กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7475)

เถรี 10-03-2021 18:31

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาคาดว่าสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อนกับหลวงพ่อสุคะโตน่าจะเสร็จประมาณช่วงวิสาขบูชา แต่จากที่เห็นน่าจะเสร็จเร็วกว่าเดิม เพราะว่าช่วงนี้ส่วนใหญ่ช่างว่างงาน ไม่มีใครกล้าสั่งสร้างวัตถุมงคล ในเมื่อไม่มีใครกล้าสั่งสร้าง ก็มีเวลาทำให้เรามากขึ้น เหรียญสมเด็จองค์ปฐมต้องประกอบ เนื่องจากว่าองค์พระตลอดจนกระทั่งเหรียญด้านหลังไม่ได้ติดกัน จะต้องมีแท่นรองรับอยู่ จะต้องเชื่อมเข้าด้วยกัน ก็จะทำให้ช้านิดหนึ่ง ถ้ามักง่ายไปติดกาว ก็อาจจะหลุดได้

ในส่วนของหลวงพ่อสุคะโต เขาบรรจุกล่องเป็นองค์พระพุทธรูปขนาดเล็ก ๆ เหมาะที่จะตั้งหน้ารถ ยิ้มสวยมาก อาตมาเรียกว่า "หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์" คราวนี้พอหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านให้บรรจุเม็ดเงินเพื่อทำเป็นมหาสะท้อน ก็เลยต้องเปลี่ยนจาก "หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์" มาเป็น "หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์ ใครปล้นเจอสวน..!"

เถรี 11-03-2021 15:28

พระอาจารย์เล่าว่า "ระยะนี้ร่างกายของอาตมาย่ำแย่มาก เมื่อวานมีผู้หวังดี เอาน้ำซุปพระกระโดดกำแพงมาถวายตอนเย็น คือถ้าพระป่วย สามารถฉันน้ำซุปได้ ไม่ใช่ฉันเนื้อนะ ฉันแต่น้ำได้ ปรากฏว่าฉันลงไปแล้วเมื่อคืนปวดหลังเอวแทบขาด คาดว่าเป็นน้ำซุปโปรตีนเข้มข้น ร่างกายเหลือเกินความต้องการ ก็พยายามที่จะขับออก ทำให้ไตต้องทำงานหนักเกินไป น่าจะอยู่ประมาณว่าเกือบจะไตวาย ปวดหลังจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก"

เถรี 11-03-2021 15:33

พระอาจารย์เตือนว่า "จะถ่ายรูปจะอะไรดูความเหมาะสมด้วย มีโยมชุดหนึ่งกำลังถวายสังฆทานแล้วกราบอยู่ โยมที่อยากได้รูปอาตมาหน้าตรงก็ถ่ายรูปไป ก็ได้สามตูดเรียงกันอยู่ข้างหน้า..!

ญาติโยมหลายคนก็สักแต่ว่ามีกล้องแล้วถ่ายไปเรื่อย ไม่ได้ดูความเหมาะสมอะไรทั้งสิ้น วันก่อนโยมเขาส่งรูปมา บอกว่าเอามาจากในเฟซบุ๊ก ลูกศิษย์ภาคภูมิใจในตัวพระอาจารย์มากที่ลงไปนั่งถ่างขาเล่นกับเด็ก ในความรู้สึกของลูกศิษย์ก็คือ "ครูบาอาจารย์เป็นผู้ที่มีความเมตตามาก น่ารักสุด ๆ แม้แต่กับเด็กเล็ก ๆ เพิ่งจะขวบ สองขวบก็ไปนั่งเล่นด้วย" แต่สายตาของคนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ "พระอะไรวะ ? ไม่มีความสำรวมเลย ทำไมไปนั่งถ่างขาเล่นกับเด็ก..!"

เพราะฉะนั้น..ถ้าลงรูปอะไรที่เป็นของครูบาอาจารย์ ให้ดูความเหมาะสมด้วย ไม่ใช่เรารู้สึกว่าดี เราก็ลง ต้องดูด้วยว่าถ้าในมุมมองของคนอื่น เขาจะตำหนิครูบาอาจารย์ของเราได้ไหม ? แบบเดียวกับที่พระท่านพิจารณากันว่า ตัวเราติตัวเราเองโดยศีลได้หรือไม่ ? ผู้รู้ติเราโดยศีลได้หรือไม่ ? ก็แปลว่าทั้งตัวเราและผู้อื่นจะต้องเห็นดีเห็นงามด้วยกันทั้งหมด ถึงจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมและกระทำได้ ไม่ใช่ดีของเราฝ่ายเดียว ลงรูปไปให้คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ครูบาอาจารย์จนเกิดเป็นโทษกับเขาไปอีก"

เถรี 11-03-2021 15:34

"อาตมาเคยเขียนติดหน้าสมุดบันทึกไว้ในสมัยพรรษาแรก ๆ ว่า ขอตัวเราเองอย่าเป็นทุกข์โทษเวรภัยแก่บุคคลอื่น ไม่ว่าจะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจเลย ไม่อย่างนั้นแล้วสิ่งที่ท่านทั้งหลายทำ ก็จะกลายเป็นการวางใส่กบาลคนอื่น พูดง่าย ๆ ก็คือกูวางแล้ว แต่ไม่สนใจว่าวางใส่หัวใครหรือเปล่า..!

อาตมาเคยย้ำเสมอว่า รูปของครูบาอาจารย์ควรจะเป็นรูปที่ดูดีที่สุด ไม่ใช่อิริยาบถไหนก็ได้ที่เราชอบใจ แต่ก็มักจะมีอยู่เสมอ ประมาณว่ากูมีรูปที่คนอื่นไม่มี ว่าแล้วก็ลงรูปไป แล้วก็ทำให้คนเขาตำหนิครูบาอาจารย์ของเราได้ กลายเป็นสร้างทุกข์สร้างโทษให้กับบุคคลอื่น แสดงว่าสภาพจิตยังหยาบมาก จึงไม่สามารถที่จะมองเห็นโทษในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้"

เถรี 11-03-2021 15:37

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาเองอ่านหนังสือเฉพาะของโรงเรียนหมดไปสามห้องสมุด แล้วหนังสือที่ตัวเองอ่านก็มอบให้โรงเรียนพระสุธรรมยานเถรวิทยาไปหนึ่งห้องสมุด ตอนนี้หนังสือที่อ่านระยะหลังก็มอบให้ห้องสมุด ๖๐ พรรษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชที่วัดท่าขนุนอีกหนึ่งห้องสมุด ทุกวันนี้จะอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละหนึ่งเล่ม พยายามที่จะบีบค่าหนังสือเอาไว้ที่เดือนละสามพันบาท ตอนนี้เอาไม่อยู่ มักจะทะลุไปเดือนละสี่พันกว่าบาท

หลวงพ่อพระครูนิโครธโยคาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไทรโยค เจ้าอาวาสวัดน้ำตก จังหวัดกาญจนบุรี ท่านบอกว่า "พระเถระในระดับนี้ที่ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ ผมเห็นมีแต่พระอาจารย์เล็กอยู่คนเดียว" อาตมาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะว่าตนเองชอบอ่านหนังสือ

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าหนังสือแต่ละเล่ม กว่าคนจะเขียนขึ้นมาได้ ก็ต้องใช้ประสบการณ์ทั้งชีวิตของเขา แล้วเราเองอ่านแค่ชั่วโมงหนึ่ง วันหนึ่ง ก็รู้เท่ากับคนเขียนแล้ว เป็นประสบการณ์ที่เรียนลัดได้ดีที่สุด ก็ยังสงสัยว่าทำไมคนอื่นถึงไม่นิยมอ่านกัน

ประสบการณ์พวกนี้เราไม่สามารถที่จะหาได้ด้วยตนเอง หรือว่าถึงหาได้ด้วยตนเอง ก็ต้องผ่านความเจ็บปวดมาในระดับหนึ่ง ในเมื่อได้มาง่าย ๆ สะดวก ๆ กลับไม่มีใครอยากอ่านหนังสือกัน เพราะฉะนั้น..ที่บอกว่าคนไทยเราอ่านหนังสือเฉลี่ยคนละแปดบรรทัด ขอให้รู้ว่าแปดบรรทัดที่ว่านี้เป็นของอาตมาไปครึ่งหนึ่ง..!"

เถรี 11-03-2021 17:38

พระอาจารย์กล่าวเตือนว่า "ยังคงต้องระมัดระวังเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ไว้นะ บ้านเราฉีดวัคซีนไปแล้ว ๒๕,๐๐๐ ราย แพ้วัคซีน ๘๒๘ ราย บางรายแพ้หนักเลย เพราะว่าวัคซีนก็คือการรับเชื้อโรคเข้าไป เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา แต่ว่าวัคซีนชุดนี้ทำขึ้นมาด้วยระยะเวลาที่จำกัด ไม่ได้ผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่ามามากเพียงพอเหมือนกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ เพราะฉะนั้น...โอกาสที่บางคนรับวัคซีนไปแล้วจะเจ็บไข้ได้ป่วย หรือแพ้ หรือกระทั่งถึงตายก็ย่อมมีอยู่ แต่ก็ยังดีกว่าที่จะไม่มีอะไรเอาไว้สู้กับเชื้อโรคเลย"

เถรี 11-03-2021 17:51

ถาม : หลวงพ่อคะ ขออนุญาตฟ้อง เมื่อวาน "นะโม" ดูแท็บเล็ตทั้งวันเลย แล้วก็ไม่ยอมเรียนออนไลน์ หนูก็เลยลงโทษว่าจะไม่ให้เรียนหนังสือแล้ว เขาก็เลยว่าจะมาให้สัจจะกับหลวงพ่อ เพื่อขอโอกาสในการเรียนต่อไปค่ะ ?
ตอบ : คราวนี้ผิดอีกไม่ได้นะ ถ้าผิดแล้วเสียเยอะเลยนะ จะกล้ารับปากหลวงตาหรือ ?

ถาม : กล้า..!
ตอบ : ดีมาก ถ้าอย่างนั้นจะให้อภัยสักครั้งหนึ่ง แล้วทำไมดูทั้งวันละลูก มีอะไรสนุกหรือ ?

ถาม : เขาจดโพยกันมาแล้วว่าจะต้องทำอะไรบ้างค่ะ ?
ตอบ : ขอดูหน่อย

ถาม : ให้หนูอ่านให้ฟังเลยหรือ ?
ตอบ : ไม่ต้องหรอก หลวงตาอ่านเอง ดูเตรียมสอบเข้า ม. ๑ ทุกวัน จะไม่ดูแท็บเล็ตทุกวัน ยกเว้นเรียนออนไลน์ จะเล่นแท็บเล็ตวันละชั่วโมงครึ่ง จะตั้งใจเรียน จะสวดพระคาถาเงินล้านทุกวันและทุกครั้งที่นึกได้ โอเค...มา (พระอาจารย์เคาะหัวให้)

ถาม : กราบขอบพระคุณในความเมตตาค่ะ ?
ตอบ : ไป...รีบไปลุยไว ๆ เดี๋ยวเข้า ม. ๑ ไม่ได้ ขายหน้าเขา แล้วแท็บเล็ตอย่าดูดึกนักนะ สองทุ่มต้องนอนแล้วนะ ไม่อย่างนั้นถ้าหุ่นอ้วน ๆ เตี้ย ๆ แล้วจะโทษใครไม่ได้นะ..!

เถรี 11-03-2021 18:03

พระอาจารย์กล่าวว่า "อีลอน มัสก์ ตอนนี้เจ๊งบิตคอยน์ ไป ๓๐ % น้ำมันราคาพุ่ง ทองคำกระเตื้องขึ้น กระเตื้องขึ้นแปลว่าเราต้องซื้อแพงสิ ตอนนี้ทองคำแท่งราคาบาทละ ๒๔,๖๕๐ บาท แสดงว่าขึ้นไป ๒๕๐ บาทจากที่อาตมาซื้อครั้งล่าสุด ถ้าหากว่าใครถือนานก็พลาด เล่นพวกนี้ต้องเฝ้าหน้าจอ มัวแต่ไปโลภมาก รอจะเอามาก ๆ กำไรบาทละ ๕๐ บาทละ ๑๐๐ ก็พอแล้ว อย่างที่อาตมาซื้อไว้หล่อพระ ๒,๐๐๐ บาทคือ ๓๐ กิโลกรัม ถ้าหากว่ากำไรบาทละ ๑๐๐ ก็ได้ ๒๐๐,๐๐๐ บาท แล้วทำงานกี่เดือนกว่าจะได้ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ถ้ามีก็รีบ ๆ ขายทิ้งไปไม่ใช่ถือไว้จนราคาตก..!

เรื่องทำมาหากินแบบนี้ไม่ต้องให้พระไปแนะนำ ถ้าหากว่าโง่อย่างหนึ่ง หรือโลภมากอย่างหนึ่ง ก็จะเจ็บตัวเองโดยอัตโนมัติ ที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ติดดอย ใช่ไหม ? ซื้อแพงขายถูกไม่ได้ ไม่ยอมตัดใจ ตัดขาดทุนไม่เป็น"


เถรี 11-03-2021 18:14

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อเดือนที่แล้วอาตมาไปเยี่ยมครูบาหน่อแก้วฟ้าที่ลานธรรมอรหันตา อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เพราะว่าท่านได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า เดินไม่ได้อยู่เป็นเดือน ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงหัดเดินระยะสั้น ๆ ด้วยวอล์คเกอร์

สาเหตุก็คือท่านลงจากรถตู้แล้วหัวเข่าลั่น เกิดอาการเจ็บอยู่สองวัน ไปหาหมอหลังจากที่งานหมดแล้ว ปรากฏว่าหมอไปจับบิดก่อนเพื่อทดสอบ เสร็จแล้วค่อยส่งไปเอ็กซเรย์ ปรากฏว่าเอ็นหัวเข่าฉีก หมอถามว่า "ไปทำอะไรมาหนักขนาดนี้ ?" ครูบาท่านบอกว่า "ไม่กล้าบอกว่าโดนหมอบิด เพราะว่าหมอเพิ่งจะจับบิดไปเลยเป็นหนักอย่างนี้..!"

เถรี 12-03-2021 21:01

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตุนน้ำกินน้ำใช้ไว้บ้างนะ ค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปโหมทำทีเดียว อย่างเช่นว่าซื้อน้ำไว้สักอาทิตย์ละห่อ ทยอยเก็บ ๒ - ๓ เดือนก็มีมากจนพออาบแล้ว น้ำอาบก็ใส่ถัง ถังพลาสติก ๕๐ ลิตร ๑๐๐ ลิตร ตุนเอาไว้สัก ๒ - ๓ ถัง ถึงเวลาขาดน้ำจะได้มีใช้ เพราะว่าตอนนี้น้ำจืดหายาก

ในเมื่อน้ำจืดไม่มีลงไปดัน น้ำทะเลก็หนุนสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ ถึงเวลาเขาดูดไปทำน้ำประปาก็ออกรสเค็ม ดื่มไม่ได้ ใช้ไม่สะดวก มีใครเคยใช้น้ำฟอกสบู่
แล้วไม่รู้สึกว่าลื่นบ้าง ? อาตมามีประสบการณ์นั้นมาแล้ว ฟอกไปนี่สบู่ละลายเฉย ๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความลื่นของสบู่ติดตัวเลย เพราะว่าเป็นน้ำกร่อยจัดจนออกไปทางเค็ม

พวกโยมยังโชคดีไม่มีประสบการณ์โหดเหมือนกับอาตมา ที่ตื่นขึ้นมากรองน้ำตอนตีสอง ได้น้ำพอหุงข้าวตอนตีห้า..! ยุคสมัยนั้นอะไร ๆ ก็ยากไปหมด ถ้าจะซักผ้าโน่น...ต้องเปิดน้ำให้หยดติ๋งไปเรื่อย ๆ ทั้งวัน กว่าจะได้พอซักผ้าก็สี่ทุ่มห้าทุ่ม ข้าวสารก็ต้องปันส่วน ก็คือจะมีบัตรว่าแต่ละบ้านให้ซื้อข้าวได้กี่กิโลกรัม แล้วก็เป็นข้าวที่ปนข้าวเหนียว ๓๐ % อีกด้วย"

เถรี 12-03-2021 21:03

"โทรศัพท์ก็ต้องไปวางมัดจำสามพันบาท แล้วรอไปอีกอย่างน้อยสามชาติกว่าจะได้..! ถ้าอดีตนายกฯ ทักษิณไม่เอาโทรศัพท์มือถือเข้ามา จนป่านนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะมีโทรศัพท์ใช้กันฟุ่มเฟือยอย่างทุกวันนี้หรือเปล่า เพราะว่าบ้านของอาตมาขอโทรศัพท์เอาไว้เป็นสิบปี เงินมัดจำสามพันบาทน่าจะดอกเบี้ยท่วมต้นไปตั้งนานแล้ว จนกระทั่งทางองค์การโทรศัพท์ออกหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานหนึ่งล้านหมายเลขออกมา ถึงจะได้โทรศัพท์ ได้มาไม่กี่วันอดีตนายกฯ ทักษิณนำโทรศัพท์มือถือเข้ามา โทรศัพท์พื้นฐานก็เลยตายสนิทหมดทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะได้มา..!

ถ้าหากว่าใครผ่านยุคสมัยที่ลำบากอย่างอาตมา ก็จะไม่รู้สึกลำบากในยุคนี้ มีน้ำน้อยเราก็ใช้น้อย มีอาหารน้อยเราก็กินน้อย ทำงานให้หนักเข้าไว้ เดี๋ยวก็มีเงินเหลือเก็บเอง แต่ยุคนี้สมัยนี้เราไม่เคยผ่านความลำบาก ถึงเวลาลำบากขึ้นมาก็เลยทนกันไม่ค่อยได้"

เถรี 12-03-2021 21:38

พระอาจารย์กล่าวว่า "บางทีการที่อาตมาต้องทำอะไรบางอย่างไม่เหมือนกับชาวบ้านเขา แม้กระทั่งเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วยก็ยังโดนจัดสรรมา เนื่องจากว่าช่วงนี้เชื้อไวรัสโควิด-๑๙ อาละวาด งานโดนยกเลิกไปเป็นจำนวนมาก จึงมีเวลาป่วย เวลาอื่นมีงานเยอะเขายังไม่ยอมให้ป่วย ช่วงนี้พองานหายไปมากก็เลยมีเวลาป่วย แล้วก็ป่วยนานเสียด้วย ไม่ใช่ป่วยแต่คนนะ แม้แต่รถก็ป่วยพร้อมกัน คนก็ล้มหมอนนอนเสื่อไปสองรอบ รถก็ต้องเข้าอู่ไปสองรอบ

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของธรรมะจัดสรร งานเบาลงไม่ต้องไปไหนไกล เขาก็ให้นอนยาวไปเลย ไม่เช่นนั้นถ้าหากว่ามีงานอยู่นี่ห้ามป่วย ต้องทำไปเรื่อย ๆ ก่อน"

เถรี 12-03-2021 21:40

ถาม : เวลาทำกรรมฐาน การกำหนดภาพตัวอักษรขึ้นมา กับการวิ่งตามตัวอักษร ต่างกันไหมคะ ?
ตอบ : กำหนดภาพตัวอักษรขึ้นมาเป็นภาพกสิณ ถ้าวิ่งตามอักษรจะเป็นมโนมยิทธิ

ถาม : เป็นมโนมยิทธิอย่างไรนะคะ ?
ตอบ : วิ่งตามคือการเคลื่อนจิต การเคลื่อนจิตไปตามตัวอักษรก็เหมือนกับการเคลื่อนจิตไปตามภพภูมิต่าง ๆ เป็นการใช้มโนมยิทธิเหมือนกัน เพียงแต่เป็นการใช้มโนมยิทธิวิ่งตามตัวหนังสือเท่านั้นเอง ง่ายกว่าไปสวรรค์เสียอีก

ถาม : การกำหนดภาพใช้สมาธิมากกว่าในการที่จะให้อักษรวิ่ง ?
ตอบ : ทำวิธีไหนก็ได้ให้ใจสะอาด ไม่มี รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ฟุ้งซ่านไปอารมณ์อื่น ก็ใช่ทั้งนั้นแหละ..ทำไปเถอะ

เถรี 12-03-2021 21:42

เรื่องของการปฏิบัติธรรม ต้องมีเทคนิคเฉพาะตัวของแต่ละคน ในการที่จะทำให้จิตใจของเราไม่เบื่อหน่ายกับสิ่งที่เราทำซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยู่ทุกวัน ก็ต้องมีวิธีการต่าง ๆ ที่จะเอามาใช้ในลักษณะของกีฬาสมาธิ ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องไปแตกแขนงกันเอาเอง

อาตมาซนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ครูบาอาจารย์บอกอะไร ไม่เคยทำตามนั้นตรง ๆ แต่จะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาหกคะเมนตีลังกาไปเรื่อยตามกำลังความบ้าของตัวเอง พอนานไปก็จะเป็นเทคนิคหรือการปฏิบัติอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งก็อยู่ในกรรมฐาน ๔๐ หรือมหาสติปัฏฐานนั่นแหละ เพียงแต่ว่าถ้าคนไม่คุ้นเคยเขาก็ว่า "ไปเอามาจากไหนวะ..!?"

