ธีรธรรม
27-03-2021, 09:51
๑)ในบทสวดสัมพุทเธ ที่กล่าวถึงจำนวนพระพุทธเจ้าในอดีต ที่ตรัสรู้ไปแล้ว ทำไมพระพุทธเจ้าแบบวิริยะธิกะถึงมีจำนวนมากที่สุด ทั้ง ๆ ที่ใช้เวลาสร้างบารมียาวนานที่สุด แต่พระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะถึงมีจำนวนน้อยที่สุด ทั้ง ๆ ที่ใช้เวลาสร้างบารมีสั้นที่สุดครับ
๒)ในช่วง ๔ อสงไขยล่าสุดที่ผ่านมา ทำไมจึงมีพระพุทธเจ้าตรัสรู้เพียง ๒๘ พระองค์ ถ้าหากว่าย้อนกลับไปดูพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์แรกของภัทรกัปนี้ ท่านสร้างบารมีในช่วงปรมัตถบารมี ใช้เวลา ๘ อสงไขยและในช่วงนี้ท่านได้พบเจอกับพระพุทธเจ้าในอดีตมากถึง ๓๗,๐๐๐ กว่าพระองค์ ถ้าหากแบ่งช่วง ๘ อสงไขยล่าสุดเป็น ๒ ช่วง ช่วงละ ๔ อสงไขย ก็จะพบว่าช่วง ๔ อสงไขยแรกมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้มากถึง ๓๗,๐๐๐ กว่าพระองค์ และในช่วง ๔ อสงไขยหลังมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เพียง ๒๘ พระองค์ ทำไมจึงต่างกันมากขนาดนี้ครับ
๓)ในยุคปัจจุบันนี้เป็นภัทรกัป และในกัปถัดไปก็จะเป็นภัทรกัป ทำให้ ๒ กัปติดกันมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้มากถึง ๑๐ พระองค์ แล้วในอนาคตจากนี้ไปจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ติด ๆ กันคราวละมาก ๆ แบบนี้อีกไหมครับ
๔)การสร้างบารมีแบบปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ และวิริยะธิกะ หลวงพ่อเคยกล่าวว่า ถ้าชอบตะเกียกตะกายด้วยตัวเอง ก็ต้องไปทางวิริยะธิกะ แล้วอีก ๒ แบบที่เหลือ มีจริตนิสัยเป็นอย่างไรครับ
๕)การสร้างบารมีของพระอัครสาวกกับพระปัจเจกพุทธเจ้าซึ่งใช้ระยะเวลา ๒ อสงไขยเท่ากัน แต่ท่านบำเพ็ญบารมี ยาก ง่าย ต่างกันอย่างไร ผลลัพธ์จึงต่างกันครับ
๖)พระปัจเจกพุทธเจ้าจำเป็นจะต้องมีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านฤทธิ์และปัญญาทั้งคู่หรือไม่ครับ
๗)พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์จำเป็นต้องเป็นพระปฏิสัมภิทาญาณทุกพระองค์หรือไม่ครับ
๘)หลวงพ่อเคยกล่าวว่าพระพุทธเจ้าท่านเป็นพระวิชชา ๓ ผมอยากทราบว่า เหตุใดท่านจึงไม่ใช่พระปฏิสัมภิทาญาณ ที่ครอบคลุมทั้ง วิชชา ๓ และอภิญญา ๕ ไปเลยครับ แล้วพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ จำเป็นหรือไม่ว่า ท่านต้องเป็นพระวิชชา ๓ เช่นเดียวกัน
๒)ในช่วง ๔ อสงไขยล่าสุดที่ผ่านมา ทำไมจึงมีพระพุทธเจ้าตรัสรู้เพียง ๒๘ พระองค์ ถ้าหากว่าย้อนกลับไปดูพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์แรกของภัทรกัปนี้ ท่านสร้างบารมีในช่วงปรมัตถบารมี ใช้เวลา ๘ อสงไขยและในช่วงนี้ท่านได้พบเจอกับพระพุทธเจ้าในอดีตมากถึง ๓๗,๐๐๐ กว่าพระองค์ ถ้าหากแบ่งช่วง ๘ อสงไขยล่าสุดเป็น ๒ ช่วง ช่วงละ ๔ อสงไขย ก็จะพบว่าช่วง ๔ อสงไขยแรกมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้มากถึง ๓๗,๐๐๐ กว่าพระองค์ และในช่วง ๔ อสงไขยหลังมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เพียง ๒๘ พระองค์ ทำไมจึงต่างกันมากขนาดนี้ครับ
๓)ในยุคปัจจุบันนี้เป็นภัทรกัป และในกัปถัดไปก็จะเป็นภัทรกัป ทำให้ ๒ กัปติดกันมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้มากถึง ๑๐ พระองค์ แล้วในอนาคตจากนี้ไปจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ติด ๆ กันคราวละมาก ๆ แบบนี้อีกไหมครับ
๔)การสร้างบารมีแบบปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ และวิริยะธิกะ หลวงพ่อเคยกล่าวว่า ถ้าชอบตะเกียกตะกายด้วยตัวเอง ก็ต้องไปทางวิริยะธิกะ แล้วอีก ๒ แบบที่เหลือ มีจริตนิสัยเป็นอย่างไรครับ
๕)การสร้างบารมีของพระอัครสาวกกับพระปัจเจกพุทธเจ้าซึ่งใช้ระยะเวลา ๒ อสงไขยเท่ากัน แต่ท่านบำเพ็ญบารมี ยาก ง่าย ต่างกันอย่างไร ผลลัพธ์จึงต่างกันครับ
๖)พระปัจเจกพุทธเจ้าจำเป็นจะต้องมีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านฤทธิ์และปัญญาทั้งคู่หรือไม่ครับ
๗)พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์จำเป็นต้องเป็นพระปฏิสัมภิทาญาณทุกพระองค์หรือไม่ครับ
๘)หลวงพ่อเคยกล่าวว่าพระพุทธเจ้าท่านเป็นพระวิชชา ๓ ผมอยากทราบว่า เหตุใดท่านจึงไม่ใช่พระปฏิสัมภิทาญาณ ที่ครอบคลุมทั้ง วิชชา ๓ และอภิญญา ๕ ไปเลยครับ แล้วพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ จำเป็นหรือไม่ว่า ท่านต้องเป็นพระวิชชา ๓ เช่นเดียวกัน