กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=26)
-   -   เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1389)

เถรี 15-12-2009 16:00

หลวงพ่อยังได้กล่าวต่ออีกว่า "เมื่อเช้าปรารภว่า ท่านที่ต้องหักล้างถางพงนี่จะเหนื่อยมาก ในหลวงเราก็เป็นลักษณะอย่างนั้น ท่านวางรากฐานการปกครองประเทศจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ต่อไปรัชกาลที่ ๑๐ รัชกาลที่ ๑๑ จะสบาย คราวนี้ในช่วงก่อนที่จะสบาย เราต้องมาดูว่าคนที่ลำบาก...เขาลำบากกว่าหลายเท่า ก่อนที่ถนนจะเป็นซูเปอร์ไฮเวย์ ๘ เลน จะต้องถางป่าขุดภูเขาไปสักกี่ลูก จึงจะเป็นถนนขึ้นมาได้ ? ถ้าในหลวงของเราไม่ได้โหมงานหนักตั้งแต่หนุ่ม ๆ ตอนที่อายุขนาดนี้ พระวรกายท่านก็จะไม่โทรมมาก คนเราวันหนึ่งทำงานวันละ ๒๐ ชั่วโมง หาเวลาพักผ่อนได้น้อยมาก ๆ ถ้าเป็นพวกเราคงนอนแผ่หลาสามวันสามคืน เรียกก็ไม่ลุก ปลุกก็ไม่ตื่น ใครมาเรียกใกล้ ๆ อาจจะโดนไล่เตะด้วยซ้ำ แต่ว่าในหลวงท่านต้องเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานของท่าน

ลองดูข่าวในพระราชสำนักปัจจุบันนี้ ในหลวงไม่ได้ออกงาน แต่ว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ออกงานแทน ลองไปนั่งนับดูสิว่า วันหนึ่งท่านต้องต้อนรับคณะบุคคลเท่าไร ? ต้องออกงานเท่าไร ? ครั้งล่าสุดอาตมาเจอท่านในงานสัปดาห์หนังสือ พอเขาบอกว่าท่านเสด็จ เขาก็ให้หลีกทาง เราก็หลบเข้าไปบูธของบ้านวรรณกรรม เพราะว่าเป็นลูกค้าประจำ พอท่านเปิดงานเสร็จท่านก็เดินมาที่บูธ พออาตมาเห็นหน้าท่านนี่แทบจะบรรลุเลย ดูเหมือนกับว่าความเหนื่อยทั้งโลกมาแบกอยู่ที่ท่าน แต่ก็ยังต้องเสด็จไป ไปให้กำลังใจตามบูธต่าง ๆ เขาก็ถวายหนังสือให้ท่าน ทหารติดตามก็เข็นรถเข็นตาม เพื่อบรรทุกหนังสือ เราก็คิดว่าท่านจะมีเวลาอ่านไหมหนอ ?

ฉะนั้น...ท่านทรงงานหนักขนาดนั้น หาเวลาพักผ่อนได้น้อยมาก ๆ การที่สุขภาพพลานามัยทรุดโทรมขนาดนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าในส่วนของธรรมะส่วนหนึ่ง ก็คือ มโนสัญเจตนา ความมุ่งมั่นของใจ ถ้าหากว่าไพร่ฟ้าประชากร ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติอยู่ในทาน ศีล ภาวนา มีความสามัคคีกลมเกลียว ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ท่านก็มีกำลังใจที่จะอยู่ต่อ แต่ถ้ามัวแบ่งสีทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ เป็นอาตมาก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน ท่านจึงได้บอกว่า ถ้าหากประเทศชาติสงบเรียบร้อย ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข พระองค์ท่านก็มีความสุข แม้จะเป็นพระราชดำรัสสั้น ๆ แต่ใจความสำคัญก็คือที่ว่ามา แฝงความหมายเอาไว้ว่าเมื่อไรจะเลิกทะเลาะกันเสียที..!"

เถรี 15-12-2009 17:07

มีหญิงสาวท่านหนึ่ง กำลังอุ้มชูลูกน้อยของตนเองอยู่ หลวงพ่อท่านมองไปทางนั้น แล้วกล่าวขึ้นว่า "บางทีก็รู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก สิ่งที่คนอื่นเขาไขว่คว้าแสวงหา เราไม่เอายังไม่พอ ยังเห็นโทษของมันอีก มันไม่ได้เห็นแค่นี้ แต่เห็นยาวไปเลยว่า ภาระอีกเท่าไรที่เขาจะต้องแบกไว้ แล้วก็เลยกลายเป็นกลัวไป อันนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าวิสัยทัศน์..? "

เถรี 15-12-2009 17:15

มีตำนานอยู่เรื่องหนึ่ง ที่หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟัง ก็คือ "สมัยที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นพระสังฆราช ท่านคิดทดลองความสามารถของบรรดาเกจิอาจารย์ จึงได้จัดการแข่งขันที่หน้าลานพระปฐมเจดีย์ โดยนิมนต์เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทั่วฟ้าเมืองไทยมาทดสอบกัน

สำหรับวิธีทดสอบนั้น ก็คือ เอาไม้ท่อนหนึ่งมาวางไว้ แล้วเอากบวางไว้ตรงปลายไม้ ทดสอบความสามารถโดยให้แต่ละท่านทำกบนั้นให้เลื่อนขึ้นมาไสไม้ได้ พูดง่าย ๆ ว่าไสไม้จากปลายซุงขึ้นมาที่หัวซุงได้ ปรากฏว่ามีท่านที่ทำได้แค่ ๑๑ รูปเท่านั้น นอกนั้นพอเพ่งกบแล้ว ได้แค่สั่นหรือเคลื่อนที่ได้นิดเดียว สมัยนั้นเขาทำกันอย่างนั้นเลย ปรากฏว่าหลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง ท่านทำให้กบไสปรื๊ดเลย คาดว่าถ้ามาสายกสิณ ๑๐ โดยตรง สามารถทำได้ทุกคน แต่มีแค่ ๑๑ รูปเท่านั้นจากที่นิมนต์ไปร้อยกว่า ตำนานนี้ไม่ทราบว่าเป็นจริงเพียงใด เพราะเกิดไม่ทัน"

เถรี 15-12-2009 17:19

ในขณะที่ทุกคนกำลังเงียบ หลวงพ่อท่านกำลังอ่านหนังสืออยู่ จู่ ๆ ท่านก็อ่านใจความหนึ่งในหนังสือให้ฟังว่า "สัตว์ทั้งหลายแม้พญาสีหราช หากติดบ่วงนายพรานย่อมสิ้นกำลังและอำนาจ ได้รับแต่ความทุกข์ทรมานฉันใด ท่านทั้งหลายแม้มีฤทธิ์อำนาจมากเพียงใด ถ้าติดบ่วงสิเนหาแล้วย่อมสิ้นฤทธิ์หมดอำนาจ มีจิตเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานฉันนั้น"

เถรี 15-12-2009 17:22

ในขณะที่น้องคนหนึ่งกำลังนั่งถักหมวกอยู่ หลวงพ่อก็ได้เมตตาสอนน้องว่า "....ต้องพยายามทำอะไรให้เป็นหลาย ๆ อย่าง โบราณเขาบอกว่าพอเป็นแล้ว มันไม่ขอข้าวกินหรอก แต่มันอาจจะช่วยให้เรามีข้าวกิน"

เถรี 15-12-2009 17:25

ขณะที่ท่านหนึ่งกำลังแสดงอาการดีใจ หลวงพ่อก็ได้เมตตาสอนว่า "หลังจากที่ตื่นเต้นเรียบร้อยแล้วก็ดูกำลังใจตัวเองว่ามันฟูมากไหม ? ฟูมากก็รีบ ๆ หดมันลงก่อนที่มันจะฟุ้ง จะยินดีหรือยินร้ายมันแย่ทั้งคู่"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:57


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว