เถรี
14-07-2009, 13:54
ทฤษฎีตราบใดที่ยังไม่มีคนค้านได้ ก็ยังเป็นทฤษฎีที่คนยอมรับ แต่ถ้ามีหลักฐาน มีสมมติฐานที่น่าเชื่อถือกว่า ทฤษฎีนั้นก็จะโดนล้มล้างไป แต่ว่าธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสัจธรรม เป็นความจริงที่ไม่สามารถจะเถียงได้
ท่านบอกว่าเหตุที่บุคคลต่างกันไปมีอยู่ ๕ ประการ ได้แก่ อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม ทำให้คนแตกต่างกันไป
อุตุนิยาม ดินฟ้าอากาศทำให้คนแตกต่างกัน เช่น สาวเหนือผิวขาวเสียส่วนมาก ส่วนสาวใต้ผิวดำ เพราะอากาศต่างกัน แม้กระทั่งสัตว์ก็เป็นไปตามนั้น อย่างภาคเหนือ-ภาคกลางเป็นวัวแดง พอลงภาคใต้จะกลายเป็นวัวดำ แทนที่จะเป็นสีแดงกลับเป็นสีดำแทน ทั้ง ๆ ที่เป็นพันธุ์เดียวกัน ก็แบบเดียวที่ภาคเหนือ- ภาคกลางเป็นเสือดาว แต่พอลงภาคใต้กลายเป็นเสือดำ ถ้าหากว่าดำสนิทก็ไม่เป็นไร แต่นี่แค่ดำจาง ๆ ยังมีดาวเหลืออยู่
อย่างแอฟริการ้อนมากเขาก็ผิวดำ ทางด้านเอเชียเราอากาศปานกลางก็ผิวเหลือง ทางด้านยุโรปหนาวมากก็ผิวขาว ดังนั้น..เรื่องของอุตุนิยาม ดินฟ้าอากาศทำให้คนต่างกัน พระพุทธเจ้าบอกไว้ชัดมาก
พีชนิยาม เกิดจากอะไร เกิดจากพืชพันธุ์ เกิดจากดีเอ็นเอ ตรงนี้ทำให้ต่างกัน พวกอาหารการกิน พวกส่วนประกอบดินฟ้าอากาศ ทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นในระดับของดีเอ็นเอ ก็จะกำหนดรูปแบบลักษณะให้เหมาะสมกับที่นั้น ๆ เพื่อที่เขาจะได้ดำรงชีวิตอยู่ได้ ก็จะออกมาเป็นรูปลักษณะที่ต่าง ๆ กันไป อย่างแอฟริกาแห้งแล้ง แดดร้อน อาหารไม่ค่อยมี ก็ต้องตัวเล็ก ผิวดำ อย่างพวกเราที่อุดมสมบูรณ์มีแดด ก็ออกมาผิวเหลืองรูปร่างใหญ่กว่าทางด้านแอฟริกา ทางด้านยุโรป อเมริกา เขากินแต่นมแต่เนย รูปร่างเขาก็ใหญ่กว่า เพราะฉะนั้น..จึงมีพีชนิยาม การจำกัดด้วยเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ
กรรมนิยาม การกระทำของคน ถ้าจิตประกอบด้วยกุศล มีเมตตาบารมีเป็นปกติ มีศีลเป็นปกติ หน้าตาก็จะสวยงาม ถ้าหากจิตประกอบอกุศล เต็มไปด้วยโทสะ หน้าตาออกมาก็ขี้ริ้วขี้เหร่ ดูไม่ได้ ดีไม่ดีก็กลายเป็นสัตว์ในอบายภูมิไปเลย
จิตตนิยาม กำลังใจของตน ถ้าหากว่าสภาพจิตสั่งสมกรรมดีเอาไว้ หน้าตารูปร่างออกมาก็ดูสวยงาม เกิดในถิ่นที่เหมาะสม ถ้าหากว่าสภาพจิตสั่งสมไว้แต่ความชั่ว ก็ไปเกิดในถิ่นที่ยากลำบาก ไม่เคยให้ทานเลยก็ไปเกิดแถวเอธิโอเปีย เป็นต้น
ธรรมนิยาม เป็นไปโดยธรรม ก็คือ สภาพของธรรมชาตินั้น ๆ ว่าเขาจะออกมาลักษณะไหน จะมีการแปรไป เราเรียนกฎของเมนเดล จะมีลักษณะเด่น ๓ ลักษณะด้อย ๑ ก็จะมีการผ่าเหล่าไปเรื่อย ๆ ดังนั้นตัวธรรมนิยามเป็นการผ่าเหล่า จริง ๆ แล้วก็เป็นไปโดยธรรมชาติ
การผ่าเหล่าไม่ใช่ไม่ดีนะ เช่น สัตว์ที่เผือก ถ้าอยู่ในธรรมชาติผ่าเหล่าออกไปแบบนั้นตายแน่ เพราะจะเป็นเป้าเด่นให้สัตว์นักล่าเลย แต่อย่างงูหลามทองนี่ผ่าเหล่าออกมา ขายดีมาก คนชอบ ก็ต้องพัฒนาเป็นสายพันธุ์งูหลามทองโดยตรงออกมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเป็นการผ่าเหล่า แต่หลังจากที่ผสมมารุ่นแล้วรุ่นเหล่า ก็กลายเป็นสายพันธุ์เฉพาะไป เพราะฉะนั้น..สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านบอกจะชัดเจนมาก เพราะเป็นสัจธรรมที่เถียงไม่ได้
ท่านบอกว่าเหตุที่บุคคลต่างกันไปมีอยู่ ๕ ประการ ได้แก่ อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม ทำให้คนแตกต่างกันไป
อุตุนิยาม ดินฟ้าอากาศทำให้คนแตกต่างกัน เช่น สาวเหนือผิวขาวเสียส่วนมาก ส่วนสาวใต้ผิวดำ เพราะอากาศต่างกัน แม้กระทั่งสัตว์ก็เป็นไปตามนั้น อย่างภาคเหนือ-ภาคกลางเป็นวัวแดง พอลงภาคใต้จะกลายเป็นวัวดำ แทนที่จะเป็นสีแดงกลับเป็นสีดำแทน ทั้ง ๆ ที่เป็นพันธุ์เดียวกัน ก็แบบเดียวที่ภาคเหนือ- ภาคกลางเป็นเสือดาว แต่พอลงภาคใต้กลายเป็นเสือดำ ถ้าหากว่าดำสนิทก็ไม่เป็นไร แต่นี่แค่ดำจาง ๆ ยังมีดาวเหลืออยู่
อย่างแอฟริการ้อนมากเขาก็ผิวดำ ทางด้านเอเชียเราอากาศปานกลางก็ผิวเหลือง ทางด้านยุโรปหนาวมากก็ผิวขาว ดังนั้น..เรื่องของอุตุนิยาม ดินฟ้าอากาศทำให้คนต่างกัน พระพุทธเจ้าบอกไว้ชัดมาก
พีชนิยาม เกิดจากอะไร เกิดจากพืชพันธุ์ เกิดจากดีเอ็นเอ ตรงนี้ทำให้ต่างกัน พวกอาหารการกิน พวกส่วนประกอบดินฟ้าอากาศ ทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นในระดับของดีเอ็นเอ ก็จะกำหนดรูปแบบลักษณะให้เหมาะสมกับที่นั้น ๆ เพื่อที่เขาจะได้ดำรงชีวิตอยู่ได้ ก็จะออกมาเป็นรูปลักษณะที่ต่าง ๆ กันไป อย่างแอฟริกาแห้งแล้ง แดดร้อน อาหารไม่ค่อยมี ก็ต้องตัวเล็ก ผิวดำ อย่างพวกเราที่อุดมสมบูรณ์มีแดด ก็ออกมาผิวเหลืองรูปร่างใหญ่กว่าทางด้านแอฟริกา ทางด้านยุโรป อเมริกา เขากินแต่นมแต่เนย รูปร่างเขาก็ใหญ่กว่า เพราะฉะนั้น..จึงมีพีชนิยาม การจำกัดด้วยเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ
กรรมนิยาม การกระทำของคน ถ้าจิตประกอบด้วยกุศล มีเมตตาบารมีเป็นปกติ มีศีลเป็นปกติ หน้าตาก็จะสวยงาม ถ้าหากจิตประกอบอกุศล เต็มไปด้วยโทสะ หน้าตาออกมาก็ขี้ริ้วขี้เหร่ ดูไม่ได้ ดีไม่ดีก็กลายเป็นสัตว์ในอบายภูมิไปเลย
จิตตนิยาม กำลังใจของตน ถ้าหากว่าสภาพจิตสั่งสมกรรมดีเอาไว้ หน้าตารูปร่างออกมาก็ดูสวยงาม เกิดในถิ่นที่เหมาะสม ถ้าหากว่าสภาพจิตสั่งสมไว้แต่ความชั่ว ก็ไปเกิดในถิ่นที่ยากลำบาก ไม่เคยให้ทานเลยก็ไปเกิดแถวเอธิโอเปีย เป็นต้น
ธรรมนิยาม เป็นไปโดยธรรม ก็คือ สภาพของธรรมชาตินั้น ๆ ว่าเขาจะออกมาลักษณะไหน จะมีการแปรไป เราเรียนกฎของเมนเดล จะมีลักษณะเด่น ๓ ลักษณะด้อย ๑ ก็จะมีการผ่าเหล่าไปเรื่อย ๆ ดังนั้นตัวธรรมนิยามเป็นการผ่าเหล่า จริง ๆ แล้วก็เป็นไปโดยธรรมชาติ
การผ่าเหล่าไม่ใช่ไม่ดีนะ เช่น สัตว์ที่เผือก ถ้าอยู่ในธรรมชาติผ่าเหล่าออกไปแบบนั้นตายแน่ เพราะจะเป็นเป้าเด่นให้สัตว์นักล่าเลย แต่อย่างงูหลามทองนี่ผ่าเหล่าออกมา ขายดีมาก คนชอบ ก็ต้องพัฒนาเป็นสายพันธุ์งูหลามทองโดยตรงออกมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเป็นการผ่าเหล่า แต่หลังจากที่ผสมมารุ่นแล้วรุ่นเหล่า ก็กลายเป็นสายพันธุ์เฉพาะไป เพราะฉะนั้น..สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านบอกจะชัดเจนมาก เพราะเป็นสัจธรรมที่เถียงไม่ได้