View Full Version : เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕
XZAxd4tziVg
วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล ไม่ต้องบอกจุลศักราชใช่ไหม ? ไม่ต้องนะ "ศุกร์ ๑๓" ได้ยินแล้วใจหาย..! เราไม่ใช่ฝรั่งไม่ต้องกลัว นาทามก็ไม่ใช่ฝรั่งใช่ไหม ? ไม่ต้องไปกลัวหรอก แค่ ศุกร์ ๑๓ สำหรับหลวงพ่อ วันไหนไม่ดีก็เป็นวันรวย วันไหนเป็นวันดีก็เป็นวันรวยมาก แค่นี้ก็จบแล้ว
พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้แล้วว่า มโนปุพพังคมา ธัมมา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มโนเสฏฐา สูงสุดก็ที่ใจ มโนมยา สำเร็จก็ที่ใจ
คราวนี้พวกเรามาเพื่อที่จะปฏิบัติธรรมกัน การปฏิบัติธรรมของเราก็คือการที่เรามาปรับปรุง ขัดเกลาตนเอง ปรับปรุงตรงไหน ? ขัดเกลาตรงไหน ? ก็ปรับปรุงขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของเราให้ดีขึ้น โดยเฉพาะให้สติสัมปชัญญะว่องไว ให้ปัญญาแหลมคม จะได้ระงับยับยั้งตนไม่ให้ทำความชั่ว และละเสียสิ่งกิเลสทั้งปวง
แรก ๆ ก็ละไม่ได้หรอก ค่อย ๆ ลด พอลดได้แล้วก็ละ คือเอาตัวห่างออกมา จนกว่าที่จะเลิก คือไม่ทำอีก ถึงจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ
การที่เราทำอะไรแล้วไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะเป็นเพราะว่าเรามีมุมมองที่ผิดพลาด ก็ต้องมาปรับเปลี่ยนทัศนคติ ตรงนี้ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าอะไร Attitude ใช่ไหม ? ปรับเปลี่ยนระบบการคิด Mindset
ในเมื่อเราปรับปรุงทัศนคติและระบบความคิด ก็ต้องเอาอย่าง โทมัส อัลวา เอดิสัน ทดลองวิธีสร้างหลอดไฟไป ๒๐๐ กว่าวิธี ล้มเหลวหมดเลย ลูกศิษย์หมดกำลังใจ บอกว่า "อาจารย์ครับ เราล้มเหลวมาตั้ง ๒๐๐ กว่าครั้งแล้ว อาจารย์ยังจะทำต่ออีกหรือครับ ?"
เอดิสันหันไปมองหน้าลูกศิษย์ด้วยความแปลกใจ "อะไร..คุณล้มเหลวหรือ ? ผมประสบความสำเร็จมา ๒๐๐ กว่าครั้งแล้ว ผมรู้ว่าไอ้วิธีพวกนั้นใช้การไม่ได้ ผมจะได้ไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีก แล้วจะได้ไปหาวิธีใหม่" เห็นหรือยังว่าทัศนคติหรือว่าระบบความคิดสำคัญแค่ไหน ?
ถ้าหากว่ายังไม่ได้ก็โน่นเลย...ย้อนกลับไปโน่น ยุคอยุธยา สมัยไหน ? ขุนช้างขุนแผน
จะกล่าวถึงพลายแก้วแววไว เมื่อบิดาบรรลัยแม่พาหนี
ไปอาศัยอยู่ในกาญจนบุรี กับนางทองประศรีผู้มารดา อันนี้เขาเรียกว่า ๑ คำกลอน มี ๔ บาท
อยู่มาจนเจ้าเจริญวัย อายุนั้นได้ถึงสิบห้า โกหกชัด ๆ เลย คำกลอนครึ่งผ่านไป ๑๕ ปี "๑๕ ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก" ใช่ไหม ?
ไม่วายคิดถึงพ่อที่มรณา แต่นึกตรึกตรามากว่าปี แสดงว่านึกมาตั้งอายุ ๑๓ กว่า ๆ
อยากจะเป็นทหารชาญชัย ให้เหมือนพ่อขุนไกรที่เป็นผี
จึงอ้อนวอนมารดาได้ปรานี ลูกนี้จักใคร่รู้วิชาการ
อยากเก่งเหมือนพ่อ แต่พ่อตายเพราะโดนพระเจ้าแผ่นดินสั่งประหารชีวิต เนื่องจากว่าเสด็จออกไปล่าสัตว์ที่ป่าอู่ทอง ปรากฏว่าฝูงควายป่าแตกตื่นมาถึงหน้าพลับพลา แม้ว่าจะสกัดขัดขวางเอาไว้สำเร็จ แต่ก็โทษหนักมาก เพราะมีคนไปยุแหย่ว่า อาจจะเป็นการตั้งใจปล่อยให้หลุดมาเพื่อปลงพระชนม์ก็ได้
พระสงฆ์องค์ใดวิชาดี แม่จงพาลูกนี้ไปฝากท่าน
ให้เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ อธิษฐานบวชลูกเป็นเณรไว้
แม่ว่าอย่างไร ?
ครานั้นทองประศรีผู้มารดา ได้ฟังลูกว่าหาขัดไม่
อันสมภารที่ชำนาญในทางใน ท่านขรัววัดส้มใหญ่แลดีครัน
วัดส้มใหญ่อยู่ตรงนี้ ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง
เจ้าคิดนี้ดีแล้วแก้วแม่อา แม่จักพาไปฝากขรัวบุญท่าน ไปฝากหลวงปู่บุญ วัดส้มใหญ่
จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร
มันเกี่ยวอะไรกับทัศนคติ ? เกี่ยวอะไรกับระบบแนวคิดของเรา ? อาจารย์เอาอะไรมาให้ฟังวะ ? ลองฟังใหม่นะ
เจ้าคิดนี้ดีแล้วแก้วแม่อา แม่จักพาไปฝากขรัวบุญท่าน
จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร
ทัศนคติว่าไปเรียนแล้วต้องสำเร็จ..ง่ายมากเลยลูก..!
เจ้าคิดนี้ดีแล้วแก้วแม่อา แม่จักพาไปฝากขรัวบุญท่าน
จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร
วิชาพิชัยสงคราม วิชาการรบอยู่ยงคงกระพัน ผูกหุ่นพยนต์อะไรเรื่องเล็กลูก เรียนเมื่อไรก็จบเมื่อนั้นแหละ..!
แล้วพวกเราล่ะ ? อยู่กับพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เกิด มีความรู้สึกบ้างไหมว่าพระพุทธศาสนาง่ายมาก เรียนเมื่อไรก็สำเร็จเมื่อนั้นแหละ "น้ำตกจิไหล..!"
พระพุทธเจ้าตรัสว่า อตฺตาหิ กิร ทุทฺทโม ชื่อว่าการฝึกตนนี้ช่างยากจริงหนอ ไม่เป็นไร...สู้ต่อไป ไอ้มดแดง..! ไอ้รุ่นหลังเกิดไม่ทันอีกใช่ไหมว่าประโยคนี้มาจากไหน ? คราวนี้ไม่ใช่ "น้ำตาจิไหล" ไหลจริง ๆ เลย..!
อันสมภารที่ชำนาญในทางใน ท่านขรัววัดส้มใหญ่แลดีครัน
เรื่องสมาธิ สมาบัติ อภิญญา วิชชาสาม หลวงพ่อบุญ วัดส้มใหญ่สุดยอดมากลูก ไปเรียนเลย ไม่เห็นรู้สึกสักนิดหนึ่งว่าเรียนแล้วจะไม่จบ เรียนแล้วจะไม่ได้ เพราะฉะนั้น..เราต้องเปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนทัศนคติ
เราเองเกิดมาจนนับชาติไม่ถ้วนแล้ว การจะได้เกิดเป็นมนุษย์ก็แสนยาก บาลีท่านว่า กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ
การที่จะดำรงชีวิตให้อยู่รอดมาถึงทุกวันนี้ก็แสนยาก กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ
การที่จะได้ฟังธรรมแล้วน้อมนำมาปฏิบัติก็แสนยาก กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ
และท้ายที่สุด การเกิดของพระพุทธเจ้านั้นยากสุด ๆ กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท
ที่ยากทั้งหมดนี่เราทำได้หมดเลยนะ ได้เกิดเป็นมนุษย์ รักษาชีวิตรอดมาถึงปัจจุบัน ฟังธรรมแล้วเกิดความเลื่อมใส วันหยุดยาว ๆ แทนที่จะเที่ยวเตร่เฮฮา เราก็มาปฏิบัติธรรม และเกิดทันยุคสมัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีหลักธรรมสมบูรณ์บริบูรณ์ด้วย แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ ?
ถ้าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้พร้อมมูลอยู่ที่ใคร แสดงว่าบุคคลนั้นมีสิทธิ์ที่จะบรรลุมรรคผลอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องใช้ความเพียรพยายามให้ถึง ใช้ขันติความอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุด ใช้ปัญญารู้เท่าทันสภาพความเป็นจริงของร่างกายนี้และของโลกนี้ แล้วยากตรงไหน ?
เพราะฉะนั้น...เมื่อเราถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติทุกอย่าง ก็เขียนใบสมัครเข้าไปสิ ข้าพเจ้านายนั่น นางสาวนี่ ชาตินี้ขอไปพระนิพพาน เขียนใบสมัครเสร็จก็ตะกายไปเลย เอาให้เต็มที่ ไปไม่ถึงนิพพาน ติดอยู่สุทธาวาสพรหมก็ยังดี ไม่ต้องลงมาเกิดให้ทุกข์อีก รอบรรลุอยู่ข้างบนไปเลย..!
ต่อให้ไม่ได้ขนาดนั้น ติดเป็นเทวดา นางฟ้า ในชั้นใดชั้นหนึ่งก็พอ ทำไมถึงพอ ? เพราะว่าถ้าหากว่าต้นทุนเรามี ตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจนในปัจจุบันนี้ เมื่อถึงเวลาพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ตรัสรู้ ขึ้นไปเทศน์โปรดพุทธมารดา เราฟังธรรมจบเดียว..บรรลุแน่..!
แต่..แต่อย่าตั้งความหวังไว้แค่นี้ เราต้องตั้งเป้าไว้สูงสุดเลยที่ยอดเขาเอเวอเรสต์ รู้จักไหม ? เอเวอเรสต์ ไม่เคยได้พัก พักไม่ได้ ต้องตะกายไปจนถึง
ภาษาทิเบตเขาเรียกว่า "โชโมลังมา" คุณแม่ที่เคารพ ภาษาฮินดูว่า "สกรมาตา" คุณแม่ที่เคารพ เรียกเหมือนกัน
แต่เซอร์ เอ็ดมันด์ ฮิลลารี บอกว่า "Everest" ตั้งเป้าไว้สูงสุดเลย ไปไม่ถึง..อย่างน้อย ๆ ไปถึงเบสแคมป์ก็ยังดี เดี๋ยวมีเวลาพาพวกเราไปเที่ยวสักรอบหนึ่ง แค่ ๕,๐๐๐ กว่าเมตรเท่านั้นเอง หายใจไม่ทันก็ปล่อยตายที่นั่น ตายแล้วไม่เน่าด้วย กลายเป็นน้ำแข็งอยู่ที่โน่นเลย..!
ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติทั้งปวง ตั้งเป้าหมายเอาไว้ให้สูงสุด แล้วตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติไป ไม่ท้อถอย ถึงท้อก็อย่าถอย ถ้าวันไหนรู้ตัวว่าท้อ ก็อย่าตีตั๋วเครื่องบินไปเมืองจีน เพราะว่าท้อเมืองไทยไม่ใช่ท้อแท้ ท้อเมืองจีนถึงจะเป็น "ท้อแท้"
ในเมื่อพวกเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน พากเพียรเต็มที่แล้ว ก็เหมือนกับพระมหาชนก ท่านใช้คำว่า ถ้าเพียรจนสิ้นเรี่ยวแรงบุรุษแล้วยังไม่ถึงฝั่ง จะจมน้ำตาย ก็ตอบตัวเองได้ว่าใช้ความพยายามเต็มที่แล้ว ที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า แหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน เราทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว เก็บเอาไว้ปรับทัศนคติของตัวเอง เปลี่ยนระบบการคิดของตัวเอง แล้วก็ตรงไปเลย
"หนทางนี้มีมรรค ๘ ประการ มุ่งสู่พระนิพพานทั้งหมด ฯลฯ" คนแต่งคือศาสตราจารย์ ดร. ปริญญา นุตาลัย ที่เหลือว่าอย่างไรไปหาเอาเอง กระผม/อาตมภาพขี้เกียจบอก เดี๋ยวพวกเราจะว่า "เอาหัวที่ไหนมาจำมากมายขนาดนี้ ?"
วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.