เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๔

[เถรี]

ถาม : การที่เราโดนกลั่นแกล้ง โดยที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมบ่อย ๆ เข้า ทำให้เห็นและเข้าใจได้ว่า การอยู่ในโลกนี้เป็นทุกข์อย่างไร ความทุกข์เป็นแบบนี้เอง

พอได้อ่านคำสอนของหลวงพ่อวัดท่าซุง ที่ท่านบอกว่าคนที่โดนขโมยของบ่อย ๆ แล้วเขียนคำถามมาถามท่านนั้น เขาเข้าถึงอริยสัจ คือตัว "ทุกข์" ซึ่งผมก็คิดว่า ทุกข์ที่ผมเห็นนั้นก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน

ตอนนี้ผมคิดว่าผมน่าจะเข้าใจมากขึ้นแล้วว่า ความทุกข์ของการอยู่ในโลกนี้เป็นอย่างไร ไม่ทราบว่า จากนี้ผมควรจะคิดอย่างไรต่อไปครับ ?

ตอบ : คิดว่าเราควรที่จะเกิดอีกนาน ๆ เพื่อที่จะได้รู้จักทุกข์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น..!

[เถรี]

ถาม : ดอกไม้บูชาพระที่บ้าน เมื่อเปลี่ยนใหม่แล้ว อันเก่านั้นเราจะนำไปไว้ที่ใต้โคนไม้ที่บ้าน แล้วปล่อยให้ย่อยสลายไปเอง แทนการเผาไฟหรือลอยน้ำ ได้ไหมครับ ?

ตอบ : ได้

[เถรี]

ถาม : ใช้น้ำมนต์ที่ทำจากเหรียญพุทธบารมีสุริยันทรงกลด มาชงชากาแฟดื่มทุกวัน ก่อนดื่มจะอาราธนาพระก่อนทุกครั้ง การนำน้ำมนต์มาทำแบบนี้จะถือเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยหรือไม่ครับ ?

ตอบ : ไม่เป็น..นี่แค่ดื่ม ถ้าเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ที่อาบแบบราดไปทั้งตัวก็คงจะบาปสาหัสไปเลย..!

[เถรี]

ถาม : แหวนพลอยสีต่าง ๆ ที่ผ่านการพุทธาภิเษกเป็นวัตถุมงคลแล้ว เช่น แหวนพลอยสีแดงของสมเด็จองค์ปฐม แหวนพลอยเขียวพระพุทธกัสสป แหวนจักรพรรดิแหวนยันต์ ตามวัดต่าง ๆ เวลาใส่นิ้วแล้วลูกจะผิดศีล ๘ หรือไม่เจ้าคะ ? หรือถ้าอยากจะใส่วัตถุมงคลที่เป็นแหวนต้องวางกำลังใจอย่างไรถึงไม่ผิดศีล ๘ เจ้าคะ ?

ตอบ : ถ้าตั้งใจใส่เป็นเครื่องประดับก็ศีลขาด

[เถรี]

ถาม : ถ้าลูกบอกแม่เรื่องบุญชำระหนี้สงฆ์ แม่ตกลงใจทำบุญ โดยแม่จะทำบุญ ๑๐๐ บาทแล้วบอกว่าให้ลูกมาเป็นเจ้าของเงินนี้เพื่อทำร่วมกัน อยากทราบว่าแม่และลูกจะได้อานิสงส์ชำระหนี้สงฆ์คนละ ๑๐๐ บาท หรือจะได้คนละ ๕๐ บาทครับ
ตอบ : ได้อานิสงส์ในการชำระหนี้สงฆ์เท่ากัน แต่แม่ได้เมตตาบารมีเพิ่มขึ้น

ถาม : ถ้ามีคนออกเงินชำระหนี้สงฆ์ให้อีกคนหนึ่งโดยที่คนนั้นไม่รู้มาก่อน ต่อมาได้บอกให้โมทนาเรียบร้อย อยากทราบว่า คนที่ออกเงินแต่ต้นจะได้อานิสงส์ชำระหนี้สงฆ์ด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเฉพาะส่วนนี้เท่านั้น ผู้ออกเงินต้องมีใจยินดีด้วยถึงจะได้อานิสงส์ในการชำระหนี้สงฆ์ แต่การที่ถึงขนาดช่วยออกเงินชำระหนี้สงฆ์ให้กับคนอื่นก่อน ตัวเองก็น่าจะทำและโกยอานิสงส์ไปก่อนแล้ว

ถาม : สมมติคนที่มีหนี้สงฆ์ติดตัว ๕๐ บาท นำเงินใส่ซองทำบุญ ๑๐๐ บาท โดยเขียนที่ซองว่า ถวายชำระหนี้สงฆ์ สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน เงิน ๑๐๐ บาทจำนวนดังกล่าวจะหักหนี้สงฆ์ ๕๐ บาทอัตโนมัติหรือต้องระบุชัดเจนว่า ชำระหนี้สงฆ์จำนวน ๕๐ บาทต่างหากด้วยครับ ?
ตอบ : ถ้าจำนวนเกินกว่าหนี้สงฆ์ที่มีอยู่ และตั้งใจชำระหนี้สงฆ์ด้วย ย่อมเป็นการชำระหนี้โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว

[เถรี]

ถาม : อยากทราบวิธีฝันบ่อย ๆ ครับ ?

ตอบ : กินให้มากเข้าไว้ แล้วพยายามคิดฟุ้งซ่านให้ได้ทั้งวัน..!

[เถรี]

ถาม : ผมปรารถนาพระโพธิญาณ แต่ผมไม่ได้เร่งความเพียรเพื่อจะทรงฌานและอภิญญา เพราะพอใจกับความดีที่มีอยู่ตอนนี้ และรู้สึกว่าเวลายังมีอีกเยอะ แปลว่าผมไม่ได้มาสายพุทธภูมิใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : แปลว่าบารมีอ่อนมากจนถึงอ่อนที่สุด..!

ถาม : เท่าที่ผมสังเกต พระโพธิสัตว์ท่านจะเกิดมา ท่านต้องมีภารกิจอะไรสักอย่าง ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุด คือหลวงปู่ปาน กับหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเกิดมาเพื่อมาบำเพ็ญด้านเนกขัมมะ ผมสงสัยว่าพระโพธิสัตว์จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเกิดมาเพื่อภารกิจอะไร หรือว่าตัวเราเองที่เป็นคนกำหนดทั้งหมดครับ ?
ตอบ : ตอนแรกก็ทำเปะปะไปเรื่อย เมื่อบารมีเข้มข้นถึงระดับก็จะทราบชัดว่าตนเองมาเพื่อภารกิจอะไร

ถาม : หลวงพ่อเล่าเรื่องที่หลวงพ่อโดนมารที่เป็นเทวดาแกล้ง ทำให้ผมนึกถึงสมัยพุทธกาล แม้แต่พระอรหันต์รุ่นใหญ่ ๆ ยังโดนมารแกล้ง ผมอยากทราบจริง ๆ ครับว่า ที่มารมาแกล้งได้ มารไม่กลัวบาปหรือครับ เพราะผมเข้าใจว่ามารส่วนใหญ่ไม่น่าจะโง่ มารน่าจะรู้ผลลัพธ์ที่ตามมา
ตอบ : เพราะว่ามารฉลาดกว่าคุณ จึงไม่เสียเวลามาคิดตรงนี้..!

ถาม : ผมได้อธิบายว่ากรรมคืออะไรให้กับเพื่อนฝรั่งฟัง ผมอธิบายว่ากรรมก็คือพลังงาน ถ้าทำดีพลังงานที่ดีก็กลับมาหาเรา ในทางตรงกันข้ามถ้าทำเลว พลังงานเลวก็จะกลับมาหาเราเหมือนกัน คำถามคือผมเข้าใจถูกไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ถูก เพราะว่าพลังงานเป็นผลที่เกิดมาจากการกระทำ

ถาม : ถ้าเราทำไม่ดีกับอีกคน แต่อีกคนได้ให้อภัยเรา กรรมไม่ดีจะกลับมาหาเราอีกหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นคนละคนกัน กรรมก็ยังคงสนองคุณอยู่ดี..!

[เถรี]

ถาม : เวลาบุคคลที่เข้าฌานได้ เวลาจะคิดอะไรมันเป็นเหตุเป็นผลไปหมด เชื่อมโยงได้ทุกอย่าง เหมือนกับว่าสมองตัวเองได้ถูก upgrade และผมอ่านไปเจอมันคือ ๑ ในอุปกิเลส ๑๐ ที่เรียกว่าญาณ คำถามคืออย่างตัวผมปรารถนาพุทธภูมิ และเคยเจอแบบนี้มาสมัยทรงฌานได้ แต่สงสัยว่าความสามารถระดับคิดอะไรเป็นเหตุเป็นผลไปหมด จะมีโทษหรือเปล่าครับ ? เพราะสามารถนำไปพลิกแพลงใช้ทำอะไรได้หลายอย่างจริง ๆ

ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าคิดในเรื่องอะไร ถ้าคิดวางแผนปล้นธนาคาร ฯลฯ ก็เป็นโทษ

ถาม : พระโพธิสัตว์ตอนบารมีสูง ๆ ที่ท่านชอบทรงฌาน นอกเหนือจากการเป็นการกดกิเลสเอาไว้ ไม่ให้นิวรณ์เกิด ฌานนั้นทำให้ญาณเกิด ทำกำลังใจหนักแน่น เป็นคนมีความกล้า และไม่กลัวอะไร เพราะเหตุนั้นเวลาพระโพธิสัตว์ต้องตัดสินใจอะไรยาก ๆ เช่นตัดหัว ตัดแขน เลยทำได้แบบไม่หนักใจใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

ถาม : ตัวผมมีแค่ฌานโลกีย์ และฌานได้เสื่อมไปแล้ว แต่เวลาทำสมาธิตัวนิวรณ์อื่น ๆ ไม่ค่อยเจอ ส่วนใหญ่จะเจอตัวฟุ้งซ่านและรำคาญใจตลอด มันจะมาในรูปแบบ อยากยัดความคิดที่ไม่ดีเข้ามาในหัว หรือ พยายามเอาความรู้สึกเลว ๆ เข้ามา เช่น ปรามาสพระ คิดจะทำร้ายคนอื่น หรือนึกถึงเสียงเพลงที่เคยฟัง เลยทำให้บางครั้งผมเสียศูนย์ไปเลย คือผมไม่กล้าที่จะใช้สมองคิด เพราะระแวงว่าความคิดไม่ดี และความรู้สึกไม่ดีจะเข้ามา บางครั้งผมก็โยนความผิดให้เทวดามาร เพราะว่ามารอาจจะมาดลใจแน่ ๆ เลยทำให้เบาใจได้ลง เลยอยากทราบว่าที่เล่ามาหลวงพ่อมีวิธีแก้ไหมครับ เพราะเห็นหลายคนเป็นเหมือนกันและเลิกทำสมาธิไปเลยก็มี เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนบาปหนา
ตอบ : แค่เลิกคิดเท่านั้น

ถาม : คนที่มีกำลังใจสูง และไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า และมีความสามารถที่จะสามารถเข้าฌานดับนิวรณ์ตามใจนึกได้ อยากทราบว่าบุคคลที่จะสามารถทำได้ขนาดนี้ ต้องขยันฝึกซ้อมอย่างเดียวหรือว่าต้องทำอย่างอื่นอีก เช่น รับขันธ์ ?
ตอบ : ถ้ารับขันธ์แล้วช่วยได้ ขันน่าจะขายดีมาก..!

ถาม : อยากทราบว่าคนที่เกิดมาและมีของเก่าติดตัว เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ และกสิณมาจากในอดีต ถ้าอยากได้ความสามารถทุกอย่างคืนมา ถ้าทำอานาปานสติ อย่างเดียวจนถึงฌาน ๔ ของเก่าจะกลับมาหมดหรือไม่ครับ หรือว่าต้องเริ่มต้นใหม่ หรือต้องท่องคาถารวมอภิญญาที่หลวงพ่อวัดท่าซุงให้ไว้หรือครับ ?
ตอบ : แค่เลิกฟุ้งซ่านด้วยคำถาม แล้วไปนั่งภาวนาก็มีโอกาสได้คืนแล้ว..!

ถาม : ผมอ่านมาว่าหลวงพ่อเคยโดนทำของใส่ แต่หลวงพ่อเก่งกว่าและสะท้อนของกลับไปหาหมอผี ตัวผมเข้าใจว่า หมอผีคนนั้นมีความสามารถเข้าฌานสูงถึงขนาดทำของใส่หลวงพ่อได้ ถ้าคน ๆ นั้นมาท่องคาถาเงินล้าน ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรหรือครับ ?
ตอบ : หลวงพ่อก็จะสบายดี..!

ถาม : เป็นเรื่องปกติหรือไม่ครับที่นักปฎิบัติ เวลาใช้ชีวิตปกติ มักจะเจออารมณ์ที่พยายามยัดเยียดความคิดต่าง ๆ มาให้เราคิด มาให้ปรุงแต่งต่อไป ยกตัวอย่าง ผมกำลังทำอาหารอยู่ และจู่ ๆ ก็เหมือนอยากคิดเรื่องไร้สาระ พอรู้ตัวทัน ผมก็ไม่เอาความคิดนั่นมาคิด หรือบางทีรู้ตัวช้าก็หยุดคิด หรือหยุดปรุงแต่งต่อไป ผมอยากทราบว่าอาการที่เล่ามาคือ รู้ตัวว่าความคิดกำลังจะเข้ามา แต่ตัวเราไหวตัวทันและก็สลัดความคิดทิ้ง อาการแบบนี้เป็นปกติที่คนทำสมาธิต้องเจอหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เป็นอาการที่ทุกคนต้องเจอ เพียงแต่ใครจะรู้เท่าทันและหยุดได้เท่านั้น

ถาม : ในเมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องมีการดิ้นรน ทำงานหาเงิน เลี้ยงตัวเอง ซึ่งผมเหนื่อยเหมือนกัน ผมเลยคิดว่าชาติที่แล้วเราน่าจะเกิดเป็นพรหม เป็นเทวดา บุญเราก็มี ฌานก็เคยได้ เราน่าจะมีกัลยาณมิตร ที่เป็นพรหม เทวดา ถ้าอย่างนั้นเราน่าจะขอให้เขาช่วยเอาทรัพย์สมบัติสมัยที่เราเป็นพรหม เทวดามาให้หน่อยได้ไหมครับ ? ผมจะได้เอาไปขาย และผมจะได้เอาเงินส่วนหนึ่งมาให้หลวงพ่อทำบุญช่วยพระศาสนา
ตอบ : แค่ลองไปขอดูก็รู้แล้ว

[เถรี]

ถาม : ลูกอยากทราบเคล็ดลับ​ การสร้างอารมณ์แบบต่าง ๆ​ ​เช่น​ อารมณ์​แข็งกระด้าง​ เหี้ยมเกรียม​ การสร้างอารมณ์​เมตตา​ เยือกเย็น​ การสร้างอารมณ์​ให้ห้าวหาญ​ เจ้าค่ะ​ ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง​ ขอขอบพระคุณ​หลวงพ่อล่วงหน้าด้วยเจ้าค่ะ ?
ตอบ : คิดซิ..คิดซิ..คิดซิ..ช่วยใช้ "หมอง" หน่อยซี..!

[เถรี]

ถาม : มีพระสูตรหนึ่งที่กล่าวว่า

[๓๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตัณหา ๓ และมานะ ๓ ควรละ
ตัณหา ๓ เป็นไฉน คือ กามตัณหา ๑ ภวตัณหา ๑ วิภวตัณหา ๑ ตัณหา ๓ นี้ควรละ
มานะ ๓ เป็นไฉน คือ ความถือตัวว่าเสมอเขา ๑ ความถือตัวว่าเลวกว่าเขา ๑ ความถือตัวว่าดีกว่าเขา ๑ มานะ ๓ นี้ควรละ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล ตัณหา ๓ และมานะ ๓ นี้ย่อมเป็นธรรมชาติ อันภิกษุละได้แล้ว
เมื่อนั้น ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ได้ตัดตัณหา ขาดแล้ว คลายสังโยชน์ได้แล้ว
ได้กระทำที่สุดทุกข์เพราะละมานะได้โดยชอบ ฯ

โยมสงสัยว่าตัณหาและมานะมีความเกี่ยวพันกันเช่นไรคะ และจากพระสูตรนี้หากแค่ละตัณหากับมานะสองอย่างนี้ได้คือการกระทำสิ้นสุดแห่งทุกข์หรือคะ ? และขอความเมตตาอธิบายตัวมานะค่ะ
ตอบ : ตัณหาคือความอยาก มานะคือตัวกู ถ้าไม่มีตัวกูและความอยาก ทุกอย่างก็จบ

[เถรี]

ถาม : ผมเห็นหลายคนที่เวลาร้องไห้แล้วสาปแช่งใคร ส่วนใหญ่ก็มักจะมีผลตามนั้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าเวลาเราร้องไห้แล้วสวดพระคาถาเงินล้านไปด้วย แบบนี้จะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ต้องสวดได้อย่างแน่นอน เพียงแต่สวดแล้วจะได้อะไร ?

[เถรี]

ถาม : การที่เราอ่านหนังสือธรรมะ บางทีก็ขยับเขยื้อนร่างกาย บางทีก็เดินไปห้องน้ำบ้าง กินข้าวบ้าง แต่มีบางช่วงที่อ่านแล้วซึ้งจนน้ำตาไหล ร้องไห้ ขณะเดียวกันก็มีอาการตึง ๆ ที่บริเวณใบหน้าไปด้วย ไม่ค่อยอยากจะขยับปากเท่าไรในระหว่างที่น้ำตาไหล

กับการที่เรานั่งสมาธินิ่ง ๆ แล้วไม่มีอาการน้ำตาไหล รู้สึกเฉย ๆ คิดไปเรื่อยเปื่อย แต่บางครั้งถ้านึกถึงเรื่องที่เราชอบใจ หรือเรื่องธรรมะที่เราชอบขึ้นมาได้เมื่อไร ก็จะมีอาการตึงบริเวณที่ใบหน้าบ้าง แต่ก็เป็น ๆ หาย ๆ เป็นไม่นานเหมือนกับตอนที่อ่านหนังสือ

แบบหนึ่งมีการขยับร่างกาย อีกแบบต้องนั่งนิ่ง ๆ ไม่ทราบว่าอย่างไหนจะได้บุญมากกว่ากันครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนที่จิตของเราคิด รัก โลภ โกรธ หลง น้อยกว่ากัน

[เถรี]

ถาม : ผมชอบฟังเรื่องผี บ่อยครั้งที่เปิดเรื่องเล่าผีฟังไปเรื่อย ๆ จนนอนหลับไป มีครั้งหนึ่งที่ฟังเรื่องผีแล้วหลับไป รู้สึกตัวอีกที มีอาการคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น แล้วรู้สึกว่ามีคนมาเป่าลมใส่ข้าง ๆ ใบหู ผมก็พยายามจะใช้มือปัดไปที่คน ๆ นั้น แต่พยายามอย่างไรก็ขยับร่างกายไม่ได้ ต้องตั้งใจมาก ๆ จึงใช้มือปัดได้ แล้วร่างกายก็ขยับได้ตามปกติ อาการครึ่งหลับครึ่งตื่นก็หายไป กลายเป็นตื่นเต็มที่ อาการที่มีคนมาเป่าหูก็หายไป ในห้องก็มีผมอยู่คนเดียว

อยากทราบว่าการที่เราฟังเรื่องผีบ่อย ๆ จะสามารถทำให้เราเจอผีได้จริง ๆ ด้วยหรือครับ ?
ตอบ : แล้วที่เจอใช่ผีไหม ?

ถาม : การที่เราอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น แล้วขยับร่างกายไม่ได้ในช่วงนั้น เป็นเพราะเหตุใดครับ ?
ตอบ : จิตกับประสาทร่างกายแยกออกจากกัน

[เถรี]

ถาม : การสร้างสะพาน หรือ บันได เพื่อให้คนลงไปปล่อยปลาที่แม่น้ำได้สะดวกขึ้น จะมีอานิสงส์เป็นอย่างไรบ้างครับ ?

ตอบ : ชาติต่อไปทำอะไรก็จะสะดวก สบายขึ้น อาจจะมีเพศตรงข้ามมา "ทอดสะพาน" ให้ด้วย..!

[เถรี]

ถาม : คำว่า "กำลังใจ" หมายถึง อารมณ์ใจที่มั่นคงในขณะนั้น
คำว่า "รูป" หมายถึง วัตถุ เช่น ร่างกายคน หรือ สิ่งของต่าง ๆ
คำว่า "การเห็นด้วยใจ" หมายถึง อาการเดียวกันกับเวลาที่เราคิดถึงคนที่เรารัก ที่แม้มองไม่เห็นแต่ก็รู้สึกได้
คำว่า "ภาวนา" หมายถึง การที่ใจเราจดจ่อในสิ่งที่เป็นบุญกุศล เช่น ชอบสวดมนต์ ชอบอ่านหนังสือธรรมะ หรือชอบคิดไปในเรื่องความไม่แน่นอนของร่างกาย
คำว่า "การรักษาศีล" หมายถึง ตั้งใจว่าจะรักษา หลังจากนั้นก็ลืมไป แต่เวลาที่มีโอกาส ละเมิดศีล แล้วเรานึกได้ จึงอดใจไม่ทำ แบบนี้ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ ?

ตอบ : กำลังใจ คือ ความเข้มแข็งของใจที่ผ่านการสั่งสมมามากน้อยต่างกัน

รูป : คือสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยอายตนะุ
การเห็นด้วยใจ คือ การที่รู้สึกถึงสิ่งนั้นอย่างชัดเจนในห้วงนึก
การภาวนา คือ การกระทำใด ๆ ที่ทำให้เราเจริญขึ้นด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
การรักษาศีล คือ การตั้งสติประคับประคอง ไม่ให้ศีลของเราขาดหรือบกพร่อง

คุณคิดว่าคุณเข้าใจถูกไหม ?

[เถรี]

ถาม : คนที่เป็นใบ้ หรือพูดไม่ได้ ถ้าอยากจะสวดคาถาเงินล้านบ้าง จะใช้วิธีนึกคาถาในใจ หรือเขียนคาถาลงในกระดาษตามจำนวนที่ต้องการ เช่น เขียน ๕ จบ หรือ ๙ จบ เป็นต้น แบบนี้คาถาจะมีผลเหมือนกับสวดออกเสียงดัง ๆ ไหมครับ ?

ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าการกระทำนั้น ๆ เป็นสมาธิมากน้อยเท่าไร ?

[เถรี]

ถาม : ถ้าเราเคยสร้างพระพุทธรูป หรือถวายพระพุทธรูป ทำให้เราในชาติต่อ ๆ ไปมีอำนาจมาก เป็นไปได้ไหมครับ ที่เราอาจจะหลงผิดใช้อำนาจนั้นไปทำร้ายคนดี หรือผู้ทรงศีล หรืออาจจะไปทำร้ายพระอรหันต์เข้า เพราะความหลงผิดของตัวเอง
ตอบ : เป็นไปได้แน่นอน

ถาม : เวลาผมทำบุญ ถ้าผมจะอธิษฐานว่า "ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้ไปล่วงเกินบิดามารดา พระสงฆ์ทั่วไป และพระอริยเจ้าเลย ตราบจนข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพาน แบบนี้จะเป็นการป้องกันได้ไหมครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับสติ ความระลึกได้ สมาธิ ตัวหักห้าม กาย วาจา ใจ และ ปัญญา การเห็นทุกข์เห็นโทษของการกระทำนั้น ๆ ถ้ามีมากพอก็ป้องกันได้

[เถรี]

ถาม : การที่เราอ่านหนังสือธรรมะ แล้วรู้สึกว่าได้ข้อคิดดี จึงชอบอ่านหนังสือธรรมะต่าง ๆ จนกระทั่ง แม้จะมีคนมาพูดคุยกันอยู่ใกล้ ๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยรำคาญนัก รู้สึกสนุกในการอ่านหนังสือธรรมะมากกว่า สามารถอ่านไปได้เรื่อย ๆ ท่ามกลางเสียงต่าง ๆ แบบนี้ถือว่าเป็นครุกรรมฝ่ายบุญหรือไม่ครับ ?

ตอบ : ครุกรรมฝ่ายกุศล มีการสร้างฌานสมาบัติให้เกิดขึ้นแก่ตน หรือ การที่ได้ทำบุญกับผู้ที่ออกจากนิโรธสมาบัติ การอ่านหนังสือท่ามกลางเสียงต่าง ๆ ได้ แค่อุปจารสมาธิขั้นปลายก็ทำได้แล้ว

[เถรี]

ถาม : ถ้าจะให้มีฤทธิ์สามารถเนรมิตกายของตัวเองให้ใหญ่โตกว่าภูเขา จะต้องฝึกกสิณอะไรครับ ?

ตอบ : ต้องคล่องตัวในกสิณ ๑๐ โดยมีปฐวีกสิณเป็นบาทฐาน

[เถรี]

ถาม : อานิสงส์ถวายธรรมาสน์ มีอย่างไรบ้างครับ ?

ตอบ : ๑. ได้เสียเงินซื้อ ๒. ได้เหนื่อยตอนขนไปถวายที่วัด ๓. ถ้ารักษาอารมณ์ใจไม่ได้ เกิดขุ่นมัวขึ้นมา ตายไปจะเกิดเป็นจอมอสูร..!

[เถรี]

ถาม : เวลาเราทำบุญแล้วพูดว่า "ข้าพเจ้าขออุทิศบุญนี้ให้แก่เทวดาทั้งหลาย" แบบนี้เหล่านางฟ้าเขาจะได้ด้วยไหมครับ ?

ตอบ : ถ้าฉลาดกว่าคุณก็จะได้ด้วย..!

[เถรี]

ถาม : คาถาบูชาพระสีวลี ในตอนท้ายนั้น เป็น โสตถิลาภัง ภะวันตุ เม หรือ สวัสดิลาภัง ภะวันตุ เม ครับ ?

ตอบ : โสตถิ เป็นภาษาบาลี สวัสดิ เป็นภาษาสันสกฤต มีความหมายเดียวกัน ฉะนั้น..เอาที่สบายใจก็แล้วกัน

[เถรี]

ถาม : การฆ่าสัตว์เล็ก เช่น ฆ่าหอย จะบาปมากไหมครับ ?

ตอบ : ถ้าไม่มีคนสั่งก็ไม่มาก เพราะว่าบาปแค่คนฆ่าคนเดียว..!

[เถรี]

ถาม : เงินที่หยอดกระปุกเอาไว้เพื่อทำบุญ บางครั้งก็สวดคาถาเงินล้านก่อนหยอดด้วย ถ้าเราจะเอาไปซื้อของ เช่น บูชาพระพุทธรูปเพื่อนำไปถวายวัด หรือซื้อปลาไปปล่อย โดยไม่ได้นำไปถวายวัดโดยตรงทั้งหมด แบบนี้จะได้ไหมครับ ? หรือต้องแยกกระปุกไปเลยครับ ?

ตอบ : ถ้าเงินยังเป็นของเราอยู่ จะเอาไปทำบุญอะไรก็ได้ แต่การสวดพระคาถาเงินล้านแล้วหยอดกระปุก เป็นการกระทำแทนการใส่บาตรตามเคล็ดในการใช้พระคาถา การใส่บาตรโดยไม่เจาะจงถือเป็นสังฆทาน จึงควรทำในส่วนของสังฆทาน วิหารทาน หรือธรรมทาน

[เถรี]

ถาม : เคยเห็นหลวงพ่อเล็กกล่าวในลักษณะว่ามารคือครูที่ดีที่สุด ผมเกรงจะมีคนเข้าใจผิด ลืมไปว่าพระพุทธเจ้าคือครูที่ดีที่สุดนะครับ แล้วอาจจะซ้ำกัน ซึ่งครูที่ดีจากการค้นน่าจะมีคุณสมบัติ คือ
๑. ปิโย ๒. ครุ ๓. ภาวนีโย ๔. วัตตา ๕. วจนักขโม ๖. คัมภีรัญจะ กถัง กัตตา ๗. โน จัฏฐาเน นิโยชเย เลยอยากลองให้หลวงพ่อทบทวนดูนะครับ ว่ามีคำอื่นที่เหมาะสมกว่าไหม ?

ตอบ : มี..มารเป็นอาจารย์ที่เลิศที่สุด..!

[สุธรรม]

"ปลงอายุสังขารแล้วหรือลูก ?"

"ผมอายุเท่าหลวงพ่อตอนมรณภาพแล้วนะครับ"

"งานแกยังไม่ได้ครึ่งของพ่อเลยนะ"

"ผมไม่ใช่พุทธภูมิบารมีเต็มแบบหลวงพ่อนะครับ ผมแค่ตกกระไดพลอยโจนเท่านั้น"

[สุธรรม]

"เธอยังจำได้ไม่ใช่หรือ ? ตลอดวัฏสงสารอันยาวไกลไม่เห็นต้นเห็นปลายนี้ ขึ้นชื่อว่าท้อแม้แต่น้อยหนึ่งไม่เคยปรากฏขึ้นในใจของตถาคตเลย"

"ผมไม่ใช่พุทธภูมิครับ ผมหลงมาเดินทางนี้แบบตกกระไดพลอยโจนเท่านั้น สังขารร่างกายย่ำแย่ขนาดนี้ แทบจะเข็นไม่ไหวแล้ว ไม่อยากทนทุกข์ต่อไปแล้วครับ"

[สุธรรม]

"เราทำงานมา ๗๐ ปี ของท่านยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งเลยนะ"

"อาตมภาพไม่ใช่ของแท้ เป็นของปลอมที่ไม่ใช่ "เสิ่นเจิ้น" อีกต่างหาก คนช่วยงานก็ไม่มีมากมายเช่นเดียวกับมหาบพิตร ขอถวายพระพร"

[สุธรรม]

"เอาเป็นว่าแกอยู่ต่อไปก่อนก็แล้วกัน ข้ายังต้องรับหน้าที่อีกตั้งหลายปี งานแบบนี้หาคนช่วยได้ยากเสียด้วย"

"ผมเบื่อตรงที่ลูกศิษย์ส่วนมากเข็นไม่ไปครับ แต่ละคนทำท่าเหมือนกับไม่มีวันตาย ก็เลยตายให้ดูเสียเองไปเลย"

"แล้วแกคิดว่าข้าเข็นพวกแกไหวใช่ไหม ? สมัยนั้นพวกแกอยู่กันกี่คน ? แล้วที่เป็นหลักให้ชาวบ้านได้จริง ๆ ตอนนี้มีกี่คน ? มือเดียวนับนิ้วแล้วยังครบเลย"

"ไอ้ตัวนี้ไม่ไหวจริง ๆ แล้วนะครับ คนช่วยดูแลก็หาไม่ได้ ผมเองดูแลหลวงปู่หลวงพ่อมาตั้งหลายองค์ ถึงเวลาตัวเองกลับไม่มีใครยอมเสียสละซะอย่างนั้น"

"ทุกคนคิดว่าแกแข็งแรงเหมือนกับข้าตอนนั้นนั่นแหละ ไม่ต้องบ่นมาก ข้าบอกว่าไหวแกก็ต้องไหว ไม่ไหวก็ทนเอา"

"ถ้าอย่างนั้นผมกราบรบกวนช่วยกราบขอหลวงปู่ใหญ่ ขอทำเหรียญมหาสะท้อนเนื้อทองคำให้ด้วยครับ"

"ไอ้..!"......โป๊กกก..!

[สุธรรม]

บันทึกช่วยจำ

วันพฤหัสบดีที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ ไปกรำอยู่ในงานบรรจุศพพระครูกาญจนสุทสีล อดีตเจ้าอาวาสวัดหินแหลม จนไม่มีเวลาพักผ่อน เลิกงานกลับมาตอนเย็น ความดันขึ้นจนหัวแทบระเบิด ขนาดเอาหัวจุ่มน้ำเย็นแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเหมือนกับครั้งก่อน ๆ

อาการปวดไปทั้งตัวตั้งแต่หัวถึงตีนแบบนี้ มาลาเรียขึ้นสมองอย่างแน่นอน พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ส่งไลน์มาเตือนว่า พรุ่งนี้มีการประชุมเพื่อยกห้องเรียนวัดไชยชุมพลชนะสงครามขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ตอบไปว่าถ้าไปไหวก็จะไป แต่ตอนนี้ฉี่ออกมาเป็นน้ำร้อนเลยว่ะ..!

[สุธรรม]

วันศุกร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ อากาศลดฮวบลงไปเกือบ ๔ องศาเซลเซียส เหลือแค่ ๑๖ องศาเซลเซียส ซึ่งการที่อากาศกระโดดแบบนี้แสลงมาลาเรียเป็นที่สุด ปวดระบมไปทั้งตัวจนแทบจะขยับไม่ได้ หลังจากฉันยาไปเป็นกระสอบแล้ว ก็หอบสังขารโทรม ๆ ตรงไปร่วมงานที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม

โอ้..แม่เจ้า..ที่นั่งของเราอยู่ตรงกลางระหว่างหลวงพ่อพระราชวิสุทธาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี (๑) กับ พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี (๒) ที่แน่ ๆ ก็คือ พัดลมไอน้ำจ่อมาตรงตัวพอดีเลย..!

พยายามขยับพัดลมไปทางหลวงพ่อพระราชวิสุทธาภรณ์ กับท่านจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่หลวงพ่อเจ้าคุณรองจังหวัดท่านก็อายุมากแล้ว ถ้าสู้พัดลมไม่ได้แล้วหันกลับมาก็เวรกรรมละ..พยายามตั้งสตินั่งประชุมแบบเบลอ ๆ ระหว่างการประชุมก็แอบเทยาลงในกระบอกน้ำร้อน ฉันประคองอาการเอาไว้...

[สุธรรม]

ไม่รู้ว่าตอบคำถามเกี่ยวกับเงินทุนสำรองและเงินทุนหมุนเวียนของวิทยาลัยสงฆ์ผิดบ้างหรือเปล่า จนท่านเจ้าคุณอาจารย์พระสุวรรณเมธาภรณ์, ผศ. ประธานคณะกรรมการตรวจความพร้อมฯ ประกาศมติคณะกรรมการ ให้ยกห้องเรียนวัดไชยชุมพลชนะสงครามขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีแบบเอกฉันท์ กำลังใจคลายตัวลง ก็แทบจะประคองร่างกายเอาไว้ไม่อยู่...

ไปเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเพลแบบล่องลอยมาก ไม่ใช่ดีใจที่ได้เป็นวิทยาลัยสงฆ์สมใจนึก แต่เพราะเมายาที่ฉันลงไปมากกว่า จนส่งท่านอาจารย์ รศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดี มจร. ฝ่ายกิจการทั่วไปกลับ ก็ให้น้องเล็กพาวิ่งยาวไปบ้านเติมบุญ ตอนผ่านด่านถ้ามีวัดอุณหภูมิ ก็คงโดนกักตัวเป็นแน่แท้ เพราะว่าตอนนี้ประมาณ ๔๐ องศาเซลเซียส..!

ถึงบ้านเติมบุญสิ่งแรกที่ทำก็คือ เปิดน้ำเย็นราดตัวเพื่อลดไข้..! ซึ่งการกระทำแบบนี้นอกจากเราแล้วก็คงไม่มีใครบ้าทำเป็นแน่แท้ ปลายประสาทอักเสบจนขนทั้งร่างเหมือนกับเป็นเข็ม แตะโดนก็เจ็บแปลบปลาบไปหมด ทั้งนอกร่างกายในร่างกาย อวัยวะภายนอกภายในไม่มีส่วนไหนที่ไม่เจ็บ จนสุดที่จะทนต่อไปไหว ก็ส่งใจไปเกาะพระนิพพาน..!

[สุธรรม]

ถาม : มหาประโยค ๙ ว่าที่ด็อกเตอร์ท่านหนึ่งเขียนว่า “พญานาคเป็นแค่สัตว์เดรัจฉาน ไหว้พญานาค ไหว้หมาดีกว่า มีประโยชน์กว่า” หลวงพ่อมีความเห็นว่าอย่างไรครับ ?

ตอบ : ๑. พญานาคเป็นสัตว์เดรัจฉานแต่อยู่ในเขตทิพย์ หมาอยู่แบบนั้นได้ไหม ?
๒. พญานาคแปลงกายเป็นคนได้ หมาทำแบบนั้นได้ไหม ?
๓. พญานาคมีแก้วมณีเป็นที่มาของทรัพย์สมบัติและอาหาร หมามีไหม ?
๔. พญานาคมีบ้านเมืองเป็นเขตแดนเฉพาะของตนเอง หมามีแบบนั้นไหม ? ฯลฯ

การศึกษานั้นพระพุทธเจ้าตรัสถึง อลคัททูปริยัติ การเรียนที่เหมือนกับการจับงูข้างหาง มีโอกาสบาดเจ็บล้มตายจากการกระทำแบบนั้น และพระองค์ยังตรัสว่า “ไม่ควรกล่าววาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกัน ฯลฯ” ยิ่งการเล่นกับความเชื่อของชาวบ้านด้วย ระวังจะไม่มีคนใส่บาตรให้ฉัน..!

[สุธรรม]

"ไม่พอจริง ๆ ครับหลวงพ่อ ยังรอสำรองอยู่อีกตั้งเยอะเลยครับ"

"ไอ้พวกจองพระไปขายมีเยอะเกินไป แต่ก็เท่ากับกระจายไปให้คนที่เขาทำบุญร่วมกันมา เอาอย่างนี้สิ..แกบรรจุเม็ดเงินที่รีไฟน์แล้วไว้ใน "หลวงพ่อสุคโต" สักองค์ละ ๑ บาท แล้วข้าจะขอพระท่านช่วยสงเคราะห์เป็นมหาสะท้อนให้"

"เอาใจผมขนาดนี้แปลว่ามีงานใหญ่รออยู่แน่เลยใช่ไหมครับ ?"
"แกจะเอาหรือไม่เอาวะ..!?"
"เอาครับ..ดีกว่าเหนื่อยเปล่าแล้วไม่ได้อะไรเลย..!"
"เอานี่ไปด้วย" "โป๊กกก..!"

[สุธรรม]

"เรื่องเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ มีทางทำให้หมดไปเร็วกว่านี้ไหมครับ ?"
"ตราบใดที่รัฐบาลไม่ยอมแก้ไขจริงจัง เอาแต่แต่งตัวเลขสวย ๆ ก็อย่าหวังว่าจะดีขึ้นมาได้ ถ้าระบาดระยะ ๓ เมื่อไรละแกเอ๋ย..สาหัสกว่านี้อีก..!"

"เรื่องภัยแล้งละครับ ?"
"ข้าหนักใจกว่าแกอีก ถ้าไม่มีใครตระหนักก็จะเกิดเหตุทุเรศทุรังอย่าง "ไม่มีน้ำกินแต่โดนน้ำท่วมตาย" ขึ้นแน่ ๆ..! แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของทั้งโลก บ้านเราถ้าขยับตัวช้าก็เดือดร้อนหนักหน่อย แกเริ่มทำแหล่งน้ำสำรองไว้ได้แล้ว"
"ครับ"

"เรื่องพระจันทร์ขึ้นสองดวงละครับ ?"
"เป็นเรื่องธรรมชาติโว้ย..! อย่าทะลึ่งไปยุ่งกับของที่อยู่บนฟ้า..!"

[สุธรรม]

ถาม : หลวงพ่อให้พวกผมยืนด้วยตัวเอง ไม่ให้ไปอาศัยหลวงพ่อด้วยการบอกบุญในเว็บวัดท่าขนุน แต่หลวงพ่อให้หลวงพ่อนิลไปบอกบุญได้ พวกผมไม่ได้รังเกียจหลวงพ่อนิลนะครับ แต่สงสัยว่า ในเมื่อ "คนใน" บอกบุญไม่ได้ แล้วทำไม "คนนอก" ถึงบอกบุญในเว็บวัดท่าขนุนได้ครับ ?

ตอบ : เนื่องจากการสร้างที่พักสงฆ์นั้น ทางหลวงพ่อนิลท่านเป็นหนี้เยอะมาก แล้วคนที่แบกภาระหนี้ส่วนใหญ่ตรงนี้ก็คือ "โยมแอ๊ว" ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ โอกาสปลดหนี้แทบจะไม่มีเลย ผมจึงอนุญาตให้คุณเอกกรมาบอกบุญของทางอาศรมฯ ในเว็บวัดท่าขนุนได้ ข้อนี้ถือว่าผมขาดความยุติธรรมเอง และจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

[สุธรรม]

ถาม : NASA ส่ง ยาน Perseverance ลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารได้สำเร็จ จะได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันไหมคะ ?

ตอบ : ถ้าแค่ศึกษาเรื่องอื่น ๆ ก็พอไหว แต่ถ้าตั้งใจไปหามนุษย์ต่างดาวบนดาวที่ไม่มีมนุษย์ต่างดาว ก็คงต้องรอจนกว่าบรรดามนุษย์ต่างดาวไปขุดแร่ธาตุบนดาวอังคาร ถึงจะมีสิทธิ์ได้เจอ..!

[สุธรรม]

ถาม : ตอนนี้เหรียญบิตคอยน์ต่าง ๆ กำลัง "บูม" มาก ผมจะเล่นบ้างดีไหมครับ ?

ตอบ : ก่อนที่คิดจะเล่นอะไร อันดับแรก ต้องยอมรับความเสี่ยงนั้น ๆ ให้ได้ก่อน แปลว่าต้องพร้อมที่จะสูญเสีย ถ้าไม่เป็นไปตามที่เราคาดหมาย อันดับที่ ๒ อย่าโลภมาก ตั้งเป้าหมายไว้ต่ำหน่อย ว่าถ้ากำไรกี่เปอร์เซ็นต์เราจะขายและเอาเงินสดออกมา อันดับที่ ๓ ระวังเรื่องของอนาคตไว้ด้วย ถ้าเขาเก็บภาษีเงินได้เมื่อไร ต้องยอมจ่ายแต่โดยดี..!

[สุธรรม]

ถาม : เพื่อนของหนูที่ทำงานในรัฐบาล ถามว่ามีอะไรที่หลวงพ่อพูดเกี่ยวกับประเทศไทยซึ่งเขาจำเป็นต้องรู้ เพื่อที่จะกำหนดแผนพัฒนาประเทศได้บ้างคะ ?

ตอบ : อย่างเร่งด่วนเลย อันดับแรก ยอมรับความจริงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แล้วระดมสรรพกำลังออกจัดการขั้นเด็ดขาด ก่อนที่จะปิดตัวเลขไม่อยู่เพราะเกิดการระบาดระลอกที่ ๓ และขอร้องเถอะ..ชีวิตชาวบ้านสำคัญที่สุด อย่าเอามาหากินเพื่อพวกพ้องและตัวเอง รีบสั่งซื้อวัคชีนแบบไม่หวังประโยชน์ใส่ตัวได้แล้ว..!

อันดับที่ ๒ ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ต้องใช้กลไกรัฐทุกภาคส่วนสนับสนุนให้เขาทำมาหากิน โดยเฉพาะผลิตสินค้าอะไรออกมาแล้วต้องจำหน่ายได้ ไม่ใช่สนับสนุนแต่นายทุนแล้วทิ้งรากหญ้า ถ้าเขาอยู่ดีกินดีก็ไม่มีใครเสียเวลามาประท้วงพวกคุณหรอก อย่าไปสร้างนิสัยเสียให้ชาวบ้านด้วยการแจกเงินอย่างเดียว จนทำมาหากินไม่เป็น เอาแต่อ้าปากรอให้ป้อนอย่างเดียว..!

[สุธรรม]

อันดับที่ ๓ ปัญหาภัยแล้ง ถ้าเป็นไปได้ขอกระทรวงน้ำสักกระทรวง เพื่อที่จะได้มีผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการโดยตรง ไม่ใช่ปล่อยให้ชาวบ้านไม่มีน้ำกินแต่โดนน้ำท่วมตาย..!

อันดับที่ ๔ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ทั้งจากโลกร้อนและการย้ายที่ของขั้วโลก ถ้าไม่เตรียมรับมือแต่เนิ่น ๆ ได้ตายซับตายซ้อนด้วยธาตุ ๔ แปรปรวนยิ่งกว่าตายจากเชื้อไวรัสอีก..! โดยเฉพาะ "ลมร้าย" จากใต้ดินและใต้น้ำ

อันดับที่ ๕ ให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาให้มากกว่านี้ นี่เป็นที่พึ่งสุดท้ายของชาวบ้านส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลสนับสนุน ซ้ำยังถูกตัดทอนบอนไซทุกวิถีทาง คุณกำลังทำลายรากฐานที่ค้ำจุนประเทศ แต่อยากจะให้ประเทศแข็งแรง อาตมาว่าพวกคุณบ้าว่ะ..!

ถ้าทำได้แค่นี้อาตมาก็นอนตายตาหลับแล้ว และขอร้อง "อย่าเคาะกะลาให้หมาดีใจ" ในวาระหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ต้องจริงจัง จริงใจ เสียสละประโยชน์ส่วนน้อย เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาติบ้านเมือง ไม่ใช่เวลามาหาเสียงกันโว้ย..!

[สุธรรม]

บันทึกช่วยจำ

วันพุธที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ งานบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และปลุกเสกเหรียญหลวงปู่หลิว ปณฺณโก รุ่น ชนะจน ณ มณฑลพิธีวัดสี่แยกเจริญพร เลขที่ ๖๐ หมู่ที่ ๔ ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

พระภาวนาเถราจารย์ประกอบด้วย พระเทพมหาเจติยาจารย์ วัดพระปฐมเจดีย์ หลวงปู่รอด (พระครูอาภัสร์ธรรมคุณ) วัดโคกกรม หลวงพ่อล้อม (พระครูวิมลชัยสิทธิ์) วัดไผ่รื่นรมย์ หลวงพ่อวิโรจน์ (พระครูไพโรจน์ภัทรคุณ, ดร.) วัดสระพัง หลวงพ่อเล็ก (พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.) วัดท่าขนุน

[สุธรรม]

นิมิตเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสีเขียวสว่างเจิดจ้าเสด็จมาในมณฑลพิธี ทั้งสีสันและเครื่องทรงคือพระแก้วมรกตทรงเครื่องฤดูร้อนชัด ๆ เลย

"เหตุใดจึงมาในรูปนิมิตนี้พระพุทธเจ้าข้า ?"
"ยังไม่เคยบอกเธอว่า พุทธศาสนิกชนส่วนหนึ่งโดยเฉพาะสายมหายาน มีความเชื่อว่าตถาคตมีรูปนิมิตเป็นสีเขียว"

"ทราบแต่ว่าพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ของทางสายมหายาน มีรูปนิมิตเป็นสีต่าง ๆ กันเท่านั้นพระพุทธเจ้าข้า"
"ยุคของนาคเสนลูกเราเป็นยุคมหายานรุ่งเรือง เมื่อนาคเสนสร้างพระแก้วมรกต มหายานทั้งสายจึงมีความเชื่อว่า ตถาคตมีสีเขียวแทนรูปนิมิต"

"เข้าใจแล้วพระพุทธเจ้าข้า เป็นอาจริยวาท"
"ถูกต้อง...ต่อไปถ้าเห็นแบบนี้เธอจะได้ทราบว่าเป็นตถาคตเอง"

[สุธรรม]

บันทึกช่วยจำ
วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ งานบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และปลุกเสกวัตถุมงคล ณ มณฑลพิธีวัดบึงลาดสวาย เลขที่ ๗๕ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

พระภาวนาเถราจารย์ประกอบด้วย พระสุเมธมุนี (หลวงปู่ลำพวน) วัดบึงลาดสวาย หลวงพ่อเล็ก (พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.) วัดท่าขนุน

[สุธรรม]

นิมิตเห็นพระมหาเถระรูปร่างผอมแต่สูงใหญ่ แขนขายาวมาก ดูจากความสูงน่าจะเกิน ๒ เมตร ศีรษะใหญ่โต ใบหน้ายาว ใบหูยาว หุ่นแบบคนผอมที่ตัวใหญ่มาก ห่มจีวรหนาเตอะสีออกแดง ปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือมณฑลพิธี กราบท่านแล้วถามว่าเป็นใคร ? มาจากไหน ?

"เราคือผู้นำข่าวมาแจ้งแก่พระนเรศฯ เรื่องพม่าคิดคดหมายชีวิตในครั้งกระโน้น"
"อ๋อ..หลวงปู่วัดป่าแก้ว" ต้นตำรับวิชาสายมอญในเมืองไทยมาเองเลย

[สุธรรม]

"พิธีกรรมแบบนี้ค่อนข้างยุ่งยาก จะหาคนศึกษาได้น้อยลงไปเรื่อย ๆ นะครับ"
"วิชาการตามพิธีกรรมที่เจ้าเห็นมีความดีในตัวที่ต่างจากสายของท่านฤๅษี สายของเจ้าสามารถขอบารมีพระท่านมาสงเคราะห์ได้โดยตรง หากเจ้าไม่ได้มาสายนี้ เจ้าคิดว่าจะทำได้หรือไม่เล่า ?"

"ไม่น่าจะได้นะครับหลวงปู่ แล้วความดีในตัวของสายหลวงปู่คืออะไรครับ ?"
"พิธีกรรมนี้เน้นตรงสัทธา เจ้าบอกได้ไหมว่าสัทธามีอะไรบ้าง ?"

"มีเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย เชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อมั่นในผู้นำ และเชื่อมั่นในตนเองครับ"
"ถูกต้อง พิธีกรรมนี้ต้องอาศัยสัทธา ความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัยชนิดเต็มดวงจิตดวงใจ อาศัยวิริยะคือความเพียรสวดคาถา อิติปิ โสฯ ๑๐๘ จบ เพื่อสร้างสติ สมาธิ ให้เกิด แม้เพียงเล็กน้อยก็ได้ผลแล้ว ไม่ต้องถึงปัญญาก็ได้ เพราะว่าตัวเราที่เป็นครูบาอาจารย์ต้นสายในอโยธยา จะมาสงเคราะห์ให้ จึงเป็นพิธีกรรมที่คนทั่วไปสามารถทำได้ง่าย เพียงแค่จัดการตามรูปแบบที่กำหนดไว้ ก็สามารถเสกของให้ขลังได้แล้ว"

[สุธรรม]

บันทึกช่วยจำ

วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๓๙ น. งานปลุกเสกพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่น กู้ชาติ กู้วิกฤต ณ มณฑลพิธีวัดหงส์รัตนาราม ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

พระภาวนาเถราจารย์ประกอบด้วย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (หลวงพ่อสนิท) วัดไตรมิตรวิทยาราม พระเทพปริยัติมุนี (หลวงพ่อมีชัย) วัดหงส์รัตนาราม พระนันทวิริยาภรณ์ (หลวงพ่ออ่าง) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ พระปลัดสุวรรณ (หลวงปู่ทอง) วัดดอนไก่ดี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (หลวงพ่อเล็ก) วัดท่าขนุน

[สุธรรม]

"เอาเฉพาะเรื่องลาภผลอย่างเดียวเลยนะ" สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตรัสบอก "เรื่องกู้ชาติกู้วิกฤตเป็นเรื่องของคนอื่นเขา ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องเอาด้านลาภผลเข้าไว้"

แบบนี้ก็สบายเรา กราบขอบารมีครูบาอาจารย์ ภาวนาพระคาถาเงินล้านอย่างเดียว แหม..พระมหานาคชุดนี้สวดพุทธาภิเษกได้เพราะจริง ๆ

[สุธรรม]

"เฮ้ย..มาได้อย่างไรนั่น..!" หลังงานท่านเจ้าคุณมีชัยเพิ่งจะเห็นเรา
"แปลว่าที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์เซ็นฎีกานิมนต์นั้น จำสมณศักดิ์ของผมไม่ได้ใช่ไหมครับ ?"

"ก็ไม่ยอมเป็นเจ้าคุณซักทีนี่หว่า..พระครูมันจำยาก"
"ตอนนี้เป็นแค่เจ้าประคุณรุนช่องไปก่อนครับ" ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..!

"ขอให้เจ้าคุณอาจารย์ขึ้นเป็น "ภาค" ไว ๆ นะครับ ลูกศิษย์ลูกหาจะได้ขออาศัยพึ่งพิงบารมีบ้าง"
"ก็คงต้อง "พราก" ผู้เยาว์ไปก่อนเหมือนกันนั่นแหละ” ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..!

[สุธรรม]

"พวกผมเอาตัวอย่างมีดหมอแบบใหม่มาเสนอพระอาจารย์ครับ"

กำนันหน่อย (นายวิริยะ กิตติกำจาย) กับ เซียนไก่ บ้านฆ้อง (นายปริญญา นัทธี) ส่งมีดตัวอย่างมาให้ ซึ่งอาตมาเห็นแล้วถึงกับสะดุ้ง เพราะว่าด้ามแกะเป็นพรหมพักตร์..!

"งานนี้ราคาสูงกว่าเดิมมากนะครับ เพราะว่าแต่ละด้ามต้องใช้ไม้พะยูงท่อนยาวเกือบสิบนิ้ว แกะด้วยเครื่องแล้วมาเก็บรายละเอียดด้วยมืออีกรอบหนึ่งครับ"

เรื่องราคาอาตมาไม่เกี่ยงหรอก แต่ที่แกะมาเป็นพรหมพักตร์นี่สิปัญหาใหญ่..! ใครไม่เคยเจอ "หลวงปู่สิงห์" ว้ากมานี่ไม่รู้หรอกว่าน่ากลัวขนาดไหน เวลาพลังที่สามารถป่นจักรวาลให้เป็นผงได้แผ่ออกมา เหมือนลูกไก่เผชิญหน้าพญางูจงอางชัด ๆ เลย..!

"ขอเวลาตัดสินใจหน่อยก็แล้วกัน เพราะว่าต้องรอ "นิมิต" จากครูบาอาจารย์ก่อน"

"ไม่เป็นไรครับ มีดตัวอย่างเล่มนี้ผมถวายพระอาจารย์เอาไว้ใช้งานเลยครับ"

[สุธรรม]

"ให้ชื่อว่า "มีดลูกพราหมณ์พรหมพิทักษ์" สร้างได้ ๓๐๐ เล่ม"

เมื่อเช้านี้อากาศอยู่ที่ ๑๕.๕ องศาเซลเซียส ทำให้อาตมากลายเป็น "โรคกลัวน้ำ" จึงต้องมาล้างหน้าตอนเที่ยงกว่า เสียง "หลวงปู่สิงห์" ดังกระหึ่มห้องน้ำประหนึ่งเซ็นเซอร์ราวด์..!

"เฮ้ย..คุณไก่..เลี้ยวกลับมาหน่อยโว้ย..!" ไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว แต่กลับมาแล้วได้งานระดับล้านขึ้น ใครก็เต็มใจกลับมาทั้งนั้นแหละ..!

"หลวงปู่มีพระคาถากำกับมีดหมอรุ่นนี้โดยเฉพาะไหมครับ ?"


"อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง" เฮ้ย..พระคาถาเรียกจิต..!

"แกคิดว่าการรักษาจิตสำคัญมากไหม ?"
"มากที่สุดเลยครับ"

"เออ..ถ้ารักษาจิตได้ อะไรก็รักษาได้หมด"
อ๋อ..เคล็ดลับอยู่ตรงนี้เอง "กราบขอบพระคุณหลวงปู่เป็นอย่างยิ่งครับ"

[สุธรรม]

"ขอหลวงพ่อช่วยเสกชนวนให้ด้วยครับ"
"จะเอาไปทำอะไรวะ ?"
"เหรียญท้าวเวสสุวรรณครับ และขออนุญาตเอาเข้าพิธีของหลวงพ่อด้วยครับ"

เพิ่งหลับตาลงก็นิมิตเห็น "มหายักษ์" ยืนตระหง่านค้ำฟ้า กระบองยาวมหึมาประหนึ่งภูเขาพระสุเมรุหลักโลก สุรเสียงกระหึ่มประดุจฟ้าคำรณ..!

"บอกมันด้วยว่าอย่าเล่นง่ายนัก อยากจะทำอะไรให้ลงทุนเอง รับความผิดพลาดเองบ้าง อยากสร้างมากนักก็ให้ขอเอง จัดพิธีเอง..!"

[สุธรรม]

"ท่านไม่ให้ว่ะเสี่ย"

เห็นท่าทางจ๋อย ๆ ก็อดสงสารไม่ได้ เพราะว่าเสี่ย...ก็ทำประโยชน์ให้กับวัด...และวัด...ไม่น้อย แม้แต่วัดท่าขนุนก็เคยได้อานิสงส์ไปด้วย...

"งานนี้ "ท่านฤๅษีฯ" ขอ "พระ" ให้กับท่านเป็นการเฉพาะ ไม่ใช่เรื่องที่จะให้ใครมาเที่ยวแทรกส่งเดช ถ้าทำแบบนั้นผมก็ไม่รังเกียจที่จะช่วย "เหยียบ" ให้..!"

ไม่เอาละครับ ขนาดหลวงพ่อท่านยังคลาน ผมคงสิ้นชีวิตเลยเป็นแน่แท้..!

[สุธรรม]

ดำลงไปใต้น้ำร้อนกว่าสี่สิบองศาเซลเซียส กำหนดภาพพระคลุมกาย ภาวนากรณียเมตตสูตรและพระคาถาเงินล้าน ๑๐ จบ ระหว่างนั้นรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงการเคลื่อนไหวของกระแสพลังจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ผสมกลมกลืนกัน ส่วนใดที่ขาดกระแสพลังนั้นก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านทุกรูขุมขน...

"แหม..ไม่เปิดช่องให้ "เล่น" ได้บ้างเลยนะ" สหายเก่ายิ้มเห็นเขี้ยวเสน่ห์ ความจริงแกหล่อชนิดสาวสะกิดแม่เลยแหละ เสียอย่างเดียวว่าคนที่ไม่เข้าใจมักจะรังเกียจความประพฤติของพ่อเจ้าประคุณ ทั้งที่นั่นเป็นแค่ "หน้าที่" เท่านั้น...

[สุธรรม]

"ขืนเปิดช่องให้ มีหวังโดนแกเหยียบจมน้ำตาย แล้วคนก็จะไปพูดกันว่า พระอาจารย์เล็กแก่แล้วไม่เจียมสังขาร แช่น้ำพุร้อนนานเกินไปจนเป็นลมตาย" ว่าแล้วอาตมาก็โผล่ขึ้นมาหายใจ ทั้งที่จะอยู่ต่ออีกก็ได้ แต่อาจจะสมองเบลอเพราะความร้อน ทำให้ขาดสติ จนโดน "เล่น" เอาได้...

"ทำไมดำน้ำได้นานขนาดนี้วะ ? ถ้าไม่เห็นว่ายังขยับอยู่ก็คิดว่าอาจารย์เล็กจมน้ำตายไปแล้ว" พระมหามนู ปิยสีโล รองเจ้าอาวาสวัดเขาเม็งอมรเมศวร์ เจ้าคณะตำบลปากแพรก เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์เอ่ยขึ้นแบบอัศจรรย์ใจ...

"อ๋อ..ตอนผมเรียนวิชาทหาร ผมต้องฝึกดำน้ำมาด้วยครับ” ว่าไปเรื่อยเปื่อย แม้ว่าจะเป็นความจริง แต่ก็ไม่ใช่ความจริงแท้ แต่ถ้าไปบอกว่าผู้ทรงฌานจะใช้ลมหายใจน้อยมากเป็นปกติก็เกรงว่าเพื่อนจะไม่เข้าใจ ก็เลยต้องตอบไปแบบนี้แหละ ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่ใช่เรื่องของอาตมาแล้ว...