View Full Version : เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันเสาร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า
วันเสาร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
b1Wyho4y2eQ
เชิญรับฟังได้ที่ https://youtu.be/b1Wyho4y2eQ
กำหนดความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่กับคำภาวนา
หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป
หายใจอออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา
สนใจแต่ลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนา เมื่อคิดฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่นให้ดึงกลับมาอยู่กับลมหายใจตรงหน้าของเรา
เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนามั่นคงดีแล้ว ก็ให้กำหนดภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ไว้บนศีรษะของเรา จะเป็นสมเด็จองค์ปฐม พระวิสุทธิเทพ พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช หลวงพ่อโสธร หรือวัตถุมงคลที่เป็นรูปพระพุทธเจ้าแบบใดแบบหนึ่งที่เรารักเราชอบ
หายใจเข้า..ให้ภาพพระไหลลงไปอยู่ในอก ไหลลงไปอยู่ในท้อง พร้อมกับคำภาวนา
หายใจออก..ให้ภาพพระเลื่อนขึ้นมาบนอก เลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ พร้อมกับคำภาวนา
หายใจเข้า..พุท..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..โธ..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
หายใจเข้า..ภาพพระเลื่อนลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
อย่าเอาความชัดเจนของภาพพระเป็นประมาณ ให้รู้สึกว่ามีภาพพระอยู่กับเราก็พอ อย่าเพิ่งไปเอารายละเอียดอื่น ภาพพระจะชัดหรือไม่ชัดขึ้นอยู่กับกำลังสมาธิของเรา ขอให้นึกถึงภาพพระพร้อมกับคำภาวนา ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง พร้อมกับคำภาวนา
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ พร้อมกับคำภาวนา
จะหายใจเข้า..ภาพพระเล็กลง เล็กลง ไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ไปอยู่บนศีรษะ
หรือหายใจเข้า..ภาพพระใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นจนครอบเราไว้ทั้งตัว
หายใจออก..ภาพพระเล็กลง เล็กลง ไปอยู่บนศีรษะก็ได้
ไม่ต้องไปสนใจความชัดเจน เอาแค่รู้สึกถึงภาพพระพร้อมกับคำภาวนาก็พอ ความชัดเจนจะมีขึ้นหลังจากการที่เราซักซ้อมจนกำลังสมาธิทรงตัวแล้ว ตอนนี้ขอแค่รู้สึกว่ามีภาพพระอยู่กับเราก็ใช้ได้ หรือจะลืมตามองพระประธานตรงหน้า แล้วหลับตานึกถึงองค์ท่าน ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมาก็ได้
เมื่อลมหายใจกับภาพพระและคำภาวนาเริ่มกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามารถกำหนดได้ง่ายขึ้น ก็กำหนดให้ภาพพระนั้นนิ่งอยู่บนศีรษะของเรา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
อย่าไปเค้นสายตาเพื่อดูภาพพระ ให้กำหนดใจสบาย ๆ ว่ามีภาพพระอยู่กับเรา เป็นการเห็นข้างใน ไม่ใช่เห็นด้วยตา เหมือนกับเรานึกถึงบ้าน นึกถึงคนรู้จัก เราสามารถเห็นบ้านหรือคนรู้จักอย่างชัดเจน แต่ไม่ได้เห็นด้วยตา ดังนั้นห้ามใช้สายตาดูอย่างเด็ดขาด กำหนดใจสบาย ๆ ว่ามีภาพพระอยู่บนศีรษะของเรา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
จะสว่างมากสว่างน้อยไม่ใช่ประมาณ ให้รู้สึกว่าภาพพระอยู่บนศีรษะของเรา สว่างขึ้นตามลมหายใจเข้า สว่างขึ้นตามลมหายใจออก สว่างมากสว่างน้อยก็ไม่เป็นไร ขอให้กำหนดใจตามนี้ไปก่อน
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
เมื่อรู้สึกว่าภาพพระพร้อมกับลมหายใจและคำภาวนาเริ่มทรงตัวมั่นคงแล้ว ก็กำหนดให้ความสว่างจากองค์พระค่อย ๆ คลุมร่างกายของเรามาด้วย
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
ความสว่างค่อย ๆ ไหลลงมาคลุมตัวเรา จากหน้าผาก ดวงตา จมูก ปาก คาง คอ หัวไหล่ หน้าอก ท้อง สะโพก ต้นขา หัวเข่า หน้าแข้ง ฝ่าเท้า นิ้วเท้า
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
ท่านที่ไม่รู้สึกว่าสว่างมาก หรือไม่รู้สึกว่าสว่างก็ไม่เป็นไร เพราะว่าวงสมาธิของโลกียบุคคล ปกติแล้วจะมืดเหมือนกับเวลาค่ำ ขอให้เรานึกถึงภาพพระได้ก็เพียงพอแล้ว กำหนดใจตามไปได้ว่าท่านสว่างขึ้นตามลมหายใจเข้า สว่างขึ้นตามลมหายใจออก ก็เพียงพอแล้ว
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ดูลมหายใจพร้อมกับภาพพระและคำภาวนา สว่างครอบคลุมตัวเราลงมา สว่างครอบคลุมตัวเราลงมา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
เมื่อรู้สึกว่าภาพพระชัดเจน หนักแน่นมั่นคงสว่างไสวดีแล้ว ก็ให้ตั้งใจว่าความสว่างจากองค์พระนั้นแผ่กว้างออกจากรอบตัวเราไป
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
ความสว่างแผ่กว้างออกไปรอบตัวเหมือนกับเราโยนหินลงน้ำ แล้วน้ำแผ่กว้างกระเพื่อมเป็นวง วง ออกไป
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น ความสว่างแผ่กว้างออกไปทั้งศาลาแห่งนี้
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวไปทั้งศาลาแห่งนี้
หายใจออก..ภาพพระสว่างไสวไปทั้งศาลาแห่งนี้
ตามลมหายใจเข้าไป..พร้อมกับความสว่างไสวขององค์พระที่แผ่กว้างออกไปรอบด้าน
ตามลมหายใจออกมา..พร้อมกับองค์พระที่สว่างไสวไปรอบด้าน
ท่านที่ไม่มีลมหายใจ เหลือแต่ภาพพระสว่างไสวอยู่อย่างเดียวก็ไม่เป็นไร กำหนดความชัดเจนสว่างไสวของภาพพระเป็นหลัก
ท่านที่ยังมีลมหายใจอยู่..ก็ดูลมหายใจไป
มีคำภาวนาอยู่..ก็ดูคำภาวนาไป
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวไปทั้งศาลาแห่งนี้
หายใจออก..ภาพพระสว่างไสวไปทั้งศาลาแห่งนี้
ให้ตั้งใจว่า..ความสว่างไสวนั้นคือพระเมตตาคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แผ่ปกไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า มีความหวังความปรารถนาดี อยากให้เขาทั้งหลายพ้นทุกข์ อยากให้เขาทั้งหลายอยู่ดีมีสุข
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสว แผ่กว้างออกไป กว้างออกไป กว้างออกไปทั้งวัด กว้างออกไปทั้งหมู่บ้าน กว้างออกไปทั้งตำบล
ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงไปเสวยสุขในสุคติภพโดยถ้วนหน้ากันเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสว แผ่กว้างออกไป กว้างออกไป กว้างไปทั้งตำบล กว้างไปทั้งอำเภอ กว้างไปทั้งจังหวัด กว้างไปทั้งภาค กว้างไปทั้งประเทศ
ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกอยู่ในความทุกข์ยากเศร้าหมอง เดือดร้อนลำเค็ญ ทุกข์กายทุกข์ใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใด ๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด
หายใจเข้า..พระเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสว่างไสวแผ่กว้างออกไปทั้งประเทศ แผ่กว้างไปทั้งทวีป แผ่กว้างออกไปทั้งโลก โลกของเราเหมือนกับวัตถุเล็ก ๆ อยู่ภายใต้ร่างกายของเราที่โตเต็มแผ่นดินแผ่นฟ้า สามารถกำหนดจิตครอบคลุมทั่วทั้งวัตถุเล็กน้อยนั้นได้อย่างง่ายดาย
ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวครอบคลุมไปทั้งโลก
หายใจออก..ภาพพระสว่างไสวครอบคลุมไปทั้งโลก
ภาพพระและตัวเราที่กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสว่างไสวออกไปรอบข้าง ความสว่างแผ่กว้างออกไปยังดวงดาวต่าง ๆ ในอนันตจักรวาล ด้านบนจรดพรหมชั้นที่ ๑๖ ด้านล่างถึงอเวจีมหานรก ด้านขวางคือดวงดาวที่เต็มไปด้วยหมู่สัตว์หาประมาณมิได้
ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กันและกัน เสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวไปโดยไม่มีประมาณ ครอบคลุมไปทั่วทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า
หายใจออก..ภาพพระกลับมาสว่างไสวบนศีรษะของเราตามเดิม
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสว แผ่กว้างออกไปทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า
หายใจออก..ภาพพระกลับมาสว่างไสวบนศีรษะของเราตามเดิม
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวไปโดยไม่มีประมาณ
หายใจออก..ภาพพระกลับมาสว่างไสวบนศีรษะของเราตามเดิม
ใครถนัดกำหนดภาพพระไว้ในอก ก็กำหนดให้สว่างอยู่ในอก
ถนัดกำหนดความสว่างอยู่ในท้อง ก็ให้สว่างอยู่ในท้อง
ถนัดกำหนดไว้บนศีรษะ ก็เอาไว้บนศีรษะ
กำหนดไว้ตรงหน้า ก็เอาไว้ตรงหน้า..
จะเป็นกี่องค์ก็ได้แล้วแต่เราถนัด
ให้น้อมจิตน้อมใจกราบลงที่องค์พระซึ่งสว่างไสวอยู่ในห้วงนึกของเราว่านั่นคือ ภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน
วันนี้ถ้าเราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานนี้แห่งเดียวเท่านั้น
ใครยังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ กำหนดลมหายใจไปด้วย
มีคำภาวนาอยู่ กำหนดคำภาวนาไปด้วย
ถ้าลมหายใจเบาลง ให้รู้ว่าลมหายใจเบาลง
ถ้าลมหายใจหายไป..คำภาวนาหายไป ให้กำหนดรู้ว่าลมหายใจหายไป..คำภาวนาหายไป
อย่าไปดิ้นรนให้เป็นอย่างนั้น และอย่าไปดิ้นรนให้หลุดจากสภาพอย่างนั้น
เรามีหน้าที่เอากำลังใจจดจ่อแน่วแน่อยู่กับภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สว่างไสวไม่มีประมาณ
กำหนดใจให้แน่วนิ่งเอาไว้เช่นนี้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
(สัญญาณบอกว่าหมดเวลา)
พุทโธ พุทโธ พุทโธ..
ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ..
กำหนดใจของเราให้แน่วนิ่งอยู่กับภาพพระ แล้วค่อยขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะกราบพระ จะสวดมนต์ ให้ใจของเราอยู่กับภาพนี้ไว้เสมอ ไม่เช่นนั้นแล้วพอเราเคลื่อนไหวภาพพระก็จะหายไป ต้องเสียเวลามาทำกันใหม่อีก
ลำดับต่อไปก็ทำวัตรเช้าร่วมกัน
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า
วันเสาร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.