กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6115)

เถรี 27-04-2018 23:52

"อาตมาจึงสรุปได้ว่าเราไม่ได้บ้า ตอนเด็ก ๆ ตกใจมากว่าทำไมฟันขึ้นที่เพดานปาก เรื่องของเรื่องที่เล่าให้ฟังก็ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้แก่แล้วไม่รู้ว่าจะหลุดไปเมื่อไร ถึงเวลาหลุดแล้วจะเอามาให้ประมูลกัน ...(หัวเราะ)...

คนที่ได้ฟันอาตมาที่หลุด ๒ ซี่ไปคือหมอฟัน หมอถอนเสร็จแล้วไม่คืนด้วย เป็นหมอที่อุทัยธานี ด้วยความที่อาตมาเข้าใจผิดเพราะว่าฟันผุ หมอบอกต้องรักษารากฟัน ลำบากหน่อยเพราะต้องไปบ่อย อาตมาไม่ค่อยมีเวลา และคิดว่าฟันน้ำนมของเราตรงส่วนนี้ยังไม่เคยหลุด ถอนแล้วน่าจะขึ้น ลืมไปว่าตัวเองอายุ ๒๐ กว่าแล้ว จะไปขึ้นอะไร จำไว้ว่าถ้าอายุเกินเกณฑ์แล้ว ฟันน้ำนมต่อให้ไม่หลุดก็กลายเป็นฟันแท้ไปแล้ว

บางคนพออายุมาก ๆ เข้าเหมือนกลับไปเป็นหนุ่มอีกที มีบางคนมีฟันชุดที่ ๒ ที่ ๓ ด้วย อาตมาถ้าอยู่จนถึงฟันชุดใหม่ขึ้นก็คงต้องตะบันน้ำกิน

อาตมาเป็นคนอายุสั้น ตายตั้งแต่ยังไม่ทันจะบวช ในอดีตหลวงพ่อฤๅษีท่านบอกว่า อาตมาเป็นทหารฆ่าเขามาทุกชาติ กรรมปาณาติบาตหนักมาก แต่ปรากฏว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่รอดต่อมาได้ ตอนนี้กำลังรออยู่ว่า ถ้าหมดอายุราชการแล้วไม่เซ็นต่อก็หมดเรื่องไป หลวงปู่ปานมรณภาพตอนอายุ ๖๓ ปีเองนะ อาตมาเหยียบ ๖๐ ปีแล้ว ขออย่าให้อยู่เกินหลวงปู่เลย เบื่อเต็มทีแล้ว"

เถรี 03-05-2018 09:23

ถาม : พวกคำสอนของพระพุทธเจ้าเราเอาไปพิมพ์บนเสื้อขาวจะเหมาะสมไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าเป็นหนังสือก็พอไหว เพราะว่าเป็นธรรมทาน แต่พิมพ์ที่เสื้อนี่ไม่แน่ใจ เพราะว่าไม่ใช่สถานที่อันเหมาะสม เกิดเอาไปซักปนกับของต่ำก็ยุ่งอีก

ถาม : เสื้อกระโถนข้างธรรมมาสน์มีธรรมทาน ?
ตอบ : กระโถนข้างธรรมมาสน์มีอะไร ? เกี่ยวอะไรกับหลักธรรม ? ที่เราว่ามาก็คือที่เอาธรรมะพระพุทธเจ้าไปพิมพ์ติด

ถาม : แล้วถ้าเป็นเสื้อยันต์เกราะเพชรละคะ ?
ตอบ : เสื้อยันต์ก็แยกซัก

เถรี 03-05-2018 09:24

ถาม :ทำงานไปด้วย และสวดคาถาเงินล้านไปด้วย ควรจะแบ่งเวลาอย่างไรบ้าง ?
ตอบ : เวลางานใจอยู่กับงาน เวลาว่างใจอยู่กับการภาวนา ถ้าหากว่าเวลางานนึกขึ้นมาได้จะภาวนาก็ไม่เป็นอะไร

เถรี 03-05-2018 09:33

ถาม : คนที่สมัครหลายชื่อ หลาย ๆ ล็อกอินในเว็บบอร์ด ผิดศีลธรรมหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่ได้เอาไปโกงชาวบ้านเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่ตัวตนจะมากขึ้น กลายเป็นยึดติดมากขึ้น

ถาม : อย่างตั้งชื่อหลายชื่อเพื่อมากดถูกใจในเพจหน้าร้านมาก ๆ จะได้หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่ได้ทำให้คนอื่นเสียผลประโยชน์ก็ไม่ผิด ถ้าหากว่าเสียผลประโยชน์ ก็เข้าข่ายหลอกลวง

ถาม : ก็คือ เราได้รายได้จากการที่คนเข้ามากดถูกใจเยอะ ?
ตอบ : ถ้าปัญญานิ่มไปเชื่อเขาก็ช่วยไม่ได้หรอก

เถรี 03-05-2018 09:44

พระอาจารย์กล่าวว่า “มีเฟซบุ๊กไปลงว่ามีรูปหล่อพระองค์ที่ ๑๑ ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ที่สร้างโดยพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุนจำหน่าย ขอยืนยันว่าพระองค์ที่ ๑๑ ของวัดท่าขนุน ขนาดหน้าตัก ๑๐ นิ้วถ้วน ๆ แล้วตอนที่สร้างก็แจกฟรีด้วย ฉะนั้น...อะไรที่เกิดขึ้นให้หาข่าวให้ดีก่อน อย่าเพิ่งไปถือมงคลตื่นข่าวแล้วก็เสียเงินให้เขาฟรี ๆ ตอนนั้นอาตมายังอยู่ที่เกาะพระฤๅษี พระครูแสงยังไม่ได้บวช ท่านมีศรัทธาสร้างรูปพระองค์ที่ ๑๑ เพื่อถวายให้อาตมาหาปัจจัยในการก่อสร้าง แต่อาตมาเองไม่นิยมการหาปัจจัยด้วยวิธีนั้น ก็เลยแจกฟรี

เรื่องของวัตถุมงคล ถ้าสงสัยหรือไม่รู้ว่ารุ่นไหนเป็นของวัด ให้เข้าไปดูในเว็บวัดท่าขนุน จะมีบอกไว้ ตั้งแต่รุ่นแรกที่อาตมาสร้างช่วงที่อยู่วัดท่าซุง ช่วงที่อยู่เกาะพระฤๅษี ช่วงที่อยู่วัดทองผาภูมิ จากนั้นท้ายสุดมาอยู่ที่วัดท่าขนุน ฉะนั้น...ถ้าคิดว่าองค์ไหนเป็นของวัดไปเปิดดูได้ มีบอกไว้ครบถ้วน องค์ไหนที่ไม่มีก็แปลว่าไม่ใช่ของทางวัด เป็นคนอื่นสร้าง”

เถรี 03-05-2018 09:54

พระอาจารย์กล่าวว่า “วันที่ ๒๑ เมษายนนี้ อาตมาจะไปพุทธาภิเษกที่กองทุนหลวงปู่ปาน อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ความจริงจะพุทธาภิเษกที่วัดบึงลาดสวาย ปรากฏว่าระเบิดลง ทางผู้จัดสร้างโดนเจ้าคณะภาคตำหนิ ก็เลยต้องย้ายที่ไปโน่น ย้ายข้ามจังหวัดไปเลย อาตมาก็ไม่ว่าอะไร เพราะว่าจะไปทางด้านโน้นหรือมาทางด้านวัดบึงลาดสวายก็ไกลพอกัน

วัดบึงลาดสวายเป็นวัดมอญ แต่เป็นวัดมอญที่สวดทั้งมอญ สวดทั้งไทย เวลาพี่น้องมอญรอบวัดนิมนต์พระก็สวดแบบมอญให้ ถ้าพี่น้องคนไทยนิมนต์พระก็สวดแบบไทยให้

พระเกจิอาจารย์สมัยก่อนที่มีชื่อเสียงดัง ๆ ของบ้านเราเมืองเราส่วนใหญ่มีเชื้อสายมอญเกือบทั้งหมด แม้กระทั่งหลวงปู่พุก วัดท่าขนุน ที่เขาถือว่าเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกก็เป็นมอญโพธาราม เพราะว่าตอนช่วงนั้นบรรดามอญย้ายตามพระมหาเถรคันฉ่อง (ตอนหลังได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว) ย้ายตามมาเยอะมาก พอทางพระเจ้าแผ่นดินสั่งให้ครัวมอญไปอยู่ตรงโน้น ตรงนี้ ตรงนั้น บรรดาพระเถระต่าง ๆ ก็แยกย้ายกันไปเป็นหลัก เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้กับญาติโยม ก็เลยมีพระเถระเชื้อสายมอญอยู่มากมาย

ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่ในกรุงเทพฯ ของเราพระมอญก็เยอะมาก ที่โด่งดังระเบิดเถิดเทิงเลยก็อย่างพระพิมลธรรม (นาค) วัดอรุณราชวราราม ที่สร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ถือเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทย นั่นก็พระมอญ วัดชนะสงครามเราคิดว่าเป็นวัดไทย แต่โบราณมาเป็นวัดมอญ ชื่อวัดตองปุ อยู่กลางกรุงเทพฯ เลย"

เถรี 03-05-2018 09:58

"พระเถระทางมอญที่มีชื่อเสียง ส่วนใหญ่ก็มีความสามารถที่แท้จริง สืบทอดความรู้มาจากตำราของมหาเถรคันฉ่องหรือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว โดยเฉพาะตำราการสร้างเบี้ยแก้ เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วความรู้เหล่านี้ก็ถ่ายทอดมาจากตำรามอญแทบทั้งนั้น

ปัจจุบันนี้พี่น้องชาวมอญยังเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นมาก ถึงเวลามีงานแต่ละที อยู่ใกล้อยู่ไกลก็ไปถึงกันหมด อาตมาเองเป็นประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ไม่ว่าจะเป็นมอญ เป็นกะเหรี่ยง เป็นม้ง เป็นเย้า เป็นไทยอีสาน การแสดงออกก็ไม่เหนียวแน่นเท่ากับคนมอญ คนมอญนี่พูดถึงเรื่องรักชาติ รักพวกรักพ้องนี่เต็มที่ วัดไหนมีงาน ถ้าเจ้าอาวาสเป็นเชื้อสายมอญ เอ่ยปากคำเดียวนี่อยู่ไกลแค่ไหนก็ไป ถึงไม่มีสตางค์ไปก็เอาแรงงานไปช่วย"

เถรี 03-05-2018 22:45

"พระเถระชาวมอญอีกรูปหนึ่งที่โด่งดังมาก ๆ เลย ก็คือ หลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน สมัยก่อนท่านสร้างชูชกดังระเบิดเถิดเทิง เคล็ดลับอยู่ตรงที่ว่า ชูชกขออะไรใครไม่เคยพลาด จัดเป็นเมตตามหานิยมอย่างยิ่ง แม้แต่ลูกอันเป็นสุดที่รักอย่างกัณหาชาลี ชูชกก็ยังขอไปได้ ท่านเอาเคล็ดลับตรงนี้มาสร้าง

หลวงปู่รอดยังสร้างวัตถุมงคลอื่น ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด เป็นสิงห์ มีกระทั่งเขี้ยวเสือแกะ มีกระทั่งงาช้างแกะ มีรูปพระอัครสาวก ทุกอย่างนี่ถ้าอยู่ในมือลูกศิษย์คนมอญไม่มีทางได้หลุดออกมาเลย เก็บเงียบหมด มีแต่ลูกศิษย์คนไทยที่เอามาปล่อยต่อ จึงพอที่จะมีของหมุนเวียนในตลาดบ้าง โดยเฉพาะชูชกของหลวงปู่รอด จนป่านนี้ยังไม่มีใครทำได้เสมอกับท่านเลย

ราชสีห์หลวงปู่รอดหรือสิงห์มหาอำนาจ ถามว่าดีตรงไหน ? บอกว่าเอาไว้พิทักษ์รักษาทั้งตัวเองและทรัพย์สินได้ดีมาก ๆ ขโมยเข้าวัดบางน้ำวนจะไปขโมยของ เจอสิงโตไล่ฟัดเปิดแน่บ ยังสงสัยว่าวัดนี้เลี้ยงสิงโตได้อย่างไร ถึงเวลาหลวงปู่รอดท่านก็เก็บเข้าย่าม"

เถรี 03-05-2018 23:10

"แม้กระทั่งธรรมยุติกนิกายในประเทศไทยก็สืบที่สืบทางมาจากมอญ เพราะว่าพระมอญมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก เพราะมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ก็เลยทำให้เคร่งครัดในเรื่องของการปฏิบัติไปด้วย ในเมื่อมีความเคร่งครัดทั้งในเรื่องของศีล ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม จึงทำให้แต่ละท่านมีความสามารถพิเศษกันมาก สร้างวัตถุมงคลอะไรออกมาก็ขลังไปหมด

หลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ จ.ปทุมธานี
พระที่ท่านสร้างถือว่าใช้แทนสมเด็จวัดระฆังได้เลย เพราะว่าท่านก็ลบผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผง
มหาราช ลบผงทะลุกระดาน ผงหล่นลงพื้นเดินไปลงถาดเองได้อย่างกับฝูงมด บรรดาลูกศิษย์เห็นกันต่อหน้าต่อตา วัตถุมงคลหลวงพ่อเทียนอยู่ในมือใคร อย่าหวังเลยว่าจะหลุดออกมาง่าย ๆ"

เถรี 03-05-2018 23:15

"อาณาจักรมอญสมัยก่อนคือสุธรรมวดี ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองหงสาวดี หรือเมืองปะโก หรือที่คนไทยเรียกว่าพะโคในปัจจุบัน โดนพระเจ้าอโนรธา หรือที่คนไทยเรียกว่าพระเจ้าอนุรุทธมหาราชของอาณาจักรพุกาม ยกมาตีอาณาจักรแตก จับเอากษัตริย์มอญและราชินีมอญไปขังเอาไว้ที่พุกาม ตั้งแต่นั้นมามอญก็เสื่อมลง ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้มอญเรืองอำนาจมาก แทบจะครองสุวรรณภูมิทั้งหมด

แม้กระทั่งภาษาระหว่างมอญกับเขมรก็มีความเนื่องกัน โดยเฉพาะการพูดเร็ว และออกเสียง ร.เรือ ชัดเจน เขาบอกว่ามอญกับเขมรพูดกันนี่ น้ำลายกระเซ็นเป็นตัว ร.เรือ ส่วนพวกเราออกเสียงอย่างนั้นไม่ได้"

เถรี 03-05-2018 23:17

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้คณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีมีหัวก้าวหน้า สร้างศูนย์กายภาพบำบัดสำหรับพระภิกษุสงฆ์โดยเฉพาะ อยู่ในบริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลวังด้ง ลงทุนลงแรงกันไปเยอะ ตอนนี้มีโอกาสได้ใช้งานกันแล้ว"

เถรี 04-05-2018 09:21

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ? เชื่อไหมว่ารัฐบาลนี้อาตมาจำนายกรัฐมนตรีได้คนเดียว รัฐบาลที่มาโดยไม่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย อาตมาไม่จำเลย นายกรัฐมนตรีจะไม่จำก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นหัวหน้าคสช. ส่วนคนอื่น ๆ ใครเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอะไรบ้างไม่ต้องถาม...จำไม่ได้

ที่จำไม่ได้มี ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือหาผลงานไม่ได้ สักแต่ว่าเป็นรัฐมนตรีไปวัน ๆ ส่วนอีกอย่างก็คืออาตมาไม่ได้ดูโทรทัศน์ ในเมื่อไม่ได้ดูโทรทัศน์มา ๓๐ กว่าจะ ๔๐ ปีจึงไม่ค่อยจะรู้จักใคร ในเมื่อไม่รู้จักถึงเวลาคนที่ไปวัดก็ราคาเดียวกันหมด ไปวัดก็นั่งแปะกับพื้นเหมือนกัน

โดยเฉพาะที่น่าสงสารที่สุดก็บรรดาดารา อาตมาไม่รู้จักเลยจริง ๆ ถ้าไม่ดูโทรทัศน์ก็แปลว่าไม่ต้องรู้จักกัน บางทีเด็กวัดก็ตื่นเต้นวิ่งมาบอกว่าดาราคนโน้นมา ดาราคนนี้มา อาตมาก็ได้แต่ฟัง ๆ ก็ไม่รู้จักจริง ๆ ใครเป็นดาราถ้าไปวัดท่าขนุนก็โปรดทราบ เจ้าอาวาสไม่รู้จักคุณหรอก"

เถรี 04-05-2018 09:24

"เมื่อปลายเดือนมีนาคม งานวันเกิดหลวงพ่อมณฑล ก็มีคุณสมบัติ บัญชาเมฆ หรือที่พวกเราเรียกกันว่า "พี่บัวขาว" ไปทำบุญ ในความรู้สึกของอาตมาก็คือบัวขาวต้องตัวใหญ่มาก เพราะเห็นว่าต่อยมวยรุ่น ๗๐ กิโลกรัม ปรากฏว่าตัวเล็กกว่าอาตมาตั้งเยอะ แปลว่าจะต้องฝึกซ้อมจนกระทั่งทั้งเนื้อทั้งตัวแทบจะเหลือแต่กล้ามเนื้อ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ตัวเล็กแบบนั้น

บัวขาวไปหาอาตมาที่วัด ๒ ครั้งแล้วไม่เจอ มาวันงานเจอกันในงาน อาตมาก็มีงานประชุมต่อ พอสวดมนต์เสร็จก็ไม่ได้ฉันเพล รับไทยธรรมแล้วก็บอกกับบัวขาวว่าขอตัวไปประชุมก่อน เพราะว่าต้องไปพิจารณาสำนักปฏิบัติธรรมที่ได้รับรางวัลดีเด่น จะไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นกรรมการพิจารณา ขอตัวได้ก็วิ่งไปสำนักพุทธฯ จังหวัด ตอนเย็นกลับมาที่วัด พระท่านบอกว่าบัวขาวมาหาพระอาจารย์อีกแล้ว ไม่เจอตามเคย ลืมบอกเขาว่าประชุมกันที่สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ได้ประชุมที่วัด ลืมบอกไป

ส่วนที่เห็นก็คือ จริง ๆ แล้วบัวขาวเป็นคนมีสมาธิดีมาก เพราะว่าสวดมนต์จน ๑๑ โมง ๔๐ นาที บัวขาวนั่งฟังได้สบาย ตอนที่แกรำคาญก็คือมีแต่คนไปขอ "เซลฟี่" ด้วยความที่เป็นคนของประชาชน ถึงเวลาใครขอถ่ายรูปก็ต้องยิ้มให้ ต้องถ่ายรูปด้วย เขาบอกให้ตั้งการ์ดหน่อย ก็ตั้งการ์ดมวยให้เขาดู แล้วคิดดูว่าคนจะฟังพระสวดมนต์ ถึงเวลาก็โดนเรียกไปถ่ายรูปเป็นระยะ ๆ เป็นเราจะทำอย่างไร ?"

เถรี 04-05-2018 09:26

พระอาจารย์เล่าว่า "เคยมีพระ ๓ รูปจากวัดพระธรรมกาย ได้ยินกิตติศัพท์ของพระอาจารย์เล็กแล้วเลื่อมใสมาก จะไปขออยู่ปฏิบัติธรรมด้วย พอเห็นที่นอนว่าเป็นเสื่อผืนหมอนใบ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ท่านขอลากลับเดี๋ยวนั้นเลย ตกลงว่าความเลื่อมใสในพระอาจารย์ยังไม่เพียงพอ

อย่างท่านเจ้าคุณปิงไปวัดก็เสื่อผืนหมอนใบเหมือนกัน ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นเขา ต้องบอกว่าพระวัดธรรมกายท่านลำบากไม่เป็น อยู่ในลักษณะโรงแรม ๕ ดาวเสียจนเคย ไปเจอโรงเตี๊ยมจิ้งหรีดอย่างของวัดท่าขนุนก็หนีกลับหมดเลย อาตมาก็ไม่ตำหนิเขา แต่อยากจะบอกว่า ถ้าเราลำบากไม่เป็น ไปที่ไหนก็ลำบากไปหมด ถ้าเราลำบากเป็น ไปที่ไหนก็สบายไปหมด"

เถรี 06-05-2018 08:38

พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงนี้เป็นช่วงระยะเวลาแห่งการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ปกติเด็ก ๆ จะไม่อยากบวชกับวัดท่าขนุน เพราะว่าพระท่านตีจริง ๆ...! ปีที่แล้วมีบวชอยู่ ๗-๘ รูป แต่อาตมาตั้งกติกาเอาไว้ว่า ถ้าใครอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตร และปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะได้ จะให้ทุนการศึกษารายการละ ๕๐๐ บาท สี่อย่างก็ได้ ๒,๐๐๐ บาท กลายเป็นว่าปีที่แล้วผู้ที่ไปบวชได้ทุนกันทุกคน ตั้งใจท่องจะเอาเงิน..!

ปีนี้ขยับพรวดขึ้นมาเป็น ๓๔ รูป คงอยากได้บ้าง ...(หัวเราะ)... ไม่รู้ว่าถ้าปีหน้าถ้ามาเป็นร้อยจะมีปัญญาจ่ายไหวไหม ? จาก ๗-๘ รูป กลายเป็น ๓๔ รูป แล้วจาก ๓๔ จะเป็นเท่าไร ? เขาก็แค่บอกเพื่อนเขา
ต่อเท่านั้นเอง

วันก่อนเณรทำบาตรตกทั้งใบเลย บอกแล้วว่าเณรต้องมีสติ ปรากฏว่าเณรมีสติ แต่บาตรไม่มีสติด้วย...! เพราะว่าเป็นบาตรสเตนเลส เณรผูกเชือกไม่แน่น พออุ้มไปนาน ๆ ก็หลวม พอหลวมแล้วเผลอก็หล่น บอกให้ไปรับรางวัลจากพระพี่เลี้ยง เณรทำท่าเหมือนจะตาย เณรวัดท่าขนุนไม่ต้องบอกอะไรมาก เพราะว่า
เขารู้กิตติศัพท์เจ้าอาวาสดี

งวดที่ผ่านมาถ้าผิดตีคือตีจริง ๆ ถึงเวลาฉันเพลคุยกัน อาตมาบอกว่า "เอ้า..เณรรู้ไหมว่าถ้าเสียงดังแปลว่าอิ่มแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เลิกฉันเลยนะ" เงียบสนิท...! เพราะว่ายังต้องกินอยู่ คนกินอยู่ปากคุยไม่ได้ จึงต้องเงียบ ถ้าหากว่าคุยได้แปลว่าอิ่มแล้ว ก็ต้องเลิกกิน ไม่เห็นต้องสอนอะไรมากเลย ...(หัวเราะ)...

แต่เณรกินน่ากลัวมาก แต่ละรูปกิน
น่องไก่ทอดกระดูกเป็นจานเลย แต่หมาชอบ ถึงเวลาอาตมาก็กวาดกระดูกไปเลี้ยงหมา ๓๐ กว่ารูปบวช ๑๐ วันเป็นอย่างน้อย คาดว่าคงกินไปไม่หนี ๓๐,๐๐๐ - ๔๐,๐๐๐ บาท"

เถรี 06-05-2018 08:42

"ความจริงอาตมาก็ให้เณรบิณฑบาตนะ แต่ให้สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เพราะว่าเณร ๓๐ กว่ารูป บวกกับพระเข้าไปด้วย แถวหนึ่งก็ ๕๐-๖๐ รูป ไม่ไหวหรอก โยมเขาใส่บาตรกันไม่ไหว จึงให้แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มละ ๑๐ รูปแล้วก็เปลี่ยนกันไป ๒ กลุ่มทำความสะอาดวัด กลุ่มหนึ่งบิณฑบาต ก็เท่ากับว่าบิณฑบาตหนึ่งวันเว้นสองวัน ตลอดโครงการก็บิณฑบาตได้แค่ ๓-๔ ครั้ง ไม่เกินนั้น

เณรตัวโต ๆ หน่อยอายุ ๑๔-๑๖ ปี จะได้เปรียบ ขายาว..เดินตามพระทัน เณรตัวเล็ก ๆ ต้องให้ไปสายใกล้ ที่วัดจะมีสายบิณฑบาตสายใกล้ เรียกว่าสายบ้านบน คือเข้าไปในหมู่บ้านท่าขนุน ไม่ไกลจากวัดนัก เดินไปกลับก็ ๒ กิโลเมตรเศษ ๆ สายนี้โยมก็พยายามจะเรียกร้องขอพระเยอะ ๆ อาตมาบอกว่าเยอะไม่ได้ พระแก่กับพระป่วยมีอยู่แค่นั้น คือให้พระแก่กับพระป่วยไปสายใกล้ ป่วยก็อย่าหวังว่าจะได้นอนกินเฉย ๆ นะ

ส่วนสายไกลอย่างที่อาตมาเดิน ก็ ๕ กิโลเมตรกว่า ๆ ก็เอาเณรตัวใหญ่หน่อย เห็นตัวเล็ก ๆ ตัวแค่นี้ ๙ ขวบจริงหรือนี่ ? ต้องให้เดินไปสายใกล้แทน ฉะนั้น...สายใกล้ก็จะมีเณรเป็นแถวยาวอยู่ ๒ วันแล้วก็หายไปวันหนึ่ง เพราะว่าเณรตัวใหญ่ต้องไปสายไกล"

เถรี 06-05-2018 08:51

"จะว่าไปแล้วเป็นการฝึกระเบียบวินัยอะไรต่าง ๆ ได้ดีมาก เพราะว่าที่วัดต้องตื่นตามเวลาอยู่แล้ว ตี ๔ เป๋งไม่มาเจริญกรรมฐานก็เตรียมรอรับสายไฟได้ ไม่ใช่ไม้นะ...! ขอยืนยันว่าตีด้วยสายไฟขนาด ๒.๕ มิลลิเมตร ฟาดเข้าไปเถอะ ตีทีหนึ่งได้ ๒ แผล บางทีตีเณรนี่พ่อแม่ยืนร้องไห้เลย บอกว่าดีแล้วครับที่หลวงพ่อตี ผมเองคงไม่กล้าตี

อาตมาไม่ได้ตีเพราะว่าระบายอารมณ์ แต่ตีเพราะว่าเขาทำผิด จะถามเขาว่ารู้ไหมว่าผิดอะไร ? ทำอย่างนี้ทำไมถึงผิด ? แบบเดียวกับสมัยที่พวกเจ้าชายเล็กยังอยู่

"รู้ไหมทำไมต้องโดนตี ?"
"ผมไปเล่นเกมส์ครับ"
"ไม่ผิดหรอกเล่นเกมส์ หลวงพ่อเองก็อยากเล่น"
"มีเงินครับ"
"ไม่ผิดหรอก หลวงพ่อมีเยอะกว่ามึงอีก" เขาก็สงสัยว่าผิดอะไร ?
"ผิดเพราะว่าเอ็งออกจากวัดแล้วไม่ลา ระเบียบวัดระบุไว้ชัด ๆ ถ้าเอ็งออกไปโดนรถทับตายแล้วใครจะรู้ว่าเอ็งออกไปตอนไหน ? เอ็งออกไปข้างนอกจะไปเล่นเกมส์ไปทำอะไร ข้าไม่ว่าอยู่แล้ว ถึงเวลาทำงานได้รางวัลมีเงิน จะไปซื้ออะไรก็เรื่องของเอ็ง แต่จะไปไหนต้องบอกลาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ก่อน ไม่ใช่หายไปเฉย ๆ แอบหนีไปเล่นเกมส์"


เรื่องของเด็กถ้าเราบอกชัดเจนเขารับได้ บางทีก็ประเภท "ไปหาผ้าหนา ๆ มา หรือเอาสมุดปิดตูดมา" เปิดโอกาสให้เขาขนาดนั้นแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปแอบทำ ข้าสั่งให้หามาเอง"

เถรี 06-05-2018 09:14

"เพียงแต่ว่าเด็ก ๆ กินน่ากลัว อย่างเณรหมี ให้เงินไป ๒๐๐ บาท กินไอศกรีมครึ่งวันหมดแล้ว โอ๊ย...ตาย ๆ ตอนนั้นไอศกรีมอะไรไม่รู้ จำได้ว่าอันละ ๖๐ บาท เงิน ๒๐๐ บาทกินได้พักเดียวหมดแล้ว โอ้หนอ...รุ่นตูไอศกรีมอันละสลึงเดียว รุ่นเอ็งอันละ ๖๐ บาท ช่วงนี้รถไอศกรีมเข้าวัดแล้วไม่ออกหรอก อยู่จนบ่ายเลย เพราะว่าเณรเยอะ เข้าไปอย่างไรก็ต้องมีคนซื้อ"

เถรี 06-05-2018 09:34

"อยู่ที่วัดก็ลำบากอยู่อย่างหนึ่งเพราะว่าเณรไม่มีโทรทัศน์ดู ถ้าใครติดบุพเพสันนิวาสก็นั่งร้องไห้ไปเถอะ

ประกาศบอกกับเณรไว้ว่าใครร้องไห้ครั้งที่ ๑ ตี ๑ ที ร้องไห้ครั้งที่ ๒ ตี ๒ ที ครั้งที่ ๓ ตี ๓ ที เพราะฉะนั้นร้องได้เลย...! กลางคืนแอบร้องไห้คิดถึงบ้าน คราวนี้จะได้รู้ว่าพ่อแม่รักเราแค่ไหน อยู่บ้านนี่ทูนหัวทูนเกล้า ต้องการอะไรได้ทุกอย่าง ไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่ที่นี่ต้องทำทุกอย่าง กวาดวัด ถูศาลา ซักเสื้อผ้า เลี้ยงหมา ทำสารพัด เชื่อเถอะ...ผ่านไปสักอาทิตย์หนึ่งเขาจะรักพ่อแม่สุดจิตสุดใจเลย แต่พอนาน ๆ ไปก็ลืม

มีคนส่งคลิปมาให้ดูที่เณรน้อยเดินธุดงค์ไปก็ร้องไห้ไป "ไม่เอาแล้วอาจารย์ใจร้าย" แต่เณรสู้นะ ขอให้ได้บ่น เดินไปร้องไห้ไปแต่ก็เดิน เพราะว่าอาจารย์บอกว่าถ้าไม่เดินก็ทิ้งไว้ให้เสือกินที่นี่..!

ตอนนั้นเณรอาร์ตไปบึงลับแลกับท่านกอล์ฟ เขาก็ถาม "หลวงน้า ๆ ที่นี่มีเสือใช่ไหม ?"
"มี" "แล้วหลวงน้าไม่กลัวหรือ ?"
"ไม่กลัวหรอก เพราะว่าหลวงน้าขายาวกว่า เสือมาก็วิ่งหนี เณรวิ่งช้ากว่าเสือก็กินเณร"


เณรนั่งร้องไห้เลย ไปเจอหลวงน้าไม่ถนอมน้ำใจเณรเลย เล่นบอกว่าจะวิ่งหนีทิ้งเณรให้เสือกิน"

เถรี 07-05-2018 18:57

"หน้านี้ยังดีที่ฝนตกแล้ว ไม่อย่างนั้นหน้าแล้งป่าบริเวณนั้นจะมีแหล่งน้ำอยู่ที่เดียวคือบึงนั้น พวกสัตว์ทั้งหมดจะมารวมกินน้ำบริเวณนั้น แล้วเสือก็จะลงมาดักกินสัตว์อื่นด้วย รอยเท้านี่ประเภทมือกว้าง ๆ อย่างอาตมาวัดได้ ๗ นิ้วมือกาง ๆ ต้องนึกเลยว่าตัวใหญ่แค่ไหน เพียงแต่ว่าช่วงนี้เสือน่าจะไปหากินที่อื่น แถวนั้นช้างกำลังลงมาเยอะ เพราะว่าช้างขาดแหล่งน้ำไม่ได้อยู่แล้ว

ตอนนี้มีช้างอยู่ตัวหนึ่ง เขาเรียกว่าเจ้างาเล็ก เดินข้ามถนนตรงห้วยเขย่งอยู่ทุกวัน เขาถ่ายรูปส่งให้กรมคชบาลไปพิจารณาแล้ว เพราะดูท่าทีว่าจะเป็นช้างเผือก ถ้าไม่ใช่ช้างเผือกก็เป็นช้างสีประหลาด ซึ่งถือว่าเป็นตระกูลสูงใกล้เคียงกับช้างเผือก เจ้านี่หากินเดี่ยว ไม่ไปกับพวก ถึงเวลาก็ออกจากป่า ข้ามถนนไปหากล้วยหาอ้อยในไร่ชาวบ้าน ตอนนี้อาตมากำลังวางแผนว่าจะช่วยช้างด้วยการปลูกกล้วย คือกล้วยปลูกฤดูกาลเดียวก็ได้แล้ว พอถึงเวลาหน้าฝนก็ระดมปลูกเลย ช่วยกันปลูกคนละกอ สองกอ แบกหน่อมาจากบ้าน พอถึงเวลาเขามาก็มีกิน ไม่ต้องบุกเข้าไปที่ไร่ชาวบ้าน"

เถรี 07-05-2018 19:03

"เพิ่งจะรู้ว่าช้างชอบกินทุเรียนมาก ชาวบ้านเขาเก็บทุเรียนเอาไว้ในโรงรถเพื่อจะรอเวลาพรุ่งนี้ขนไปตลาด ปรากฏว่าตื่นเช้าขึ้นมาเกือบจะเป็นลม ช้างแค่เอาหัวไถเบา ๆ กำแพงก็หายไปแล้ว เขาก็เลือกกินกันตามสบาย พวกนี้ฉลาดมาก เอาเท้าเหยียบก่อน แล้วหยิบกินทีละพู ลองคิดดูว่าช้างหนึ่งตัวกินทีขนาดไหน ? ทุเรียนประมาณรถกระบะหนึ่ง ช้าง ๑-๒ ตัวก็ไม่เหลือแล้ว

ระยะหลังเวลาเดินเข้ามาอยู่ในกล้องวงจรปิดก็จะเห็นรูป พยายามพิจารณาจำให้ได้ว่าอยู่โขลงไหน ตอนแรกเขาลงมาเป็นโขลงใหญ่ ๒๐-๓๐ ตัว พอบ้านจุดประทัดไล่บ้าง ยิงปืนไล่บ้าง เขาก็เปลี่ยนวิธีใหม่ เปลี่ยนเป็นชุดเล็ก ๆ ๒ ตัว ๓ ตัว กระจายกันออกไป คราวนี้มีปัญญาไล่ก็ไล่ไปสิ ก็เลยต้องหาวิธีให้คนกับสัตว์อยู่ด้วยกันได้ คนก็ต้องเสียสละหน่อย ถึงเวลาปลูกพืชอาหารไว้ให้เขา แต่อย่างว่าแหละ กล้วยทั้งต้นถึงเวลาเขาดึงโค่นลงมาแล้ว เขาก็เหยียบกินแต่ไส้ใน สิ้นเปลืองอย่าบอกใครเลย"

เถรี 07-05-2018 19:07

"คราวนี้ก็รอกรมคชบาลไปพิสูจน์ว่าเจ้างาเล็กเป็นช้างเผือกหรือเปล่า ? ถ้าเป็นช้างเผือกทองผาภูมิก็ดังระเบิด เพราะว่าจะคล้องช้างเผือกเชือกแรกถวายในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ กำลังลุ้นอยู่ว่าเป็นช้างเผือกหรือเปล่า ? ถ้าเป็นช้างเผือกเชือกแรกในรัชกาลคงทรงโปรดน่าดู

ที่ทองผาภูมิมีหมู่บ้านอยู่หมู่บ้านหนึ่ง เรียกว่าหมู่บ้านห้วยปากคอก คนเขาสงสัยว่าคอกอะไร ก็คือคอกช้าง สมัยก่อนรัชกาลที่ ๕ ที่ ๖ ยังมีการจับช้างส่งเข้าวังหลวงเป็นปกติ
คอกช้างก็คือเพนียดช้าง ตอนนี้วัดห้วยปากคอกเขากำลังหาเจ้าอาวาส มาขอวัดท่าขนุนหลายรอบแล้ว แต่ยังไม่ให้ไป"

เถรี 07-05-2018 19:12

ถาม : ตอนนี้แม่อาการดีขึ้น แต่เรื่องสมองเปลี่ยนไป ทำอย่างไรจะให้สมองดีขึ้นครับ ?
ตอบ : หาไข่ให้แม่กินทุกวัน

ถาม : หมอให้กินแต่ไข่ขาววันละ ๑๐ ฟองครับ ?
ตอบ : ให้กินแต่ไข่ขาว ไม่ให้กินไข่แดงแล้วจะได้เรื่องอะไร สมองต้องไข่แดง เพราะว่าสมองของเราเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ก็คือไขมัน แล้วไขมันที่ต้องการก็ไขมันจากไข่ หมอดันให้แต่โปรตีน ไม่ให้ไขมัน ถ้าให้โปรตีนมาก ๆ เกิดภาวะโปรตีนล้นเกิน ไตก็ต้องทำงานหนัก เดี๋ยวก็ไตวาย ต้องล้างไตกันอีก

หมอสมัยใหม่เขารักษาเหมือนกับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปทีละอย่าง รู้ไม่ครบเหมือนหมอโบราณ ในเมื่อรู้ไม่ครบ แก้ไปทีละอย่าง ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง

เถรี 07-05-2018 19:23

พระอาจารย์กล่าวว่า "พรุ่งนี้รับสังฆทานเสร็จก็จะได้กลับวัด ปกติรับสังฆทานเสร็จวันจันทร์ต้องไปสอนหนังสือ แต่อาตมาขอเอาไว้ว่าช่วงซัมเมอร์ขอไม่สอน ต่อให้จัดตารางมาก็ไม่ไป ท้ายสุดก็ได้หยุดเดือนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเหนื่อยมาก เพราะว่าเทอมที่ผ่านมาโดนไป ๕ ห้อง ๑๐ ชั่วโมงในวันเดียว ตัดเกรดให้เขาเสร็จ กรอกเกรดออนไลน์เสร็จก็บ๊ายบายแล้ว

โดยปกติแล้วอาจารย์ประจำจะต้องมีชั่วโมงสอนอย่างน้อย ๖ ชั่วโมง แต่คราวนี้ว่าลูกศิษย์เรียกร้องมา วิชานี้อาจารย์คนอื่นสอนไม่รู้เรื่อง ต้องพระอาจารย์เล็กเท่านั้น พระอาจารย์เล็กก็รับเละไป

ที่ผ่านมามีงานวิจัยและวรรณกรรมในพุทธศาสนาที่เป็นข้อสอบกลาง คนอื่นสอนนี่ตกระเนระนาดเลย อาตมาสอนนี่สอบผ่านหมด อาจารย์ที่กรอกเกรดอยู่ด้วยกันบอกว่า ลูกศิษย์อาจารย์สอบได้คะแนนเยอะนะ บอกว่าใช่ครับ ถามว่าอาจารย์สอนอย่างไร ? ผมก็ไม่สอนอย่างไร เข้าห้องแล้วก็ขึ้นปัญหาบนกระดาน ให้เขาค้นมา เท่ากับบังคับให้อ่าน ไม่ต้องทำรายงาน ไม่ต้องสอบกลางภาค แต่ต้องส่งงานทุกชั่วโมง บังคับให้อ่านหนังสือ อาตมาก็อ่านด้วย นั่งอ่านกำลังภายในเป็นเพื่อน ไม่ต้องบรรยายด้วย เพียงแต่บอกเขาว่าคำไหนยาก เพราะว่าคำโบราณบางอย่างต้องแปลไทยเป็นไทย คำไหนยากคุณไม่เข้าใจถามมา เดี๋ยวจะอธิบายให้

แต่ว่าบางคนก็ขี้เกียจ นั่งรอจนพวกหาเจอว่าอยู่หน้าไหนก็ตะกายไปดูแล้วไปลอกมา ก็บอกว่าถ้าคุณเขียนตามนั้นคุณก็ได้คะแนนน้อย แต่ถ้าคุณรู้จักสรุปเนื้อหาสำคัญมาคุณก็จะได้เยอะ"

เถรี 07-05-2018 19:28

"วิชาที่ยาก ๆ ส่วนใหญ่จะเป็น ๓ หน่วยกิต งานวิจัยและวรรณกรรมในพระพุทธศาสนา วิสุทธิมรรคศึกษา โดยเฉพาะท่านเจ้าคุณโสภณกาญจนาภรณ์ท่านว่า

"อาจารย์เล็กช่วยสอนวิสุทธิมรรคศึกษาแทนผมทีเถอะ"
"ทำไมครับ ? ท่านเจ้าคุณอาจารย์สอนก็ดีแล้ว"
"รู้ไหมว่าผมเองยังไม่เข้าใจเลย แล้วผมจะสอนให้ลูกศิษย์ให้เข้าใจได้อย่างไร"

ท่านไม่เคยปฏิบัติ พอพูดถึงวิสุทธิมรรคศึกษา สีลนิเทส สมาธินิเทส ปัญญานิเทส หนังสือหนาเกือบคืบแล้วย่อลงมาเหลือแค่เทอมเดียว ทำอย่างไรถึงจะให้เนื้อหาครบ กรรมฐาน ๔๐ ของหลวงพ่อวัดท่าซุงนี่คือวิสุทธิมรรคย่อเลย

วิชาอื่น ๆ ก็อย่างเช่น การจัดการเชิงกลยุทธ์ เป็นพระเรียนการจัดการ ก็ต้องเน้นการจัดการในวัด อาตมาก็พยายามดึงเนื้อหาเข้าในวัด ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นคุณจะแก้ไขอย่างไร สมมติสถานการณ์มีคนมาเปิดคาราโอเกะข้างวัดแล้วลูกค้าดีเสียด้วย ร้องเพลงเช้ายันค่ำ คุณจะแก้ไขอย่างไร ?

ฉะนั้น...วิธีการจัดการไม่ใช่เรียนหลักเฉย ๆ แต่สถานการณ์จริงต้องใช้งานได้ ชาวบ้านรุกที่วัดคุณจะจัดการอย่างไร ? เรียนเสร็จแล้วต้องใช้ได้ ที่สอนอาตมาสมมติสถานการณ์จริง ให้เขาเขียนแก้สถานการณ์มา ซึ่งแต่ละวัดจะมีปัญหาไม่เหมือนกัน วิธีแก้ไม่เหมือนกัน"


ถาม : วิธีแก้อย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : สารพัดที่บอกมา ประเภทไปถึงตักเตือนด้วย บางทีก็บอกว่าตอนนี้วัดต้องการความสงบในช่วงระยะเวลานี้ อย่างวัดท่าขนุนเราเปิดเสียงธรรมะวันละ ๔ เวลา เวลาไหนบ้างก็บอกกับเขา อย่าให้เขาดังแข่งกับเราอะไรอย่างนี้

เถรี 07-05-2018 19:30

พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็ก ๆ ซนได้...ไม่เป็นไร แต่ต้องสอนให้เขารู้ว่าที่ไหนควรที่ไหนไม่ควร เด็กที่ไม่รู้ที่ถูกที่ควรเราต้องสอน ถ้าสอนไม่ได้ให้ตี พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ว่าสรรพสัตว์ล้วนแต่กลัวอาชญา คือกลัวการลงโทษ

โบราณถึงบอกว่ารักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเด็กนรก..! ประเภทไปในห้างไม่ได้ของแล้วร้องกรี๊ด ดิ้นอยู่นั่นแหละ ถ้าเป็นอาตมาจะปล่อยให้ดิ้นอยู่นั่นแหละ กูกลับบ้านเลย ดูสิว่าจะดิ้นได้นานแค่ไหน"

เถรี 07-05-2018 19:59

ถาม : เรื่องชาวบ้านที่มาร้องคาราโอเกะข้างวัด ถ้าเขาไม่ยอม จะแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : เขามีวิธีตามลำดับขั้น ดูสถานการณ์เฉพาะหน้า ถ้าหมดท่าขึ้นมา ก็เอาพระ ๙ รูปไปตั้งอาสนะสวดมนต์แข่งกับเขาเลย ดูว่าชาวบ้านยังจะเข้ามาร้องอีกไหม ? ถ้าร่วมมือกันก็ต่างคนต่างอยู่กันได้ แต่ถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือ จะจัดการด้วยวิธีนี้ ดูว่าชาวบ้านจะเข้าคาราโอเกะคุณอีกไหม ? วิธีบางอย่างบ้า ๆ บอ ๆ อยู่นอกเหตุเหนือผลแต่ก็ต้องทำ

จริง ๆ แล้วเขาไม่ควรที่จะมาเปิดข้างวัด แต่ในเมื่อคุณเปิดข้างวัด อ้างว่าต้องทำมาหากิน ก็ต้องหาทางอยู่ร่วมกันให้ได้ ก็ต้องยอมกันคนละครึ่ง

เถรี 07-05-2018 20:19

เรื่องกฎหมายคณะสงฆ์ อาตมาค้นคว้าฎีกาต่าง ๆ ที่ตัดสินเรื่องราวเกี่ยวกับพระ เกี่ยวกับวัดมาให้เขาดูเป็นตัวอย่าง จะได้รู้แนวทางว่าเวลาเรื่องไปถึงศาลแล้วเขาจะตัดสินอย่างไร ไม่ใช่ว่าศึกษาเสร็จก็ให้ท่องแต่กฎหมาย ๆ รุ่นอาตมาจะบ้าตาย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นพัน ๆ มาตรา ออกสอบแค่ ๖ ข้อ ท้ายสุดอาตมาเดาแม่น เดาถูกว่าออกเกี่ยวกับมรดก เป็นพระห้ามฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดก แต่ถ้าญาติโยมแบ่งให้สามารถรับได้ ถ้าจะฟ้องร้องเกี่ยวกับมรดกให้สึกไปก่อน จนกระทั่งเสร็จเรื่องแล้วค่อยกลับมาบวชใหม่

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กับประมวลกฎหมายอาญามีที่เกี่ยวข้องกับวัดไม่มาก ในเมื่อไม่มาก ในรุ่นของอาตมาอาจารย์ท่านให้ท่องแทบตาย แล้วไม่ใบ้เลยว่าออกตรงไหน

เมื่ออาตมารู้ว่าวิธีนี้ยากสำหรับลูกศิษย์ ก็ต้องหาวิธีง่ายให้เขา ก็คือไปค้นคว้าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีการฟ้องมีการตัดสินไปแล้ว ไปถึงศาลฎีกาให้แนวทางว่าอย่างไร ถึงเวลาคุณศึกษาไว้ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ คุณจะได้รู้ว่าถ้าฟ้องแล้วจะชนะหรือแพ้

เถรี 07-05-2018 20:28

มีตัวอย่างวัดชนะสงสารพิทยาธร ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าอาวาสเห็นว่าพระลูกวัดไม่ฟังคำสั่ง บอกอะไรก็ไม่ฟัง ไม่ทำวัตร ไม่สวดมนต์ ไม่บิณฑบาต ไม่ทำกรรมฐาน เอาคนนอกมาพักในวัดโดยไม่บอกกล่าวเจ้าอาวาส ท้ายสุดเจ้าอาวาสท่านไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ท่านก็เลยต้องแจ้งความ ภาษาพระเรียกว่า ขอความคุ้มครองจากทางราชการ

เจ้าอาวาสออกคำสั่งเจ้าอาวาสให้พระลูกวัดพ้นไปจากวัดภายใน ๕ วัน อ่านคำสั่งให้แล้ว พระลูกวัดรับทราบแต่ไม่ยอมเซ็นรับคำสั่ง แล้วก็ดื้ออยู่ต่อ เจ้าอาวาสก็เลยต้องแจ้งความ เมื่อเรื่องไปถึงศาล พระลูกวัดสู้ว่าเจ้าอาวาสกลั่นแกล้ง เพราะว่าตนเองไม่เป็นที่นับถือของชาวบ้าน ชาวบ้านรังเกียจด้วยเรื่องนี้เรื่องนั้น

ศาลพิพากษาว่า ความประพฤติส่วนตัวของเจ้าอาวาสไม่สามารถยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างได้ เพราะว่าเจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานโดยกฎหมาย ในเมื่อพระลูกวัดทำผิดระเบียบวัด เจ้าอาวาสมีหน้าที่สั่งให้พ้นไปจากวัดได้

ศาลตัดสินได้แน่นอนมาก ท้ายสุดก็เลยปรับพระลูกวัด ๒๐๐ บาท แล้วให้ออกจากวัดไป จริง ๆ แล้วมีโทษจำ โทษปรับ และทั้งจำทั้งปรับ เพราะว่าฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน เจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานโดยกฎหมาย โดนปรับไป ๒๐๐ บาท ข้อที่เขายกขึ้นมาอ้างว่า เจ้าอาวาสไม่เป็นที่นับถือของชาวบ้านอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่มีเมตตา เตะหมาเตะแมว ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะว่าเป็นความประพฤติส่วนตัว ท่านฟ้องเพราะว่าคุณขัดคำสั่งเจ้าอาวาส

ศาลวิเคราะห์แต่ละประเด็นเป๊ะ ๆ ไม่มีพลาดเลย เพราะว่าคำพิพากษาศาลฎีกา จะเป็นแนวทางปฏิบัติไปเรื่อยจนชั่วฟ้าดินสลาย หรือจนกว่าจะมีการพิจารณายกเลิกของเก่า แล้วมีแนวทางการปฏิบัติแบบใหม่ขึ้นมาแทน

เถรี 07-05-2018 20:34

ถ้าเรายกตัวอย่างอย่างนี้ขึ้นมาก็จะชัดเจนมาก พระในวัดจะได้รู้ด้วยว่าทำอะไรถูกทำอะไรผิด มีคนฟ้องพระวัดเขาวังที่ราชบุรี ไม่ใช่เขาวังเพชรบุรีนะ ฟ้องว่าพระพาผู้หญิงไปนอนในกุฏิ กุฏินั้นอยู่บนเขาวังซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา จึงฟ้องข้อหาเหยียดหยามพระศาสนาด้วย

ปรากฏศาลตัดสินว่า กุฏิเป็นที่จำวัดของพระภิกษุสงฆ์ ไม่ใช่สถานที่สำคัญในพระพุทธศาสนาอย่างเช่นโบสถ์ หรือว่าพระเจดีย์ หรือว่าพระประธาน เพราะฉะนั้น...การที่เอาผู้หญิงไปนอนในกุฏินั้นเป็นการผิดพระธรรมวินัย แต่ไม่ได้ผิดกฎหมายข้อเหยียดหยามพระศาสนา

ศาลพิจารณาประเด็นเด็ดขาดมาก ในเมื่อผิดตามพระวินัยก็แล้วแต่คณะสงฆ์จะจัดการ เรื่องพระวินัยศาลจัดการไม่ได้ ต้องคณะสงฆ์จัดการ คณะสงฆ์ก็ต้องไปหาทางว่าจะเล่นอย่างไร แต่ละอย่างตัดสินออกมาได้สุดยอดมาก อ่านแล้วยังชอบใจ ไม่เสียทีที่ไปค้น ไม่เหนื่อยเปล่า เห็นแนวทางชัดมาก เขาแยกประเด็นออกมาเป๊ะ ๆ เลย

เถรี 07-05-2018 20:41

แบบเดียวกับนายจ๊อดที่เตะลุงซาเล้ง จริง ๆ แล้วถ้าว่ากันตามคำของหมอ นายจ๊อดไม่ผิด หมอวินิจฉัยว่าลุงซาเล้งตายเพราะโลหิตเป็นพิษ แต่คราวนี้ที่นายจ๊อดต้องรับผิดชอบเพราะสังคมเห็นว่า ลุงเข้าโรงพยาบาลเพราะนายจ๊อดเตะแกตกซาเล้ง ทำให้แกต้องนอนยาวในโรงพยาบาล จนท้ายสุดกลายเป็นคนไข้ติดเตียง ไตวาย โลหิตเป็นพิษ แล้วถึงตาย เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องหลายชั้น แต่ถ้าว่าตามกฎหมายเป๊ะ ๆ เลย นายจ๊อดไม่ผิด แต่นายจ๊อดคงได้บทเรียนประเภทใจร้อนใจเร็ว ตัวเองไปเฉี่ยวชนเขาแล้วยังเตะเขาอีก สุดท้ายยอมจ่ายค่าทำศพไป ๘๐,๐๐๐ บาท

สรุปว่าถ้าคดีนี้ ถ้าไม่ได้มีการยอมความกัน โดยทางนายจ๊อดยอมจ่าย ๘๐,๐๐๐ บาท ก็น่าจะเป็นเพียงทำร้ายร่างกายคนอื่นบาดเจ็บเท่านั้น เพราะว่าพิเคราะห์สถานการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ นายจ๊อดเตะลุงตกซาเล้ง ก็แค่ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ถ้าสู้คดีว่าทำร้ายโดยบันดาลโทสะ โทษก็จะเบาลงไปอีก แต่ลุงดันเข้าโรงพยาบาลแล้วตาย สังคมจึงเล่นนายจ๊อดจนเละเลย

เวลาศึกษาพวกข้อกฎหมาย ดูคำพิพากษาแต่ละอย่าง ท่านแยกแยะประเด็นชัดเจนมาก จนเกิดความเคารพเลื่อมใสว่า ผู้พิพากษาแต่ละคนกว่าจะจบมาต้องแม่นประเด็นสุด ๆ แต่คราวนี้ในระยะหลังของเรา มีการใช้พวกแง่ประเด็นทางกฎหมายช่วยเหลือบุคคลบางคนหรือสถาบันบางแห่ง เพื่อให้รอดจากความผิด หนักกลายเป็นเบา เลยทำให้สถาบันตุลาการ “ชื่อเสีย” เริ่มมีมากขึ้น แต่ถ้าไปดูจากของเก่า ๆ อย่างที่ไปค้นคว้ามา แต่ละท่านล้วนแล้วแต่สมควรแก่การไปนั่งศาลยุติธรรมจริง ๆ

เถรี 07-05-2018 21:29

ถาม : การบวชพระทำไมจะต้องบวชเณรก่อนครับ ?
ตอบ : จริง ๆ ก็คือเป็นไปตามลำดับขั้นตอน ถ้าหากว่าเราจะบวชพระเลยทีเดียว ก็เหมือนอย่างกับก้าวข้ามขั้นตอนมากเกินไป ท่านก็เลยค่อย ๆ ให้ศึกษาจากศีล ๕ เป็นศีล ๑๐ จากศีล ๑๐ เป็นศีล ๒๒๗ ก่อนหน้านี้ท่านให้เป็นเณรอยู่ชั่วระยะหนึ่งจึงค่อยให้เป็นพระ แต่มาระยะหลังเวลามีน้อย บวชเณรเสร็จก็บวชพระต่อเลย

เถรี 20-05-2018 09:33

ถาม : พาเพื่อน ๆ มา เพื่อน ๆ กลัวว่าเข้าไม่ถึง ส่วนมากพระบางท่านเข้าไม่ค่อยถึง ?
ตอบ : เข้าไม่ค่อยถึงจึงจะดัง เข้าถึงอย่างอาตมาไม่ดังหรอก ลองนึกถึงว่าสมัยหลวงปู่ปานไม่มีอะไรเลย นอกจากบอกข่าวกันปากต่อปาก อย่างดีก็มีวิทยุทรานซิสเตอร์ พุทธาภิเษกครั้งหนึ่งเรือแพจอดหน้าวัด เดินข้ามน้ำได้โดยไม่ต้องแตะพื้นน้ำเลย สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงมีโทรศัพท์ มีโทรทัศน์ มีวิทยุ พอถึงเวลาคนมางานที ๒๐๐,๐๐๐ – ๓๐๐,๐๐๐ คน รุ่นของอาตมามีกระทั่งเฟซบุ๊กสารพัดสารเพ จัดงานทีคนไปแค่ ๔,๐๐๐-๕,๐๐๐ คน แล้วจะไปดังได้อย่างไร ?

เถรี 20-05-2018 09:40

พระอาจารย์กล่าวว่า "ต่อไปการสร้างวัตถุมงคลน่าจะยากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ เพราะว่าทางเจ้าคณะปกครองท่านเห็นว่าทำกันจนเฟ้อ กลายเป็นพุทธพาณิชย์ วันนี้พระครูสมุห์อานนท์ วัดบึงลาดสวาย โทรมาแจ้งว่า "ฟ้าผ่าครับ..หลวงพ่อ" ถามว่าผ่าอย่างไร ? ท่านบอกว่า "เจ้าคณะภาคโทรมาด่าเรื่องวัตถุมงคล" แล้วท่านกับอาตมาก็อยู่ภาคเดียวกัน คือภาค ๑๔ ซึ่งประกอบไปด้วยจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี เจ้าคณะภาค ๑๔ คือหลวงพ่อพระธรรมโพธิมงคล วัดนิมมานรดี เป็นเจ้าคณะภาคที่เฮี้ยบที่สุดในบรรดาเจ้าคณะภาคทั้ง ๑๘ รูป

ในเมื่อมีคำสั่งเจ้าคณะใหญ่มาเกี่ยวกับเรื่องการห้ามโฆษณาวัตถุมงคลด้วยการติดป้าย ห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลในบริเวณโบสถ์ ซึ่งไม่มีผลกระทบสำหรับวัดท่าขนุน เพราะว่าวัดท่าขนุนไม่เคยทำอยู่แล้ว แต่คราวนี้วัดที่ท่านทำจะลำบาก โดยเฉพาะวัดไร่ขิง ที่อะไร ๆ ก็อยู่รอบโบสถ์หมด จนท้ายสุดต้องขยับขยายออกไป คราวนี้ในเมื่อเข้มงวดมาในลักษณะอย่างนี้ ต่อไปคาดว่าการสร้างวัตถุมงคล คงต้องทำหนังสือขออนุญาต แล้วรับการอนุมัติเป็นราย ๆ ไป ตามแต่วัตถุประสงค์ในการสร้างว่าสมควรหรือไม่ ? ฉะนั้น...ตอนนี้ใครสร้างก่อนก็รอดตัวไป"

เถรี 20-05-2018 09:43

"ของอย่างที่วัดท่าขนุนทำล่วงหน้าไปแล้ว อย่างเช่น ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด การไม่โฆษณาจำหน่ายวัตถุมงคลด้วยการขึ้นป้าย ซึ่งพวกเราจะเห็นว่าแม้แต่การจัดงาน วัดท่าขนุนก็ไม่มีปักธง ไม่มีการโฆษณา จะรู้ต่อก็เมื่อเข้าไปถึงในวัดเท่านั้น ซึ่งวัดอื่นทำไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็จะเจ๊ง เพราะว่าไม่มีคนรู้ว่าวัดมีงาน

เลยกลายเป็นว่าเรื่องอะไรบางอย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านบอกกล่าวเอาไว้ เราทำตามมีแต่จะปลอดภัย สมัยอาตมาออกจากวัดท่าซุงไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษี ทำงานก่อสร้างไปได้ ๘ เดือนโดยประมาณ วันหนึ่งหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็มาหา ท่านถามว่า "แกมีเงินส่วนตัวเท่าไร ?" กราบเรียนหลวงพ่อด้วยความภูมิใจว่า "ไม่มีครับ ผมผลักลงเงินสังฆทานหมดเลย เอาเป็นกองกลาง"



ท่านถามว่า "ถ้าอย่างนั้นแกใช้เพื่อสงฆ์ไปเท่าไร ?"

"ไม่ทราบครับ"

"ใช้เพื่อส่วนตัวเท่าไร ?"

"ไม่ทราบครับ"

พอไม่ทราบ ๒ ครั้ง ไม้เท้าลงหัวโป๊กเลย ท่านบอกว่า "ไปทำบัญชีเสียใหม่ เงินทุกบาททุกสตางค์ รับมาจากใคร จ่ายไปเรื่องอะไร ถ้าเขาตรวจสอบต้องชี้แจงได้" อาตมาก็ต้องนั่งตูดด้านอยู่เป็นอาทิตย์เพื่อทำบัญชี แล้วก็สรุปว่าตั้งแต่ออกจากวัดมา ๘ เดือนแรกไม่มีเงินส่วนตัว เพราะว่าแยกไม่ออก ต้องยกให้สงฆ์หมดเลย ไปเริ่มเดือนที่ ๙ ถึงจะมีเงินส่วนตัว

เรื่องอย่างนี้อาตมาทำมาเป็นระยะเวลา ๒๐ กว่าปี แล้วอยู่ ๆ ทางคณะสงฆ์เข้มงวดขึ้นมา ก็ไม่รู้สึกกระทบ เพราะว่าทำมาตลอดอยู่แล้ว แต่ท่านที่ไม่ได้ทำจะตายเอา โดยเฉพาะท่านที่เป็นเจ้าอาวาส เริ่มขึ้นเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ช่วงไหน จะต้องมีบัญชีชัดเจน"

เถรี 20-05-2018 09:46

"อาตมาอยู่เกาะพระฤๅษี อยู่วัดทองผาภูมิ อยู่วัดท่าขนุน ก็ทำมาตลอด คุณอยากตรวจสอบเมื่อไรเชิญได้เลย ทันทีที่เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อาตมาก็สั่งให้รื้อวิหารเจ้าแม่กวนอิมกับพระพิฆเณศวร์ที่หน้าวัดทิ้ง โดยประกาศท่ามกลางคณะสงฆ์ว่า "วัดไหนอยากได้มาขนไปเลย" ไม่ถึงสองชั่วโมงหายวับไปกับตา เพราะว่าวัดอื่นอยากได้

เนื่องจากว่าถ้ามีเจ้าแม่กวนอิม มีพระพิฆเณศวร์ มีพระพรหม พวกนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จะมากันเยอะมาก เขาเคารพของเขา แต่คราวนี้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นฮินดูบ้าง เป็นมหายานบ้าง ถ้าสมัยเราชัดเจนก็ไม่เป็นไร ยังสามารถชี้แจงญาติโยมได้ แต่ถ้าต่อ ๆ ไปไม่ชัดเจน จะกลายเป็นสัทธรรมปฏิรูป ก็คือศาสนาอื่นแทรกเข้ามา อาตมาเลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลม รื้อเกลี้ยงเลย

สรุปว่าปัจจุบันนี้ที่สั่งห้ามโน่นห้ามนี่ วัดโน้นต้องทุบ วัดนี้ต้องรื้อ วัดท่าขนุนไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะว่าทำไปนานแล้ว อะไรที่ครูบาอาจารย์บอก ให้เชื่อแล้วทำตามนั้น แต่สงสัยอยู่อย่างว่า เวลาครูบาอาจารย์ท่านบอก เราจะรู้เรื่องไหม ? เพราะว่าครูบาอาจารย์บางท่าน มาบอกเอาตอนที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แบบเดียวกับตอนไปพุทธาภิเษกที่วัดเขาวง ท่านไม่รู้จะด่าใครก็ด่าอาตมาแทน ด่าฝากไป ถามว่า "ทำไมย่ามาด่าผม ? ไม่ไปด่าเจ้าของงาน ?" ท่านบอกว่า "ไอ้พวกหูหนวกตาบอดด่าไปก็ไม่มีประโยชน์ ก็ต้องด่าแกนั่นแหละ"

เถรี 20-05-2018 09:47

พระอาจารย์ให้โอวาทพระลูกศิษย์ "ถ้าไปที่โน่นแล้วทำตามเขาอย่างเดียว อย่าไปค้านอะไรใคร บางทีสิ่งที่เราทำ ท่านที่ไม่เข้าใจจะทำให้เป็นโทษกับท่านได้ เรามีหน้าที่ทำอย่างเดียว คือ รักษาธรรมรักษาวินัย รักษารูปแบบปฏิบัติของสายครูบาอาจารย์เราเอาไว้ ส่วนข้างในจะทำได้แค่ไหนเรื่องของเรา เลือดเนื้อร่างกายของเราให้เห็นชัดว่าไม่ใช่ของเรา ก็จะไม่อยากได้ไปเอง"

เถรี 20-05-2018 15:16

ถาม : สามีเป็นชาวต่างชาติย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ครั้งแรกที่เขาฝัน คือ เห็นเรือสำเภาหลังใหญ่ มีคนสี่คนอยู่บนเรือมาชวนเขาไป เขาตกใจ เขาไม่ไป ?
ตอบ : เขาทำอะไรด้วยตัวเองได้ไหม ? หรือว่าต้องช่วยเขาตลอด ? (ช่วยตัวเองไม่ได้) ไม่ได้ใช่ไหม ? ยังต้องประคับประคองไป มีอยู่รายหนึ่งเกิดมาก็นอนติดพื้นอยู่ตลอด เหมือนเกิดมาเขาเป็นอย่างนั้นเลย สมองทำงานไม่สมบูรณ์ พ่อแม่เลี้ยงดูอยู่ ป้อนข้าวป้อนน้ำอยู่ ๑๗ ปีถึงจะไป ใจของพ่อแม่เขาสุดยอดเลย พ่อแม่เขาคิดว่า เขาเกิดมาก็ลำบากพอแล้ว ฉะนั้น...เราสามารถช่วยอำนวยความสะดวกอะไรเขาได้ก็ทำไป บุญกุศลเป็นของเราด้วย

ถาม : ครั้งที่สองเขาฝันว่า มีชายมาสี่คนหอบตะกร้ามา แล้วชวนเขาไปด้วย ชายในฝันบอกว่าจะหาบไป เขาก็บอกว่า "พอดีเมียฉันบอกว่า ถ้ามีใครชวนไปอยู่ด้วยไม่ให้ไป" รอบที่สามเขาก็ฝันว่า มีคนร้อยกว่าคนมาเล่นอยู่ตรงหน้า มาชวนเขาไปอยู่ด้วย เขาก็บอกว่า "เมียสั่งไม่ให้ไป"
ตอบ : ต้องบอกว่าคุณูปการยังมีอยู่ ถ้าไม่มีอาจจะตายไปหลายรอบแล้ว ถ้าไปกับเขาก็คือไปเลย บอกเขาว่าให้ปล่อยชีวิตสัตว์ โดยเฉพาะที่เขาขายให้ฆ่า อย่างพวกปลาในตลาด เป็ดไก่ก็ได้ ถ้ามีเงินหน่อยหมูหรือวัวควายก็ได้ เป็นการต่อชีวิต ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็มาอีก

ถาม : จำเป็นต้องหลายตัวไหมคะ ?
ตอบ : ไม่จำเป็น ครั้งละตัวสองตัวก็ได้ อย่างเช่นปล่อยปลา แต่ให้เขาปล่อย ถ้าเป็นไปได้พาเขาไปปล่อยเองเลย อุตส่าห์รอดมาได้รอบสองรอบเพราะความเชื่อเมีย สุดยอดจริง ๆ ต้องให้รางวัลสามีดีเด่น มีคนมาชวนไปอยู่ด้วย ๓ ครั้ง ๔ ครั้งก็ไม่ไป เพราะว่าเชื่อเมียก็เลยรอดมาได้ ต้องบอกว่าน่ารักสุด ๆ สามีแบบนี้เกิดใหม่ก็หาไม่ได้อีกแล้ว

เถรี 20-05-2018 15:38

ถาม : ความรู้สึกในหัวเหมือนเป็นคนมาคุยด้วย เขาบอกว่าเป็นตายาย ร่างทรงเดินมาบอก และก็มาบอกอดีต อนาคต ปัจจุบัน ?
ตอบ : บอกเขาว่าคราวหน้ามาให้เอาหวยมาด้วย ถ้าไม่เอาหวยมาก็ไม่ต้อง

ถาม : ให้มาแล้วค่ะ ?
ตอบ : แล้วถูกไหม ? ไม่ถูกอย่าให้

ถาม : ถูกค่ะ แต่ไม่ได้ซื้อ ?
ตอบ: ขอไปเลย เราก็ไม่ได้อยากทำให้ตัวเองร่ำรวยอะไรหรอก บางทีเราก็อาจจะเอาไปทำบุญทำทานก็ได้ ก็อุทิศให้ท่าน

ถาม : บางทียิ่งทำบุญให้ก็ยิ่งเจอ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก พวกนี้ส่วนใหญ่ก็คือเทวดารักษาตัว สภาพจิตเราอาจจะผ่องใสกว่าคนอื่น ท่านติดต่อได้ง่าย ท่านก็แสดงให้รู้ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว สบายดีออก ขอหวยได้ทุกงวด

ถาม :ไม่อยากได้ค่ะ ?
ตอบ :ก็บอกแล้วว่าได้มาก็ทำบุญให้ท่าน ถึงเวลาสวดมนต์ไหว้พระอะไรก็อุทิศส่วนกุศลให้ท่าน ทำบุญถวายสังฆทานใส่บาตรอะไรก็อุทิศให้ท่านด้วย บอกท่านขอให้คุ้มครองพวกเราให้ปลอดภัยก็พอ อย่างอื่นไม่เอา

ถาม : มาเรื่อย ๆ ค่ะ ?
ตอบ : ก็บอกว่าเรื่องปกติ เหมือนโทรศัพท์ เขารู้เบอร์โทรศัพท์เราก็โทรมาบ่อย

ถาม : ทำไมละคะ ? หยุดไม่ได้ค่ะ
ตอบ : อยู่ที่เรา ถ้าหากว่าเราขี้เกียจเจอ เราก็ทำชั่วเยอะ ๆ ท่านก็ไม่มา เราก็ทำใจไม่ได้อีกแหละ คือต้องมีความดีสนับสนุนในระดับหนึ่ง ท่านถึงจะมาได้ คราวนี้ความดีของเราถึง ท่านติดต่อมาก็เป็นเรื่องปกติ อย่างเช่นว่าถ้ามีช่องทางอะไรทำมาหากินแล้วเจริญรุ่งเรือง หรือมีอันตรายอย่างไรก็ขอให้ท่านช่วยบอกช่วยกล่าว บอกกันได้ คุยกันได้ คราวนี้เราเองดันไปกลัว คนอื่นอยากได้แทบตายดันไม่มี

เถรี 20-05-2018 19:21

ถาม : วันก่อนคนขับแท็กซี่มาทัก บอกว่ามีเด็กตามเราอยู่ ?
ตอบ : แล้วเชื่อแท็กซี่ไหม ? ถ้าแท็กซี่เก่งขนาดนั้นจะขับแท็กซี่ไปทำอะไร ?

ถาม : แต่ตายายก็มาให้เรารู้สึกว่าจริง ?
ตอบ : เอาที่เรารู้ อย่าไปฟังคนอื่น บางคนก็ทักให้เราตกใจ หาที่ให้เราไปแก้ไข แล้วเราก็เสียเงินเยอะ ๆ

ถาม : เขาไม่ได้ให้เราแก้ไขอะไรค่ะ ?
ตอบ : ถูก...ก็เพราะเราไม่ตกใจ

ถาม : วันต่อมาก็ฝัน ตายายบอกว่า ถ้ายังไปผูกติดอยู่ เราก็เจอ ก็คิดได้ว่าอย่าไปสนใจ ทิ้งไปให้หมด ?
ตอบ :ดูซิว่าจะทิ้งได้ไหม ? ของเขาอยู่กับเรา เทวดาที่เขารักษาตัวเรา เพราะว่าเคยมีบุญมีกรรมเนื่องกันมา ถ้าไม่เนื่องกันมาเขาไม่มาให้เสียเวลาหรอก เทวดาเขาเบื่อหน้าคนจะตายไป

ถาม : เขาก็บอกว่าเราเกิดมามีหน้าที่ด้วย จะเชื่อเขาได้หรือคะ ?
ตอบ : ก็พิสูจน์สิ ถ้าหากว่ามีหน้าที่จริงก็ต้องให้มีปรากฏการณ์อย่างนั้นอย่างนี้เกิดขึ้น เราถึงจะเชื่อก็ว่าไป รำคาญหน่อยเดียวเท่านั้นเอง ไม่ได้มีโทษอะไร

ถาม : เขาบอกให้ปฏิบัติ ทำสมาธิเยอะขึ้น
ตอบ : ทำไมไม่ฝึก ?

ถาม :กลัวว่าจะเจอเยอะขึ้น ?
ตอบ : ถ้าฝึกจะเจอน้อยลง พอสมาธิเราสูงเลยระดับ เขาก็ไม่สามารถที่จะยุ่งกับเราได้ เหมือนเราไปอยู่ในสังคมไฮโซฯ แล้ว ชาวบ้านทั่วไปจะเข้าถึงไหม ? ลักษณะแบบนั้นแหละ กำลังยิ่งขึ้นสูงมากเท่าไร ส่วนที่จะมาหาเราได้ก็เหลือน้อยลง

ถาม : เจอบางคนเขาบอกยิ่งปฏิบัติยิ่งเจอ ?
ตอบ : เจอน้อยลง

ถาม : ต้องปฏิบัติอย่างไรคะ ?
ตอบ : ก็ภาวนาของเรา ถึงเวลานึกถึงลมหายใจเข้าออกหรือจับภาพพระเอาไว้ หายใจให้ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป ให้ภาพพระไหลตามลมหายใจออกมา ดูอยู่แค่นี้ ทำไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็สว่างขึ้นไปเรื่อย ๆ อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับลมหายใจ ถ้าเราอยู่ตรงนี้เขาไม่มายุ่งกับเราหรอก เพราะว่ากำลังของเราสูงกว่า ไปเถอะ...บอกให้ทำแล้วไม่ทำก็เจอไปเรื่อย ๆ

ถาม : ให้ทำอานาปานสติ สวดมนต์จำเป็นไหมคะ ?
ตอบ : สวดมนต์ไหว้พระอะไรที่เราถนัดก็ทำไปเถอะ แต่ว่าเรื่องอานาปานสติคืออยู่กับลมหายใจจำเป็นต้องมี ถ้าไม่มาอย่าร้องไห้ถามหานะ

ถาม : ก็มีสองปีที่เขาไม่มา เราก็ร้องไห้โวยวาย แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเริ่มเยอะ ?
ตอบ : มาก็บ่น ไม่มาก็บ่น รู้วิธีแล้วมาบ่นแต่ไม่ทำ น่าตีจริง ๆ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:55


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว