กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7109)

เถรี 27-07-2020 10:27

ถาม : เพื่อนหนูเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเอง จะมีวิธีช่วยเขาอย่างไรไหมคะ ?
ตอบ : ช่วยหาอาวุธให้เขา...! เป็นโรคซึมเศร้าแสดงว่าเขาคิดสงสารตัวเขาเอง ถ้าเป็นไปได้ก็สอนให้เขาหัดภาวนา ถ้าอารมณ์ใจทรงตัวแล้วจะไม่เป็นอีก เพราะว่า
ถ้าอารมณ์ใจทรงตัว แม้แต่ รัก โลภ โกรธ หลง ก็เกิดไม่ได้ เพียงแต่ว่าเราจะมีปัญญาเคี่ยวเข็ญให้เขาภาวนาได้ไหม ?

เถรี 27-07-2020 21:20

พูดถึงเครื่องเสียง "ปรับให้พอใจแล้วก็ไม่ต้องไปขยับ พวกเราส่วนใหญ่มือคัน แก้ไปเรื่อย แบบเดียวกับพวกเครื่องเสียงที่วัด คนใช้เป็นก็ปรับไปเรื่อย ปรับจนบางวันต้องด่าให้หยุด บอกเขาว่าปรับเข้าที่แล้วให้ล็อกเอาไว้ ถึงเวลาคนอื่นมาเปิดสวิตช์ตัวเดียวให้ใช้งานได้เลย ก็ไม่ค่อยจะฟังกัน ลืมคิดไปว่าตัวเองทำเป็น ไม่ใช่คนอื่นจะทำเป็น เขาเรียกว่าขาดวิสัยความเป็นครู ไม่ได้คิดเผื่อว่าคนอื่นเขาจะไม่รู้ จึงเอาความสามารถตนเองเป็นบรรทัดฐาน"

เถรี 27-07-2020 21:21

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้ทาง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย คือ นายวิรัช พันธุมะผล เสนอร่างพระราชบัญญัติคณะสงฆ์เกี่ยวกับการอุปสมบท โดยระบุแต่ละมาตราว่า ผู้ที่จะเข้าอุปสมบทจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะต้องศึกษานวโกวาทหรือนักธรรมชั้นตรีให้แตกฉาน มั่นใจก่อนแล้วค่อยให้บวช ซึ่งตรงนี้อาตมาเห็นว่าเหลวไหลมาก..! เป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติแต่ว่าไม่ได้ศึกษาอะไรเลย

การอุปสมบทหรือบวชพระในภาษาชาวบ้าน พระพุทธเจ้าท่านกำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้ชัดเจนมากแล้ว เมื่อมีการอบรมพระอุปัชฌาย์ ก็มีกฎมหาเถรสมาคมระบุไว้ชัดเจนว่า กุลบุตรที่จะอุปสมบทได้ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ผู้ที่จะเป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร กำหนดอย่างชัดเจนแล้ว ยกเว้นพวกหูหนวกตาบอดที่ไม่ได้ศึกษา ถึงไม่ได้รู้ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ดันไปเสนอเป็นพระราชบัญญัติซึ่งเป็นกฎหมายอีกชั้นหนึ่ง ถ้าเป็นภาษิตจีนเขาบอกว่า ถอดกางเกงผายลม คือไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลย"

เถรี 27-07-2020 21:23

"เหมือนกับว่าหวังดีปรารถนาดีต่อศาสนาพุทธ แต่จริง ๆ แล้วก็คือเป็นการก้าวล่วงในส่วนของพุทธอาณาจักร ส่วนของราชอาณาจักรก็คือส่วนของฆราวาส ส่วนพุทธอาณาจักรก็เป็นส่วนของพระ มีระเบียบแบบแผนประเพณีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว ฆราวาสที่ศีล ๕ ไม่ครบ แต่มากำหนดกฎเกณฑ์ว่าบุคคลที่จะเป็นพระต้องเป็นอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ ก็เหลวไหลชัด ๆ..!

ในเรื่องของพระราชบัญญัติฉบับนี้ ถ้าเสนอไปก็ต้องบอกว่า ถ้าทางสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นชอบด้วย อาตมาก็คงจะสลดใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าบรรดาท่านผู้ทรงเกียรติในสภาของเราไม่ได้ศึกษาอะไรเลย แต่ถ้าไม่เห็นชอบด้วย ก็พอที่จะชื่นใจได้ว่า บ้านเราเมืองเรายังพอที่จะมีคนรู้กำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับพระ เกี่ยวกับเณรอยู่บ้าง

ต้องบอกว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะมีมาเป็นระยะ ๆ เพราะความที่ไม่เข้าใจว่าสมมติกับวิมุตติต่างกันอย่างไร ก็พยายามจะเอาสมมติมาบีบมาคั้นในส่วนของพระที่พยายามจะเข้าถึงวิมุตติ ต้องบอกว่ามารเขาเก่ง ที่ทำของง่ายให้เป็นของยาก ทำให้คนเบื่อ ไม่อยากจะบวชกัน แล้วบรรดาท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็กลายเป็นมารเสนา คือบริวารของมารไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน"

เถรี 27-07-2020 21:43

ถาม : ก่อนนอนก็อาราธนารอบบ้าน แล้วก็สะดุ้งตื่นตอนตีหนึ่งตีสอง และมีเสียงนกร้องดังมาก ?
ตอบ : นึกถึงพระพุทธเจ้า แล้วเปิดตำราสวดบท ยันทุน นิมิตตังฯ ๓ จบก่อนนอน ทุกอย่างจะดีเอง

ถาม : แต่เราไม่ได้ร้ายกับใครนะคะ ?
ตอบ : ไม่ต้องทำอะไร ขอบารมีพระสงเคราะห์ สวดมนต์ ๓ จบ

ยันทุน นิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ


อีก ๒ บทก็ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ บทไม่ได้ยาว สวดสัก ๓ จบแล้วก็นอน

เถรี 27-07-2020 21:46

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมห่วงใยว่าพระอาจารย์เล็กจะไม่มีวัตถุมงคลใช้ ถึงเวลาก็ขนมาให้ บางบ้านก็ฉวยโอกาสทิ้งขยะ คือมีอะไรที่ตัวเองไม่เอาแล้วก็โละมาถวายพระ ..!

ถามว่ามีอานิสงส์ไหม ? ก็มีอยู่ เพราะว่าเรื่องของทานนั้นมีตั้งแต่สามีทาน ให้ของที่ดีกว่าที่ตนเองกินตนเองใช้ สหายทาน บาลีเขาว่า สขา ก็คือสหายในภาษาของเรา ให้เท่ากับที่ตนเองกิน ตนเองใช้ แล้วก็ทาสทาน ให้ในสิ่งที่ดีน้อยกว่าตนเองกิน ตนเองใช้ หรือว่าเหลือจากที่ตนเองกินหรือใช้แล้ว

ถ้าเป็นอย่างนั้นจะมากจะน้อยอานิสงส์ก็มี ดีไม่ดีก็เป็นอย่างอานันทเศรษฐี หรืออาฬวีเศรษฐี เป็นคนรวยแต่ใส่ผ้าใหม่ไม่ได้ พอถึงเวลาต้องทำให้เก่า ทำให้ขาดก่อน ถึงจะนุ่งได้ อานิสงส์ของทานทำให้รวย แต่ว่าให้ในสิ่งที่ตัวเองกินแล้วใช้แล้ว กลายเป็นถึงเวลาก็ต้องได้แต่ของเก่า ๆ เพราะฉะนั้น..คนไหนที่ได้ภรรยาเก่า ๆ ตกทอดจากคนอื่น ก็อาจจะเคยให้ของที่ตนเองกินตนเองใช้แล้วค่อยให้คนอื่น ใช่หรือเปล่า ?...(หัวเราะ).. ไม่เป็นไรหรอก...ถึงตกทอดจากคนอื่นมา ถ้าเป็นคนดีก็ถือว่าเป็นโชคดีของเรา ถ้าเป็นภรรยามือหนึ่ง แต่มาเป็นแม่เสืออยู่ในบ้าน ก็เป็นโชคร้ายของเรา..!"

เถรี 28-07-2020 20:18

พระอาจารย์กล่าวว่า “ตกลงว่าจะให้พระที่วัดท่านสึกเช้านี้เพื่อเอาไปรักษาตัวที่ขอนแก่น ท่านคิดมากแล้วหยุดคิดไม่เป็นจนเพี้ยนไปเลย เสียดายนะ..คือเรื่องของคนที่ตัดใจไม่ได้ก็ตัดใจไม่ได้จริง ๆ ส่วนคนที่ตัดใจได้ ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาลำบากแค่ไหนในการตัดใจ ...(หัวเราะ)...”

เถรี 28-07-2020 20:20

พระอาจารย์กล่าวว่า "ต้องบอกว่าเป็นความเคยชินใหม่ที่ราชบัณฑิตยสภากำหนดให้ใช้คำว่า “ปทัฏฐาน” จริง ๆ ก็คือบรรทัดฐานนั่นแหละ แต่ว่าปทัฏฐานเป็นบาลี บรรทัดฐานเป็นสันสกฤต บ้านเราเป็นอะไรที่ลักลั่นมาก ใช้บาลีเป็นหลัก แต่ตัวหนังสือเขียนเป็นสันสกฤตเกือบหมด”

เถรี 28-07-2020 20:21

พระอาจารย์กล่าวว่า “ทารุณมากเลย ไม่ได้เจอหน้ากันสี่เดือนแต่ให้เวลาแค่นิดเดียว..ใช่ไหม ? ...(หัวเราะ)... ถือว่าเป็นหลักสูตรเร่งรัดในการสร้างบารมี ทำให้พวกเราเข้มแข็งขึ้น ทำอะไรว่องไวขึ้น จะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเรามีเวลาน้อยมากที่จะไปถึงพระนิพพานให้ได้ ทุกวินาทีจึงมีค่า”

เถรี 28-07-2020 20:21

พระอาจารย์กล่าวว่า “เห็นก่อนหน้านี้มีคนใช้ยูสเซอร์เนม ลูกผู้ชายต้องไว้พุง จนป่านนี้อาตมายังไม่ใช่ลูกผู้ชายเลย ...(หัวเราะ)...”

เถรี 28-07-2020 20:22

พระอาจารย์กล่าวว่า “หัดทำอะไรเร็วขึ้น บารมีจะได้เข้มข้นขึ้น อย่าทำตัวเป็นคนมีเวลามาก เพราะถ้ามีเวลามากแปลว่าต้องเกิดอีกนาน เกิดนานก็ทุกข์มาก ถ้าพลาดไปเกิดข้างล่างก็ยุ่งเลย..!”

เถรี 28-07-2020 20:23

ถาม : ที่คณะจะมีการเลือกคณบดีใหม่ ...(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าท่านจะเอาเราไหม ต้องให้ท่านเห็นฝีมืองานของเราก่อน อย่างน้อย ๆ ต้องเคยร่วมงานกันมาระยะหนึ่ง ถ้าไม่เคยเห็นฝีมือของเราเลยแล้วไปอาสา ใครเขาจะเอาเล่า ? เก่งแค่ไหนก็ตาม ถ้าเขาไม่เคยเห็นฝีมือเรามาก่อน ก็คงได้แต่นั่งมองหน้ากันนั่นแหละ ...(หัวเราะ)...

เรื่องของการทำงานยิ่งระดับสูงเท่าไร การให้โอกาสในการทำโอกาสผิดพลาดจะมีน้อยมาก เพราะฉะนั้น..ถ้าเขาไม่เชื่อใจไม่เห็นฝีมือเรา โอกาสที่เราจะได้รับเลือกก็น้อย เอาอย่างนี้สิ..ถือศีลแปดสัก ๗ วัน โดยบนพระวิสุทธิเทพท่าน บอกว่าของานนี้ พระวิสุทธิเทพคือพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เพียงแต่ว่าให้รักษาศีลแปด ๗ วัน แต่ว่าต้องได้ก่อนแล้วค่อยไปรักษานะ ไม่ใช่ไปชิงรักษาศีลแปดก่อน ๗ วัน
ถ้าไม่ได้นี่ขาดทุนเลยนะ ...(หัวเราะ)...

เถรี 28-07-2020 20:24

ถาม : ตอนนี้คุณภาพการศึกษาด้อยลง ๆ อยากจะช่วยให้ดีขึ้น ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ปัจจุบันนี้เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น เพราะว่างานเอกสารเยอะจนเตรียมการสอนได้ยาก หลวงพ่อเจอมาเองซาบซึ้งมาก..! ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากสอนให้ดี แต่อย่างหลวงพ่อวันหนึ่งเจอไป ๖-๘ ชั่วโมง แล้วเราจะเตรียมการสอนอย่างไรให้ดีได้ เพราะว่าเอกสารเพียบเลย ถ้าเป็นไปได้ช่วยเสนอให้หน่อยว่า เรื่องงานเอกสารให้หาเจ้าหน้าที่เพิ่มมาสักคนหนึ่ง ถึงเวลาเราส่งข้อมูลแล้วให้เขาเป็นคนทำ ให้คนนี้ทำเอกสารอย่างเดียวไปเลย

ถาม : ปกติเขาจะมี ...(ไม่ชัด)... ของคณะอยู่แล้วนี่ครับ ?
ตอบ : แต่คราวนี้ไม่ใช่ เพราะว่าอย่างของอาจารย์สอนหนังสือนี่ของใครของมัน เริ่มตั้งแต่ มคอ.๒ มคอ.๓ มคอ.๕ มคอ.๗ SAR สารพัด... ซึ่งหลายอย่างต้องทำเอง คนอื่นทำให้ไม่ได้

เถรี 28-07-2020 20:25

ถาม : ขอความเมตตาหลวงพ่อดูพระให้หน่อยครับ ?
ตอบ : อย่าดูเลย เพราะว่าถ้าเราขาดความมั่นใจ ไปดูแล้วเดี๋ยวจะหมดศรัทธาเสียอีก พระของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านให้พรเอาไว้ว่า จะเก่า จะใหม่ จะจริง จะปลอม ถ้านึกถึงท่าน ก็มีอานุภาพเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้น..อย่าริไปดู ดูเมื่อไรถึงเวลาก็ใจฝ่อ แทนที่จะยึดท่านเป็นที่พึ่งที่ระลึกได้ ก็กลายเป็นหมดใจไปเลย

เถรี 28-07-2020 20:30

พระอาจารย์กล่าวว่า “พยายามสร้างความเคยชินใหม่ ทำอะไรให้เร็วขึ้น ถวายทานด้วยการวางอุเบกขา ยึดติดให้น้อยลง ไม่ใช่ต้องถวายกับมือหลวงพ่อถึงจะได้บุญ ไม่ใช่หลวงพ่อต้องฉันหรือใช้ให้เห็นถึงจะได้บุญ ถ้าคิดอย่างนั้นชาตินี้ยังห่างไกลความดีมาก กำลังใจของการอุเบกขาในการให้ทานคือ เราได้ทำ ทำแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอให้ได้ทำก็พอ”

เถรี 28-07-2020 20:33

พระอาจารย์กล่าวว่า “เวลาทหารส่งข่าว ๐ เขาจะไม่อ่านว่าศูนย์ เขาจะอ่านว่าโบ๋ ๒ เขาจะไม่อ่านว่าสอง เขาจะอ่านว่าโท ไม่อย่างนั้นแล้วเสียงจะซ้ำกัน สอง สาม ศูนย์...ใกล้เคียงกัน เดี๋ยวจะเพี้ยน

ของทหารนี่ถ้าวัน ว. เวลา น. พลาด ดีไม่ดีจะฆ่ากันเอง อย่างเช่นกำหนดไว้ว่า ให้ถอนกำลังเวลา ๐๒.๐๐ น. ถ้าเกิดว่าฟังผิด ตีสองแล้วยังไม่ถอนกำลัง เพราะได้ยินว่าตีสาม ถึงเวลาปืนใหญ่ถล่มลงไปก็เละเอง ตัวอย่างชัดเจนที่สุดก็การรบที่บ้านร่มเกล้า”

เถรี 28-07-2020 20:33

ถาม : เม็ดเงินนอกซื้อที่ไหนครับ ?
ตอบ : ซื้อต่างประเทศ..! ร้านไหนเขาก็ขาย เพียงแต่บอกเขาว่าเม็ดเงินนอก เพราะว่าถ้าเม็ดเงินไทยส่วนใหญ่จะทำไม่ได้มาตรฐาน ขืนเอาไปหล่อเดี๋ยวพระก็ด่างลายไปทั้งองค์ เม็ดเงินไทยจะเม็ดใหญ่ ค่อนข้างขรุขระ และออกสีดำ

เถรี 28-07-2020 20:34

พระอาจารย์กล่าวว่า “ต้องขอบคุณเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ที่ช่วยเร่งรัดบารมีพวกเราให้ทำอะไรเร็วขึ้น มีญาติโยมหลายรายเวลาใส่บาตรจะนั่งอธิษฐานนานมาก แถวบิณฑบาตวัดท่าขนุนก็ประมาณ ๒๑-๒๒ รูป อาตมาเดินเลยไปโน่น กว่าเขาจะได้ใส่ก็รูปท้าย ๆ เลย คือรออยู่ประมาณ ๑ นาทีแล้วก็ยังอธิษฐานไม่เสร็จ ถ้าอย่างนั้นอาตมาก็ไปก่อน..!”

เถรี 28-07-2020 20:35

พระอาจารย์กล่าวว่า “จะไปนั่งแปะติดที่เหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ เรียกว่าเป็นการเร่งรัดบารมีให้เราเข้มแข็งขึ้น ยึดเกาะในส่วนของพระรัตนตรัยที่เป็นคุณพระรัตนตรัยจริง ๆ ไม่ใช่ยึดเกาะตัวบุคคล ไม่ใช่ว่าไม่ได้เห็นหน้าหลวงพ่อ ๔ เดือนจะขาดใจตาย ถ้าอย่างนั้นคือการยึดตัวบุคคล

ถ้าหากว่าเรายึดเกาะคุณพระรัตนตรัย เห็นคุณความดีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ใจระลึกถึงอยู่เสมอ ท่านบอกท่านสอนอะไร เราก็ทำอย่างนั้น แบบนั้นถึงจะใช้ได้”

เถรี 28-07-2020 20:37

พระอาจารย์กล่าวว่า “มีญาติโยมถามว่า ถวายเงินให้เจ้าอาวาสขุดบ่อบาดาลที่วัดหนึ่ง แล้วย้ายไปอยู่วัดอื่น ไปขุดที่วัดนั้นแทน มีโทษย้ายเจดีย์หรือเปล่า ? อันนี้ถ้าไม่ได้ระบุว่าขุดบ่อบาดาลที่วัดไหนก็ไม่มีโทษ แต่ถ้าระบุว่าให้ขุดเฉพาะที่วัดนั้น ก็มีโทษทำให้ศรัทธาเสื่อม ซึ่งทางพระเขาปรับอาบัติทุกกฎ แต่ว่าไม่มีโทษย้ายเจดีย์ เพราะว่าเขายังคงขุดบ่อบาดาลให้ตามเจตนาเดิมของท่านเจ้าภาพ”

เถรี 28-07-2020 20:40

พระอาจารย์กล่าวกับโยมคนหนึ่ง “อธิษฐานนานไม่ดี เอาสั้น ๆ การอธิษฐานเป็นการตั้งใจ ตั้งใจว่าเราทำบุญแล้วเราปรารถนาอะไรก็จบแล้ว อย่าอธิษฐานเผื่อมาก ถ้าเผื่อมากแปลว่ากำลังใจยังน้อย”

เถรี 28-07-2020 20:41

พระอาจารย์กล่าวว่า จำไว้ว่าให้คิดถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในลักษณะอนุสติ คิดถึงความดีของท่าน ไม่ใช่ไปยึดตัวท่าน ถ้าไปยึดตัวท่านถึงเวลาไม่มีให้ยึดนี่ตายแน่..!

เรื่องของบุญเรื่องของทานก็เหมือนกัน ขอให้ได้ถวายเท่านั้น ขอให้ได้ทำเท่านั้น ส่วนทำแล้วถวายแล้วเขาจะไปทำอะไรก็เรื่องของเขา จะได้ถวายกับมือหรือไม่ได้ถวายกับมือก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเจตนาของเราก็ได้บุญแล้ว ไม่ใช่ว่าจะต้องยกประเคน ไม่ใช่ว่าหลวงพ่อต้องใช้ต้องฉันให้เห็นถึงจะได้บุญ ถ้ากำลังใจห่วยแตกแบบนั้นก็ต้องเกิดอีกนาน..!”


