![]() |
หลวงปู่บุดดาสอนลูกศิษย์ว่า "ระวังถูกจับติดคุกนะ จำอดีตชาติได้ไหม? การติดคุกอิสรภาพ(การแต่งงาน) ถ้าติดคุกแล้วมันไม่จบนะ เราตายไป เขาก็เอาใหม่ คุกนี้แน่นนักหนา จะอยู่กับวิชาหรืออวิชาเล่า”
“คนไทยนี่ อะไรก็ไม่เสียดายหรอก ในโลกนี้ให้หมดนะ อามิสนะ! แต่มีข้อแม้ว่า ผัวดิฉันใครแตะไม่ได้นะ ! เอาตายเชียวนะ ! จะไปนิพพานจะเอาผัวไปด้วย ปัทโธ่ ! เขาไปนิพพานเขาเอาผัวเอาเมียไปด้วยที่ไหนกัน?เขาเอาธรรมะไปต่างหากเล่า" |
หลวงปู่สอนว่า "คนเราจะเป็นสุขเมื่อรู้จักพอดี ไม่มีใครได้อะไรตลอดไป หรือเสียอะไรตลอดไป ไม่มีใครหรือสิ่งไหนคงอยู่ตลอดไปโดยไม่สูญสิ้น ขอเพียงแค่รู้จักพอดี ทุกคนจะเป็นสุข"
|
แต่ละวันจะมีญาติโยมมากราบหลวงปู่ ถามธรรมะบ้าง ขอของแจกบ้าง วันหนึ่งมีกลุ่มชายฉกรรจ์มากราบ พร้อมกับขอเหรียญหลวงปู่ ชายคนหนึ่งก็ถามหลวงปู่ว่า
“วัตถุมงคลและของต่าง ๆ ที่หลวงปู่แจก ถ้าเก็บไว้นาน ๆ ไป ของจะเสื่อมไหมครับ ?” หลวงปู่ตอบว่า “ของไม่เสื่อมหรอก นอกจากเราจะเสื่อมศรัทธาจากของเอง” |
โยมคนหนึ่งเห็นว่า เงินทองเป็นสิ่งหามาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน เวลาจะทำบุญจึงนึกอยากเลือกทำบุญให้คุ้มค่าเหนื่อย ถ้ามีโอกาสจะเลือกทำกับพระอริยบุคคลเพื่อหวังจะได้บุญมาก ๆ
ฉะนั้นวันหนึ่งขณะที่ได้ถวายสังฆทาน กำลังอุ้มผ้าไตรถวายแด่พระคุณหลวงปู่ ในใจก็นึกปิติยินดีว่า โอหนอ! วันนี้ฉันโชคดีจังเลยที่จะได้ทำบุญกับพระอรหันต์ บุญที่ได้ย่อมมากเป็นพิเศษ แค่นึกในใจเท่านั้น หลวงปู่มองหน้าแล้วพูดว่า “ผู้รับหมดกิเลส ผู้ถวายก็ต้องหมดกิเลสด้วยนะ จึงจะได้บุญมาก” โอโฮ ! ผู้ถวายสะอึกไปเลย คำพูดของหลวงปู่ประทับใจมาก ทำให้นึกว่าอย่างไรเสียเราจักต้องพยายามจัดการกับกิเลสของตนให้จงหนัก เพื่อความสมปรารถนาแห่งใจตน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง สาธุ |
คืนหนึ่งมีนักศึกษาสาวผู้หนึ่งแต่งชุดฟอร์มมากราบหลวงปู่
หลวงปู่ถามว่า “ยังเรียนอยู่หรือเป็นครูเขา ?” นักศึกษาหญิงตอบว่า “ยังเรียนอยู่เจ้าค่ะ” หลวงปู่บอกว่า “ระวังอย่าไปเรียนอวิชชานะ เรียนวิชาต้องเรียนให้หายโกรธ หายหลง หายลืมนะ ขอให้เคารพมั่นในพระธรรม แล้วเจริญให้ถึงจะได้พ้นแก่พ้นตาย โลกุตรธรรมมีอยู่จริง ๆ ด้วย ศาสนาพุทธคือพ้นเกิดพ้นตาย ผู้ใดถึงแล้ว เป็นผู้บรมสุขนั่นเอง” |
หญิงสาวกลุ่มหนึ่งมากราบหลวงปู่ แต่ละคนก็แต่งกายสวยงามรัดกุม ตอนหนึ่งหลวงปู่เทศน์ให้ฟังว่า
“อยากดูหนังก็ให้ดูหนังเรา มีให้ดูตลอดเวลา ดูตามนี้ธรรมะดีขึ้น หนังเรามันดีลง จะไปติดอะไรกับหนัง จะไปเสียดายอะไรกับหนัง แค่กระดาษห่อขนมปังเท่านั้นเอง คนรู้นะ ! เขาทิ้งกระดาษห่อขนมปังทั้งนั้นแหละ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ท่านรู้อย่างนี้ ท่านจึงไม่หลงไม่ลืม แล้วเราจะอวดดี ไปหลงไปลืม ทำไม !” |
พระภิกษุหนุ่มองค์หนึ่ง บวชเรียนธุดงค์กรรมฐานได้หลายพรรษาแล้ว เกิดร้อนผ้าเหลืองก็มีความปรารถนาอยากจะสึกมากเพราะต้องการที่จะไปแต่งงาน ก็มากราบลาหลวงปู่เพื่อขอพร บอกหลวงปู่ครับผมจะสึก หลวงปู่ก็ถามเหตุผล ภิกษุหนุ่มผู้นั้นก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา ตอนหนึ่งหลวงปู่ก็ให้โอวาทว่า
“สึกทำไม? พระเณรสึกทำไม? เปลืองข้าววัดแล้วยังจะเปลืองข้าวพ่อแม่อีก อีโธ่! นึกว่าจะไปช่วยทำงาน กลับไปช่วยให้เสียเงินเสียทองอีก พวกโกหกตัวเองนี่ โกหกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วย เพราะฉะนั้น อย่าหัดโกหกเลย ถ้าไม่รู้ว่าบวชเพื่ออะไรแล้ว จะบวชทำไม? บวชโง่ ๆ งั่ง ๆ บวชทำไมละ! เกะกะบ้านเมืองเขา บวชแล้วต้องฉลาดซี่” |
หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่ท่านยังไม่ได้บวช ท่านเป็นทหารและก็ได้อยู่ในฝ่ายทำอาหาร มีผู้หญิงชอบมาแกล้งท่าน โดยเข้ามาจับท่าน ท่านจึงพูดว่า
“อย่ามาจับนะ พ่อแม่เขายังไม่ได้อนุญาต อย่ามาจับ อย่ามาต้อง บาปนะ” |
หลวงปู่ได้มีกิจนิมนต์ไปบ้านโยมที่ศรัทธาท่านหนึ่ง เขาจัดงานแต่งงานให้กับลูกหลาน หลวงปู่ก็ไปงานนี้แล้วก็เทศน์ เทศน์ไปเทศน์มา คู่บ่าวสาวคู่นี้ก็เลยล้มเลิกที่จะแต่งงาน และขอจัดงานแต่งเป็นงานบวช ปู่กับย่า ตากับยายที่มาร่วมงานแต่ง ต่างซาบซึ้งในคำสอนของหลวงปู่ ก็เลยขอบวชตามหลานด้วย
:onion_wink::onion_wink: หลวงปู่สุดยอด ทำได้อย่างไรนี่ :onion_wink: |
โยมผู้ชายคนหนึ่งมีโอกาสได้กราบหลวงปู่ และถวายการนวดให้หลวงปู่ ตอนหนึ่งแกนวดไปแล้วก็พูดไปว่า
“หลวงปู่ครับ ผมไม่อยากทำมาหากิน อยากอยู่เฉย ๆ จะให้นั่งภาวนาผมก็ไม่อยากนั่ง” หลวงปู่ตอบว่า “คนไหนขยัน คนนั้นแหละ เป็นลูกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คนไหนขี้เกียจ ขี้คร้าน เป็นลูกของกิเลส” |
ในตอนหนึ่ง หลวงปู่ท่านได้เทศน์โปรดญาติโยมจากกรุงเทพฯ ทุกคนนั่งสมาธิหลับตาฟังกันอย่างสงบ หลวงปู่ก็กวาดสายตาไปทางนั้นบ้างทางนี้บ้าง แล้วก็เทศน์เป็นช่วง ๆ ก่อนจบหลวงปู่พูดว่า
“ฟังธรรมะไม่ใช่ฟังเท ฟังทิ้งนะ ฟังธรรมต้องทำไปด้วยซี่” |
มีพระกลุ่มหนึ่งจะออกธุดงค์ ก็ได้มากราบขอพรหลวงปู่ และขอคำแนะนำก่อนที่จะไปธุดงค์ หลวงปู่ก็ให้โอวาทว่า
“เข้าป่าก็ให้เข้าป่าเป็นปัญญา เข้าป่าโง่ ๆ ก็เป็นถูดงค์ ไม่ใช่ธุดงค์นะ” |
กลุ่มสาวโสดสี่คน เป็นกลุ่มที่ผ่านการปฏิบัติมาไม่ต่ำกว่า ๑๐ ปี ได้มีศรัทธามากราบเยี่ยมหลวงปู่ ก่อนหน้าที่จะมากราบหลวงปู่ ก็ได้วิจารณ์เรื่องทุกข์ของการแต่งงาน ในกลุ่มสาวโสดทั้ง ๔ คน บางคนมีชายหนุ่มมาหมายปอง แต่หญิงผู้นั้นพยายามที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ในใจก็ยังมีจิตที่พึงพอใจ พวกเธอเลยพากันมากราบหลวงปู่เพราะบังเอิญวันหยุดงานตรงกันพอดี หลวงปู่ได้ให้ธรรมะว่า
“พวกโสดาโลกุตตระนี้ทำงานได้มากกว่าใคร ทำงานเท่าไรก็ไม่เก้อเขิน อนาคาโลกุตตระทำงานได้มาก เข้าบ้านเข้าวัดได้ แต่ไม่ยอมมีคู่ไง กายโสด จิตโสด โสดจากสังโยชน์ ๕ นี่ละ” |
มีญาติโยมที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ มักจะชื่นชมความอายุยืนของหลวงปู่ และก็อยากจะให้หลวงปู่มีอายุยืนนานไปมาก ๆ ก็พยายามขอให้หลวงปู่มีอายุยืนกว่าร้อยปี บางพวกก็สงสัยอยากทราบว่า หลวงปู่จะละสังขารเมื่อไร? ก็เลยกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า
“หลวงปู่ครับ หลวงปู่จะละสังขารเมื่อไร? บอกได้ไหมครับ?” หลวงปู่ตอบว่า “ตายวันไหน ก็บอกวันนั้นซี่” |
มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งชอบติดตามฟังธรรมของหลวงปู่เสมอ วันหนึ่งหลวงปู่บอกว่า
“ขอให้เป็นผู้ช่วยเหลือดำรงพุทธศาสนาเอาไว้ด้วยนะ ให้มีลมหายใจเป็นธรรมะ ยืน เดิน นั่ง นอนเป็นธรรมะ ลมหายใจเข้าออกอยู่กับธรรมะ เกิดบ่อย ๆ ตายบ่อย ๆ สนุกหรือ? อย่าตายนะ ! จะได้ไม่เกิด คนที่ไม่ตายคือคนที่ตัดอาสวะได้ ตัดกิเลสตัณหาได้ เราพ้นจากอาสวะเดี๋ยวนี้ก็สำเร็จตลอดไป ไม่มีเสื่อมนะ” |
"หลวงปู่ครับ สุนัขนี่มันรู้ภาษาคนไหมครับ"
"มันรู้ แต่มันพูดไม่ได้เท่านั้นแหละ แต่พูดในใจ มันพูดรู้นะ ถ้ามองตามัน จิตใครมีธรรมมันก็เข้ามาหา มานอนด้วย ถ้าจิตใครไม่มีเมตตามันไม่เข้ามาหาหรอก มันกลัว มันมองตามันรู้นะ มันรู้สายตาน่ะ" |
"อยากให้หลวงปู่บอกหลักสูตรการทำจิตขณะบริจาคทานครับ"
"ก็นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ซี่ เข้าหลักสูตรนะ ถ้าลืมหลักสูตรแล้วอุทิศไปไม่ถูกหลัก มันเฉย ๆ มันเป็นโมหะแล้ว ถ้าอุทิศถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มันพร้อมด้วยศีล ด้วยปัญญา ด้วยทานศีลภาวนา มันไม่พร้อมก็ไม่มีปัญญาน่ะซี่" |
"หลวงปู่ครับ พระสมเด็จองค์นี้ของจริงหรือของปลอมครับ"
"จริงหรือปลอมก็ใช้ไปเถอะ! เพราะเป็นของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ใช้ได้หมดแหละ!" |
" คนเราเกิดมาคนแรกมันคนไหนแน่ครับหลวงปู่"
"ปูโธ่! ของใกล้ ๆ ก็มาถามได้ คนไหนเกิดก่อน? คนถามเกิดก่อนซี่! คนตอบเกิดเป็นคนที่สองไง! โธ่! ดึกดำบรรพ์จะเอามายังไง มันอยู่ที่ไหน บ้านเมืองอยู่ไหน แค่ผมขน เล็บ ฟัน หนัง แค่นี้ยังดูไม่ทั่ว ยังจะไปถามอดีต อ้ายดึกดำบรรพ์จะไปถามได้ความอะไรล่ะ! มีพยานที่ไหนล่ะ!" |
หลวงปู่จะมาเกิดอีกไหมครับ
"ไม่มีเชื้อมันจะเกิดได้อย่างไร ข้าวเปลือกมีอยู่มันก็เกิดได้ ข้าวสารมันเกิดได้ไหม หมดเชื้อแล้วปลูกไม่ขึ้นก็ผุพังไป" |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:22 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.