เถรี
14-09-2019, 23:48
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ดังที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ก่อนเจริญกรรมฐานว่า พวกเราเสียทีที่นับถือพระพุทธศาสนา ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่นำเอาหลักธรรมไปใช้ในชีวิตจริงได้น้อยมาก สังเกตจากการขาดความพอดีในแต่ละอย่าง ในแต่ละงาน
ในเมื่อเราไม่สามารถนำหลักธรรมที่มีประโยชน์สูงสุดมาใช้งานได้ ก็ต้องบอกว่าเสียทีที่เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมและน้อมนำมาปฏิบัติ เพราะว่าการปฏิบัติธรรมของเรานั้น ยังอยู่ในลักษณะของงู ๆ ปลา ๆ ไม่สามารถที่จะสำเร็จสัมฤทธิ์ผลอย่างจริงจังได้ ซึ่งคำตอบของความไม่สำเร็จนั้นก็คือขาดความตั้งใจจริง
บุคคลที่ตั้งใจจริง ที่จะปฏิบัติภาวนานั้น ต้องยอมแลกกันด้วยชีวิต ไม่ใช่ลำบากหน่อยก็ท้อ ลำบากหน่อยก็ไม่เอาแล้ว ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะมีน้อยมาก แม้กระทั่งจะรักษาสภาพจิตของเราให้ผ่องใสในแต่ละวันก็ยาก ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องของมรรคของผลเลย
การที่ท่านทั้งหลายมาปฏิบัติธรรม บาลีใช้คำว่า ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม คำว่าสมควรแก่ธรรมนี้ควรจะจับอะไรเป็นหลัก ก็ต้องดูบารมี ๑๐ เรามีการให้ทานเป็นปกติหรือไม่ ? รักษาศีลเป็นปกติหรือไม่ ? พยายาม ลด ละ เลิก ละเว้นออกจากกามทั้งหลายหรือไม่ ? ใช้ปัญญาประกอบในการปฏิบัติธรรมหรือไม่ ? มีความพากเพียรเต็มกำลังของเราแล้วหรือไม่ ? มีความอดกลั้นอดทนที่จะต่อสู้ จนกระทั่งประสบความสำเร็จหรือไม่ ?
มีความจริงจังจริงใจต่อการปฏิบัติของเราหรือไม่ ? ปักใจมั่นแน่วแน่อยู่กับเป้าหมายของเราไม่คลอนคลายหรือไม่ ? มีความรัก ความสงสาร ความเห็นใจต่อสรรพชีวิตแม้กระทั่งต่อตนเองหรือไม่ ? เมื่อเกินความสามารถของเราที่จะแก้ไขในเรื่องต่าง ๆ แล้ว รู้จักปล่อยวางหรือไม่ ? เราสามารถตรวจสอบได้ทุกวัน
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ดังที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ก่อนเจริญกรรมฐานว่า พวกเราเสียทีที่นับถือพระพุทธศาสนา ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่นำเอาหลักธรรมไปใช้ในชีวิตจริงได้น้อยมาก สังเกตจากการขาดความพอดีในแต่ละอย่าง ในแต่ละงาน
ในเมื่อเราไม่สามารถนำหลักธรรมที่มีประโยชน์สูงสุดมาใช้งานได้ ก็ต้องบอกว่าเสียทีที่เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมและน้อมนำมาปฏิบัติ เพราะว่าการปฏิบัติธรรมของเรานั้น ยังอยู่ในลักษณะของงู ๆ ปลา ๆ ไม่สามารถที่จะสำเร็จสัมฤทธิ์ผลอย่างจริงจังได้ ซึ่งคำตอบของความไม่สำเร็จนั้นก็คือขาดความตั้งใจจริง
บุคคลที่ตั้งใจจริง ที่จะปฏิบัติภาวนานั้น ต้องยอมแลกกันด้วยชีวิต ไม่ใช่ลำบากหน่อยก็ท้อ ลำบากหน่อยก็ไม่เอาแล้ว ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะมีน้อยมาก แม้กระทั่งจะรักษาสภาพจิตของเราให้ผ่องใสในแต่ละวันก็ยาก ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องของมรรคของผลเลย
การที่ท่านทั้งหลายมาปฏิบัติธรรม บาลีใช้คำว่า ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม คำว่าสมควรแก่ธรรมนี้ควรจะจับอะไรเป็นหลัก ก็ต้องดูบารมี ๑๐ เรามีการให้ทานเป็นปกติหรือไม่ ? รักษาศีลเป็นปกติหรือไม่ ? พยายาม ลด ละ เลิก ละเว้นออกจากกามทั้งหลายหรือไม่ ? ใช้ปัญญาประกอบในการปฏิบัติธรรมหรือไม่ ? มีความพากเพียรเต็มกำลังของเราแล้วหรือไม่ ? มีความอดกลั้นอดทนที่จะต่อสู้ จนกระทั่งประสบความสำเร็จหรือไม่ ?
มีความจริงจังจริงใจต่อการปฏิบัติของเราหรือไม่ ? ปักใจมั่นแน่วแน่อยู่กับเป้าหมายของเราไม่คลอนคลายหรือไม่ ? มีความรัก ความสงสาร ความเห็นใจต่อสรรพชีวิตแม้กระทั่งต่อตนเองหรือไม่ ? เมื่อเกินความสามารถของเราที่จะแก้ไขในเรื่องต่าง ๆ แล้ว รู้จักปล่อยวางหรือไม่ ? เราสามารถตรวจสอบได้ทุกวัน