View Full Version : เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันอังคารที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า
วันอังคารที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
เชิญรับฟังได้ที่ https://youtu.be/cfRKonqqe_Q
cfRKonqqe_Q
ทุกคนอยู่กับลมหายใจเข้าออกของตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าสมาธิทรงตัวแล้ว ก็กำหนดภาพพระที่เรารักเราชอบขึ้นมา
หายใจเข้า..ให้ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ให้ภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศีรษะ
กำหนดเองตามที่เราถนัด อย่ารอให้ต้องนำแล้วค่อยมากำหนดใจตาม เพราะถ้าทำอย่างนั้น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีน้อยมาก เพราะว่าสมาธิไม่เท่ากัน ความเร็วช้าในการหายใจก็ไม่เท่ากัน
หายใจเข้า..ภาพพระเลื่อนลงไปในอก เลื่อนลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นมาบนอก เลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปในท้อง พร้อมกับคำภาวนา
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ พร้อมกับคำภาวนา
ตั้งใจนึกถึงภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ชัดเจน ให้แจ่มใสอยู่อย่างนั้น ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นที่เกิดขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ
เมื่อรู้สึกว่าภาพพระสว่างไสวชัดเจนดีแล้ว ก็กำหนดให้ภาพพระนิ่งอยู่บนศีรษะของเรา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
ค่อย ๆ ให้ความสว่างนั้นครอบคลุมตัวของเราลงมา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น ให้ความสว่างค่อย ๆ แผ่กว้างออกไป กว้างออกไป
ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าไม่มีกำลังอะไรเหนือไปกว่าพระพุทธเจ้า สิ่งอื่นล้วนแล้วแต่เหมือนกับความมืด
พุทโธ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้สว่างไสว
เมื่อนึกถึงพระท่านสิ่งที่มืดดำทั้งหลายจะสลายตัวไปเอง เพราะทนอยู่ไม่ได้ ดังนั้น ไม่ต้องไปกังวล ไม่ต้องไปสนใจกับสิ่งรอบด้าน
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
ให้ความสว่างค่อย ๆ แผ่กว้างออกไปทั้งศาลาแห่งนี้ กว้างออกไปทั้งวัด กว้างออกไปทั้งหมู่บ้าน
ให้ตั้งใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงไปเสวยสุขในสุคติภพโดยถ้วนหน้ากันเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างกว้างออกไป กว้างออกไป
หายใจออก..ภาพพระสว่างกว้างออกไป กว้างออกไป กว้างไปทั้งหมู่บ้าน ทั้งตำบล ทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด
ตัวเราเหมือนกับใหญ่ขึ้น สูงขึ้น ใหญ่ขึ้น สูงขึ้น เห็นกว้างไกลออกไปทุกที ทุกที กว้างออกไปทั้งประเทศ กว้างออกไปทั้งทวีป กว้างออกไปทั้งโลก
ตัวเราเหมือนโตเต็มแผ่นดินแผ่นฟ้า โลกเราเป็นวัตถุเล็ก ๆ ที่สามารถกำหนดใจครอบคลุมทั่วถึงได้ภายในไม่ถึงวินาที
ให้ตั้งใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกอยู่ในความทุกข์ยากเศร้าหมอง เดือดร้อนลำเค็ญ ทุกข์กายทุกข์ใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใด ๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงได้ล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด
หายใจเข้า..รัศมีสีขาวสว่างไสวขององค์พระ แผ่กว้างออกไป กว้างออกไป กว้างไปทั้งสุริยจักรวาล กว้างไปทั้งดาราจักรทางช้างเผือก กว้างออกไปทั้งเอกภพที่ประกอบไปด้วยดาราจักรและดวงดาวใหญ่น้อยนับไม่ถ้วน
ให้ตั้งใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสว กว้างไกลไม่มีประมาณ
หายใจออก..ภาพพระสว่างไสว กว้างไกลไม่มีประมาณ
รัศมีสีขาวสว่างไสวขององค์พระ แผ่ไปถึงทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า เบื้องล่างจรดถึงอเวจีมหานรก เบื้องบนถึงรูปพรหมชั้นที่ ๑๖ เบื้องขวางคือดวงดาวที่ประกอบไปด้วยมนุษย์และสัตว์มากจนประมาณไม่ได้
ให้ตั้งใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กันและกัน เสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสว แผ่กว้างออกไปไม่มีประมาณ
หายใจออก..กลับมาสว่างไสวบนศีรษะของเราตามเดิม
หายใจเข้า..สว่างกว้างออกไป กว้างออกไป
หายใจออก..กลับมาสว่างบนศีรษะของเราตามเดิม
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หลังจากนั้นให้น้อมจิตน้อมใจกราบภาพพระที่สว่างไสวอยู่บนศีรษะของเรา ตั้งใจว่าลูกจะยกเอาพระสัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นมาพินิจพิจารณา ขอให้สามารถรู้เห็นได้ชัดเจนแจ่มใส และยอมรับตามความเป็นจริงในหลักธรรมทั้งหลายนั้นด้วยเถิด
หลังจากนั้นพวกเราก็กำหนดใจ นึกย้อนกลับไป ก่อนที่จะเข้ามาศาลานี้ ช่วงที่ระหว่างเดินมาที่ศาลานี้ ย้อนไปถึงตอนที่เข้าห้องน้ำ ย้อนไปถึงตอนที่อยู่บนที่นอน ย้อนไปตอนหลับ ย้อนไปตอนก่อนจะหลับ ย้อนไปตอนกลับเข้าที่พักเมื่อวาน
ค่อยย้อนหลังไปเรื่อย ๆ ๒ วันที่แล้ว ๓ วันที่แล้ว ๔ วันที่แล้ว ๕ วันที่แล้ว
อาทิตย์ที่แล้ว ๒ อาทิตย์ที่แล้ว ๓ อาทิตย์ที่แล้ว
๑ เดือนที่แล้ว
ปีที่แล้ว ๒ ปี ๓ ปี ๔ ปี ๕ ปี ย้อนไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งย้อนกลับไปถึงตอนที่อยู่ในท้องแม่ ค่อย ๆ ย้อนไปตอนที่เป็นจุดปฏิสนธิ์เล็ก ๆ อยู่ในท้องแม่
เมื่อเชื้อของพ่อผสมกับไข่ของแม่ก็มีการแตกตัว จาก ๒ เป็น ๔ จาก ๔ เป็น ๘ จาก ๘ เป็น ๑๖ จาก ๑๖ เป็น ๓๒ เป็น ๖๔ เป็น ๑๒๘ เป็น ๒๕๖ ไล่ไปเรื่อย
ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงขึ้นมา จนมีลักษณะเหมือนเป็นก้อนเนื้อแดง ๆ แล้วก็ค่อย ๆ มีเงาสีดำขึ้นมาเป็นดวงตา ตา ๒ ข้าง มีหน้าผาก มีจมูก มีปาก มีคาง มีศีรษะครบถ้วน ยืดออกไปเป็นกระดูกสันหลัง มี ๒ แขน มี ๒ ขา ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมา มีอวัยวะภายใน อวัยวะภายนอก จนกระทั่งครบถ้วน ๓๒
พระพุทธเจ้าสอนว่า "สัพเพสังขารา อนิจจา" สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
หลังจากนั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็ปรากฏขึ้น คือคลอด คือเคลื่อนออกจากท้องแม่มา
ตอนเล็กเด็ก ๆ ก็นอนหงาย ค่อย ๆ เจริญเติบโตมาด้วยน้ำนมของแม่
เปลี่ยนเป็นพลิกคว่ำ หัดคืบ หัดคลาน หัดยืน หัดเดิน หัดวิ่ง หัดพูดจา จากไม่มีฟัน ก็งอกขึ้นมาเป็น ๒ ซี่ ๔ ซี่ ๘ ซี่
จากเด็กเล็ก ๆ ค่อย ๆ เป็นเด็กโต เป็นเด็กหนุ่มเด็กสาว เป็นหนุ่มเป็นสาว โตเต็มที่
ย่างก้าวสู่วัยกลางคน วัยชรา แก่หง่อม ในที่สุดก็ตาย
เราจะเห็นว่าสภาพร่างกายนี้เป็นเช่นนี้ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
รอบข้างของเราไม่ว่าจะคน สัตว์ วัตถุธาตุ สิ่งของ ก็มีความเปลี่ยนแปลงแปรปรวนอยู่เสมอ
ขึ้นชื่อว่าเกิดมาพบกับความเปลี่ยนแปลงที่หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้เช่นนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีก สิ่งเดียวที่เราต้องการคือพระนิพพาน
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
น้อมจิตน้อมใจกราบลงที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งใจว่าถ้าวันนี้หมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ จนถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานนี้แห่งเดียวเท่านั้น
พยายามประคับประคองรักษาภาพพระของเราเอาไว้
ถ้ายังมีลมหายใจ กำหนดลมหายใจไปด้วย ถ้ายังมีคำภาวนา กำหนดคำภาวนาไปด้วย
ถ้าลมหายใจเบาลง ให้รู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าคำภาวนาหายไป กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป ถ้าลมหายใจหายไป กำหนดรู้ว่าลมหายใจหายไป
อย่าพยายามทำให้เป็นอย่างนั้น และอย่าดิ้นรนให้พ้นสภาวะอย่างนั้น พยายามรักษากำลังใจเอาไว้ในลักษณะนี้ จนกว่าจะได้ยินสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
(สัญญาณบอกว่าหมดเวลา)
พุทโธ พุทโธ พุทโธ..
ค่อย ๆ คลายสมาธิช้า ๆ นะจ๊ะ
กำหนดภาพพระให้ชัดเจนแจ่มใส ถ้าจะเปลี่ยนท่าเปลี่ยนทางอย่างไรก็นึกถึงภาพพระให้ชัดไว้ก่อน
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า
วันอังคารที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.