เข้าระบบ

View Full Version : ดอนเจดีย์เมืองกาญจน์


โอรส
27-08-2009, 23:52
http://upload.sodazaa.cc/thumb.php?id=DA92_4A96BC18 (http://upload.sodazaa.cc/share.php?id=DA92_4A96BC18)

ถาม : ที่เมืองกาญจน์เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ (พระนเรศวรฯ) มีเหตุการณ์พิเศษมีนกมาบิน มีเมฆบังแล้วก็มีพายุ ?
ตอบ : อ๋อ..พายุนั้นมาจากเฮลิคอปเตอร์..!

ถาม : เขาบอกว่ามีแสงพุ่งลงมา ?
ตอบ : ตรงสถานที่นั้นเป็นสนามรบจริง ๆ สมัยที่พระนเรศวรท่านรบกับพระมหาอุปราช แต่ว่าสมัยก่อนพอเขาเสาะหาว่าสถานที่ไหนที่เป็นอนุสรณ์ดอนเจดีย์ที่พระนเรศวรสร้างไว้ เขาไปเจอเอาที่สุพรรณบุรี ก็เลยไปปักใจมั่นเสียก่อนว่าเป็นตรงนั้นแน่

อย่าลืมว่าหลังจากที่พระมหาอุปราชท่านโดนพระนเรศวรฯ ฟันจนตายคาคอช้างแล้ว ทัพไทยตามตีทัพพม่าไปอีกจนกระทั่งถึงทุ่งลาดหญ้า ถ้าจากดอนเจดีย์ตีไปถึงโน่นก็เป็นลมตายเสียก่อน แต่ว่าจากพนมทวนไปนี่พอสมน้ำสมเนื้อกัน เพราะไม่กี่กิโลเมตร

แล้วบริเวณนั้นก็มีกระดูกช้างกระดูกม้า มีอาวุธเก่าตกอยู่เต็มไปหมด เขาเก็บเอาไว้ให้ดูเป็นพิพิธภัณฑ์เลย เจดีย์เก่าก็ยังอยู่ แต่ว่าพังเหลือครึ่งองค์เท่านั้น ตอนนี้นักประวัติศาสตร์เขายอมรับแล้วว่านั่นเป็นของจริง แต่บังเอิญว่าดอนเจดีย์เขายึดชื่อเสียงนั้นไปนานแล้ว จนกระทั่งกลายเป็นอำเภอดอนเจดีย์ไปแล้วด้วย จึงแก้ไขไม่ได้

โอรส
27-08-2009, 23:53
เคยไปแถวนั้น พอเดินเข้าไปในเขตนี้ขนลุกซ่าไปทั้งตัวเลย มีพวกมาสะกิดเตือนว่า มีอะไรขอแบ่งบ้าง ทำบุญไว้เยอะเขาขอบ้าง ไปตอนนั้นเขายังไม่ได้สร้างอะไร มาตอนหลังมีศาลพระนเรศวรฯ ตอนนี้ก็สร้างอนุสาวรีย์ไว้ด้วย ไม่ได้แวะไปนานแล้ว สมัยก่อนไปนี้หลงแล้วหลงอีก สมัยนี้เห็นเขาว่าทางลาดยางแล้ว ดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

สมัยก่อนจะเข้าไปทางดงอ้อย สมัยนี้กลายเป็นบ้านจัดสรรหมดแล้ว สมัยที่ธุดงค์นี่ชอบดงอ้อยมากเลย ไปนอนกับหมาก็ไปนอนในดงอ้อย เคยไปแล้วก็เขาจะมีเพิงพักสำหรับคนงานตัดอ้อย อาตมาไปถึงก็แขวนกลดแล้วก็นอน กลางคืนหมามานอนด้วย บางครั้งมาทีแปดตัวสิบตัว กระโดดใส่กลดพังบรรลัยหมด ต้องปลดมุ้งออกให้หมานอนด้วย หมานี่รู้สึกว่าเขารักพระมาก ไปที่ไหนก็ไปด้วย บางตัวเวลาอาตมานั่งกรรมฐานก็เอามือท้าวไหล่เต๊ะจุ๊ยด้วย ท้าวไปท้าวมาอาตมาไม่เล่นด้วยสักที เขาก็แทะหูเคี้ยวเล่นสนุกไปเลย

เคยโดนผีหลอกอยู่กลางดงอ้อยด้วย สนุกดี แต่ว่าอาตมาหน้าด้านกว่า แรก ๆ นอนภาวนาอยู่ พอสักสามสี่ทุ่มก็เริ่มมาแล้ว เสียงเหมือนหนูตัวเล็ก ๆ วิ่งตึ๊ก ๆ แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงวิ่งอ้อมนะ แต่กลับวิ่งมาทางด้านนี้อีก วิ่งไขว้กันไปไขว้กันมา พอเห็นอาตมาไม่สนใจสักทีเสียงก็ดังขึ้น

คราวนี้หนูนั่นตัวคงโตขึ้นสักขนาดแมวได้ เสียงชักดังมากขึ้น วิ่งโครม ๆ ไปสักพักหนึ่ง อาตมาก็ไม่สนใจ ภาวนาของเราไป คราวนี้เหมือนอย่างกับหมาขึ้นไปกัดกันทั้งฝูง เสียงโครมครามลั่นไปหมดเลย

เขาพยายามจะดึงความสนใจข แต่อาตมาเองก็ไม่สนใจ ภาวนาไปภาวนามาเผลอหลับ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ดึกแล้ว ผีคงจะเหนื่อย หายหัวเงียบไปตอนไหนก็ไม่รู้ ?

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