต้องการให้มีจำนวนมาก ต้องทำเป็นการค้า แต่ทำเป็นการค้าก็มีข้อจำกัดมาก เพราะว่าเขาจะเลือกเอาเฉพาะที่ขายได้ สมัยอาตมาเด็ก ๆ ขนาดไม่ค่อยรู้จัก ยังมีมะม่วง ๒๐ - ๓๐ ชนิด สมัยนี้พวกเรารู้จักแต่เขียวเสวย น้ำดอกไม้ หนองแซง มากกว่านี้ไม่รู้จักแล้ว ก็เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ขายได้ เป็นที่นิยมในท้องตลาด คนเลยแย่งกันทำแต่แบบนี้"

เถรี 22-02-2020 20:27

"สมัยอาตมาเด็ก ๆ มีทุเรียนเป็น ๑๐ ชนิด ปัจจุบันมีแต่หมอนทองเป็นหลัก บางคนบอกว่ามีหลงลับแล หลงลับแลก็ทุเรียนกระดุมสมัยก่อน พวกกระดุม นกหยิบก็คือหลงลับแล บอกว่ามีพวงมณี พวงมณีก็แยกสายไปจากหมอนทอง สรุปว่าอะไรขายได้ก็ทำแต่อย่างนั้น ก็เลยกลายเป็นว่าถึงแม้จะมีจำนวนมากขึ้น แต่ชนิดกลับน้อยลง

จะทำอย่างไรให้ทุกอย่างขายได้เหมือน ๆ กัน โดยเฉพาะอาหารการกิน สมัยก่อนตามหัวไร่ชายนาไปเด็ดไปเก็บเอา เข้าป่าไปพักเดียวหอบออกมาเป็นหอบ ๆ สมัยนี้เหลือผักไม่กี่อย่าง เข้าตลาดไปมีอะไร ? คะน้า ผักบุ้ง กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ถั่วฝักยาว เหลืออยู่ประมาณแค่นี้ ต้องการอะไรมากกว่านี้ต้องไปหาแหล่งอื่น แล้วการที่ผลิตเป็นจำนวนมาก ๆ บ้านเราก็ยังไม่มีการควบคุมเรื่องของสารพิษ พยายามจะคุมแล้วแต่เงินแข็งกว่า ก็ต้องมีการขยายระยะเวลาเพื่อรอให้เขาขายสารพิษหมดก่อน"

เถรี 22-02-2020 20:33

"อาตมาธุดงค์ไปแถวจังหวัดตาก ได้กลิ่นยาฆ่าแมลงไกลเป็นกิโลฯ พอเข้าไปใกล้หมู่บ้าน เห็นเปลือกกะหล่ำปลีที่เขาแกะทิ้ง ๆ เอาไว้ เพื่อที่จะเอาเฉพาะหัวด้านในที่สวย ๆ ไปขาย เน่ากองพะเนินเทินทึก มีแต่กลิ่นยาฆ่าแมลงเหม็นตลบไปหมด แล้วไม่ต้องห่วงชาวบ้าน...เขาไม่กังวลหรอก เขาปลูกแปลงเล็ก ๆ ไว้ข้างบ้าน หนอนบ้างแมลงบ้างกินพรุนไปหมด เขาเก็บเอาไว้กินเอง ส่วนพวกสวย ๆ เขาบอกว่าขายให้คนกรุงเทพฯ กินยาฆ่าแมลงไปเถอะ...!"

เถรี 22-02-2020 20:35

"ตรงจุดนี้แสดงให้เห็นว่าบ้านเราบกพร่องตรงหลักธรรมความซื่อสัตย์สุจริต ในเมื่อไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่ออาชีพของตัวเอง ถ้าคนเขารู้ ต่อไปเขาไม่ซื้อคุณก็ขายไม่ได้ โบราณถึงได้บอกว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน อาตมาได้แต่ด่า ๆ บ่น ๆ บ่นที่ตลาดทองผาภูมิเอาแต่ส้มอ่อนมาขาย เก็บตั้งแต่ลูกยังเขียว ๆ ยังอ่อนอยู่เพื่อที่จะให้อยู่ในตลาดได้นาน ๆ รสชาติสุนัขไม่รับประทาน

โดนด่าไปนาน ๆ ปีที่แล้วเริ่มเปลี่ยน มีของดีเข้ามาขาย ๒ - ๓ เดือนผ่านไปเริ่มมีไอ้ไม่ได้เรื่องเข้ามาอีก ต้องด่าใหม่..ตอนนี้กลับไปดีขึ้นมาอีกที

ส้มอ่อนรับมาก็ราคาถูก ตัวเองขายราคาท้องตลาดก็ได้กำไรมาก แต่ทำให้คนซื้อเขาเข็ด กินไปครั้งเดียวไม่ประทับใจก็เลิกซื้อ คุณจะขายอีกก็ไม่ได้ ในเรื่องของการค้าขาย ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะต้องยึดถือ"

เถรี 23-02-2020 00:13

พระอาจารย์กล่าวว่า "สำหรับบ้านเราแล้ว การตายด้วยอุบัติเหตุบนถนนรู้สึกว่าจะมาก น่ากลัวสุด ๆ แต่คนกลับไม่กลัว ดันไปกลัวไวรัส ช่วงเดือนที่ผ่านมาอาตมาออกข้างนอกวันไหนก็เจอวันนั้น เจ็บบ้าง ตายบ้าง รายที่หนักที่สุด ๒ คนผัวเมียอยู่ในรถกระบะ มุดเข้าไปใต้รถพ่วง ๒๒ ล้อ เหลือท้ายรถอยู่ข้างนอกประมาณศอกเดียว

มีอยู่วันหนึ่งวิ่งไปงานท่านเจ้าคุณทิน (พระโสภณพัฒนคุณ) ที่วัดพุน้อย จังหวัดลพบุรี ปรากฏว่าฝนตกหนัก เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ๗ - ๘ คัน อาตมาก็สงสัยว่าฝนตกแค่นี้รถต้องติดขนาดนี้ด้วยหรือ ? ปรากฏว่าพอคลานไปถึงแล้วจึงได้เห็น แบ่งคู่กรณีออกเป็น ๒ - ๓ กลุ่ม ไม่รู้เหมือนกันว่าชนกันแล้วกระเด็นเปะปะไปชนคันอื่นต่อหรืออย่างไร นาน ๆ จะเจออุบัติเหตุขบวนใหญ่ ๆ แบบนี้สักทีหนึ่ง

แต่ก็เข้าใจว่าที่เขาชนกันเพราะว่ารถแฉลบน้ำ เนื่องจากว่าเลนข้างซ้ายนั้นน้ำท่วมถนนสูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ถ้ารถวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วลงไปในน้ำ จะโดนน้ำดึงให้ความเร็วช้าลง แต่คราวนี้ลงไปล้อข้างเดียว พอล้อข้างหนึ่งช้า อีกข้างหนึ่งเร็ว...รถก็หมุน ในเมื่อหมุนแล้วก็ย่อมต้องหาที่พึ่งพิง ซึ่งในที่นั้นก็คือรถคันอื่น"

เถรี 23-02-2020 00:15

"บ้านเราทั้งเจ็บทั้งตายเพราะอุบัติเหตุแต่ละวันมากมาย แทนที่จะตื่นตัวช่วยกันระมัดระวัง ช่วยกันป้องกัน...กลับไม่มี ไปกลัวไวรัสที่เป็นแล้วตายยากตายเย็น ไอ้ตูมเดียวตายนี่ไม่ค่อยจะกลัวกัน สถิติที่น่าภูมิใจคือ ประเทศไทยตายด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์มากที่สุดในโลก..!"

เถรี 23-02-2020 00:17

"คนเราถ้ายังกลัวตายอยู่ ถึงเวลาประสบเหตุอะไรกับตัวเองก็จะดิ้นรนเอาชีวิตรอด บางทีพอรู้ว่าไม่รอดก็มีการกระทำแบบประชดโลก อย่างที่ประเทศจีน พอถึงเวลาก็ดึงหน้ากากหมอออก แล้วถ่มน้ำลายใส่ ในเมื่อข้าจะตายแล้วหมอก็ต้องตายด้วย กลัวว่าไปคนเดียวแล้วจะเหงา..! สถานการณ์แบบนี้ถ้าเกิดขึ้นในบ้านเราจะเป็นอย่างไร ? ต้องดูตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น โดนสึนามิ โดนน้ำท่วม พอถึงเวลาก็เข้าคิวกันเป็นระเบียบเรียบร้อย รอรับการช่วยเหลือ

ส่วนบ้านเรานี้แย่งกันจนจะเหยียบกันตาย ขนาดทำบุญยังแย่งกัน หลวงตาวัชรชัยโดนมาเมื่อวันสวดพระคาถาเงินล้าน ไอ้คนแย่งกันทำบุญไม่ฟังเสียงใคร ไม่ฟังเหตุ ไม่ฟังผล กูต้องได้ทำก่อน

ในเรื่องของการทำบุญของคนหมู่มาก แย่งชิงกันอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ถึงอย่างไรก็ต้องเฉลี่ยกันไป ไม่ใช่ว่าเราทำก่อนแล้วได้ คนอื่นทำทีหลังไม่ได้ แต่เราก็มักจะลืมตัวกัน"

เถรี 23-02-2020 00:20

"อาตมาไปเจอในงานหล่อพระที่แพรนดาจิวเวลรี่ โยมโถมกันเข้าไปทำบุญ เหยียบเด็กเล็กที่นั่งอยู่ด้านหน้าร้องลั่นเลย แปลว่าขาดสติ แล้วก็ขาดปัญญาด้วย

หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ท่านบอกว่า การทำบุญนั้นดี แต่ต้องทำแบบคนมีปัญญา หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อาตมารู้จักท่านนานเกิน ๓๐ ปี ไม่เคยเห็นท่านโกรธใคร แต่วันนั้นพอญาติโยมประดังกันเข้าไปทำบุญ ด้านซ้ายก็ดันเข้ามา ด้านขวาก็ดันเข้ามา ด้านหลังก็ดันเข้ามา คนอยู่ข้างหน้าเลยออกไม่ได้

หลวงปู่ท่านดุ แต่คราวนี้สิ่งที่หลวงปู่ดุคนอื่นฟังออกหรือเปล่า ? ท่านบอกว่า "ข้ามน้ำฮื่อผ่อคนนำ" ก็คือข้ามน้ำให้มองคนนำ มาจากในบาลีธรรมบทที่บอกว่า ฝูงวัวข้ามน้ำ จ่าฝูงไปทางไหน ลูกฝูงก็ตามไปทางนั้น คราวนี้พอ ๓ ด้านดันเข้ามาหมด แล้วคนข้างหน้าจะออกอย่างไร ? คนข้างหลังก็เข้าไปทำบุญไม่ได้ ก็เลยทำให้เห็นชัดว่าคนไทยเราขาดการฝึกฝนอบรมอย่างแรง

แม้กระทั่งการเข้าคิวก็มีคนลัดคิวประจำ อย่างอาตมานี่โดนบังคับให้ลัดคิว เจอฝรั่งประท้วงไป ๒ ครั้งแล้ว ลงจากเครื่องบินก็มาเรียกแท็กซี่ คราวนี้ของพระเขาอนุญาตพิเศษให้ลัดคิวไปได้ ฝรั่งก็ไม่ยอม ฝรั่งทำถูก คนไทยทำผิด ให้พระแซงคิว อาตมามีบัตรธนาคาร Precious Customer แซงคิวได้ทุกสาขา พอเขาเอามาถวาย ก็บอกเขาว่า "บัตรนี่คุณทำให้โยมด่าพระ" คนอื่นเขาเข้าแถวรอกันยาวเหยียด พระไปถึงแซงคิวได้ทุกสาขา

บ้านเรายังเห็นแก่หน้าค่าชื่อ ยังมีสิทธิพิเศษ แสดงออกให้เห็นว่า ในส่วนของความเจริญสากลแบบนานาอารยประเทศยังมีน้อยมาก"

เถรี 23-02-2020 00:24

พระอาจารย์กล่าวว่า "เขาส่งนิมนต์มาทางไลน์ ถามว่าเดือนมิถุนายนว่างไหม ? จะนิมนต์ ก็เลยตอบกลับไปว่า แม้แต่วันเกิดก็โดนนิมนต์ไปแล้ว เพราะฉะนั้น..ปีนี้ห้ามทำบุญวันเกิด โยมที่นี่ก็ไม่ต้องนิมนต์นะ ถ้าไม่ใช่งานเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่งานของคนหมู่มาก อาตมาไม่มีอารมณ์ไปหรอก

เขาบอกว่ากรกฎาคมก็ได้ครับ นี่ขนาดบอกมิถุนายนไม่มีแล้ว ยังกรกฎาคมก็ได้ครับ"

เถรี 23-02-2020 00:27

พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงที่ผ่านมาไปเยี่ยมพระป่วยหลายรูป มีอยู่รูปหนึ่งหมอบอกว่าปอดอักเสบ ไปนอนโรงพยาบาล ปรากฏว่าตรวจละเอียดแล้วปอดข้างล่างหายไปส่วนหนึ่ง หมอสันนิษฐานว่าเกิดจากเชื้อราที่ติดขนแมว พอหายใจเอาขนแมวเข้าไป เชื้อราก็เลยเข้าไปกินปอดแทน หายไปครึ่งกลีบ

ถามท่านว่าคุณเลี้ยงแมวหรือ ? ท่านบอกว่า "ครับ..ผมเลี้ยงแมวหลายตัว แล้วก็อุ้มเล่นอยู่ทุกวัน" ไม่เคยเห็นตอนท่านอุ้มแมว ไม่นึกว่าที่วัดท่านแมวจะเยอะ ถ้าสมัยนี้เขาเรียกกันว่า "ทาสแมว"

ท่านเป็นพระเถระค่อนข้างจะมักน้อยและสันโดษ จะตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรท่านก็ไม่เอา จะให้เป็นเจ้าคณะตำบลท่านก็ไม่เอา บวชมาประมาณ ๔๐ พรรษาแล้ว ปรากฏว่าปอดหายไปมุมหนึ่ง โดนเชื้อราจากขนแมวกินปอดไป ถ้ารักษาไม่ทันก็อาจจะหายเยอะขึ้นไปอีก เพราะว่าทางด้านบนก็มี ๒ จุด ถามว่าไอ้จุด ๆ นี่วัณโรคไม่ใช่หรือ ? ท่านบอกว่าไม่ใช่ คนละอย่างกัน วัณโรคก็คือเชื้อวัณโรค นี่เป็นเชื้อราจากขนแมว เพราะว่าท่านไม่ไอ ท่านมีแต่ไข้อย่างเดียว"


เถรี 23-02-2020 00:30

พระอาจารย์กล่าวว่า "รู้ไหมว่าที่อาตมาเร่งสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิต ก็เพราะเบื่อทำสะเดาะเคราะห์ให้โยมแบบนี้ เดี๋ยวพอทำเสร็จแล้วใครมาให้สะเดาะเคราะห์ จะไล่ให้ไปบูชาพระแทน"

เถรี 25-02-2020 09:02

ถาม : ที่หลวงพ่อเล่าว่า ที่วัดท่าซุงมีหมาอยู่ตัวหนึ่งที่กัดพระตลอด แต่ตายไปกลายไปเป็นเทวดา หมากัดเขาไม่บาปหรือครับ ?
ตอบ : หมาไม่รู้ เหตุที่ไม่รู้เพราะหลวงพ่อบอกว่าชาติก่อนเขาตายตอนกำลังรบตะลุมบอนกันอยู่ แยกมิตรแยกศัตรูไม่ออก เพราะฉะนั้น..ใครมีทีท่าจะเป็นศัตรูก็กัดเอาไว้ก่อน

ถาม : ตอนหมากัด ไม่มีความผิดใช่ไหมครับ ?
ตอบ : สัตว์เดรัจฉานถึงทำผิดโทษก็น้อยกว่าเพราะว่าเขาอยู่ในภพภูมิที่ต่ำ สภาพจิตมืดบอดมากกว่า เหมือนกับคนเราถ้าฆ่าพ่อฆ่าแม่เป็นอนันตริยกรรม แต่ถ้าสัตว์ฆ่าพ่อฆ่าแม่ไม่เป็นอนันตริยกรรม โทษของเขาน้อยกว่า และอานิสงส์ที่คอยดูแลวัดผลบุญมีเยอะกว่า ถ้านึกหน้าใครไม่ออกก็นึกถึงไอ้ท่านใหม่ ชื่อใหม่เหมือนกัน ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงพระครูสังฆรักษ์ชัยพร จะนึกออกเองว่าหมาชื่ออะไร..?!

เถรี 25-02-2020 09:17

ถาม : เกย์กับตุ๊ดบวชได้ไหมครับ ?
ตอบ : เกย์กับตุ๊ดบวชได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับพระอุปัชฌาย์เป็นผู้พิจารณา อย่างวัดท่าขนุนบอกแล้วว่า ถ้าคุณเก็บอาการได้ก็บวชได้ ถ้าออกอาการเมื่อไรต้องสึก เราไม่ได้รังเกียจ แต่จะทำส่วนรวมเสียหาย

แบบเดียวกับที่ไปบรรยายธรรมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาถามว่าหลักการปฏิบัติธรรมของเพศที่ ๓ มีอะไรบ้าง ? ก็บอกกับเขาไปว่า ไม่มีหรอกเพศที่ ๓ มีแค่ ๒ เพศเท่านั้นแหละ ศีล สมาธิ ปัญญา เหมือนกัน เพียงแต่ว่าคุณมีความเข้าใจหรือเปล่าว่า ระหว่างการสร้างบารมีนั้นเริ่มจากผู้หญิงมาเป็นผู้ชาย ถ้าหากบารมีต้นก็เป็นผู้หญิงตลอด อุปบารมีก็เริ่มจะเป็นผู้ชาย อุปบารมีขั้นกลางเป็นผู้ชายมาใหม่ ๆ นิสัยผู้หญิงก็ยังติดมา คราวนี้พอเป็นลักษณะอย่างนี้ จะไปนับเข้าเป็นอีกเพศหนึ่งก็ไม่ได้หรอก

เถรี 25-02-2020 09:22

ถาม : โยมผู้หญิงก็บารมีน้อยกว่าสิ ?
ตอบ : ไม่ถูก เพราะว่าผู้หญิงที่เขาเป็นเนื้อคู่ของพระโพธิสัตว์ ท่านก็ยังเกิดเป็นผู้หญิงอยู่ ต่อให้บารมีมากกว่าเรากี่เท่าก็ยังเกิดเป็นผู้หญิงอยู่ อีกประเภทหนึ่งก็คือเป็นผู้ชายแล้วแรดมาก..! จะโดนบังคับให้เกิดเป็นผู้หญิง ไอ้นั่นบารมีเยอะเท่าไรก็ต้องไปเกิด เพราะว่าตัวเองสร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้ จะได้รู้ว่าความช้ำใจเป็นอย่างไร พอถึงเวลาก็มีกิ๊กยันเตเลย พวกเรื่องกิ๊กนี่บางทีเขาไม่ได้อยากมีหรอก แต่มาตามวาระ ต้องระวังให้ดี ถ้าหากว่าไม่มีสติสัมปชัญญะอยู่ก็จะพัง ส่วนมากถึงตาย..!

ถาม : ถ้าอย่างนี้ก็ไม่ผิดสิครับ เพราะว่ามาตามวาระ?
ตอบ : ผิด...มาตามวาระก็คือวาระกรรมที่สร้างเอาไว้ ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะต่อกรรมไหม ? ไม่ผิดก็ไม่มีหรอก

ถาม : ผมจะได้พยายามไปเล่าให้ภรรยาฟัง ?
ตอบ : อย่าพยายามเอาอาตมาไปอ้าง เดี๋ยวจะโดนลูกหลงไปด้วย

ถาม : เดี๋ยวบ้านแตก
ตอบ : บ้านแตกไม่เป็นไรหรอก หัวแตกสิสำคัญ...!

ถ้าถึงวาระบุญกับวาระกรรมที่สร้างร่วมกัน เขาก็จะมา ก็อยู่ที่เราว่ามีสติสัมปชัญญะแค่ไหน ถ้ามีสติสัมปชัญญะ มีความมั่นคงในศีล ก็สามารถที่จะประคองตัวรอดไปได้ ถ้าไม่มีความมั่นคงในศีลก็จะไหลไปตามเวรตามกรรม แล้วก่อเวรก่อกรรมมากขึ้นไปอีก ชาติต่อ ๆ ไปก็ต้องมาผูกเวรผูกกรรมกันต่ออีก ไม่เห็นหรือ..? คู่นักร้องกับเมียที่ทะเลาะกันบ้านจะแตก ลงเต็มโซเชียลไปหมด แต่ไม่เห็นจะเลิกกันเสียที..!

เถรี 25-02-2020 09:27

ถาม : เพศตรงข้ามที่โผล่เข้ามาในชีวิตมากมาย นี่เข้ามาหนุนเสริมหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : บางคนก็ไม่ใช่ บางคนก็มาหนุนเสริม บางคนก็มาตัดรอน แล้วแต่ว่าสร้างบุญร่วมกันมาหรือสร้างกรรมร่วมกันมา ก็เลยเหมือนกับเลือกผิดเลือกถูก อยู่ที่ว่าดวงจะเฮงแค่ไหน

ถาม : แล้วท่านไม่เจอคู่บารมีบ้างหรือครับ ?
ตอบ : เจอ...คราวนี้มีอยู่อย่างเดียวก็คือว่า ถ้าเราคงมั่นคงต่อแนวทางของเรา เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ไอ้ที่มาตามตื๊อตามอะไรอยู่เป็นพรรษา ๆ ท้ายสุดก็โดนไล่เตลิดไปหมด

เรื่องของเนื้อคู่ต้องบอกว่ายิ่งกว่าถูกหวยอีก ถูกยากถูกเย็น ไปถูกเลขท้ายสองตัวก็พอดีใจได้หน่อยหนึ่ง จะไปหวังรางวัลที่หนึ่งก็ยากมาก

ดูคุณชรินทร์กับเพชรา มีแต่คนเขาบอกว่าเพชราตาบอด มองอะไรไม่เห็น คุณชรินทร์จะนอกใจขนาดไหนก็ไม่มีใครว่าอยู่แล้ว ทำไมถึงได้รักนักรักหนา ดูแลกันมาถึงขนาดนี้ ? คุณชรินทร์เขาบอกว่า ตอนที่จีบกันใหม่ ๆ เขาเป็นคนที่ไม่น่าจะได้รับเลือก เพราะว่าคุณสมบัติต่ำสุด มีอย่างเดียวคือเป็นนักร้อง ไม่ว่าจะฐานะ ไม่ว่าจะความรู้ ไม่ว่าจะในสภาพในสังคมวงศ์ตระกูลอะไรก็ตาม สู้ใครไม่ได้เลย แต่ในเมื่อคุณเพชราเลือกแล้ว เขาบอกว่า ของที่ได้มายากขนาดนี้ ถึงเวลาก็ต้องดูแลรักษาให้ดีที่สุด

เถรี 26-02-2020 20:24

ถาม : ตอนผมนั่งฟังเพลงที่ชอบมาก ๆ อารมณ์เบาสบายคล้ายกับตอนนั่งสมาธิ ถ้าตายตอนนั้นลงข้างล่างหรือขึ้นข้างบนครับ ?
ตอบ : ไปเป็นกามเทพกระมัง..? ต้องดูว่าจิตสุดท้ายของเรายึดอะไร ถ้าถามว่าไปไหนนี่ยังบอกไม่ได้ เพราะว่าอาสันนกรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก บางคนขนาดได้ฌานได้สมาบัติ ก่อนตายเสียงกระแทกข้างฝาปั้ง..! ใจหลุดจากสมาธิ...เสร็จเลย

ฟังเพลงอย่าไป รัก โลภ โกรธ หลง ตามเนื้อเพลงก็แล้วกัน พอถึงเวลาเพลงร้อง “เจ็บใจคนรักโดนรังแก ข้าจะเผาเมืองแปรให้มันวอดวาย” ถ้าไหลตามไปก็ลงนรกเลย..!

เถรี 26-02-2020 20:27

ถาม : ตอนผมขับรถ ผมสวดคาถาเงินล้านได้นาทีละ ๔-๕ จบ เกือบ ๆ เท่ากับตอนนั่งสมาธิ อานิสงส์เท่ากันไหม ?
ตอบ : ยังสวดไม่เท่า ก็แปลว่าอานิสงส์ไม่เท่ากัน

ถาม : ผมกลับไปนึกว่า เป็นเพราะเราชำนาญ แล้วเราไม่ได้นั่งสมาธิ ก็เลยเป็นอัตโนมัติ ?
ตอบ : ในเรื่องของอัตโนมัติต้องใส่ความตั้งใจไปด้วย ความตั้งใจในที่นี้คือสติ ถ้าขาดสติอานิสงส์ก็น้อย เพราะฉะนั้น..อย่าปล่อยให้เป็นอัตโนมัติอย่างเดียว ต้องเอาสติคอยคุมไว้ด้วย

ถาม : สวดไปด้วยและคิดเรื่องอื่นไปด้วย ?
ตอบ : ก็ได้อานิสงส์น้อยลงไปหน่อย

เถรี 26-02-2020 20:29

ถาม : ผมเอาใจจับภาพพระไป และก็สวดไป เปลี่ยนภาพพระไปเรื่อย ๆ อย่างนี้อานิสงส์ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้...เพียงแต่ว่าลักษณะของเราเหมือนคนขี้เบื่อ พอนาน ๆ ไปถ้า
เคยชิน นิสัยแบบนี้จะลำบาก เพราะว่าถึงเวลาถ้าไม่เปลี่ยนภาพพระแล้วใจจะไม่สงบ

ถาม : ผมไปคิดว่า ผมไปกราบพระทั้งประเทศทุกวัน วันไหนเลิกรู้สึกเดี๋ยวเสียสัจจะ จริง ๆ แล้วเรามาอยู่กับตัวเองได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ได้..อยู่ตรงนี้นึกถึงพระทั้งประเทศ แล้วก็กราบทีเดียว

เถรี 26-02-2020 20:36

ถาม : เรื่องไอ้ไข่ ผีอื่นมาแอบอ้างเป็นไอ้ไข่ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้...เพียงแต่ว่าถ้าอยู่ในเขตนั้นก็เสร็จ อย่าลืมว่ามหิทธิกาเปรตนี่เทวดาระดับต่ำ ๆ ยังต้องถอย สู้เขาไม่ได้

ถาม : ไม่มีใครทำบุญให้เขาหรือครับ ?
ตอบ : พวกนี้เขามีพื้นฐานของฌานของสมาบัติมาก่อน แต่อยู่ในลักษณะเป็นมิจฉาสมาธิ เป็นพ่อมดหมอผีอะไรมา พอถึงเวลาตายไปเสวยทุกข์อะไรตามกรรมของตัวเอง ก็ต้องมาเกิดเป็นมหิทธิกาเปรต คนทำบุญให้นั้นมี แต่เขายินดีไหม ? เพราะว่าบางทีความเป็นมิจฉาทิฐิมีมาก ก็รู้สึกว่าเราดีที่สุดแล้ว เราเลิศที่สุดแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องไปพึ่งใครอาศัยใคร

ถาม : อุทิศให้ไปก็ใช่ว่าจะรับ ?
ตอบ : ก็อย่างอาตมาอุทิศให้เขาบอกว่า “ท่านไม่ต้องยุ่ง”

เถรี 26-02-2020 20:52

ถาม : วัดเจดีย์เขาก็ไม่ค่อยชอบสร้างวัตถุมงคล แต่วัดอื่นเขาเอาไปสร้าง คนบูชาก็ถูกหวยกัน ?
ตอบ : วันก่อนเห็นพ่อค้าหวยไปแก้ผ้าวิ่ง ไปขายหวยในงานไอ้ไข่ บอกว่าถ้าขายได้หมดแผงจะแก้ผ้าวิ่ง ตั้ง ๖๐๐ ใบ ใครจะไปคิดว่าเขาจะซื้อพรวดเดียวหมด ก็เลยสมน้ำหน้า

ถาม : ถ้าพ่อค้าให้ลูกชายแก้ผ้าวิ่งแทนได้ไหมคะ ?
ตอบ : ระวังเอาไว้ ถ้าไม่ตรงไปตรงมาเดี๋ยวก็โดนเขาสอย บนอะไรมาต้องแก้กันตรงไปตรงมา

ถาม : ถ้าเราบนให้คนอื่นทำแทนอย่างนี้จะผิดไหมครับ อย่างให้ลูกชายบวชให้ แต่ลูกชายไม่ยอมบวช ?
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็ผิด เพราะว่าต้องบวชให้ได้ ถ้าคุณไม่มั่นใจแล้วคุณไปบนให้เขาบวชทำไม ? นี่เจอมาแล้วกับตัวเอง บนให้เพื่อนบวช ยังดีนะว่าเพื่อนรักกันจริง ไม่อย่างนั้นไม่บวชให้หรอก ตัวเองแทนที่จะบนให้ตัวเองบวช ดันไปบนให้เพื่อนบวช แต่ตัวเองรับผลสำเร็จ น่าจะฆ่าให้ตายเลย..!

เถรี 26-02-2020 21:03

ถาม : การอ่านหนังสือ ถ้าใช้บทสะหัสสะเนตโตฯ ด้วย ?
ตอบ : โดยปกติก็ควรจะใช้ ภาวนานำไปก่อนเลยสัก ๒๐-๓๐ นาที อ่านเสร็จก็ภาวนาซ้ำใหม่ ขอให้มีความคล่องตัวมาก ๆ บางคนถ้าทำขึ้นจริง ๆ พออ่านไปก็จะรู้เลยว่าตรงนี้จะออกข้อสอบ

วันก่อนพระอุปัชฌาย์รุ่นน้อง บอกว่าหนักใจเรื่องกฎ ๑๗ ซึ่งมีตั้ง ๔๑ ข้อ ก็เลยบอกว่า "นี่ ๆ ข้อนี้ออก คุณท่องเอาไว้ก็แล้วกัน" แล้วก็ออกลักษณะน่าเกลียดมาก คือข้อ ๑๙ ระบุเอาไว้ว่า ‘พระอุปัชฌาย์เมื่อให้การอุปสมบทแก่กุลบุตรแล้ว จะต้องปกครอง
สอดส่องดูแลให้การศึกษา และติดตามเรื่องการออกหนังสือสุทธิให้’ แต่เขาจะไม่ถามอย่างนี้ เขาถามว่าหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์ที่มีต่อกุลบุตรมีกี่ข้อ ? อะไรบ้าง ?

ข้อที่ ๑ ก็คือปกครอง ข้อที่ ๒ สอดส่อง ข้อที่ ๓ คือดูแล ข้อที่ ๔ ให้การศึกษา ข้อที่ ๕ ตามออกหนังสือสุทธิให้ ออกอย่างนี้น่าตายไหม ? คือไม่ใช่ว่าเราท่องได้แล้วจะตอบได้นะ เพราะบางทีก็หาไม่เจอว่าอยู่ตรงไหน ตอบไม่ครบก็โดน แล้วก็ไม่ใช่ว่าอาตมาจะบอกเขาไปได้ทุกเรื่อง

เถรี 26-02-2020 21:08

วันก่อนเพิ่งจะมีข่าวไป ที่พระท่านบ่น “สองร้อยบาทยังกล้าถวายน้อ” ด้วยความที่ท่านเองคิดไม่รอบคอบ ท่านพูดเสร็จแล้วท่านก็ต่อท้ายว่า “ต่อไปโยมไม่ต้องถวายก็ได้ เอาแค่ข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงก็พอ” แต่คนไปโฟกัสตรง ๒๐๐ บาทไปแล้ว โอ้โฮ...คราวนี้ก็ด่ากันให้กระจายเลยสิ

ถาม : ลงนรกไหมครับ ?
ตอบ : คนด่าลงแน่นอน..!

เถรี 26-02-2020 21:12

คราวนี้พอนักข่าวไปสัมภาษณ์ ท่านถึงได้บอกว่า ท่านไปนิมนต์พระคู่สวดมาจากวัดอื่น ถ้าไปเจอวัดไกล ๆ ๒๐๐ บาท จะพอค่าน้ำมันของท่านไหมเล่า ?

อาตมาเจอมากับตัวเองเลย แล้วก็น่าต่อว่าอย่างที่ท่านว่า คือเจ้าภาพบวชลูกชาย เขาบอกว่าเขาสั่งโต๊ะจีนมา หมดไป ๓๕,๐๐๐ บาท บวชลูกแล้วจะได้ฉลอง ปรากฏว่าพอบวชเสร็จ หลวงพ่อพระเทพเมธากร เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีตอนนั้นแกะซองมาดู “เฮ้ย...อาจารย์เล็ก ดูของคุณหน่อยสิ เขาให้ผิดซองหรือเปล่า ?” อาตมาก็แกะของตัวเองออกมา...๒๐ บาท...! ของหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์ ๒๐๐ บาท

ท่านก็คิดว่าเขาให้ผิด แต่ไม่ได้ให้ผิดหรอก เขาให้แค่นั้นแหละ เลยหันไปหาท่านมหาทองดี มหาทองดีแกะออกมาก็ ๒๐ บาท ตกลงว่าคู่สวดได้ ๒๐ บาท พระอุปัชฌาย์เป็นเจ้าคณะจังหวัด พระราชาคณะชั้นเทพด้วย ได้ ๒๐๐ บาท แต่เขาเลี้ยงโยมไป ๓๕,๐๐๐ บาท นี่คือการลำดับความสำคัญของแต่ละคนไม่เท่ากัน ถ้าอย่างอาตมา...ก็คิดว่าการทำบุญกับพระได้อานิสงส์มากกว่า จะให้ความสำคัญด้านนี้มากกว่า แต่เขาเห็นว่าการเลี้ยงคนสำคัญกว่า เขาก็ไปทุ่มเททางด้านโน้น

สรุปว่าหลวงพ่อท่านดึงใบละ ๑๐๐ บาท มาหนึ่งใบ “เอ้า...คุณไปแบ่งกับมหาทองดีคนละครึ่ง” อาตมากับมหาทองดีได้คนละ ๗๐ เจ้าคณะจังหวัดได้ไป ๑๐๐ บาท แล้วว่ากันไม่ได้ด้วย เพราะว่าเขาลำดับความสำคัญไม่เท่ากัน เขาเห็นว่าการเลี้ยงญาติเลี้ยงโยมเลี้ยงเพื่อนฝูงสำคัญที่สุด ถวายพระอุปัชฌาย์อาจารย์คู่สวดไม่สำคัญ เขาก็ให้แค่นั้น เพียงแต่สงสัยเหมือนกันว่าคู่สวดได้ ๒๐ แล้วพระอันดับจะได้เท่าไร ?

เถรี 26-02-2020 21:16

ถาม : ถ้าเอาเงินกฐินผ้าป่าไปใช้ในมหรสพล่ะครับ ?
ตอบ : เขาไม่ได้ตั้งใจให้ใช้ในงานมหรสพนะ เท่ากับว่าใช้เงินสงฆ์ผิดประเภท แต่ส่วนใหญ่เขาก็ทำกันอย่างนั้น หานรกใส่ตัวโดยไม่รู้ ครูบาอาจารย์ของเขาก็ไม่ได้บอกเอาไว้

เถรี 26-02-2020 22:19

มีวัดอยู่วัดหนึ่งขออนุญาตออกชื่อเลย วัดท่าตาเสือ อยู่เขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี จัดงานปิดทองฝังลูกนิมิต ลงทุนไป ๕ ล้านบาท ได้คืนมา ๓ ล้านบาท กำไรแหลกลาญเลย..! พอได้ยินเขาเล่าให้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกว่า ถ้าเป็นกรรมการวัดของกูนะ จะค่อย ๆ บีบคอมัน..!

เขาไปสั่งรถกระบะเครื่องดีเซล ๓๐๐๐ รุ่นแรกมาออกเบอร์ เบอร์ละ ๒๐๐ บาท คนก็สอยกันกระจายเลยสิ รถกระบะทั้งคัน ๒๐๐ บาทเอง แต่ปรากฏว่าครึ่งวันแรกเบอร์หลุด..! คือปกติงานอย่างนั้นดึก ๆ วันสุดท้ายเขาถึงจะเอาเบอร์มาแขวน นี่กรรมการวัดโคตรจะซื่อสัตย์เลย กูแขวนหมดทุกเบอร์ตั้งแต่วันแรก พอเจ้าอาวาสไปต่อว่า เขาบอกว่า “ผมอุตส่าห์แขวนไว้โคนต้น นึกว่าไม่มีใครเอา”

สรุปว่าลงทุนไป ๕ ล้านบาท ได้คืนมา ๓ ล้านบาท เพราะว่าเขาสอยได้รถไป ก็ไม่มีใครซื้อแล้ว เบอร์ก็ตาย ขายไม่ออก นั่นก็คือในลักษณะของการจัดงานวัดแบบลงทุนมาก

เถรี 26-02-2020 22:21

อย่างวัดหนองพงนก ตอนจัดพุทธาภิเษกเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูป อาตมาโดนนิมนต์ไปเป็น ๑ ใน ๑๐๘ นั่นเขาลงทุนไป ๘ ล้านบาท จัดงานได้คืนมา ๑๒ ล้านบาท อาตมาบอกว่า "อาจารย์เวียน ถ้าเป็นผมนะ ไม่ทำให้เหนื่อยหรอก จัดงาน ๙ วัน ๙ คืน เหนื่อยแทบรากเลือดได้เพิ่มมา ๔ ล้านบาท ถ้ามี ๘ ล้านอยู่ในกระเป๋าดี ๆ ผมไม่ไปจัดงานให้เหนื่อยหรอก"

ท่านลงทุนไป ๘ ล้านบาท แล้วได้มา ๑๒ ล้านบาท คนอื่นเขาไปแตกตื่นตรงตัวเลข ๑๒ ล้าน จนลืมหักต้นทุน

เถรี 26-02-2020 22:26

ถาม : ตอนนี้ทองคำเกือบครบหรือยังครับ ?
ตอบ : ยังเลย..มีเงินพอที่จะซื้อนะ แต่อยู่ ๆ พอราคาขึ้นพรวดไปก็เลยต้องหยุดไว้ก่อน เพราะว่าถ้าซื้อตอนนี้จะขาดทุนเยอะมากเลย กะว่าสักบาทละ ๑๙,๐๐๐ บาทจะซื้อ ปรากฏว่าราคาโดดขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วบ้านเราก็บ้า เงินแข็งเท่าไรทองคำก็ขึ้น ซึ่งปกติถ้าเงินแข็งค่า ทองคำจะราคาตก แต่ถ้าทองคำต่างประเทศขึ้น บ้านเราขึ้นทันที ทองคำต่างประเทศลง บ้านเราไม่ค่อยจะลงกัน

ถาม : อย่างนี้ก็ยังไม่กำหนดวันที่จะหล่อสิครับ ?
ตอบ : ยัง..แล้วเราจะไปเดือดร้อนอะไร ? เพราะแบบก็มีอยู่ ถึงเวลากำหนดว่าวันนี้หล่อ พรุ่งนี้เขาก็ทำทัน เพราะว่าสมัยนี้ใช้เตาแก๊ส ไม่ต้องใช้ฟืนสุมแล้ว ถึงเวลาใช้เตาแก๊สเป่าเลย แบกแก๊สถังใหญ่ไป ๒ ถัง องค์ใหญ่แค่ไหนก็หล่อได้ รุ่นแรก ๆ จำได้ไหม ? ที่เขาให้เราหาฟืนทีหนึ่ง ๓ คันรถสิบล้อ ๕ คันรถสิบล้อ เอาไปให้เขาสุมแบบ สมัยนี้ไม่ต้องแล้ว เขาใช้แก๊สกันหมดแล้ว

เถรี 26-02-2020 22:32

ถาม : ผมสงสัยว่า ลิเวอร์พูลปีนี้ที่เก่งขนาดนี้ เพราะ “ท่านเจ” หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : อาตมาบอกกับท่านแล้วว่า ถ้าตราบใดลิเวอร์พูลยังได้แชมป์อยู่ คุณห้ามสึกนะ จะสึกก็ต่อเมื่อลิเวอร์พูลตกรอบ ใครจะไปคิด ดันทะลึ่งไปบนว่า ถ้าลิเวอร์พูลชนะแล้วจะบวช โดนเขานำไป ๓ - ๐ ใครจะไปนึกว่าชนะ ท้ายสุดก็เลยบวชอยู่จนทุกวันนี้ เมื่อวันก่อนถึงได้แซวไปว่า ถ้าลิเวอร์พูลได้แชมป์ คุณก็อยู่ไปเรื่อย ๆ เลยนะ ตกรอบเมื่อไรแล้วค่อยสึก สมัยก่อนแฟนหงส์กับแฟนผีนี่ประเภทคู่กัดกันเลย

เถรี 26-02-2020 22:39

ถาม : เวลาที่โยนหินล้อมที่นอนเวลากลางคืน กันเผื่อเวลานอนแล้วขาดสติหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ต่อให้มีสติ บางเวลาถ้าวาระกรรมมาถึงก็โดน จึงต้องอาศัยบารมีพระท่านสงเคราะห์

เถรี 26-02-2020 22:41

เมื่อวานนี้ที่สิงห์บุรี โยมมารายงานว่ารถโดนชนกลางลำเลย แต่ปลอดภัย ตัวเองโดนกระจกบาดหน้าเป็นแผลไปหน่อยหนึ่ง เขาบอกว่าส่วนที่พอใจที่สุดก็คือกำลังใจของเขานิ่งมาก ไม่ตกใจ ไม่หวั่นไหว ไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องเสียโฉมอะไรทั้งนั้น อาตมาก็เลยบอกว่า นั่นคือผลการปฏิบัติของเราที่ค่อย ๆ สะสมตัวมาเรื่อย ๆ พอถึงเวลาฉุกเฉินก็จะแสดงออกว่าเรามีต้นทุนเท่าไร

ถาม : ได้เฉพาะตอนฉุกเฉินสิคะ ?
ตอบ : ก็ตอนนั้นเห็นต้นทุนแล้ว ทำอย่างไรที่เราจะรักษาต้นทุนของเราให้ปรากฏชัดอยู่ได้ ก็อยู่ที่การฝึกฝน ไม่อย่างนั้นก็ต้องรอฉุกเฉินอีก ถ้าอยากจะรู้ก็ไปลองตัดหน้า ๑๘ ล้อ เดี๋ยวก็เห็นเองว่าต้นทุนมีเท่าไร แต่ถ้าจะโดน ๑๘ ล้อบี้แบบคราวโน้นก็ช่วยไม่ได้ ๒ คันเล่นเบียดกันเข้ามา แล้วรถของเราอยู่ตรงกลาง

ถาม : ท่านโดนบ่อยหรือครับ ?
ตอบ : อันนี้โยมเขาโดนแล้วเขามาขอบคุณที่อุตส่าห์ค่อย ๆ สอนค่อย ๆ สั่ง แล้วเขาก็ไม่ค่อยจะเอาไหน แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ที่แท้ต้นทุนเขาก็มีพอ ส่วนประเภทกระจกบาดหน้าเป็นแผลหน่อยเดียวนั่นเขาถือว่ายางบอน ไม่ถือว่าเสียเลือดเสียเนื้อ

เถรี 26-02-2020 22:45

ถาม : ตอนที่ประสบอุบัติเหตุ ตอนนั้นไม่อยากใส่พระเลย มีความรำคาญ อยากถอดออกให้หมด แต่โชคดีที่เหลือพระคำข้าวไว้ครับ ปรากฏว่าคนขับตายคนหนึ่ง อีกสามคนไม่ใส่อะไรเลยครับ ?
ตอบ : เราจะเห็นชัดเลยว่าถึงวาระกรรมเข้ามา บันดาลให้เป็นไปได้ขนาดนั้น ก็ยังดีว่าบุญของเรายังพอมีอยู่ ก็เลยทำให้รักษาพระเอาไว้ได้องค์หนึ่ง ถ้าเอาออกหมดนี่เฮงจริง ๆ

เถรี 28-02-2020 09:06

ถาม : เมื่อตอนสวดมนต์ข้ามปี หนูไปสวดมนต์วัดแถว ๆ บ้าน พอขี่มอเตอร์ไซค์กลับ อยู่ ๆ จิตก็บอกตัวเองขึ้นมาว่ายอม หนูก็ตกใจมาก เพราะหนูก็ไม่ได้ทะเลาะกับใคร ก็เลยสังเกตว่าตัวเองขึ้นบ้าง พบว่าหลังจากนั้นจิตสงบมากและแรงต้านในจิตเราไม่มี ก็รู้สึกปลอดภัย ไม่ได้ถูกกระทบจากข้างนอก อารมณ์เหมือนเราเข้าสมาธิแต่หนูไม่ได้เข้าสมาธิค่ะ ?
ตอบ : นั่นแหละ...เริ่มเข้าระดับใช้งาน แค่ใช้สติประคองอารมณ์นั้นไว้ แล้วคอยสังเกตระวัง อย่าให้นิวรณ์กินใจเราได้

เถรี 28-02-2020 09:35

ถาม : หนูเปิดฟังกรรมฐานของหลวงพ่อสมปอง ท่านบอกให้ทำใจให้ผ่องใส หนูก็เลยทำตามดู ถ้ามีความเศร้าหมองหนูก็จะปัดไปเลย ปัดแบบทื่อ ๆ จิตจะไม่ยอมรับ แต่ถ้าหนูปล่อยให้นิ่ง ๆ อยู่ ๆ จิตก็จะพิจารณาของมันเอง จิตก็จะโพลงสว่างมาก ๆ บังเอิญหนูฟังตอนกลางคืน ตอนนั้นทั้งคืนก็เลย...
ตอบ : ก็เลยไม่ต้องนอน

ถาม : จิตสว่างเหมือนเป็นสป็อตไลท์ สว่างเหมือนคลุมได้ทั้งบ้าน ?
ตอบ : ค่อย ๆ ทำต่อไป เดี๋ยวคลุมได้ทั้งโลกก็ช่วยกันหน่อย คราวนี้คลุมได้ทั้งบ้าน เอาแค่ตัวเองรอดได้

ถาม : หนูสงสัยว่าระหว่างปล่อยให้นิ่ง ๆ กับการให้สว่างโพลง ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ : สะจิตตะปะริโยทะปะนัง พึงชำระจิตของตนให้ขาวรอบ ก็คืออย่าให้นิวรณ์หรือกิเลสต่าง ๆ กินได้ สภาพจิตยิ่งสะอาดเท่าไร โอกาสหลุดพ้นก็มีมากเท่านั้น ไม่ใช่ประเภทปล่อยไปเรื่อยเปื่อย ลักษณะอย่างนั้นกว่าจะขี้ตรงร่องได้ก็อีกนาน ต้องบังคับกันบ้าง

เถรี 28-02-2020 09:43

ถาม : อารมณ์ที่ควรจะเป็น อารมณ์ที่จะพ้นทุกข์ เราต้องบังคับให้สว่างโพลงตลอดหรือคะ ?
ตอบ : ไม่จำเป็นต้องขนาดนั้น ถ้าสติไปอยู่เฉพาะหน้า จิตจะสว่างเอง แล้วก็จะเลือกเสพรับ อะไรไม่ดีก็ตัดออก อะไรดีก็รับเข้ามา กลายเป็นละชั่วทำดีไปเรื่อย ๆ ท้ายสุดก็เหลือดีอย่างเดียว พอมากกว่านั้นก็คือ ดีก็วางลงไปด้วย

ถาม : แล้วอารมณ์ตรงนี้ เรารู้สึกเหมือนเราปลอดภัยมาก ๆ ปลอดภัยจากกิเลสตัณหาอุปาทานของตัวเราเอง ?
ตอบ : อันนี้ได้แค่พักเดียว เผลอเมื่อไรก็โดนกัดใหม่ ก็ต้องสร้างอารมณ์นี้ให้ต่อเนื่อง ก็คือประคองเอาไว้ ใช้สติคอยตามดูตามรู้ ถึงเวลาอะไรไม่ดีจะเข้ามาก็ละเสีย อย่าไปสร้างเหตุนั้น ๆ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส พยายามตัดอารมณ์ครุ่นคิดที่เกิดขึ้น ถ้าเราไม่ไปปรุงไปแต่ง ไม่ยินดียินร้าย โอกาสที่จะทำอันตรายเราก็ไม่มี

ถาม : ไม่ใช่เอาฌานกดไว้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ ถ้ายังไปกดอยู่เราก็เหนื่อย คราวนี้เราต้องใช้แล้ว

ถาม : ถือเป็นตัวปัญญาไหมครับ ?
ตอบ : รวมกันอยู่ในนั้นแล้ว ศีล สมาธิ ปัญญา แยกกันไม่ออก เพราะว่าขณะที่เราระมัดระวังศีล สมาธิก็เกิด เมื่อสมาธิเกิด สภาพจิตผ่องใส ปัญญาก็เกิด ปัญญาเกิดก็จะไปคุมศีลคุมสมาธิอีกที ไปด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ

เถรี 28-02-2020 09:57

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้มีไหว้ครูประจำปีเป่ายันต์เกราะเพชรงานเดียว ตรงกับวันที่ ๒๘ มีนาคม ส่วนที่เหลือของเรากับของเขาไม่ตรงกัน ถ้าหากว่าทำไปคนที่ลังเลสงสัยก็จะเกิดคำถามขึ้น ก็เลยขอพระท่านตัดทิ้งไปงานหนึ่ง"

ถาม : จะมีโอกาสมาตรงกันอีกไหมครับ ?
ตอบ : ปีหน้า พอประเภทวันครบรอบก็จะตรงกันเอง

ถาม : เอาของเข้าพิธีได้เหมือนเดิมไหมครับ ?
ตอบ : ปีนี้ไม่มีของเข้าพิธี

ถาม : อย่างนี้เอาของเข้าพิธีก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มีที่ให้ฝาก เพราะไม่มีของเข้า ของวัดเข้าพิธีไปเรียบร้อยแล้ว

เถรี 28-02-2020 10:24

ถาม : ถ้าเราผิดศีล กำลังฌานเราจะเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่ากำลังใจตกมากไหม ? ตกมากก็เสื่อมมาก ตกน้อยก็เสื่อมน้อย ไม่ตกก็ไม่เสื่อม

ถาม : จริง ๆ หน้าที่เราคือทำใจให้ผ่องใสอย่างเดียวใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส

เถรี 28-02-2020 10:36

ถาม : วิทยาการจีนสูงสุดในโลกหรือยังครับ ?
ตอบ : ยัง

ถาม : สู้เยอรมันไม่ได้หรือครับ ?
ตอบ : บางอย่างเหนือกว่า บางอย่างก็ด้อยกว่า

เถรี 28-02-2020 10:44

ถาม : พระคาถาเงินล้าน สวดแล้วติดนะครับ เวลาไปนั่งส้วมก็ยังสวดต่อครับ เป็นการปรามาสไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เป็น ถ้าภาวนาจนชิน ก็ไปเรื่อยเองแหละ

ถาม : เหมือนเราต้องไปบังคับให้หยุด ก็คือปล่อยให้ภาวนาไป ?
ตอบ : อยู่กับความดีแล้วทำไมต้องไปบังคับให้หยุด ก็มีหน้าที่อย่างเดียวคือประคองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

เถรี 28-02-2020 21:59

ถาม : ถ้าใส่แหวนพระ เข้าห้องน้ำยืนฉี่ เอามือจับอวัยวะเพศ อย่างนี้ถือว่าปรามาสไหมครับ ?
ตอบ : มีเจตนาไหมเล่า ? ถ้าเจตนาจะให้เสื่อม หรือเจตนาจะปรามาสพระรัตนตรัยก็เป็น แต่ถ้าหากว่าไม่เจตนาก็ไม่เป็น ถ้าคิดมากขนาดนั้นแล้วจะไปใส่ทำไมวะ ? เห็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงส่วนหนึ่ง เอาแหวนจักรพรรดิแขวนกับสร้อยคอไปเลย

อย่าพยายามคิดอะไรตอนฉี่ ดูว่ากำลังใจจะอยู่ข้างดีได้มากกว่าไหม ? คือถ้ากำลังใจอยู่ข้างดีได้มากกว่า บางทีคิดอะไรชั่ว ๆ ไม่ออกหรอก แต่กว่าจะถึงระดับนั้นได้ก็อีกนาน



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:12


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว