กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6756)

เถรี 26-09-2019 23:00

"เรียนเก่งไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องปรับตัวเก่ง สิ่งมีชีวิตที่รอดจากการสูญพันธุ์ได้ จะต้องปรับตัวเก่ง"

เถรี 27-09-2019 19:30

ถาม : ผมยังทำสมาธิยังไม่ค่อยได้เท่าไร ผมไปฝึกมโนมยิทธิได้ไหมครับ หรือควรทำสมาธิให้ได้ก่อน ?
ตอบ : ถ้าต้องการมโนมยิทธิ อย่าทำสมาธิมาก บ้าไหม ? มโนมยิทธิเหมือนห้อง ๒ ห้อง ข้างบนหนึ่งห้อง ข้างล่างหนึ่งห้อง ห้องล่างคืออุปจารสมาธิ ห้องบนคือฌาน ๔
จากที่เรานั่งคุยกันแบบนี้ อุปจารสมาธิเป็นอารมณ์ที่สูงกว่าตอนนี้นิดเดียวเท่านั้น ถ้าทำสมาธิมากเกินนั้น แต่ไม่ถึงฌาน ๔ คล่องตัว ก็เหมือนกับเราอยู่ระหว่างบันไดของห้อง สองห้องนั้นมีอะไรเหมือนกันหมดทุกอย่าง แต่เราอยู่ตรงบันได เราจะเห็นอะไรไหม ? ก็ไม่เห็น

ฉะนั้น...ถ้าจะฝึกมโนมยิทธิ อย่าทำสมาธิมาก เพราะว่าเกินต้องการ ในเมื่อเกิน ยืดคอเลยช่อง ก็มองอะไรไม่เห็น ต้องลดลงมาให้พอดี หรือไม่ก็โน่น...ขึ้นข้างบนไปเลย แต่ถ้าแค่อุปจารสมาธิ เผลอเมื่อไรโดนกิเลสตีตาย ไปเลือกเอาก็แล้วกันว่าจะทำแบบไหน

เถรี 27-09-2019 19:33

พระอาจารย์คุยกับลูกศิษย์ "ตะกรุดดอกเมื่อเช้าเป็นตะกรุดแม่ทัพมนต์พระกาฬ ปกติถ้าตะกรุดมนต์พระกาฬจะดอกเล็กกว่านี้ ตะกรุดแม่ทัพจะใหญ่กว่า ดอกเมื่อเช้านั่นครบเครื่องเลย ท่านใส่ลูกสะกดมาให้ด้วย ใครเป็นคนเอาไป ? (ผู้หญิงครับ) เป็นผู้หญิงเอาไปทำอะไรวะ ?

ตะกรุดแม่ทัพเขาป้องกันได้ทั้งกองทัพ พวกเราเอาไปใช้ก็ป้องกันได้หมดทั้งบ้าน ป้องกันได้หมดทั้งคันรถ หรือถ้าพาคนไปเท่าไร ก็ป้องกันได้หมดทั้งคณะ เขาถึงได้เรียกว่าตะกรุดแม่ทัพ เพราะว่าผู้นำมีติดตัวอยู่ สามารถรักษาลูกน้องได้ด้วย"

เถรี 30-09-2019 20:47

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนที่วัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรีไปดูงาน ท่านถามอาตมาว่า บริหารอย่างไรชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนจึงประสบความสำเร็จ เป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ จนได้เป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ? บอกไปว่า คำพูดนี้ไม่น่าฟัง แต่เป็นเคล็ดลับของความสำเร็จจริง ๆ ก็คือขอให้มีเงินจ่าย..!

มีคำถามต่อเนื่องไปว่าหลายแห่งเขาก็มีเงิน แต่ทำไมบริหารแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ? ก็บอกไปว่าเป็นเพราะว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้นไม่รู้ตัวเอง ไม่รู้คนอื่น ตามหลักพิชัยสงคราม ไม่รู้ว่าจุดอ่อนตัวเองคืออะไร จุดแข็งตัวเองคืออะไร ไม่มีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน เมื่อไม่รู้จุดอ่อน ไม่รู้จุดแข็ง กำหนดเป้าหมายไม่ได้ เปะปะไปเรื่อย ประสบความสำเร็จได้ก็บังเอิญตายชักแล้ว

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่รู้ ๆ กันตามหลักวิชาการ แต่คนที่เอาหลักวิชาการไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่ว่ารู้แล้วจะทำได้ทุกคน เพราะว่าวิชาการเป็นศาสตร์คือความรู้ การลงมือทำเป็นศิลป์ ตัวนี้คือ tactic เป็น skill ด้วย ภาษาไทยบางทีก็ไม่ชัด คือต้องมีทั้งแม่ไม้ มีทั้งลูกไม้ ถ้าหากว่าสามารถปฏิบัติตามได้ ก็เป็นอันว่าคุณจะประสบความสำเร็จ ไม่อย่างนั้นก็จะยังอยู่ในตำรา เป็นตัวหนังสืออยู่อย่างเดียว ฉะนั้น...มีศาสตร์คือความรู้ แล้วต้องมีศิลป์ที่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์จริง ๆ ด้วย"


เถรี 30-09-2019 21:10

พระอาจารย์กล่าวกับโยม "พ่อกับลูกพกของหนักทั้งคู่ (วัตถุมงคลที่คอ) หลวงพ่อฤๅษีรุ่นสุดท้าย หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกแล้วว่า วัตถุมงคลของท่านให้หารุ่นสุดท้ายเข้าไว้ ถามว่าทำไมครับ ? ท่านบอกว่า เวลาพระหรือเทวดาท่านสงเคราะห์ เคยให้เท่าไรครั้งต่อไปก็ไม่ต่ำกว่านั้น ยกเว้นว่ามีอะไรพิเศษ ท่านก็จะบอกเพิ่ม"

เถรี 30-09-2019 21:13

พระอาจารย์ให้บูชาวัตถุมงคล "เหลือรูปหลวงพ่อพรหม ด้านหลังเป็นตะกรุด ๓ กษัตริย์กับฟันท่านอยู่ คิดราคาเท่ากัน ใครอยากจะสร้างวิทยาลัยสงฆ์ มีเงินสัก ๓๐,๐๐๐ ให้รีบมา..เดี๋ยวหมด พวกรุ่นที่เขาเกิดกันไม่ทัน เขาจะหงุดหงิดมากเลยว่า หลวงพ่อเล็กไปเอาอะไรมาได้เยอะแยะขนาดนี้

ในรุ่นที่อาตมาไปเกาะแข้งเกาะขาท่านนี่ มีอะไรไถได้ก็ไถหมด ขนาดหลวงปู่สมเด็จฯ วัดสามพระยา ใครว่าดุนักดุหนา ท่านฉันหมากแล้วท่านก็กำหางหมากไว้ ไม่ยอมปล่อย อาตมานี่แคะจากมือเลย "หลวงปู่..ขอเถอะครับ" ท่านก็หัวเราะแล้วคลายมือให้ จะเอาก็เว้ากันซื่อ ๆ ไม่ต้องคิดมาก

(ท่านโรจน์ขอบูชา) พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ร่วมสร้างวิทยาลัยสงฆ์ ๓๐,๐๐๐ บาท เดี๋ยววันงานโปรดไปยื่นหน้าด้วยนะครับ อาตมาไม่ค่อยอยากรับความดีความชอบคนเดียว"

เถรี 30-09-2019 22:20

ถาม : เมื่อครู่ท่านเรียกดิฉันว่ายายหรือคะ ?
ตอบ : เรียกให้รู้ตัว พระพุทธเจ้าก่อนที่จะตรัสอะไร ก็ "ภิกขเว...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย" ท่านเรียกดึงสติ จะได้หันมาสนใจสิ่งที่ท่านพูด ส่วนที่เรียกยายเพื่อเตือนให้รู้ว่าชราแล้ว ทำอะไรต้องระมัดระวังหน่อย ไม่เหมือนสาว ๆ เขาแล้ว

เถรี 30-09-2019 22:25

ถาม : ที่บ้านมีฉัตรแป้นที่วางพระพุทธรูป ก็เปลี่ยนฉัตรอันใหม่ ฉัตรอันเก่าฐานยังดีอยู่ ถ้าเปลี่ยนด้านบนก็ยังใช้ได้ หรือเราควรทิ้งไปเลย ?
ตอบ : เอาไปให้ช่างซ่อมใหม่ก็ได้ จะได้ของใหม่มาอีก แต่ราคาไม่แพงเท่าของใหม่จริง ๆ

ถาม : ของพวกนี้เอาไปซ่อมได้หรือคะ ?
ตอบ : ได้..ช่างเขาทำได้ใหม่ทั้งอัน

ถาม : ช่างเขาไม่ค่อยจะรับทำ ?
ตอบ : เขาอยากขายของใหม่มากกว่า

ถาม : แต่ว่าเสียดาย แผ่นไม้ดูดีมากเลย ถ้าเราทำเอง เราจะบาปไหม เทวดาจะยินดีไหมคะ ?
ตอบ : ทำไปเถอะ ทำแล้วดีกว่าเดิม ท่านยินดีทั้งนั้นแหละ

เถรี 30-09-2019 22:33

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๖ ตุลาคม อาตมาไปทอดผ้าป่าสร้างวิทยาลัยสงฆ์ที่พนมทวน วิ่งรถจากนี่ไปประมาณชั่วโมงหนึ่ง (จากบ้านเติมบุญ) อาตมาจะหนีงานวันอาทิตย์ครึ่งวัน เพราะว่านอกจากจะไปทอดผ้าป่าแล้ว อาจจะต้องวางศิลาฤกษ์เองด้วย เพราะว่าหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดท่านบอกว่า ท่านทำไม่เป็น

แต่คราวนี้เขานิมนต์หลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดยานนาวาไป ก็น่าจะให้หลวงพ่อสมเด็จ ฯ วัดยานนาวาท่านวางศิลาฤกษ์ หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) วัดญาณเวศกวัน ท่านบอกว่า ถ้าสุขภาพแข็งแรงพอก็จะไป ทุกคนแตกตื่นกันมาก เพราะว่าท่านไม่ได้ออกงานมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ได้แต่หวังว่าท่านจะแข็งแรงพอ"

เถรี 30-09-2019 22:36

ถาม : วิทยาลัยสงฆ์ต่างจากมหาจุฬาฯ อย่างไรคะ ?
ตอบ : ก็คือมหาจุฬาฯ นั่นแหละ เป็นวิทยาลัยสงฆ์ในสังกัดของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ถาม : เป็นวิทยาเขต ?
ตอบ : วิทยาลัยสงฆ์ไม่ใช่วิทยาเขต วิทยาเขตส่วนวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ส่วนวิทยาลัยสงฆ์ แล้วถ้ามีเล็กกว่านั้น ก็เป็นหน่วยวิทยบริการของคณะโน้นคณะนี้ แล้วก็มีการขยายห้องเรียนของคณะโน้นคณะนี้ แล้วแต่สถานที่ใหญ่เล็ก

ถ้าหากว่ากติกาครบ อย่างเช่นว่ามีตัวอาคารเพียงพอ มีห้องน้ำเพียงพอ มีห้องสมุด มีห้องคอมพิวเตอร์ มีนิสิตเพียงพอ ก็ยกสภาพขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์ได้ ถ้าเป็นวิทยาลัยสงฆ์ผลิตบัณฑิตออกมาก็จะได้งบประมาณแผ่นดิน ไม่ต้องจ่ายเองเยอะ แต่ถ้าหากว่ายังไม่ได้งบ ก็จ่ายเองล้วน ๆ แต่คราวนี้ก็จะมีคนปวดหัว เพราะว่าถ้าใช้งบประมาณแผ่นดิน ก็ต้องไปชี้แจงงบประมาณ เขาจะตัด เราก็ต้องพยายามไม่ให้เขาตัดและต้องเอาเพิ่มให้ได้ ซึ่งการเอาเพิ่มนั้นยาก อย่าให้เขาตัดเราได้ก็บุญโขแล้ว

เถรี 30-09-2019 22:37

ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าญาติโยมเสียโอกาส เพราะว่าการศึกษาระดับปริญญาโท ปริญญาเอกนั้นแพงมาก พระมีโอกาสมากกว่า เหตุที่พระมีโอกาสมากกว่าก็ด้วยเหตุ ๒ ประการ

ประการแรก พระเณรจำนวนมากบวชมาเพราะว่าต้องการโอกาสในการเรียนหนังสือ ถ้าอยู่กับครอบครัวจน ๆ ของตัวเองก็ไม่มีโอกาสที่จะเรียนหนังสือ ถ้าบวชมาอยู่กับครูบาอาจารย์ อยู่กับหลวงปู่หลวงพ่อที่เห็นความสำคัญในด้านการศึกษา ท่านก็จะส่งเรียน อย่างของอาตมานี่ส่งเรียนทั้งอำเภอ ถ้าพระเณรไปเรียน มจร.วัดใต้ อาตมาถวายค่ารถรูปละ ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน

เถรี 30-09-2019 22:40

ถาม : หลวงปู่ชาท่านสอนชาวต่างชาติ ท่านสอนอย่างไรคะ ?
ตอบ : ท่านสอนแบบธรรมชาติ อย่างเช่นบอกว่าน้ำมันร้อน ภาษาลาวเขาว่าฮ้อน ภาษาอังกฤษว่า Hot พูดให้ตายฝรั่งก็ไม่รู้ ท่านจับมือเขาจุ่มลงไปเลย นี่ร้อนคือแบบนี้..รู้หรือยังว่าร้อนเป็นอย่างไร ? ซาบซึ้่งทุกคนแหละ เพราะว่าโดนน้ำร้อนไปเต็ม ๆ

สอนแบบธรรมชาติ สอนแบบนักปราชญ์ แบบครูบาอาจารย์ของแท้ รู้จริงทุกเรื่อง เสียดายมาก...ระยะสุดท้ายของท่านวาระกรรมมาถึง กลายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตอยู่ระยะหนึ่ง ท่านไม่ได้มีความทุกข์หรอก เพราะท่านไม่เห็นความดีของร่างกายอยู่แล้ว แต่ลูกศิษย์ทุกข์ใจกันเยอะมาก

เถรี 30-09-2019 22:43

ถาม : พระที่จะนิพพาน วาระสุดท้ายต้องเป็นโรคอะไรไหมคะ ?
ตอบ : ไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับกรรมเก่าที่ตนเองทำมา ถ้าสร้างกรรมดีไว้มาก อย่างพระพากุลเถระ ท่านก็เข้าสมาธิไปเฉย ๆ ไม่เห็นท่านต้องไปทุกข์ทรมานอะไรกับใคร ถ้าสร้างเวรสร้างกรรมไว้เยอะ ส่วนใหญ่ท่านก็จะยอมใช้เศษกรรมก่อน

หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ก็ทรมานกับโรคภัยไข้เจ็บอยู่หลายปี หลวงพ่อวัดท่าซุงนี่หลายสิบปีนะ ไม่ใช่หลายปี เพราะว่าแต่ละชาติเคยเป็นทหาร เข่นฆ่าเขาเอาไว้มาก ถึงเวลาการชดใช้เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น เงินต้นไม่ได้ใช้เขาหรอก ขนาดดอกเบี้ยยังล่อซะอ่วมขนาดนี้ อาตมาเจอดอกเบี้ยมาลาเรียมาจะ ๔๐ ปีแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ จนป่านนี้

เถรี 30-09-2019 22:44

ถาม : แต่ถ้ายังไม่อยากไปพระนิพพาน ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าไม่อยากจะไป จะทุกข์นานกว่านี้ เหมือนกับว่าเราไม่อยากจะใช้ ไม่อยากจะจ่ายหนี้ก้อนใหญ่ แต่ด้วยความที่ต้องผ่อน ก็จะใช้ระยะเวลายาวนานมาก อาตมาซื้อรถเงินสด จ่ายแล้วจบเลย แต่โยมไปผ่อนก็เจอไป ๗๒ เดือน อย่างนี้เป็นต้น

เถรี 02-10-2019 07:21

พระอาจารย์กล่าวว่า "ที่เราเห็นคนจีนเชิดสิงโต ความจริงไม่ใช่สิงโตนะ คือหมาทิเบตนั่นแหละ ทิเบตันมาสทิฟฟ์ ทางด้านโน้นเขายกย่องให้เป็นราชาหมา ไปอยู่ที่ไหน มักจะเป็นจ่าฝูงตลอด ไม่เคยต้องตามใคร

แต่ที่อาตมาไปถ่ายรูปด้วยที่ทิเบต แต่ละตัวทำหน้าเซ็งมากเลย เพราะต้องนั่งให้เขาถ่ายรูปทั้งวัน น่าเบื่อ จะไปก็ไม่ได้ ต้องนั่งให้เขาถ่ายรูป ทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก เหมือนอย่างกับว่าชีวิตมีสาระมากกว่านี้ แล้วทำไมไม่ให้ทำ ให้แค่มานั่งเฉย ๆ ให้คนถ่ายรูปแค่นี้นะหรือ ? ถ้าอ่านความคิดหมาออกก็จะรู้ คนก็ไม่รู้ว่าหมาเบื่อขนาดนั้น ก็ยังคงเฮฮาถ่ายรูปกันอยู่"

เถรี 02-10-2019 07:25

ถาม : ของอาถรรพ์ไสยศาสตร์ที่เราเอากลับบ้านไปเยอะแยะ ควรทำอย่างไรกับของพวกนี้ดีคะ ?
ตอบ : ถ้าไม่ชอบก็ลอยน้ำไป หรือไม่ก็เผาทิ้งไปเลย

ถาม : เราต้องทำบุญให้เขาไหมคะ ?
ตอบ : เราทำเป็นปกติอยู่แล้ว ก็อุทิศให้เขาไปเลย ไม่ใช่ว่าต้องทำใหม่เสียทุกครั้ง คนเราสะสมบุญมานับชาติไม่ถ้วน ตั้งใจว่าผลบุญทั้งหมดที่เราทำมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ อุทิศให้เขาไป ถ้าไม่มั่นใจก็ถวายสังฆทานใหม่

ถาม : มีของพวกนี้เต็มบ้านค่ะ ?
ตอบ : เรื่องปกติ เขาเรียกว่าอยากรวย แต่ใช้วิธีที่ไม่ค่อยจะถูก พวกไสยศาสตร์ให้ผลฉาบฉวยระยะสั้น ๆ ไม่ยั่งยืน แต่อย่าไปคุยกับหลวงพ่อกวยนะ เรื่องไสยศาสตร์ให้ผลระยะสั้นไม่ยั่งยืน "ก็กูถนัดของกูอย่างนี้ กูทำแล้วช่วยลูกศิษย์กูได้"...จบ คนที่รักลูกศิษย์แบบหลวงพ่อกวยหายากจริง ๆ จะยากดีมีจนดีชั่วอย่างไร ท่านไม่สนใจ ถ้าเป็นลูกศิษย์ให้ความเคารพท่าน ท่านช่วยเขาหมด

เถรี 02-10-2019 07:33

ถาม : เพื่อนเช่าพระของหลวงพ่อกวยมาหลายปีแล้ว เช่าเป็นพระสีวลี เราอาราธนาถึงท่าน คราวนี้คาถามีปลอมหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : กลัวปลอมไปได้ ใช้คาถานั่นแหละอาราธนา แล้วนึกถึงพระสีวลี นึกถึงหลวงพ่อกวยก็ใช้ได้ ไปค้นหาในกูเกิ้ล พิมพ์เข้าไปเลย คาถาอาราธนาพระสีวลีหลวงพ่อกวย เดี๋ยวเขาส่งมาให้เป็นหน้ากระดาษเลย ว่าไปตามนั้นแหละ

วัตถุมงคลที่ติดตัวไว้นั้นด้วยสองสถาน อย่างแรกคือเป็นอนุสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือระลึกถึงหลวงปู่หลวงพ่อ สถานที่สองก็คือผลพิเศษที่มีอยู่นั้น สามารถช่วยเราได้

เถรี 02-10-2019 07:40

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาปลดอาวุธไปเยอะเลย เพราะว่าของที่ใช้ติดตัวอยู่ ส่งไปให้เขาถ่ายรูปทำทะเบียนประวัติ โยมเขาเป็นพวกมืออาชีพในการทำทะเบียนประวัติพวกวัตถุโบราณ เขามาช่วยทำให้ ก็เลยรู้สึกว่าตัวเบา ๆ ไปหน่อย

วันก่อนจัดชุดเบี้ยแก้เสร็จแล้ว จัดชุดลูกอมเสร็จแล้ว ปรากฏว่าด้วยความที่เผลอเอาลูกอมหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือไปออกกระทู้คนมีเงินฯ จนเกือบหมด อนาถชีวิตจริง ๆ ถึงเวลาจะเอาเข้าพิพิธภัณฑ์ เกือบจะหาไม่ได้ ลูกอมของหลวงพ่อสงวนนั่นทำจากผงมหาราช พระที่อดทนนั่งลบผงสร้างวัตถุมงคลให้ลูกศิษย์นี่ไม่ค่อยจะมีหรอกนะ หลวงพ่อกวยอีกรูปหนึ่ง ถึงเวลาก็นั่งลบผงทั้งวัน

วัตถุมงคลของหลวงพ่อสงวนท่านมาทางเมตตามหานิยมสุดยอด ตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านบอกว่า "ลูกศิษย์กูขนาดกะหรี่แก่ ๆ ยังหาผัวรวย ๆ ได้" ท่านมั่นใจขนาดนั้น อะไรครูบาอาจารย์จะเจ๋งขนาดนั้น อาตมาเองก่อนหน้านั้นมีลูกอม มีปลัดขิก มีพระของท่าน ไป ๆ มา ๆ เจอพระ ไม่รู้ว่าท่านตั้งใจทำหรือว่าลูกศิษย์ทำขึ้นมาเอง ก็คือพระขุนแผนที่ทำด้วยผง ก็เลยพกพระแทน ถ้าหากว่าพกปลัดขิกดูท่าจะไม่ค่อยดี"


เถรี 02-10-2019 07:45

"วันก่อนหลงทางไปทางวัดไผ่พันมือพอดี จะบอกว่าหลงทางไม่ได้หรอก พี่กู (เกิ้ล) พาไป วันที่ ๔ ปกติแล้วจะอยู่วัดไร่แตงทองทั้งเช้าทั้งบ่าย เพราะว่าตอนเช้ามีงาน สวดพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารพระ ๑,๐๐๐ รูป อุทิศส่วนกุศลให้หลวงปู่หลิว อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง แล้วตอนบ่ายก็เป็นงานหล่อพระ ซึ่งหลวงพ่อสายชลท่านตั้งใจหล่อพระอสีติมหาสาวก ๘๐ รูป ปีละ ๑ องค์ ก็คงตั้งใจจะหล่อไป ๘๐ ปีกระมัง ? เพราะตอนนี้ได้ ๕ องค์แล้ว

ปรากฏว่าคุณสุวิช วิจารณ์ปรีชา โยมพ่อของพระมหาจินตวัฒน์ จารุวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดม่วงชุมที่สิงห์บุรีตาย รดน้ำศพ ๔ โมงเย็น บรรลัยแล้วกู..บ่ายโมงสามสิบเก้านาทีหล่อพระวัดไร่แตงทอง สี่โมงเย็นต้องไปให้ถึงสิงห์บุรี จะทันไหมวะ ? ปรากฏว่ากูเกิ้ลแมพทำได้ พาไปแต่ละเส้นนี่อาตมาไม่รู้จักเลย คือต่อให้เจ้าถิ่นก็ไม่รู้จัก เจ้าถิ่นเขาจะรู้แค่ในพื้นที่ตัวเอง แต่กูเกิ้ลแมพมองจากดาวเทียมลงมา เส้นเล็กเส้นน้อยรู้หมด แล้วหาทางที่ลัดที่สุดให้

ประเภทนั่งไปก็มองไป มึงจะหลอกกูมาฆ่าหรือเปล่า..?! ปรากฏว่าไปทัน เขาทำได้ โห...ลัดจนไม่รู้เลยว่าไปอย่างไร ลัดจนอาตมาที่ว่าจำเก่ง ๆ นี่หลงทิศเลย"

เถรี 02-10-2019 07:53

ถาม : บางทีก็พาไปซอยตัน ?
ตอบ : แบบนั้นอาตมายังไม่เคยเจอ เคยแต่พาไปตรงเป๊ะ ๆ ทุกที่จนต้องยอมรับ สมัยก่อนที่จะใช้กูเกิ้ลแมพก็ใช้ผี หลงเข้าไปทางด้านหลังนครปฐม ออกไม่ได้ นึกขึ้นมาได้ เจ้าคุณอาจารย์พระราชปริยัติโมลี (เจ้าคุณโสภา) ตายแล้ว "ช่วยพาออกหน่อยครับ" ขอใช้ผีหน่อย ท่านบอก "กูไม่ใช่ผีเว้ย..!" "จะใช่หรือไม่ใช่ก็เถอะ ช่วยพาผมออกไปที" ท่านก็พาไป ก็บอกคนขับเลี้ยวโน่นเลี้ยวนี่เลี้ยวนั่น "เคยมาหรือ ?" "ไม่เคยหรอก คนอยู่ข้างหลังเคย" พาออกมาพักเดียว หลุดออกมาได้ ตัวเองวนอยู่ครึ่งค่อนชั่วโมง ไปไม่ถูก

สมัยนี้ผีเดือดร้อนน้อยหน่อยเพราะว่ามีกูเกิ้ลแมพ แต่ไปต่างประเทศก็ยังใช้ผีอยู่เหมือนเดิม เพราะว่าบางที่อาตมาไม่รู้จักเลย


เถรี 02-10-2019 07:57

มีโยมมาถวายสังฆทาน "คนนี้แท็กซี่พ่อลูกอ่อน ใครจะใช้บริการแท็กซี่ขอเบอร์ไปได้ ไอ้ทิดนี่บวชอยู่วัดท่าขนุนมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ไปไหนเอาลูกนั่งรถไปด้วย ขอร้องผู้โดยสารเขา ผู้โดยสารเขาพอจะเข้าใจ ถ้าเด็กไม่ดื้อไม่ซนก็ไปกันได้ ถ้าขืนซนก็อดทั้ง ๓ คนนั่นแหละ นี่เป็นซิงเกิ้ลแด๊ด คนอื่นเขามีซิงเกิ้ลมัม"

เถรี 02-10-2019 07:59

พูดถึงกระทู้ประมูลวัตถุมงคล "กระทู้ประมูลปิดไปได้เลย ตอนนี้คนประมูลฉลาดแล้ว ไม่ไปสาดใส่กันตั้งแต่ต้น ก็เลยได้ของราคาต่ำ อะไรที่อยากประมูลอยากได้ราคาเท่าไร ตั้งราคาลงเว็บไปเลย แล้วปิดกระทู้ประมูลไป

หลังจากจ่ายหนักไปหลายรอบก็เริ่มฉลาด เขาไม่ไปแข่งกันตั้งแต่วันแรก ๆ หรอก เขาไปจ้องเอานาทีสุดท้าย ไปปาดกันคนละร้อยสองร้อย แต่ว่าลักษณะอย่างนั้น คนไม่ได้ก็เจ็บใจตัวเอง"

เถรี 02-10-2019 08:05

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนเด็กก็อยากโต ผู้ใหญ่ถามอายุเท่าไร ก็บอกให้มาก ๆ ไว้ พอตอนแก่นี่อยากเด็ก ใครถามอายุก็บอกน้อย ๆ ไว้หน่อย "อายุเท่าไร ?" "๒๐ กว่า" กว่าไป ๒๐ ปี..!

ต้องบอกว่าธรรมชาติของกิเลสคน แสวงหาสิ่งที่ตัวเองไม่มี อยากมี อยากได้ อยากเป็น เป็นกามตัณหา มีแล้ว ได้แล้ว เป็นแล้ว อยากให้ทรงอยู่ เรียกว่า ภวตัณหา เวลามีแล้ว ได้แล้ว เป็นแล้ว ไม่อยากเปลี่ยนแปลง เรียกวิภวตัณหา

ใช้คำว่า "ไม่อยาก" แต่จริง ๆ คือ "อยาก" ไม่อยากแก่ ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากตาย ก็คือ อยากไม่แก่ อยากไม่เจ็บ อยากไม่ตาย ฉะนั้น..จึงเป็นตัณหา ความอยากเหมือนกัน

บางทีเราก็แยกไม่ออกว่าทำไมตัณหามีหลายอย่าง จะมีกี่อย่างก็ช่างมัน ระวังใจไว้อย่างเดียว ปิดประตูใจไว้ กิเลสเข้าไม่ได้ก็จบแล้ว ส่วนใหญ่แล้วเราเปิดประตูไปแส่หาเรื่องเอง ถึงเวลากินของเผ็ดของร้อนเข้าไป ปวดท้องปวดไส้แล้วจะมาบ่นทำไม ? ก็ไปกินเอง ใช่ไหมโยม ? เขาเรียกว่าไปแส่หาเรื่อง เดือดร้อนเอง รำคาญเอง"


เถรี 02-10-2019 08:15

พระอาจารย์กล่าวว่า "สถานการณ์ประเทศของเราต้องบอกว่าค่อนข้างจะย่ำแย่ เหตุเพราะว่าคนเรามักจะหลงประเด็น สิ่งสำคัญเห็นว่าไม่สำคัญ ไปให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่สำคัญ พูดแล้วก็งงเอง

อย่างเช่นการถวายสัตย์ปฏิญาณอย่างนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้นำทุกประเทศ แล้วคุณต้องประกาศอย่างชัดเจนว่า จะทำหน้าที่โดยบริสุทธิ์ยุติธรรม ซื่อตรงอย่างไรก็ว่าไป คราวนี้ประเภทว่าไม่ครบ ว่าไม่หมด แล้วจะไปตำหนิคนอื่น บอกว่ามาเที่ยวจับผิดในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่ใช่

เรื่องที่คนทั้งโลกให้ความสำคัญ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกัน อีกฝ่ายหนึ่งบางเรื่องที่รอได้ เพราะเรื่องสำคัญกว่านั้นมี แต่ไม่รอ อย่างเช่นจะอภิปรายไม่ไว้วางใจตอนที่ชาวบ้านสำลักน้ำท่วมจะตาย คิดอะไรอยู่ ? ช่วยชาวบ้านก่อนดีไหม ? ก็เลยทำให้บ้านเราสับสนวุ่นวายอย่างนี้ เพราะว่าสิ่งสำคัญเห็นว่าไม่สำคัญ สิ่งที่ไม่สำคัญไปเห็นว่าความสำคัญ

พวกเราอย่าไปหลงประเด็นตามเขาก็พอ ให้รู้ว่านักการเมืองเป็นอย่างนั้นแหละ ตอนจะเลือกตั้งรับปากทุกอย่าง พอเลือกไปแล้วกูก็ยุบพรรคซะ ปล่อยมันไปตามสบายเถอะ"

เถรี 02-10-2019 08:18

ถาม : เหตุการณ์ปัจจุบันย้อนแย้งกับคำทำนาย ที่บอกชาววิไล แต่ตอนนี้เป็นบรรลัยมากกว่าค่ะ ?
ตอบ : วิไล ไม่เห็นหรือว่าขนาดเพื่อนให้ยืมนาฬิกาตั้ง ๒๐ - ๓๐ เรือน นาฬิกาแต่ละเรือนเป็นล้าน ๆ เพื่อนให้ยืมได้ จะไม่วิไลได้อย่างไร ?

อย่างของโยมต้องบอกว่าดูหนังไม่จบม้วนแล้วก็ไปวิตกวิจารณ์ก่อน ดูให้หมดรัชกาลที่ ๑๐ ก่อนสิ ก็ต้องรอดูว่าจะวิไลเมื่อไร

เถรี 02-10-2019 08:19

มีใครดูคลิปที่รัฐมนตรีภูฏานกล่าวกลางที่ประชุมบ้าง ? การประชุมนานาชาติเกี่ยวกับเรื่องปัญหาโลกร้อน เราจะเห็นว่าประเทศเล็ก ๆ มีประชากรไม่ถึง ๕๐๐,๐๐๐ คน แต่เขามีนายกรัฐมนตรีที่สุดยอดมาก ใช้ภาษาอังกฤษลักษณะเป็นนายภาษาไปเลย แล้วก็มีลูกเล่นลูกชน อารมณ์ขันเหลือเฟือ พวกฝรั่งปรบมือให้เป็นระยะ ๆ บอกว่า สุนทรพจน์สามารถตรึงความรู้สึกของคนทั้งหมดให้สนใจอยู่กับเรื่องที่พูดได้ และพูดปากเปล่าด้วย ไม่มีสคริปต์เลย ถ้ามีโอกาสให้ไปหามาดู

เถรี 02-10-2019 08:22

แล้วทำไมบ้านเราไม่เอาอย่างนั้น ? เราต้องวางพื้นฐานไปก่อน คราวนี้ของเราพื้นฐานไม่แน่น เพราะว่าคนของเราไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา ประเภทเรียนไปก็ปวดหัว มีผัวดีกว่า แล้วจะไปเอาความเจริญมาจากไหน ?

นอกจากปัญหาที่เราไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาแล้ว ปัญหาคอรัปชั่นยังเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก บ้านเรากระทรวงศึกษาธิการได้งบประมาณสูงสุด มากกว่าทุกกระทรวง แต่ว่าตกเรี่ยเสียราดกลางทางหมด โอกาสที่จะไปถึงมือครูอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่มี เพราะฉะนั้น..ครูไทยก็เลยอนาถมาก กู้ทุกอย่างที่มีสิทธิ์กู้ ขายทุกอย่างที่ทำเงินได้ เราจะเห็นว่ามีครูขายประกัน มีครูขายสินค้าขายตรงสารพัด แล้วขณะเดียวกันก็กู้เงินสารพัดกู้ กู้ให้เยอะเข้าไว้ เขาจะได้ไม่กล้าไล่ออก เพราะว่าเงินเดือนครูต่ำ

ต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา เงินเดือนครูเขาจะให้สูงมาก แสนกว่าสองแสน บ้านเราถึงอยากได้เรียนวิศวะฯ อยากเรียนหมอ เพราะว่าเงินเดือนสูง ถึงเวลาทำงานนอกเวลาได้ คนเก่งจึงไปเรียนหมอเรียนวิศวะฯ กันหมด คนไม่มีที่จะเรียนก็เข้าวิทยาลัยครู เข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏ กลายเป็นเอาคนเหลือเลือก เป็นสินค้าเกรดซีมาผลิตสินค้ารุ่นต่อไป แล้วคนของเราจะเก่งขึ้นมาได้อย่างไร ?

เถรี 02-10-2019 08:31

"แล้วค่านิยมในการเรียนของเราก็ผิด เพราะบ้านเราขอแค่เรียนให้จบ ไม่ได้เรียนให้รู้ ต้องเริ่มต้นตั้งแต่พื้นฐานใหม่ เปลี่ยนค่านิยม เปลี่ยนจิตสำนึกตั้งแต่เด็ก ๆ ให้เห็นความสำคัญของการศึกษา เรียนแล้วต้องรู้ รู้แล้วต้องบอกต่อได้ เสร็จแล้วก็ผลิตครูรุ่นใหม่

สมมติว่าครูรุ่นนี้ ถ้าหากว่าใครเกรด ๓.๕ ขึ้นไปสมัครเรียนครูหรือว่าสอบเข้าเรียนวิทยาลัยครู มหาวิทยาลัยราชภัฏ ถ้าจบมาจะเป็นเงินเดือนระดับนี้ ตั้งไปเลย จะ ๗๐,๐๐๐ - ๘๐,๐๐๐ บาท อะไรก็ว่าไป เดี๋ยวเขาก็ตะเกียกตะกายมาเรียนกันเอง ถ้าเราไม่เริ่มต้นก็จะคาราคาซังอย่างนี้ไปเรื่อย"

เถรี 02-10-2019 08:33

"ครูหลายท่านมีจิตวิญญาณความเป็นครูสูงมาก แม้ว่าตัวเองจะมาในระดับเหลือเลือก เป็นวัสดุเกรดซี แต่ก็พยายามที่จะชุบตัวเองขึ้นมาจนเป็นเกรดเอได้ แต่ว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ตะเกียกตะกายขวนขวายด้วยตัวเอง ไม่ใช่รัฐบาลสนับสนุน ถ้าเรื่องพวกนี้ต้องผ่าตัดนี่ ก็คงต้องเริ่มต้นกันใหม่หมด

โดยเฉพาะบรรดารัฐมนตรี บรรดานักการเมืองต่าง ๆ ไม่ควรจะมี เพราะว่ามีมาแต่ละคนก็ชี้นิ้วให้ข้าราชการประจำทำอย่างที่ตัวเองต้องการ มาทีหนึ่งก็เปลี่ยนทีหนึ่ง มาทีหนึ่งก็เปลี่ยนทีหนึ่ง บางทีเด็กเรียน ป.๑ - ป.๔ ยังไม่ทันจะจบ ป. ๔ เลย หลักสูตรเปลี่ยนไป ๓ ครั้งแล้ว ประสาทกินกันพอดี..!"

เถรี 02-10-2019 08:35

"อาตมาเองเป็นคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนในเขตอำเภอทองผาภูมิ คณะกรรมการทางด้านกรุงเทพฯ ก็ไปตรวจประเมิน เด็กของคุณภาษาอังกฤษอ่อนมาก เฉลี่ยแล้วยังได้ไม่ถึง ๖ เต็ม ๑๐ ต้องแก้ไขอย่างนั้น ต้องแก้ไขอย่างนี้ ต้องเพิ่มอย่างนั้น ต้องเพิ่มอย่างนี้

อาตมายกมือบอกคณะกรรมการว่าขอพูดหน่อย เกณฑ์ประเมินที่โยมเอามาประเมินเด็กของโรงเรียนต่างจังหวัดติดชายแดนอย่างของอาตมา เกณฑ์เดียวกับกรุงเทพฯ ใช่ไหม ? แล้วโยมยอมรับไหมว่าเกณฑ์ประเมินนี่ก็ลอกต่างประเทศเขามา ? ไม่ได้ดูบริบทเลยว่าแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร

โยมบอกว่าเด็กของอาตมาภาษาอังกฤษอ่อนมาก เอาไอ้สุดยอดภาษาอังกฤษของโยมมาคุยภาษามอญกับเด็กของอาตมาไหวไหม ? ดูบ้างสิว่าเด็กที่นี่เด็กมอญ เด็กพม่า แล้วลองเอาสองคนโยนเข้าไปในป่า ดูสิว่าใครจะรอดออกมา ? เขาเรียกว่าประเมินโดยไม่ได้ดูบริบท คือความเป็นจริงว่าสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร

เราเองก็เลยไม่สามารถที่จะกำหนดหลักสูตรได้ จริง ๆ แล้วต้องให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษากำหนดหลักสูตรของตัวเอง เพราะเขาจะรู้ที่สุดว่าในพื้นที่ของตัวเองต้องการอะไร เป็นอย่างไร"

เถรี 02-10-2019 08:42

พระอาจารย์กล่าวเตือนโยม "อะไรบางอย่างถ้าเว้นแล้วปัญหาน้อยลงได้ก็เว้นซะ ไม่อย่างนั้นแล้วชีวิตยุ่งฉิบหายเลย"

เถรี 02-10-2019 08:52

ถาม : ภาวนาไป จับลมหายใจไป และอ่านหนังสือไปด้วย ตลอดเวลามีความรู้สึกว่าทำได้สบายดี แต่พอมานั่งลงกำหนดจิตหลับตา แรก ๆ ก็ง่วงมาก ใจสบายก็ยังสู้ได้ หลัง ๆ ชักจะหงุดหงิดค่ะ ?
ตอบ : ทำอย่างไรก็ได้ที่เราถนัด ไม่ได้สำคัญว่าจะทำแบบไหน แต่สำคัญตรงที่ว่าทำแล้วใจเราสงบไหม ? วิธีไหนที่ทำแล้วใจของเราสงบ รักษากำลังใจของเราได้ ให้ใช้วิธีนั้น

บางทีเข้ากับชาวบ้านเขาไม่ได้ เขาถึงได้ว่าครูบาอาจารย์จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้ให้ครบ ไม่อย่างนั้นแล้วพาลูกศิษย์ดี ๆ เสียไปเยอะเลย ถึงเวลาต้องหลับตาอย่างเดียว ลืมตาทำไม่ได้ ต้องนั่งภาวนาอย่างเป็นงานเป็นการ คุณจะไปทำงานไป อ่านหนังสือไป ภาวนาไปไม่ได้ อย่างนี้ก็บรรลัย อาตมาทุกวันนี้ยังหากินด้วยการอ่านหนังสือไป สวดมนต์ไปเลย


ถาม : ทำต่อไปเลยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ทำต่อไป อะไรที่ใจเราสงบ ทำอย่างนั้น

ถาม : ที่หนูทำปกติทุกวันนี้ดีแล้วใช่ไหมคะ ?
ตอบ : อะไรที่ทำให้ รัก โลภ โกรธ หลง น้อยลง ดีทั้งนั้น

ถาม : มีที่ทำแล้วดีกว่านี้ไหมคะ ?
ตอบ : อย่าอยาก..หมดอยากเมื่อไรจะได้ดีเอง

เถรี 02-10-2019 19:05

ถาม : เวลาหนูอธิษฐานทำความดี หนูชอบเรียกสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรียกพระอรหันต์มา เรียกเสมือนท่านเป็นพ่อแม่ในอดีต ถือว่าเป็นการปรามาสไหมคะ ?
ตอบ : ไม่หรอก เรียกไปเถอะ เรียกแล้วสบายใจ

เถรี 02-10-2019 19:09

ถาม : หนูท่องพะทะมะนะ คาถาสะเดาะกุญแจ ท่องไปแล้วหัวใจเต้นแรงมากเลยค่ะ ?
ตอบ : คาถาเป็นพื้นฐานของอภิญญา อภิญญาต้องใช้กำลังมาก การจะใช้กำลังมากต้องเร่งระบบร่างกายตัวเอง เพราะฉะนั้น..ห้ามกลัวตาย ถ้าจะตายก็ช่างมัน เราจะทำให้ได้

บางทีจะได้มากกว่าสะเดาะกลอนอีก อาจจะประเภทหลุดออกไปทั้งตัวเลยก็ได้

เถรี 02-10-2019 19:10

ถาม : แล้วหนูจะแบ่งเวลาภาวนาพระคาถาเงินล้านอย่างไร ?
ตอบ : ก็แบ่งเวลาสิ เช้า ๆ เย็น ๆ ก็สักชั่วโมง-สองชั่วโมง ถึงเวลาหมดแล้วก็ทำใหม่ จัดเป็นชุด ๆ เป็นระบบของเรา จัดระบบให้กับตัวเอง อย่าให้ใจว่าง ว่างเมื่อไรกิเลสจะกิน

เถรี 02-10-2019 19:17

ถาม : ฟังเรื่องรัฐบาลแล้วเครียดค่ะ ?
ตอบ : เครียดเพราะเราไปแบก กอง ๆ ลงไว้ ประเทศไทยไม่ใช่ของกูคนเดียว

เถรี 02-10-2019 19:21

ถาม : เร็ว ๆ นี้กรณีที่พระตีระฆัง แล้วคนในคอนโดเขาบอกว่าหนวกหู อยากรู้ว่าคนที่หนวกหูจะไปเกิดเป็นอะไร ?
ตอบ : ไปถามเขา หรือไม่ก็รอไปเกิดกับเขา

ถาม : พระอยู่มาก่อน เขามาทีหลัง ?
ตอบ : ไม่เห็นหรือ เมื่อวานนี้พระพุทธรูปปางอุลตร้าแมน ความเคารพในพระรัตนตรัยมีน้อยลงไปเรื่อย ๆ เอาการค้าเป็นใหญ่ สร้างจุดสนใจ เมื่อคนสนใจ ขายผลงานได้ เขาคิดแค่นั้น เขาไม่ได้คิดถึงโทษหลังจากชาตินี้แล้ว ฉะนั้น...เมื่อเขาคิดสั้น สายตาสั้น เราก็ได้แต่นั่งเวทนา

เถรี 02-10-2019 19:27

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาเป็นคนที่ "ถึงตายก็ขอปฏิบัติวัตรให้ครบถ้วน" ตั้งใจว่าถ้าจะตาย ขอทำวัตรค่ำให้เสร็จก่อน แต่คราวนี้เขาบอกว่า ถ้าตายตอนค่ำจะไม่เหลืออะไรให้ลูกหลาน คนจีนเขาถือว่ากินเช้า กินกลางวัน กินเย็นใช่ไหม ? เดี๋ยวก็ทำวัตรเช้าเสร็จ...(หัวเราะ)... ก็เลยอยู่ไปเรื่อย ๆ

เรื่องนี้ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ คุณตาของอาตมาตายตอน ๕ โมงเย็น ซึ่งปกติก็คือใกล้เวลากินข้าว ปรากฏว่าเพื่อนบ้านมาเยี่ยม ท่านบอกว่า "เฮ้ย..มึงหาข้าวให้กูกินชามหนึ่ง" เพื่อนก็วิ่งกลับบ้านไปตักข้าวมาให้ ตากินข้าวเสร็จ นอนตายคาเก้าอี้โยก ตายแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หมดลมไปดื้อ ๆ ซึ่งลักษณะการตายแบบนี้ เขาบอกว่าไม่เหลืออะไรไว้ให้ลูกหลาน เพราะว่ากินหมดทั้ง ๓ มื้อแล้ว

แต่ปรากฏว่าลูกหลานกลับเจริญรุ่งเรือง ส่วนข้างบ้านนั้นเป็นโรงตีเหล็กใหญ่ ๆ โต ๆ เจ๊งไปเลย ทุกคนเขาบอกว่า ก็เพราะไปให้เขากินแทน อาตมาก็ไม่รู้ว่าเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องบอกว่าเป็นเวรเป็นกรรมก็ใช่ แต่ก็ดันไปตรงกับความเชื่อของทางจีนเขา ฉะนั้น...ใครจะตายตอนเย็นก็พยายามหายใจไว้ไปตายตอนเช้า อย่างน้อย ๆ จะได้เหลือให้ลูกให้หลานบ้าง"


เถรี 03-10-2019 18:40

ถาม : ผมไปกราบหลวงปู่องค์หนึ่งที่วัดทางอีสาน ซึ่งท่านได้ป่วยมาเป็นปีแล้ว เวลาท่านไม่สบายอะไร ท่านก็จะเล่าให้ลูกศิษย์และผู้ที่ไปเยี่ยมได้ฟัง ซึ่งในวันที่ผมไปนั้น ได้มีโยมท่านหนึ่งเสนอขึ้นมาว่า เขาจะเอาจอมปลวกที่ขึ้นข้าง ๆ กุฏิของหลวงปู่ออก โดยเขาบอกว่า เขาไปหาหมอธรรมมา แล้วหมอธรรมบอกว่า การที่มีจอมปลวกมาขึ้นข้างกุฏิ เป็นสาเหตุที่ทำให้หลวงปู่ท่านป่วย โยมท่านนั้นเขาก็เลยจะเอาจอมปลวกออก อยากทราบว่าการที่มีจอมปลวกมาขึ้นข้างบ้านหรือข้างกุฏินั้น จะเป็นสาเหตุทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยเจ็บไข้ได้ป่วยจริงไหมครับ ?
ตอบ : อาตมาเคยเจอแต่ว่าจอมปลวกขึ้นแล้วรวย จอมปลวกจะมีผี หรือบางทีก็เป็นเทวดาชั้นต่ำอาศัยอยู่ เป็นสิทธิของเขา เรียกว่าผีปลวก คราวนี้ถ้าหากว่าเรารู้จักเซ่นผีปลวก ขออะไรก็ได้เหมือนกัน เขาไม่ได้ต้องการอะไรหรอก เอาข้าวสุกสักถ้วยหนึ่ง ซอยพริกลงไปเยอะ ๆ ประเภทเผ็ดกระโดดเลย แล้วถ้ามีหมูสามชั้นต้มติดมันก็หั่น ๆ ลงไปสัก ๗-๘ ชิ้น เอาไปวางแถว ๆ จอมปลวก แล้วจุดธูปบอกกล่าว มีอะไรขอให้เขาช่วยได้ ถ้าอยู่ใกล้ ๆ บ้านนั่นแหละดี ได้ยามชั้นดีเลย ไม่ต้องจ้างพนักงานบริษัท รปภ.

เถรี 03-10-2019 18:42

ถาม : กระผมมีอาการของจิตคล้ายจะประณีตจนเกินไป จนบางครั้งเวลาทำสมาธิหรืออาราธนาพระเครื่อง จะมีเสมือนจิตหนึ่งบอกว่ายังไม่ดีพอ เอาใหม่ เริ่มใหม่ จนบางครั้งแม้แต่จะสวดอิทธิ ฤทธิฯ ให้จบบทยังรู้สึกหนักเลยขอรับ บางครั้งวนอยู่แค่คำว่าอิท ยังไม่ถึงคำว่าธิ คำเดียวนี้อยู่หลายครั้งมากครับ กระผมอยากทราบอาการของจิตและวิธีแก้ไข ?
ตอบ : แสดงว่าเกิดเป็นพรหมมากเกินไป สภาพจิตเคยชินกับการทรงฌาน เข้าแล้วไม่ค่อยอยากจะออก เพราะว่าขาดความคล่องตัว ให้ไปซักซ้อมการออกจากสมาธิ ไม่ใช่เข้าสมาธินะ ซักซ้อมการออกจากสมาธิมาสู่อารมณ์ปกติแบบมนุษย์ทั่ว ๆ ไปให้คล่องตัวกว่านี้ แล้วจะแก้ปัญหานี้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วจะเข้าเป็นอย่างเดียว แล้วไม่ค่อยอยากจะออกแบบนี้แหละ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:16


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว