View Full Version : เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๕
vymxV-H55ig
วันนี้ตรงกับวันพุธที่  ๒๓  มีนาคม  พุทธศักราช  ๒๕๖๕ นับว่าได้กลับวัดท่าขนุนอย่างแท้จริงในรอบหลายวัน เมื่อวานนี้ได้ไปพุทธาภิเษกวัตถุมงคลให้กับสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพาราม  ที่อำเภอบางละมุง  จังหวัดชลบุรี  สถานที่นี้ต้องบอกว่ามีบางเรื่องที่สมควรจะบอกเล่าให้พวกเราได้ทราบเอาไว้  
อันดับแรก เมื่อไปถึงได้ยินเสียงสวดพระคาถาเงินล้านของกระผม/อาตมภาพเองดังอยู่  เมื่อสอบถามพระครูสังฆรักษ์พัสวัชร์  ฐิตสีโล  หรือพระครูโก้  เจ้าสำนักแล้ว  ท่านเรียนว่ามีการเปิดกันทั้งวัน  ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ถ้ามีเสียงสวดมนต์หรือเสียงการแสดงธรรม  ก็จะมีทั้งบุคคลที่สนใจในธรรม และท่านที่มองไม่เห็นตัว ซึ่งต้องการบุญตรงจุดนี้  จะมารวมกันในสถานที่นั้น  ซึ่งถ้าเรารู้จักอุทิศส่วนกุศลเพิ่มเติมให้  ถึงเวลาแล้วเราจะขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นช่วยเหลืออะไรก็เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
 แต่ว่าการที่ท่านทั้งหลายเปิดเสียงสวดพระคาถาเงินล้านของกระผม/อาตมภาพนั้น   ขอให้ท่านเปิดผ่านทางยูทูบ และปล่อยให้ฟังจนจบไปเลย เพื่อที่จะได้นับเป็น  ๑  ยอดวิว  ซึ่งทางยูทูบจะนับ ๑  พันยอดวิว แล้วคิดเป็นเงิน ๕ ดอลลาร์ให้กับทางวัดท่าขนุน 
ต้องขอแรงเราทั้งหลายช่วยกันเปิด  เพื่อเป็นการทำบุญร่วมกับทางวัดอย่างหนึ่ง  ตรงนี้เราได้รับเงินทางด้านยูทูบติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว  มากบ้างน้อยบ้าง  เดือนหนึ่งก็ประมาณ ๑๗๐ - ๑๘๐ ดอลลาร์  ซึ่งนับว่าไม่น้อยเลย แม้ว่าระยะนี้ภาวะสงครามจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์ตกลง  แต่ก็ยังเป็นเงินที่รวมกันแล้วจำนวนไม่น้อยอยู่ดี
ประการต่อไปก็คือ เมื่อทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพจะชอบใจมาก  เพราะว่าการปลุกเสกรูปพระพุทธเจ้านั้นเป็นของง่ายเมื่อเปรียบกับสิ่งอื่น  วัตถุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่รูปพระพุทธเจ้านั้น  เราจะต้องทำการเสกจนมีอานุภาพเหมือนกับพุทธบารมี  พูดง่าย ๆ ก็คือเสกของจนเป็นพระนั่นเอง   บางทีใช้ระยะเวลานาวนานเป็นชั่วโมง ๆ   
แต่การเสกรูปพระนั้น  เมื่อถึงเวลาบารมีพระท่านคลุมลงมา  บางทีไม่ถึง  ๑๕  นาที  พระองค์ท่านก็บอกว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว  โดยเฉพาะครั้งนี้  พระองค์ท่านขยายพระวรกายใหญ่จนคลุมไปทั้งสำนัก  สว่างเจิดจ้าเหมือนพระอาทิตย์ยามเที่ยง  ถ้าใครเคยเห็นภาพพระพุทธรูปแก้วทรงเครื่องเต็มสภาพ  ก็ต้องบอกว่ามีลักษณะคล้ายคลึงประมาณ ๑  ใน  ๑๐๐  เท่านั้น  เนื่องเพราะว่าพระองค์ท่านสว่างใสชัดเจนกว่านั้นหลายเท่านัก
เมื่อถึงเวลาเสร็จพิธีก็ได้พรมน้ำมนต์และโปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา   รับไทยธรรมแล้วกลับเลย  แต่มีญาติโยมบางท่านที่วิ่งตามไม่ทัน  เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมกระผม/อาตมภาพต้องรีบร้อนกลับถึงปานนั้น   ?
ขอให้ท่านทั้งหลายลองคิดดูว่า  การที่วิ่งจากวัดท่าขนุนไปจนถึงสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพารามนั้น  ใช้เวลาประมาณ  ๖   ชั่วโมงครึ่ง  ถ้ารวมเวลาพักหรือเวลารถติดแล้วก็อาจจะถึง  ๗   ชั่วโมง  เมื่อวานนี้กระผม/อาตมภาพออกจากทางด้านสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพารามประมาณเก้าโมงเช้า  วิ่งกลับมาถึงวัดท่าขนุนประมาณบ่ายสี่โมง ท่านทั้งหลายคงคิดไม่ถึงว่า ระยะทางที่ยาวไกลขนาดนี้  จะลากยาวทีเดียวไปถึงได้   แต่การที่จะต้องไปให้ถึง  ก็จะทำให้เวลาในที่อื่นมีน้อย  
ถ้าท่านทำตัวเป็นบุคคลที่มีเวลามาก  คิดอะไรก็ช้า  ทำอะไรก็ช้า  จะไม่มีวันที่ทำบุญกับกระผม/อาตมภาพได้ทันเลย
เงินที่ญาติโยมทำบุญเมื่อวานนี้  กระผม/อาตมภาพก็ได้มอบถวายให้กับพระครูโก้ไปทั้งหมด   เพื่อที่ท่านจะได้นำไปใช้ในการบูรณปฏิสังขรณ์ทางสำนัก  ตามแต่ที่ท่านจะเห็นสมควรต่อไป
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ภายในกระทู้บอกบุญร่วมซื้อหัวรถจักรโบราณ  เพื่อนำมาทำเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของทางชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนนั้น  ไอ้ตัวเล็กได้นำเอาวัตถุมงคลหลายอย่างไปลงเอาไว้    อย่างหนึ่งที่ควรจะพูดถึง  เพราะว่าบางท่านไม่ทราบ  ก็คือยาจินดามณี 
 
เวลาที่จะกินยาจินดามณีนั้น ต้องภาวนาด้วยคาถา "พุทธะรัตตะนัง     ธัมมะรัตตะนัง    สังฆะรัตตะนัง   โอสะถัง  อุตตะมัง วะรัง   สัพพะทุกขัง สัพพะโรคัง  วินาสเสติ  อะเสสะโต"   ซึ่งตรงจุดนี้นอกจากภาวนาแล้ว  เคล็ดลับในการกินก็คือ ให้กินในวันพระ  จะเป็นเวลาเที่ยงวันหรือเที่ยงคืนก็ได้  จะเป็นช่วงเวลาที่ยานี้ให้ผลดีที่สุด   ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยทราบกัน  
โดยเฉพาะถ้าหากเป็นวันพระขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เวลาเที่ยงคืน  ก็จะดีมาก  แต่ถ้าไม่เป็นบุคคลที่นอนดึกจริง ๆ  หรือว่าบุคคลที่มีหน้าที่ในยามค่ำคืนแล้ว   โอกาสที่จะกินยาแบบนั้นก็ยาก  ก็ให้กินในเวลาเที่ยงวันแทน  ซึ่งทั้งสองเวลานั้น  ตามตำราได้บันทึกเอาไว้ว่า  เป็นเวลาที่ยาจะมีอานุภาพสูงสุด  
คราวนี้การที่เรากินยาจินดามณีนั้น  ถามว่ากินเท่าไรจึงจะเหมาะสม ?  คนทั่วไปกินครั้งละเม็ดสองเม็ดก็ควรที่จะเพียงพอแล้ว  แต่ถ้าหากว่ามีมากอย่างกระผม/อาตมภาพ  นาน ๆ จะฉันที  ก็เล่นทีละ  ๕  เม็ดไปเลย  เป็นต้น  
ส่วนที่อยากจะเตือนเอาไว้ก็คือว่า  ลูกประคำที่ทำจากเม็ดยาจินดามณีนั้น  ทำยากมาก เนื่องเพราะว่าต้องปั้นแล้วก็เจาะรู  ซึ่งถ้าหากว่าพลาด  กำหนดระยะเวลาที่ไม่ถูกต้อง  ก็จะทำให้ยาเม็ดนั้นแตก  ไม่สำเร็จเป็นลูกประคำตามที่ต้องการ  เพราะว่าถ้าเจาะเร็วเกินไป ก็จะทำให้ยาเม็ดนั้นไม่ทันจับตัวแน่นแข็งพอ  ถ้าหากว่าเจาะช้าเกินไปก็จะแข็งเกินไป   บางทีก็เหมือนกับเป็นหินไปแล้ว   ทำให้เจาะยากยิ่งขึ้น
กระผม/อาตมภาพมียาเม็ดจินดามณีตั้งแต่สมัยหลวงปู่บุญ  วัดกลางบางแก้ว   หลวงปู่เพิ่ม  วัดกลางบางแก้ว  พระอาจารย์ใบ  วัดกลางบางแก้ว  เป็นต้น    ยาเม็ดจินดามณีที่เป็นของหลวงปู่บุญนั้น หมดสีหมดกลิ่นจนแทบจะกลายเป็นสีขาวไปแล้ว  แข็งแกร่งเหมือนกับว่าเป็นหินหรือเป็นพระธาตุ   ใช้ค้อนทุบแรง  ๆ  ยังไม่รู้สึกอะไรเลย  ตรงจุดนี้ขอเตือนท่านทั้งหลายว่า  ถ้าหากว่าแข็งขนาดนั้นแล้วกินลงไป อาจจะไม่ย่อย  และไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอาจจะเกิดโทษอะไรขึ้นบ้าง ?  
ดังนั้น...ในส่วนที่เป็นลูกประคำนั้น  ขอให้เก็บติดตัวเอาไว้ อยู่ในลักษณะของการสวดมนต์ภาวนา  และให้อานุภาพของยาเม็ดจินดามณีนั้นคุ้มครองป้องกันและเสริมดวงให้กับเรามากกว่า   ไม่ใช่ถึงเวลาก็ไปตัดสายประคำ แล้วก็นำเอาไปกิน  แบบนั้นก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ  
อันดับแรก..ก็คือวิธีทำนั้นยาก  อันดับที่สอง..การที่จะทำเป็นลูกประคำนั้น บางทีก็ต้องเคลือบสิ่งของบางอย่างเพื่อรักษาประคำนั้นเอาไว้  ถ้ากินลงไปอาจจะมีอันตรายกับตัวเราก็ได้  
ส่วนอื่น ๆ  ก็คือ  ในเรื่องของวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ท่านบูชานั้น ถ้าเป็นแมลงภู่คำ ใช้คาถาภาวนากำกับสั้น ๆ ว่า  ยะ มะ อะ ปะ ยะ  มัง ยะ  หรือไม่ก็ใช้คาถาแมลงภู่คำ  ซึ่งนิยมใช้ในภาคเหนือของเรา  ก็คือ โอมพระยาแมลงภู่คำ  งามเหลือล้นพอตา ฯลฯ  เป็นต้น  แต่ถ้าท่านไม่เข้าใจภาษาเหนือ สักแต่ว่าสวดไปตามสำเนียงนั้น ๆ  บางทีอานุภาพก็ไม่ได้อย่างที่ใจต้องการเช่นกัน 
 
ส่วนข้าวของอย่างอื่นนั้น  อย่างยันต์พญาแมงมุมดักทรัพย์  ก็ให้ภาวนาควบคู่กับพระคาถาเงินล้านไปได้เลย   เพราะว่าเป็นการดัดแปลงเอาพระคาถาเงินล้าน  มาลงแทนพระคาถาเก่าของยันต์แมงมุมดักทรัพย์  ตรงจุดนี้ที่ท่านทั้งหลายนำไปใช้   ต้องมีการขยันอาราธนาและภาวนาเป็นปกติ  ต้องเป็นคนที่มีวินัย  กระทำอะไรให้สม่ำเสมอต่อเนื่องกัน  ถึงจะเกิดผลได้ง่าย
เช่นเดียวกับการที่ท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรม  อย่างน้อย ๆ  ก็ต้องมีเวลาที่เราสละให้  ช่วงเช้าช่วงเย็นสัก  ๑๕  นาที  ในการที่จะภาวนาให้กำลังใจของเราทรงตัว  ก่อนที่เราจะออกไปทำงานหรือก่อนที่เราจะนอน  ถ้าสามารถทำเช่นนี้ได้  เราก็รักษาอารมณ์ใจอยู่ในด้านที่ดีมากกว่าได้   ไม่เช่นนั้นแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะสู้กิเลสได้   เนื่องเพราะว่าเผลอปล่อยให้กิเลสมีอำนาจมากกว่ากำลังใจในด้านดี  ซึ่งทำให้เราเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมแล้วก็ไม่เกิดผล   เพราะว่าทำเท่าไรก็โดนกิเลสเอาไปกินจนหมด
ส่วนในเรื่องของภาวะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนนนั้น  เป็นกลศึกที่ลึกล้ำเกินกว่าที่พวกเราจะคิดถึงก็มี   แต่ขอให้เข้าใจว่าทางด้านยุโรปและอเมริกานั้นอยู่ในสภาพจนตรอก  เนื่องเพราะทางรัสเซียนั้นเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ  เป็นแหล่งพลังงานต่าง ๆ ให้กับทางยุโรปมานาน  เมื่ออยู่ ๆ ไปต่อต้านเขา ไปแซงก์ชั่นเขา  เมื่อเขาไม่คบหาสมาคม  ไม่ส่งสินค้าและพลังงานให้  พวกท่านทั้งหลายก็ไปไม่ไหว  ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปจะเกิดการประท้วงรัฐบาลของตนเอง  จนกระทั่งวุ่นวายใหญ่โต  ท่านทั้งหลายที่อยู่ในด้านยุโรปนั้น ขอให้ระมัดระวังให้ดี  อย่าไปมีส่วนร่วมกับเขา เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้  ถ้าหากว่ามีการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง   
ส่วนในประเทศอเมริกานั้นได้แต่ภาวนา  ขอให้ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน  ไม่เกิดอาการเข้าตาจนถึงที่สุด  ถ้าหากว่าเข้าตาจนถึงที่สุดทำอะไรไม่ได้  อาจจะมีการลบล้างบัญชีเงินของคนอเมริกันทั้งหมด แล้วอ้างว่าเป็นการกระทำของฝ่ายรัสเซีย  เพื่อให้ทุกคนจงเกลียดจงชังรัสเซีย  แล้วทางรัฐบาลก็จะเปลี่ยนแปลงจากการใช้เงินปกติ ซึ่งพิมพ์ออกมาโดยไม่มีสิ่งของซึ่งเป็นมูลค่ารองรับ ทำให้เปรียบเหมือนเศษกระดาษ  จำเป็นจะต้องรีบตัดทิ้ง  หันไปใช้ระบบเงินตราดิจิตัลแทน   
ตรงจุดนี้อเมริกันชนทั้งหลายก็อาจจะไม่รู้  ว่าเป็นฝีมือรัฐบาลของตนเอง  แล้วก็ไปโทษว่าเป็นแฮกเกอร์ของประเทศจีน  แฮกเกอร์ของประเทศรัสเซีย ช่วยกันทำลายล้างระบบเงินของตนเอง ตามแต่เขาจะพูดกันไป
เรื่องพวกนี้ความจริงแล้วไม่ควรจะกล่าวถึง แต่เป็นห่วงญาติโยมทั้งหลายที่อยู่ทางยุโรปและอเมริกา ว่าถ้าอยู่ ๆ แล้วเงินของตนเองสูญหายไปหมดเพราะประเทศเข้าตาจน  หรือว่าเงินของตนเองด้อยค่าลงไปมาก  ทำให้ต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น  ท่านทั้งหลายก็อาจจะเดือดร้อนมากกว่าที่คิด 
สิ่งที่พูดมานี้ก็เกินกฎของกรรมไปมากแล้ว   จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา  และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เถรี)
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.