กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ภาพอื่น ๆ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=16)
-   -   ภาพความประทับใจ (เรารักพ่อหลวง) (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1546)

ชยาคมน์ 12-12-2011 08:01

4 Attachment(s)
พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่คุกเข่าคุยกับประชาชนมากที่สุดในโลกครับ

ชยาคมน์ 12-12-2011 08:13

2 Attachment(s)
ในหลวงใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา แต่ที่แตกต่าง คือ "พระองค์ประหยัดกว่าเรามาก"

เถรี 12-12-2011 08:30

5 Attachment(s)

เถรี 13-12-2011 11:12

5 Attachment(s)

ป้านุช 20-12-2011 09:32



ทรงครองดวงใจไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินไปทั่วโลกเลย... :d16c4689:

http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...38784776_n.jpg

ป้านุช 20-12-2011 09:39


ป้านุช 20-12-2011 09:42


ป้านุช 20-12-2011 09:48

...เช้า สาย บ่าย ค่ำ ทรงประทับยืนเคียงข้างประชาชนของพระองค์ตลอดมา...

http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...97273751_n.jpg


http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...94878921_n.jpg


http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...56284564_n.jpg

...นี่แหละพระราชาของฉัน...

ป้านุช 21-12-2011 02:12



“ขอเป็นฐานรองบาทราชวงศ์ ด้วยจำนงจงรักและภักดี”

นี่คือข้อความที่เขียนไว้ที่ฐานของรอยพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พ่อหลวงของคนไทย ที่ค่ายเม็งรายมหาราช ซึ่งถือเป็นรอยพระบาทในหลวงหนึ่งเดียวในเมืองไทย

สำหรับที่มาของการก่อกำเนิดรอยพระบาทในหลวงแห่งนี้ คงต้องย้อนไปในอดีต ยุคที่เมืองไทยยังคงมีความขัดแย้งทางแนวคิดทางการเมืองอย่างชัดเจน

ครั้งนั้นบนดอยพญาพิภักดิ์ บนพื้นที่ดอยยาว-ดอยผาหม่น ใน อ.เทิง จ.เชียงราย นับเป็นพื้นที่สีแดงที่มีการรบพุ่งกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งทางรัฐบาลได้ส่งกองกำลังไปปราบปรามเรื่อยมา ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๐ จนในปีพ.ศ.๒๕๒๔ พ.ท. วิโรจน์ ทองมิตร ผบ.ร. ๑๗ พัน ๓ ได้นำกำลัง(พัน ร. ๔๗๓) เข้าปฏิบัติการในพื้นที่ดอยยาว-ดอยผาหม่น ตามแผนการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ จนเกิดเป็นยุทธการยึดเนิน ๑๑๘๘ บนดอยพญาพิภักดิ์ขึ้น ยังผลให้สามารถปราบปรามคอมมิวนิสต์ในพื้นที่นั้นได้สำเร็จในที่สุด

แต่ว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ต้องสูญเสียเหล่าทหารหาญที่พลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยไปจำนวนมาก โดยอัฐิของทหารส่วนหนึ่งได้ถูกนำมาบรรจุไว้ในอนุสาวรีย์ผู้เสียสละที่ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารหาญ ในวันที่ ๒๗ ก.พ. ๒๕๒๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จไปเยี่ยมเยียนเหล่าทหารหาญและราษฎร ณ ฐานปฏิบัติการดอยพญาพิภักดิ์ บนดอยยาว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาพระราชทานประทับ “รอยพระบาท” ของพระองค์ลงบนแผ่นปูนปลาสเตอร์ที่ทางทหารได้เตรียมไว้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารหาญที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ

ในปัจจุบันนี้รอยพระบาทบนปูนปลาสเตอร์นั้นได้ถูกนำมาเก็บไว้ที่ศาลา รอยพระบาท ณ ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย โดยเดิมทีนั้นรอยพระบาทของในหลวงนั้นจะเป็นที่รู้กันในหมู่ทหารค่ายเม็งรายฯ แต่เมื่อทหารเปลี่ยนนโยบายจาก “เขตทหารห้ามเข้า” มาเป็น “เขตทหารยินดีต้อนรับ” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวและรู้จักวิถีชีวิตในรั้วสีเขียว

เรื่องราวของ“รอยพระบาทในหลวงที่ถือได้ว่ามีหนึ่งเดียวในเมืองไทย ก็มีคนเดินทางไปชมและสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมี “รอยพระบาทในหลวง” ให้สักการะแล้ว ในเขตค่ายฯ เม็งรายและบริเวณใกล้เคียง ก็ยังมีจุดต่าง ๆ ให้เลือกเที่ยวชมและทำกิจกรรมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดพระธาตุดอยทอง ที่มีพระธาตุดอยทอง สีทองเหลืองอร่าม สำหรับพระธาตุองค์นี้ต้องขึ้นดอยเล็ก ๆ ไป โดยบนนั้นนอกจากพระธาตุดอยทองแล้ว ยังมีเสาสะดือเมืองที่แปลกกว่าที่ไหน ๆ คือมีถึง ๑๐๘ ต้น และยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นบางส่วนของเชียงรายได้อย่างสวยงาม

เถรี 22-03-2012 21:11

http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...76545695_n.jpg

ภาพหายากอีกภาพหนึ่งค่ะ

นางมารร้าย 30-03-2012 15:43

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1333096751

รูปนี้ดูแล้ว อารมณ์ดีสุด ๆ เลยค่ะ

ชยาคมน์ 02-04-2012 19:33

http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...11990009_n.jpg

ภาพประทับใจครับ

ป้านุช 30-04-2012 23:01

อีกหลาย ๆ ความประทับใจ ที่ดูแล้ว :baa60776::d33561e9:











ป้านุช 22-05-2012 09:11

อีกเรื่องราวดี ๆ ที่ควรเปิดเผย จากท่านองคมนตรี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net...96922539_n.jpg

เล่าเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ที่รับทราบจากคณะแพทย์ที่เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด
นั่งฟังใจจดจ่อ น้ำตื้นรื้นตื้นตันใจเหลือเกิน

ในหลวงของเรากำลังทรงหายจาก"พระอาการประชวรแล้ว"

ตอนนี้สามารถเดินได้เองถึง ๕๐ ก้าวโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง
มีคณะแพทย์คอยระวังดูแลอย่างใกล้ชิด
พระองค์ท่านห้ามใครช่วยพยุงด้วย

ทราบข่าวจากบุคคลที่ใกล้ชิดพระองค์ว่าหายแล้วแน่ ๆ
เพราะทรงดุคนได้แล้ว พระสุรเสียงดังฟังชัด
อีกไม่นาน อีกไม่นานแล้วในหลวงของเราจะเสด็จออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงมีพระพลานามัยสดใสแข็งแรง
เสด็จไปไหนต่อไหนได้ดังใจปรารถนา
เหนือผืนแผ่นดินใต้ผืนแผ่นฟ้า ทุกแห่งในหล้า
ที่พ่ออยากยาตราไป...

ควรมิควรแล้วแต่จะทรงโปรด
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ พระพุทธเจ้าข้า


(ข้อความส่งต่อจาก fb)

ป้านุช 25-05-2012 17:12


ป้านุช 25-05-2012 17:35

พระสหายแห่งสายบุรี

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net...76139264_n.jpg


"...ให้วาเด็งทำตัวให้สบาย
มีอะไรที่ชาวบ้านเดือดร้อน ก็ให้เล่ามาตามความจริง..."

"...วาเด็งเป็นคนซื่อตรง
จึงขอแต่งตั้งให้วาเด็งเป็นเพื่อนของในหลวง..."