เถรี 12-03-2021 21:43

พระอาจารย์กล่าวเตือนว่า "อย่าถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย ให้ดูอิริยาบถที่น่าถ่ายกว่านั้นหน่อย ไม่ใช่ว่าอาตมากำลังก้มหน้าก้มตาส่งไลน์อยู่ก็ถ่าย ถึงเวลาก็ไปโพสต์ด้วยความภูมิใจ ให้คนเขาบอกว่า "หลวงพ่อเล่นไลน์" ส่วนอาตมาก็ "น้ำตาจิไหล" งานโคตรเยอะแต่โดนข้อหาเล่นไลน์..!

เดี๋ยวนี้พวกกลุ่มงานต่าง ๆ จะส่งงานเข้ามาทางไลน์ บางทีเอกสารยังเข้ามาไม่ถึง แต่เป็นงานที่ต้องเตรียมการ เขาก็จะส่งไลน์มาล่วงหน้า แล้วระยะนี้เป็นระยะที่นิสิตเขาสอบกัน ก็จะส่งข้อสอบที่ทำแล้วเข้ามาให้ตรวจในกลุ่มไลน์ เพราะว่าเป็นการสอบนอกตาราง"

เถรี 12-03-2021 21:44

พระอาจารย์กล่าวว่า "จำไว้นะว่า "วันยันค่ำ" แปลว่ากลางวันจรดกลางคืน ไม่ใช่ "วันยังค่ำ" วันยังค่ำนั่นแปลว่าทั้งวันยังมืดอยู่"

เถรี 12-03-2021 21:45

ถาม : คำว่า "ค้าเจริญ" ถ้าจะเปลี่ยนเป็น ระหว่าง "พาณิชย์ไพบูลย์" กับ "ไพบูลย์พาณิชย์" คำไหนน่าจะตรงกว่ากันครับ ?

ตอบ : ไพบูลย์พาณิชย์ แปลว่า ค้าขายแล้วรุ่งเรือง พาณิชย์ไพบูลย์ แปลว่า รุ่งเรืองด้วยการค้าขาย ไปเลือกเอาเองว่าจะเอาแบบไหน ? บาลีเขาแปลจากข้างหลังมาข้างหน้า

เถรี 12-03-2021 21:46

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนในบัญชีเซ็นส่งข้อสอบ มีชื่อเด็กนักเรียนคนหนึ่งชื่อ เด็กหญิงชมาพร อาตมาเห็นแล้วก็ขำ ๆ อย่างนั้นต้องบอกว่า ดีเหมือนแมว ชมาก็คือแมว พรก็คือความดี ความงาม ความประเสริฐ เพราะฉะนั้น..ดีเหมือนแมวนี่ต้องห้ามดื้อห้ามซน วัน ๆ เอาแต่กินแล้วนอน"

เถรี 12-03-2021 21:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "กำลังใจคนไปมุ่งอยู่กับการถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก ถ้ามุ่งมั่นต่อกรรมฐานขนาดนี้ก็น่าจะบรรลุกันไปเยอะแล้ว..!"

เถรี 12-03-2021 21:48

พระอาจารย์แนะนำว่า "พยายามทำอะไรให้รวดเร็ว ว่องไว รวบรัดให้มากที่สุด เพราะว่าการสร้างบุญสร้างบารมีของเรา ยิ่งทำต้องยิ่งมีความคล่องตัวมากขึ้น มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ขึ้น ทำอะไรก็เร็วขึ้น แต่เป็นความเร็วที่ไม่ผิดพลาด"

เถรี 14-03-2021 07:26

ถาม : กัญชาที่ใช้ในการทำอาหาร ถ้ากินเข้าไปถือว่าผิดศีลไหมคะ ?
ตอบ : อย่าให้มากเกินไป อะไรก็ตามถ้าหากว่าเกินพอดีก็มีโทษทั้งนั้น ต้องดูเจตนาเขา ถ้าหากว่าทำเป็นอาหาร กินเป็นอาหาร ไม่มีเจตนา แต่กินมากไปแล้วเมา ก็ถือว่าโทษไม่มี เพราะว่าเจตนาดั้งเดิมไม่มี แต่ถ้าตั้งใจจะกินให้เมา แล้วตั้งหน้าตั้งตากิน นั่นถึงจะมีโทษแน่

ถาม : แล้วถ้าเขาบอกว่าทำให้อารมณ์ดี หัวเราะอะไรแบบนี้ ก็เลยไปกินละคะ ?
ตอบ : ไม่มีเจตนาให้เมาไม่เป็นอะไร จะว่าไปแล้วกัญชามีประโยชน์ แต่ทุกอย่างจะมีโทษถ้าเกินหรือขาด เพราะฉะนั้น..เรื่องมัชฌิมาปฏิปทาของพระพุทธเจ้าใช้ได้กับทุกเรื่อง

เถรี 14-03-2021 07:27

กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ ไม่สามารถรักษาทุกโรคได้ โบราณเขาบอกชัดเจนว่าลางเนื้อชอบลางยา คือคนบางคนเหมาะกับยาบางอย่าง เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยอาการเดียวกัน โรคเดียวกัน ยังใช้ยาไม่เหมือนกัน เพราะว่าแต่ละคนน้ำหนักตัวต่างกัน ธาตุต่างกัน จะไปเห็นกัญชาเป็นยาวิเศษ ถึงเวลาเป็นอะไรจะกินแต่กัญชาอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้เจริญ..! เพราะว่าถ้ากินมากเกินไปจะเป็นโรคประสาทหลอน แต่กัญชาดีอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าเมาจริง ๆ จะเมาแบบไม่รับรู้โลก นอนอย่างเดียว ไม่อาละวาดตีรันฟันแทงกับใคร

ความจริงแล้วการปลดล็อกกัญชาเป็นเรื่องดี แต่ควรที่จะมีต่อท้ายไว้ด้วยว่า ถ้าไปใช้ในการเสพ ก็ถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ถ้าใช้ในทางการแพทย์ ใช้ทำเป็นอาหาร ต้องมีการระบุปริมาณให้ชัดเจน แต่คราวนี้ของเขาตั้งใจจะปลดล็อกอย่างเดียว เพื่อให้ตัวเองขายได้ เพราะว่าลงทุนปลูกไว้หลายพันไร่ เรื่องนี้คนเขารู้กันทั้งประเทศ

เถรี 14-03-2021 07:29

ตอนนี้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ ๑๕,๐๐๐ บาท ปลูกผักบุ้งขายเมื่อไรจะได้ราคาขนาดนั้น..! เดี๋ยวก็ได้ไปปลูกกัญชากันทั้งประเทศ แล้วก็ดันไปบอกว่า บังคับให้ปลูกได้แค่บ้านละ ๖ ต้น คงจะมีคนเชื่อคุณหรอก คนพูดแสดงว่าไม่เคยปลูกกัญชา เมล็ดของต้นเดียวร่วงลงไป ก็ขึ้นเป็นร้อยแล้ว ไปยืนยันว่าไม่ได้ปลูก เมล็ดหล่นแล้วขึ้นเอง ที่ผมปลูกจริง ๆ ก็แค่ ๖ ต้น ที่รดน้ำพรวนดินอยู่นี่ ส่วนอีกหลายไร่นั้นเกิดจากเมล็ดหล่นแล้วขึ้นเอง..!

กัญชาเป็นพืชที่ขึ้นง่ายที่สุด ขอให้เมล็ดตกถึงดินก็ขึ้นแล้ว ต้องบอกว่าเป็นพืชมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง แต่บ้านเราพัฒนาอะไรไม่ถึงที่สุด เคยมีคนเอาใยกัญชงมาทอเสื้ออยู่พักหนึ่ง เสร็จแล้วก็เลิกล้มไปเฉย ๆ ลักษณะทำอะไรฉาบฉวยแค่ตามกระแสเท่านั้น

เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่าเรื่องของการเสพสุรายาเสพติดมีทั้งโลก ปัจจุบันนี้อย่างบ้านเราก็พยายามเรียกร้องให้ ศบค.ขยายเวลาในการนั่งดื่มให้ถึงตีหนึ่งตีสอง อยากเมามากก็กลับไปกินที่บ้านสิวะ..! ไปนั่งล่อเป้าให้โควิดมาตะครุบทำไม..?

เถรี 14-03-2021 07:32

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อเดือนก่อนพระที่วัดรับอาสาจะติดตามอุปัฏฐากรับใช้อาตมา เนื่องจากว่าญาติโยมส่วนหนึ่งทักท้วงว่า "เป็นพระเถระระดับนี้แล้ว ทำไมไม่มีพระอนุจรคอยติดตามรับใช้ ? ทำไมถึงมารูปเดียว ?" อาตมาบอกว่า "รำคาญที่ท่านทำอะไรไม่ทันใจ บางทีอาตมาไปครึ่งทางแล้ว พระอนุจรยังไม่ได้ขยับตัวเลย ไม่รู้จะมีไปทำไม..?" ท้ายสุดพระท่านก็บ่นน้อยใจว่า "จะอุปัฏฐากครูบาอาจารย์ตามพระธรรมวินัย แล้วก็ไม่ได้รับอนุญาต"

อาตมาก็เลยบอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณไปทำความประพฤติกันใหม่ ถ้าสามารถตื่นมาทำวัตรเช้าได้ทันผม เดี๋ยวจะพิจารณาให้" เพราะว่าจะมีส่วนหนึ่งที่ท่านมาช้า จนกระทั่งเสียงตามสายใกล้จบค่อยมา หรือบางทีทำวัตรไปครึ่งหนึ่งแล้วค่อยมา เพราะว่ากำลังใจไม่ได้จดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับงาน ถ้าลักษณะอย่างนี้แล้วอาตมาให้ติดตามไปอุปัฏฐากรับใช้ อาตมาก็คงต้องกลายเป็นคนอุปัฏฐากรับใช้ท่านแทน..!"

เถรี 14-03-2021 07:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาทำงานให้คิดว่า วันนี้วันเดียวเอง ถึงเวลาเดี๋ยวก็ได้พักแล้ว พอนอนลงไปก็ ถ้าไม่ตื่นขึ้นมาก็ไปพระนิพพานเลยนะ ตั้งเป้าเอาไว้แบบนี้ อย่าเผลอ อย่าลืม ทำใจให้มั่นคงทุกวัน ลืมตาตื่นขึ้นมาก็ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว เราจะไปพระนิพพาน เราทำหน้าที่การงานของเราให้เต็มที่ ถ้าตายวันนี้ก็ไปพระนิพพานวันนี้แหละ แล้วก็ทำงานไป

ถ้าตั้งเป้ามั่นคงแบบนี้ทั้งหลับและตื่น เอาไม่ต้องมาก วันหนึ่งแค่ ๓ นาที ๕ นาทีก็พอ มั่นใจได้ว่าตายเมื่อไร ได้ไปพระนิพพานแน่นอน"


เถรี 16-03-2021 06:56

ถาม : มีดหมอเริ่มเป็นสีดำหรือคล้ำลง ต้องเช็ดหรือทำความสะอาดอย่างไรครับ ?
ตอบ : ต้องถามว่ารุ่นไหน ?

ถาม : ถ้าเป็นมีดลูกพราหมณ์ล่ะครับ ?
ตอบ : มีดลูกพราหมณ์นี่กระดาษทรายน้ำขัดยังไหวเลย หรือไม่ก็แปรงทองเหลืองหน้าเล็ก ๆ สักหนึ่งนิ้ว แต่ถ้าหากว่าเป็นอย่างอื่น อย่างเช่นว่ามีดหมอเพชราวุธ ก็ลงน้ำยาบราสโซ

ถาม : ถ้ามีดหลวงพ่อรุ่งล่ะครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่อาตมาใช้หินเจียรขัดเลย แต่ต้องขัดเป็นนะ..ไม่อย่างนั้นจะกินเนื้อหมด

ถาม : แล้วน้ำมันละครับ ถ้าใช้น้ำมันชะโลม ควรใช้น้ำมันแบบไหน น้ำมันจักร ?
ตอบ : ปกติแล้วมีดหมออย่าไปใช้น้ำมัน ใช้เมื่อไรสนิมกินเมื่อนั้น เช็ดสะอาดให้แห้ง แล้วหมั่นเช็ดบ่อย ๆ ก็แล้วกัน เล่นมีดเล่นปืนต้องขยันเช็ด ไม่เช็ดทุกวันก็สนิมกิน ขนาดสเตนเลสสนิมยังกินเลย

ถ้าหากว่าขัดมีดให้ใช้กระดาษทรายน้ำ เบอร์ ๓๖๐ ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ เบอร์ ๒๔๐ ก็ได้ แต่ให้เป็นกระดาษทรายน้ำ ขัดแห้ง ๆ อย่างนั้นเลย แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดออก

เถรี 16-03-2021 06:57

ถาม : มาขอขมาพระอาจารย์ ที่เคยพูดถึงพระอาจารย์ในทางที่ไม่ดี และที่คิดไม่ดีค่ะ ?

ตอบ : ไม่เป็นอะไรหรอก อาตมาไม่เคยเก็บมาคิด เสียเวลาไปฟังเสียงนกเสียงกา..!

เถรี 16-03-2021 06:58

พระอาจารย์ประกาศว่า "ถึงแม้ว่าไม่ได้มารับสังฆทานแต่ก็ยังปล่อยชีวิตสัตว์เป็นปกติ ขออนุญาตแจ้งยอดการปล่อยสัตว์ตั้งแต่เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม เพราะว่าไม่ได้อยู่มาสองเดือน

เดือนมกราคม ปล่อยปลาช่อน ๒๐ กิโลกรัม ปลาดุก ๑๐๐ กิโลกรัม ปลาหมอ ๑๗ กิโลกรัม ๖ ขีด นก ๕๒ ตัว วัว ๒ ตัว ควาย ๑ ตัว รวมทั้งหมด ๖๖,๐๔๐ บาท

เดือนกุมภาพันธ์ ปล่อยปลาไหล ๑ กิโลกรัม ๓ ขีด ปลาช่อน ๒๐ กิโลกรัม ปลาดุก ๙๐ กิโลกรัม ปลาหมอ ๒๐ กิโลกรัม หอยขม ๗ กิโลกรัม ๕ ขีด นก ๕๐ ตัว วัว ๑ ตัว ควาย ๑ ตัว รวมทั้งหมด ๕๑,๖๒๘ บาท

เดือนมีนาคม คือเดือนนี้และวันนี้ ปล่อยปลาช่อน ๒๕ กิโลกรัม ปลาดุก ๘๕ กิโลกรัม ปลาหมอ ๒๕ กิโลกรัมหอยขม ๒๕ กิโลกรัม นก ๘๕ ตัว วัว ๑ ตัว ควาย ๑ ตัว รวมทั้งหมด ๕๓,๔๐๐ บาท เป็นอันว่าสามเดือนใช้เงินไปเพื่อปล่อยชีวิตสัตว์แสนหกหมื่นกว่าบาท

ส่วนใหญ่พวกเราทำอะไรแล้วทำไม่ทน ทำไม่นาน เพราะว่ามักจะฟังสิ่งที่ครูบาอาจารย์บอกเป็นคำสอน ส่วนอาตมาฟังสิ่งที่ครูบาอาจารย์บอกเป็นคำสั่ง ในเมื่อท่านสั่งก็ต้องทำ หลวงพ่อวัดท่าซุงสั่งเมื่อปลายเดือนธันวาคม ๒๕๒๘ ให้อาตมาไปปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่า อย่างน้อยเดือนละตัวสองตัว เพราะว่าอาตมาเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาเอาไว้มาก เศษกรรมปาณาติบาตจะทำให้ป่วยหนัก ป่วยบ่อย"


เถรี 16-03-2021 07:00

"อาตมาก็ถือฤกษ์วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๙ เริ่มปล่อยชีวิตสัตว์ และปล่อยมาทุกเดือน แต่คราวนี้พอไปตลาดแล้วจะปล่อยตัวสองตัวก็ไม่ได้ เพราะว่าบางทีปลาก็ตาปริบ ๆ ทั้งกะละมัง ก็ใช้วิธีเหมาหมดตลาด ถ้าถามว่าอาตมาปล่อยไปแค่ไหน ? ปล่อยอยู่ ๗ ปี กลายเป็นวังมัจฉาหน้าวัดท่าซุงนั่นแหละ พูดด้วยความภูมิใจว่า วังมัจฉาหน้าวัดท่าซุงเกิดจากการปล่อยปลาของอาตมาคนเดียว นั่นแค่ ๗ ปีเท่านั้น

จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ ไม่เคยเว้นแม้แต่เดือนเดียว แล้วระยะหลัง ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมา มีการปล่อยวัวปล่อยควายเพิ่มขึ้น เพราะเห็นว่าควายน้อยลงไปเรื่อย ๆ สมัยอาตมาเด็ก ๆ บ้านนอกต่างจังหวัดเลี้ยงควายกันทุกบ้าน ถึงเวลาจะบวชลูกก็ขายควาย จะแต่งลูกก็ขายควาย สมัยนี้แทบจะหาควายไม่ได้ ก็เลยตั้งใจว่าจะปล่อยควายให้ได้ทุกเดือน แต่ถ้าควายมีน้อย..หาไม่ได้ ก็จะปล่อยวัวแทน มาระยะหลังที่พบส่วนใหญ่เป็นควายจากพม่า ควายบ้านเราเริ่มหายากแล้ว

ดังนั้น...ถ้าหากว่าญาติโยมฟังคำครูบาอาจารย์เป็นคำสั่งก็จะทำตามโดยไม่มีข้อแม้ แต่ถ้าฟังเป็นคำสอนก็ปล่อยผ่านหูไปเรื่อยเปื่อย ครูบาอาจารย์มรณภาพไปหลายรูปแล้ว เราก็ยังอยู่แค่นี้ ความต่างมีอยู่แค่นี้เอง ก็คือสิ่งที่ครูบาอาจารย์สอน อาตมาฟังเป็นว่าท่านสั่งให้ทำ เมื่อท่านสั่งก็ต้องทำ ส่วนโยมฟังเป็นคำสอน ก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปเรื่อย ปีแล้วปีเล่า ไม่ได้อะไรสักที"

เถรี 16-03-2021 07:01

พระอาจารย์เอารูปสิงโตกับช้างให้ดู "ดูที่งวงช้างสิ จะเดินทางข้ามทะเลทรายแล้วลูกสิงโตไปไม่ไหว แม่ช้างก็เลยช่วยอุ้มลูกสิงโตไป แม่สิงโตก็เดินตาม ลักษณะอย่างนี้ติดหนี้กันไปหลายชาติเลย ดังนั้น..ให้พยายามช่วยคนอื่น อย่าให้คนอื่นมาช่วยเราเลย เสียเวลาไปใช้หนี้เขา"

เถรี 16-03-2021 07:10

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนพอเหนื่อยมาก ๆ แล้วนึกไม่ออกว่าเจ้าชายสิทธัตถะประสูติใต้ต้นไม้อะไร ลืมไปว่าเป็นต้นสาละ ประสูติใต้ต้นสาละ ตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ ปรินิพพานใต้ต้นสาละ แต่คราวนี้เป็นสาละอินเดียไม่ใช่สาละลังกา ไม่ใช่ต้นแคนนอนบอล คนที่ไม่เคยเห็นสาละอินเดียจะไม่รู้ว่าสวยและดอกหอมขนาดไหน คล้าย ๆ กับจำปาดอกใหญ่"

เถรี 16-03-2021 07:19

พระอาจารย์อธิบายให้โยมสองท่านฟังว่า "อาตมามาสอนกรรมฐานและรับสังฆทานที่นี่ด้วยเหตุที่ว่าวัดอยู่ไกล จากท่าขนุนมาถึงนี่ก็ประมาณ ๓๐๐ กิโลเมตร ถ้าให้ญาติโยมไปจะเสียเวลามาก สิ้นเปลืองมาก ก็เลยหาสถานที่แล้วลงมาหาโยมแทน นัดโยมเขาแต่ละเดือนว่ามาวันไหน ถึงเวลาโยมจะได้มากันใกล้ ๆ เป็นอันว่าพระลำบากอยู่คนเดียว แต่โยมหลายร้อยหลายพันคนไม่ลำบาก

ทำแบบนี้มาตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ เหลืออีก ๒ ปีก็จะครบ ๓๐ ปี สำหรับท่านที่อยู่ต่างประเทศตอนช่วง ๑๘.๓๐ น. เราจะมีสอนกรรมฐานถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์วัดท่าขนุน จะรับได้ทั่วโลก ซึ่งพยายามจะปรับปรุงให้เสียงดีที่สุด เพื่อที่จะได้เหมือนกับอยู่ใกล้ และคนอยู่ต่างประเทศบางทีคิดถึงมาก เพราะว่าวัดใกล้ ๆ ก็ไม่มี บางท่านอยู่อเมริกาบอกว่าถ้าจะทำบุญกับวัดไทยแต่ละที ต้องนั่งเครื่องบินไปถึงจะได้ทำบุญ เป็นอะไรที่น่าสงสารมาก นี่เขาถวายที่ดินไว้ที่อเมริกา ยังไม่มีเวลาไปดูเลยว่าจะสร้างวัดให้เขาหรือเปล่า ?"

เถรี 16-03-2021 07:22

ถาม : อยู่รัฐอะไรคะ ?
ตอบ : จำไม่ได้ น่าจะเป็นรัฐเท็กซัส เขาส่งรูปมาให้ดู ที่โล่งมากเลย ไม่ค่อยมีต้นไม้ บอกเขาให้ทยอย ๆ ปลูกต้นไม้ไว้ก่อน ถึงเวลาไปจะได้มีต้นไม้บ้าง

และได้บอกไปแล้วว่า ถวายที่ให้วัดที่เขามีเวลาไปดูแลให้จะดีกว่า แต่โยมเขาบอกว่า เขาปักใจว่าจะถวายทางด้านนี้แล้ว เขาก็ไม่เปลี่ยนใจ มีคนจะถวายที่ก็เยอะแยะหลายจังหวัดเลย แต่ส่วนใหญ่จะบอกเขาว่าให้ถวายวัดที่อยู่ใกล้ ท่านจะได้ดูแลและใช้ประโยชน์ได้

หลายท่านก็อยากจะเปิดวัดสาขา อาตมาเองกลัวว่าถ้าหากเปิดวัดสาขา แล้วพระที่ไปอยู่ท่านยังไม่มั่นคงพอ อาจจะทำให้โยมเสียศรัทธาได้ วัดท่าขนุนปัจจุบันถึงจะมีพระอยู่ ๔๐ กว่ารูป ส่วนใหญ่ก็พรรษาน้อย พรรษามากหน่อยเขาขอไปเป็นเจ้าอาวาสกันหมด ตอนนี้ก็มีวัดสาขาที่พระวัดท่าขนุนไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ๑๑ แห่งแล้ว แล้วเขาไม่ได้ขอแค่เจ้าอาวาส เขาขอพระลูกวัดด้วย บางทีเขาเอาไป ๔ เอาไป ๕ เอาไป ๖ รูป แล้วก็ยังมีที่ส่งเรียนเพื่อให้มีความรู้เพียงพอ ทั้งบาลีทั้งปริญญา ถ้ากลับมาพร้อม ๆ กันนี่ไม่มีกุฏิจะให้นอน

อาตมาให้นโยบายเขาไว้ว่า พระเราต้องทำหน้าที่ให้สมกับความเป็นพระ ต่อให้บวชมาโดยไม่มีจุดมุ่งหมายเพื่อความพ้นทุกข์อย่างโบราณ บวชเพราะโดนแม่บังคับมาบวช บวชเพราะตกงาน บวชรองานหรืออะไรก็ตาม ก็ต้องเล่นให้สมบทบาท ถ้าหากว่าอยากบวชแล้วสบาย..ให้ไปที่อื่น แต่ถ้าอยู่วัดท่าขนุนนี่สบายไม่ได้ เจ้าอาวาสทำงานงก ๆ อยู่ทุกวัน อย่าไปคิดว่าบวชแล้วสบาย..ไม่มีทาง คราวนี้พออยู่ในสายตาญาติโยม เขาก็เห็นว่าอาตมาเข้มงวดกับพระกับเณร พอถึงเวลาวัดขาดเจ้าอาวาส เขาก็มาขอ ก็เลยกลายเป็นว่ามีสาขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

เถรี 16-03-2021 07:46

พระอาจารย์สนทนากับโยม "ช่วงนี้ว่างไปเยอะ เพราะว่างานยกเลิกเนื่องจากโควิด-๑๙ ไปมากเลย แม้กระทั่งงานของสมเด็จพระสังฆราชยังขอเลื่อน สมเด็จพระสังฆราชท่านให้ไปเสกพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ก็เลยกลายเป็นเลื่อนไป ท่านหล่อพระตามกำหนดเดิมโดยที่ไม่ให้คนเข้าไป แต่ว่าตอนเสกส่วนใหญ่โยมเขาอยากมีส่วนร่วม จึงต้องเลื่อนไปก่อน"

ถาม : แต่ละวันเห็นหลวงพ่อไปตั้งหลายงาน ?
ตอบ : พยายามที่จะไม่ให้งานเขาเสีย ถ้ารับงานแล้วคำนวณว่าไปก่อนเวลาเล็กน้อยไม่ได้ อาตมาจะไม่รับเลย เพราะว่าเกรงใจเจ้าภาพ เห็นบางท่านก็รับงานโดยที่ไม่ได้ดูเวลา ถึงเวลาไปช้า ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมง งานเขาเสียหมด

ท่านเจ้าคุณสุรศักดิ์ วัดประดู่ จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นเพื่อนพระเกจิอาจารย์ด้วยกัน อาตมานิมนต์ไปงานหล่อพระวัดท่าขนุน ๑๒.๓๐ น. ท่านไปถึง ๑๔.๓๐ น. ไม่มีอะไรเลย ท่านเจอหน้าโยมก็ถามว่า "วัดนี้มีงานหรือเปล่า ?" โยมบอก "อ๋อ..มี" ท่านสงสัย "แล้วทำไมไม่มีอะไรเลย ?" พอหล่อพระเสร็จเขาก็เก็บเกลี้ยงหมดแล้ว

ที่วัดถ้าหลังงานประมาณชั่วโมงเดียว พระเณรจะเก็บทุกอย่างเรียบร้อยเหมือนกับไม่มีงานมาก่อน ฝึกให้พระท่านเป็นงาน บอกท่านว่าเราเป็นงานตั้งแต่ระดับล่าง ๆ ไปนี่ ไปไหนแล้วจะสบาย เพราะว่ารู้งานทุกอย่าง


เถรี 16-03-2021 07:48

ถาม : ช่วงที่ผ่านมาปฏิบัติเอง ก็อาราธนาพระ ไม่ทราบว่าเข้าใจที่พระท่านสอนเรื่องการปฏิบัติได้ถูกต้องไหม ?
ตอบ : อะไรก็ตามถ้าอยู่ในขอบเขตของ ศีล สมาธิ ปัญญา ทำให้ใจของเราสงบ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่เกิด ก็ทำไปเถิด ไม่ไปไหนไกลหรอก ถ้าหากว่ากลัวพลาดก็เอาศีล ๕ หรือกรรมบถ ๑๐ เป็นกรอบไว้ ไปแค่ตรงนั้นแหละ ถ้าเกินนั้นเราไม่ไปด้วย เป็นวิธีวัดที่ง่ายมาก

ถาม : ใจเราควรไปเกาะในสถานที่ปฏิบัติเดิมไหม ? ที่นั่นเขาให้ปฏิบัติเอง
ตอบ : เปิดคู่มือปฏิบัติกรรมฐานหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นหลัก ถึงเวลาก็ทำตามนั้น อาตมาก็ปฏิบัติเองอยู่ตั้งหลายปี กว่าที่จะไปหาหลวงพ่อท่านจริง ๆ จัง ๆ

ถาม : ที่ผ่านมาหนูเข้าใจว่าพระท่านให้ปฏิบัติอย่างเดียว ก็เลยไม่ไปทำงาน หนูคิดถูกต้องไหมคะ ?
ตอบ : เรายังอยู่ในโลก ต้องโลกไม่ช้ำธรรมไม่เสีย ก็แปลว่าต้องทำหน้าที่ทั้งทางโลกและทางธรรมให้เสมอกัน ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรมโดยไม่เอางานเอาการเลย จะเป็นโทษเสียมากกว่า เพราะว่าอย่างน้อย ๆ คนที่เขาตำหนิเราก็เกิดโทษแล้ว

ถาม : หลวงพ่อคะ ?
ตอบ : พอแล้ว หมดเวลาแล้ว ไปตั้งหน้าตั้งตาทำเอา แล้วจะได้คำตอบเอง

เถรี 16-03-2021 07:49

พระอาจารย์กล่าวว่า "New Normal ความเคยชินรูปแบบใหม่ ภาษาเขาจริง ๆ ก็คือมาตรฐานใหม่ Normal คือพื้นฐานธรรมดา ถ้าทำไปจนเป็นปกติ ก็กลายเป็นธรรมดา

คุณหมอบอกว่าเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ มีคุณความดีก็คือทำให้คนป่วยเป็นหวัดน้อยลง เพราะว่าเราระมัดระวังเชื้อที่ร้ายกาจที่สุด ป้องกันตัวจากเชื้อที่ร้ายกาจที่สุด เชื้ออื่น ๆ ก็เลยหมดสิทธิ์ไปโดยปริยาย

ท่านใดถ้ามีโอกาสฉีดวัคซีนอย่าลืมให้เขาออกหนังสือรับรองให้ด้วยนะ ต่างประเทศเขาเรียก วัคซีนพาสปอร์ต ถึงเวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ถ้ามีหนังสือรับรองก็จะได้ผ่านการเดินทาง ผ่านการตรวจไปได้ เดี๋ยวอาตมาจะย่องไปฉีดบ้างเหมือนกัน ไม่ได้ฉีดเพื่อป้องกันโรคหรอก ฉีดเพื่อให้ได้เอกสาร จะได้เดินทางได้"


เถรี 16-03-2021 07:50

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ พระราชทานตั้งสมณศักดิ์พระมหาประนอม ธมฺมาลงฺกาโร วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพระราชาคณะมีนามว่า พระเมธีวชิรโสภณ บอกแล้วว่าการแต่งตั้งตอนนี้เป็นโดยพระราชอัธยาศัยอย่างเดียว"

เถรี 16-03-2021 07:52

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่ออายุมากจะเกิด ๘ ย. ก็คือ พุงยื่น หน้ายื่น ก้นย้อย แก้มยุ้ย นมยาน น้ำหนักเยอะ โรคแยะ รักษายาก

วิธีแก้ก็คือต้อง ๔ ด.
๑. ด.ดุ
๒. ด.ดั๊ด
๓. ด.ดัน
๔. ด.ดวน

ด.ดุ คือดุไม่แจก แปลว่า แดกไม่จุ
ด.ดั๊ด คือ ไม่ดั๊ดสาระแผก คือ ไม่แดกสารพัด
ด.ดัน คือ ไม่ดันทั้งแหวก คือ ไม่แดกทั้งวัน
ด.ดวน คือ ดวนพอสมแขก คือ แดกพอสมควร
จะได้แก้ได้..เอาแค่นั้นแหละ..!"

เถรี 16-03-2021 07:52

พระอาจารย์ประกาศว่า "ยอดผู้มาทำบุญบ้านเติมบุญเดือนมีนาคม ๒๕๖๔ สองวันรวม ๑,๑๗๖ คน วันเสาร์ ๕๖๖ คน วันอาทิตย์ ๖๑๐ คน"

เถรี 17-03-2021 06:49

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมอยากจะไปหล่อหลวงพ่อทองคำกันมาก อาตมาก็เลยต้องเว้นระยะหนีเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ไปจนถึงช่วงลอยกระทง ปีนี้วันลอยกระทงเป็นวันศุกร์ ถึงแม้จะเป็นวันหยุดที่ราชการเพิ่มเติมให้ แต่ว่าบางทีที่วัดอาจจะมีกิจกรรมอยู่ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วก็จะจัดปฏิบัติธรรม แล้วก็มีการตามประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง ตอนนี้กำลังหาวันเหมาะสมที่จะหล่อพระว่าจะเป็นวันศุกร์ วันเสาร์ หรือว่าวันอาทิตย์

มีการหล่อพระแน่นอน เพราะแบบปั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ช่างไปเข้าปูนให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวขี้ผึ้งละลาย เพราะว่าระยะนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว ทองคำที่จะหล่อพระ อาตมาซื้อไป ๓๐ กิโลกรัม มีญาติโยมถวายมาอีกรวมกิโลกรัมเศษ ก็เหลืออีกประมาณไม่ถึง ๕ กิโลกรัมดี ถวายกันคนละนิดคนละหน่อยเดี๋ยวก็พอแล้ว"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:19


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว