กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7137)

เถรี 04-08-2020 19:48

“ท่านอาจารย์บูรพาท่านเป็นพระเอกลิเกเก่า แม่ยกเยอะมาก เรียกว่าสร้างวัดด้วยอิทธิฤทธิ์แม่ยกเลย แค่นั้นยังไม่พอ แม่ยกมนุษย์ยังไม่พอ ท่านยังมีแม่ยกนางฟ้าอีก ก็คือแม่นางกาหลง ท่านบูรพาไปปฏิบัติธรรมในป่า แล้วไปเจอว่า “ทำไมตรงนี้นกกาตายเกลื่อนกลาดไปหมด ?” ปรากฏว่าเป็นต้นกาหลง ซึ่งมีอิทธิพลในการดึงดูดนกกาให้มาแล้วไม่อยากไปไหน จนอดตายเกลื่อนเลย ท่านจึงขอพลีมาสร้างเป็นวัตถุมงคลพวกเมตตามหานิยม ดังระเบิดเถิดเทิง

แต่ผ่านมาหลายปีเต็มทีแล้ว ประมาณ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว ของไม่เหลือแล้ว ใครอยากได้ให้ไปหาของเก่า ๆ หรือไม่ก็ไปไถท่านเอา อาตมาไม่ได้ขอท่านหรอก เพราะว่าถึงเวลาก็ขอพระท่านเสกเองได้ ตอนนี้ท่านยอมแพ้อยู่ ๒ อย่าง อย่างหนึ่งคือเรื่องตำแหน่งเรื่องสมณศักดิ์ที่ท่านไล่ไม่ทัน อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของการปลุกเสกวัตถุมงคล ท่านบอกว่าของท่านถ้าแม่กาหลงไม่ช่วย ท่านก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาขลัง ส่วนของอาตมามีพระ มีครูบาอาจารย์ช่วย ตรงนี้ท่านเลยไล่ไม่ทัน”

เถรี 04-08-2020 19:51

ถาม : พระที่เป็นโลหะมีพลังอะไรที่แรงกว่าพระผงหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : โลหะบางอย่างเก็บพลังได้ดี อย่างเช่น ตะกั่ว ทองคำ เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของการประจุพลังก็จะได้มากกว่า ซึ่งเกิดจากการเรียงตัวของโมเลกุลที่ต่างกัน ส่วนในเรื่องของผงนั้น ต้องใช้เวลาในการทำและต้องใช้กำลังสมาธิที่สูงมาก

ถาม : ตอนจัดพระที่บ้าน เวลาเจอพระที่เป็นโลหะ รู้สึกเหมือนมีแรงดูดค่ะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไปเจอพระที่ท่านเสกด้วยกำลังสูง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระผงหรือพระโลหะก็จะเหมือนกัน ถ้าหากว่าไปเจอท่านที่พลังงานน้อยหน่อย ได้โลหะหรือผงที่เหมาะสมกว่าก็รับพลังได้จะดีกว่า

เถรี 04-08-2020 19:53

พระอาจารย์แจ้งว่า “วันที่ ๑๒ สิงหาคมนี้เป็นวันแม่แห่งชาติ ปกติอาตมภาพจะนิมนต์พระสุปฏิปันโน ไม่ว่าจะมาในสายพุทธภูมิหรือว่าสาวกภูมิก็ตาม มาให้ญาติโยมทั้งหลายได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญ แต่ว่าปีนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-๑๙ ที่แพร่ระบาด ยังไม่ดีขึ้น จึงไม่ได้นิมนต์พระทั้งหลายเหล่านี้มาให้ทำบุญเหมือนกับทุกปี แต่ว่าจะทำบุญเป็นการภายใน ก็คือเจริญพระพุทธมนต์โดยพระวัดท่าขนุนเท่านั้น

งานทำบุญวันแม่ยังมีเป็นปกติ แต่เป็นการทำบุญโดยอาศัยเฉพาะพระวัดท่าขนุน ในส่วนของพระวัดท่าขนุนนั้น เมื่อถึงเวลาพวกเราก็สวดมนต์ ทำวัตร เจริญกรรมฐานกันเป็นปกติ”

เถรี 05-08-2020 08:42

พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อตอนบ่ายสองโมงพระอาจารย์มหาเอมาแจ้งให้ทราบว่า ท่านอาจารย์สุชาติ เลิศภูมิปัญญา ซึ่งเป็นผู้ปั้นรูปพระปัจเจกพุทธเจ้าที่อาตมภาพจะหล่อด้วยเนื้อเงินแท้ บอกว่าควรที่จะหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงินพร้อมกับพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ นี้เลย ซึ่งอาตมาก็เห็นด้วย

ก่อนหน้านี้ที่ตั้งใจจะให้หล่อปีหน้า ก็เพื่อให้ท่านอาจารย์สุชาติได้มีเวลาในการทำงาน แต่ปรากฏว่าสิ่งหนึ่งประการใดที่ทางวัดท่าขนุนต้องการ ส่วนใหญ่ท่านอาจารย์สุชาติท่านจะรู้ก่อน ก็เลยกลายเป็นว่าท่านปั้นแบบเอาไว้ได้ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแค่ตกแต่งแก้ไขนิดหน่อย ทางด้านช่างหล่อก็คือช่างหนึ่งก็บอกว่า ถ้าทำงานพร้อมกันก็เป็นการสะดวก และประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางไป ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง

ดังนั้น..จึงขออาศัยโอกาสนี้แจ้งให้ญาติโยมทั้งหลายได้ทราบว่า วันอาทิตย์ที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ ทางวัดท่าขนุนจะหล่อพระสององค์ก็คือ พระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำ และพระปัจเจกพุทธเจ้าหน้าตัก ๔๐ นิ้วเนื้อเงิน พร้อมกันในเวลา ๑๑.๐๐ น. ก็แปลว่าวันนั้นจะฉันเพลกันช้าหน่อย

ที่อาตมาเห็นด้วย ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า ระยะหลังนี้อาการโรคภัยไข้เจ็บหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่ญาติโยมก็จะเห็นอาตมาทำงานไปตามปกติ เพราะว่าทำงานกันแบบคนมีวันนี้วันเดียวเท่านั้น ถ้าสามารถหล่อพระที่ตั้งใจเอาไว้ให้เสร็จภายในระยะเวลาที่เร็วเท่าไร ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตัวเท่านั้น เพราะว่าอาตมาไม่ไว้ใจสภาพสังขารของตน ซึ่งตอนนี้ก็ย่างเข้า ๖๒ ปีแล้ว ถือว่าเกินอายุขัยมาเป็นเท่าตัวแล้ว การที่จะได้อยู่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและพระพุทธศาสนาก็ลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ ในเมื่อผู้ปั้นองค์พระและช่างพร้อม สามารถทำพร้อมกันไปได้เลย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง ”

เถรี 05-08-2020 08:45

“สำหรับท่านที่นำเม็ดเงินเพื่อจะไปแลกพระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อเงินนั้น เม็ดเงินที่ต้องการเป็นเม็ดเงินนอก ซึ่งค่อนข้างจะหายาก เพราะว่าส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดเงินนอกปนเม็ดเงินไทยเสียมาก มีคำแนะนำว่า ถ้าท่านมีเวลา ให้เลือกเม็ดเงินที่เม็ดใหญ่ ๆ บิด ๆ เบี้ยวออก ให้เหลือแต่เม็ดเล็ก ๆ ที่มีขนาดสม่ำเสมอกัน แล้วซื้อเม็ดเงินนอกมาเติมให้ครบกิโลกรัม ก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นแล้วท่านเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก แต่ได้ของที่ปะปนมาแล้วใช้ไม่ได้ ก็จะทำให้เสียเงินไปโดยใช่เหตุ