ประวัติ:วาเด็ง ปูเต๊ะ หรือ "เป๊าะเด็ง"
หรือที่รู้จักกันในนาม "พระสหายสายบุรี"

ย้อนไปเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๕ เมื่อในหลวงได้เสด็จไปดูโครงการพัฒนาพรุแฆ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงทำให้เป๊าะเด็งและพสกนิกรในพื้นที่แถบนั้นทุกคน ได้พ้นจากความทุกข์ยากในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม

นอกจากการทูลเกล้าฯ ถวายข้อมูลในพื้นที่แล้ว เป๊าะเด็งได้ถวายที่ดินผืนหนึ่ง เพื่อให้ในหลวงได้ทำโครงการพระราชดำริ จึงทำให้เป๊าะเด็งได้กลายมาเป็น "พระสหาย" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตที่น้อยคนจะได้รับ

เรื่องเกิดขึ้นในวันที่เป๊าะอยู่บ้าน ทำสวนอยู่กับภรรยา มีคุณหญิงคนหนึ่งมาบอกว่า

"ในหลวงภูมิพล"ต้องการพบตัว แต่ภรรยาของเป๊าะเด็งไม่กล้าไปพบ จนกระทั่งเป๊าะเลี้ยงโคกลับมา ก็มีตำรวจมาตามเป็นครั้งที่สอง เป๊าะตกใจมากว่าตำรวจมาตามเรื่องอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด

จนกระทั่งสื่อสารกันเข้าใจว่าในหลวงต้องการมาสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร เป๊าะถึงกล้าไปพบ

แต่ตอนนั้นเป๊าะยังไม่ค่อยเชื่อว่าพระองค์จะเข้ามาอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ จึงคิดว่าคนที่มาบอกโกหก ขนาดมาพบพระองค์แล้วเป๊าะก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นในหลวงจริงหรือเปล่าจึงแอบหยิบเงินใบละ ๑๐๐ บาทและใบละ ๒๐ บาทขึ้นมาดู

จึงแน่ใจว่าเป็นพระองค์เสด็จฯ มาจริง ๆ ตอนแรกที่พบในหลวงเป๊าะไม่กล้าเข้าไปใกล้ ๆ เพราะตอนนั้นนุ่งโสร่งตัวเดียว เสื้อก็ไม่ได้ใส่ด้วย แต่พอเข้าไปใกล้ ๆ ในหลวงก็ตรัสเป็นภาษามลายูว่า "จะสร้างคลองชลประทานให้"

หลังจากนั้นในหลวงก็ทรงสอบถามเส้นทางการขุดคลอง และข้อมูลในพื้นที่อื่น ๆ พระองค์ยังตรัสชมว่า
"วาเด็งเป็นคนรู้พื้นที่จริง"

วันรุ่งขึ้น ข้าราชการที่มารับเสด็จก็ต้องตกตะลึงไปตาม ๆ กัน เมื่อพระองค์ทรงรับสั่งให้เป๊าะพายเรือให้พระองค์เพื่อทำการสำรวจคลองสายทุ่งเค็จ โดยพระองค์มีพระราชดำรัสถาม พร้อมเปิดแผนที่เพื่อให้รู้ว่าจะสร้างแหล่งชลประทานอย่างไร ตอนพายเรืออยู่ ในหลวงทรงตรัสว่า "ให้วาเด็งทำตัวให้สบายมีอะไรที่ชาวบ้านเดือดร้อนก็ให้เล่ามาตามความจริง"
จากนั้นในหลวงทรงลองใจเป๊าะ จึงตรัสถามขอที่ดินเพื่อทำโครงการพระราชดำริ ด้วยความปลาบปลื้มเป๊าะจึงขอยกที่ดินถวายให้พระองค์ทันที ในหลวงจึงแย้มพระสรวล และมีพระราชดำรัสว่าให้เป๊าะเป็น "พระสหาย" ตั้งแต่บัดนั้น

ในหลวงทรงตรัสเรื่องนี้ว่า "วาเด็งเป็นคนซื่อตรง จึงขอแต่งตั้งให้วาเด็งเป็นเพื่อนของในหลวง"พร้อมทรงชวนให้เป๊าะและภรรยาเดินทางไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ และเมื่อพระองค์เสด็จฯ มาสามจังหวัดก็เรียกให้เข้าเฝ้าที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ทุกครั้ง

ต่อมาในหลวงทรงสงสารจึงมอบเงินให้เป๊าะครั้งละหลายหมื่นบาท หากไม่ได้เสด็จฯ มาก็ทรงฝากเงินมากับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แทบทุกครั้ง
โดยล่าสุด ในหลวงทรงตรัสว่าให้วาเด็งหยุดทำงานได้แล้ว เพราะแก่แล้วอายุมากแล้ว

ทรงเป็นห่วงสุขภาพวาเด็ง กลัวว่าทำงานหนักจะไม่สบาย เป๊าะก็นั่งทบทวนคำตรัสของพระองค์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มด้วยความภาคภูมิกับคำว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"

นอกจากละหมาดขอพระผู้เป็นเจ้าเป๊าะยังเดินทางจาก จังหวัดนราธิวาส มาเยี่ยมพระอาการประชวรของในหลวงถึงโรงพยาบาลศิริราชด้วย

เป๊าะเด็งถือเป็น "แบบอย่างของคนที่ซื่อสัตย์ เจียมเนื้อเจียมตัวและใช้จ่ายอย่างประหยัด" เพราะต้องการทำตัวให้เป็นแบบอย่างตามพระราชดำรัสของในหลวง ที่รู้จักกินรู้จักใช้ตามวิถีทางชุมชนชนบทกับเศรษฐกิจพอเพียงของชาวบ้านจนถึงทุกวันนี้

และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ดีใจและปลาบปลื้มใจมากที่สุด คือ พระสหายแห่งสายบุรีได้มีโอกาสเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งในฐานะ "พระสหายแห่งสายบุรี" และ "ตัวแทนพี่น้องมุสลิม"ในสามจังหวัดชายแดนใต้ทุก ๆ คน

ป้านุช 25-05-2012 19:00


ป้านุช 27-05-2012 02:27


เถรี 29-05-2012 19:10


ป้านุช 31-05-2012 08:25


ป้านุช 31-05-2012 08:35


ป้านุช 18-06-2012 15:24

เรื่องเล่าของ “ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช” ที่ “สร้อยสรวง แสนสุรศิลป์” ย่นย่อมาเล่าไว้ในเฟซบุ๊ค
ว่าด้วยช้างเผือกคู่พระบารมีของในหลวงกับหมาน้อยตัวหนึ่ง


***********************************************

“เมื่อคุณพระเศวตฯ ยังเป็นลูกช้างเล็ก ๆ อยู่ที่บ้านกำนันในจังหวัดยะลา และยังไม่ได้ถวายตัวขึ้นระวางนั้น ปรากฏว่านางเบี้ยว (สุนัข) เป็นโรคอย่างหนักขนาดชักกระตุกไปทั้งตัว แทบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว แต่ก็สู้อุตส่าห์กระเสือกกระสนคลานมาถึงที่คุณพระเศวตฯ อยู่และเลียกินน้ำอาบของคุณพระเศวตฯ... เข้าไป อาการป่วยทั้งปวงก็หายเป็นปกติ เดินเหินได้ตามเดิม รอดชีวิตมาได้

นางเบี้ยวก็กตัญญูรู้คุณ ติดตามคุณพระเศวตฯ เรื่อยมา ไม่ยอมห่าง คุณพระก็เมตตาเอ็นดูนางเบี้ยวถือว่านางเบี้ยวเป็นหมาของคุณพระ

เมื่อถึงคราวที่คุณพระเศวตฯ จะต้องเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ เพราะเป็นช้างต้นขึ้นระวางแล้ว ทั้งคุณพระเศวตฯและนางเบี้ยวก็ทุรนทุรายเดือดร้อนมาก นางเบี้ยวร้องทั้งกลางวันและกลางคืนจะตามคุณพระมาด้วย

เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงมีพระราชกระแส ว่า ช้างทั้งตัวยังเอาไปได้ ทำไมหมาอีกตัวเดียวจะเอาไปไม่ได้ ให้เอาหมาไปด้วยเถิด สงสารมันอย่าไปพรากมันเลย

นางเบี้ยวติดตามเข้ามาอยู่กับคุณพระเศวตฯ เล็กในสวนจิตรลดาด้วย และเป็นที่รักชอบของคนในวัง เมื่อเข้ามาอยู่ในรั้วในวังก็เลื่อนฐานะขึ้นเป็นแม่เบี้ยว บางคนเรียกคุณเบี้ยวด้วยซ้ำไป และได้ออกลูกออกหลานไว้ที่โรงช้างนั้นเป็นจำนวนมาก

แม่เบี้ยวตายไปหลายปีแล้ว แต่คุณพระเศวตฯ ก็ยังเลี้ยงลูกหลานแม่เบี้ยวสืบมา เวลาคุณพระเศวตฯ ออกเดินในสวนจิตรลดาหมาคุณพระทั้งปวงก็วิ่งตามเป็นฝูงและเชื่อฟังคุณพระทุกอย่าง


เมื่อครั้งพระนางเจ้าอลิซาเบธแห่งกรุงอังกฤษเสด็จพระราชดำเนินที่พระตำหนักจิตรลดา คุณพระเศวตฯ ก็มายืนคอยรับเสด็จ หมาทั้งปวงของคุณพระก็มาวิ่งเล่นกันอยู่เต็มสนาม

ผมบังเอิญไปเห็นเข้าก็เข้าไปกระซิบคุณพระว่า หมากระจัดกระจายเต็มทีแล้ว คุณพระได้ยินดังนั้น ก็ร้องเหมือนเสียงแตร หมาทั้งปวงก็วิ่งกลับมารวมกันอยู่บริเวณต้นไม้ใกล้ ๆ คุณพระ ไม่ซุกซนต่อไป มีอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งคุณพระออกจะรักมาก วิ่งเข้ามาอยู่ใต้ท้องคุณพระ อาศัยคุณพระเป็นร่มบังเงา

ควาญเล่าว่า เวลากลางคืนหมาหลายสิบตัวเหล่านี้ จะนอนแวดล้อมคุณพระ
ใครเดินเข้าไปในเวลากลางคืนก็จะเห่าขึ้นพร้อมกัน และถ้าใครขืนเดินตรงไปถึงตัวคุณพระก็คงโดนหมารุมกัดแน่ ๆ

คุณพระเศวตฯ เล็ก มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างน่าอัศจรรย์
แลเห็นพระองค์ต้องยกงวงขึ้นจบถวายบังคมทุกครั้งโดยไม่ต้องมีใครบอก
และถ้าเสด็จพระราชดำเนินลงไปเยี่ยมที่โรงช้าง คุณพระก็จะเฝ้าฯ ไปและถวายบังคมไปเป็นระยะไม่มีขาด

จนพระกรุณาตรัสว่า ไม่ต้องถวายบังคมบ่อยถึงเพียงนั้น คุณพระจึงจะหยุดถวายบังคม”

ป้านุช 22-06-2012 08:07

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net...75880246_n.jpg
ชุดของพระราชา

ป้านุช 22-06-2012 08:17


ป้านุช 22-06-2012 08:19


ป้านุช 22-06-2012 08:25

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net...48898304_n.jpg

เกร็ดความรู้ของฉลองพระองค์รบพิเศษทบ.ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

๒๕-๐๕-๒๕๕๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนิน
เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ทุ่งมะขามหย่องในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ฉลองพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันนี้
คือเครื่องแบบปกติกากีแกมเขียวคอพับแขนยาว
หมวกทรงอ่อนสีแดง และสายยงยศแดง
ซึ่งเป็นเครื่องแบบของหน่วยรบพิเศษ กองทัพบก
และทรงฉลองพระยศจอมพลแห่งกองทัพบกไทย
ตามสถานะของพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นจอมทัพไทย
และทรงพระยศ จอมพล, จอมพลเรือ, จอมพลอากาศ
หน่วยรบพิเศษ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือ กองกำลังพิเศษ

เป็นทหารที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีโดยกองทัพ
ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นสามารถปฏิบัติภารกิจพิเศษเช่น
การลาดตระเวนพิเศษ สงครามนอกแบบ และการต่อต้านการก่อการร้าย

ที่มา fb

สุดใจ 22-06-2012 13:25

1 Attachment(s)

http://www.youtube.com/watch?v=lHV1D9q0_HY

Kseniya Simonova ศิลปินวาดทรายชาวยูเครน
วาดทรายเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทย
ดูจบแล้วน้ำตาไหล ขอแบ่งปันให้คนไทยได้ดูอย่างทั่วถึง

:fea27916::fea27916::fea27916:

ป้านุช 26-06-2012 01:18

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net...58664357_n.jpg

ระหว่างเวลาที่ในหลวงประทับอยู่ในทวีปยุโรป ต้นเดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๙๑ รถยนต์พระที่นั่งที่ซึ่งในหลวงภูมิพลขับด้วยพระองค์เองประสบอุบัติเหตุร้ายแรง เป็นเหตุให้ต้องเสด็จไปประทับในโรงพยาบาลเป็นเวลานานหลายวัน ข่าวอุบัติเหตุครั้ง...นั้นทำให้ผู้คนทางเมืองไทยวิตกทุกข์ร้อนกันมาก
ด้วยทรงเป็นความหวังของคนไทยทั้งแผ่นดิน

ปี ๒๔๙๒ หลังจากอาการประชวรเนื่องจากอุบัติเหตุค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ คนไทยทั้งแผ่นดินก็ได้รับทราบข่าวอันเป็นมงคลด้วยความปลื้มปีติ นั่นคือ ในหลวงทรงได้มีการชอบพอพระทัยกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร พระธิดาของพลเอกพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถและท่านผู้หญิงหม่อมหลวงบัว กิติยากรฯ จนในที่สุดก็ได้ทรงมีพิธีหมั้นกัน ในเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒

ป้านุช 03-07-2012 20:22

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net...67191883_n.jpg

ข่าวด่วนที่ดีที่สุด

เตรียมรับชมพระบารมีได้อีกแล้ว วันที่ ๗ กรกฎาคม(เสาร์นี้)

กรมชลประทาน ๒ ก.ค.


เจ้าหน้าที่กรมชลประทานเตรียมพร้อมรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน
เปิดโครงการชลประทานอันเนื่องพระราชดำริ ๕ โครงการ ในวันที่ ๗ กรกฎาคม

บริเวณท่าน้ำกรมชลประทาน สำนักงานใหญ่ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่กรมชลประทานต่างเร่งมือปรับปรุงทัศนียภาพบริเวณท่าน้ำ ทาสีตัวอาคารใหม่
ให้พร้อมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนิน
เปิดโครงการชลประทานอันเนื่องพระราชดำริ ๕ โครงการ ในวันที่ ๗ กรกฎาคม

ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมเวทีเหล็กเพื่อติดตั้งจอฉายภาพขนาดใหญ่บริเวณริมท่าน้ำกรมชลประทาน
ซึ่งจะถ่ายทอดการเปิดโครงการชลประทานอันเนื่องพระราชดำริ ๕ โครงการ
ได้แก่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก
ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ จ.นครศรีธรรมราช ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต จ.นครพนม
และอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ จ.กาฬสินธุ์

โครงการทั้งห้าจะเป็นส่วนสำคัญในการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้เป็นอย่างดี
โดยเป็นส่วนหนึ่งในกว่า ๒,๐๐๐ โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริ
เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้ประชาชน.

-สำนักข่าวไทย

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

(หลังหายพระประชวรแล้ว ทรงงานทันทีจริง ๆ)

ป้านุช 06-07-2012 21:26


ป้านุช 10-07-2012 12:16


ป้านุช 11-07-2012 00:34


ป้านุช 20-07-2012 01:41


เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร

ย้อนหลังไป ปีพุทธศักราช ๒๕๒๑ .....
ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานสัมภาษณ์ ในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ขวัญของชาติ ออกเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระราชทานสัมภาษณ์ถึง รักแรกพบ

มีความตอนหนึ่งว่า .....
สำหรับข้าพเจ้า เป็นการเกลียดแรกพบมากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รับสั่งว่า จะเสด็จถึงเวลาบ่าย ๔ โมง แต่จริงแล้วเสด็จมาถึง ๑ ทุ่ม ช้ากว่านัดหมายตั้ง ๓ ชั่วโมง ทรงทำให้ข้าพเจ้าต้องซ้อมถอนสายบัวอยู่จนแล้วจนเล่า จึงเป็นการเกลียดเมื่อแรกพบมากกว่ารักเมื่อแรกพบ

ข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อนว่า .....
พระองค์ท่านทรงรักข้าพเจ้า เพราะเวลานั้น อายุเพิ่งย่าง ๑๕ ปี ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนักเปียนโน เป็นนักเปียนโนที่แสดงในงานคอนเสิร์ต

ตอนพระองค์ท่านประทับที่โรงพยาบาล หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีพระอาการหนักมาก ตำรวจเขาโทรศัพท์ไปกราบบังคมทูล สมเด็จพระราชชนนี

พระองค์ท่านรีบเสด็จไปทันที .....
แต่แทนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะมีพระราชปฏิสันถารกับพระองค์ ท่านกลับทรงหยิบรูปข้าพเจ้าออกมาจากกระเป๋า โดยที่ข้าพเจ้าไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า พระองค์ทรงมีรูปของข้าพเจ้าอยู่แล้ว พระองค์ก็ตรัสให้นำตัวข้าพเจ้าเข้าเฝ้า พระองค์ทรงรักข้าพเจ้า ตอนนั้น ข้าพเจ้าคิดถึงแต่เรื่องที่จะอยู่กับคนที่ข้าพเจ้ารักเท่านั้น ไม่ได้นึกไปไกลถึง หน้าที่และภารกิจของพระราชินีเลย ..... ฯลฯ


จาก ..... คอลัมน์ลัดดาซุบซิบ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์

ป้านุช 07-08-2012 16:30

https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.n...69114923_n.jpg

ฉันไปได้...

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จไปทรงงานยังพื้นที่จริง
ซึ่งเกือบ ๑๐๐ % เป็นที่ทุรกันดาร
บางแห่งข้าราชการยังไม่เคยไปหรือไม่กล้าไปเพราะกลัวอันตรายด้วยซ้ำ

หรือถ้าวันไหนอากาศไม่ดี
หากเป็นผู้ใหญ่ไปดูงาน ฝนมาก็เลื่อนหรือยกเลิก
แต่สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่มีคำว่า "ยกเลิก"
เพราะอากาศไม่ดี แถมยังเสด็จออกนอกเส้นทางเป็นประจำ

ถ้าทีมถวายความปลอดภัยกราบบังคมทูลว่า
“เสด็จไม่ได้ ไม่มีถนนตัดผ่านพระพุทธเจ้าข้า”
พระองค์ท่านจะรับสั่งกลับมาทุกครั้งว่า...

“ฉันไปได้”

ทั้งที่หลายครั้งต้องทรงพระราชดำเนินปีนป่ายไปบนภูเขา
หรือทรงพระดำเนินไต่ลงไปในหุบเหว
ที่เต็มไปด้วยโคลนตม ปลิง และทาก จนค่ำมืดดึกดื่น
มีท่านพระองค์เดียวที่ดึงทากออกจากพระบาทได้
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องเล็กสำหรับในหลวง
หลายครั้งสมเด็จพระเทพฯ ตามเสด็จฯ ด้วย

คืนหนึ่งผมได้ร่วมโต๊ะเสวย
หลังจากที่พระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ทุรกันดารแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พระราชกระแสรับสั่งที่ยังก้องอยู่ในหูของผมจนถึงทุกวันนี้คือ

“ที่เขายากจนต้องมาทำมาหากินในพื้นที่แห้งแล้งเช่นนี้
ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะมา แต่เพราะเขาไม่มีที่อื่นจะไป
ที่ฉันช่วยเขา ไม่ใช่ว่าจะช่วยตลอดไป
แต่ช่วยเพื่อให้เขาได้มีโอกาสช่วยตัวเองต่อไป”


สวัสดิ์ วัฒนายากร
อธิบดีกรมชลประทาน / องคมนตรี


พ่อ...ผู้ปิดทองหลังพระตลอดมา...


ป้านุช 18-08-2012 01:20


ป้านุช 18-08-2012 01:31


ป้านุช 19-08-2012 14:29


ป้านุช 01-09-2012 01:38


ป้านุช 01-09-2012 01:39


ป้านุช 01-09-2012 01:46



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:52


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว