กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6163)

เถรี 10-05-2018 17:21

"มีอยู่ช่วงหนึ่ง ๒ ปีโดยประมาณ อาตมานอนคืนหนึ่งประมาณ ๒ ชั่วโมงเท่านั้น นอกนั้นพายเรือไล่จับคนหาปลา วังมัจฉาหน้าวัดท่าซุงเกิดขึ้นได้เพราะอาตมาเอง ป้องกันสุดชีวิต ไม่มีใครคิดว่าพระจะพายเรือทั้งคืน แต่อาตมาพายไปภาวนาไป

จะว่าไปช่วงนั้นผอมแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แต่สภาพจิตมีความสุขมาก เพราะว่าทรงฌานทั้งวันทั้งคืน กิเลสกินไม่ได้ มีอยู่วันหนึ่งได้ยินเสียงบอกเข้าหูชัด ๆ เลยในลักษณะพยากรณ์มรรคผล แล้วอารมณ์ใจตอนนั้นก็รู้สึกว่าสบายสุด ๆ ไม่มีกิเลสมาแผ้วพานได้เลย

พยายามไล่ตรวจสอบดูตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอน ก็คือเทียบกับสังโยชน์ ๑๐ ปรากฏว่าเชื่อไม่ได้ คำพยากรณ์เป็นสิ่งมาทดสอบ อารมณ์ใจตอนนั้นก็เป็นสิ่งที่มาทดสอบ เพราะพิจารณาโดยไม่เข้าข้างตัวเองแล้ว สังโยชน์ ๑๐ ยังอยู่ครบทั้งสิบตัวเลย เพียงแต่กิเลสหลบไปนอนเฉย ๆ เขาสู้ความบ้าของเราไม่ได้ เพราะว่าภาวนาทั้งวันทั้งคืน ทรงฌานไม่ยอมคลาย จะหลับจะตื่นมีสติรู้เท่าหมด ในเมื่อกิเลสสู้ไม่ได้ ก็ไม่ไปไหนหรอก แค่หลบไปนอน มีปัญญามึงเต้นไป เดี๋ยวมึงเหนื่อยกูค่อยออกมา ฉะนั้น...ระวังให้ดีนะ อาตมาทำถึงขนาดนั้นยังโดนหลอกอยู่เรื่อยเลย"

เถรี 10-05-2018 19:17

มีโยมมาถวายสังฆทานอุทิศให้คนตาย "คนตายส่วนใหญ่สบาย ส่วนเราต้องรีบทำบุญให้มากไว้ ถึงเวลาจะได้ไม่ต้องรอใครเขาทำให้"

เถรี 11-05-2018 21:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้เป็นวันทำบุญบ้านเป็นครั้งที่สอง รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก พักเดียวก็ย่างเข้าปีที่ ๒ มา ๔-๕ เดือนอีกแล้ว ต้องบอกว่าในส่วนของเวลา พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ว่า สายน้ำและเวลาล่วงเลยไปแล้วไม่สามารถกลับคืนมาได้ ในส่วนนี้พวกเราต้องพึงสังวรเอาไว้ โดยเฉพาะท่านเปรียบเหมือนกับชีวิตของเรา ที่ล่วงเลยไปแล้วก็ไม่สามารถที่จะนำคืนมาได้ ระหว่างที่มีชีวิตอยู่ ทำอย่างไรที่จะสร้างสาระแก่นสารให้กับตัวเราให้มากที่สุด ซึ่งก็คือในเรื่องของการสร้างบุญ สร้างกุศล

ทำไมต้องสร้างบุญกุศลด้วย ? ก็เพราะว่าบุญกุศลนั้นให้ประโยชน์สุขโดยส่วนเดียว พูดง่าย ๆ ก็คือไม่มีโทษเลย ยกเว้นคนขี้รำคาญอย่างอาตมา ทำบุญไว้มากเกินไปก็ต้องมานั่งรำคาญ เพราะว่าถึงเวลาคนอื่นก็มายัดเยียดให้มากเหลือเกิน

ในส่วนนี้ถ้าเราสร้างบุญสร้างกุศล ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา ยิ่งสมบูรณ์พร้อมเท่าไร ในการดำเนินชีวิตของพวกเราก็จะสะดวกสบายเท่านั้น ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นทั้งในชาติปัจจุบัน ในชาติต่อ ๆ ไป และเป็นบันไดให้ก้าวล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน"

เถรี 11-05-2018 21:05

"ดังนั้น...ในส่วนของบุญกุศล บาลีถึงได้ใช้คำว่า สุโข ปุญญัสสะ อุจจะโย การสั่งสมบุญย่อมนำมาซึ่งความสุข แต่คราวนี้คนส่วนหนึ่งมักจะเห็นว่า การสร้างบุญกุศลนั้นเป็นการสิ้นเปลือง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องของบุคคลที่มีกำลังใจต่ำ กิเลสยังมีอำนาจเหนือจิตใจอยู่ สละออกได้ยาก ก็จะอยู่ในลักษณะอย่างนั้น

ในส่วนของการสร้างบุญกุศลที่มีอานิสงส์มาก แล้วไม่ต้องสิ้นเปลืองก็มี อย่างเช่น การรักษาศีล การเจริญภาวนา เป็นต้น แต่เนื่องจากการให้ทานนั้น ถ้าเราเกิดชาติใหม่จะมีฐานะร่ำรวย การรักษาศีลจะเกิดมาเป็นบุคคลที่มีรูปสวย มีจิตใจดีงาม การเจริญภาวนาจะเกิดมาเป็นบุคคลมีปัญญามาก

ดังนั้น...ถ้าเป็นไปได้ก็ควรที่จะทำให้ครบทุกอย่าง เพราะถ้าเราเป็นผู้มีทรัพย์แต่ขาดปัญญา ก็อาจจะรักษาทรัพย์เอาไว้ไม่ได้ หรือว่าเป็นผู้มีปัญญา มีทรัพย์ แต่หน้าตาไม่เอาไหน ก็เป็นเรื่องที่ต้องมานั่งคับแค้นใจ ต้องไปหาหมอ ปรับใหม่ให้สวยด้วยมีดหมอแทน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ชวนให้เจ็บตัวเสียเปล่า ๆ ถ้าเรามีปัญญาแต่ว่าหน้าตาไม่ดี ทรัพย์สินไม่มี ก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความลำบาก มีความทุกข์ยากในการดำเนินชีวิตอยู่ในระดับหนึ่ง

ในส่วนของการทำบุญ ถ้าเป็นไปได้ก็คือทำให้ครบทุกด้าน ทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา"

เถรี 11-05-2018 21:07

"โดยเฉพาะว่าการสร้างบุญกุศลนั้น เป็นการเสริมบารมีของเราเอง ไม่ต้องไปหาหมอดูที่สำนักไหน ไม่ต้องไปหาเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ไหน การเสริมบารมีของเราด้วยการสร้างบุญสร้างกุศล จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ไม่ใช่ไปเข้าพิธีกรรมแปลก ๆ แล้วว่าเป็นการเสริมบารมี ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่ ซึ่งถ้าหากหลุดออกนอกแนวทางพระพุทธศาสนาไป โอกาสที่จะกลับคืนมาก็ยาก ซึ่งเรื่องพวกนี้พวกเราก็ควรที่จะระมัดระวังเอาไว้

เวลาล่วงไป ๆ ตอนนี้เราทำอะไรอยู่ ?
ความดีที่เราทำนั้นสมบูรณ์บริบูรณ์แล้วหรือยัง ? ถ้ายัง...เราขาดตรงส่วนไหน ? จะต้องประพฤติปฏิบัติอย่างไรถึงจะเข้าถึงส่วนนั้นได้ ? เราต้องใช้สติ ใช้ทั้งสมาธิ ใช้ทั้งปัญญา ในการสร้างเสริมบุญบารมีของเรา เพื่อจุดหมายใหญ่คือการหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน"

เถรี 11-05-2018 21:20

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวันสวดพระคาถาเงินล้านญาติโยมไปร่วมงานกันมาก อาตมาเอาลูกประคำไปเข้าพิธี ๑ หอบ เนื่องจากว่ามีไม้พะยูงเก่า ๆ เหลืออยู่หน่อยหนึ่ง แล้วพระที่บวชเข้าไปท่านมีฝีมือ จึงให้ท่านทำเป็นลูกประคำ ท่านเองก็ยังสงสัยว่า ของแพงขนาดนี้แล้วจะจำหน่ายอย่างไร ? ปรากฏว่ามีโยมที่ไม่กลัวของแพงแย่งกันบูชาไปหมดแล้ว

ไม้พะยูงเป็นไม้ที่
เนื้อค่อนข้างจะแข็ง ทำยาก กลึงยาก คราวนี้พระท่านก็ค่อย ๆ ทำไป เวลาว่างเว้นจากภารกิจเฉพาะของตนเองแล้ว ก็ภาวนาไป กลึงไป ขัดไป ถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่งเหมือนกัน เมื่อได้ปัจจัยมาก็ใช้ในขอบเขตการงานของคณะสงฆ์ ถือว่าส่วนหนึ่งก็เป็นสังฆทาน ใช้ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดก็เป็นส่วนวิหารทาน ใช้ในการอนุเคราะห์สงเคราะห์แก่นักเรียนนักศึกษาของพระและฆราวาสก็เป็นส่วนของธรรมทาน

ถ้าหากว่าเหลือถึงนี่เมื่อไรก็คงจะได้เห็นกัน ไม่อย่างนั้นก็นั่งจินตนาการไปก่อนว่าหน้าตาเป็นอย่างไร"

เถรี 11-05-2018 21:24

"ไม้พะยูงนี่คนจีนเรียกว่าไม้จันทน์ม่วง ถือเป็นไม้มงคลอย่างยิ่ง ประเทศจีนกว้านซื้อ ประเทศไทยก็ขโมยตัด โดยเฉพาะวัดทางอีสานที่ปลูกไม้พะยูงไว้ ต้องจัดเวรกันเฝ้า แต่บางทีถึงจัดเวรเฝ้าเขามากันที ๗ คน ๘ คนอาวุธครบมือ ถามว่าหลวงพ่อจะเอาต้นไม้หรือจะเอาชีวิต ? หลวงพ่อก็ต้องเข้ากุฏิไปแต่โดยดี

ในส่วนของบ้านเราเมืองเราต้องบอกว่า การบังคับใช้กฎหมายยังไม่เข้มงวด ยังมีมาตรฐานไม่เท่ากัน ประเภทยาเสพติดร้ายแรงค่าประกันตัวหนึ่งหมื่นบาท แต่เรียกร้องอยากได้ประชาธิปไตยโดนค่าประกันตัวเป็นแสน อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้น...ตราบใดที่มาตรฐานกฎหมายในบ้านเรายังไม่เหมือนกัน ยังเลือกที่รักมักที่ชัง ประกอบไปด้วยอคติ โอกาสที่จะเจริญก็เป็นไปได้ยาก"

เถรี 11-05-2018 21:26

พระอาจารย์กล่าวว่า "หัวใจสำคัญของงานวันนี้ก็คือการบวงสรวง ซึ่งทำสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว โดยได้รับการอนุเคราะห์สงเคราะห์จากหลวงพี่มหาเอของพวกเรา หรือก็คือท่านอาจารย์พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม และคณะจากวัดปากน้ำภาษีเจริญ แล้วก็ได้รับการสนับสนุนปัจจัยส่วนหนึ่งจากชมรมโมทนาบุญ เว็บพลังจิต ซึ่งนำโดยหัวหน้าชมรม คือ คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา

ต้องบอกว่างานใหญ่ ๆ ติดต่อกันหลายงานเหลือเกินสำหรับทางด้านชมรมโมทนาบุญเว็บพลังจิต ซึ่งญาติโยมแต่ละคนก็ตั้งใจร่วมบุญกันโดยไม่มีการเบื่อหน่ายหรือท้อถอย เพราะว่าเพิ่งจัดงานสวดพระคาถาเงินล้านเสร็จ ก็เป็นงานทำบุญบ้านเติมบุญ แล้วอาตมายังมอบหมายให้ช่วยดูแลรับภาระในเรื่องของการช่วยหลวงพ่อนิลท่านสร้างอาศรมศรีชัยรัตนโคตรอีกด้วย"

เถรี 11-05-2018 22:57

พระอาจารย์กล่าวว่า "จนป่านนี้ยังไม่มีข่าวว่าจะประกอบพิธีบรมราชาภิเษกถวายพระองค์ท่านกันตอนไหน เนื่องจากว่าเป็นระยะเวลาเกือบ ๗๐ ปีแล้ว ประมาณ ๑ ชั่วคน บรรดาผู้รู้ต่าง ๆ ในชุดก่อน ๆ ก็ล่วงลับดับขันธ์กันไป คนรุ่นใหม่ ๆ ที่สืบทอดความรู้ ก็ต้องเปิดตำราว่ากันให้ถูกต้องที่สุด ห้ามมีข้อผิดพลาดอย่างเด็ดขาด

ในส่วนหนึ่งก็คือการถวายน้ำมูรธาภิเษก ธรรมเนียมนี้เป็นธรรมเนียมมาจากอินเดียว่า กษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์ถ้าไม่ได้รับการถวายน้ำมูรธาภิเษก ไม่ถือว่าเป็นการครองราชย์โดยสมบูรณ์ บ้านเราจะมีการนำน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งต่าง ๆ ถวายเข้าไปในวัง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็คือไปประกอบพิธีกันในวังเลย

แต่มาระยะหลัง ๆ ก็คือ แต่ละแหล่งก็จะนิมนต์หลวงปู่หลวงพ่อที่เป็นที่เชื่อถือว่า เป็นผู้มีศีลาจารวัตรงดงาม ประกอบไปด้วยฌานสมาบัติ มาปลุกเสกแล้วค่อยส่งถวายเข้าไปในวัง อาตมาเองช่วงที่ผ่านมาก็ได้ร่วมพิธีด้วย ๒ ครั้ง คือตอน ๖๐ พรรษาของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ช่วงที่ยังอยู่วัดท่าซุง ซึ่งตอนนั้นก็เป็นแค่ส่วนประกอบในพิธีเท่านั้น อีกครั้งหนึ่งที่ผ่านมาจำไม่ได้ว่าเป็นงาน ๗๒ พรรษาหรือ ๘๐ พรรษา น่าจะ ๘๐ พรรษา ไปในฐานะผู้อยู่ในพิธีกรรมเพราะว่าได้รับนิมนต์ให้ไปเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์โดยตรง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะได้ร่วมพิธีเมื่อไร"

เถรี 11-05-2018 23:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่พวกเราพอได้ยินว่ายากแล้วก็ท้อถอย การท้อถอยเกิดจากกำลังใจไม่พอ กำลังใจที่ไม่พอเกิดจากกำลังสมาธิมีน้อยเกินไป ฉะนั้น...ใครท้อง่าย ถอยง่าย พยายามนั่งสมาธิเข้าไว้ ถ้ามีกำลังสมาธิก็สามารถตื๊ออยู่ได้ทุกงาน ถ้ากำลังสมาธิดีก็ตื๊อจนสำเร็จทุกงาน"

เถรี 11-05-2018 23:03

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน มีญาติโยมแสดงความจำนงจะแสดงถวายเป็นพุทธบูชามา ๔ รายด้วยกันแล้ว ถ้าหากว่ายังมีอีกให้รีบแจ้งมา โดยเฉพาะถึงเวลาแล้วอย่าลืมนำเพลงที่เราจะแสดงไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเครื่องเสียงด้วย

ต้องบอกว่างานเป่ายันต์เกราะเพชรงานนี้ มีบางคนใจจดใจจ่ออยากจะไปมาก เพราะว่าทำยันต์เกราะเพชรสูญไปเรียบร้อยแล้ว เป็นการสูญโดยตั้งใจ ไม่ใช่ไม่ตั้งใจ ต้องบอกว่าสมควรตาย เสียดายที่รอดมาได้...!"

เถรี 13-05-2018 08:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันจันทร์อาตมาต้องจ่ายค่าเหรียญรอยพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณ ๖๔๕,๐๐๐ บาท ตอนแรกว่าจะทำเหรียญที่ระลึกงานเปิดนมัสการรอยพระพุทธบาทอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าออกแบบเหรียญเป็นรอยพระพุทธบาทแล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรใส่ด้านหลัง ? ท่านท้าวเวสสุวรรณเมตตาบอกว่า "เอารูปผมก็ได้" ในเมื่อให้เอารูปหล่อ ๆ ของท่านลง ก็ต้องขอท่านว่าถึงเวลาแล้วช่วยเสกให้ด้วย ท่านก็รับปาก ทันหรือไม่ทันงานเป่ายันต์ฯ ท่านก็จะช่วยเสกให้ คำว่าทันหรือไม่ทัน ก็คือทันงานวันที่ ๑๙ นี้หรือไม่ก็ตาม เพราะว่าขอให้ท่านช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ไว้แล้ว

ท้าวเวสสุวรรณเป็นหัวหน้าเทวดาชั้นจตุมหาราช ถามว่าเป็นหัวหน้าเทวดาเป็นอย่างไร ? ชั้นจตุมหาราชประกอบไปด้วยเมืองเทวดา ๔ ทิศ ทิศตะวันออกมีท่านท้าวธตรฐเป็นหัวหน้า ทิศใต้มีท่านท้าววิรุฬหกเป็นหัวหน้า ทิศตะวันตกมีท่านท้าววิรูปักษ์เป็นหัวหน้า และทิศเหนือมีท่านท้าวเวสสุวรรณ หรือบาลีเรียกว่าท้าวกุเวรเป็นหัวหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้ท่านยกให้ท่านท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้นำ ถ้าหากว่ามีอะไรที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน ท่านท้าวเวสสุวรรณก็ต้องออกหน้า แต่ถ้าเฉพาะเขตเฉพาะทิศ ท่านท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ ก็สามารถตัดสินใจสั่งการได้เฉพาะในทิศของตน ในเมื่อมีแม่ทัพเทวดาระดับนั้นช่วยสงเคราะห์ให้ ก็คาดว่าเหรียญรุ่นนี้น่าจะมีอานุภาพอะไรพิเศษบางอย่าง ซึ่งต้องรอท่านบอกทีหลัง"

เถรี 13-05-2018 09:35

พระอาจารย์กล่าวว่า "แจ้งกับญาติโยมที่จองวัตถุมงคลในกระทู้คนมีเงินให้ทราบว่า วัตถุมงคลกระทู้นี้ที่ไม่ส่งทางไปรษณีย์ เพราะว่าวัตถุมงคลบางชิ้น ถ้าสูญหายจะหาใหม่อีกนี่เลือดตากระเด็น อย่างตะกรุดมหาระงับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ในชีวิตของอาตมาเพิ่งได้มาสาดอกเท่านั้น ราคาแพงมากอีกด้วย หายเสียดอกหนึ่งก็นั่งร้องไห้เลย แค่ดอกที่ท่านเจ้าคุณปิงบูชาไป ในตลาดราคาเป็นแสน แต่อาตมาคิดราคาครึ่งเดียว"

เถรี 13-05-2018 20:28

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมเอารถมาบ้านเติมบุญแล้วจอดยาก อาตมามีข้อแนะนำว่า ใครมีรถรีบขายให้เร็วที่สุด แล้วก็เปลี่ยนไปใช้บริการรถสาธารณะแทน อาจจะลำบากในระยะแรก แต่ว่าขายตอนนี้ยังพอที่จะมีกำไรบ้าง ถ้ารอให้รถยนต์ไฟฟ้ามาเต็มประเทศไทยแล้วจะขายไม่ออก

ต้องบอกว่าขยับก่อนได้เปรียบ ใครขยับช้า รถน้ำมันจะขายไม่ออก ไม่ว่าจะเบนซิน ดีเซลหรือแก๊ส โลกยุคหน้าเป็นโลกของรถไฟฟ้า"

เถรี 13-05-2018 20:34

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมากำลังให้พระที่วัดศึกษาเกี่ยวกับแผงโซลาร์เซลล์รูปกระเบื้องมุงหลังคา (Solar Roof) ถ้าราคาพอสู้ไหวจะเปลี่ยนหลังคาตึกแดงทั้งหลังเป็นโซลาร์รูฟ อันดับแรกคือต่อให้น้ำไม่มี ปั่นไฟไม่ได้ ที่อื่นตายหมด แต่อย่างน้อยตึกหลังนี้จะมีไฟฟ้าใช้อยู่ โซลาร์เซลล์มีจุดบอดตรงที่ว่าต้องคอยทำความสะอาด อย่าให้ฝุ่นเกาะ ซึ่งก็ไม่น่าจะยาก ถึงเวลาก็ฉีดน้ำล้างไปเลย"

เถรี 13-05-2018 22:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าเจอหมากทุยลูกใหญ่หน่อย มีสิทธิ์เป็นของหลวงปู่รอด วัดนายโรง ที่ทำเบี้ยแก้ในตำนาน ท่านทำหมากทุยด้วยเหมือนกัน บางคนก็ร้ายมาก เอาสลับไปขายเป็นเบี้ยแก้ก็มี ถ้าเราสังเกตดูเบี้ยแก้จะน้ำหนักมากกว่า

หมากทุย หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ส่วนใหญ่แล้วลูกเล็ก ๆ โตเต็มที่ประมาณไม่เกินหัวแม่มือ เพราะว่าหมากตายพรายส่วนใหญ่ตายตั้งแต่ยังเป็นลูกเล็ก ๆ ถ้าโตแล้วไม่ค่อยตายหรอก โตแล้วก็มักจะแก่ไปเลย"

เถรี 13-05-2018 22:56

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนมีการควบคุมประชากรตามธรรมชาติ ถึงเวลาไม่มีที่ไปก็ต้องอพยพ การควบคุมประชากรแบบธรรมชาติก็คือเกิดทุพภิกขภัย ฉาตกภัย ทำให้อดอยากล้มตายกันมาก ๆ แล้วก็จะเกิดพวกโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ตายกันทีเป็นแสนเป็นล้าน หรือไม่ก็เกิดสงคราม เป็นการควบคุมประชากรให้เพียงพอกับทรัพยากรที่มีอยู่

แต่ปัจจุบันนี้คนเราต้องบอกว่าฉลาดขึ้น รู้ว่าถ้ารบราฆ่าฟันกันจะตายกันไม่ต้องนับ ก็พยายามหลีกเลี่ยง คนจึงมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ วิทยาการทางการแพทย์ก็ดีขึ้นเรื่อย รักษาโรคต่าง ๆ ได้ทั้ง ๆ ที่สมัยก่อนต้องตายชนิดนับไม่ถ้วน สมัยนี้รักษาได้ มีวัคซีนป้องกัน ก็ทำให้ทรัพยากรมีน้อยลง แต่คนมีมากเกินไป

อาตมากำลังรออยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าตอนนี้สองเกาหลีก็จับมือกันแล้ว ๖๕ ปีผ่านไป ตั้งแต่โดนแบ่งเป็นเกาหลีเหนือเกาหลีใต้ที่เส้นขนานที่ ๓๘ แต่จะว่าไปแล้วสงครามระหว่าง ๒ เกาหลี นำพาทหารไทยของเราดังระเบิดเถิดเทิง เขาเรียกทหารผี หลวงปู่หลวงพ่อยุคนั้นเขาเรียกกันว่า ๔ จตุรเทพ "จาด จง คง อี๋"

ส่วนใหญ่แล้วท่านก็มอบวัตถุมงคลให้ลูกศิษย์ไป แล้วก็ปลอดภัยกลับมา โดนปืนหงายทั้งยืนยังลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ จนต่างชาติเรียกกันว่าเป็นทหารผี โดยเฉพาะจุดยุทธศาสตร์เนินพอร์กช็อป ทหารอเมริกันเข้าตีอยู่ ๔ วันเต็ม ๆ ไม่สำเร็จ ลำดับต่อไปก็ทหารฟิลิปปินส์ ลำดับต่อไปจำไม่ได้ว่าอะไร ตายกันแบบไม่ต้องนับ ทหารไทยเราเข้าตีเป็นชุดสุดท้าย เพราะว่าไม่มีใครเชื่อฝีมือ ปรากฏว่าแค่ครึ่งวันทหารไทยก็ขึ้นไปยึดอยู่บนยอดเนินแล้ว"

เถรี 13-05-2018 23:07

"อาตมาถามร้อยตรีสงัด สุขแจ่ม ซึ่งท่านได้เหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กมา ท่านอยู่กองร้อยเดียวกับอาตมา เป็นตั้งแต่นายสิบจนกระทั่งขึ้นไปเป็นนายร้อย ผ่านสงครามเกาหลีมาแล้ว ถามท่านว่า “ผู้หมวด...ทำไมทหารไทยยึดได้ทั้ง ๆ ที่อาวุธกระสุนสู้ใครไม่ได้เลย ?” ผู้หมวดแกพูดขำ ๆ ว่า “พวกมันโดนตีมาเป็น ๑๐ วันแล้ว” พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าเป็นคนก็โดนกระทืบจนอ่วมแล้ว เราอยู่ ๆ ถือไม้ไปซ้ำก็เลยชนะ แต่ความจริงในสายตาคนอื่น ทหารไทยโดนยิงเท่าไรก็ไม่ตายสักที จนถอดใจเลยต้องถอนกำลังหนี"

ถาม : ทำไมถึงไม่เสกหุ่นพยนต์เป็นทหาร ?
ตอบ : พระเราที่ทำได้ก็คงไม่ไปยุ่งกับการรบ ตอนที่อาตมาเป็นทหารอยู่ เล็งอยู่อย่างเดียวว่า ที่เรายังไม่มีเลยคือกางเขนเหล็ก เมื่อไรมีศึกมีสงครามแบบนี้จะอาสาออกหน้าก่อนเพื่อนเลย ปรากฏว่าไม่มี ไปอยู่ชายแดนเพื่อนได้ผ่านศึกชั้น ๑ บ้าง ชั้น ๒ บ้าง อาตมาก็นั่งเซ็ง ปะทะกันทีไรกูไม่เคยโดนอะไรสักที แล้วเมื่อไรจะได้กับเขาบ้าง ต้องโทษหลวงพ่อวัดท่าซุงที่วัตถุมงคลของท่านขลังเกิน ไปเท่าไรไม่เคยเป็นอันตรายกับใครสักที

เถรี 13-05-2018 23:12

"ที่เขาเรียก ๔ จตุรเทพสงคราม ก็คือ หลวงปู่จาด วัดบางกระเบา ถ้าใครไม่คุ้นชื่อนี้ ก็ไปอ่านเรื่องเล่าของหลวงพ่อวัดท่าซุง ตอนท่านออกธุดงค์แล้วก็มีเสือมาเล่นน้ำอยู่ใกล้ ๆ หลังจากนั้นเสือเดินขึ้นจากน้ำมา หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็นั่งมองเฉย ๆ แล้วเสือก็ถามว่า "มึงไม่กลัวกูหรือวะ ?" หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า “ไอ้เสือขึ้นจากน้ำแล้วไม่สลัดขน ผมไม่กลัวครับ”

ปรากฏว่าเสือ ๓ ตัวคืนร่างมาเป็นหลวงปู่ปาน หลวงปู่จง หลวงปู่จาด หลวงปู่จงเรารู้อยู่แล้วว่าคือหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอก หลวงปู่คงก็คือหลวงปู่คง วัดบางกระพ้อม หลวงปู่อี๋ก็คือหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ ช่วงนั้นยังมีอีกท่านหนึ่ง บางทีเขาก็เอาชื่อใส่ บางทีก็ไม่ได้ใส่ คือหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู นั่นก็สุดยอดฝีมือช่วงสงครามเหมือนกัน"

เถรี 13-05-2018 23:17

"สมัยก่อนครูบาอาจารย์จะทำวัตถุมงคลให้ลูกหลานญาติโยม วัสดุก็หายาก ส่วนใหญ่ก็เอาตะกั่วถ้ำชา คำว่าถ้ำชาก็คือภาชนะที่ใส่กาน้ำชาโดยมีนวมหุ้มเพื่อไม่ให้เย็นเร็ว สมัยนั้นส่วนใหญ่ทำด้วยตะกั่ว เอามาหลอมมาทุบตีแผ่แล้วก็จารเป็นตะกรุดให้ลูกหลานบ้าง บางคนไม่มีอะไรก็เอาฝาบาตรมาตัดทำตะกรุดบ้าง เรียกกันว่าตะกรุดฝาบาตร

หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนูสบายที่สุด ท่านทำตะกรุดไม้ไผ่ ตะกรุดไม้ไผ่สำนักที่ดังมาก ๆ เลยก็คือ หลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู และหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงปู่ดู่ทำตะกรุดไม้ไผ่สวยสุด ๆ ใครได้ไปสักดอกหนึ่งถือว่าเป็นความภูมิใจในชีวิต เราจะเห็นได้ชัดจริง ๆ ว่าท่านตั้งใจทำ ไม่ว่าจะการเซาะร่อง เซาะลาย จารอักขระท่านทำออกมาสวยเหมือนพิมพ์เลย"

เถรี 13-05-2018 23:27

ถาม : สมัยก่อนท่านจารตะกรุดไม่ไผ่ให้เป็นรอยดำได้อย่างไรคะ ?
ตอบ : รู้สึกว่าท่านจะใช้เหล็กเผาไฟ แต่คราวนี้เราต้องคิดดูว่าเหล็กเผาเราจับใกล้ก็ไม่ได้ ก็ต้องค่อย ๆ เขียนทีละนิด ๆ กว่าจะลากเส้นได้ เพราะถ้าช้าก็เย็น เขียนไม่ติด ถ้าเร็วก็ร้อนจับไม่ได้

ท่านทำตะกรุดมหาจักรพรรดิด้วยไม้ไผ่ จารอักขระตีลายตีตารางสวยมาก ๆ มาตอนหลังอายุมาก ๆ แล้วไม่มีแรงจะทำ อย่างอาตมาไป
ไม่ต้องอะไรมาก ท่านเป่าหัวให้ก็พอแล้ว

มีอยู่วันหนึ่งไปเจอท่านหมอบอยู่หน้ากุฏิ โอ๊ย....ตาย ๆๆ รีบไปประคองหลวงปู่ขึ้นมา "หลวงปู่...เป็นอย่างไรบ้างครับ ?" ท่านบอกว่า "เมื่อคืนเขามากัน ๓ คันรถ บอกว่าจะรีบไปที่อื่น มาทุบประตูเรียกข้าออกมาตอนตี ๒" ท่านสรุปว่า "ตอนหนุ่ม ๆ ข้าอยากดัง ตอนนี้แก่แล้วดังซะให้เข็ด" คนก็ไม่ได้นึกเลยว่าหลวงปู่อายุ ๘๐ ปีแล้ว ไปทุบประตูเรียกออกมาตอนตี ๒ ลองไปทุบที่วัดท่าขนุนดูบ้างสิ ดูว่าจะเจออะไรบ้าง...!

เถรี 13-05-2018 23:31

ถาม : การไปรบกวนพระจะเกิดกรรมอะไรคะ ?
ตอบ : ตายแล้วก็รู้ ไม่ต้องคิดอะไรมาก หลวงปู่ท่านนอนดึก นอนทีก็เที่ยงคืน ตี ๑ พอตี ๒ ก็ไปทุบประตูเรียกท่านออกมา พอท่านรับแขกเสร็จเรียบร้อย ท่านก็ฟุบหลับอยู่ตรงหน้าประตูนั่นแหละ อาตมาไปเห็นใจหายวาบเลย นึกว่าหลวงปู่ไปแล้ว..! เพราะเห็นนอนหน้าไถพื้น รีบเข้าไปประคอง อาตมาตั้งใจไปตอนประมาณ ๖ โมงเช้า เพราะว่าเป็นเวลาที่ท่านออกมาฉันเช้า จะได้ไม่ไปรบกวนท่านมาก

คนเราส่วนใหญ่แล้วต้องบอกว่าเห็นพระเป็นทาส แล้วอีกอย่างก็คือกำลังใจต่ำเกิน ที่ว่ากำลังใจต่ำเกินคือ ไปแล้วถ้าไม่ได้ทำบุญกับท่าน รู้สึกเหมือนกับว่าไม่ได้ไป อะไรประมาณนั้น

แม้กระทั่งงานวัดเขาวงที่ผ่านมา อาตมาพุทธาภิเษกเสร็จก็บอกกับพี่ ๆ ว่า "ผมกลับก่อนนะ ไม่ได้อยู่หล่อพระหรอก" เดินออกมาโยมก็แย่งกันใส่ย่าม พวกที่มาช้าอาตมาขึ้นรถไปแล้ว โยมที่ไปด้วยจะช่วยรับให้ บอกว่า "ส่งมาเลย" เขาก็ไม่ส่ง อย่างไรก็ต้องใส่ย่ามอาตมาเองให้ได้ อาตมาก็ไปแล้ว ไม่ต้องทำกันแล้ว ต้องบอกว่าทำบุญโดยขาดอุเบกขา ขาดปัญญาแล้วยังยึดมั่นถือมั่นอีก แบบนั้นเต็มที่ก็ไปได้ไม่เกินกามาวจรสวรรค์

เถรี 15-05-2018 21:22

ถาม : หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ มาสายไหนครับ ?
ตอบ : สายหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ท่านมีสามทหารเสือ คือ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง

เถรี 15-05-2018 21:32

พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านเราเคยชินกับการหยิบจับอะไรได้ก็เดินไปกินไป ถ้าไปญี่ปุ่นอย่าไปทำอย่างนั้น เขาถือว่าเสียมารยาทมาก จะกินต้องนั่งกินอย่างเป็นทางการ นั่งละเลียดกันเลย

ญี่ปุ่นเขา
มีทรัพยากรน้อย อาหารต่าง ๆ ก็ซ้ำ ๆ กันทุกวัน ก็เลยต้องประดิษฐ์ประดอยให้มีรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ มีสุนทรียะทางสายตาด้วย ในขณะเดียวกันเรื่องของรสของกลิ่นก็ต้องได้ด้วย

แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่อย่างไรอาตมาทำใจกินกันไม่ค่อยลง คือหัวไชเท้าสดที่เขาขูดมา เพราะว่าบาดลิ้น ส่วนใหญ่อาตมาก็ประเภทคำเดียวหมดทั้งขยุ้ม ค่อย ๆ ละเลียดไม่เป็น กวาดเรียบภายในไม่กี่นาที

ถ้าใครไปญี่ปุ่นต้องหัดใช้ตะเกียบให้เป็น ญี่ปุ่นมีแต่ตะเกียบให้อย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นอูด้ง ราเมนหรืออะไรก็ตาม จะคีบยากแค่ไหนก็ใช้ตะเกียบ ถ้ายากก็ยกซดเลย ไปญี่ปุ่นดีอยู่อย่างไม่ต้องเสียทิป อย่าไปให้ทิปคนญี่ปุ่น เขาถือว่าดูถูก ใช้งานเท่าไรก็ใช้ไปเถอะ เขาบริการดีแค่ไหนไม่ต้องให้ ตอนอาตมาไปคนขับรถเป็นคนไทยเขาไม่รังเกียจทิป ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นไปให้แบบนั้นเขาจะถือว่าดูถูกกัน"

เถรี 15-05-2018 21:43

ถาม : ฝรั่งทางตะวันตกเดี๋ยวนี้เขาเชื่อแต่ระบบ ใช้สัญชาตญาณไม่เป็นแล้ว ไม่เหมือนทางตะวันออกเรา ?
ตอบ : ของเขาต้องมีเครื่องมือเครื่องไม้มากกว่านี้ แบบเดียวกับที่กู้ศพนักศึกษาที่รถตกเหวในสหรัฐ ถ้าเป็นกู้ภัยไทยวันนั้นก็ขึ้นมาแล้ว แต่ฝรั่งเขาเอาความปลอดภัยของคนเป็นเข้าว่า ถ้าสภาพพื้นที่ไม่ให้ ภูมิอากาศไม่ให้ เขารอจนกว่าจะได้เวลาที่เหมาะสม ความบ้าและกล้าตายของเขาไม่มี เขาถือว่าคนเป็นมีค่ากว่า กว่าที่จะสั่งสมประสบการณ์มาถึงระดับนั้น ไม่ทราบว่าสูญเสียทรัพยากรไปเท่าไรต่อเท่าไร เพราะฉะนั้น...เขาจะรักษาชีวิตคน แต่ของเรานี่เสี่ยงกันทุกรูปแบบ เพราะมั่นใจว่ามีหลวงพ่อดี..!

สมัยในหลวงรัชกาลที่ ๖ ส่งข้าราชการไปศึกษาต่างประเทศ โดยเฉพาะบรรดาทหารที่ไปฝึกการบินที่ต่างประเทศ ปรากฏว่าทหารไทยทำได้ดีจนครูฝึกฝรั่งยอมกลัวใจ โดยเฉพาะการบินผาดโผน ดับเครื่องดำดิ่งลงมาบ้าง ร่อนในลักษณะใบไม้ร่วงบ้าง เขามีกติกาว่าห่างจากพื้นอย่างน้อย ๒,๐๐๐ ฟุตให้ติดเครื่อง แต่ปรากฏว่าทหารไทยบางทีเหลือแค่ ๒๐๐-๓๐๐ ฟุตถึงได้ติดเครื่อง

ที่เป็นอย่างนี้มีอยู่ ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือคนไทยมั่นใจว่าพระดี อย่างที่ ๒ คือ ตื่นเต้นจนนึกไม่ทันว่าจะต้องติดเครื่อง ลงมาจนเกือบถึงพื้นแล้วค่อยนึกได้ ไป
ตาลีตาเหลือกติดเครื่องตอนนั้น ฝรั่งก็นึกว่าเรากล้า ...(หัวเราะ)...

รุ่นนั้นกลับมารับราชการ เป็นท่านขุน เป็นคุณหลวง เป็นคุณพระกันหมด ไม่มีพี่หมื่นเลยสักคน...! หลวงสันทัดยนตรกรรม พระทะยานอากาศ หลวงทะยานพิฆาต ขุนรณนภากาศฯ อะไรทำนองนั้น

เถรี 15-05-2018 21:45

แบบเดียวกับช่วงสงครามอินโดจีนหรือสงครามมหาเอเชียบูรพา ทหารไทยส่วนใหญ่แล้วก็มีพระดี มีเครื่องรางดี มีชายผ้าถุงแม่ เคยลองถามปู่จอม ปู่จอมบอกว่าได้รับพระกริ่งเชียงตุงจากสมเด็จพระสังฆราชแพหนึ่งองค์ แต่ปรากฏว่าไปตกหาย เหลือแต่ชายผ้าถุงแม่ที่ควั่นแล้วคล้องคออยู่ บอกว่าเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรก็เอามาทำน้ำมนต์ รักษาตัวเองหายทุกครั้ง

เถรี 16-05-2018 19:54

ถาม : ที่ว่าอาศัยชายผ้าถุงแม่รักษาตัวเรารอด เป็นบารมีของแม่คนนั้นหรือคะ ? แล้วถ้าแม่ไม่มีศีลมีธรรมละคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่แม่คนนั้น ที่รักษาลูกได้คือความเป็นแม่ ไม่ใช่ความประพฤติของแม่ ฟังให้ดี ๆ นะ ถ้าหากลูกมีความกตัญญู มีความเคารพ ปฏิบัติต่อแม่ได้ถูกต้อง ต่อให้แม่ทำผิดพลาดขนาดไหนก็ตาม พระคุณของความเป็นแม่ย่อมรักษาลูกได้

เถรี 16-05-2018 20:00

พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาฝึกมาตั้งแต่สมัยเป็นทหาร ตั้งแต่ได้ยินเสียงนกหวีด จนกระทั่งเก็บที่นอนหมอนมุ้ง แต่งตัว เข้าห้องน้ำห้องส้วม ล้างหน้าแปรงฟัน จัดแถว เสร็จภายใน ๓ นาที...! ตอนแรกก็คิดว่าใครจะทำได้ พอนานไปก็ทำได้ จนกระทั่งทุกวันนี้พระอาคันตุกะไปวัดท่าขนุน ส่วนใหญ่จะฉันไม่อิ่ม พอพระวัดท่าขนุนอิ่มหมดแล้วนั่งมอง ท่านก็เลยเขิน

แรก ๆ อาตมาก็โดนพระใหม่ประท้วง พอรู้ว่าก่อนหน้านี้ทุกอย่างเสร็จใน ๓ นาที นี่ให้ตั้ง ๑๕ นาทีแล้ว เวลาไปฉันที่วัดอื่น พระวัดท่าขนุนจะทุกข์ทรมานมาก เพราะว่าอิ่มไป ๗-๘ รอบแล้วเขาก็ยังไม่อิ่มกันสักที"

เถรี 16-05-2018 20:17

ถาม : ที่พระปัจเจกพุทธเจ้าบอกว่า ถ้าภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑ ชั่วโมงหรือทำกรรมฐาน ภาวนากับการทำกรรมฐานนี่รวม...?
ตอบ : ภาวนาพระคาถา พร้อมกับจับลมหายใจเข้าออก เหมือนกับตอนที่นั่งปฏิบัติกรรมฐาน

ถาม : ตอนนี้สวดแบบนึกตัวอักษรค่ะ ?
ตอบ : ทำอย่างไรก็ได้ ให้มีลมหายใจเข้าออกควบไปด้วยก็แล้วกัน

ถาม : ถ้าเร่งให้จบ ไม่มีคุณภาพ จะทำให้ผลออกช้า หรือไม่มีผลเลย หรือผลมีน้อย ?
ตอบ : มีผลน้อยมาก เพราะว่างานไร้คุณภาพ

ถาม : มีความอยากรวยก่อนสวด ?
ตอบ : ถึงเวลาให้ลืมความอยาก ถ้าลืมไม่ได้ผลก็โดนตัดไปอีก

เถรี 16-05-2018 20:19

ถาม : ถ้าจะทำธุรกิจ เราเห็นผู้อื่นเขาทำแล้วประสบความสำเร็จ แล้วเราทำตามนี่ เรียกว่าเป็นการขโมยไอเดียหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เรียกว่าโง่ ทำตามคนอื่นอย่างไรก็ไล่เขาไม่ทัน เพราะว่าเขาเริ่มก่อน

เถรี 16-05-2018 20:22

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระนี่เขาให้ใช้ฉายา อย่าไปใช้นามสกุล พวกที่ใช้นามสกุลเป็นที่น่ายินดี เพราะว่าเตรียมสึกทุกราย หรือไม่ได้มีความเป็นพระอยู่ในใจ ก็เลยใช้นามสกุล"

เถรี 16-05-2018 20:33

ถาม : พระอาจารย์เคยสอนว่า ถ้าอยากได้งานให้จุดธูป ๕ ดอกกลางแจ้ง อธิษฐานขอกับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เรื่องนี้ใช้กับเรื่องอื่นได้ด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ท่านบอกว่าเฉพาะเรื่องงาน ท่านใช้คำว่าพระวิสุทธิเทพ ไม่ได้บอกว่าสมเด็จองค์ปฐมหรือองค์ปัจจุบัน

ถาม : อธิษฐานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ?
ตอบ : ก็บอกว่าให้ขอกับพระวิสุทธิเทพ ยังจะพยายามเปลี่ยนอีก ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมถึงได้พลาดกันอยู่เรื่อย

ถาม : ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพี้ยนมาก ?
ตอบ : ไม่ผิดเพี้ยนหรอก พวกแสนรู้ไปเปลี่ยนต่างหาก เขาบอกให้อธิษฐานขอกับพระวิสุทธิเทพ ดันไปขอกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถามว่าพระพุทธเจ้าใช่พระวิสุทธิเทพไหม ? ใช่...แต่พระวิสุทธิเทพอยู่บนพระนิพพานมีตั้งเท่าไรที่ไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า เขาให้ขอรวมทุกท่าน เราไปขอแค่บางท่าน ก็อดต่อไป

เถรี 16-05-2018 21:01

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทำการค้าหัวใจสำคัญอยู่ที่การบริการ บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ลูกค้าก็อยากมาอีก พวกร้านสะดวกซื้อในปัจจุบันหุ่นยนต์ชัด ๆ เข้าไปถึงก็ “สวัสดีค่ะ” ทั้ง ๆ ที่ก้มหน้าก้มตานับเงินอยู่ ได้ยินเสียงประตูกริ๊ง “สวัสดีค่ะ” อาตมาหันไปดู เห็นหมายื่นหัวเข้ามา...!

อย่างไรถ้ามนุษย์สัมพันธ์ดี อยู่ในทำเลดี ทำร้านอาหารแล้วมีฝีมือบวกเข้าไปด้วย โอกาสร่ำรวยก็มีสูง ทำอย่างไรถึงจะเห็นลูกค้าเป็นพระเจ้า งี่เง่าขนาดไหนเราก็โกรธเขาไม่ได้ บ่นไม่ได้ ถึงเวลาเหลืออดเหลือทนก็เข้าห้องน้ำ เปิดน้ำดัง ๆ แล้วก็ตะโกน หรือไม่ก็เอาหน้าทิ่มใส่โอ่ง ปิดฝาแล้วตะโกน"

เถรี 16-05-2018 21:05

พระอาจารย์กล่าวว่า "แจ้งให้ญาติโยมทราบว่า ต่อไปถ้าจะเอาผ้าไตรมาถวายให้เปลี่ยนเป็นสีกรักทองแบบพระราชนิยม เพราะว่าต้องเปลี่ยนเป็นสีเดียวกันทั้งประเทศ"

เถรี 16-05-2018 21:16

พระอาจารย์กล่าวว่า "สีผึ้งหลวงพ่อทาบอย่าไปดูตลับ เพราะว่าตลับเหมือนกันยาก เนื่องจากว่าสมัยที่แจก ทางวัดให้ญาติโยมหาตลับไปกันเอง จำอย่างเดียวว่าสีผึ้งมีลักษณะแบบไหน ตลับเก่าได้อายุไหม ? แล้วก็อย่างน้อยมีตะกรุดสาริกาไว้ ๒ ดอก บางตลับโชคดีมีนางกวักติดไปด้วย

สีผึ้งที่เก่าจริง ๆ ที่อาตมามีอยู่เป็นของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว แล้วก็หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก นั่นแข็งเป็นหินไปเลย"

เถรี 16-05-2018 21:17

ถาม : สายมีดหมอของหลวงพ่อฤๅษีต้องนับมาจากใครครับ ?
ตอบ : ของหลวงพ่อฤๅษีจริง ๆ ต้องนับสายหลวงพ่อเดิม ของหลวงพ่อมาในแบบเทพอาวุธ ขอบารมีพระและท่านท้าวมหาราชช่วยสงเคราะห์

ถาม : สายหลวงพ่อเดิมละคะ ?
ตอบ : สายหลวงพ่อเดิมจะมาในลักษณะขออำนาจอาวุธเทวดามาเหมือนกัน

เถรี 16-05-2018 21:40

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีดหมอหลวงพ่อรุ่งส่วนใหญ่ท่านตั้งใจให้ใช้งานจริง ๆ ทำเป็นมีดใช้งานของชาวบ้าน ก็เลยทำเล่มใหญ่

พอรุ่นหลวงพ่อเดิม ท่านเห็นว่าบางทีคนใช้งานเปะปะ ไม่ได้ระมัดระวัง เสียดายของ ก็เลยทำเล่มเล็กให้เป็นการเฉพาะ"

เถรี 16-05-2018 21:45

ถาม : พระรุ่นนี้หลวงพ่อมีจารให้หรือไม่ครับ (พระขุนแผนมหาอุตม์) ?
ตอบ : ที่ทำไว้ ถ้าไม่ได้จารจะตอกเลข ๕ ไว้ข้างหลัง ถ้ามีตอกเลขก็ใช่ ถ้ามีเวลาก็จารให้ ถ้าไม่มีเวลาของเก่าเขาตอกไว้อย่างนั้น ที่จารให้ก็ตอนที่ลงไปทำบุญที่ปักษ์ใต้กัน

เถรี 16-05-2018 21:49

โยมมารับมีดหมอ "จำลายมือให้แม่น ๆ ลายมือนี้คือลายมือหลวงพ่อแจ่ม ลายมือส่วนใหญ่ที่เราเห็นตัวหนา ๆ นั่นเป็นลายมือหลวงพ่อชินที่ตอนนั้นรับใช้หลวงพ่อแจ่มอยู่ ส่วนลายมือนี้เป็นลายมือของท่านเอง ท่านเป็นคนเขียนหนังสือสวยมาก

มีดหมอหลวงพ่อแจ่มท่านใช้วิธีด้นสด ด้นสดก็คือนึกอยากเขียนอะไรก็เขียนลงไป แต่ละเล่มไม่เหมือนกันหรอก มาถึงตอนนั้นท่านท่องคาถาอะไรอยู่ก็ลงให้ไปเรื่อย"

เถรี 16-05-2018 21:50

พระอาจารย์กล่าวว่า "ล่าสุดที่ตรวจสอบทองคำสำหรับหล่อพระ อยู่ที่ ๑๑๑ กิโลกรัมกับอีกหน่อยหนึ่ง ลงเลขตองพอดี ยังขาดอีก ๒๙ กิโลกรัมเท่านั้น ขาดอยู่อีกนิดเดียว"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:23


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว