View Full Version : เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันอาทิตย์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า
วันอาทิตย์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
4ibUOkC8qMQ
เชิญรับฟังได้ที่ https://youtu.be/4ibUOkC8qMQ
กำหนดลมหายใจของเราให้มั่นคงไว้
หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป
หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา
คำภาวนา..เอาที่เราถนัด จะเป็น พุท-โธ, นะมะ-พะทะ, สัมมา-อะระหัง, พองหนอ-ยุบหนอ หรือตัวบทพระคาถาใด ๆ ก็ได้
หายใจเข้า..พร้อมกับคำภาวนา ตามดูตามรู้เข้าไปจนสุด
หายใจออก..พร้อมกับคำภาวนา ตามดูตามรู้ออกมาจนสุด
อย่าบังคับลมหายใจ ปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ร่างกายต้องการหายใจแรง หายใจเบา หายใจยาว หายใจสั้น เรามีหน้าที่ตามดูเข้าไปอย่างเดียว ตามดูออกมาอย่างเดียว
จากที่เคยปฏิบัติมาก็คือ..
หายใจเข้า..พร้อมคำภาวนา ผ่านจมูก ผ่านกลางอก ไปสุดที่ท้อง
หายใจออก..จากท้อง พร้อมคำภาวนา ผ่านกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก
ถ้าเผลอไปคิดถึงเรื่องอื่น เมื่อรู้สึกตัวก็รีบกลับมาอยู่กับคำภาวนาและลมหายใจเข้าออกในทันที ใครก็ตามที่วิสัยเก่าเคยแยกจิตแยกกายทำงานหลายอย่างได้ เวลาภาวนาก็จะมีความฟุ้งซ่านควบคู่ไปด้วย ถ้าอย่างนั้นให้เอากำลังใจทั้งหมด จี้ติดอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ต้องเกาะลมหายใจแน่นกว่าคนอื่น ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะเผลอแยกจิตไปฟุ้งซ่านเรื่องอื่นได้
เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจเข้าออกเริ่มหนักแน่นมั่นคงแล้ว ก็กำหนดภาพพระพุทธรูปที่เรารักเราชอบมากที่สุด ขึ้นมาเหนือศีรษะของเรา จะเป็นสมเด็จองค์ปฐม พระวิสุทธิเทพ พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อโสธรก็ได้ หรือจะเอาวัตถุมงคลที่เป็นรูปพระของเราก็ได้ จะได้เป็นการปลุกเสกวัตถุมงคลไปในตัว
หายใจเข้า..พร้อมคำภาวนาและภาพพระเลื่อนลงไปในท้อง
หายใจออก..พร้อมคำภาวนาและภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
อย่าใช้ตาดู ให้ใช้ความรู้สึกนึกถึง เหมือนอย่างกับเรานึกถึงสิ่งของที่เราคุ้นเคย รู้สึกว่าเห็นได้ชัดเจน แต่ไม่ได้เห็นด้วยตา ถ้าใช้ตาดู เราจะไปเผลอใช้สายตาเพ่ง ถ้าเพ่งนาน ๆ เมื่อเลิกกรรมฐานแล้วจะปวดหัวมาก
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
หายใจเข้า..ให้ภาพพระเล็กลง ๆ ไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ให้ภาพพระใหญ่ขึ้น ๆ ไปอยู่บนศีรษะก็ได้
หรือจะ..
หายใจเข้า..ให้ภาพพระใหญ่ขึ้น ๆ จนครอบเราไว้ทั้งตัว
หายใจออก..ให้ภาพพระเล็กลง ๆ อยู่บนศีรษะก็ได้
ส่วนคนที่คล่องตัวแล้ว จะกำหนดภาพพระอยู่ส่วนใดของร่างกายก็เอาที่ถนัด กี่องค์ก็ได้
อันดับแรกเลย คือ อย่าเอารายละเอียด แค่รู้ว่ามีภาพพระอยู่ก็พอแล้ว รายละเอียดความชัดเจนต่าง ๆ เมื่อสมาธิทรงตัวแล้วจะค่อย ๆ เกิดขึ้นเอง
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
อย่าทำตามจังหวะที่บอก ถ้าสมาธิไม่เท่ากัน เราจะทำตามไม่ได้ เพราะลมหายใจยาวสั้นต่างกัน เอาจังหวะที่เราถนัด อย่าใช้สายตาเพ่ง อย่าเอาความชัดเจน แค่รู้สึกว่าภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไปในท้อง ไหลตามลมหายใจขึ้นไปอยู่บนศีรษะ เหมือนกับเราเหลือบตาดูบนศีรษะตัวเอง แล้วก็โค้งลงไปในท้อง แล้วก็เลื่อนกลับขึ้นมาบนศีรษะ
พอความรู้สึกกับลมหายใจเข้าออกเริ่มมั่นคงทรงตัวแล้ว ก็กำหนดใจ..
หายใจเข้า..ให้ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ให้ภาพพระสว่างขึ้น
ถ้าจะทำให้ถนัด ก็ให้ภาพพระนิ่งอยู่บนศีรษะก่อน
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
อย่าเอาความสว่างมากน้อยเป็นประมาณ ลำพังโลกียฌาน ถ้าสามารถกำหนดภาพพระได้เหมือนกับมองวัตถุในที่มืด ก็ถือว่าดีมากแล้ว แค่รู้สึกว่ามีภาพพระสว่างขึ้นตามลมหายใจเข้า สว่างขึ้นตามลมหายใจออกก็พอ
ผู้ที่รู้สึกว่าเมื่อภาพพระกำหนดครอบลงมาแล้วเรามืด ให้เปลี่ยนเป็น..นึกถึงภาพพระแก้วใส ๆ สว่าง ๆ องค์ใหญ่ ๆ ครอบลงมา จะได้ไม่ไปอุปาทานว่าครอบลงมาแล้วมืดอีก
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
เมื่อรู้สึกว่าภาพพระสว่างไสวอยู่ในห้วงนึกแล้ว
ก็หายใจเข้า..ให้ความสว่างครอบคลุมตัวเราลงมา
หายใจออก..ให้ความสว่างครอบคลุมตัวเราลงมา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
เมื่อรู้สึกว่าตัวเราและองค์พระสว่างไสวกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ก็กำหนดใจว่าความสว่างนี้ก็คือพระกรุณาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระเมตตาคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงแผ่ปกไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า
หายใจเข้า..ให้ความสว่างแผ่กว้างออกไปรอบตัว
หายใจออก..ให้ความสว่างแผ่กว้างออกไปรอบตัว
ถ้าจับความรู้สึกแบบนั้น เราจะรู้สึกว่าตัวเรากลวง ว่างเปล่า สว่างไสว เหมือนกับในอกโล่ง ๆ ว่าง ๆ สว่าง ๆ เท่านั้น มีภาพพระที่ค่อย ๆ ขยายใหญ่ออกไปรอบข้าง
หายใจเข้า..ความสว่างแผ่กว้างออกไปรอบตัว
หายใจออก..ความสว่างแผ่กว้างออกไปรอบตัว
จะออกไปลักษณะไหนนั้นไม่ใช่ประมาณ..
จะรู้สึกเหมือนวัตถุทรงกลมใส ๆ สว่าง ๆ ขยายใหญ่ขึ้น ๆ ก็ได้
หรือรู้สึกเหมือนกับเราโยนก้อนหินลงไปในน้ำ แล้วกระเพื่อมเป็นวง ๆ กว้างออกไป ๆ ก็ได้
หรือจะรู้สึกว่าตัวเราขยายใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นก็ได้
เมื่อความรู้สึกชัดเจนดีแล้ว ก็ให้ตั้งใจแผ่เมตตาออกไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า ตั้งใจว่า..เราไม่เป็นศัตรูกับใคร เรายินดีเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั่วโลก
กำหนดใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงไปเสวยสุขในสุคติภพโดยถ้วนหน้ากันเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป..
หายใจออก..ภาพพระสว่างไสวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป.. กว้างไปทั้งศาลาหลังนี้ กว้างออกไปทั้งวัด กว้างออกไปทั้งหมู่บ้าน กว้างออกไปทั้งตำบล กว้างออกไปทั้งอำเภอ กว้างออกไปทั้งจังหวัด..
รู้สึกเหมือนกับตัวเราลอยสูงขึ้น ๆ มองเห็นกว้างออกไปทุกที ๆ
ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกอยู่ในความทุกข์ยากเศร้าหมอง เดือดร้อนลำเค็ญ ทุกข์กายทุกข์ใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใด ๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงได้ล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป.. กว้างไปทั้งจังหวัด กว้างไปทั้งภาค กว้างไปทั้งประเทศ กว้างไปทั้งโลก..
รู้สึกเหมือนตัวเราใหญ่โตเต็มแผ่นดินแผ่นฟ้า โลกเป็นแค่วัตถุเล็ก ๆ อยู่ภายใต้ร่างกายของเรา สามารถที่จะกำหนดใจครอบคลุมให้ทั่วถึงได้ในพริบตาเดียว
ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป..
หายใจออก..ภาพพระสว่างไสวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป..
กว้างออกไปทั่วทั้งสุริยจักรวาล กว้างออกไปทั่วทั้งดาราจักร กว้างออกไปทั้งเอกภพ..
เบื้องขวางรอบข้าง คือ ดวงดาวที่ประกอบไปด้วยคนและสัตว์มากมายนับไม่ถ้วน..
เบื้องบนถึงพรหมชั้นที่ ๑๖ เบื้องล่างถึงอเวจีมหานรก
ให้กำหนดใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กันและกัน เสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
กำหนดให้ภาพพระสว่างไสวอยู่เฉพาะเหนือศีรษะของเรา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
ให้กำหนดใจว่า..ภาพนี้คือพุทธนิมิต แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่าน คือ..อยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน คือ..เราอยู่บนพระนิพพาน ให้ตั้งใจว่าถ้าวันนี้หมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือว่าเกิดอุบัติเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานนี้แห่งเดียวเท่านั้น
แล้วลองนึกถึงลมหายใจเข้าออกและคำภาวนาของเรา..
ถ้ายังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ ตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออก
ถ้ามีคำภาวนาอยู่ กำหนดคำภาวนาไปด้วย
ถ้าลมหายใจเข้าออกเบาลง ให้รู้สึกว่าลมหายใจเข้าออกเบาลง
ถ้าลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป ให้กำหนดรู้ว่าลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป
อย่าดิ้นรนหลุดออกจากสภาวะนั้น และอย่าอยากให้เป็นแบบนั้น เรามีหน้าที่กำหนดรู้เท่านั้น พยายามรักษากำลังใจเอาไว้เช่นนี้ จนกว่าจะหมดเวลา
(สัญญาณบอกว่าหมดเวลา)
พุทโธ พุทโธ พุทโธ..
ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ..
กำหนดใจให้แน่วนิ่งอยู่จุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย..แล้วค่อยขยับตัว
ไม่อย่างนั้นแล้วสมาธิจะเคลื่อนคลายหายหมด หายเมื่อยหายขบแล้วจะได้ทำวัตรเช้ากันต่อไป
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า
วันอาทิตย์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.