![]() |
พระอาจารย์กล่าวว่า “รัฐบาลหยุดชดเชยช่วงสงกรานต์ให้ โดยการหยุดวันนี้ (วันศุกร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๓) กับวันจันทร์ ก็เลยกลายเป็นวันหยุดยาว ช่วงนี้ต่างจังหวัดคึกคักมาก เพราะว่าคนไปเที่ยว แต่ก็ต้องระมัดระวังรักษาระยะห่างให้ดี เพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ อาจจะไม่ปรากฏชัดเจน เนื่องจากว่าบางคนภูมิคุ้มกันดีมาก ไม่มีอาการแต่เขาจะกลายเป็นตัวแพร่เชื้อได้ เพราะในเมื่ออาการไม่ปรากฏ ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็น ไม่ระมัดระวัง หากไปอยู่ร่วมกับใครก็จะพาเขาเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครเที่ยวเพลิน ก็มีสิทธิ์ที่จะติดเชื้อหรือเอาเชื้อไปแพร่ให้คนอื่นได้”
|
ถาม : เวลาผมจับพระแล้วตั้งอารมณ์นิดหนึ่งจะรู้สึกเหมือนมีไฟดูดเล็ก ๆ ผมอยากถามว่าจะเอาอารมณ์นี้ไปส่งเสริมในการปฏิบัติได้ไหม ?
ตอบ : ได้..นี่เป็นแค่ขั้นตอนหนึ่งที่ให้เรารู้ว่าสมาธิของเราอยู่ในระดับไหน ถาม : แล้วตอนนั้นระดับไหนหรือครับ ? ตอบ : อุปจารสมาธิธรรมดา ดีกว่าตอนนี้นิดเดียว ซึ่งก็จะทำให้เรารู้ว่า ถ้าระดับนี้คืออุปจารสมาธิที่เริ่มจะดีแล้ว ถาม : ถ้าจะปฏิบัติให้ตั้งอารมณ์นี้ก่อน แล้วค่อยไปต่อได้เลยใช่ไหมครับ ? ตอบ : ไม่จำเป็น ถ้าเราทำได้สูงกว่านั้น ก็โดดข้ามไปเลย เรื่องของสมาธิถ้าหากว่าไม่ได้ซักซ้อมจนชำนาญจริง ๆ ส่วนใหญ่แล้วพรึ่บเดียวจะไปสู่จุดที่ตนเองต้องการเลย เท่ากับว่าข้ามขั้นตอนไปเยอะ |
พระอาจารย์พูดถึงเรื่องการถ่ายรูปว่า “เห็นโยมถ่ายรูปแล้ว อาตมาก็นึกถึงหน่วยงานบางหน่วยงาน ที่จัดงานแล้วอาตมาไปบิณฑบาต คนถ่ายก็ถ่ายเฉพาะหน้าเจ้านายตัวเองตอนใส่บาตร ซึ่งก็ดีนะ..แต่ทำไมถึงไม่ถ่ายให้เห็นภาพมุมกว้างบ้าง ว่าสภาพของงานเป็นอย่างไร..? แบบเดียวกับญาติโยมหลายคนยกโทรศัพท์ขึ้นมา ก็ถ่ายแต่รูปแนวตั้งอย่างเดียวเลย ไม่ได้คิดอยากดูบ้างหรือว่าข้าง ๆ มีอะไรบ้าง..?
อาตมาเองเริ่มใช้กล้องถ่ายรูปที่เป็นของตัวเองจริง ๆ เมื่อปี ๒๕๒๖ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเห็น ท่านก็เอ่ยปาก เป็นคำเอ่ยปากที่เกิดจากประสบการณ์แท้ ท่านบอกว่า “ถ้าอยากฉิ...หาย ก็ให้เล่นกล้อง” เพราะว่าสมัยนั้นเป็นกล้องฟิล์ม ถึงเวลาถ่ายรูป บางทีถ่ายทั้งม้วนได้ดีแค่รูปเดียว เนื่องจากว่ายังไม่เข้าใจเทคนิคเรื่องแสง เรื่องสีอะไรทั้งสิ้น แต่อาตมาเองเป็นคนจำแม่น รูปไหนออกมาดี ถ่ายในมุมลักษณะไหน แสงสีแบบไหนจะจำได้ หลังจากนั้นก็ใช้วิธีเดียวกัน ก็ได้รูปที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ” |
“อาตมาเป็นคนใช้กล้องฟิล์มได้ประหยัดมาก เพราะถ่ายรูปได้ถึง ๔๐ - ๔๒ รูปต่อม้วน จนกระทั่งร้านที่รับล้างฟิล์มถามว่า “เป็นมืออาชีพเลยหรือ ถึงทำได้ขนาดนี้ ?” ก็ต้องตอบว่า “ไม่ใช่หรอก ขี้เหนียวน่ะ..!” เวลาที่ใส่กลักฟิล์มเข้าไปในกล้อง จะดึงขึ้นฟิล์มให้รูฟิล์มเกี่ยวกับหนามเตยของกล้องไว้แค่ช่องสองช่องเท่านั้น แล้วก็ปิด แบบนั้นก็จะเสียหัวฟิล์มไปนิดเดียว หลังจากนั้นก็หมุนถ่ายรูปแรกแบบไม่หวังอะไร เพราะรูปแรกส่วนใหญ่จะมีส่วนหนึ่งที่กระทบแสงแล้ว ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "ฟิล์มไหม้" จะเหลือดีอยู่ประมาณครึ่งหรือเกือบเต็มรูปเท่านั้น แต่ว่ารูปต่อ ๆ ไปจะเป็นรูปที่ดีจนกระทั่งหมดม้วน
ช่วงระยะเวลาที่ใช้กล้องฟิล์มนั้น อาตมาใช้ไปจนถึงช่วงที่ไปสร้างวัดที่พม่า ซึ่งจะติดฟิล์มไปครั้งละ ๑๐ - ๑๒ ม้วน เนื่องจากว่าไปทีเป็นเดือน ก็ต้องเล็งแล้วเล็งอีกว่ารูปไหนควรถ่าย ไม่ควรถ่าย เพราะว่าถ้าฟิล์มหมดเคยมีปัญหามาแล้ว ไปซื้อฟิล์มที่พม่าเพิ่ม กลายเป็นเป็นฟิล์มหมดอายุ ถ่ายรูปแล้วเสียทั้งม้วนเลย ออกมาเป็นรูปสีม่วงชมพูหมดทั้งม้วนเพราะว่าฟิล์มหมดอายุ หลังจากนั้นกลับมาเมืองไทยไม่นาน ระบบดิจิตอลเริ่มได้รับความนิยม จากที่ว่าสุดยอดของภาพถ่ายต้องเป็นสไลด์เท่านั้น ก็เริ่มไม่แน่เสียแล้ว เพราะว่ารูปภาพจากระบบดิจิตอลสามารถเพิ่มพิกเซลมาได้เรื่อย ๆ ทำให้ความคมชัดของภาพมีมากขึ้น จนปัจจุบันนี้ความละเอียดแม้กระทั่งกล้องมือถือก็ระดับ ๑๐ ล้านพิกเซลขึ้นไปแล้ว พอมาดูฟิล์มที่ล้างแล้วกองมหึมา ทำให้นึกถึงคำพูดของหลวงพ่อวัดท่าซุงที่บอกว่า “ถ้าอยากฉิ...หายให้เล่นกล้อง” เพราะแค่คิดว่าฟิล์มแต่ละม้วนราคาเท่าไรก็จะเป็นลมแล้ว แต่ตอนนั้นก็ซื้อไปเรื่อย ถ่ายไปเรื่อย ไม่ได้นึกถึงเงินที่หมดไป ถึงเวลาถ่ายรูป ถ้าจะส่งงานก็จะมีรูปถ่ายระยะใกล้ที่ถ่ายเฉพาะจุดงาน แล้วก็ต้องมีรูปที่ให้เห็นบรรยากาศรอบข้างด้วยว่าเป็นอย่างไร” |
“สมัยก่อนตากล้องวัดท่าขนุนโดนอาตมาด่าไปหลายยก ถ่ายรูปงานทีละ ๓๐๐ - ๔๐๐ รูป อย่างเช่นงานตักบาตรเทโว แต่มีรูปหน้าอาจารย์เล็กกับญาติโยมแค่เปลี่ยนคนไปเท่านั้น ถามว่า “แล้วทำไมไม่ถ่ายให้ทั้งหมดขบวน มีหน้าบ้าง มีหลังบ้าง ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บนบ้าง ล่างบ้าง เพื่อให้คนเห็นบรรยากาศของงานทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร..?” อาตมาไม่ได้หลงตัวเองขนาดที่ทุกรูปต้องเป็นรูปอาตมา..! พอโดนด่าเข้าไป ตอนนี้อาการดีขึ้นมาหน่อย
สิ่งที่อาตมาพูด ใช้กับตากล้องมืออาชีพไม่ได้ ตากล้องมืออาชีพที่คนเขาจ้างไปถ่ายรูปในงาน ด้วยกิเลส ‘ตัวกูของกู’ เพราะฉะนั้น..ในรูป ‘กูต้องเด่นที่สุด..!’ ก็เลยกลายเป็นรูปที่ถ่ายเน้นเฉพาะคนจ้างเยอะที่สุด รูปบรรยากาศงานจะมีน้อยมาก ต้องบอกว่าเป็นที่น่าเสียดาย เพราะว่าแต่ละงานคือประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของชีวิต ควรที่จะเห็นบรรยากาศให้ครบถ้วน แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าถ่ายในลักษณะนั้นไป เจ้าของงานจะตำหนิเอาว่าถ่ายรูปไม่เป็น เพราะว่าไม่ได้เน้นตัวเขา ก็ต้องบอกว่าสักกายทิฐิแรงไปหน่อย ก็เลยทำให้สิ่งที่ควรมีควรเป็น ไม่ได้มี ไม่ได้เป็นไปตามนั้น” |
พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลต้องเครียดกับการที่เด็ก ๆ ประท้วง ซึ่งจะว่าไปแล้วการประท้วง การต่อต้าน การคัดค้าน หรือว่าการแสดงออกใด ๆ ในลักษณะการเห็นต่าง ควรที่จะได้รับฟัง เพราะว่านั่นคือกระจกที่สะท้อนให้เห็นตัวตนของเราอย่างชัดเจน แต่ว่าน้อยคนที่จะนิยมเช่นนั้น เพราะว่าส่วนใหญ่มักจะคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้น ดีแล้ว ถูกแล้ว
โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจ ส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่าคนเห็นต่างคือศัตรู แม้จะไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน เพราะว่ายังเกรงสื่ออยู่ แต่มุมมองก็คือ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ในเมื่อมีมุมมองและแนวคิดลักษณะอย่างนี้ โอกาสที่จะประนีประนอมกันก็ยาก เพราะฉะนั้น...การที่บอกว่าในระบอบประชาธิปไตยนั้นเสียงทุกเสียงมีความหมาย เป็นเพียงคำพูดหรู ๆ เท่านั้น ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่พวกพ้องและตัวกูเองแล้ว เสียงเหล่านั้นก็มักจะโดนเมิน แต่ว่าในขณะเดียวกันสิ่งที่เด็ก ๆ แสดงออก อาตมาก็เห็นว่ามีบางส่วนที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เช่น การก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพของคนไทย ในระยะหลังจะเห็นว่ามีบุคคลเป็นจำนวนมาก ที่ออกมาแสดงความเห็น ไม่ว่าจะเป็นคลิป เป็นเนื้อหาเอกสาร เป็นภาพถ่าย ให้เห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์สำคัญอย่างไร โดยเฉพาะสำคัญในระดับที่รักษาประเทศชาติเอาไว้ จนกระทั่งเด็ก ๆ มีโอกาสใช้เป็นพื้นที่ในการประท้วง” |
“เราต้องคิดดูว่าพระมหากษัตริย์นั้นทรงอำนาจขนาดไหน ? แล้วสิ่งที่เราทำเป็นการจาบจ้วง โดยปราศจากความเคารพ แล้วพระองค์ท่านต้องอดทนขนาดไหน ? ที่ในภาษาชาวบ้านทั่วไปจะต้องพูดว่า ปล่อยให้เด็กเมื่อวานซืนมาถอนหงอก ดังนั้น..การที่เด็ก ๆ ประท้วงนั้น ถ้าหากว่าไม่ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ จะมีคนเห็นด้วยและเข้าร่วมมากกว่านี้ แต่เนื่องจากว่าไปก้าวล่วงสถาบันอันเป็นที่เคารพของคนส่วนใหญ่ แนวร่วมที่ควรจะมีจึงหายาก
แต่ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ควรประมาท เพราะว่ามีผู้ไม่หวังดีทั้งในและนอกประเทศ ต้องการขยายสถานการณ์ให้รุนแรง โดยที่ไม่ได้สนใจว่าจะทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองฉิ...หายในลักษณะอย่างไร แต่ว่ารัฐบาลก็ต้องใช้วิธีการจัดการในลักษณะประนีประนอมที่สุด เท่าที่จะโอนอ่อนผ่อนตามได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเรื่องของน้ำผึ้งหยดเดียว ก็คือเรื่องเล็ก ๆ ที่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเข่นฆ่ากันขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นก็จะเป็นที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าที่จะเสียหายมากที่สุดก็คือประเทศชาติของเราเอง” |
ถาม : ผมหยอดเหรียญในบาตรวิระทะโย บาตรหนึ่งเป็นสังฆทาน อีกบาตรหนึ่งเป็นกฐิน ผมเอาสังฆทานไปถวายเป็นกฐินทีเดียวเลยได้ไหมครับ ?
ตอบ : สังฆทานถวายเป็นกฐินได้ แต่กฐินมาถวายเป็นสังฆทานไม่ได้ สังฆทานเป็นส่วนรวม กฐินก็เป็นส่วนรวม ถือว่าเป็นงานบุญเดียวกันได้ แต่งานกฐินเป็นงานที่เฉพาะเจาะจงว่าจะทำบุญนี้ ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นสังฆทานได้ |
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้เวลานึกถึงพระ ภาพพระกริ่งสะท้านไตรภพตอนทำพิธียังติดตาอยู่ เป็นภาพองค์ท่านใหญ่มหึมา ครอบลงมาในพิธี แล้วก็มีพุทธภาษิตที่ว่า “ศิลาเป็นแท่งทึบ ย่อมไม่หวั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด...” ที่เหลือไปค้นเอาเองนะ ว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่าอย่างไร
องค์ใหญ่มหึมาเป็นภูเขาเลย มีทางเดียว คือทำใจของเราให้มั่นคง ถ้าหากว่า รัก โลภ โกรธ หลง ไม่สามารถกินใจเราได้ ก็เหมือนอย่างกับภูเขาศิลาที่เป็นแท่งทึบ ย่อมไม่หวั่นไหวต่อแรงลมที่พัดมา ไม่ว่าจะแรงขนาดไหน" |
ถาม : เห็นหลวงพ่อสร้างเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านเปิดโลกพลิกชีวิตเนื้อนวโลหะ ซึ่งราคาแพงและไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน อาจจะขาดทุนได้นะครับ ?
ตอบ : นวโลหะเป็นโลหะที่โบราณาจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุผสมขึ้นมา มีอานุภาพพิเศษมากกว่าโลหะชนิดอื่น คนที่เขารู้คุณค่านั้นมีอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดทุน |
ถาม : ตามที่หลวงพ่อเล็กสงสัยว่า อาราธนาพระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อทองคำ แล้วเกิดฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหว ถ้าเป็นเนื้ออื่นจะเป็นบ้างไหม ?
ผมได้บูชาพระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อทองแดงมา และมีความสงสัยว่าเนื้อทองแดงจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเกศาของหลวงพ่อเล็กหรือเปล่า ? เพราะคนเขาโพสต์ว่ามีบรรจุเหมือนกัน จึงตัดสินใจบูชามาครับ ตอนเย็นหลังเลิกงานกลับมาบ้าน แกะกล่องพัสดุที่บรรจุพระกริ่ง ซึ่งตอนนั้นมีฝนตกปรอย ๆ แล้วก็เกิดมีเสียงฟ้าร้องดังมาก ผมจึงขอว่า ถ้าเป็นพุทธานุภาพพระกริ่งจริง ขอให้ยืนยันด้วยการมีเสียงฟ้าร้องดัง ๓ ครั้ง ปรากฎว่าดังจริงติดต่อกัน ๓ ครั้งเลยครับ คิดแล้วโง่จริง ๆ แทนที่จะขออย่างอื่น..! เคยมีเสียใจอยู่นิดหนึ่งครับ ปรกติพระเครื่องของหลวงพ่อเล็ก ผมจะบูชาจากวัดท่าขนุนโดยตรง ไม่เคยต้องบูชาจากใคร แต่ครั้งนี้ไม่ปรกติ ทุกคนไปรอบูชากันที่วัด ก็เลยไม่มีเปิดในเว็บวัดท่าขนุน แต่พอมีเหตุฟ้าร้องจริง ๆ ตามที่ขอ ผมเลยเลิกน้อยใจ มีหรือไม่มีผมมั่นใจ แขวนเดี่ยวองค์เดียวเที่ยวทั่วโลกครับ ตอบ : ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ตรงของคุณ มีคนเล่าว่าขอให้ถูกหวยและก็ถูกมาแล้ว โปรดอย่าได้เลียนแบบเป็นอันขาด..! |
ถาม : ผมได้ให้เพื่อนที่จิตดีและไม่รู้เรื่องพระกริ่งสะท้านไตรภพเลย ได้ชมบารมีพระกริ่ง เขาถามมาว่า พระกริ่งองค์นี้เกี่ยวอะไรกับหลวงพ่อกวยหรือ ? ทำไมเห็นหลวงพ่อกวยนั่งอยู่บนดอกบัวสวยมาก อยู่ในพระกริ่งครับ ?
ตอบ : เก่งจริง..แต่ต้องระวังการโดนหลอกดึงให้ไปไกลจากมรรคผลเรื่อย ๆ |
ถาม : สมมติว่ามีคนเอาหนังสือพิมพ์ที่มีรูปพระไปใช้ปูรองกินข้าว เสร็จแล้วก็รวบไปทิ้ง หรือเอาไปทำอะไรก็ตาม จะเป็นอะไรไหมคะ ต้องขอขมาไหมคะ ?
ตอบ : มีโทษปรามาสพระรัตนตรัย เห็นแล้วถ้ามีสิทธิ์เตือนได้ก็เตือนเขาหน่อย ถ้าไม่มีสิทธิ์เตือนเขาได้ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ไป เพราะว่าเดี๋ยวเราจะเดือดร้อนแทน ถาม : อย่างถ้าเขาไม่รู้แล้วหยิบมาเช็ดกระจก ถ้าเขาขอขมาจะได้ไหมคะ ? ตอบ : สภาพจิตของคนถ้ายังหยาบอยู่ ขาดความเคารพในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง เขาก็ทำแบบนั้นแหละ ไม่ต้องไปกังวลแทนเขาหรอก ตัวใครตัวมัน |
ถาม : หนูเคยไปทำบุญแล้วแม่ชีให้อาหารที่พระท่านฉันแล้วกลับบ้าน ตอนหลังหนูก็ได้ชำระหนี้สงฆ์ไปแล้ว แต่ว่าหนูเคยให้อาหารนั้นแก่หมาแถวบ้านด้วย แบบนี้หนูต้องบอกหมาว่าชำระหนี้สงฆ์แล้วด้วยไหมคะ กลัวหมาตกนรกค่ะ ?
ตอบ : ตั้งใจชำระหนี้สงฆ์เท่ากับราคาไป ไม่ต้องบอกเขาก็ได้ พูดง่าย ๆ คือเราตั้งใจว่า เงินจำนวนนี้เราขอชำระหนี้สงฆ์ แล้วก็หยอดตู้ในวัดเขาไป ถาม : หมาเขาจะรับรู้ไหมคะ ? ตอบ : เราเป็นคนทำ ถึงเวลาเราก็แก้ไข ไม่ได้เกี่ยวกับหมาหรือคนอื่น |
พระอาจารย์กล่าวว่า “ทางวัดเขาส่งภาพมา เป็นบรรดาพวกสิ้นสติอยากได้บุญจนเกินเหตุ เอาสีไปทารอยพระพุทธบาทของวัดท่าขนุน คราวก่อนก็มีทีหนึ่ง เอากาวไปทาแล้วก็เอาพวกเพชรพลอยปลอมที่ลักษณะเหมือนกรวดเหมือนทรายไปโรยเป็นรูปพระบาทด้วย พอดีอาตมาอยู่ก็เลยด่ากระจาย แล้วบังคับให้ไปล้างออก นี่เผลอหน่อยเดียวเอาอีกแล้ว เอาสีไปทา น่าจะอยากสวย..!
ของแค่นั้นถ้าเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนจะทำนี่ เลี่ยมทองประดับเพชรก็ยังไหวเลย ไม่ต้องรอมึงเอาสีไปทาหรอก..! เขาเรียกว่าทำอะไรไม่ใช้หัวแม่ตีนคิด..! อยากได้บุญอย่างเดียว รอยพระพุทธบาทเป็นรอยธรรมชาติ อาตมาอยากให้เขาเห็นชัด ๆ ว่าธรรมชาติเป็นอย่างไร เจ้าพวกนี้ไปถึงก็...กูอยากได้บุญ กูจัดให้..! ถ้าอาตมาอยู่แล้วเห็นคาตา ก็จะให้รางวัลหนัก ๆ ให้คว่ำอยู่ตรงนั้นแหละ..! ขึ้นไปเห็นว่าทางวัดเขาไม่ทำ ก็ต้องคิดดูว่าเขามีเหตุผลอะไร ไม่ใช่ว่าเขาไม่ทำเพราะเขาไม่มีปัญญาจะทำ ถ้าวัดท่าขนุนไม่มีปัญญาทำแล้วใครจะมีวะ..?!” |
พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อวานไปงานพุทธาภิเษกวัตถุมงคล วาระครบ ๑๕๐ ปี สถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขานิมนต์พระไปปลุกเสกทั้งหมด ๖ ชุด ชุดละ ๙ รูป ต้องบอกว่าจำนวนมหึมามโหฬาร ความจริงอาตมาอยู่ชุดที่ ๔ เกือบจะค่ำ ก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ได้ เพราะว่าติดรับสังฆทานและสอนกรรมฐาน ทางวัดราชบพิธฯ ก็เลยปรับไปปรับมา เลื่อนขึ้นมาอยู่ชุดที่ ๒
ก็ต้องบอกว่าเป็นความเมตตาที่ท่านอยากให้ไปจริง ๆ เพราะว่าวัตถุมงคลชุดนี้ก็จะเป็นประวัติศาสตร์ของวัดราชบพิธฯ แล้วก็เป็นประวัติศาสตร์ส่วนตัวของพระเถราจารย์ที่ไปร่วมงานด้วย อย่างสมัยการเสกพระกริ่ง ๗ รอบ ปี พ.ศ. ๒๔๘๑ ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ หลวงปู่หลวงพ่อดัง ๆ ในยุคนั้นอย่างหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ท่านก็ไปกัน แต่รุ่นนี้ต้องบอกว่าอายุห่างกันมาก อย่างชุดที่ ๒ ของอาตมา พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม พ่อท่านอิ้น วัดนิคมเทพา หลวงปู่หวั่น วัดคลองคูณ หลวงปู่ขวัญ วัดบางคูวัดนอก ระดับ ๘๐-๙๐ กว่าปีทั้งนั้น อาตมาระดับ ๖๑-๖๒ ปีนี่แทบจะเป็นเด็กห้อยท้ายเลย ถ้าไม่มีครูบาเทือง กับหลวงพ่อเจริญ วัดโนนสว่างนี่ อาตมาจะอยู่เกือบ ๆ ท้ายสุด คราวนี้ครูบาเทืองท่านอายุน้อยกว่า ส่วนหลวงพ่อเจริญนั้น ตอนแรกก็คิดว่าท่านอายุมากกว่า ปรากฏว่าท่านน้อยกว่า ๒ ปี แต่หน้าท่านแซงหน้าไปประมาณ ๑๒ ปีเป็นอย่างน้อย..!” |
“แล้วเรื่องตลกที่หัวเราะไม่ออกก็คือ ฝนพรำอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนถ่ายรูปนี่แดดเปรี้ยงแทบจะผิวไหม้เลย เหมือนอย่างกับตั้งใจแกล้งกัน หรือว่าตั้งใจให้ถ่ายรูปสวยก็ไม่รู้ ?
พอไปถึง ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า หลวงตาวัชรชัยมาแล้ว อาตมาจึงขออนุญาตไปกราบหลวงตาก่อน ปรากฏว่าหลวงตาอยู่ในชุดแรก ซึ่งในชุดนั้นเป็นพระเถราจารย์หลวงปู่หลวงพ่อฝ่ายธรรมยุตทั้งนั้นเลย มีหลวงตาวัชรชัยเป็นมหานิกายหลงไปโด่เด่อยู่คนเดียว พอใกล้จะถึงคิวถ่ายรูป อาตมาก็เดินไปห้องน้ำ ปรากฏว่าเกือบจะชนกับพระครูปลัดสมนึก วัดท่าซุง ถามท่านว่า “ไหนคุณบอกว่าติดงานมาไม่ได้ ?” ท่านบอกว่า ท่านไปรับพัดรองเสาเสมาธรรมจักรผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา รับเสร็จแล้วก็เลยรีบมา ทันเวลาพอดี อาตมาก็งง ๆ เพราะได้ยินว่ารับกับพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดยานนาวา อย่างรุ่นนั้นของอาตมานี่รับเสาเสมาธรรมจักรผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา รับจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แล้วก็รับเป็นเสาเสมาธรรมจักร แต่รุ่นของพระครูปลัดสมนึกมีแต่พัดปักรูปเสาเสมาธรรมจักร ก็มาพูดกันขำ ๆ ว่าสงสัยรัฐบาลถังแตก ไม่มีเงินทำเสาเสมาธรรมจักรให้ ก็เลยให้พัดไปอันเดียว ...(หัวเราะ)... ขออภัยท่านนายกฯ อย่าไล่เตะอาตมาเลยนะ พูดกันเล่น ๆ เฉย ๆ เจอหน้าพรรคพวกเพื่อนฝูงพี่น้องก็ขอถ่ายรูปกันอุตลุด แล้วอาตมาเองเข้าไปในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปกติก็ไปกราบพระพุทธอังคีรส พระประธานอุโบสถ พอกราบเสร็จเงยหน้าขึ้นมา อ้าว..สมเด็จพระสังฆราชประทับอยู่ที่นี่ ก็เลยเข้าไปกราบพระบาท ขอบพระเดชพระคุณที่พระองค์ท่านประทานข้าวสารให้กับโรงทานต้านภัยโควิดวัดท่าขนุน ๒ รอบ รอบละ ๕๐๐ กิโลกรัม กราบทูลถวายท่าน ท่านก็บอกว่า “ดี..ดี..พวกเรามาช่วยงานพระพุทธศาสนาด้วยกัน” คราวนี้ท่านกำลังจะให้เปิดโรงทานช่วยน้ำท่วม แต่ทางด้านท่าขนุนไม่มีน้ำท่วม เลยไม่รู้ว่าจะช่วยท่านอย่างไร...(หัวเราะ)... กราบท่านเสร็จแล้วก็ออกมาเข้าที่ภาวนาของตัวเอง” |
“เมื่อวานนี้มีคนไปดักรอที่ประตูวัดราชบพิธฯ น่าจะประมาณ ๒๐๐ คน พอถึงเวลาก็ “หลวงพ่อ...ทางนี้ ๆ” จะไปอีท่าไหน ? เจ้าหน้าที่เขาพาเดินดุ่ย ๆ เข้าไปเลย ส่วนพวกเราก็ไปโดนรั้วกั้นเอาไว้ ความจริงถ้าจะกระโดดข้ามรั้วจราจรก็ไม่ยากหรอกนะ แต่ว่าพวกเราก็เป็นคนมีระเบียบ ก็ไม่ไปฝืนระเบียบของเขา”
|
“ความจริงเมื่อวานที่เป็นฤกษ์พุทธาภิเษกเพราะว่าเป็นวันเสาร์แรม ๕ ค่ำ ก็ถือว่าเป็นวันอมฤตโชค แต่ถ้าหากว่าตามสายของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ก็ถือว่าเป็นวันข้างแรม ก็จะไม่ใช้ ถ้าเป็นวันข้างขึ้น ๕ ค่ำ ท่านให้ไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร”
|
“ต้องบอกว่าด้วยความที่เมื่อวานโดนฝน วันนี้เลยเสียงจมูกบี้ ๆ หน่อย ไม่ได้ติดหวัด ไม่ได้ติดโควิดนะ อาตมาใส่หน้ากากไป หน้ากากอนามัยกันโควิดได้ดีที่สุด
แต่ที่ชอบใจก็คือ พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ทั้ง ๆ ที่ใส่หน้ากากอยู่ ท่านเห็นท่านก็เรียก “อ้าว...ท่านทองผาภูมิ” "แหม...พระเดชพระคุณ ผมชื่อเล็กครับ เรียกพระครูวิลาศฯ ก็ได้" มาเรียกท่านทองผาภูมิ แต่ท่านจำได้แม่นขนาดนั้นว่าอยู่ทองผาภูมิก็ดีมากแล้ว ...(หัวเราะ)...” |
พระอาจารย์กล่าวกับผู้มารับวัตถุมงคลว่า “ขออนุญาตติดไว้ก่อน เพราะว่าน่าจะอยู่ในย่ามอีกใบหนึ่ง พอดีเมื่อวานเอาย่ามของหลวงพ่อสมเด็จพระสังฆราชมาใช้แทน เนื่องจากว่าเป็นโดยธรรมเนียมมารยาทว่า เราไปที่ไหน ถ้าเจ้าของบ้านเขาให้อะไร ก็ต้องใช้ฉลองศรัทธาของเขาเลย เมื่อวานท่านถวายย่ามกับพัดรอง ๑๕๐ ปีวัดราชบพิธฯ มา ก็ต้องใช้เลย”
|
พระอาจารย์กล่าวว่า “หลวงพ่อพระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระพุทธรูปที่งามมาก มีโอกาสก็เข้าไปกราบสักการะกันด้วยนะ เมื่อวานตอนพุทธาภิเษกเห็นพระรัศมีสีทองเจิดจ้าเหมือนมองย้อนแสงตะวัน คลุมลงมาบนกองวัตถุมงคล แสงนั้นมาจากหลวงพ่อพระพุทธอังคีรส คือพออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าแล้ว ปรากฏว่าโดยปกติแล้วก็จะมีพระรัศมีแผ่มาจากข้างบน เพิ่งจะมีอยู่ ๒ ครั้งที่แผ่มาจากพระประธาน ก็คือครั้งก่อนโน้นเป็นหลวงพ่อพระพุทธกษัตราธิราช วัดกษัตราธิราชที่อยุธยา มีครั้งนี้ที่หลวงพ่อพระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม”
|
พระอาจารย์กล่าวว่า “วันนี้ไม่ได้หนีงาน อยู่รอโยมจนสี่โมงเย็น วันก่อนนั่นจำเป็นจริง ๆ เพราะว่าเป็นหมายรับสั่ง..ขออภัย ต้องบอกว่าเป็นพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ไม่ใช่หมายรับสั่ง ถ้าหมายรับสั่งต้องเป็นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หลายท่านก็บอกว่า บุคคลที่เป็นพระสังฆราชทรงบุญทรงบารมี ถึงเวลาก็รวบรวมเอาพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศมาทำงานได้ ดูตัวอย่างพระพุทธชินราชอินโดจีน ๒๔๘๕ สมัยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ติสฺสเทวมหาเถร) วัดสุทัศนเทพวราราม หรือไม่ก็สมัยสร้างพระกริ่ง ๗ รอบ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ แล้วก็มายุคนี้แหละ สร้างวัตถุมงคลรุ่น ๑๕๐ ปีการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในสมัยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร)” |
1 Attachment(s)
พูดถึงกริชภาคใต้ “ถ้าไปเจอกริชเก่าแท้แบบนี้ข้างนอก อย่าไปหยิบส่งเดชนะ เล่มนี้กว่าอาตมาจะเอาอยู่ก็เหนื่อย ...(หัวเราะ)... เพราะว่ากริชที่เขาสร้างตามกรรมวิธีนี่เขามีการเซ่นด้วยเลือด มีการเซ่นด้วยชีวิตให้ยุ่งไปหมด นี่ระดับรายาผู้ครองประเทศ ปาเล็มบังสมัยนั้นก็เป็นประเทศหนึ่ง เป็นเมืองออกของอาณาจักรศรีวิชัย พอมาตอนหลังก็กลายเป็นเมืองหลวง” |
พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อวานนี้มีความประทับใจอย่างหนึ่ง ก็คือ ผศ.ดร.พระราชปฏิภาณโกศล (ป.ธ.๕) หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า ท่านอาจารย์เจ้าคุณ ดร.สมคิด ท่านเป็นเลขานุการส่วนองค์สมเด็จพระสังฆราชรูปปัจจุบัน แต่ว่าที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เป็นอธิการบดีมหามกุฏราชวิทยาลัย ท่านมากราบ เพราะว่าท่านเพิ่งจะ ๓๐ พรรษา ก็เรียนท่านไปว่า ดีใจมากเลยที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์มาเป็นอธิการบดี คือช่วงก่อนที่ท่านจะเป็นอธิการบดีนี่ มหามกุฏราชวิทยาลัยมีปัญหาเยอะมาก ท่านลงไปก็ไปจัดระเบียบใหม่จนกระทั่งเรียบร้อย
ตัวท่านอายุยังน้อย เป็น ผศ.ดร. เป็นเปรียญธรรม ๕ ประโยค เป็นเจ้าคุณชั้นราช อนาคตไกลมาก แต่ว่าท่านไม่มีความถือตัวเลย อ่อนน้อมถ่อมตน ปฏิบัติตามระเบียบวินัยทุกอย่าง เมื่อรู้ว่าอาตมามีอาวุโสพรรษามากกว่า ท่านก็มากราบจนถึงที่พัก ขนาดหลวงพ่อมโนธรรม วัดห้วยปลาดุก ยังออกปากเลยว่าคนอย่างนี้อายุยืน ถามท่านว่า “หลวงพ่อดูจากไหนว่าอายุยืน ?” “ผมเห็นว่าใครอ่อนน้อมถ่อมตนอายุยืนทุกคน” ก็บอกกับท่านว่า ของผมดูโหงวเฮ้ง หลวงพ่อดูจากการอ่อนน้อมถ่อมตน ...(หัวเราะ)... แต่ถ้าไม่ดูโหงวเฮ้งก็ต้องดูบุรพกรรมไปโน่นเลย” |
ถาม : เอากองกฐินมาถวายข้างล่างค่ะ
ตอบ : กฐินหรือ ? มีอะไรบ้าง ? ถาม : มีพระพุทธรูป ผ้าไตร แล้วก็บาตรเจ้าค่ะ ตอบ : ...(หัวเราะ)... กลัวจริง ๆ เลย กลัวพวกประเภทรถยนต์ ตู้เย็นอะไรประมาณนั้น เคยมีคนถวายแล้วขนไปไม่ได้..! ความจริงโยมทำให้พระศีลขาด คือของอะไรที่จะถวายเนื่องในฤดูกาลกฐิน ท่านให้ถวายตั้งแต่ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ คือก่อนออกพรรษา ๑๐ วัน คราวนี้ของเราถวายก่อนเสียนานเลย |
พระอาจารย์กล่าวว่า “ก็ไม่นึกว่าท่านอาจารย์สุชาติจะปั้นพระปัจเจกพุทธเจ้าโดยการวัดหน้าตัก ไม่วัดฐาน วัดหน้าตัก ๔๐ นิ้วเต็ม แต่ว่าฐานใหญ่กว่าตั้งเยอะ เฉพาะฐานต้องเพิ่มไปอีก ๓๐๐ กิโลกรัม สรุปว่าช่างประมาณการใช้เม็ดเงินในการหล่อ ๑ ตันถ้วน ๆ รวยมาก ไม่รวยก็ไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้กิโลกรัมหนึ่งเกือบ ๓๐,๐๐๐ บาท ตันหนึ่งก็เกือบ ๓๐ ล้าน..!
ตอนนี้มีอยู่ ๗๗๐ กว่ากิโลกรัม ก็ขาดอยู่อีกประมาณ ๒๓๐ กิโลกรัมเท่านั้น ก็แปลว่าคนแลกพระกริ่งมี ๒๓๐ คนก็พอแล้ว แต่ถ้าเขาให้เป็นเงินก็ต้องไปซื้อเอง ...(หัวเราะ)... ต้องบอกว่าท่านอาจารย์สุชาติท่านมีทิพจักขุญาณเลยก็ว่าได้ เพราะว่าทางวัดท่าขนุนจะทำอะไร แค่คิดท่านอาจารย์จะปั้นรูปรอไว้เลย แต่ท่านยืนยันว่าท่านไม่มีอะไร ท่านบอกว่าสังหรณ์ใจว่าพระอาจารย์อยากได้ก็ปั้น ตัวสังหรณ์ใจนั่นแหละคือทิพจักขุญาณเลย ...(หัวเราะ)... แต่คราวนี้มีปฏิมากรช่างปั้นชื่อสุชาติเหมือนกัน อีกท่านหนึ่งชื่อสุชาติ แซ่จิว ส่วนท่านที่ทำงานให้วัดท่าขนุนชื่ออาจารย์สุชาติ เลิศภูมิปัญญา เป็นอาจารย์ของคุณปัทม์ บุณยรังค ที่ปั้นรูปกวนเกษียรสมุทรในสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นอาจารย์ของอาจารย์อีกทีหนึ่ง ของคุณสุชาติ แซ่จิวนี่คนแวะไปถามหาเยอะเลย เพราะได้ยินว่าพระอาจารย์เล็กใช้อาจารย์สุชาติปั้น ดีเหมือนกันท่านจะได้มีงานบ้าง ...(หัวเราะ)...” |
พูดถึงงานพุทธาภิเษกที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม "อาตมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกรอบสอง เจอหลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ องค์เดียวพอเลย เราไม่เหนื่อยแล้ว"
ถาม : ท่านบอกอาจารย์เล็กมา ท่านก็สบาย..! ตอบ : ...(หัวเราะ)...ต่างคนต่างพึ่งกัน อาตมาตั้งใจจะอู้ ไม่เคยสำเร็จเลย ถาม : หลวงพ่อมโนธรรมถามว่า องค์ไหนที่อยู่ตรงกันข้าม พลังที่ส่งมาช็อตท่านเกือบตกอาสนะ ?! "นายชัช" ตอบไปว่า "พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุนครับ" ท่านว่า "เห็นหนุ่ม ๆ ไม่นึกว่าจะเก่งขนาดนี้" ตอบ : ไม่หนุ่มหรอก แก่กว่าท่านสองปี ...(หัวเราะ)... |
ถาม : (กราบขอฤกษ์จัดงาน ตรงกับมหาสิทธิโชค) ควรเป็นเวลาไหนครับ ?
ตอบ : เวลาไม่ต้อง เพราะว่าฤกษ์พรหมประสิทธิ์ของหลวงพ่อวัดท่าซุงใช้ได้ทั้งวัน ตั้งแต่ตะวันขึ้น ยันตะวันตกดิน เป็นฤกษ์ปลอดที่ดีทั้งวัน ท่านบอกว่า ถ้าฤกษ์อื่นบอกว่าไม่ดี แล้วฤกษ์ของท่านบอกว่าดี ให้ใช้ตามฤกษ์นี้ |
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันเสาร์ช่วงบ่ายอาตมาต้องไปวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ตามฎีกาที่สมเด็จพระสังฆราชวางมาให้ ไปพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่น ๑๕๐ ปี วัดราชบพิธฯ ถ้าหากว่าภาษาในยุทธจักร เขาบอกว่า ไปดวลกับพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ มีแต่รุ่นบิ๊ก ๆ ทั้งนั้น
ไปนึกถึงตอนเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ในพิธีบรมราชาภิเษก อายุ ๖๐ อย่างอาตมานี่ กลายเป็นเด็กทารกไปเลย เพราะว่าของเมืองกาญจน์ที่มานี่ ๙๓ ปี ๙๔ ปี ๙๖ ปี แล้วพระระดับนั้น ถ้าหากว่าไม่ใช่งานในหลวง ท่านไม่มาหรอก อย่างหลวงปู่บุญส่ง วัดเขาเม็งอมรเมศร์ หลวงปู่ชุบ วัดวังกระแจะ หลวงปู่ตั้ง วัดถ้ำมะเดื่อ ที่ขำที่สุดก็คือหลวงพ่อสนองชาติ วัดเย็นสนิทธรรมาราม อายุ ๗๙ ปี โดนจัดมาอยู่ทีมเด็กเพราะว่าอายุน้อย กราบเรียนว่า "หลวงพ่อ ๗๙ นี่ยังเด็กนะครับ" ...(หัวเราะ)... อาตมาก็นั่งขำ ว่าตัวเองเด็ก ที่ไหนได้ ๗๙ ปีก็ยังเป็นเด็ก..! ไปแบบนั้น จะได้ประสบการณ์ เพราะถึงเวลาถ้างานเสร็จแล้วพิธีเขายังไม่เลิก ก็แอบดูชาวบ้านเขาว่าทำอะไรกันบ้าง อะไรที่พอใช้งานได้ก็ขออนุญาตลอกการบ้านมาเลย เป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุงได้เปรียบตรงที่ลอกการบ้านได้ง่าย คนอื่นเขาไม่รู้ ที่ถูกอัธยาศัยและชอบที่สุดก็หลวงปู่ฟู วัดบางสมัคร ถ้าหากว่าไปนั่งคู่กับท่านทีไรก็สบาย คือต่างคนต่างรู้ ถึงเวลาก็ลืมตาพร้อมกัน ทำน้ำมนต์พร้อมกัน เลิกพร้อมกัน ท่านชวนเด็กเลิกด้วย "ไปกันเถอะ..เต็มแล้ว" อาตมาชอบใจเหลือเกิน" |
พระอาจารย์กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้แหล่งระบาดหนักที่สุดของโควิด- ๑๙ ก็ที่จังหวัดนนทบุรี คือพวกเซียนสนามมวย ตอนนี้ การระบาดรอบใหม่ เรือนจำกลางนนทบุรี ตูจะบ้า...! ใจคอจะไม่ให้เจอหน้าญาติโยมกันเลยใช่ไหม ? เจ้าหน้าที่เขาเห็นคนเยอะ เขาก็เวียนไปเวียนมา มาเข้มงวดกับพวกเราอีก เหมือนอย่างกับว่าเราไปแก้เรื่องของเขาไว้เยอะ เขาก็หันมาแกล้งเราคืน แต่ถ้าไม่ได้บารมีท่านสงเคราะห์ตั้งแต่พิธีมหาระงับโรคาพินาศ คาดว่าบ้านเราก็คงแย่พอ ๆ กับอินโดนีเซีย
ตอนนี้อินโดนีเซียตายรวมเกือบ ๘,๐๐๐ คน แล้วแพร่ระบาดชนิดที่ป้องกันไม่ได้ด้วย เพราะว่าบรรดาพี่น้องอิสลาม ต่อให้เสียชีวิตก็ห้ามสิ้นศรัทธาจากพระอัลเลาะห์ ถึงเวลาเขาต้องไปละหมาดร่วมกัน แต่ละสุเหร่ายัดเข้าไปเพียบเลย ใครเป็นสักคนหนึ่ง ที่เหลือก็รับรางวัลไปด้วยกันทั้งหมด..! ในประเทศอาเซียนอย่างพวกเราติดระดับเป็นแสนนี่เป็นเรื่องน่าตกใจมาก ของญี่ปุ่นตะเกียกตะกายจนป่านนี้ยังไม่ถึงแสนเลย ต้องบอกว่าโควิดชอบเด็กกับคนแก่ อาตมาจัดอยู่ในประเภทคนแก่ ร่างกายเริ่มทรุดโทรมไปตามวัย" |
ถาม : ฝันว่าฟ้าผ่า ?
ตอบ : ก็ดีสิ...โบราณเขาเชื่อว่าอะไรที่โดนฟ้าผ่า จะได้รับพลังจากเทวดา..! ถาม : ในฝันภาวนาคาถาอะไรไม่รู้ ตื่นขึ้นมาแล้วลืมเลย ? ตอบ : อากาเส จะ พุทธทิปังกะโร นะโมพุทธายะ ....(หัวเราะ)...ฝันเองแท้ ๆ ดันจำไม่ได้ ถาม : ขออีกครั้ง ? ตอบ : อากาเส จะ พุทธทิปังกะโร นะโมพุทธายะ บอกสองครั้ง โยมก็ไม่จำหรอก จำกันไม่ทัน |
โยมถวายผ้าไตรจีวร "ผู้หญิงถวายผ้าไตรจีวร อย่าเผลอเกิดใหม่ เกิดใหม่จะมีเครื่องมหาลดาปสาธน์ คนทั่ว ๆ ไปแบกไม่ไหวหรอก เพราะว่าคนที่มีต้องประกอบไปด้วยบุญ มีกำลังเทียบเท่า ๗ ช้างสารถึงจะใส่ได้ ถามว่าอย่างไร ? สร้างขึ้นมาจากลวดทองคำที่รีดจากทอง ๑,๐๐๐ แท่ง ลวดเงินที่รีดจากเงิน ๑,๐๐๐ แท่ง ร้อยแก้วมณี ๑๑ ทะนาน แก้วประพาฬ ๒๒ ทะนาน แก้วไพฑูรย์ ๒๒ ทะนาน ฯลฯ
ร้อยขึ้นมาเป็นลักษณะเหมือนกับมงกุฎนกยูงรำแพน แล้วมีชายออกมาเป็นเสื้อคลุมยาวลงมา กำลังไม่ดีแบกไหวไหมเล่า ? นางวิสาขาใส่ทุกวัน พอถึงเวลาพลาดหน่อยเดียว เผลอถอดเอาไว้แล้วลืม โอ้โห...ของแพงขนาดนั้น...ลืมได้ พระอานนท์เก็บไว้ให้ ท่านว่าเป็นของกึ่งกลางสงฆ์ไปแล้ว ไม่ควรที่จะรับคืน แต่คราวนี้จะถวายพระ แก้วแหวนเงินทองก็เป็นอาบัติอีก ท่านก็เลยให้ข้าทาสบริวารเอาไปขาย เอาเงินมาช่วยวัด ปรากฏว่าเขาต้องเอาใส่เกวียนไป แต่ตอนใช้เองนี่ท่านใส่ติดตัวไปได้สบาย ไม่ต้องอะไรหรอก...เอาแค่เสื้อคลุมบรมราชภูษิตาภรณ์ของในหลวง อันนั้นที่เห็นสีทอง ๆ ที่ปักอยู่นั่น ทองคำแท้นะ ๑๐ กว่ากิโลกรัม ลองใส่ดูก็แล้วกัน ไม่แข็งแรงจริงจะยืนไหวไหม ?" |
"ส่วนใหญ่บุคคลที่เกิดมาเป็นผู้นำเขาก็จะมีบุญเก่าติดมาด้วย ท่านทั้งหลายเหล่านี้แข็งแรงที่บุญ บุญที่ทำ กรรมที่สร้าง ส่งผลมาให้ชาตินี้มีอะไรต่างจากผู้อื่นเขา เพราะฉะนั้น...โยมถวายผ้าไตรจีวร ถ้าเกิดใหม่จะต้องแข็งแรง
แก้วมณี ๑๑ ทะนาน แก้วไพฑูรย์ ๒๒ ทะนาน แก้วประพาฬ ๒๒ ทะนาน ส่วนใหญ่ก็คือพวกเพชรพลอย แก้วมณีนี่โคตรเพชรเลย..!" |
พระอาจารย์กล่าวว่า "เดี๋ยวมีเวลาแล้ว ค่อยให้คุณสุธรรมเขาถ่ายรูปของใหม่ไปลงกระทู้ เดี๋ยวจะเอาพญาแพะจ่าฝูงของหลวงปู่อ่ำ วัดหนองกระบอกไปลงให้ เก็บมานานแล้ว เขาบอกว่าตัวนี้บริวารมากสุด ๆ ไล่ไปเสียที บริวารจะได้น้อยลงหน่อย"
|
พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครอยู่กาญจนบุรี ผ่านด่านตรวจ ไม่มีหน้ากาก โดนปรับ ๒๐๐ บาท เพราะว่าเมืองกาญจน์เขามีด่านติดกับพม่าเยอะมาก แล้วตอนนี้ไวรัสจะระบาดจากพม่าเข้ามา เพราะคนพม่าเข้าออกทุกวัน ฉะนั้น...ออกนอกบ้านเตรียมหน้ากากไว้ด้วยแล้วกัน ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน เพราะว่า พรก.ฉุกเฉินที่เขาออกมา ศบค.เขาบอกแล้วว่ามีความผิด ถ้าหากว่าไม่ให้ความร่วมมือ โดนเขาปรับ ๒๐๐ บาท ก็แสดงว่าเราผิดกฎหมายเต็ม ๆ เขาย้ำว่าด้วยว่าจับจริงนะครับ ทุกคนที่อยู่ในรถต้องใส่"
|
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนเบี้ยแก้สารพัดกันวัดท่าขนุนหมดภายใน ๒ นาที ไม่รู้ว่าจองกันทันอย่างไร มีเวลาแค่ ๒ นาที
รุ่น ๒ กำลังเริ่มทำ เพิ่งจะจารตัวแรกไปเมื่อวาน แล้วก็ตัวที่ ๔ ที่ ๕ เพิ่งจารเมื่อเช้านี้ ช้ามาก..กว่าจะได้แต่ละที โดยเฉพาะต้องหาเบี้ยให้ได้ตามตำรา คือฟัน ๓๒ ซี่ ตัวไหนฟันหลอฟันเกินก็ใช้ไม่ได้" |
ถาม : เวลาเราสวดมนต์หรือนั่งสมาธิภาวนา บทสวดต่าง ๆ ที่เราจะสวด มีลำดับขั้นตอนไหมคะ ?
ตอบ : ชอบใจอันไหน สวดไปเลย เราขึ้น นะโมฯ อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ เสร็จแล้วที่เหลือก็ว่าไปตามใจเราชอบ ก็คือนอบน้อมพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เสร็จแล้วที่เหลืออยากท่องอะไรก็ว่าไปเลย ถาม : บทที่ต้องขึ้นต้นด้วย นะโม ตัสสะฯ ต้องนำทุกบทไหมคะ ? ตอบ : ขึ้นครั้งเดียวก็พอ ถาม : อย่างศีล ๕ ทุกครั้งที่สวดมนต์ ต้องสมาทานศีล ? ตอบ : ถ้าเรารู้ว่าศีลมีอะไรแล้ว ก็รักษาไปเลย ไม่ต้องเริ่มต้นมาสมาทานใหม่ทุกครั้ง ถาม : แล้วถ้าสมาทานพระกรรมฐาน ต้องสมาทานทุกรอบไหมคะ ? ตอบ : ถ้าไม่มั่นใจก็เอาทุกรอบ ถ้ามั่นใจก็ว่าไปเลย ถาม : เสร็จแล้วทั้งหมด เราค่อยแผ่เมตตารวมรอบเดียวได้ใช่ไหมคะ ? ตอบ : ได้...ส่วนใหญ่แล้วพวกเราไปแผ่เมตตา จริง ๆ แล้วควรอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาเหมือนอย่างกับเขาหิวมา แล้วเราเอาร่มเงาไปให้ เขาก็ไม่หายหิวหรอก แค่เย็นขึ้นมาหน่อย อุทิศส่วนกุศลก็คือแบ่งความดีที่เราได้ให้แก่เขา บรรดาท่านทั้งหลายเหมือนกับคนอดอยากหิวโหยมา ได้ไปก็จะได้มีความสุข มีความสบาย แยกให้ถูก แผ่เมตตากับอุทิศส่วนกุศลคนละเรื่องกัน |
พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่าประมาทเรื่องเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เจ้าเชื้อตัวนี้อาละวาดตามแต่เวรกรรมของคน คนที่สร้างกรรมเอาไว้น้อย ไม่ถึงวาระ ติดเชื้อก็ไม่เป็นอะไร คนที่สร้างเวรกรรมไว้มาก โดนเข้าก็กำเริบเสียปางตาย
ตอนนี้รัฐบาลอเมริกากำลังหาทางลดจำนวนพลเมืองลง ไม่รักษา ไม่อะไรทั้งนั้น ปล่อยให้มีภูมิคุ้มกันกันเอง พลเมืองส่วนใหญ่ก็ไม่ฟังรัฐบาล บอกให้ใส่หน้ากาก ก็เอามีดตัดตรงกลางออก ใส่แต่ข้าง ๆ ไว้หน่อยหนึ่ง ก็คือใส่แล้ว แต่กูจะใส่อย่างนี้..! ตอนแรกใคร ๆ เขาก็คิดว่าอเมริกาเป็นประเทศที่เจริญ คนของเขาต้องฉลาด ต้องเก่ง ปรากฏว่ารับมือกับเชื้อไวรัสด้วยวิธีที่โง่บรรลัยเลย..! คราวหน้าถ้าเจอฝรั่งก็เดินห่าง ๆ หน่อย เดี๋ยวจะติดเชื้อความโง่ไปด้วย ไม่ได้ติดไวรัสนะ... เป็นเรื่องแปลกที่ว่าทางด้านเอเชียกับยุโรปอเมริกา ติดเชื้อไวรัส คนเอเชียตายน้อยกว่า ไม่รู้ว่าร่างกายแข็งแรงกว่าหรือสภาพอากาศต่างกันก็ไม่รู้ ดูอย่างอินเดีย เขาติดเชื้อทะลุเป็นล้าน แต่ว่าอเมริกาตายทีหนึ่งเป็นแสน ของอินเดียยังตัวเลขอยู่ที่ไม่เท่าไร" ถาม : โควิดชอบคนอ้วนครับ ? ตอบ : แสดงว่าอเมริกาคนอ้วนเยอะ โยมเขาอยู่บำรุงราษฎร์ บอกว่าโควิดชอบคนอ้วน ปกติคนอ้วนสารพัดโรครุมเร้าอยู่แล้ว..ใช่ไหม ? โควิดแค่ไปซ้ำ แสดงว่าเป็นประเภทตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก ถึงเวลาก็แอบตีหัวเขาทีแล้วก็เผ่น แต่คราวนี้ถ้าตีแรงก็ถึงตาย..! |
ถาม : ระยะนี้ไข้เลือดออกระบาด ?
ตอบ : ไข้เลือดออกเป็นโรคที่รักษาง่ายที่สุด ใครเป็นก็แค่ชงน้ำเกลือแร่กินเข้าไป วันหนึ่ง ๔ แก้ว ๕ แก้วก็ได้ ไม่ต้องรักษาอะไรหรอก แค่นั้นก็หายแล้ว ถาม : แล้วพวกที่นอนเสียบน้ำเกลืออยู่ไอซียูละคะ ? ตอบ : เขาให้กิน ไม่ได้ให้เสียบ ไข้เลือดออกกลัวน้ำเกลือแร่ กินเข้าไป พอปัสสาวะออกมาก็ไข้ลดแล้ว |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:53 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.