View Full Version : ตอบสัมภาษณ์นิสิตมหาบัณฑิต มมร.สาขาวิชาพุทธศาสน์ศึกษา
ถาม : ท่านมีความเห็นว่า การให้ทานโดยที่บุคคลมีศรัทธาเลื่อมใส คิดจะให้ทาน ไร้เจตนาหวังสิ่งตอบแทน มีปัญญาตรึกตรองด้วยตน (จาคเจตนาทาน) เป็นอย่างไร ?
ตอบ : เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนตน (อัตตัตถประโยชน์) คือ ได้ตัดความโลภ ความตระหนี่ถี่เหนียวในจิตใจของตน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น (ปรัตถประโยชน์) ที่ได้รับทรัพย์สินสิ่งของไปบรรเทาความเดือดร้อนของตนหรือครอบครัวของตน และก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย (อุภยัตถประโยชน์) สร้างสรรค์สังคมแห่งความพึ่งพาอาศัยแบ่งปันกันเอง แต่..การให้ทานโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างน้อยคนเราก็ต้องการคำชมจากผู้อื่น ต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่าเราเป็นคนดี น้อยคนที่จะให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจริง ๆ
ถาม : ท่านมีความเห็นว่า การให้อภัย การงดเว้นจากบาป ทางกาย วาจา และทางใจด้วยกรรมและทวารเป็นสมาทานวิรัติ (วิรัติทาน) เป็นอย่างไร
ตอบ : ยากที่สุด การให้อภัยอย่างแท้จริง ต้องออกมาจากจิตที่ปราศจากความโกรธ เกลียด อาฆาต พยาบาท ซึ่งคนทั่วไปมีได้ยาก เข้าถึงได้ยาก ตามที่ได้ศึกษามา ต้องเป็นอริยบุคคลระดับพระอนาคามีขึ้นไป จึงจะให้อภัย และงดเว้นบาปในไตรทวารได้
ถาม : ท่านมีความเห็นว่า การให้วัตถุสิ่งของต่างๆ ได้แก่ ข้าวและน้ำ เป็นต้น (ไทยธรรมทาน) เป็นอย่างไร ?
ตอบ : คำตอบเดียวกับข้อแรก ก็คือ ก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนตน (อัตตัตถประโยชน์) คือ ได้ตัดความโลภ ความตระหนี่ถี่เหนียวในจิตใจของตน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น (ปรัตถประโยชน์) ที่ได้รับทรัพย์สินสิ่งของไปบรรเทาความเดือดร้อนของตนหรือครอบครัวของตน และก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย (อุภยัตถประโยชน์) สร้างสรรค์สังคมแห่งความพึ่งพาอาศัยแบ่งปันกันเอง แต่ยังสู้อภัยทานไม่ได้ เพราะว่าอภัยทานใช้กำลังใจสูงกว่ากันมาก
ถาม : ท่านมีความเห็นว่า การให้ทานโดยที่บุคคลมีศรัทธาเลื่อมใส คิดจะให้ทาน ไร้เจตนาหวังสิ่งตอบแทน มีปัญญาตรึกตรองด้วยตน (จาคเจตนาทาน) มีคุณค่าต่อสังคมอย่างไร ?
ตอบ : ถ้าทุกคนมีกำลังใจแบบนี้ ย่อมมีสังคมที่สงบสุข ไม่มีคนลำบากเดือดร้อน เพราะว่าเมื่อขาดแคลนสิ่งใด ก็จะมีคนแบ่งสันปันส่วนให้ แต่นี่เป็นเพียงสังคมในฝันเท่านั้น เพราะว่ากำลังใจของคนเรานั้นไม่เท่ากัน มีสูงมีต่ำ คงต้องรอจนถึงสมัยพระศรีอริยเมตตรัย ถึงจะมีสังคมแบบนี้ได้..!
ถาม : ท่านมีความเห็นว่า การให้อภัย การงดเว้นจากบาป ทางกาย วาจา และทางใจด้วยกรรมและทวารเป็นสมาทานวิรัติ (วิรัติทาน) มีคุณค่าต่อสังคมอย่างไร ?
ตอบ : ย่อมทำให้เกิดสังคมที่ทุกคนปรารถนา (ยูโทเปีย) แต่น่าจะเป็นได้แค่ฝันกลางฤดูร้อนเท่านั้น..!
ถาม : ท่านมีความเห็นว่า การให้วัตถุสิ่งของต่างๆ ได้แก่ ข้าวและน้ำ เป็นต้น (ไทยธรรมทาน) มีคุณค่าต่อสังคมอย่างไร ?
ตอบ : เมื่อมีการแบ่งปัน ย่อมเป็นสังคมที่ประกอบไปด้วยพรหมวิหารธรรม ซึ่งก็คือสังคมแห่งการมีศีล ๕ เป็นปกติ มีจิตเมตตาสงเคราะห์ผู้อื่น ซึ่งเป็นกำลังใจของพระโพธิสัตว์ ไม่ใช่บุคคลทั่วไป
ถาม : ท่านมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอะไรบ้าง ?
ตอบ : ท่านทำสารนิพนธ์เรื่อง "ศึกษาวิเคราะห์การให้ทานที่ปรากฏในคัมภีร์วิมานวัตถุ" เรื่องราวในวิมานวัตถุ เป็นการได้รับผลจากสร้างบุญสารพัดรูปแบบ แต่คำถามของท่าน เป็นคำถามที่ตั้งเอาไว้สูงเกินกว่าเรื่องราวที่ปรากฎในวิมานวัตถุ น่าจะทำให้การวิเคราะห์คลาดเคลื่อนจากเนื้อหาความเป็นจริงไปมาก
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.