เถรี 28-07-2020 20:42

พระอาจารย์กล่าวว่า “วันก่อนมีคนส่งรูปในห้องเรียนมาให้ดู ก็คือเด็กเปิดเทอมแล้วก็มีการนั่งเว้นระยะกันอย่างดีเลย ตอนกลับบ้านกลับไปแออัดยัดเยียดอยู่บนสองแถวคันเดียว สรุปว่าแล้วจะเว้นระยะไปทำอะไร ? ...(หัวเราะ)...”

เถรี 28-07-2020 20:43

พระอาจารย์กล่าวว่า “สรุปว่าคณะของท่านชรัสที่บอกว่าจะไปถวายผ้าป่าวัดที่ยากจน ๙ วัด แล้วก็ดันเลี้ยวไปถวายวัดท่าขนุนวัดหนึ่ง แล้ววัดท่าขนุนนี่ยากจนมากเลยใช่ไหม ? ...(หัวเราะ)... ก็เจตนาแต่แรกเขาบอกว่าจะถวายวัดที่ยากจน อาตมาอุตส่าห์หาให้เขาแล้ว ปรากฏว่าดันเอาวัดท่าขนุนเป็นวัดยากจน ดูถูกกันชัด ๆ..! ถ้าวัดท่าขนุนจนนี่วัดอื่นก็ไม่มีรวยหรอก..! ต้องบอกว่าถ้าช่วยคนอื่นได้นี่แปลว่ารวย วัดท่าขนุนรับช่วยเขาทั่วประเทศแล้วจะจนได้อย่างไร ?

สงสัยว่าพระเวรสังฆทานจะเป็นคนแนะนำ อาตมาอุตส่าห์ให้เขาเข้าไปที่เขตตำบลชะแลด้านเดียว นี่ดันจะถวายวัดธุดงค์สมเด็จกับวัดวังปะโท่ ทั้งสองแห่งไปคนละทิศคนละทาง เดินทางอย่างเดียวก็ปางตายแล้ว จากวัดท่าขนุนไปวัดวังปะโท่ ๒๒ กม. ไปกลับ ๔๔ กม. จากวัดท่าขนุนไปวัดธุดงค์สมเด็จ ๕๐ กม. ไปกลับก็เป็นร้อย กว่าจะถวายครบ ๙ วัดมีหวังตายแน่..!”

เถรี 28-07-2020 20:54

พระอาจารย์กล่าวว่า “เรื่องของการหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำ จะหล่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ นี้ แล้วถ้าหากว่าช่างปั้นต้นแบบพระปางห้ามสมุทรทรงเครื่องได้ทัน ก็จะหล่อประมาณวันมาฆบูชาปีหน้า ซึ่งน่าจะเป็นปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือว่าต้นเดือนมีนาคม เพราะว่าปีหน้ามีเดือนแปดสองหน แล้วก็จะไปหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงินช่วงลอยกระทงของปี ๒๕๖๔”

เถรี 28-07-2020 20:55

พระอาจารย์กล่าวว่า “อะไรที่ไม่เคยชินถ้าทำสัก ๓-๔ ครั้ง เดี๋ยวก็จะชินไปเอง แรก ๆ ก็จะรู้สึกแปลก ๆ เดี๋ยวต่อไปจะดีใจที่เราได้ทำอะไรเร็ว ๆ เพราะว่าจะมีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นอีกมาก”

เถรี 28-07-2020 20:56

พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า “ต้องขออภัย...อยู่ที่นี่อาตมาไม่ค่อยเห็นแก่หน้าค่าชื่อใคร ใครยิ่งสนิทสนมยิ่งโดนหนัก ถ้าหากว่าสนิทกับอาตมาจะต้องรู้ดีว่าอาตมาไม่ยอมให้เสียระเบียบ เพราะฉะนั้น..ถ้าใครอ้างชื่ออาตมาแล้วจะทำให้เสียระเบียบ ก็เหวี่ยงออกจากบ้านไปเลย..!

อาตมาถือว่าถ้าเป็นคนคุ้นเคย เราต้องเข้มงวดกว่าคนอื่น ถ้าเอาญาติพี่น้องคนคุ้นเคยของตัวเองอยู่ คนอื่นก็เอาอยู่หมด เพราะว่าส่วนใหญ่ที่ทำให้เสียระเบียบมักจะเป็นคนคุ้นเคย ซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านี้มีความประพฤติที่ค่อนข้างจะแย่ เพราะว่ามักจะไม่เห็นพระเป็นพระ แต่จะเห็นพระเป็นญาติพี่น้องของตัวเอง ซึ่งของอาตมาไม่ใช่ ตั้งแต่พรรษาแรกมาจนป่านนี้ ถ้าเป็นญาติพี่น้องนี่จะโดนหนักกว่าเพื่อน..!

ซึ่งโดยนิสัยของอาตมาถ้าใครมาทำผิดระเบียบก็มี ๒ วิธีที่จะจัดการ วิธีแรกคือปิดบ้านเติมบุญเลิกรับสังฆทานไปเลย เพราะว่าอาตมาเองอยู่ได้ วิธีที่สองก็คือขึ้นบัญชีดำ ห้ามคนนั้นมาอีก ใครอยากจะเป็นบุคคลในตำนานสามารถแจ้งตรงนี้ได้..!”

เถรี 28-07-2020 20:57

พระอาจารย์กล่าวว่า “เรื่องของกองทุนรักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณรของเรา ช่วงที่ผ่านมาได้ใช้งานเยอะมาก เพราะว่าพระที่เรียนบาลีของวัดท่าขนุนรูปหนึ่ง ท่านเรียนบาลีแล้วเครียดจนเส้นเลือดในสมองตีบ เสียค่ารักษาไป ๘๗,๐๐๐ บาท..!

ปกติถ้าเข้าโรงพยาบาลเอกชน อาตมาจะไม่จ่ายให้ แต่เนื่องจากว่าท่านอาการหนักมาก แล้วเอกชนมักจะมีเครื่องไม้เครื่องมือดีกว่า ก็เลยยอมจ่ายเพื่อให้ท่านรอด ไม่อย่างนั้นถ้าท่านแย่งกันเข้าโรงพยาบาลเอกชน อาตมาก็คงต้องตั้งทุนรักษาพยาบาลใหม่เพราะว่าของเก่าหมดเกลี้ยง..! ...(หัวเราะ)...”

เถรี 28-07-2020 20:59

พระอาจารย์กล่าวว่า “ญาติโยมบางท่านไม่ได้นั่งเจริญกรรมฐานกันใกล้ ๆ รู้สึกว่ากำลังใจไม่ดี รักษากำลังใจไม่ได้ เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็จะได้ตั้งหลัก ยืนหยัดด้วยตัวเองเสียที จะส่งกำลังใจไปให้ ถ้ากลัวว่าไม่ได้อยู่ใกล้ ก็ซื้อหาจอโทรทัศน์สัก ๓๒ นิ้ว แล้วก็เปิดนั่งใกล้ ๆ ไว้ ถ้าหากว่าไม่มั่นใจก็เอาโฮมเธียเตอร์ไปเลย..! จอยักษ์ต่อเนื่องกัน ๑๒ จอ เปิดให้หน้าพระอาจารย์ใหญ่เต็มจอก็จบแล้ว ได้อยู่ใกล้กว่าปกติด้วย แต่ถ้าจะลงทุนขนาดนั้นก็น่าจะแพงมากเลยนะ..!”

เถรี 28-07-2020 21:01

พระอาจารย์กล่าวว่า “เรื่องของพระพุทธศาสนา โอกาสที่จะเป็นเหมือนเดิมนั้นยากมาก เพราะหลายสาเหตุด้วยกัน มีทั้งปลอมบวชเข้ามาเพื่อตั้งใจทำลายศาสนาพุทธ มีทั้งผู้ที่บวชเข้ามาขาดคุณภาพ เพราะว่าเป็นบุคคลที่เหลือเลือก สังคมข้างนอกเขาไม่ยอมรับ ก็เลยอาศัยบวช แล้วก็ยังคงมีนิสัยสันดานเหมือนเดิม ทำแต่สิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ทำให้ญาติโยมเสื่อมศรัทธา

อีกประเภทหนึ่งก็คือ บุคคลที่บวชถูกต้องหมดทุกอย่าง แต่ทนสู้กิเลสไม่ได้ รัก โลภ โกรธ หลง ท่วมหัว ก็กลายเป็นผู้ทำลายศาสนาเองโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น..บุคคลคุณภาพที่จะบวชเข้ามาเพื่อยังพระศาสนาของเราให้มั่นคงนั้นมีน้อยลงไปทุกที บรรดาท่านทั้งหลายที่เอาแต่ตำหนิพระพุทธศาสนา ก็ไม่คิดที่จะบวชเข้ามาช่วยกัน มีแต่ด่าอย่างเดียว โอกาสที่พระพุทธศาสนาจะตั้งมั่นได้มั่นคงก็ยากแล้ว อย่าว่าแต่เจริญขึ้นเลย”

เถรี 28-07-2020 21:02

“ปัจจุบันนี้มี สส.ยื่นร่างกฎหมายใหม่ จะให้บุคคลที่บวชพระต้องศึกษานักธรรมชั้นตรีและนวโกวาทให้คล่องตัวก่อนแล้วค่อยบวช ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องไปหาใครบวชหรอก เพราะว่าพระที่บวชยังต้องใช้เวลาทั้งพรรษาในการศึกษา

แล้วอีกอย่างหนึ่ง เรื่องกฎเกณฑ์ในการบวชนั้น มหาเถรสมาคมก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่า พระอุปัชฌาย์อาจารย์ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร สัทธิวิหาริกคือผู้ที่จะเข้ามาบวชเป็นพระ ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร แต่ว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้นอกจากจะไม่ได้ศึกษาแล้ว ยังคิดว่าตัวเองฉลาด พยายามที่จะช่วยเหลือพระพุทธศาสนาด้วยการออกกฎหมายมาบังคับ กลายเป็นโง่แล้วขยัน..!

ในเรื่องของพระพุทธศาสนานั้น อยู่ด้วยพระธรรมวินัยไม่ได้อยู่ด้วยกฎหมาย กฎหมายบ้านเมืองเราเคารพและปฏิบัติตาม แต่ว่าสิ่งที่ใช้ตัดสินความเป็นพระหรือไม่ใช่พระนั้น มีพระธรรมวินัยอยู่พร้อมสมบูรณ์ทุกอย่างแล้ว ถ้าท่านทั้งหลายกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมา ระวังจะเกิดโทษหนักกับตัวเอง ก็คือไปบัญญัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ ไปเพิ่มเติมในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้เพิ่มเติม เรียกว่าตายแล้วจะรู้ว่าโทษนี้เป็นอย่างไร แต่ก็มักจะเสียใจไม่ทันแล้ว”

เถรี 28-07-2020 21:03

พระอาจารย์กล่าวว่า “ต้องบอกว่าเชื้อโรคเป็นเหตุ ก็เลยห่างกันไปเรื่อย ๆ แต่ได้พิสูจน์กำลังใจของเราว่าใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ ให้คิดในแง่ร้ายเอาไว้ก่อนว่ายังใช้ไม่ได้”

เถรี 28-07-2020 21:03

พระอาจารย์กล่าวว่า “แรก ๆ ก็ไม่ชินหรอก พอนาน ๆ ไปเดี๋ยวก็ชินไปเอง อะไรที่เป็นของแปลก ที่เป็นของใหม่ มีความดีอยู่อย่างก็คือเราต้องระมัดระวัง จะได้ทำไม่ผิดพลาด เป็นการสร้างสติเพิ่มเติมให้กับเรา ขณะเดียวกันก็ต้องควบคุม กาย วาจา ใจ ของเราให้สงบ ไม่หงุดหงิด ไม่รู้สึกโกรธ เท่ากับต้องเคี่ยวเข็ญตัวเองให้สร้างบารมีเพิ่มขึ้น”

เถรี 28-07-2020 21:08

พระอาจารย์กล่าวว่า “ทุกคนยังต้องระวังตัว เพราะว่าเชื้อโรคจะยังอยู่กับเราอีกนาน ช่วงระยะเวลาประมาณ ๖-๗ เดือนที่ผ่านมา เชื้อโรคปรับตัวเองเปลี่ยนตัวเองไป ๖ รอบแล้ว เชื้อในปัจจุบันเป็นคนละตัวกับเชื้อครั้งแรกแล้ว แปลว่าใครทำวัคซีนอยู่นี่ไล่ไม่ทันหรอก เพราะฉะนั้น..ใส่หน้ากากก็ปิดปากปิดจมูกให้ดี เพราะว่าเชื้อโรคเข้าทางปากและจมูก ไม่ใช่ว่าปิดปากอย่างเดียว หรือว่าเอาไปรัดใต้คางไว้

บ้านเราต้องถือว่าโชคดีที่รัฐบาลดำเนินนโยบายได้ถูก เพราะว่าเอาหมอนำหน้า หมอย่อมรู้จักกับโรคดีที่สุด แล้วการคงพระราชกำหนดฉุกเฉินเอาไว้ก็มีบางคนไปค่อนแคะว่า หวงอำนาจ กลัวชาวบ้านเดินขบวนประท้วง ความจริงแล้วพระราชกำหนดฉุกเฉินไม่ใช่จะประกาศกันง่าย ๆ สถานการณ์ต้องเลวร้ายจริง ๆ เท่านั้น คราวนี้ถ้าไม่คงเอาไว้ อยู่ ๆ เชื้อโรคระบาดหนักรอบสอง แล้วเราไปประกาศใหม่ก็จะลำบากกว่าเดิม เพิ่งจะยกเลิกแล้วประกาศใหม่ ก็จะโดนด่ามากกว่านี้อีก เพราะฉะนั้น..มีวิธีเดียวก็คือปล่อยให้อยู่ยาวไปเลย”

เถรี 28-07-2020 21:12

“คราวนี้พระราชกำหนดนี้มีความลำบากอยู่อย่างเดียวก็คือ ห้ามคนชุมนุมกันเกิน ๕๐ คน แล้วก็ห้ามอยู่ใกล้ชิดกัน โดยเฉพาะที่นี่...อยู่ในเขตนนทบุรีที่เป็นเขตระบาดหนัก ถ้าพวกเราติดตามข่าวการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ตั้งแต่แรก จะเห็นว่าเซียนมวยที่เป็น Super spreader ไปแพร่เชื้ออย่างหนักเลย ก็ไปจากนนทบุรีนี่แหละ..!

จังหวัดนนทบุรีเป็นจังหวัดสุดท้ายที่ได้รับการปลดล็อกเพื่อให้คนเดินทางไปมาได้ ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานท้องที่จึงต้องเข้มงวดกับบ้านเติมบุญ เพราะว่าคนจะมาเยอะ เขากลัวว่าถ้าระบาดขึ้นมาอีกครั้งเขาจะเดือดร้อนไปด้วย ใหม่ ๆ เราก็คงไม่เคยชินหรอก แต่ถ้าไปอีกสักพัก เราก็จะรู้สึกชินไปเอง”

เถรี 28-07-2020 21:14

ถาม : ระหว่างเป็นข้าราชการกับค้าขาย หนูควรทำงานอะไรดีคะ ?
ตอบ : เลือกเอาเอง จะหลับตาจิ้มเอาก็ได้..! เรื่องของงานยุคนี้ไม่ต้องเลือกแล้ว มีอะไรก็โดดใส่ไว้ก่อนเลย ถ้ามัวแต่ไปเลือกอยู่ว่าจะเอางานที่เราชอบ หรือเอางานที่ดีสำหรับเรา อาจจะไม่ได้ทำอะไรเลย..!

เถรี 28-07-2020 21:16

หลังจากพระภิกษุท่านทำสามีจิกรรม พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงเข้าพรรษาเราต้องไปทำสามีจิกรรม ซึ่งในอดีตก็คือการไปรายงานตัวต่อพระอุปัชฌาย์อาจารย์ ในปัจจุบันนี้เปลี่ยนเป็นพระผู้ใหญ่และเจ้าคณะปกครองด้วย

ตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ จนถึงปัจจุบัน เป็นปีที่ ๕ แล้วที่วัดท่าขนุนบวชแบบอุกาสะฯ ซึ่งมีลักษณะของการยืน ๆ นั่ง ๆ แบบที่ญาติโยมเห็นพระท่านปฏิบัติเมื่อสักครู่ คือถ้าหากว่าโยมเข้าใจหรือว่าไม่เคยศึกษาแบบธรรมเนียมในพระไตรปิฎกมาก่อน ก็จะไม่ทราบว่าการยืนเป็นการแสดงความเคารพ มาสมัยนี้ของเราเปลี่ยนเป็นคุกเข่า เปลี่ยนเป็นกราบ

ถ้าเราอ่านจะเห็นว่า ถึงเวลาพรหมเทวดามาถวายสักการะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วไปยืนในส่วนที่ควรข้างหนึ่ง ก็คือยืนในที่เหมาะสม การยืนเป็นการแสดงความเคารพ ปัจจุบันนี้กลายเป็นว่า การยืนดูแล้วแปลก ๆ ในสายตาพวกเรา เพราะว่าไม่เคยชินกัน

เพื่อนพระอุปัชฌาย์บางท่านก็บอกว่า ถึงเวลาก็ให้นาคยืนค้ำหัวพระ อาตมาบอกว่า “ผมให้เขายืนนอกวงพระ” ...(หัวเราะ)... เสร็จสรรพเรียบร้อยเหลือแต่ตอนญัตติค่อยให้เข้ามานั่งในวง ของท่านเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกก็ให้มายืนในท่ามกลางพระ แบบนั้นก็จบเลย”


เถรี 28-07-2020 21:18

พระอาจารย์กล่าวว่า “อะไรที่ไม่เคยชิน ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชินไปเอง แต่อะไรที่เคยชินแล้ว ถ้าหากว่าทำแล้วไม่ดีต่อกาลเทศะก็ต้องแก้ไข ส่วนใหญ่แล้วคนอื่นเขาจะไม่กล้าว่า ไม่กล้าบอก เขาเกรงใจ คือรักตัวเอง กลัวว่าเราจะไม่พอใจ แต่ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้น เราจะไม่มีวันแก้ไขตัวเองได้เลย แต่อาตมาเองในฐานะที่เป็นครูบาอาจารย์ ถ้าไม่บอก เกิดเราไปทำผิดที่อื่น แล้วบอกว่าเป็นลูกศิษย์สายวัดท่าขนุน อาตมาก็จะขายหน้าเขาด้วย เพราะฉะนั้น..ที่วัดท่าขนุนจะค่อนข้างเข้มงวดกับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้

พระเณร ๓๐-๔๐ รูป ถ้าโยมไปถึงวัดแทบจะไม่เห็นอยู่ข้างนอกเลย หลายคนไปถามว่าพระวัดนี้มีเท่าไร ? พอบอกแล้วเขาตกใจ บอกว่าไม่เห็นพระเลย อาตมาบอกว่ามีหน้าที่สวดมนต์ภาวนาก็ทำไป ถึงเวลาหน้าที่ส่วนรวม ปัดกวาดทำความสะอาดวัดแล้วถึงจะมารวมกัน ถ้าใครฝืนระเบียบ มี ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือไปหาที่อยู่ใหม่ อย่างที่สองก็สึกหาลาเพศกลับไปทำตามใจตนเองที่บ้าน..!

ถ้าท่านทั้งหลายถามว่าเป็นการเข้มงวดโหดร้ายไปหรือเปล่า ? ก็ต้องบอกว่า พระพุทธศาสนาของเราบอบช้ำมากแล้ว ก็เพราะการปล่อยปละละเลยของบุคคลที่เป็นครูบาอาจารย์ และการไม่รู้เรื่องอะไรเลยของญาติโยมที่เป็นอุบาสกอุบาสิกา ดังนั้น..ถ้าหากว่าไม่รู้ ทำต่อไปผิดพลาดอีก ก็กลายเป็นข้อตำหนิแก่คนอื่นเขาต่อไปอีก”

เถรี 28-07-2020 21:19

มีโยมมาขอขมาพระอาจารย์ พระอาจารย์จึงกล่าวว่า “เคยรู้ไหมว่าขอขมาเขาต้องมีเครื่องมืออะไรบ้าง ? จะขอขมาก็ไปหาดอกไม้ธูปเทียนมา ไม่ใช่มาแต่มือเปล่า ไม่เคยเรียนรู้แบบธรรมเนียมก็ต้องเรียนรู้ ต่อไปจะได้ทำให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นก็จะผิดไปเรื่อย”

เถรี 28-07-2020 21:20

พระอาจารย์กล่าวว่า “ที่นี่ไม่เอาใจใคร แต่เอาธรรมเป็นหลัก เอาเรื่องของกฎระเบียบเป็นหลัก กฎระเบียบเป็นของหยาบ หลักธรรมเป็นของละเอียด ถ้าสามารถปฏิบัติของหยาบได้ จึงจะเข้าถึงของละเอียดได้


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:19


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว