กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6849)

เถรี 20-12-2019 22:47

"กิเลสเขาเก่ง เขาจะหลอกให้เราภูมิใจ ว่าเราเข้าใจ เรารู้เห็น เราเข้าถึง และเราก็ลืมพิจารณาว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยตัดกิเลส มีแต่เพิ่มกิเลสให้เรา

หลายท่านน่าเสียดายเวลา เตลิดเปิดเปิงอยู่หลายปี อาตมาเองก็โดนไปสามปีเต็ม ๆ กลายเป็นทาสรับใช้เขา พอเขาถามเรื่องอะไร ก็ดูให้เขาหมด พอเขาชมก็ก้นกระดก ตัวลอย ปลื้มใจ ถ้าตายตอนนั้นก็ไปไม่รอด

พูดไปแล้วก็อยากรู้อยู่ดี เตือนไปก็เท่านั้นแหละ ต้องบอกว่าเอาที่สบายใจแล้วกัน"

เถรี 20-12-2019 22:50

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปลายฝนต้นหนาว ขอเตือนอีกครั้งว่า บ้านไหนมีคนแก่มีคนป่วยดูแลให้ดี คนแก่หรือคนป่วยร่างกายจะไม่แข็งแรงเหมือนคนปกติ พลาดขึ้นมาเมื่อไรก็ไปเลย ถ้าเราสังเกต ช่วงรอยต่อของอากาศคนจะเสียชีวิตเยอะมาก ไม่ใช่คนทั่วไปหรอก พระก็ด้วย"

เถรี 20-12-2019 23:25

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานนี้ยกเก้าอี้ ท่านนพรัตน์ก็วิ่งพรวดพราดมาบอกว่า "หลวงพ่อ ๆ เดี๋ยวปวดหลัง" อาตมาบอกว่า "กูไม่ใช่มึง มึงจะปวดก็ปวดไป กูทำอย่างนี้ของกูมาทั้งชีวิต" ถ้ามัวแต่ระวังมากเกินไปก็ไม่ได้ทำอะไรเลย จะไม่ระวังเลยก็ไม่ได้ แต่คราวนี้กำลังคนไม่เท่ากัน ของท่านไม่ไหว แต่อาตมายกคนเดียวก็ไปแล้ว เพราะฉะนั้น..ท่านไม่ไหว ถ้าไปฝืนก็ปวดหลัง ก็ต้อง ๒ คน ส่วนอาตมาคนเดียวยังรู้สึกว่าเบาไป"

ถาม : เป็นส่วนของการฝึกด้วยไหมคะ ?
ตอบ : บางอย่างเป็นปุพเพกตปุญญตา บุญเก่าสั่งสมมา ในเมื่อสร้างมาทางด้านนี้ก็จะแข็งแรงกว่าชาวบ้านเขาหน่อย อาตมาแค่วัยรุ่น ๑๕-๑๖ ปี ก็แบกข้าวสารเป็น ๑๐๐ กิโลกรัมแล้ว

เถรี 20-12-2019 23:52

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานไปงานบำเพ็ญกุศลถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ คราวนี้เห็นชัดเลยว่า ของใหม่ถ้าเราไม่ฝึกฝนให้เคยชิน ก็จะอ่านไม่ถูก ‘สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร’ ไม่มีใครที่อ่านถูกตรง ๆ สักคนหนึ่ง จะต้องหน้าผิดหลังผิดให้ยุ่งไปหมด

บรรดาพิธีกร มัคคนายก ตลอดจนกระทั่งโฆษก เรื่องตำแหน่งพวกนี้ต้องว่าให้ขึ้นใจ ไม่ใช่ไปถึงก็สะดุดกึก ๆ กัก ๆ อยู่นั่นแหละ..ฟังแล้วเสียอารมณ์ โดยเฉพาะงานหลวง"


เถรี 20-12-2019 23:54

ถาม : ที่อ่านออกประกาศ คนก็จำผิด ๆ ไปเยอะ ?
ตอบ : มีเยอะ จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าที่เขานิยมอ่านว่าอย่างไร ‘พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’ ศรีสินทร อ่าน สี-สิน แค่นี้ มักจะอ่านเป็น สี-สิน-ทะ-ระ เพราะว่าพอเขาอ่าน ปะ-ระ-เมน-ทะ-ระ ก็มา สี-สิน-ทะ-ระ แต่ไม่ได้ดูว่าสำนักพระราชวังเขาให้อ่านอย่างไร

ต่อให้สำนักพระราชวังอ่าน แล้วก็ราชบัณฑิตอ่าน แต่ถ้าพระราชนิยมไม่ใช่อย่างนั้นก็ต้องเปลี่ยน พระราชนิยมอย่างไรต้องเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น..เราจะอ่านเป็น พระ - บาด - สม-เด็ด-พระ-ปะ-ระ-เมน-ทะ-ระ-รา-มา-ทิบ-บอ-ดี-สี-สิน-มะ-หา-วะ-ชิ-รา-ลง-กอน-พระ-วะ-ชิ-ระ-เกล้า-เจ้า-อยู่-หัว

ส่วนใหญ่แล้วก็กลายเป็น สี-สิน-ทะ-ระ แต่ว่าบางคนอ่านหน้าหด สม-เด็ด-พระ-ปะ-ระ-เมน-รา-มา-ทิบ-บอ-ดี-สี-สิน-มะ-หา-วะ-ชิ-รา-ลง-กอน ก็ใช่ เพราะว่า ‘ทร’ เคยเป็นการันต์ แต่ในเมื่อมีคำตามเขาตัดการันต์ออก แต่ไม่ได้อ่านออกเสียง

แบบเดียวกับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อ่าน สม-เด็ด- พระ-เทบ-พะ-รัด-ราด-ชะ-สุ-ดา ‘รัตน’ ก็จริง แต่ว่าการันต์หายไปก็ต้องอ่านเป็น สม-เด็ด- พระ-เทบ-พะ-รัด อย่างเดียว คราวนี้พอมีคำตามก็ต้องเอาการันต์ตัวท้ายออก แต่ว่าถ้าคนไม่เข้าใจก็จะอ่านผิด คนเข้าใจก็อ่านถูก แต่ถ้าไม่ใช่พระราชนิยมก็ผิด เป็นอะไรที่ยุ่งมาก

เถรี 20-12-2019 23:57

ถึงได้บอกกับบรรดาเจ้าหน้าที่พิธีกรว่า คุณต้องว่าให้คุ้นลิ้นไปเลย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็จะมาอึก ๆ อัก ๆ โดยเฉพาะทางพระเรานี่ที่อนาถที่สุดก็คือสมณศักดิ์ ประมาณ ๕ ปีเปลี่ยนทีหนึ่ง จำไม่หมดนี่ตายเพราะว่าจะผิดคน เมื่อวันก่อนเลขาฯ พิมพ์หนังสือมาเพื่อที่จะต่อวีซ่าให้ท่านอาจารย์เตชะ เพราะว่าท่านเป็นธรรมทูตต่างประเทศ ลงนามพระราชวิสุทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี กูพิมพ์เองดีกว่าว่ะ..! เพราะว่าท่านเป็นพระเทพปริยัติติโสภณไปแล้ว

โดยปกติแล้วถ้าไม่ใช่ของใหม่จริง ๆ จะเป็นที่รู้กันว่าอ่านว่าอย่างไร อย่างท่านเจ้าคุณพระอินทเขมาจารย์เป็นตำแหน่งเฉพาะของจังหวัดราชบุรี แบบเดียวกับท่านเจ้าคุณพระสุเมธมุนี อย่างไรก็ต้องมีเชื้อสายมอญ ถ้าไม่ใช่มอญจะเป็นพระสุเมธมุนีไม่ได้ แล้วก็อย่างพระวิสุทธิรังษีเป็นตำแหน่งเฉพาะของกาญจนบุรี ไปที่อื่นไม่ได้ แล้วเขาก็จะรู้กันว่าอ่านอย่างไร ยกเว้นไปเจอพวกประเภทไม่เคยผ่านวงการมา ก็อ่าน พระ-อิน-ทะ-ขะ-เหมา-จาน

เถรี 21-12-2019 20:52

มีตำแหน่งเฉพาะของจังหวัดเชียงใหม่ ก็คือท่านเจ้าคุณพระนพีสีพิศาลคุณ ปัจจุบันไม่มีใครเอา เพราะว่าตำแหน่งนี้ตั้งไปแล้วมรณภาพติดต่อกัน ๓ รูปในเวลาอันไม่นาน

จริง ๆ คนตั้งสมณศักดิ์ท่านเก่งมาก นพีสี ก็มีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าวิมลนาคนพีสี เป็นพระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕ กับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี

นพีสี มาจาก นว + อิสิ เมืองใหม่ที่ฤๅษีสร้าง ก็คือนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ เพียงแต่กลับข้างมาเป็นนพีสีเท่านั้น นวอิสิ อะ + อิเป็นอี เป็นนพีสี เพราะฉะนั้น..นพบุรีศรีนครพิงค์ ถึงเวลาก็แปลงอะกับอิ เป็นอี เพราะว่ารัสสระคือเสียงสั้น ๒ ตัวจากเสียงอะกับอิรวมกัน ก็ต้องกลายเป็นเสียงยาว คือแปลงอะกับอิเป็นอี

เถรี 21-12-2019 20:54

ในเมื่อลบสระหน้า เหลือแต่สระหลัง สระหลังคืออิ ในเมื่อเป็นเสียงยาวก็ต้องเป็นนพี กฎกติกาหรือสูตรบาลี ถ้าคนไม่คล่องก็ไม่เป็น แต่จริง ๆ พวกคำยาก ๆ ควรที่จะให้ได้อ่านกันบ้าง

จำได้ว่าสมัยที่เรียนน่าจะเริ่ม ป. ๒ ที่เขาให้อ่านคำยาก ๆ ‘ตู้กระจก นกกระจอก เมฆหมอก หน้ามุข สุขสบาย แบ่งภาค พญานาค โรคภัย ใจสมัคร โทรเลข’ แม่กกจะต้องอ่านอย่างไร จะเป็นตัวสะกดที่อ่านออกเสียงเหมือน ก.ไก่ ทั้งหมด เด็กรุ่นหลัง ๆ เขาไม่ได้อ่าน ไม่ได้ท่อง ไม่ได้จำอีกต่างหาก เลยไปกันหมด

‘ระฆังดังหง่าง ๆ ฆ้องใหญ่กว้างครางหึ่ง ๆ กลองหนังดังตึง ๆ ตีกระดึงดังกริ่ง ๆ’ แม่กงหมด ต้องบอกว่าเด็กสมัยก่อนนี่โชคดีมาก ที่ได้เรียนในภูมิปัญญาที่ตกผลึกแล้วของบรรพบุรุษเรา เพราะไม่ว่าจะเป็นพระยาศรีสุนทรโวหาร พระยาอนุมานราชธน พระยาอุปกิตศิลปสาร แต่ละคนนี่สุดยอดเซียนบาลีเลย เพราะว่าบวชมาก่อนทั้งนั้น เสร็จแล้วสึกมาก็มารับราชการ สมัยก่อนไม่ว่าอะไรก็ต้องขึ้นต้นด้วยพระรัตนตรัย

เถรี 21-12-2019 20:55

นะโมข้าจะไหว้.........วรไตรรตนา
ใส่ไว้ในเกศา............วรบาทมุนี
คุณะวรไตร.............ข้าใส่ไว้ในเกษี
เดชะพระมุนี............ขออย่ามีที่โทษา
ข้าขอยอชุลี..............ใส่เกษีไหว้บาทา
พระเจ้าผู้กรุณา.........อยู่เกศาอย่ามีภัย
ข้าไหว้พระสะธรรม....ที่ลึกล้ำคัมภีรใน
ได้ดูรู้เข้าใจ..............ขออย่าได้มีโรคา
ข้าไหว้พระภิกษุ.........ที่ได้ลุแก่โสดา
ไหว้พระกิทาคา........อะระหาธิบดี
ข้าไหว้พระบิดา..........ไหว้บาทาพระชนนี
ไหว้พระอาจารีย์.........ใส่เกศีไหว้บาทา
ข้าไหว้พระครูเจ้า........ครูผู้เฒ่าใส่เกศา
ให้รู้ซึ่งวิชา.................ไหว้บาทาที่พระครู
จะใคร่รู้ที่วิชา.............ขอเทวามาค้ำชู
ที่ใดข้าไม่รู้...............เล่าว่าดูรู้แลนา
ไชโยขอเดชะ............ชัยชนะแก่มารา
ระบือให้ลือชา............เดชะสามาไชโย
ไชโยขอเดชะ............ชัยชนะแก่โลโภ
โทโสแลโมโห............อย่าโลเลโจ้เจ้ใจ

เขาไล่ไปตามลำดับ เด็กรุ่นหลังไม่ได้เรียนน่าสงสารมาก แต่ขณะเดียวกันรุ่นหลังนั้นก็บอกว่าสงสารหลวงตามาก หลวงตาเรียนอะไรเยอะแยะขนาดนี้ ตกลงว่าใครสงสารใครก็ไม่รู้ ? แล้วโบราณท่านประณีต ไหว้พระพุทธ ไหว้พระธรรม ไหว้พระสงฆ์ ไหว้พ่อแม่ ไหว้ครูบาอาจารย์

เถรี 21-12-2019 20:56

สมัยนั้นพอ ป. ๓ ป. ๔ วรรณคดีเป็นโคลงเป็นกลอนหมดแล้ว จำได้ว่า ป. ๓ นี่สังข์ทองตอนตีคลี ป.๔ ก็พระอภัยมณีตอนเกาะผีเสื้อ ถ้าเด็กรุ่นหลังไปเรียนอย่างนั้นตายแน่นอน แล้วก็พลายแก้วบวชเณรก็ ป.๓ ป.๔ เท่านั้นเอง

ต้องบอกว่าสังคมพาไป ในเมื่อสังคมพาไป ยุคนั้นเราจะเห็นว่าหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ที่ท่านมีอภิญญาสมาบัติเยอะแยะเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด จนไปถึงเจ้าอาวาส ต่อให้ไม่มีชื่อเสียงขนาดไหนก็ต้องเป็นอะไรสักวิชาหนึ่งให้ชาวบ้านเขาพึ่งได้

นางทองประศรีท่านว่า ‘จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร’ พูดง่าย ๆ คือส่งไปเรียนแล้วต้องได้ เขามั่นใจกันอย่างนั้น เขาเองมีความรู้สึกว่าไม่ใช่ของยาก ทุกคนเรียนได้ ถึงเวลาเขาก็อยากให้ลูกหลานได้เรียน

เถรี 21-12-2019 21:00

ครานั้นทองประศรีผู้มารดา............ได้ฟังลูกว่าหาขัดไม่
อันสมภารที่ชำนาญในทางใน.........ท่านขรัววัดส้มใหญ่แลดีครัน
เจ้าคิดนี้ดีแล้วแก้วแม่อา...............แม่จะพาไปฝากขรัวบุญท่าน
จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน.............ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร

ไปเรียนแล้วต้องได้ ต้องสำเร็จ เหมือนกับสมัยนี้เรียนอนุบาลอย่างไรก็ต้องจบ

อยากจะเป็นทหารชาญชัย................ให้เหมือนพ่อขุนไกรที่เป็นผี
จึงอ้อนวอนมารดาได้ปราณี................ลูกนี้จักใคร่รู้วิชาการ
พระสงฆ์องค์ใดวิชาดี......................แม่จงพาลูกนี้ไปฝากท่าน
จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน.................ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร

เถรี 21-12-2019 21:06

ไปเรียนแล้วต้องจบ มาสมัยนี้ โอ้โฮ...ยาก เมื่อวานนี้เด็กแต่ละคนทำหน้าเหมือนกับจะบรรลุกันหมด บอกว่าคราวนี้เอ็งรู้หรือยังทำไมวันแรกหลวงตาถึงไล่เอ็งไปขึ้นรอยพระบาท เพราะถ้าให้เอ็งมานั่งสมาธิตั้งแต่เมื่อวาน มาถึงวันนี้เอ็งตายหมดแล้ว ขนาดให้แค่ครึ่งวันยังทำท่าจะตายกันหมด

วันแรกเขาก็สงสัย หลวงตาพาไปทำความสะอาด พาไปขึ้นยอดดอย ก็สนุกเฮฮาไปตามแรงบ้าของเด็ก บางคนก็ประท้วงว่ามาปฏิบัติธรรม เอ้า..ได้ เจอไปครึ่งวันทำท่าจะตายกันหมด เป็นอย่างไรล่ะ ? ถ้าหลวงตาพาทำตั้งแต่วันแรก
พวกเอ็งจะเหลือไหม ?

แต่ต้องบอกว่าเด็กชุดนี้ถ้าใฝ่ดีนี่มีสิทธิ์เลย เพราะว่าเขาอาสามาด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่ไอ้พวกที่มาปฏิบัติเพื่อแก้ ร. แต่ครูแถวนี้ก็ประเภทที่เรียกว่าพอกันเลย ในเมื่อเอ็งติด ร. ไม่ยอมส่งงานใช่ไหม ? ไปปฏิบัติธรรมวัดท่าขนุนครบหลักสูตร ๕ วันกลับมาจะแก้ ร.ให้...เกือบตาย รุ่นพี่ไปบอกรุ่นน้องว่าต้องตั้งใจเรียนแล้ว ไม่อย่างนั้นโดนแน่..!

เถรี 21-12-2019 21:10

ชุดนี้เขารับอาสาว่าปฏิบัติธรรมถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสร็จแล้วจะมีคะแนนกิจกรรมให้ พวกที่เขาอยากปฏิบัติธรรมก็เท่ากับได้โอกาส แต่โอ้โฮ...เด็ก ๆ กินกันกระจายจริง ๆ เลย แล้ววัดเราก็เลี้ยงไม่อั้นด้วย หมูบดกับลูกชิ้นอย่างละถาด ลงไปแค่ ๑๐ กว่าคนตักก็หมดแล้ว เพราะว่าเขาเอาไปใส่ก๋วยเตี๋ยว ให้กินก๋วยเตี๋ยวพวกเขาเล่นกวาดลูกชิ้นกับหมูบดกัน ไป ๑๐ กว่าคนหมดถาดไปแล้ว ถ้าขืนทำอย่างนี้ละก็...เพื่อนมาข้างหลังไม่ต้องกินกันพอดี

ผอ.ก็กลัวว่าเด็กจะขาด เขาก็เลยพามาเกิน ๒๐๐ คน เผื่อว่ามีใครหนีปฏิบัติ นับเป็นความหวังดีของ ผอ.นั่นแหละ แต่มาเท่าไรวัดก็ต้องเลี้ยง แล้วที่อื่นเขาก็บ่นกันว่าเขาหาพระปฏิบัติไม่ได้ ท่านรองผู้ว่าฯ สมยศ ศิลปีโยดม บอกว่าที่อื่นเขาหาคนปฏิบัติไม่ได้ วัดหลวงพ่อเป็นสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่น ได้รางวัลโน้นรางวัลนี้ จัดปฏิบัติปีหนึ่งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง อ๋อ...ต่างกันครับ เขามาแล้วเขารู้สึกว่าเขาได้…เขาจะมา แต่ถ้ามาแล้วรู้สึกว่าไม่ได้อะไร เขาไม่ไปหรอก...เสียเวลา

โดยเฉพาะของวัดเราถ้าเราจัดหลักสูตรเสาร์ - อาทิตย์ คนไม่ค่อยไปเพราะว่าวัดของเราไกล รู้สึกว่าไปแล้วไม่คุ้ม แต่ถ้า ๓-๕ วันพอได้อะไรบ้างเขาจะไป ของเราไกลเกินไป ถ้าต้องการความสงบโดยเฉพาะตอนช่วงนี้ เมื่อเช้าเขาส่งอุณหภูมิมาทางไลน์ ๑๒.๖ องศาเซลเซียส เมื่อวานนี้ยัง ๑๔.๙ อยู่ ลดลงไปทีเดียว ๓ องศาเลย แต่ว่าแถว ๆ เกาะพระฤๅษีนี่ ๘-๙ องศาเซลเซียสเข้าไปแล้ว เพราะว่าข้างในเป็นป่าเป็นเขา..เย็นกว่าเยอะ ก็ต้องบอกว่ายังโชคดีได้อยู่ในที่ซึ่งภูมิอากาศร้อนหนาวยังเป็นปกติอยู่

เถรี 24-12-2019 09:33

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของทหารควรจะมีการเกณฑ์ เพราะว่าชายไทยทุกคนจำเป็นจะต้องทำหน้าที่ป้องกันประเทศชาติอยู่แล้ว อยากจะให้ไม่มีการยกเว้นเสียด้วยซ้ำไป เพราะว่าการฝึกทหารถ้าเราตั้งใจจะเอาดีจริง ๆ จะได้อะไรติดตัวมาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นความมีระเบียบวินัย ความแข็งแรงของร่างกาย ความรู้ในการที่จะหลบหลีกเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ ฯลฯ ถ้าคุณตั้งใจเรียนคุณจะได้เยอะกว่าที่คิด

แต่คราวนี้ส่วนใหญ่ไปเกี่ยงว่าลำบาก...เหนื่อย โดยที่ไม่ได้ดูว่าถ้าเราสามารถผ่านตรงนั้นไปได้ ต่อไปก็ไม่มีอะไรลำบากกว่านั้นอีกแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของเยาวชน เราจะเห็นว่าในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรเป็นสาระแก่นสารเลย ควรที่จะได้อะไรติดตัวเอาไว้บ้างจากการเกณฑ์ทหาร อย่างน้อย ๆ ความมีระเบียบวินัยก็ยังดี ไม่อย่างนั้นถึงเวลาก็ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ได้สนใจว่าระเบียบเป็นอย่างไร วินัยเป็นอย่างไร แล้วท้ายสุดก็คือกฎหมายเป็นอย่างไรกูก็ไม่สนใจด้วย"

เถรี 24-12-2019 09:36

"เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ถ้าจะจัดการให้ดีจริง ๆ กำลังพลเราต้องการประมาณเท่าไรรับสมัครไปก่อน ถ้าได้เพียงพอก็จบแค่นั้น ถ้าได้ไม่พอเราเฉลี่ยแล้วเกณฑ์แต่ละจังหวัด ก็จะเหลือแค่ไม่กี่คน ดีไม่ดีจะเหลือจังหวัดละคนสองคนเท่านั้นเอง ใครคนไหนจับได้ก็คงเป็นลมไปเลย

เดี๋ยวนี้การเกณฑ์ทหารหลายจังหวัด อย่างกรุงเทพฯ สระบุรี ลพบุรี ไม่ต้องไปเกณฑ์ เขาสมัครเกินทุกปี เพราะว่าเดี๋ยวนี้พลทหารเงินเดือน ๙,๐๐๐ บาท ไม่ใช่อย่างสมัยอาตมา สมัยอาตมาเรียนจบนักเรียนนายสิบมา ปีแรกเข้ารับราชการเงินเดือน ๑,๙๘๐ บาท บวกค่าครองชีพ ๒๗๐ บาท สมัยนี้พลทหารอย่างเดียว ๙,๐๐๐ บาท อาตมาได้ยินก็...โอ้พระเจ้า แล้วนายทหารเงินเดือนไปถึงไหน ?

ส่วนที่ควรลดอย่างยิ่งเลยก็คือระดับหัว ๆ โน่น เพราะว่าระดับบัญชาการไม่จำเป็นต้องมีมากขนาดนั้น ถึงเวลานายพล
จะเดินชนกันตาย แล้วก็หาคนที่เสียสละเพื่อส่วนรวมได้ยาก สมัยอาตมาเองเป็นทหารอยู่ ร้อยตรี ร้อยโท อยู่ต่างจังหวัดนี่ใหญ่คับฟ้า แต่พอเข้ากรุงเทพฯ มา ขนาด พันตรี พันโท ยังจ๋อย ๆ เลย เพราะว่ามีแต่คนใหญ่กว่า เจอหน้าใครก็ต้องทำความเคารพเขาไปหมด ส่วนพวกเราอยู่ต่างจังหวัด ร้อยโทนี่ผู้บังคับกองร้อย โคตรเท่เลย ปกติร้อยโทถ้าเป็นในกรุงเทพฯ ใหญ่ที่สุดก็ไม่เกินรองผู้บังคับกองร้อย"

เถรี 24-12-2019 09:37

"ตอนที่อยู่กับหลวงพ่อฤๅษีฯ คอยเฝ้าหน้าห้องให้ท่าน ผู้การเขต ๙ พลตำรวจตรีนพเก้า ธัญศิริ มากราบหลวงพ่อ ตำรวจเดินตามมาเป็นร้อย ผู้บังคับการเขตจะคุมหลายจังหวัด ผู้กำกับจังหวัดยังพอมีคนเห็นบ้าง รองผู้กำกับ ๒ ท่านเดินมาไม่มีใครแลเลย เพราะถือว่าให้คุณให้โทษอะไรไม่ได้ คนที่จะเซ็นอนุมัติให้คุณได้ยศได้ตำแหน่งคือผู้กำกับจังหวัด แล้วใหญ่ขึ้นไปก็คือผู้บังคับการเขต

เพราะฉะนั้น..พอถึงเวลาคุณนพเก้าจะขึ้นมากราบหลวงพ่อที่ห้อง มีนายพันตำรวจตรีลงไปกอดเท้า..ถอดรองเท้าให้ อาตมาคิดว่า...อื้อหือ มึงนี่เสียชาติเกิดจริง ๆ ระดับพันตำรวจตรี งานที่ประเภทพลตำรวจก็ทำได้ แต่มึงรีบไปทำ เพราะกลัวว่าเจ้านายจะไม่เห็นมึง"

เถรี 24-12-2019 09:43

"เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าไม่มีศักดิ์ศรีเลย เพื่อความก้าวหน้าในชีวิตของตัวเอง ไม่ได้ใช้ฝีมืออะไรเลย นอกจากติดตามบริการเจ้านาย แล้วก็ดันเป็นธรรมชาติเสียด้วย เพราะว่าถ้าใกล้หูใกล้ตาเจ้านาย ถึงเวลาท่านก็จะนึกถึงก่อน

ทหารรับใช้จะมีตามยศของตัวเอง อย่างเช่นว่า ร้อยตรีจะมีทหารรับใช้ได้คนหนึ่ง ก็ไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วส่วนใหญ่ทหารรับใช้ที่ไปนี่อาสาไปเองนะ เพราะว่าขี้เกียจฝึก ข่าวที่ออกมาทุเรศ ๆ นั่นก็เพราะว่าบางคนก็ไปเจอเขากดขี่ข่มเหงเอาจริง ๆ แต่บางคนก็ประเภทที่เรียกว่า เกิดอะไรขึ้นกูออกข่าวไว้ก่อน

ก็แบบเดียวกับเมื่อเดือนที่ผ่านมา แม่ชีที่วัดพอถึงเวลาก็ไปลงเพจสัตว์เลี้ยงสารพัดสารเพ บอกว่าตัวเองโดนไล่ออกจากวัดแล้วหมา ๔๒ ตัวจะอดตายหมด ไม่มีอะไรกิน น่าฆ่าให้ตาย...! ขนาดต้องถ่ายรูปหมาส่งไปให้ทางเว็บเขาด้วย บอกว่าไอ้หมาที่จะเดินไม่ไหวเพราะว่าอ้วนเกินไป ไม่ใช่ไม่มีอะไรจะกิน"

เถรี 24-12-2019 09:47

"เขาแชร์ต่อไปบานเบิก โดยเฉพาะพวกที่ถึงเวลาก็ใส่อารมณ์เลยโดยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร คือแม่ชีรายนี้วีรกรรมแกเยอะ เคยโดนหัวหน้าแม่ชีไล่ออกไปทีหนึ่งแล้ว แต่แกก็ทำหน้าตาเฉยอยู่ต่อไปเรื่อย จนกระทั่งแม่ชีชื่นหมดปัญญาจะจัดการ ครั้งนี้หลวงพ่อต้องเป็นคนไล่เอง

โดยปกติแล้วการรับคนเข้ารับคนออกในส่วนของฆราวาสกับแม่ชี อาตมามอบให้เป็นหน้าที่แม่ชีชื่น แต่แม่ชีชื่นเองก็ไม่มีปัญญาจะจัดการ เขาทำหน้าตาย...กูไม่ไป ก็ปล่อยเขาอยู่ต่อ เสร็จแล้วก็สร้างปัญหาให้ทุกครั้ง เพราะว่าเขาจะไปโพสต์ว่าเขาอยู่วัดลำบาก ไม่มีสตางค์ใช้ เพื่อไปขอเงินเขา เสร็จแล้วพอถึงเวลาฝนตก หมาก็เดินตากฝนมา ไปเล่นสนุกมา ตัวเปียกมะลอกมะแลก แกก็ถ่ายรูปไปให้เขาดู บอกว่าหมาไม่มีที่พัก ขอรับบริจาคซื้อผ้าใบมาทำอะไรให้หมาอยู่หน่อย

แกหารายได้ทุกอย่างที่แกเห็นว่าคนเขาจะโอนสตางค์ให้ เขาสามารถหาประโยชน์ได้จากทุกสถานการณ์ ท้ายสุดเพราะว่าโดนแม่ชีชื่นไล่ออก ก็มาฟ้อง “หลวงพ่อ..หนูโดนไล่ออก” ก็คือประมาณว่าจะให้อาตมาไปกัดกับแม่ชีชื่นแทนแกกระมัง ? ก็บอกไปว่า “ไล่ออกก็ไปเลย..ขนของออกไปวันนี้แหละ” ก็อาตมาให้อำนาจเขาแล้ว ในเมื่อหัวหน้าแม่ชีเขาไล่ออก คุณก็ต้องไปตามที่เขาสั่ง เขาก็เลยใช้วิธีประเภทโพสต์ลงสารพัดเพจสัตว์เลี้ยง เหมือนกับเรียกร้องความสนใจ หมาไม่มีจะกินแล้ว เขาจะได้โอนสตางค์ค่าอาหารมาให้อะไรประมาณนี้"

เถรี 24-12-2019 09:49

"เช้า ๆ หมาที่วัดชอบลงไปว่ายน้ำเล่น เพราะฉะนั้น..ถึงเวลาฝนตกแทนที่จะหลบฝน ก็ไปตากฝนเล่น แกก็จะถ่ายรูปหมาเปียกมะลอกมะแลก แล้วก็บอกว่าหมาหนาวจะตายอยู่แล้ว ไม่มีที่มุงที่บังอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่หมาจะมุดเข้าไปใต้ถุนกุฎิหลังไหนก็ได้

ไปขอบริจาคเงินเขาซื้อผ้าใบเพื่อที่จะเอามามุงหลังคาให้หมา ทั้งที่ชายคาหลบฝนที่ไหนก็มี วีรกรรมแกเยอะมาก พอรู้ว่าโดนไล่ออกตอนไปบิณฑบาต โยมทางบ้านเขาก็ “หลวงพ่อ..ขอให้แม่ชีอยู่ต่อหน่อยเถอะ” อาตมาบอกว่า “ไม่ไหวแล้ว ฉันรับความตอแหลของแม่ชีไม่ไหว โยมเอากลับไปเถอะ” โยมเจอหลวงพ่อพูดตรง ๆ เข้าก็คงสะอึกเหมือนกัน"

เถรี 24-12-2019 19:41

ถาม : ลูกของหนูป่วยบ่อยค่ะ จะทำบุญอย่างไรคะ ?
ตอบ : ถ้าทำบุญตอนนี้ไม่ทันหรอก ต้องทำตั้งแต่ชาติที่แล้วถึงจะได้ชาตินี้ เพราะฉะนั้น..ชาตินี้ไม่ต้องทำบุญ...ไปหาหมอเอา

ถ้าถามอย่างนี้ ไปที่อื่นเขาจะมีสารพัดวิธีแก้กรรม แล้วจะรู้ว่าต้องจ่ายหนักแค่ไหน เอาวิธีที่เป็นธรรมชาติและคนทั่ว ๆ ไปยอมรับ ก็คือไปหาหมอ ไม่ใช่ถึงเวลามาถามพระ หรือถามหมอดู หรือถามตำหนักทรง เดี๋ยวก็จะรู้ว่าหา
เงินมาเท่าไรก็ไม่พอให้เขาหรอก หลวงพ่อพูดตรงเกินไปคนเขาไม่ค่อยชอบ เพราะว่าพูดแล้วเขาจะรู้สึกว่าตัวเองโง่ไปถนัดเลย..!

เถรี 24-12-2019 19:47

จับลูกไปคลุกดินคลุกทรายบ้าง โยนลงน้ำบ้าง จะได้แข็งแรง เด็กสมัยนี้พ่อแม่เลี้ยงมาตีนไม่ติดดิน ถ้าเป็นตำราเวชศาสตร์วรรณาโบราณ ก็คือธาตุพร่อง ขาดธาตุดิน ตีนไม่ติดดิน อาตมาเดินตากแดดพักเดียวมีวิ่งร่มมาคันสองคัน บอกว่า “มึงไปห่าง ๆ เลย กูไม่ได้กลัวดำสักหน่อย”

ถาม : ถ้าไม่โดนแดดบ้าง จะเพลียง่าย ?
ตอบ : แสงแดดเป็นแหล่งพลังชีวิตชัด ๆ พอถึงเวลารีบไปกั้นไว้ กลัวตัวเองจะแข็งแรง โยมบางคนทนเดินตามได้หน่อยเดียว ก็ไม่ไหวแล้ว...มุดเข้าร่ม จึงอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ

ตอนช่วงเด็กกับวัยรุ่น ที่อาตมาชอบที่สุดก็คือเล่นน้ำฝน เล่นจนกระทั่งรู้ว่าถ้าฟ้าแลบนี่ต้องรีบเผ่นห่าง ๆ จากรางน้ำฝน เพราะว่าไฟฟ้าจะดูดกระเด็นเลย ไม่น่าเชื่อว่าฟ้าแลบอยู่บนฟ้า ไฟลงมาดูดเราที่พื้นได้ ช่วงอยู่ที่วัดทองผาภูมิ ถือไมค์ฯ สวดมนต์ ฟ้าผ่าอยู่ไม่ไกล เปรี้ยง...! ไฟดูดชนิดไมค์ฯ กระเด็นหลุดมือ ร่างกายบางคนมีสภาพคล้าย ๆ แบตเตอรี่หรืออย่างไรก็ไม่รู้ ? ถึงเวลาไฟฟ้าลงแล้วดันไปรับได้

เถรี 24-12-2019 19:48

ถาม : ทำไมหนูทำอะไรชีวิตมีแต่ติดขัด ?
ตอบ : ยังไม่ทำจริง เจออะไรขึ้นมาก็ถอย ถ้าคนสู้จริง ๆ ก็ชนะทุกเรื่อง พวกเราหวังแต่จะเอาที่ง่าย ๆ ที่สบาย ๆ แล้วจะไปเอาที่ไหน ? แบบนั้นคนอื่นเขาเอาไปหมดแล้ว

กลับไปสู้จริง ๆ ทำจริง ๆ ก็สำเร็จทุกเรื่อง ในหลวงรัชกาลที่ ๖ บอกว่า ‘หนทางแห่งเกียรติศักดิ์ จักโรยด้วยดอกไม้ หอมหวนยวนจิตไซร้ ฤๅมี’ ไม่มีหรอก...ต้องลำบากทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ว่าลำบากไประยะหนึ่งแล้วก็จะดี ถ้าไม่ยอมลำบาก จะเอาแต่ที่สบายอย่างเดียว คนอื่นเขาเอาไปหมดแล้ว

เถรี 24-12-2019 19:59

ถาม : ตอนนี้เจ็บที่คอที่แขนลงมา ชามากเลยครับ หมอบอกว่าหมอนรองกระดูกเสื่อม ไปกดเส้นประสาท มีคำแนะนำหรือวิธีการรักษาไหมครับ ?
ตอบ : ไปหาหมอใช่ที่พญาเวชแพทย์แผนไทย อยู่ซอยราษฎร์บูรณะ ๑๙/๑ เขาจะเก่งพวกเรื่องกระดูก บอกหมอว่าอาการเป็นอย่างไร หมอชื่อพรชัย แต่ชื่อจีนเขาชื่อไฉ้ เขาเปิดร้านตั้งแต่ ๖ โมงเช้า ไปค้นหาคำว่าพญาเวชแพทย์แผนไทย ของโยมเป็นที่คอ ส่วนอาตมาเป็นที่เอว อาตมาไปหามา ๒ ยกแล้ว ถึงเวลาหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนไปเบียดประสาทจนขาชาหมด

เถรี 24-12-2019 20:31

มีโยมซื้อใบมีดโกนมาถวาย "ถ้าจะซื้อใบมีดโกนหัวถวายพระ ให้เอายี่ห้อขนนก กล่องสีเหลือง ขนนกนี่ได้มาตรฐานความคมจริง ๆ แต่ตอนหลังคนปลอมกันเยอะ เขาก็เลยเปลี่ยนจากกล่องแดงมาเป็นกล่องเหลือง แล้วดูซิว่าคนปลอมจะยังเปลี่ยนกล่องตามอีกไหม ?"

เถรี 25-12-2019 19:02

พระอาจารย์กล่าวถึงรางวัลหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ “ปีนี้รับรางวัลเป็นชิ้นที่ ๑๐ แล้ว เฉลี่ยประมาณเดือนละชิ้น พอทำงานไปหลาย ๆ ปี ผลเริ่มออก หน่วยงานโน้นก็ให้ หน่วยงานนี้ก็ให้ รับรางวัลไปจนไม่มีตู้จะใส่แล้ว

ยังเรียนท่านเจ้าคุณแย้มว่า “ผมมารับรางวัลนี่ ผมทิ้งเงินไปเยอะเลยนะ” โยมเขาเอาสตางค์มาให้ยังหนีไปรับรางวัลอีก ...(หัวเราะ)...

รับรางวัลเอาไว้เป็นกำลังใจให้ลูกศิษย์ ส่วนอาจารย์มีรางวัลหรือไม่มีรางวัลก็ทำงานอยู่แล้ว

เถรี 25-12-2019 19:04

พระอาจารย์กล่าวว่า “ตอนอยู่ประเทศจีนอากาศประมาณ -๕ องศาเซลเซียส หิมะท่วมบ้านท่วมเมืองไม่หนาว ทีบ้านเราไม่เท่าไรทำไมถึงหนาว ? ...(หัวเราะ)... คืออากาศเย็นเท่ากัน ถ้าเจอลมเข้าไปนี่เย็นกว่าเยอะเลย

ตอนที่ไปฝรั่งเศส ไปนั่งเรือบาโตมุกซ์ (Bateaux-Mouches) ลงไปล่องแม่น้ำแซน มีเด็กคนหนึ่งน่าจะสัก ๖-๗ ขวบ พ่อแม่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ? เขาอยากชมวิวก็วิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า คราวนี้อากาศหนาวมาก ตรงมุมที่บังได้ผู้ใหญ่ก็ยืนกันแน่นหมดแล้ว จึงยืนสั่นแหง็ก ๆ อยู่คนเดียว อากาศ ๑๕ องศาเซลเซียส แต่ว่าลมแรง ไม่รู้จะทำอย่างไรอาตมาก็เลยดึงมาซุกข้าง ๆ ...(หัวเราะ)... ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีใครบังลมให้เดี๋ยวได้หนาวตาย ส่วนใหญ่พวกล่องเรือเขาจะอยู่ในห้องกระจกกัน พวกเราอยากดูโลกภายนอกให้เต็ม ๆ ตาก็ขึ้นดาดฟ้ากัน...หนาวสะใจ ...(หัวเราะ)...

ทองผาภูมิช่วงที่อาตมาอยู่ ๒๗ ปีที่ผ่านมา หนาวต่ำสุดแค่ ๒.๕ องศาเซลเซียส แต่ ๒.๕ นี่วัดจากตู้สกรีนของกรมอุตุฯ คาดว่าออกมาข้างนอกน่าจะลดไปอีกสัก ๑ องศาเซลเซียส ช่วงนั้นนี่ห่มจีวรไม่ได้ เพราะว่ามืองอได้แค่นิดเดียว กำไม่เข้า ม้วนลูกบวบไม่ได้ จีวรต้องพับ ๆ แล้วก็ห่มเอาเฉย ๆ แต่ว่าสมัยเด็ก ๆ ก็หนาวอย่างนี้แหละ ช่วงนั้นป่ายังเป็นป่าอยู่ รอบบ้านอาตมามีแต่ป่า หน้าหนาวนี่หนาวหนังแตกลายทั้งตัว กลางคืนต้องล้อมรอบกองไฟกัน ถึงเวลาเผลอหลับหน้าทิ่มลงไป ก็ผมไหม้หงิกไปแถบหนึ่ง

คนกรุงไม่ได้ใส่เสื้อกันหนาวมานานแล้ว ให้เขาได้ใส่บ้าง หนาวสักสัปดาห์หนึ่งก็คุ้มแล้ว ...(หัวเราะ)...”

เถรี 25-12-2019 19:06

ถาม : คราวที่แล้วมาถามว่าเพื่อนเขาผูกคอตาย อยากถามว่าพ้น ๕๐๐ ชาติที่ต้องผูกคอตายหรือยังครับ ?
ตอบ : จะไปสนใจอะไร อย่าไปยุ่งกับกรรมของคนอื่น ยุ่งเมื่อไรจะเดือดร้อนเอง หน้าที่ของเราทำบุญทำทานอะไรไปให้ ถ้าบอกไปว่ายังไม่ครบ ๕๐๐ ชาติก็ไปนั่งเครียดแทน แล้วจะมีประโยชน์อะไร ?

เถรี 25-12-2019 19:08

พระอาจารย์กล่าวว่า “อุตส่าห์รีบซื้อเช็คไว้ ๒ ล้านบาท คิดว่าวันนี้จะเจอหลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ ว่าจะถวายท่านเพื่อสร้างพระจุฬามณี ปรากฏมหาเลิศบอกว่า “หลวงพ่อระยะนี้ไม่ค่อยไปไหน เหมือนกับไม่มีเรี่ยวมีแรง” ก็เลยบอกไปว่า “ผมจะรีบถวายก็เพราะอย่างนี้แหละ ขืนช้าท่านไปเสียก่อนก็ไม่ต้องถวายกันพอดี” ...(หัวเราะ)... เพราะว่าเพื่อนร่วมรุ่นท่านไปกันเยอะแล้ว อย่างวันก่อนหลวงปู่ชุ้น วัดวังตะกู นั่นซี้กันเลยนะ

แนวคิดท่านสุดยอดมาก สร้างพระใหญ่แล้วสร้างจุฬามณีเป็นมงกุฎ คือถ้าดูจากมุมตรงจะเห็นเหมือนกับพระใหญ่สวมมงกุฎอยู่ ท่านบอกว่า “เอ็งให้วิทยาลัยสงฆ์ ๑๐ ล้าน ขอข้าล้านเดียวว่ะ” ถามท่านว่าแล้วทั้งหมดเท่าไร ? ท่านบอกว่า ๒ ล้าน กราบเรียนท่านว่า “หลวงพ่อ...จุฬามณี ๒ ล้านนี่ สามวันจะพังไหม..?!” ท่านบอกว่า “เฮ้ย...เขาทำดี เพียงแต่ว่าเขาได้จากข้าเยอะแล้ว เขาเลยคิดราคาถูก” ก็เลยกราบเรียนท่านว่าเดี๋ยวผมหาให้

สรุปว่า ๒ ล้านก็เหมาเองเลย เดี๋ยวคงต้องรีบหาวันว่างวิ่งเอาไปให้ท่าน คือถ้าเงินเข้ากองทุนในนามของท่านก็จบ เพราะว่าคนอยู่ต่อเขาทำได้ แต่ถ้าเงินไปทีหลังท่านมรณภาพแล้ว คราวนี้ไว้ใจไม่ได้แล้วว่าจะไปอยู่กับใคร”


เถรี 25-12-2019 19:09

โยมนำพระเก่าที่บ้านมาให้พระอาจารย์ดู “พวกนี้เขาเรียกว่าพระนับร้อย ทางท่าพระจันทร์เขาทำไว้บานเบิก วัดไหนก็ซื้อเอาไปเสกได้ เพราะฉะนั้น..บอกไม่ถูกหรอกว่าของที่ไหน จะมีหลายวัดที่หลวงปู่หลวงพ่อท่านไม่มีอารมณ์มาค่อย ๆ สร้าง ถึงเวลาก็ไปสั่งเขา วัดท่าซุงแรก ๆ ก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน”

เถรี 25-12-2019 19:11

มีโยมถวายข้าวสาร พระอาจารย์กล่าวว่า “สมัยที่เข้าไปปฏิบัติธรรมที่บึงลับแล มีข้าวหอมมะลิตราหงส์ทองแบบนี้ ๑ ถุง อาตมาอยู่ได้เดือนครึ่ง เป็นพวกเราจะพอกินไหม ? ถุงหนึ่ง ๕ กิโลกรัม เฉลี่ยแล้วกินวันละประมาณขีดเดียว ลองดูนะ..แล้วหุ่นจะดีมาก..!

ถ้าคนเรากินเต็มที่ใช้ข้าวสารไม่เกิน ๒ ขีดครึ่ง เอาไปหุงเป็นข้าวสวยนี่ได้เยอะมาก อาตมาเอาพออยู่ได้ก็ประมาณ ๑ ขีดโดยเฉลี่ย และก็ไม่อยากแบกเข้าไปมากให้หนัก กะว่าอยู่ได้นานกี่วันก็เอาเท่านั้น ปรากฏว่าข้าวหอมมะลิถุงหนึ่งอยู่ได้เดือนครึ่ง ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่ว่าฟ้าจะโปรด สรุปอยู่ไปเกือบ ๓ เดือน

แล้วจุดที่คนอื่นเขาไม่กล้าทำก็คือ กลางคืนตี ๒ ตี ๓ กระโดดลงในบึงว่ายน้ำเล่น คนอื่นเขากลัวจะมีตัวอะไรมางาบไป น้ำในบึงลึกมาก ลุงปานเคยวัดช่วงที่น้ำขึ้นเต็มกับช่วงที่ลดต่ำสุดได้ ๑๔ วา หรือ ๒๘ เมตร ขนาดนั้นต่อให้ไดโนเสาร์ทั้งตัวก็อยู่ได้สบาย”

เถรี 25-12-2019 19:11

พระอาจารย์กล่าวว่า “พออายุ ๖๐ แล้วรู้สึกว่าแก่ไปหมด นั่งนาน ๆ ก็เมื่อย เดินขึ้นบันไดก็เมื่อย แสดงว่าร่างกายคนเราเสื่อมไปตามวัย แข็งแรงแค่ไหนก็เสื่อม ส่วนตัวอาตมาเองยังไม่ค่อยรู้สึก เคยทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ยกของหนักอย่างไรก็ยกอย่างนั้น บางทีพระก็บอกว่า “เดี๋ยวปวดหลังนะหลวงพ่อ” เออ..เรื่องของกู..!”

เถรี 25-12-2019 19:12

โยมนำวัตถุมงคลมาให้พระอาจารย์ดู “ดูท่าจะไม่ใช่ของแท้ แบบนี้ตั้งใจเก่า คุณดูแค่ฝุ่นที่จับ ถ้าเป็นของชาวบ้านทั่วไป เวลาเขาวาง เขาวางขึ้นด้านเดียว แต่อันนี้ฝุ่นจับทั้งหน้าหลังเหมือนกันเลย

เรื่องของวัตถุมงคลอย่าให้ความโลภบังหน้า เห็นแล้วพิจารณาให้ดี มีอะไรสงสัยแม้แต่นิดเดียวนี่อย่าไปแตะ ถ้าของที่เรียกว่าผิวหิ้ง หรือว่าชาวบ้านเขาวางไว้บนหิ้งอย่างเดียวไม่ได้ใช้ จะมีฝุ่นจับจะมีขี้ยุงอะไรก็จะมีด้านเดียว เพราะว่าอีกด้านที่อยู่ข้างล่างไม่ติดไปด้วยหรอก อันนี้ติดมาครบถ้วน ๒ ฝั่งเลยแสดงว่าตั้งใจทำให้เก่า

พวกตะกรุดต้องส่องเข้าไปแม้กระทั่งในหลอด ถ้าหากว่าพวกงานอื่น ๆ จะซอกจะมุมอะไรต้องดูให้ทั่วถึง”

เถรี 25-12-2019 19:16

พระอาจารย์กล่าวถึงโครงการซื้อเครื่องฟอกไตให้โรงพยาบาลทองผาภูมิ “ไปสร้างห้องให้เขาแล้วตั้งได้ ๑๒ เครื่อง ตอนนี้เพิ่งจะมี ๕ เครื่อง ขาดอีก ๗ เครื่องก็ประมาณ ๗ ล้านบาท เครื่องเก่ามีอยู่ ๒ เครื่องที่ซื้อราคาประมาณ ๕ แสนบาท อันนั้นฟอกไตแล้วคนไข้หมดแรงไป ๒ วัน..! ส่วนเครื่องเป็นล้านนี่ฟอกไตเสร็จทำงานต่อได้เลย

ต้องบอกว่าคนทองผาภูมิน่าสงสาร ก่อนนี้จะฟอกไตแต่ละทีโน่น...ต้องลงไปถึงโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาในเมือง ๑๔๐ กิโลเมตร ถ้าไปแล้วเครื่องเขาไม่ว่างก็ไม่ได้ฟอกอีก ท้ายสุดพอคนป่วยโรคไตเริ่มมีมากขึ้น ผู้อำนวยการนวลจันทร์ก็เลยมาถามว่า “หลวงพ่อช่วยสร้างห้องไตเทียมให้ได้ไหมคะ ?” ก็เลยต้องไปหามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขเข้ามา สร้างห้องไม่กี่เดือน แต่รอคณะกรรมการจากกระทรวงสาธารณสุขมาตรวจนี่เกือบปี แค่ตั้งคณะกรรมการมา ๓ คน ๕ คน ทำไมช้าได้ขนาดนั้นก็ไม่รู้ ? พูดง่าย ๆ ว่าคนไข้จะตายหมดก่อน ท้ายสุดพอตรวจผ่านก็เอาเครื่องมาลง

สมัยนี้ที่คนไข้เป็นโรคไตกันมากเพราะว่ากินอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์มาก ร่างกายคนต้องการเนื้อสัตว์ประมาณวันละขีดครึ่งเท่านั้น เล่นกินเสียเยอะแยะไปหมด ถึงเวลาล้นเกินไตก็ต้องขับออก พอทำงานหนักมาก ๆ ก็ไตพัง”

เถรี 25-12-2019 19:18

เด็กที่มากับพ่อแม่ร้องไห้ พระอาจารย์กล่าวว่า “พระพุทธเจ้าตรัสว่า เด็กมีเสียงร้องไห้เป็นกำลัง คือถ้าเด็กร้องนี่ผู้ใหญ่ทนไม่ได้หรอก สตรีมีน้ำตาเป็นกำลัง สมณชีพราหมณ์มีศีลเป็นกำลัง คือถ้าศีลไม่ดีสู้ใครไม่ได้ เข้าหน้าสังคมก็ไม่ได้ แต่พระพุทธเจ้าก็สรุปเอาไว้นะ พะลังจันโท พะลังสุริโย ไม่ว่าจะกำลังของพระอาทิตย์หรือกำลังของพระจันทร์ก็ตาม พะลังสมณะพราหมณา กระทั่งกำลังของสมณชีพราหมณ์ก็ดี พะลังเวลาสมุทัสสะ ต่อให้กำลังของมหาสมุทร พลาติพะละมิตถิโย พลังของผู้หญิงยิ่งกว่าพลังของทั้งหมดที่ว่ามา

เพราะฉะนั้น..อย่าทำให้แม่โกรธ ถ้าแม่โกรธเดี๋ยวมีปัญหา คำว่าแม่ในที่นี้หมายถึงเพศหญิงนะ ไม่ใช่คุณแม่ที่บ้าน ...(หัวเราะ)...”

เถรี 25-12-2019 19:21

พระอาจารย์กล่าวว่า คนเราทุกข์เพราะความคิด ถ้าหยุดคิดก็หยุดทุกข์ แต่เราก็คิดกันไปเรื่อย ที่คิดไปเรื่อยเพราะว่าสมาธิอ่อนเกินไป ไม่สามารถที่จะหยุดใจตัวเองได้ ดังนั้น..มีวิธีเดียวคือเร่งสมาธิให้มากขึ้น”

เถรี 25-12-2019 19:23

มีผู้สูงอายุมาทำบุญ พระอาจารย์จึงกล่าวว่า “อาตมาเห็นคนแก่ตัวเล็ก ๆ แล้วใจหายทุกที คนแก่ตัวเล็กจะอายุยืนมากทุกคน อย่างไม่มี ๆ ก็ ๙๐ ปีขึ้นไป ...(หัวเราะ)... อาตมายังดีใจที่ตัวเองตัวใหญ่หน่อย ถ้าขืนตัวเล็ก ๆ คงต้องทนอยู่นานมาก อย่างหลวงปู่บุดดาตัวนิดเดียวอายุ ๑๐๑ ปี หลวงปู่ทองเทศก็ใกล้เคียงกัน ๑๐๓ ปี

คนแก่อยู่ในบ้านเหมือนมีสมบัติล้ำค่า อันดับแรกเลย...ลูกหลานได้แสดงความกตัญญูกตเวทิตา อันดับที่สอง...เป็นหลักใจ คนแก่สูงด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ ถึงเวลาอยู่เป็นหลักให้ลูกให้หลาน ปรึกษาหารือได้ ออกความเห็นได้ ประการสุดท้าย...ถ้าทำบุญไม่ดี อายุไม่ยืนขนาดนั้นหรอก ...(หัวเราะ)... ในเมื่อทำบุญมาดี...บุญรักษา แล้วก็รักษาไปถึงลูกถึงหลานด้วย

เมื่อวานมีคนส่งคลิปมาให้ ไอ้เจ้าตัวเล็กเรียกพ่อ พ่อก็วิ่งมา พ่อเรียกพ่อ พ่อของพ่อวิ่งมา พ่อของพ่อเรียกพ่อ พ่อของพ่อของพ่อวิ่งมา บ้านนั้นมี ๕ รุ่นอยู่บ้านเดียวกัน ก็จะเป็นพ่อ ปู่ ทวด แล้วก็ไปเทียด ...(หัวเราะ)... แล้วที่แน่ ๆ ก็คือคุณเทียดยังเดินคล่องเชียว มีหลังโก่งนิดเดียว หลังโก่งแบบคนแก่ทำงานหนัก”

เถรี 25-12-2019 19:24

พระอาจารย์กล่าวว่า “อย่ากินน้ำเย็นมาก เพราะว่าเป็นบ่อเกิดของสารพัดโรคโดยเฉพาะผู้หญิง ดื่มน้ำเย็นมาก โอกาสเป็นช็อกโกแลตซีสต์ในมดลูกมีบานตะเกียง ไม่ใช่ว่าเย็นชื่นใจ กินเข้าไป เดี๋ยวก็ได้ผ่าตัด ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องธรรมดา ๆ ไปเยอรมันเข้าไปดูในสำนักงานได้ ถึงเวลาเขาจะตั้งน้ำขวดลิตรครึ่งไว้ให้ทุกโต๊ะ ไม่มีการแช่เลย

ตอนไปประเทศจีน ญาติโยมไปสั่งชาไข่มุก ปรากฏว่าชาไข่มุกประเทศจีนเป็นชาร้อน ...(หัวเราะ)... ไม่มีน้ำแข็งให้ ยกเว้นแหล่งเที่ยวหลายที่ซึ่งคนไทยนิยมไปจะมีน้ำแข็ง แต่คนจีนไม่กิน คนจีนบอกว่าน้ำเย็นน้ำแข็งเป็นบ่อเกิดของโรค ไม่กินเด็ดขาด มีไว้ให้คนไทยกินโดยเฉพาะ อาตมาไปประเทศจีนนี่สบายมาก เพราะว่าปกติฉันแต่น้ำร้อน โดนน้ำเย็นไม่ได้ ไปที่โน่นทุกซอกทุกมุมเขามีเครื่องทำน้ำร้อนให้”

เถรี 25-12-2019 19:25

พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อครู่ตอนที่ไปลงทะเบียนรับรางวัล เขามีหมอมาตรวจอุณหภูมิทุกคนที่จะเข้าไปในห้องประชุม ถ้าใครมีไข้ห้ามเข้า กลัวว่าจะเอาเชื้อโรคไปติดสมเด็จพระสังฆราช อย่าลืมว่าพระองค์ท่าน ๙๐ กว่าพรรษาแล้ว ถ้าไม่ถนอมให้ดี คนแก่ขนาดนั้นป่วยไปทีหนึ่งนี่โทรมไปนานเลย”

เถรี 25-12-2019 19:26

ถาม : เดี๋ยวนี้แค่ขึ้นบันไดก็หอบแล้วค่ะ ?
ตอบ : ธรรมดา... ชะราธัมมาหิ ชะรัง อะนะตีโต ตัวนี้ผิด ต้องเป็น ชะราธัมเมหิ ชะรัง อะนะตีโต คราวนี้คนไม่เป็นบาลี ไม่รู้ว่า เอหิ เอรัง เอโถ เอยยะวะโห ก็เลยกลายเป็น ธัมมาหิ ในเมื่อเป็น เอหิ ก็ต้อง ธัมเมหิ คือกฎเกณฑ์ไวยากรณ์เขามี

แต่ก็มีที่แหกคอกนอกกฎเกณฑ์เยอะแยะไป เนื่องจากว่าสภาพของชมพูทวีปใช้หลายภาษา แต่ว่าปัจจุบันสันสกฤตเป็นหลัก เพราะฉะนั้น..ภาษาบาลีที่ใช้จารึกพระไตรปิฎกบางที่มีสันสกฤตแทรกอยู่ ในเมื่อแทรกอยู่แค่คำสองคำก็ปล่อยเขาเถอะ

เถรี 25-12-2019 19:27

พระอาจารย์กล่าวถึงแก้วอินทนิล “ถ้าเอาออกขายนี่ไม่รู้ราคาเท่าไรเลย เพราะว่าเคยถามเขามา น่าจะถึง ๓๐ ปีแล้ว ตอนช่วงนั้นมรกตกะรัตละ ๘ หมื่นบาท ต่อให้ราคาเดิมก็เถอะ ใหญ่ขนาดนั้นนี่ไม่รู้ว่าราคาเท่าไร

นี่เป็นครั้งที่สองในชีวิตที่พระท่านให้เอาออกมาใช้งาน เพราะว่างานของท่านอาจารย์มหาเอท่านสำคัญมาก คือหาทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดท่ามะขาม ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ถ้าญาติโยมไม่คล่องตัวก็แย่ อะไรที่ช่วยได้ท่านก็ให้ช่วย”


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:51


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว