![]() |
ร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราจริง ๆ ไม่มีอะไรเป็นสาระแก่นสาร เกิดมาเมื่อไรก็พบแต่ความไม่เที่ยง พบแต่ความเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดแบบนี้เราไม่ต้องการอีกแล้ว ตายเมื่อไร ขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระประทีปแก้วที่พระนิพพานแห่งเดียว
น้อมจิตน้อมใจกราบลงที่ภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันนี้ถ้าลูกหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ตาม ลูกขอมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น |
ถ้ามีลมหายใจอยู่ ตามดูตามรู้ลมหายใจ
ถ้ามีคำภาวนาอยู่ กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจเบาลง รู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าคำภาวนาหายไป รู้ว่าคำภาวนาหายไป กำหนดใจอยู่กับภาพพระที่สว่างไสวบนพระนิพพาน รักษาอารมณ์ใจนี้ไว้ จนกว่าได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา |
(สัญญาณบอกว่าหมดเวลา)
พุทโธ พุทโธ พุทโธ.. เอากำลังใจของเราอยู่ที่ภาพพระหรือลมหายใจเสียก่อน แล้วค่อย ๆ แบ่งความรู้สึกส่วนหนึ่งควบคุมร่างกายของเรา ให้ใช้ในการทำวัตรสวดมนต์กันต่อไป พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันจันทร์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย) |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:53 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.