View Full Version : เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔
E-7J5dNaKTA
วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีที่  ๖  พฤษภาคม พุทธศักราช  ๒๕๖๔  เมื่อวันนี้ผมไปธนาคารเพื่อเพิ่มทุนการศึกษาที่ได้ตั้งเอาไว้  ตามกฎเกณฑ์กติกาของทางคณะสงฆ์ที่ว่า  พระสังฆาธิการต้องมีการตั้งทุน เพิ่มทุน  และแจกทุนการศึกษา  เนื่องจากทางพระผู้ใหญ่ฝ่ายปกครองเห็นว่า ถ้าพระภิกษุสามเณรของเราทำตัวเป็นผู้รับโดยฝ่ายเดียว  จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีไม่งามและเป็นจุดอ่อนให้ผู้อื่นตำหนิติเตียนได้   จึงได้มีคำสั่งนี้ขึ้นมา   
คราวนี้ที่ผมไปเพิ่มนั้น มีทั้งทุนระดับประถมศึกษา  มัธยมศึกษา  อุดมศึกษา  และทุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร   ต้องบอกว่าวัดท่าขนุนน่าจะเป็นไม่กี่วัดของประเทศไทย ที่มีทุนการศึกษาครบทุกระดับ  
คราวนี้อีกส่วนหนึ่งก็คือ อยากจะไปทำเช็คมอบให้กับหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด เพื่อช่วยในเรื่องของการนำไฟฟ้าเข้าวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี  แต่ก็ทำไม่ได้  เรื่องของเรื่อง...สืบเนื่องมาจากตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ ๒  พฤษภาคม  พุทธศักราช  ๒๕๖๔   ที่ผมไปร่วมทอดผ้าป่าเพื่อสร้างอาคารเรียนพระเทพศาสนาภิบาลของวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาทวารวดี   ตอนเลิกงานจะกลับ ท่านพระครูศรีธรรมวราภรณ์  เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี  นำเอาใบแจ้งหนี้จำนวน ๗ ล้านกว่าบาทมาส่งให้   บอกว่า  "หลวงพ่อจังหวัดแล้วแต่หลวงพ่อเล็กจะพิจารณาว่า จะรับเป็นเจ้าภาพในส่วนใด"
"ผมรับมาแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร  เพราะว่าโดยตำแหน่งที่พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ  เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีแต่งตั้งให้ก็คือ ประธานคณะกรรมการหาทุนจัดสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี  
 แต่คราวนี้พวกท่านต้องเข้าใจว่า ในส่วนของวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดีนั้น  ผมเรียนที่นั่น  เป็นครูสอนที่นั่น  พรรคพวกเพื่อนฝูงต้องบอกว่ามีทั้งจังหวัด  ด้วยความที่บางคนสนิทสนมก็คว้าใบแจ้งหนี้ไปดู  แล้วก็บอกว่า  "ฉิบหายแล้วพี่...!"  ถามว่า "อะไรวะ ? เงินแค่นี้กูพอหาได้" 
 "ผมว่าพี่ยังโง่เหมือนเดิม" 
 "บอกให้ชัดหน่อยสิว่าเรื่องอะไร ?"
 เขาบอกว่า  "วงในเขาคุยกันว่าพระผู้ใหญ่จะแต่งตั้งพี่เป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอไทรโยค  ซึ่งก็คือว่าที่เจ้าคณะอำเภอนั่นแหละ  แต่ถ้าพี่จ่ายเงินตรงนี้ไปก็ฉิบหายเลย  เพราะเขาจะว่าพี่จ่ายเงินซื้อตำแหน่ง..!"  ผมได้ยินก็สะดุ้งเฮือก
  "ต้องบอกว่ายังดีนะที่หลวงพ่อแย้มยังไม่ได้เป็นเจ้าคณะภาค  ไม่อย่างนั้นวันนี้พี่จ่ายเงินทอดผ้าป่าสร้างอาคารเรียนพระเทพศาสนาภิบาล  ก็กลายเป็นติดสินบนเจ้าคณะภาคไปด้วย..!"
ผมได้ยินแล้วกลืนน้ำลายไม่ลง   จำเป็นต้องเชื่อเขา  เพราะว่าเพื่อนผมคนนี้ประสบการณ์ในเรื่องของวงการคณะสงฆ์โดยเฉพาะฝ่ายปกครอง เขาช่ำชองและเชี่ยวชาญ คลุกคลีมาเกิน  ๒๐  ปี   ผมมาลองนึกตรองดู
ใช่...จังหวะไม่ดีจริง ๆ เพราะหลวงพ่อพระครูนิโครธโยคาภิรักษ์อายุครบ  ๘๐  ปี   แล้วถ้าหากว่าผู้บังคับบัญชาเห็นว่าผมสมควรที่จะไปรักษาการเจ้าคณะอำเภอ ตลอดจนกระทั่งภายหลังแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอ  โดยนิสัยของผมที่ได้รับการอบรมมาแบบทหารก็คือ "คำสั่งผู้บังคับบัญชาคือเสียงสวรรค์ ที่ทหารต้องปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อแม้"   แต่พอใบแจ้งหนี้นี้เข้ามา   กลายเป็นมัดมือมัดเท้าจนผมทำอะไรไม่ได้เลย"
ตั้งแต่ปี  ๒๕๓๒  ที่ผมมาทองผาภูมิ  ผมผ่านหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดมา ๔  รูปแล้ว   ตั้งแต่หลวงพ่อไพบูลย์  หลวงพ่อณรงค์  หลวงพ่อพยุง  แล้วก็หลวงพ่อปัญญา  ผมยังไม่ได้ยินข่าวคราวเลยว่า เจ้าคณะจังหวัดทั้ง  ๔  รูป ไปเรียกรับผลประโยชน์จากใคร  ท่านมีแต่ให้  ช่วยเหลือทุกวิถีทาง ให้ทั้งกำลังใจ ช่วยทั้งกำลังเงิน  ช่วยหาตำแหน่งหน้าที่อันเหมาะสมให้  
ผมก็เลยต้องคิดว่า  ระยะนี้ผมก็คงทำอะไรเกี่ยวกับวิทยาลัยสงฆ์ไม่ได้เลย   จนกว่าการแต่งตั้งรักษาการเจ้าคณะอำเภอไทรโยค  ตลอดจนการแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอไทรโยคผ่านพ้นไป  และก็ต้องผ่านพ้นไปประมาณ  ๖ เดือน  ๑   ปีเลย  เพื่อให้คนลืมเรื่องนี้ไปก่อน  จึงจะหาเงินไปช่วยเหลืองานหลวงพ่อจังหวัดต่อไปได้
   
ผมไม่กลัวความเสียหายครับ  เพราะผมมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของตนเอง  แต่ "ปากคน" โบราณเขาบอกว่า "กินพริกกินเกลือ" ครับ  พูดให้คนเสียหายได้เจ็บแสบที่สุด  แล้วที่เสียหายไม่ใช่ผม   ที่เสียหายก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพปริยัติโสภณ  ที่พวกคุณเรียกง่าย ๆ  ว่า  หลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา  หรือหลวงพ่อปัญญา  ตามแต่ความสนิทสนมที่มีมากน้อย  
บางทีเรื่องบางเรื่องเราก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิด เมื่อเกิดแล้วก็กลายเป็นอุปสรรคขึ้นมา  เรื่องแบบนี้เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อปี  ๒๕๕๔  ตอนนั้นหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอรูปปัจจุบันท่านเป็นรองเจ้าคณะอำเภออยู่ แล้วผมก็หนีตำแหน่งพระครูสัญญาบัตรมา  ๗-๘ ปี  จนท่านอึดอัดใจมาก ท่านก็เลยขอให้ผมสแกนลายเซ็นส่งไป  แล้วท่านช่วยทำประวัติขอให้  เพราะท่านบอกว่า อาวุโสของผมค้ำท่านอื่นหมด เมื่อส่งรายชื่อคนอื่นไป ผู้บังคับบัญชาจะถามว่า แล้วพระอาจารย์เล็กอยู่ที่ไหน ?  แล้วผมก็เป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องอย่างนี้  ก็เลยไม่ทำ  ในเมื่อไม่ทำประวัติ  ไม่ขอเอง  ท่านก็เลยช่วยดำเนินการให้
ระยะนั้นผมต้องตัดขาดจากวัดสามพระยา  ตัดขาดจากวัดใต้ไปพักหนึ่ง  จนกระทั่งรับสัญญาบัตรพัดยศเสร็จเรียบร้อยถึงได้ไปใหม่  เพราะว่าไม่เช่นนั้นถ้าผมไปเพิ่มกองทุนหลวงปู่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา  แบบที่ทำอยู่ปกติทุกปี  คนก็จะไปลือให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมดิลกท่านเสียหาย  ว่าผมไปซื้อตำแหน่ง
ถ้าผมไปเพิ่มกองทุนพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญโญ)   เขาก็จะไปลือให้หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีเสียหายว่าผมไปซื้อตำแหน่ง   ซึ่งเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้คนเชื่อง่าย   เรื่องดี ๆ เขาไม่ค่อยเชื่อกันหรอก  ก็เลยกลายเป็นว่าวันนี้แทนที่ผมจะทำเช็ค  เพื่อที่จะเอาไปถวายหลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา ให้ท่านดำเนินการเรื่องของไฟฟ้าที่จะเอาเข้าวิทยาลัยสงฆ์ ก็ทำไม่ได้  เพราะปากคนจะว่าผมไปซื้อตำแหน่ง  และผมต้องรอไป  แต่ยังดีที่ว่า ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพนมทวนเขาเสนอมา แล้วยืนราคาให้หกเดือน ยังพอที่จะมีเวลาอยู่ 
เรื่องพวกนี้ต่อไปพวกท่านทั้งหลายค่อยเติบโตไปในภายภาคหน้า  อาจจะเริ่มจากตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส   รองเจ้าอาวาส  เจ้าอาวาส   เจ้าคณะตำบล  เจ้าคณะอำเภอ  อะไรก็ตามแต่  ให้ระมัดระวังเรื่องพวกนี้ไว้  ผมเองได้รับการอบรมมาแบบทหาร ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน   
ตั้งแต่สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระคุณพรหมดิลกยังเป็นพระเทพสุธี เจ้าคณะภาค ๑๔  อยู่   ท่านถามอะไรเกี่ยวกับอำเภอทองผาภูมิ  เกี่ยวกับจังหวัดกาญจนบุรี  ผมจะตอบแต่ในด้านดีอย่างเดียว  จนกระทั่งตอนหลังท่านรู้ว่าไม่สามารถจะขุดอะไรที่ไม่ดีจากปากผมได้  ท่านก็เลยเลิกถาม    ในเมื่อเรื่องที่จะพูดให้ผู้บังคับบัญชาเสียหายผมยังไม่เคยทำ  เพราะฉะนั้น..ข้อหาติดสินบนเจ้านายนี่ผมรับไม่ได้..!
ตอนที่ผมรับตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ  พระผู้ใหญ่รูปหนึ่งถามว่า  "วิ่งไปกี่ตังค์วะ ?"  ผมตอบว่า "ผมไม่รู้เรื่องเลยครับ  หลวงพ่อเจ้าคณะภาคท่านตั้งให้  แล้วท่านพูดแค่ว่า "ตั้งมาให้ทำงาน"  ท่านจะแต่งตั้งวันที่ ๓๐  คืนวันที่ ๒๘ หลวงพ่อเจ้าคุณปัญญาท่านถึงได้แจ้งผม  แจ้งแค่ว่าให้เตรียมกรอบตราตั้งไปด้วย เผื่อท่านไม่มีมาให้  ผมต้องถามว่าตราตั้งอะไร ? ท่านถึงได้หลุดปากออกมา"  
ผมก็ได้ตอบตามความเป็นจริงว่า ผมไม่ได้เสียเงินแต่บาทเดียว  พระผู้ใหญ่รูปนั้นท่านเป็นเจ้าคุณ  คลุกคลีตีโมงกับเรื่องแบบนี้มานาน  ท่านบอกว่า  "ตำแหน่งแบบนี้เขาซื้อกันเป็นล้าน..!"  ผมดีใจมากครับว่า ตั้งแต่ผมอยู่กาญจนบุรีมาจนป่านนี้  ผ่านเจ้าคณะจังหวัดมาแล้ว ๔  รูป  ยังไม่เคยได้ยินเรื่องการซื้อตำแหน่งของที่นี่  โดยเฉพาะตัวผมเอง  ทุกครั้งก็จะมีคนไปลือกันว่าผมซื้อตำแหน่ง  
แม้กระทั่งท่านอาจารยสมพงษ์ได้เป็นเจ้าคณะตำบลตอนพรรษาที่  ๗  ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ครับ  แต่เนื่องจากว่าหลวงพ่อเจ้าคุณไพบูลย์ท่านจะตั้งผมเป็น  ผมบอกว่า "ผมไม่ชอบงานการปกครอง  เพราะไปแล้วก็โดนคนเตะสกัดบ้าง  แทงข้างหลังบ้าง   เรื่องพวกนี้ผมทำไม่เป็น..ผมเบื่อ..!"   ท่านบอกว่า "ถ้าแกไม่เอาแล้วเห็นว่าใครสมควร ?"  ผมก็บอกว่า "ท่านอาจารย์สมพงษ์ วัดท่าขนุนครับ  เห็นท่านทำงานเข้มแข็งดี"  ผมก็บอกไปแค่นั้น ไม่นึกว่าท่านจะตั้งมาจริง ๆ  
เชื่อไหมครับว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดคร้อพนันตามมาต่อว่าผมถึงเกาะพระฤๅษี   บอกว่าอาจารย์สมพงษ์เพิ่งจะ  ๗  พรรษา  ท่านเองตำแหน่งหน้าที่อะไรใหญ่โตกว่าทุกอย่าง  ทำไมท่านถึงไม่ได้ ?
  
สรุปก็คือคนที่ต้องการก็ต้องการจริง ๆ  คนที่ไม่เอาอะไรเลยก็ไม่เอาจริง ๆ  จนกระทั่งมีคนถามผมว่าสร้างภาพหรือเปล่า ? อะไร ๆ ก็ไม่เอา  ผมบอกว่าผมไม่ได้สร้างภาพ  ถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นสมควรให้มา   ผมก็จะรับเอาไว้  เพราะได้รับการสั่งสอนมาว่า ผู้ใหญ่ให้อะไรมาอย่าปฏิเสธ  แต่ผมจะไม่ไปดิ้นรนเพื่อให้ได้มา
ดังนั้น..เรื่องการที่จะดิ้นรนถึงขนาดไปติดสินบน ไปซื้อตำแหน่ง ชีวิตนี้ผมไม่มีทางที่จะไปทำ  แต่ในเมื่อข่าวลือทำให้หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดเสียหาย  ผมก็ต้องระงับเรื่องเอาไว้ก่อน  ระยะนี้ท่านก็คงจะลำบาก  ต้องควักกระเป๋าตัวเองจ่ายไปก่อน  จนกว่าเรื่องของอำเภอไทรโยคจะผ่านพ้นไปพอสมควรแก่เหตุ  ผมถึงจะกลับไปช่วยท่านได้ใหม่  
คำพูดคนน่ากลัวครับ  เรียนถวายท่านทั้งหลายและบอกกล่าวให้แก่ญาติโยมทุกท่านได้ทราบ  เราไม่เอา ไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่เอา  เราปฏิเสธ   คนอื่นก็คิดว่าพูดเอาเชิง  ผมอยากจะให้คณะสงฆ์ของเรา พูดอย่างไร  ทำอย่างนั้น  ต่อหน้าอย่างไร  ลับหลังอย่างนั้น  เหมือนกับพุทธภาษิตที่ว่า  ยถาวาที  ตถาการี  พูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น  ยถาการี  ตถาวาที  ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น  ผมไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตนี้จะได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้หรือเปล่า  แต่ผมก็หวังเอาไว้ และขอแสดงความภูมิใจกับคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีว่า ตลอดระยะเวลาที่สัมผัสกันมา  ผ่านเจ้าคณะจังหวัดมา ๔  รูป   ๓๐  กว่าปี  ยังไม่มีเรื่องเสียหายแบบนี้เกิดขึ้นเลย   ก็ขอแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เถรี)
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.