เถรี
22-09-2019, 20:47
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ช่วงก่อนกรรมฐานที่กล่าวถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศชาติ แล้วญาติโยมบางท่านก็เครียด
เหตุที่เครียดเพราะว่าเราไปแบกเอาไว้ ส่วนสาเหตุของการแบกเอาไว้นั้น เกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกคือขาดการสำรวมอินทรีย์ ก็คือขาดการระมัดระวังตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเราประการหนึ่ง ส่วนอีกประการหนึ่งก็คือไปยึดมั่นถือมั่น ซึ่งความจริงนั้นเริ่มจากตัวกูของกู แต่ของเรานั้นไปไกลถึง นี่ประเทศชาติของกู นี่ก็เพื่อนพ้องน้องพี่ของกู ท้ายสุดก็ลงตรงตัวกู
ในเมื่อเราขาดการสำรวมอินทรีย์ สิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามา ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เราก็รับเอาไว้หมด ยิ่งรับเอาไว้มาก ปล่อยไม่ได้ วางไม่เป็น ก็ยิ่งแบกหนัก ยิ่งแบกหนักมากเท่าไร ก็เครียดมากเท่านั้น
ดังนั้น ในการปฏิบัติธรรมของพวกเรา ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขในปัจจุบัน ที่เรียกว่าทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ คือให้เราพิจารณาจนกระทั่งเห็นจริง ว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้ สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นไปตามกรรม ถ้าเกินกำลังเราก็ต้องปล่อยวาง ถ้าไม่ปล่อยวางเราก็เครียด
เนื่องจากว่าพระพุทธเจ้านอกจากจะสอนเมตตา กรุณา มุทิตาแล้ว ยังสอนอุเบกขาเอาไว้ด้วย ก็แปลว่าในส่วนของอุเบกขานั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรู้จักเอามาใช้ในสถานการณ์แบบนี้
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ช่วงก่อนกรรมฐานที่กล่าวถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศชาติ แล้วญาติโยมบางท่านก็เครียด
เหตุที่เครียดเพราะว่าเราไปแบกเอาไว้ ส่วนสาเหตุของการแบกเอาไว้นั้น เกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกคือขาดการสำรวมอินทรีย์ ก็คือขาดการระมัดระวังตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเราประการหนึ่ง ส่วนอีกประการหนึ่งก็คือไปยึดมั่นถือมั่น ซึ่งความจริงนั้นเริ่มจากตัวกูของกู แต่ของเรานั้นไปไกลถึง นี่ประเทศชาติของกู นี่ก็เพื่อนพ้องน้องพี่ของกู ท้ายสุดก็ลงตรงตัวกู
ในเมื่อเราขาดการสำรวมอินทรีย์ สิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามา ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เราก็รับเอาไว้หมด ยิ่งรับเอาไว้มาก ปล่อยไม่ได้ วางไม่เป็น ก็ยิ่งแบกหนัก ยิ่งแบกหนักมากเท่าไร ก็เครียดมากเท่านั้น
ดังนั้น ในการปฏิบัติธรรมของพวกเรา ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขในปัจจุบัน ที่เรียกว่าทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ คือให้เราพิจารณาจนกระทั่งเห็นจริง ว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้ สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นไปตามกรรม ถ้าเกินกำลังเราก็ต้องปล่อยวาง ถ้าไม่ปล่อยวางเราก็เครียด
เนื่องจากว่าพระพุทธเจ้านอกจากจะสอนเมตตา กรุณา มุทิตาแล้ว ยังสอนอุเบกขาเอาไว้ด้วย ก็แปลว่าในส่วนของอุเบกขานั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรู้จักเอามาใช้ในสถานการณ์แบบนี้