View Full Version : เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕
-qs0LdSL558
วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อวานนี้ได้มีการจัดภาวนาพระคาถาเงินล้านที่วัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง
ประการแรกเลย ก็คือญาติโยมจำนวนมากที่มาร่วมงาน กลายเป็นผู้ทรงฌานในการภาวนาคาถาเงินล้าน เหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าระยะเวลาในการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบนั้น ใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมง ส่วนหนึ่งก็เลยสามารถที่จะเข้าฌานได้ โดยที่ตนเองบางทีก็ไม่ได้ตั้งใจ
แต่ขอให้ทราบว่า เมื่อท่านเข้าฌานเข้าสมาธิไปแล้ว ไม่สามารถที่จะสวด หรือภาวนาพระคาถาเงินล้านแบบออกเสียงได้ เพราะว่าสมาธิของท่านทรงตัวแน่นเกินไป แต่ว่าผลของสมาธินั้นมีอย่างแน่นอน
เนื่องเพราะว่าในเรื่องของการภาวนาคาถา ไม่ว่าจะเป็นคาถาอะไรก็ตาม ถ้าหากว่าสามารถทรงสมาธิได้สูงมากเท่าไร ผลของคาถาก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายต้องทำให้ต่อเนื่อง จริงจัง และสม่ำเสมอ
ประการที่สอง งานนี้ออกมาค่อนข้างจะเรียบร้อยมาก อาจจะเป็นเพราะว่าจัดกันในช่วงเช้า ผู้คนยังไม่ทันจะออกมากันมาก แต่ขนาดนั้นที่ซึ่งเตรียมเอาไว้ก็เต็มเกือบทั้งหมด แต่ภาพรวมของงานออกมาค่อนข้างจะเรียบร้อย ถือว่าทีมงานมีการพัฒนาไปในด้านที่ดีมากขึ้น
ในงานนี้ ปัจจัยที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันทำบุญมาจำนวน ๑๐๘,๘๐๐ บาท กระผม/อาตภาพได้มอบให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน เอาไว้ใช้ในงานบูรณปฏิสังขรณ์วัดอุทยานต่อไป ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่มาร่วมงานในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน ระยะนี้ก็มีฝนฟ้าที่ตกผิดปกติ ผิดฤดูกาล ถ้าหากว่าเป็นโบราณ ช่วงนี้จะเป็นช่วงของฝนชะลาน หรือว่าฝนชะช่อมะม่วง แต่ว่ามีการตกแบบจริง ๆ จัง ๆ ต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว ซึ่งเกินจากสภาวะปกติ
ตรงจุดนี้เมื่อเกิดความสงสัยขึ้นมา ในขณะที่กำลังเจริญพระกรรมฐานในช่วงเช้าอยู่ ท้าวมหาราชท่านก็มาบอกกล่าวให้ทราบว่าเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือที่กระผม/อาตมภาพได้กล่าวไว้เมื่อ ๑๐ กว่าปีที่แล้ว ขณะที่ยังอยู่ที่เกาะพระฤๅษีว่า ขั้วโลกมีการขยับเคลื่อนที่ ซึ่งจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ ก็ขยับไปนับเป็นกิโลเมตรแล้ว
อีกส่วนหนึ่งก็คือ เรื่องของฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไปตามการขยับของขั้วโลก ทำให้ดินฟ้าอากาศ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการหมุนเวียน ฤดูกาลในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลกก็จะสลับผลัดเปลี่ยนกันไป แต่เนื่องจากว่าระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงนั้นนานมาก อาจจะนับร้อยปี หลายร้อยปี หรือว่าหลายพันปี แต่บังเอิญมาเปลี่ยนแปลงในช่วงยุคนี้ ซึ่งเป็นยุคที่เราทั้งหลายยังมีชีวิตอยู่ จึงทำให้บุคคลรุ่นที่เหยียบ ๒ ยุคอยู่ ก็คือทั้งยุคเก่าและยุคใหม่ อย่างกระผม/อาตมภาพนี้ มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในการดำเนินชีวิตของตนเอง เพราะว่าดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ท้าวมหาราชทั้ง ๔ โดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ ท่านยืนยันว่า บุคคลที่มั่นคงต่อคุณพระรัตนตรัย ไม่ใช่แต่ภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกเท่านั้น แม้กระทั่งภาวะสงครามก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
ตรงจุดนี้ต้องเข้าใจว่า ท่านทั้งหลายจะต้องยึดในคุณพระศรีรัตนตรัยอย่างแท้จริง ก็คือมีการระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นปกติอย่างจริงจังในทุกวัน ได้แก่ การภาวนาระลึกในพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ประกอบกับอานาปานุสติ ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายจะต้องมีการกระทำอย่างจริงจัง อย่างน้อยวันละ ๒ เวลา ก็คือเวลาเช้าหลังจากตื่นนอน และเวลาเย็นก่อนที่ท่านจะนอน
ต้องมีการกำหนดลมหายใจเข้าออกพร้อมกับภาพพระ หรือว่าภาพวัตถุมงคลรูปพระที่ท่านทั้งหลายติดตัวและยึดถืออยู่ กำหนดให้ภาพวัตถุมงคลหรือภาพพระนั้น ขยายใหญ่ขึ้นมาครอบตัวของเราเอาไว้ หรือว่าครอบรถยนต์ที่เราขับขี่อยู่ หรือว่าครอบอาคารสถานที่ซึ่งเราพักอาศัยอยู่
แล้วอธิษฐานขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะท้าวมหาราชทั้ง ๔ ซึ่งมีท้าวเวสสุวรรณเป็นประธาน ช่วยดูแลปกปักรักษา สิ่งหนึ่งประการใดที่ไม่เกินกฎของกรรม ก็ขอให้ช่วยขจัดปัดเป่าให้หมดสิ้นไป สิ่งหนึ่งประการใดที่เกินกฎของกรรม ก็ขอให้ตัวเราหรือคนที่เรารัก อยู่รอดปลอดภัย แม้ว่าจะต้องสูญเสียทรัพย์สินบ้างก็ไม่เป็นไร
อย่างบางท่าน เช่น ลูกจ๊ะเอ๋ (พิมพ์ผจง แสงคู่วงษ์) ซึ่งได้ขับรถยนต์ไปแล้วเกิดอุบัติเหตุพังยับเยิน ประกันต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ให้เลย หรือว่าญาติโยมที่เกิดอุบัติเหตุ โดนรถยนต์พ่วง ๑๘ ล้อ พุ่งชนประกบหน้าหลัง พังยับเยินจนกระทั่งกลายเป็นซากรถ แต่ว่าตนเองไม่เป็นอะไรเลย..!
ตรงจุดนี้ เราจะเห็นว่าถ้าสถานการณ์นั้นหนัก บารมีของคุณพระศรีรัตนตรัย ของพรหมเทวดา และครูบาอาจาย์ ก็จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา และถ้าหากว่าเป็นเรื่องเบาก็ทำให้หาย เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องเสียทรัพย์สินบ้าง เจ็บเนื้อเจ็บตัวเล็กน้อยบ้าง แต่ว่าไม่ถึงแก่ชีวิต
เรื่องตรงจุดนี้เท่ากับว่าบังคับให้ท่านทั้งหลายเป็นผู้มีวินัย คำว่า มีวินัย ในที่นี้ก็คือการที่ท่านทั้งหลายต้องมีการภาวนา กำหนดใจนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นประจำ หรือว่ากำหนดใจนึกถึงรูปวัตถุมงคลที่เป็นพระพุทธหรือว่าพระสงฆ์ กำหนดอย่างน้อย ๆ สักครั้งละ ๑๐ นาที ๑๕ นาที จนกำลังใจของเรามั่นคง แล้วอธิษฐานภาพพระหรือภาพวัตถุมงคลนั้น ๆ ให้ครอบตัวเรา รถยนต์ของเรา หรือว่าอาคารบ้านเรือนของเราเอาไว้ เพื่อที่จะได้ปลอดภัย
ไม่ว่าจะเกิดจากภาวะสงคราม หรือว่าความเปลี่ยนแปลงแปรปรวนของธาตุ ๔ ทั้งดิน น้ำ ลม หรือว่าไฟ ซึ่งปกติธรรมดาแล้ว เขาจะต้องเป็นเช่นนั้น แต่ว่ามาเกิดในยุคของเรานี้ ถ้าเรายึดถือคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นหลัก ก็จะสามารถทำให้ปลอดภัยในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อได้เช่นกัน
โดยเฉพาะถ้าวัตถุมงคลชิ้นนั้น มีรูปของท้าวมหาราชทั้ง ๔ ติดอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพียงท้าวเวสสุวรรณองค์เดียว หรือว่าท้าวมหาราชทั้ง ๔ ครบถ้วนก็ตาม ก็เท่ากับว่าเราระลึกถึงท่าน ขอให้ท่านช่วยดูแลปกปักรักษาด้วย
ในขณะที่ได้ทำการพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ท้าวมหาราชท่านก็รับปากเอาไว้ว่า ถ้ามีการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย หรือว่ามีการปฏิบัติในอารมณ์ของพระโสดาบัน ก็คือหวังการหลุดพ้นอย่างน้อยเป็นพระอริยเจ้าขั้นต้น ท่านเองก็จะช่วยติดตามดูแล ปกปักรักษาให้ตลอดชีวิต
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ท่านจะต้องคิด ต้องตัดสินใจเอาเองว่า เราจะนำเอาวัตถุมงคลเหล่านั้นมาติดตัวหรือไม่ เนื่องเพราะว่าแม้แต่กระผม/อาตมภาพเอง มีความรักความชอบในเครื่องรางของขลังขนาดไหนก็ตาม แต่ว่าสิ่งที่ติดตัวอยู่เป็นประจำ ก็คือวัตถุมงคลที่เป็นรูปของสมเด็จองค์ปฐม ก็คือรูปของครูบาอาจารย์ แล้วในขณะเดียวกัน ก็มีการอาราธนาเป็นปกติ
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าท่านคิดที่จะปฏิบัติตาม เราต้องยึดพระรัตนตรัยเป็นหลัก แล้วก็ยึดพรหม เทวดาเป็นรอง เนื่องเพราะว่าโดยปกติแล้วก็เป็นเช่นนั้น ก็คือพรหมเทวดาที่ท่านคอยดูแลรักษาบุคคลที่ตั้งหน้าตั้งตาถือศีลปฏิบัติธรรม ซึ่งจะทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นพลอยได้ส่วนบุญส่วนกุศลจากบุคคลที่ปฏิบัติธรรมไปด้วย แล้วขณะเดียวกัน ท่านที่ตั้งอกตั้งใจให้พรเอาไว้ว่า ถ้าทำตามกฎเกณฑ์กติกาของท่านแล้ว ท่านก็จะช่วยปกปักรักษาให้ ตรงจุดนี้เราจะต้องเป็นผู้ที่ตั้งใจคิด ตั้งใจปฏิบัติ โดยการตัดสินใจด้วยตนเอง
สำหรับวัตถุมงคลของวัดท่าขนุนนั้นได้ร่อยหรอลงไปมาก ในส่วนของเหรียญทองคำรัชกาลที่ ๕ ซึ่งระยะนี้ท่านที่บูชาไปถือว่าได้กำไร เพราะว่าทางวัดไม่ได้ขึ้นไปตามราคาทองที่ขึ้นจนหูดับตับไหม้ แต่ก็เหลืออยู่แค่ประมาณ ๔๐ เหรียญเท่านั้น ซึ่งแบ่งครึ่งให้กับทางไอ้ตัวเล็กเอาไปลงในกระทู้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็จำหน่ายที่วัด ซึ่งญาติโยมไปทำบุญแล้วสามารถทำได้ด้วยความสบายใจ เพราะว่าทางวัดอนุญาตให้โอนเงินผ่านระบบออนไลน์ได้
หลวงพ่อสุคโตนั้น ทั้งหมดที่เหลือก็อยู่ที่กิฟท์จัง ซึ่งนำเอาไปออกในเพจของตนเอง และขณะเดียวกันก็ออกอยู่ในกระทู้ของวัดท่าขนุนด้วย ซึ่งเหลืออยู่แค่ประมาณ ๑๐๐ องค์ ส่วนของวัดก็เหลืออยู่แค่ระดับหลักสิบ เผื่อท่านที่หลงไปวัดแล้วอยากได้ ก็จะได้มีไว้ให้เขาบูชาบ้าง
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่า ใครมาก่อนได้ก่อน ถ้าหากว่าใครช้า ถึงเวลาต้องการ ก็อาจจะต้องไปบูชาต่อจากเขาแพง ๆ เพราะว่าผู้ที่บูชาไปนั้น ก็ย่อมเกิดการหวงแหนอย่างหนึ่ง หรือว่าผู้นั้นตั้งใจบูชาไปเพื่อปล่อยหากำไรเช่นกัน จึงต้องขอให้ท่านทั้งหลายพินิจพิจารณาและตัดสินใจเอาเอง
เนื่องเพราะว่าระยะนี้เป็นภาวะของโรคระบาด เป็นภาวะของสงคราม เป็นภาวะของการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ ท่านทั้งหลายจึงทำการทำงานได้ยาก เงินทองเป็นของหายาก ถ้าไม่ใช่ว่าท่านทั้งหลายมีเพียงพอที่จะแบ่งปันมา ก็ขอให้เก็บเอาไว้เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว อย่าได้นำเอามาหมดไปกับวัตถุมงคล ซึ่งในอานุภาพเป็นอจินไตย น้อยคนที่จะได้ประสบพบเห็นกับตนเอง
ผู้ที่ประสบพบเห็นนั้น เกิดเป็นประสบการณ์ขึ้นมาก็จริง แต่บางเวลาก็ต้องเจ็บตัว บางเวลาก็สูญเสียทรัพย์สินของตนเองไป ผู้ที่อยู่รอดปลอดภัยทุกวัน ไม่มีประสบการณ์อะไรตื่นเต้นให้คนอื่นฟังเลยต่างหาก ถึงจะเป็นบุคคลที่ได้รับอานุภาพของวัตถุมงคลอย่างแท้จริง
สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.