ร้านที่รักชื่อเสียงตนเองจะขายเม็ดเงินนอกแท้ แต่พวกเราส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้อยู่ใกล้ก็อาจจะไม่สามารถที่จะซื้อหาได้ ราคาเม็ดเงินนอกแท้ก็ค่อนข้างจะแพงกว่าเม็ดเงินในบ้านเราที่ใช้เทคโนโลยีในการทำต่ำกว่า ในเมื่อราคาเม็ดเงินภายในต่ำกว่า เขาเอามาปนใส่กันไป แล้วขายเป็นราคาเม็ดเงินนอก เขาก็จะได้ราคาที่สูงกว่า ถือว่าเป็นการกระทำที่ปกติของพ่อค้า

พวกเราก็พยายามแก้ไข ในเมื่อซื้อหามาแล้วคืนไม่ได้ ก็ทำให้ดีที่สุด ด้วยการคัดเลือกเอาส่วนที่เป็นเม็ดใหญ่มีสภาพหยาบออกมา ส่วนที่ขาดก็หาทดแทนกลับเข้าไป ก็น่าจะที่จะพอใช้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วหลายท่านบางทีฝากซื้อกันที ๒๐-๓๐ กิโลกรัม ถ้าบอกว่าใช้ไม่ได้เลยก็เป็นลมตายกันพอดี..!”

เถรี 05-08-2020 08:51

พระอาจารย์กล่าวว่า “หน้ากากอนามัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์สามารถป้องกันไวรัสได้ดีกว่าหน้ากากผ้า ถ้าไม่ลำบากหรือว่าติดที่ราคาแพง ใช้แล้วทิ้ง ให้หาหน้ากากอนามัยมาใช้จะทำให้ปลอดภัยกว่า

เพียงแต่ว่าหลายท่านเมื่อใส่หน้ากากแล้วก็อึดอัดหายใจไม่ออก บางท่านเหมือนกับเลือดเลี้ยงสมองไม่พอ ทำท่าจะนั่งหลับอย่างเดียว นั่นเป็นอาการปกติของสมองที่ได้รับออกซิเจนน้อย แสดงว่าปอดทำงานได้ไม่เต็มที่

บุคคลที่ปอดทำงานดีที่สุดในโลกก็คือชาวทิเบต เนื่องจากบ้านเรือนเขาอยู่ในที่ที่ความสูงเกินกว่า ๕,๐๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อากาศเบาบางมาก ทำให้ต้องมีปอดที่มีคุณภาพ สามารถกรองออกซิเจนที่มีอยู่น้อยอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าหากว่าใครไปทิเบต ลงจากเครื่องบินแล้ว เห็นคนเดินฉับ ๆ ๆ เลย ให้รู้ว่านั่นคือชาวทิเบต ส่วนคนทั่ว ๆ ไปอย่างพวกเราก็ต้องค่อย ๆ ย่อง แค่เดินไม่กี่ก้าวก็หอบแล้ว หายใจไม่ทัน

พอสมองขาดออกซิเจนมาก ๆ อาการหนึ่งที่ปรากฏชัดที่สุดก็คือปวดหัวมาก ซึ่งความจริงเป็นสัญญาณชีพอย่างหนึ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่า อันตรายเกิดขึ้นกับสมองแล้ว ก็คือได้รับออกซิเจนน้อย ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ถ้าจะไปในสถานที่แบบนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือฝึกหายใจแบบโยคะ ซึ่งการฝึกหายใจแบบโยคะนั้น มีการหายใจด้วยปอดช่วงบน หายใจด้วยปอดช่วงล่าง หายใจด้วยท้อง ทำให้ได้รับออกซิเจนมากขึ้น เมื่อเจอกับสภาพอากาศน้อย
เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฝึกฝนมา ก็จะไม่มีปัญหามากนัก”

เถรี 05-08-2020 08:53

พระอาจารย์กล่าวว่า อิติปิ โส.. ‘อิติ’ เป็นหนึ่งคำ ‘โส’ เป็นอีกหนึ่งคำ ส่วนใหญ่เขียน ‘อิติปิโส’ ติดกัน เป็นคำเดียวกันนั้นไม่ถูกต้อง ต้องเว้นวรรคให้แยกกัน”

เถรี 05-08-2020 08:55

ถาม : เวลาถวายสังฆทานควรวางกำลังใจอย่างไรเจ้าคะ ?
ตอบ : เอาพระนิพพานเป็นหลัก หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า พระนิพพานเหมือนกับยอดเขาสูงสุด ถ้าเราตั้งใจจะขึ้นให้ถึงยอดเขาสูงสุด ตลอดทางมีอะไรก็ต้องพบต้องเจออยู่แล้ว

เถรี 05-08-2020 21:19

พระอาจารย์เตือนโยมท่านหนึ่งว่า “จะทำบุญหรือแสดงความเคารพให้ถอดหมวกก่อน แสดงว่าไม่เคยรู้ธรรมเนียมสินะ ระวังนะ..ใส่หมวกไหว้พระคนโบราณเขาบอกว่าโทษจะทำให้หัวล้าน..!

การเข้าไปในสถานที่เคารพ เขาให้ถอดรองเท้า ลดร่ม ถ้าเป็นพระห่มคลุมอยู่ก็ให้ห่มเฉวียงบ่า ถ้าใส่หมวกก็ให้ถอดหมวก เราจะเห็นว่าแม้แต่ฝรั่ง เมื่อถึงเวลาจะแสดงความเคารพ เขาก็จะถอดหมวกก่อน เพราะฉะนั้น..จะบอกว่าใส่หมวกเป็นธรรมเนียมฝรั่งก็ไม่ได้

การใส่หมวกเป็นแฟชั่น เพราะว่าทางยุโรป อเมริกา เป็นเมืองหนาว โอกาสเจอแดดมีน้อย ดังนั้น..เขาไม่เสียเวลาใส่หมวกเพื่อกันแดดกันหรอก เพียงแต่ว่าช่วงนั้นแฟชั่นการใส่หมวก ถือไม้เท้า เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ส่วนผู้หญิงจะใส่หมวก มือถือผ้าเช็ดหน้า ห้อยตะกร้าหรือกระเป๋าถือ พอแฟชั่นแพร่หลายออกไป ก็ใส่กันไปทั่ว โดยไม่รู้ว่ามาจากแฟชั่นตรงนี้เอง”

เถรี 05-08-2020 21:21

“ส่วนบ้านเราที่ใส่หมวก ส่วนใหญ่เพราะว่าทำงานกลางแจ้ง ดังนั้น..คนไทยเราจะมีงอบ คนจีนมีหมวกกุยเล้ย ซึ่งจะเป็นหมวกใบใหญ่ กันแดดกันฝน แล้วคนไทยเรายังเก่งตรงที่ว่า ทำรองในสำหรับสวมศีรษะ แล้วถึงจะเป็นตัวงอบอยู่ด้านบนเพื่อกันแดดกันฝน การทำเช่นนี้ทำให้ไม่อบจนกระทั่งเหงื่อออกเปียกไปทั้งหัว แบบนี้เป็นการใส่หมวกเพื่อประโยชน์จริง ๆ ที่ไม่ใช่หมวกแฟชั่น

ส่วนของทหารที่ใส่หมวก เป็นหมวกเหล็ก เอาไว้กันสะเก็ดระเบิด หรือกระสุนปืนที่ไม่ได้โดนจัง ๆ เวลากระทบหมวกเหล็กก็จะแฉลบไป แต่ถ้าโดนตรง ๆ หมวกเหล็ก ๒ ใบ ๓ ใบก็กันไม่ได้ อาวุธสงครามยิงด้วยความเร็วสูง ๒,๕๐๐ ฟุตต่อวินาที อาตมาเคยทดลองกับหมวกเหล็ก ๓ ใบ ทะลุหมดเลย..! เพียงแต่ว่าถ้าโดนเฉียด ๆ ประมาณว่าหัวจะแหว่ง ก็ช่วยกันให้ไม่ถึงตาย แค่บาดเจ็บสาหัส ถ้ามีหมวกเหล็กอยู่ กระสุนหรือสะเก็ดระเบิดก็จะแฉลบ ไปไม่เข้าเนื้อ ไม่โดนหัว

พอใส่หมวกเหล็กออกรบ ด้วยความเคยชิน พออยู่ในที่ตั้งก็เอาหมวกเหล็กออก เหลือแต่รองใน แล้วคราวนี้การที่จะใส่หมวกรองในก็ไม่ค่อยสะดวก เขาก็เลยเปลี่ยนเป็นหมวกผ้าที่เรียกว่าหมวกแก๊ป ซึ่งก็คือหมวกปีก คนไทยเราบางทีก็ลืมคำเรียกเก่า ๆ กันหมดแล้ว ไปเรียกตามฝรั่งว่าหมวกแก๊ป ซึ่งก็คือหมวกสวมหัวที่มีปีกไว้กันแดดส่องเข้าตา ดังนั้น..การที่จะใช้หมวกเพื่อประโยชน์ในการกันแดดกันฝนจริง ๆ ก็จะเป็นทางด้านเอเชียของเราที่ฤดูร้อน-ฤดูฝนดุเดือดหน่อย ส่วนฝรั่งเขาใส่หมวกกันเป็นแฟชั่น หรือใส่กันหนาว”

เถรี 05-08-2020 21:24

“สมัยนี้หาคนที่มีฝีมือ ทำงอบทำหมวกกุยเล้ยดี ๆ ยากแล้ว แม้กระทั่งหมวกกุบอย่างของพวกญวนก็หาคนทำยาก วัสดุง่าย ๆ อย่างใบไผ่ หรือว่ากาบใบเลี้ยงของต้นไผ่ เอามาทำเป็นหมวก โดยการสานตอกไม้ไผ่ซ้อนอยู่สองชั้น ก็คือสานชั้นใน สอดไส้ด้วยใบไผ่หรือไม่ก็กาบเลี้ยงของต้นไผ่ แล้วสานชั้นนอกทับ ถ้าหากว่าสอดไส้ดี ๆ จะใช้ได้หลายปี กันแดดกันฝนได้ดีมาก”

เถรี 05-08-2020 21:27

พระอาจารย์กล่าวว่า “ในวงการสงฆ์ของเรากล่าวกันว่า พระภิกษุสามเณรของเราโชคดี ยังไม่มีใครเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะไวรัสโควิด-๑๙ แต่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา วัดไทยที่ลาสเวกัส เสียพระระดับเจ้าอาวาสไปด้วยโรคนี้ ส่วนพระลูกวัดอีก ๓ รูปก็อาการหนักจนเขาต้องนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางสหรัฐอเมริกานั้น ถ้าไม่ใช่อาการหนักจริง ๆ เขาก็ปล่อยให้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ให้โทรถามหมอเอาเองว่าอาการแบบนี้จะรักษาอย่างไร..? แล้วหมอก็จะแนะนำให้ไปหายากินเอาเอง ปรากฏว่ามีการหามพระไทยใส่เปลขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล แสดงว่าอาการหนักมากแล้ว

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเสรีจนเกินเหตุ แม้กระทั่งเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บก็ยังไม่ยอมระวังป้องกัน เพราะเขาถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งอาตมาใช้คำพูดกับเพื่อนพระสังฆาธิการด้วยกันว่า “ไปละเมิดสิทธิที่เขาจะตาย เพราะฉะนั้น..ปล่อยให้ตายไปตามสิทธิ์ของเขาก็แล้วกัน..!”

เถรี 05-08-2020 21:29

“ในเรื่องของโรคระบาดเท่าที่ดูสถิติ ในแต่ละรอบ ๑๐๐ ปีจะเกิดโรคระบาดหนัก ไม่ว่าจะเป็นกาฬโรค ไข้เหลือง ไข้หวัดสเปน มายุคนี้ก็เป็นโควิด-๑๙ แต่ละครั้งที่ระบาดในอดีตก็ตายกันเป็นล้าน ๆ คน ปัจจุบันของเราตัวเลขคนตายอยู่ที่หลักแสน แต่ว่าของสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว เขาบอกว่าเฉลี่ยตายวันละ ๑,๕๐๐ คน ก็คือประมาณนาทีละ ๑ คน ขนาดนั้นก็ยังมีคนเชื่อว่าเป็นข่าวหลอก..!”

เถรี 05-08-2020 21:30

พระอาจารย์กล่าวว่า “ระยะนี้ญาติโยมจะเห็นว่าทองคำราคาขึ้นไปมาก เกิดจากสงครามที่ทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย สงครามที่เปิดเผยก็คือสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่สหรัฐพยายามกดดันทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้จีนตบะแตก ตอบโต้แรง ๆ แล้วตนเองจะได้โหมฟืนโหมไฟให้คนอื่นตระหนกตกใจ จะได้ช่วยกันซื้ออาวุธ ซึ่งสหรัฐเป็นพ่อค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่จีนก็พยายามอดทน อดกลั้น อดออม ผ่อนปรนจนถึงที่สุด แม้ว่าจะโดนรุมตีแบบไม่ยุติธรรมเลยก็ตาม จีนรู้ว่าถ้าหากว่ามีสงครามขึ้นมาในยุคนี้ ระดับความเสียหายจะมากมายมหาศาล

ส่วนสงครามที่ไม่เปิดเผยนั้น เราจะเห็นว่าอยู่ ๆ เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐก็เกิดไฟไหม้ สถานที่สำคัญหลายแห่งของสหรัฐก็เกิดไฟไหม้ไล่ ๆ กัน แล้วเป็นเรื่องที่น่าสังเกตเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ ทำไมไฟไหม้ข้ามวันข้ามคืน ทั้ง ๆ ที่น่าจะใช้วัสดุเคมีดับไฟได้อย่างง่ายดาย”

เถรี 05-08-2020 21:35

“แล้วก็ยังมีสงครามในบริเวณตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะระหว่างตุรกีกับซีเรีย ไม่ว่าจะเป็นยิวกับปาเลสไตน์ ไม่ว่าจะเป็นเยเมนกับซาอุดิอาระเบียก็ตาม เรื่องพวกนี้ทำให้บรรดาผู้ที่มองการณ์ไกลต้องการตุนทองคำ ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด เพราะไม่ว่าค่าเงินจะลดจะเพิ่มอย่างไรก็ตาม ค่าของทองคำจะคงอยู่ตัวเสมอ

ประกอบกับที่แม้ว่ารัฐบาลทหารของบ้านเรา จะนำผู้มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจมาช่วยทำงาน แต่ก็ไม่สามารถที่จะตอบโจทย์ได้ว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะว่าอันดับแรก..ทุนสำรองของบ้านเรามีมาก ทำให้อัตราเงินแข็งมากเป็นพิเศษ แทนที่จะนำทุนสำรองไปใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ รัฐบาลก็เปลี่ยนมาเป็นกู้เงิน ซึ่งการกู้เงินนั้น บรรดาโครงการต่าง ๆ ก็ไม่ได้ตอบโจทย์อะไร ไม่ว่าจะเป็น ‘ชิม ช็อป ใช้’ หรืออะไรก็ตาม เพราะว่าโจทย์ที่แท้จริงก็คือ เรื่องของการได้ดุลการค้า”

เถรี 05-08-2020 21:38

“เพราะเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ทำให้เราสั่งสินค้าเข้าน้อย แต่การส่งออกขายยังต้องส่งไปตามอัตราปกติที่เขาเคยสั่งกันอยู่ เพราะว่าทางต่างประเทศสั่งซื้อสินค้าจากไทยเป็นการล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ระยะเวลาก็คือ ๓ เดือน ๔ เดือน ๖ เดือน เป็นต้น ในเมื่อมีการสั่งซื้อกันล่วงหน้า ถึงเวลาก็ต้องส่งให้เขา กลายเป็นว่าขายออกมาก แต่ซื้อเข้าน้อย เมื่อได้ดุลการค้า ค่าเงินบาทก็แข็ง

เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะมีคนมองออก แต่ว่าไม่เคยประสบปัญหาตรงนี้ ก็เลยไม่กล้าเข้าไปแทรกแซงอัตราเงิน เพื่อให้อยู่ในระดับที่สามารถส่งออกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็เลยทำให้บ้านเราเงินฝืด ขณะที่ต่างประเทศเงินเฟ้อ คนก็เลยหันไปถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยกันมากขึ้น ประกอบกับบรรดาสงครามทั้งที่ประกาศและไม่ประกาศ ตลอดจนกระทั่งภัยธรรมชาติที่ปรากฏอยู่ทั่วไป ก็เลยส่งผลให้การถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมีมากขึ้น ราคาก็พุ่งขึ้นไปสูงมาก”

เถรี 08-08-2020 20:56

พระอาจารย์กล่าวว่า "ขอแจ้งให้ญาติโยมทราบว่า งานวันแม่ที่วัดท่าขนุน แม้ว่าจะจัดเป็นปกติ แต่ก็จัดเป็นการภายใน ไม่ได้นิมนต์พระสุปฏิปันโนมาให้พวกเราทำบุญเหมือนกับทุกปี เพราะว่าทางทองผาภูมิยังค่อนข้างจะเข้มงวดอยู่ เนื่องจากว่ายังไม่มีใครติดเชื้อโควิด ๑๙ เขากลัวเสียสถิติ งานวันแม่จึงจัดเป็นการภายใน ให้พระวัดท่าขนุนสวดมนต์กันเอง

ส่วนวันงานบูรพาจารย์หรืองานทำบุญถวายหลวงปู่สาย กำลังดูทางจังหวัดเขาอยู่ เพราะว่าจะมีงานประจำตามมาในช่วงบ่าย ก็คืองานประชุมเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีทั้ง ๓๓ แห่ง เหตุที่ต้องประชุมที่วัดท่าขนุน เพราะว่าพระครูวิลาศกาญจนธรรมท่านเป็นประธานศูนย์ประสานงาน น่าจะตำแหน่งที่ ๒๓ จำไม่ได้ว่าตัวเองมีกี่ตำแหน่ง ถึงเวลาจังหวัดมีอะไรก็มาลงที่วัดท่าขนุน รับได้ทุกรูปแบบ สั่งวันนี้อีกสองชั่วโมงจะเอา ก็ยังอุตส่าห์ทำทัน

งานที่เร็วที่สุดที่สั่งมาก็คือ จัดรดน้ำพระศพหน้าพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ปัจจุบันก็คือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร สั่งการตอนเที่ยง บ่ายสองโมงต้องพร้อม ทุกหน่วยราชการต้องมาหมด วัดท่าขนุนทำได้ หลังจากทำให้เขาดูมาทีหนึ่ง ทุกอย่างก็มากันหมด มีอะไรใครทำไม่ทันก็มาลงวัดท่าขนุนทั้งหมด"

เถรี 08-08-2020 21:07

ถาม : ผมคลี่ตะกรุดมหาสะท้อนออก ผมไม่มีเจตนา พยายามม้วนกลับไปใหม่ อย่างนี้ตะกรุดจะเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : ทันทีที่คุณสงสัยก็เสื่อมแล้ว เพราะว่าขาดความมั่นใจ

ถาม : ตะกรุดจะกลายเป็นโลหะธรรมดาไหมครับ ?
ตอบ : เอาไปหล่อพระก็แล้วกัน คือปกติของไม่เสื่อมหรอก แต่คราวนี้เราหมดความมั่นใจเอง จะไปโทษใครไม่ได้

ถาม : ถ้ามั่นใจอยู่ ห้อยไปอย่างนี้ ตะกรุดยังเต็มร้อยไหมครับ ?
ตอบ : จะไปเอาอะไรเต็มร้อย ? ห้อยไปก็หวาดระแวงอยู่ไปทุกวัน คุณคิดหรือที่บอกว่ามั่นใจ ๆ นั้นจะใช่ ? ทันทีที่ตั้งคำถามก็แปลว่าความลังเลสงสัยเกิดขึ้นแล้ว

ถาม : หลวงพ่อจะสร้างอีกไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้รับคำสั่งให้สร้าง อาตมาจะไม่ทำ โดยเฉพาะพวกเอาไปเล่นเขาจนตาย ๒ คนเห็น ๆ อยู่ ในเมื่อใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาตมาก็เลยโดนสั่งห้ามให้ทำอีก ของทำเอาไว้ป้องกันตัว นี่ดันตั้งใจไปเล่นงานคนอื่น ต้องบอกว่าแต่ละคนล้วนแล้วแต่หาเหตุดี ๆ มาให้ทั้งนั้น..!

เถรี 08-08-2020 21:08

ตะกรุดแทบทุกสำนัก ส่วนใหญ่ตอนม้วนเขาจะมีคาถากำกับเอาไว้ด้วย แล้วบางทีก็ยังมีเคล็ดลับอื่น ๆ อย่างเช่นว่า ตอนม้วนต้องกลั้นหายใจ ตอนม้วนต้องหันหน้าไปทิศไหน บางรายถึงขนาดต้องดำน้ำลงไปม้วน เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเราไม่รู้จริง โปรดอย่าไปคลี่ออกมา คลี่ออกมาเมื่อไรก็เสียของไปเลย

ยิ่งถ้าเจอตะกรุดของท่านอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ นี่ก็หายไปเป็นล้านเลย ตะกรุดมหาจักรพรรดิเนื้อทองคำ ของอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ดอกหนึ่งราคาเป็นล้าน ไปคลี่ออกมานี่หมดราคาเลย สลึงเดียวเขาก็ไม่เอา

ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมก็มักจะบอกว่า ผมมั่นใจว่ายังดีอยู่ แต่ขอให้เชื่อเถอะ..ถ้ามั่นใจจะไม่มาถามหรอก มาถามเมื่อไรแปลว่าไม่มั่นใจแล้ว

เถรี 08-08-2020 21:13

ถาม : ถ้าโดนพวกเสน่ห์เล่นงาน ควรแก้ไขเฉพาะหน้าอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าโดนอะไร ถ้าโดนน้ำมันพรายก็แก้ไขยาก เพราะว่ากินอาหารที่มีน้ำมันเมื่อไรก็กำเริบเมื่อนั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ส่วนใหญ่พอเราภาวนาจนกำลังใจทรงฌานได้ ก็สลายหมดแล้ว

เถรี 08-08-2020 21:31

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนสมัยคุณเลิศยังไม่ได้ไปปักหลักอยู่ที่พุทธคยา เวลาทำอะไร แกจะคอยแอบดู ถึงเวลาแกก็บอกว่า เห็นหลวงพ่อให้พรทีไร กำลังใจพุ่งขึ้นข้างบนตลอด อ้าว..ไม่ขอพระสงเคราะห์ แล้วจะขอใครวะ ?

ตอนไปเจอที่พุทธคยา โห..สุดยอดพลังงานเลย จึงไปอยู่ที่นั่นหลายปีแล้ว แต่แกลืมไปว่าเหมือนอยู่บนกองมหาสมบัติ ถ้าใช้ไม่เป็นก็เท่านั้น คือ สมาธิจิตอย่างเก่งก็ระงับกิเลสได้แค่ชั่วคราว ต้องใช้วิปัสสนาญาณควบไปด้วย ถึงจะช่วยให้ตัดกิเลสได้จริง ๆ"


เถรี 08-08-2020 22:03

พระอาจารย์กล่าวว่า "โรคภัยไข้เจ็บขึ้นอยู่กับกรรมเก่า แต่ถ้าป้องกันได้ เราก็ไม่ต้องไปสร้างเวรสร้างกรรมอะไรกับเขามากนัก ของบางอย่างวาระกรรมยังไม่เต็มที่ แต่เราดันไปรับมาก่อนก็ถือว่าขาดทุน ผ่อนหนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าหมดท่าขึ้นมาก็ "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" มีปัญญาก็ทวงไปสิ..!

อย่างอาตมานี่ถือว่าจนมุมแล้ว หนีไม่ได้ แต่ละชาติที่ผ่านมาเป็นทหารมาทุกชาติ ถ้าถามว่าฆ่าเขามาเท่าไร ? ก็นับศพไม่ถ้วน เวลาป่วยหนัก ๆ แต่ละครั้ง พอใกล้จะหาย จะมีนิมิตบอกว่างานนี้ที่ป่วย เป็นเพราะไปทำอะไรมา

มีบางงานไปซุ่มโจมตีเขา ทัพหน้า ๓,๐๐๐ คน ตลอดจนช้างม้า กวาดเรียบไม่เหลือเลย..! ขนาดนั้นแล้วจะไม่ป่วยได้อย่างไร ? หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านช่วยย้ำความมั่นใจ บอกว่า "แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาไว้มาก จะป่วยบ่อย ให้ไปปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่าสักเดือนละตัวสองตัว จะช่วยบรรเทากรรมส่วนนี้ได้"

ด้วยความเคารพเชื่อฟังครูบาอาจารย์ อาตมาก็ทำตามมา ๓๕ ปีแล้ว บรรเทา
กรรมลงไปสักนิดหนึ่งก็ยังดีนะ ไม่ได้ปล่อยเดือนละตัวสองตัวตามที่ท่านสั่ง ส่วนใหญ่ไปถึง เห็นตาปริบ ๆ ก็เหมาหมดตลาด ล่าสุดนี่ก็ไปเหมาหมด ตลาดหน้าวัดแก่นเหล็ก จังหวัดชัยนาท ปล่อยเสร็จตัวเองก็ลงไปแช่น้ำกับปลาด้วย ตลิ่งพัง..! เหยียบอยู่ชายตลิ่ง ยงโย่ยงหยก ปล่อยปลาเสร็จ ตลิ่งพังโครม เลยลงน้ำไปด้วย..! อยากจะบอกกับเจ้ากรรมนายเวรว่า วันนี้กูปล่อยแต่ปลา ดันเอาตัวกูลงไปด้วย...!"

เถรี 10-08-2020 20:03

พระอาจารย์เล่าว่า "มีนักมวยอยู่คนหนึ่งชื่อ โบวี่ สก.สุไหงยิม ถ้าหากว่า ๓ - ๔ ยกผ่านไปคะแนนเป็นรอง เวลาที่เหลือนี่แกปั้นหมัดเดินใส่อย่างเดียว ทุบอย่างเดียว แล้วก็เป็นเรื่องที่แปลกว่า คู่ต่อสู้มักจะถอดใจ เห็นปั้นหมัดเข้ามาแล้วดันไปกลัว กำลังใจจึงสู้กันไม่ได้

มีอยู่ช่วงหนึ่ง รามอน เด็กเกอร์ นักมวยฝรั่งหัดต่อยมวยไทย คราวนี้ฝรั่งเขาต่อยหมัดโดยธรรมชาติ ไม่ค่อยจะถนัดเตะถนัดเข่า คนไทยดันไปกลัวหมัด ปรากฏว่ารามอน เด็กเกอร์ น็อกมวยไทยแนวหน้าไปหลายคน แล้วก็ไปต่อยกับมวยที่ค่อนข้างจะ "โนเนม" ก็คือโคบาล ลูกเจ้าแม่ไทรทอง ปรากฏว่าโคบาล นอกจากถนัดอาวุธมวยไทยทุกประเภทแล้ว หมัดยังหนักบรรลัยเลย แต่คน
ไม่ค่อยจะรู้กัน

รามอน เด็กเกอร์ ที่บอกว่ามีหมัดเป็นทีเด็ด ก็เลยโดนน็อกครั้งแรกในชีวิต สวนกันคนละที โดนฮุคซ้าย...โป้ง ร่วงทั้งยืน ประเภทนับ ๑๐ ยังไม่ฟื้น..!"

เถรี 10-08-2020 20:10

"มวยไทยที่ครบเครื่องจริง ๆ หายาก มวยไทยครบเครื่องจริง ๆ ต้องพุฒ ล้อเหล็ก ช่วงหลังมาก็มีสามารถ พยัคฆ์อรุณ ถ้าเป็นคนอื่น ส่วนใหญ่ได้อย่างเดียว อย่างสามกอ เกียรติมนต์เทพ เตะควายยังล้ม แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้แค่ลูกเตะเป็นหลัก โดยเฉพาะต่อยกับมวยฝรั่ง เตะแต่ละทีเสียงดังเป็นตีวัวตีควายเลย

อย่างปัจจุบันนี้ รุ่นใหม่ ๆ อย่างตะวันฉาย พีเคแสนชัยมวยไทยยิม ตะวันฉายลูกถีบสุดยอดมาก เขาจะถีบคู่ต่อสู้เสียศูนย์ล้มเป็นประจำเลย จังหวะถีบเขาคือจังหวะที่คนเขาจะถอย จะถอยแล้วโดนถีบส่ง เท่ากับเพิ่มแรง ตะวันฉายรูปมวยดี แขนยาวขายาว ถึงเวลาเตะสกัดต่อยสกัดถีบสกัด คู่ต่อสู้เข้าไม่ค่อยติด

ที่ขำที่สุดก็หลวงพ่อวัดท่าซุง สมัยโน้นถ้าเขาทรายต่อยเมื่อไรถนนร้าง คนต้องไปดูมวยกันหมด ปรากฏว่าเขาทรายต่อยกับนากาจิมะ นักมวยญี่ปุ่น พวกพี่แดง (นายดาบตำรวจตระกูล เปาริก) กับพวกจ่าประมวญ ราชอินทร์ หรือไพบูลย์ นั่งเชียร์กันหน้าจอ ตอนนั้นเป็นเวลาหลวงพ่อท่านขึ้นพัก ยังไม่ได้ลงรับสังฆทาน

ไอ้โน่นก็ "กูเอาชนะน็อก" ไอ้นี่ก็ "กูเอาแค่ชนะคะแนน" ยุ่งกันหมด "เสมอเป็นแพ้นะมึง" เถียงกันอยู่นั่น หลวงพ่อท่านบอกว่า "ไอ้ห่..มันน็อกกันยกแปด" พี่แดง (นายดาบตำรวจตระกูล) วิ่งลงมาข้างล่าง "เฮ้ย..ใครจะเล่นบ้าง กูเอาเขาทรายชนะ" ไม่มีใครเล่นเลย ทุกคนรู้ว่าลงมาจากข้างบน หลวงพ่อท่านต้องบอกมาแล้วอย่างแน่นอน"

เถรี 10-08-2020 20:12

"อีกเที่ยวหนึ่ง เขาทรายต่อยกับก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ เขาทรายล้ม ทุกคนว่าเขาทรายโดนหมัด เถียงกันอยู่นั่นแหละ หลวงพ่อท่านบอก "ไอ้บ้า..มึงดูใหม่สิ มันโดนขัดขา" อ๋อ...ใช่ ก้องธรณีสืบเท้าขึ้นหน้าจังหวะที่เขาทรายชักเท้าถอยหลัง เลยสะดุดล้ม สรุปว่าคนดูไม่รู้เรื่อง คนที่นอนพักอยู่อย่างหลวงพ่อท่านบอกละเอียดเลย"

เถรี 10-08-2020 21:39

พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นเอารูปพระ รูปยันต์พิมพ์ใส่เสื้อแล้ว เกรงใจเหลือเกิน ว่าเวลาซักจะปนกับกางเกงหรือเปล่า ?

รูปพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่มีสติสมบูรณ์ เคารพในพระรัตนตรัยจริง ๆ อย่าไปทำเป็นเสื้อเลย เผลอเมื่อไร ถ้าไม่วางต่ำ ก็จะเอาไปซักปนกับกางเกง

ถามว่าพระธรรมคืออะไร ? อย่างเช่นพุทธภาษิต บางคนก็ “อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ” มาเต็มหลังเลย บางท่านก็ลายมือหลวงตามหาบัว

เฮ้อ..เห็นแล้วน่ากลัว คนทำเขาอาจจะคิดว่าเท่ ลืมไปว่าคนใช้สติไม่สมบูรณ์ เผลอเมื่อไรก็เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย เพราะฉะนั้น เรื่องเลขยันต์ เรื่องพระพุทธรูป เรื่องพระธรรม เรื่องพระสงฆ์ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ อย่าไปทำใส่เสื้อผ้า ใส่หมวกอะไรเลย

สมัยโบราณ การที่วัตถุมงคลมีข้อห้ามอย่างโน้นอย่างนี้ ก็เพื่อช่วยสร้างสติให้กับคนที่เอาไปใช้"

เถรี 13-08-2020 19:55

พูดถึงเหรียญรูปพระ "เวลาสร้างพระ อาตมาไม่ชอบให้มีอักขระหรืออะไรอยู่เหนือเศียรพระ เหมือนอย่างกับว่าเราไม่เคารพ จะเอาอักขระเอาอะไรไว้ข้างใต้ หรือไว้ข้าง ๆ ก็ได้ แต่อย่าไปไว้ข้างบนเศียรพระ"

เถรี 13-08-2020 19:58

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงปู่ทวดเป็นพระนิรันตราย บารมีของพระโพธิสัตว์จะคุ้มครองคนที่ระลึกถึงท่าน ไม่ต้องมีเหรียญก็ได้ ว่าแค่คาถา "นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา"

แทบจะเป็นคาถาบทแรก ๆ ในชีวิตอาตมา จำได้ว่าตอนนั้นหลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ท่านหาเงินจะสร้างโบสถ์ โยมแม่ก็บูชาพระหลวงปู่ทวดมา ท่านก็เขียนคาถามาให้ด้วย ตอนนี้ไม่รู้ว่าพระองค์นั้นอยู่กับใคร

ที่บ้านมีรูปหลวงปู่ทวดติดอยู่ ไม่เคยเจอฟืนเจอไฟอะไรกับใครเลย ทั้ง ๆ ที่บ้านอยู่ในป่า ไฟป่าไหม้ทุกปี หลังคาแฝกหลังคาจากน่ากลัวจะตายไป เศษไฟมานิดเดียวก็เรียบร้อยแล้ว"

เถรี 13-08-2020 20:09

ถาม : กำหนดการนิมนต์หลวงพ่อบวงสรวงเช้า กี่โมงก็ได้ครับ ?
ตอบ : เช้ากี่โมงไม่ได้ เวลาเช้าต้องไม่เกิน ๙ โมง เช้ากี่โมงนี่บรรลัยเลย ถ้าเลย ๙ โมง เทวดาท่านไปเทวสภาหมด ถึงเวลาพระท่านมาแล้วจะให้ใครเขาดูแล ? ถึงเวลาท่านจะกำหนดว่าวัตถุมงคลชิ้นนี้ เทวดาท่านนี้ นางฟ้าท่านนี้ ช่วยดูแลหน่อย ไม่มีใครอยู่เลย แล้วจะสั่งให้ใครดูแล ?

เถรี 13-08-2020 20:24

พูดถึงหลวงพ่อมนัส "ได้หลวงพ่อมนัสรูปเดียวก็พอแล้ว ท่านเป็นรุ่นครูบาอาจารย์ สมัยก่อนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า “มนัสคนหนึ่ง ประดิษฐ์คนหนึ่ง พอบวชพวกนี้เสร็จ ก็กลายเป็นพระธุดงค์กันหมด”

สมัยบวชใหม่ ๆ กว่าพวกเราจะเข้าไปที่วัดทุ่งจันดำ (วัดคลองเกวียนลอย) เจ้าประคุณเอ๊ย....ถนนหนทางจะลำบากอะไรขนาดนั้น ขนาดรถโฟร์วีลยังติดหล่ม ท่านก็อุตส่าห์ไปอยู่ พอความเจริญเข้ามา ท่านก็หนีลึกเข้าไปเรื่อย เหมือนอย่างกับว่าท่านกลัวความเจริญ

วันก่อนเจอกัน ถามท่านว่า "ช้างเป็นอย่างไรบ้างครับ ?"
"ช้างอะไร ?"
"ที่ตกบ่อนะครับ"
"อ้อ...เห็นเหมือนกันหรือ ?"
"ก็เห็นหลวงพ่อไปช่วยลูกช้างอยู่"


ลูกช้างตกบ่อซีเมนต์ที่เขาขุดเอาไว้ ตัวบ่อกลม ๆ ลื่น ๆ ขึ้นไม่ได้ พวกแม่ช้างก็ส่งเสียงร้อง หลวงพ่อมนัสท่านได้ยินก็เลยไปช่วย ไม่ได้เจ็บอะไรหรอก ตกลงไปเฉย ๆ ขึ้นไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะว่าบ่อซีเมนต์กลม ๆ ช้างไม่มีที่จะเหยียบ

พวกช้างนี่เผลอเมื่อไรก็เก็บค่าผ่านทาง มาดักรถบรรทุก พวกรถบรรทุกผักผลไม้หรืออ้อยมา โดนเก็บค่าผ่านทางหมด ไม่ให้กิน ช้างไม่ให้ผ่านด้วย อะไรจะฉลาดปานนั้น ยืนขวางถนน พอรถไปไม่ได้ ก็เอางวงล้วงกินเลย"


เถรี 13-08-2020 22:15

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว ดร.พระครูโรจน์ถวายมาหนึ่งแสนบาท บอกว่าเป็นส่วนที่เป็นกำไรจากการจำหน่ายวัตถุมงคล อาตมาก็เลยเอาสร้างพระทองคำให้ท่านไปเลย ตามไปตรวจสอบบัญชีได้ เงินทุกบาททุกสตางค์ไม่เคยอม

ขนาดขอเบิกเงิน ๖๐ ล้านบาท นัดแล้วทางธนาคารเขามาไม่ทัน อาตมาก็ไม่รอเขา ไปก่อนแล้วกัน เล่นเอาผู้จัดการธนาคารจะช็อกตาย "แล้วผมจะทำอย่างไร ?" "เจอหน้าใครก็ฝาก ๆ เขาไว้ในวัดนั่นแหละ" กลับไปอีกคราวหนึ่ง กราบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ "ผมมัวแต่รอตำรวจอยู่ครับหลวงพ่อ" "เออ..รอไปเถอะ ถ้าเลยเวลาข้าก็ไปแล้ว"

เขาเอาตัวรองผู้กำกับไปคุมรถขนเงิน รองผู้กำกับเขาก็ถามว่า "เงินจำนวนสักเท่าไรครับ ถึงขนาดต้องใช้ตำรวจ ?" ทางธนาคารเขาบอกว่า "แจ้งยอดไม่ได้ครับ เป็นความลับของลูกค้า" พอรองผู้กำกับเจอหน้า "ตกลงยอดเงินเท่าไรครับหลวงพ่อ ?" บอกท่านว่า "เกิน ๕๐ ล้าน" "หา...แล้วหลวงพ่อให้ฝากเขาไว้นะ..!" "เออ..!"

เขาเอารถนำไป ๑ คัน มอเตอร์ไซค์สายตรวจตามหลังอีก ๒ คัน รองผู้กำกับก็นั่งอยู่ในรถธนาคาร ปรากฏว่าขนเงินไปถึง เจ้าอาวาสหนีไปแล้ว คนเบิกไม่อยู่รับเงิน บอกแล้วว่านัดไว้บ่ายโมง พอบ่ายโมงไม่มาอาตมาก็ไปเลย งานรออยู่ข้างหน้า เดี๋ยวจะไปไม่ทันเวลา

เรื่องงานของพระ อาตมามั่นใจอยู่อย่างเดียวว่า ข้าวของอะไรที่จำเป็น ไม่มีทางที่จะสูญหายไปได้หรอก"


เถรี 13-08-2020 22:25

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถามว่าสมเด็จพลิกชีวิตดีแค่ไหน ? ไม่รู้..? รู้อย่างเดียว...มีโยมแขวนเดี่ยว..องค์เดียวเที่ยวทั่วโลก ตอนแรกว่าจะเอาเหรียญพุทธบารมีสุริยันทรงกลด เขาบ่นว่าหนัก คนที่สัมผัสพลังได้นี่ ต่อไปจะมีปัญหา...คือรักพี่เสียดายน้อง

ส่วนอาตมานะหรือ ท่านบอกว่าสมเด็จองค์ปฐมเขียวเหล็กไหลก็เขียวเหล็กไหล
อย่างอื่นดีแค่ไหนอาตมาก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก..เอาแค่ที่พระท่านสั่ง

เพราะว่าภาวะสงครามที่ทุกคนกลัว เกิดขึ้นแล้วนะ ท่านย่าบอกว่าข้างบนเตรียมพร้อมหมดแล้ว คราวนี้พวกเราไม่รู้กัน ทำไมสหรัฐฯ ถึงไฟไหม้เรือบรรทุกเครื่องบิน ไฟไหม้ที่โน่นที่นี่ แล้วแต่ละครั้งที่ไหม้บอกว่าไม่รู้สาเหตุ เป็นเพราะอะไร ? เทคโนโลยีระดับสหรัฐฯ ไฟไหม้แล้วดับไม่ได้ ๒ วัน ๓ วัน ?

แล้วทำไมอยู่ ๆ ทำไมเรือสินค้าของอิหร่าน ๗ ลำ โดนไฟไหม้ ? ทำไมอยู่ ๆ ตุรกีสั่งตุนทองคำ ๑๔๐ ตัน ? ภาวะสงครามมีทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย สงครามเปิดเผยก็คือสงครามการค้า ที่สหรัฐพยายามจะกลั่นแกล้งจีนทุกวิถีทาง ทางด้านยุโรปบางประเทศก็เอาด้วย เพราะว่าทางด้านยุโรปอเมริกาถือว่าเขาเป็นผู้เจริญกว่า เขารับไม่ได้ที่ผิวเหลืองจะยิ่งใหญ่กว่า แต่ถ้าหากนับประวัติศาสตร์ราชวงศ์ซาง ๗,๐๐๐ กว่าปี อเมริกาเพิ่งจะ ๒๐๐ กว่าปี"

เถรี 13-08-2020 22:26

"อย่างวันก่อนเขามีรูปที่แชร์กันอยู่ในไลน์ ทีมคณิตศาสตร์อเมริกันชนะเลิศคณิตศาสตร์โอลิมปิก เฉือนประเทศจีนไปได้ ถ่ายรูปมาให้ดู ๕ คน อาตี๋อาหมวยล้วน ๆ เชื้อสายอเมริกันจีนทั้งนั้น

สรุปก็คือ ร้อยเผ่าพันธุ์มังกร อยู่ที่ไหนก็ฉลาดเกินมนุษย์มนา เป็นเราก็จะคลั่งตาย มีแต่ตาตี่ ๆ ผมดำ ๆ ชนะเลิศคณิตศาสตร์โอลิมปิกในนามสหรัฐอเมริกา

ในเมื่อรับไม่ได้ ก็พยายามก่อกวนให้จีนสะดุดให้ได้ โดยเฉพาะจีนพยายามหามิตรทั่วโลก แต่สหรัฐทำตัวเป็นนักเลงโต ไม่พอใจใครก็แซงชั่น ปิดล้อมทางเศรษฐกิจ"

เถรี 13-08-2020 22:29

พระอาจารย์กล่าวว่า "พอคนรุ่นเก่าล้มหายตายจากไป คนรุ่นใหม่ก็เข้าใจความหมายผิด เนื้อหาก็ผิด ร้อยชู้หรือจะสู้เนื้อเมียตน เขาก็บอกว่า ร้อยชู้หรือจะสู้น้องเมียตน ถ้าน้องเมียเป็นผู้ชายก็เจริญ...!

บางทีเห็นหนังสือรุ่นใหม่ ๆ แล้วอาตมาก็เครียดแทน เราเกิดนานไปหรืออย่างไรวะ ? บางอย่างเขาเข้าใจผิดแล้วก็ไปเรื่อยเปื่อย อย่างปัจจุบันนี้ "หลับใหล" ใช้ไม้ม้วนหมดเลย ส่วนใหญ่ผิดด้วยคอมพิวเตอร์ "หลับไหล" ต้องไม้มลาย ไหลก็คืออาการที่ทำนี่ทำโน่นไปโดยที่ตัวเองขาดสติ ที่มีระยะหนึ่งเขาเรียกว่า ไหลตาย"

เถรี 13-08-2020 22:46

ถาม : หนูไปนั่งสมาธิที่วัดพระแก้ว หนูได้ยินเสียงบอกว่า "ถ้าเธอทุกข์ ให้คิดถึงพระพุทธเจ้า แล้วเธอจะได้ไป" วันนั้นเป็นวันธรรมสวนะพอดีค่ะ หนูก็ไปอ่านธรรมะเจอบทหนึ่งที่ตรงกับข้อเสียของหนูมาก และท่านก็กำลังเทศน์เรื่องนี้พอดี พี่เต้ยบอกว่า ต้องระวังไว้ ว่าเป็นมารมาดลใจหรือเปล่า หนูควรแยกอย่างไรคะ ?
ตอบ : งานนี้ไอ้เต้ยเป็นมาร...! คือพอเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับเรา แล้วเขาก็พาให้เสีย เรื่องของมารเขาใช้คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัวเป็นเครื่องมือได้หมด อะไรที่ตรงกับกำลังใจของเราตอนนั้น ทำให้ใจของเราดีขึ้น ทำให้เกิดความสงบทางกาย ทางวาจา ทางใจ ให้ทำไปเลย ต่อให้มารแนะนำก็ทำไป เพราะว่าดีกับเรา แต่ถ้าหากว่าทำไปแล้ว ทำให้กาย วาจา ใจของเราแย่ลง เลวลง มั่นใจได้เลยว่านั่นไม่ดี เพราะฉะนั้น...งานนี้ไอ้เต้ยเป็นมาร..!

เถรี 14-08-2020 21:16

เรื่องของมารที่โยมมัวแต่ระแวงสงสัยอยู่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งของเขา ให้สังเกตอย่างที่อาตมากล่าวไปแล้วก็คือ ถ้าทำแล้ว กาย วาจา ใจ ของเราดีขึ้น รัก โลภ โกรธ หลง น้อยลง ให้ทำไปเลย เพราะว่าเรื่องของมาร ส่วนใหญ่แล้วที่จะขวางเราได้ ก็คือช่วงท้ายที่จะเข้ามรรคเข้าผล ไม่ใช่ไอ้ประเภทเด็กกะโปโล ยังไม่เอาไหนอย่างเรา เขาไม่เสียเวลามาขวางหรอก

อย่าลืมว่ามารสูงกว่าเทวดานะ เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรัหมุนา วา เทวดาก็ดี มารก็ดี พรหมก็ดี มารอยู่สวรรค์ชั้นที่ ๖ สูงกว่าเทวดาทั้ง ๕ ชั้น เพียงแต่ว่านิสัยของท่านไม่ค่อยอยากเห็นใครได้ดีกว่า เหมือนอย่างกับว่าแนะนำเราให้ทำมาหากิน ถ้ารวยขนาดมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กูจะแกล้งให้มึงล้มละลาย แบบนั้นก็ทำไปเลย ก่อนถึงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก สักล้านสองล้านเราก็หยุดก่อน หมดเรื่องไป

เถรี 14-08-2020 21:17

อาตมาบอกมาหลายสิบ ปีแล้วว่า มารไม่ใช่ศัตรู แต่มารเป็นครูที่ดีที่สุด เพราะว่าเขาทดสอบเราทุกเวลา ทุกนาที ทุกวินาที ทุกที่ทุกทาง ทั้งหลับทั้งตื่น ถ้าเราก้าวผ่านได้ จะไม่แพ้ตรงจุดนั้นอีก เพราะฉะนั้น...การเป็นครู ถ้าออกข้อสอบให้ลูกศิษย์ทำ แล้วลูกศิษย์โง่ สอบตกเอง จะไปโทษครูได้อย่างไร ?

เถรี 14-08-2020 21:19

ถาม : เหรียญกองทุนมีอานุภาพด้านไหนครับ ?
ตอบ : อะไรนะ ?

ถาม : เหรียญกองทุนที่เป็นดาว ๖ แฉก มีอานุภาพด้านไหนครับ ?
ตอบ : มีอานุภาพด้านดูดทรัพย์ เพราะว่าคนที่จะมีได้ จะต้องเป็นกรรมการกองทุนหลวงปู่ปาน - พระมหาวีระ ถาวโร จ่ายเงินก้อน เขาเรียกว่าเหรียญราชมิตราภรณ์ ดันไปเรียกเหรียญกองทุน เดี๋ยวก็เจอเหวี่ยงหงายท้อง...!

ถาม : ดูดทรัพย์อะไรครับ ?
ตอบ : ก็ดูดทรัพย์ของเราไปเข้ากองทุน ถ้าใครมีก็ถือว่าเป็นคนเก่าคนแก่อย่างแท้จริง และทำประโยชน์ให้กับวัดท่าซุงอย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นแล้วหลวงพ่อท่านไม่แจกให้หรอก

เถรี 14-08-2020 21:36

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมที่ถวายทองคำสร้างพระพุทธรูป พิจารณาให้ดี ๆ นะ สมัยนี้สิ่งที่ท่านถวายมาเป็นของปลอมเยอะมาก โดยเฉพาะพวกโลหะสเตนเลสชุบทอง ส่วนอันที่เป็นลักษณะขึ้นรูปแบบทองคำแท่งของจีน หรือหยวนเป่า นั่นเป็นแค่กระดาษแข็ง แล้วด้านนอกเป็นกระดาษสีทองเท่านั้น ท่านเองก็ถวายมาด้วยความปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าได้ร่วมหล่อพระแล้ว ส่วนอาตมาเองเอาไปทำอะไรไม่ได้เลย

ตอนแรกก็คิดว่ายังพอจะมีทองเคลือบอยู่ด้านนอกบ้าง ปรากฏว่าด้านนอกเป็นแค่กระดาษสีทองเฉย ๆ ลักษณะเป็นกระดาษเหนียว กึ่ง ๆ เรซิ่นหรือพลาสติก แล้วส่วนใหญ่ก็จะใส่ตลับพลาสติกในรูปหยวนเป่า แล้วก็บรรจุในกล่องยี่ห้อร้านของเขา ผูกโบว์มาอย่างดี เป็นแค่ของมงคลที่แจกกันในช่วงเทศกาล อย่างเช่นตรุษจีน แต่ไม่ใช่ทองคำจริง ๆ ส่วนที่เป็นสเตนเลส เอาไปหลอมแล้วไม่ละลาย ช่างเขาส่งคืนมาเป็นห่อ อาตมาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็คงต้องบรรจุในองค์พระไป"


เถรี 14-08-2020 21:37

"ส่วนอีกหลายท่านสละแหวนมาเพื่อหล่อพระ แต่เป็นหัวเพชรบ้าง หัวพลอยบ้าง ไม่สามารถที่จะหล่อได้ เพราะว่าถ้าลงเบ้าไปก็ระเบิดหมด จะทำบุญอะไรโปรดใช้ปัญญาประกอบด้วย ศึกษาให้ดี ไม่ใช่สร้างภาระให้กับทางพระอย่างเดียว

อย่างเมื่อวานนี้ อาตมาต้องการเม็ดเงินสำหรับหล่อพระ โยมก็เอาถ้วยโถโอชามที่เป็นเครื่องเงินมา แล้วก็ไม่ใช่เงินแท้ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นอัลปาก้า คือทองแดงขึ้นรูปแล้วชุบเงิน ก็ถวายมาด้วยความปลื้มใจเป็นลัง ๆ อาตมาก็ได้แต่บ่นเป็นภาษาวัยรุ่นว่า น้ำตาจิไหล..!"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:06


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว