PDA

View Full Version : เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๒


นายกระรอก
04-03-2019, 00:48
ถาม : เงินที่พี่น้องญาติมิตรใส่ซองมาร่วมบุญบวชพระ เมื่อเราถวายเงินนั้นโดยแบ่งเป็นถวายพระอุปัชฌาย์ พระคู่สวด พระอันดับแล้ว หากว่ายังมีเงินเหลืออยู่ เราสามารถถวายเงินที่เหลือนั้นให้เป็นของสงฆ์ โดยให้พระอุปัชฌาย์เป็นองค์แทนแห่งสงฆ์ได้หรือไม่ครับ หรือว่าต้องถวายพระท่านในพิธีการบวชเท่านั้นครับ ?
ตอบ : ถวายท่านแล้วระบุไปเลยว่าจะทำสังฆทาน วิหารทาน หรือธรรมทาน พระอุปัชฌาย์สมัยนี้ส่วนใหญ่ถวายไปท่านก็มักจะอมไว้เอง..!

นายกระรอก
04-03-2019, 00:49
ถาม : หากมีความจำเป็นที่จะตัดต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ตามบ้านเรือน ตามสวนหรือท้องนา (มีการขออนุญาตทางราชการแล้ว) เพื่อนำไม้มาใช้ประโยชน์ เช่น การสร้างบ้าน เป็นต้น ก่อนตัดต้นไม้เหล่านั้น เราควรมีการขอขมา หรือทำพิธีอย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้เกิดโทษเมื่อตัดต้นไม้แล้วครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นโบราณเขาก็ “พลี” ก็คือทำพิธีบอกกล่าวเสียก่อนว่าจะเอาไปทำอะไร แต่ถ้าตามคำแนะนำของหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านให้สร้างศาลเพียงตา แล้วก็ตัดกิ่งของต้นไม้ต้นนั้นที่ใหญ่หน่อย ยาวสักศอกก็ได้ เอาไปตั้งในศาลโดยหันทางปลายขึ้น เพื่อที่เทวดาท่านจะได้ไปอาศัยอยู่ในศาลแทน แล้วก็โค่นไปเลย

นายกระรอก
04-03-2019, 00:50
ถาม : ไม่ทราบว่าตรงส่วนกลางยันต์ทำน้ำมนต์ของพระสารีบุตรเรียกว่าอะไรหรือครับ ?
ตอบ : เรียกว่าอุณาโลม

ถาม : ถ้าจะเขียนยันต์ในส่วนนั้นตรงหยักด้านบน ต้องใช้กี่หยักครับ ?
ตอบ : ไม่เกิน ๙ ซึ่งแทนนวหรคุณ หรือพระพุทธคุณ ๙ ประการ แปลว่าอุณาโลมก็คือองค์พระนั่นเอง

นายกระรอก
04-03-2019, 00:51
ถาม : หากเราทำทองคำเปลวที่ผู้อื่นนำมาปิดไว้หลุดจากองค์พระ ไม่ว่าจะด้วยการทำความสะอาด หรือปิดทองแผ่นใหม่ จำเป็นหรือไม่ ที่เราจะต้องปิดทองทดแทนในตำแหน่งเดิม หรือสามารถปิดตำแหน่งใดก็ได้บนองค์พระ เช่น ภายในองค์พระ แทนตำแหน่งเดิมซึ่งเป็นด้านนอกองค์พระ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเขาปิดเอาไว้เรียบร้อยทั้งองค์ ทำหลุดก็ต้องซ่อมคืนในตำแหน่งเดิมให้สวยงามเหมือนเดิม แต่ถ้าหากว่าปิดทั่ว ๆ ไปซึ่งบางทีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร ถ้าอย่างนั้นเราจะปิดคืนตรงจุดไหนก็ได้ เคยเห็นไหม..? ที่ไปบางวัดแล้วดูไม่ออกว่าสิ่งที่ปิดทองไว้คืออะไร

นายกระรอก
04-03-2019, 00:52
ถาม : ถ้าหากผมคัดลอกภาพผ้ายันต์เกราะเพชร (รุ่น ๒) ทางเว็บวัดท่าขนุน แต่งภาพให้เหลือแต่ตัวอักขระและเส้นขีด แล้วนำไปพิมพ์ลงบนผ้าไว้ใช้เอง เพื่อนำไปขอบารมีพระท่านช่วยพุทธาภิเษก เนื่องในงานเป่ายันต์เกราะเพชร ที่ผมไม่สามารถเดินทางไปวัดได้ ไม่ทราบว่ากรณีนี้ผมจะติดหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ติดหนี้สงฆ์ ได้ในส่วนของพุทธานุสติอีกด้วย แต่จะเอาอานุภาพยันต์เกราะเพชรเต็มที่ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้รับการครอบครูมา ชักสูตรว่าคาถาหรือวางกำลังใจไม่ได้ตามที่พระท่านต้องการ

นายกระรอก
04-03-2019, 00:53
ถาม : ถ้าเราจะบนเรื่องที่เกี่ยวกับการเรียน การศึกษา ควรจะบนท่านใดถึงจะตรงตำแหน่งที่สุดครับ ?
ตอบ : บนพระวิสุทธิเทพบนพระนิพพาน รักษาศีลและเจริญกรรมฐาน โดยเฉพาะรักษาศีล ๘ พร้อมเจริญกรรมฐาน ๗ วัน

นายกระรอก
04-03-2019, 00:54
ถาม : ที่หลวงพ่อเคยกล่าวว่า “เคารพเงินหน่อย แล้วเงินจะมาหาเราเอง ถ้าไม่ให้ความเคารพเลยเขาก็ไม่อยากมา” อยากทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดครับที่การเคารพเงิน จึงทำให้เงินอยากมาหาเรา ?
ตอบ : อย่าลืมว่ารูปบนเงินคือในหลวง ในหลวงคือพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์นอกจากมีเทวดารักษาองค์ท่านแล้ว เพื่อนฝูงที่เป็นเทวดายังเยอะแยะไปหมด ถ้าเราให้ความเคารพท่าน เทวดาชอบใจก็อยากจะมาอยู่กับเรา

อาตมาเจอหลายคนทำเงินเหมือนเศษขยะ ขยุ้ม ๆ ยัดใส่กระเป๋า หยิบออกมาแต่ละทีนึกว่าผ้าขี้ริ้ว ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็จนทั้งชาติ..! จะจัดให้เรียบร้อยสักนิดยังไม่มีเลย

ถาม : บนธนบัตรจะมีรูปพระมหากษัตริย์ไทย และบนเหรียญจะมีรูปวัดอยู่ การนำเงินใส่กระเป๋าเงินและเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงจะมีโทษปรามาสพระรัตนตรัยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าคิดก็เป็น ถ้าไม่คิดก็ไม่เป็น เพราะว่าเงินถ้าไม่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วคุณจะเอาไปใส่ไว้ที่ไหน ? เขาเรียกว่าอยู่ดี ๆ ก็หานรกให้ตัวเอง เป็นเรื่องที่น่าทำเป็นอย่างยิ่ง..!

นายกระรอก
04-03-2019, 00:56
ถาม : กราบเรียนถามหลวงพ่อเกี่ยวกับเหรียญทำน้ำมนต์พุทธบารมีสุริยันทรงกลด เนื้อชินครับว่า มีอุปเท่ห์การใช้และอาราธนาอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : เคยบอกกล่าวไปแล้ว เดี๋ยวไปดูเอาภายในเก็บตกฯ ก็แล้วกัน

ถาม : การนำไปชุบทอง เงิน หรือทองคำขาวจะมีผลต่ออานุภาพของเหรียญหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะว่าแค่นั้นก็ดีเหลือหลายแล้ว

ถาม : การอาราธนาเหรียญทำน้ำมนต์พุทธบารมีสุริยันทรงกลดเนื้อชินไปแช่น้ำเพื่อทำน้ำมนต์สำหรับดื่มกิน โดยไม่ได้ชุบทองก่อน จะมีปัญหาเรื่องสารตะกั่วตกค้างหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ลองทำดูก่อนแล้วจะบอกให้ พูดง่าย ๆ คือให้กินจนเป็นมะเร็งก่อนแล้วค่อยบอก ..(หัวเราะ)..

นายกระรอก
04-03-2019, 00:59
ถาม : ในกรณีที่บิดาหรือมารดาเป็นผู้ป่วยหนัก ไม่รู้สึกตัว มีชีวิตอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ แพทย์ผู้ทำการรักษาได้เสนอทางเลือกในการถอดท่อช่วยหายใจพร้อมเครื่องช่วยหายใจให้แก่บุตรของผู้ป่วยนั้น ถ้าบุตรตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจออก แพทย์จะได้รับผลของอนันตริยกรรมนี้ด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : แพทย์คงไม่เกี่ยวหรอก จะเป็นก็อยู่ที่ลูกหลานนั่นแหละ เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่ารักษาก็คือรักษาไปจนกว่าจะตายคาเครื่องมือ ถ้าไม่รักษาก็อย่าไปรักษาตั้งแต่แรก ถ้ารักษาครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วไปตัดสินใจเอาเครื่องมือออก อาจจะดวงเฮงไม่รู้ตัว..!

ถาม : ในขณะที่ผู้ป่วยใกล้จะเสียชีวิตและมีอาการหอบเหนื่อยมาก ตามมาตรฐานแพทย์จะให้มอร์ฟีนเพื่อบรรเทาอาการหอบของผู้ป่วย แต่การได้รับมอร์ฟีนในขนาดสูงอาจกดการหายใจและทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้นได้ กรณีนี้แพทย์จะได้รับกรรมปาณาติบาตด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ทำหน้าที่ ไม่ได้ตั้งใจฆ่า เจตนาไม่ครบ บาลีเขาบอกว่า ปาโณ สัตว์นั้นมีชีวิตอยู่ ปาณะสัญญิตา เรารู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตอยู่ วะธะกะจิตตัง มีใจคิดจะฆ่า เสร็จแล้วก็ลงมือฆ่า สัตว์นั้นตายตามที่เราตั้งใจ อันนี้ตัดขาดไปตั้งกี่ขั้นตอน ? โดยเฉพาะ ปะโยโค ประกอบความเพียรในการฆ่า คือตั้งใจทำให้สำเร็จ

นายกระรอก
04-03-2019, 01:00
ถาม : ก่อนผู้ป่วยจะเสียชีวิต แพทย์จะมีทางเลือกให้ใช้ยานอนหลับเพื่อให้ผู้ป่วยจากไปอย่างสงบหรือไม่รู้สึกตัว อยากทราบว่าระหว่างการเสียชีวิตขณะหลับกับการเสียชีวิตขณะมีสติสมบูรณ์ อย่างใดจะมีโอกาสไปสู่สุคติมากกว่ากันครับ ?
ตอบ : ถ้าคนมีสติสมบูรณ์ จะหลับจะตื่นเขาก็รู้เท่ากัน เพราะฉะนั้น..คำว่าสติสมบูรณ์ของคุณก็คือรู้ตัว แต่ไม่สมบูรณ์อย่างในความหมายของนักปฏิบัติธรรม

ถาม : หากก่อนเสียชีวิต ผู้ป่วยมีอาการเพ้อหรือมีสติที่ไม่สมบูรณ์จากตัวโรค การให้ยานอนหลับจะช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสไปสู่สุคติมากขึ้นหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่าจิตสุดท้ายเกาะอะไรก็ไปอย่างนั้น หลับไปทั้ง ๆ ที่จิตเกาะด้านไม่ดีก็ลงอบายภูมิอยู่ดีนั่นแหละ

นายกระรอก
04-03-2019, 01:02
ถาม : กรณีที่มีการบูชาวัตถุมงคลจากวัดโดยตรง แล้วผู้บูชานำมาแบ่งให้ผู้ที่บูชาไม่ทันบูชาต่อ เช่น เหรียญพุทธบารมีสุริยันทรงกลด ออกวัดร่วมบุญ ๓,๐๐๐ บาท เอามาแบ่งต่อ ๔,๐๐๐ บาท แบบนี้ ผู้ที่บูชาต่อในราคา ๔,๐๐๐ บาท ถือว่าได้ร่วมบุญกับวัดท่าขนุน ๓,๐๐๐ บาทตามราคาออกวัด หรือไม่ครับ ? เพราะตามความเข้าใจผมคือ เราก็จ่ายเงินเท่ากับที่เขารับมาก่อน (เสมือนว่าเขาออกเงินให้ก่อน) เราควรได้รับผลบุญนั้นด้วย
ตอบ : ก็ตามนั้นแหละ

ถาม : ผมกำลังจะบูชาตะกรุดมหาสะท้อนทองคำ ต่อจากพี่ท่านหนึ่ง ซึ่งทราบว่าได้ร่วมบุญทองคำ ๓ บาทกับทางวัดเพื่อแลกมา ทองคำเหล่านั้นจะนำมาหล่อพระทองคำในเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ นี้ใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ต้องกลับไปดูใหม่ว่าตอนนั้นประกาศว่าจะเอาทองไปทำอะไร ส่วนใหญ่แล้วที่ให้แลกเป็นทองคำก็คือเอามาเพื่อที่จะหล่อพระ

นายกระรอก
04-03-2019, 01:03
ถาม : ในหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน กล่าวว่า ในสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็น มหาทุคตะ และได้ถวายกฐินพร้อมปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณและได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าสมณโคดม แต่ในพระไตรปิฎกพุทธวงศ์ บอกว่าท่านเสวยพระชาติเป็นชฎิลชื่อ รัฏฐิกะ ไม่ทราบว่าเป็นพระชาติเดียวกันแต่คนละช่วงเวลา หรือคนละพระชาติแต่เป็นยุคพระพุทธเจ้าปทุมุตตระเหมือนกันครับ ?
ตอบ : คุณรู้ไหมว่ายุคพระพุทธเจ้าปทุมุตตระอายุพระศาสนาท่าน ๓๐,๐๐๐ ปี ? ๓๐,๐๐๐ ปีถ้าคนจะเกิดจะตายนี่เกิดกี่ครั้ง ? เพราะฉะนั้น..ยุคเดียวอาจจะเกิดหลายครั้งได้ ก็แปลว่าเป็นคนละชาติกัน แต่ว่าอยู่ในยุคสมัยพระพุทธปทุมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์เดียวกัน

นายกระรอก
04-03-2019, 01:03
ถาม : บริวารในวิมานของเทวดาชั้นดุสิตต้องเป็น พุทธภูมิ พุทธมารดา พุทธบิดา หรือพระอริยเจ้า เท่านั้นหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่เป็นก็ต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นจนได้ เพราะว่าถ้ากติกาไม่พอก็เข้าในเขตนั้นไม่ได้

นายกระรอก
04-03-2019, 01:05
ถาม : พระคำข้าว พระหางหมาก ต้องอาราธนาด้วยการท่อง นะโมฯ ๓ จบ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ต่อด้วยคาถาอิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตังฯ ทั้งเช้าและเย็น หรือว่าตอนเย็นอาราธนาเฉพาะคาถาอิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตังฯ ครับ ?
ตอบ : ของอาตมาเล่นด้วยคาถาเงินล้านอย่างเดียวมานานแล้ว มีเวลาก็ทำให้เต็มที่ตามที่เราสบายใจ หลังจากนั้นเราชอบพระคาถาบทไหนหรือว่าภาวนาบทไหนจนติดใจ เราก็ภาวนาไป เพียงแต่ว่านึกถึงภาพพระสมเด็จคำข้าว หรือ พระสมเด็จหางหมากเอาไว้ก็แล้วกัน

นายกระรอก
04-03-2019, 19:42
ถาม : ผมสามารถอาราธนาวัตถุมงคลที่ติดตัวพ่อแม่ให้ท่านคุ้มครองพ่อแม่แทนได้หรือไม่ ?
ตอบ : เป็นไปไม่ได้ สมมติว่าเราโทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนหนึ่งเพื่อที่จะคุยแทนพ่อแม่ คุณคิดว่าจะรู้เรื่องกันไหม ? เครื่องรับอยู่กับพ่อแม่ เครื่องส่งอยู่ที่พระท่าน ก็ต้องให้คนที่เป็นเจ้าของเครื่องรับเปิดเครื่องรับเอง ไม่ใช่เราไปเปิดเพื่อรับแทน

ยกเว้นอยู่กรณีเดียวคือได้อภิญญา ๕ ถ้าหากว่าได้อภิญญา ๕ ขึ้นไป สามารถที่จะอธิษฐานให้เป็นไปตามที่ตนเองต้องการแทนคนอื่นได้

นายกระรอก
04-03-2019, 19:42
ถาม : การสวดคาถาเงินล้านควบลมหายใจ จำเป็นต้องหายใจเข้า-สัมปะจิตฉามิ หายใจออก-นาสังสิโม หรือท่องคาถาไปเรื่อย ๆ คาถาที่ท่องจะอยู่ตรงช่วงหายใจเข้าหรือไม่ต้องเหมือนกันทุกรอบก็ได้ครับ ?
ตอบ : อย่างไรก็ได้ ให้เรารู้สึกว่าภาวนาได้คล่องตัวตามลมหายใจเท่านั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องไปบังคับว่าตรงไหนขึ้นตรงไหนจบ

นายกระรอก
04-03-2019, 19:44
ถาม : คาถาอิติปิ โสฯ แปดทิศ ลองค้นข้อมูลมี ๒ ตำราที่ต่างกันบางส่วน อยากทราบว่าของหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น
ภะสัมสัมวิสะเทภะ คือ คาถาตวาดป่าหิมพานต์
คะพุทปันทูทัมวะคะ คือ คาถานารายณ์พลิกแผ่นดิน
วาโธโนอะมะมะวา คือ คาถานารายณ์ขว้างจักรตรึงไตรภพ
ผมเข้าใจถูกหรือไม่ครับ ?
ตอบ : จะถูกหรือไม่ถูกก็ช่างหัวมัน เพราะว่าคาถาเป็นเพียงเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิ พอสมาธิทรงตัว ต้องการความสำเร็จอย่างไรอยู่ที่ใจเราคิด เพราะฉะนั้น..คาถาจะผิดจะถูก ถ้าใจเราคิดให้เป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น

นายกระรอก
04-03-2019, 19:45
ถาม : เพราะเหตุใดการปฏิบัติสมาธิหรือทรงฌานจึงเป็นบุญใหญ่และมีอานิสงส์มากครับ ?
ตอบ : เพราะว่าเราสามารถควบคุม กาย วาจา ใจ ของเราไม่ให้คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วได้ ในเมื่อถึงเวลาเราทรงสมาธิอยู่ ใจไม่คิดชั่ว ปากไม่พูดชั่ว กายไม่ทำชั่ว มหากุศลก็เกิดขึ้นกับเราเอง และถ้าหากว่ายิ่งไม่กระทำกรรมใหม่ และสามารถขัดเกลาใจตัวเองไปเรื่อย ๆ ให้กรรมเก่าเบาบางลง โอกาสที่จะหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานก็มี จึงเป็นมหากุศลใหญ่ด้วยประการฉะนี้

ถาม : อานิสงส์ของการปฏิบัติสมาธิมีอะไรบ้างครับ ?
ตอบ : ไปเปิดตำราดู ค้นในกูเกิ้ลก็ได้ คุยกัน ๓ วันยังไม่จบเลย..!

นายกระรอก
04-03-2019, 19:46
ถาม : หากเราได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ลงข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาพุทธสายวัชรยานในสื่อออนไลน์ โดยที่เราไม่ได้ยินดีหรือเห็นด้วยในบางประการและมีความรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากผมเคยศึกษาธรรมะสายหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ผมจะมีโทษหรือไม่ และควรทำอย่างไรเพื่อให้ผ่านพ้นงานดังกล่าวไปได้ด้วยดีครับ ?
ตอบ : ตั้งหน้าตั้งตาทำให้เสร็จก็ผ่านพ้นไปแล้ว เขาเรียกว่าฟุ้งซ่าน คิดมาก หานรกใส่ตัว..! เรามีหน้าที่ทำตามคำสั่งเราก็ทำไป ส่วนทำไปแล้วนั้น ผลของคนอื่นจะเป็นอย่างไรเราไม่เกี่ยว

นายกระรอก
04-03-2019, 19:48
ถาม : ในหนึ่งวันที่เราใช้ชีวิต จะมีช่วงที่ชีวิตของเราประสบกับปัญหาชีวิต เมื่อเปิดเฟซบุ๊ก แล้วเจอคำสอนของครูบาอาจารย์ที่ลูกศิษย์ของท่านได้ลงเป็นธรรมทาน คำสอนของท่านเหมือนส่งมาสอนเราโดยเฉพาะตอนนั้นจุดนั้น เหมือนท่านมาสอนเราให้สามารถคลายปัญหาชีวิตไปได้ จากหลาย ๆ เพจ และหลาย ๆ คน ขึ้นมาพร้อมกันช่วงนั้น เหมือนท่านสอนเราผ่านสื่อออนไลน์ กระผมอยากจะกราบเรียนถามว่า พอจะเป็นไปได้หรือไม่ครับ ที่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตามาสงเคราะห์เราช่วงนั้นจริง ๆ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าวาระบุญของเราเข้ามาช่วงนั้นพอดีก็เป็นไปได้ว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเป็นการดลจิตดลใจของครูบาอาจารย์หรือพรหมเทวดา ที่ท่านสงเคราะห์ให้เราได้รับประโยชน์ตรงนั้น ถ้าไม่มีกุศลเก่าที่มาเสริมและช่วยเหลือ โอกาสที่จะพบเรื่องอย่างนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมาก

นายกระรอก
04-03-2019, 19:49
ถาม : ในการที่เราโมทนาเงินหรือธนบัตรในการทำบุญ แล้วนำเงินหรือธนบัตรนั้นไปฝากให้เขาโอนให้ โดยที่คนโอนจะได้ธนบัตรไป แล้วเขานำเงินในบัญชีโอนทำบุญให้เรา อยากทราบว่าอานิสงส์ของบุญเราจะได้เต็มหรือไม่ครับ ?
ตอบ : น่าจะแหว่งไปนิดถ้าธนบัตรขาด..! ก็ได้เท่าเดิมนั่นแหละ เพียงแต่สะดวกขึ้นเสียด้วย ไม่ต้องไปเองให้เหนื่อย

นายกระรอก
04-03-2019, 19:50
ถาม : หากภาวนาคาถาเงินล้านแบบช้า ๆ พร้อมกับลมหายใจไปด้วย เป็นเวลา ๑ ชั่วโมง ซึ่งอาจจะไม่ครบ ๑๐๘ จบ การภาวนาแบบนี้จะเท่ากับภาวนาปกติครบ ๑๐๘ จบหรือไม่ครับ ?
ตอบ : จะภาวนาแบบไหนก็ตามสำคัญตรงสมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัวมากเท่าไร ผลของคาถาก็มีมากเท่านั้น

นายกระรอก
04-03-2019, 19:51
ถาม : ยันต์พุทธบารมีที่พระอาจารย์ได้ถอดมาจากธงมหาพิชัยสงครามนั้นมีอานุภาพอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : พุทโธ อัปปมาโณ อธิบายไม่หมดหรอก เอาเป็นว่าถ้ามั่นอกมั่นใจ เขามีนิวเคลียร์ตรงไหนก็เดินเข้าไปตรงนั้นแหละ ถ้าตายทางวัดท่าขนุนเผาให้ฟรี..!

ถาม : มีวิธีอาราธนาอย่างไรครับ ?
ตอบ : ไปดูในเก็บตกฯ

นายกระรอก
04-03-2019, 19:55
ถาม : ผมได้ร่วมทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดแห่งหนึ่งหลายครั้ง และทางวัดได้ซื้อที่ดินเรียบร้อยแล้ว แต่ได้ทราบมาว่าโฉนดเป็นชื่อของโยมไม่ใช่ชื่อวัด ผมเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้อง ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ ?
ตอบ : โฉนดเป็นชื่อนายไชยบูลย์ สุทธิผลหรือเปล่า เห็นสงสัยกันจัง ? เรื่องของการทำทาน ก่อนจะทำหรือนึกว่าจะทำมีความปีติ ก็คือชุ่มชื่นอิ่มเอิบใจ ในระหว่างที่ทำมีความปีติ คือชุ่มชื่นอิ่มเอิบใจ เมื่อทำไปแล้วนึกถึงเมื่อไรก็เกิดปีติ คือความชุ่มชื่นอิ่มเอิบใจ ถ้าอย่างนี้ผลของทานเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เรากำลังหาเรื่องให้ผลบุญของตัวเองลดน้อยลง

นายกระรอก
04-03-2019, 19:56
ถาม : ผมนั่งสมาธิทุกเช้าโดยเปิดเสียงหลวงพ่อวัดท่าซุงและรู้ลมหายใจเข้าออกพร้อมกับภาวนาพุทโธ และหูก็ฟังท่านไปด้วย ผมทำอย่างนี้ถูกไหมครับ ?
ตอบ : ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถูกหรือเปล่า ? เพราะว่าคุณทำไม่ใช่อาตมาทำ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วการใช้เสียงธรรมเป็นเครื่องโยงใจจะทำให้สมาธิทรงตัวได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้น..ก็ควรที่จะทำบ่อย ๆ จะได้ผ่อนแรงตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งอยู่นาน

นายกระรอก
04-03-2019, 19:58
ถาม : หนูนั่งกรรมฐานทุกคืนก่อนนอน ขอบารมีหลวงพ่อฤๅษีฯ หลวงพ่อเล็ก และพระวิสุทธิเทพ ให้นำจิตของลูกขึ้นสู่พระนิพพาน เดี๋ยวนี้ละเมอบ่อย ๆ รวมถึงมีแผลช้ำเป็นจ้ำช่วงขาลงไป เป็นเพราะเหตุใดคะ ?
ตอบ : ไปโดนผัวตีมาหรือเปล่า ? ..(หัวเราะ).. การละเมอบางทีเราเหวี่ยงแขนเหวี่ยงขาไปโดนตัวเองก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าสภาพจิตก่อนนอนของเราเกาะอะไร ถึงเวลาก็ไปตามนั้น ยังจะไปกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่ไม่รู้ตัวอยู่อีก

นายกระรอก
04-03-2019, 19:59
ถาม : เราสามารถอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรและเทพเจ้าทุกพระองค์แทนผู้มีพระคุณที่ดูแลเราได้ไหมคะ ?
ตอบ : เราอุทิศได้ แต่ว่าสิ่งที่เราอุทิศนั้นเกิดจากผลบุญของเรา ส่วนผู้ที่เราอุทิศแทนก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย สรุปว่าเทวดาท่านได้กำไร ก็คือได้บุญเพิ่มขึ้นมา ในส่วนของผลบุญของบุคคลผู้นั้นก็ดี หรือว่าการกระทำของบุคคลผู้นั้นก็ดี ในเมื่อเจตนาไม่มี การกระทำไม่เกิด กรรมก็คือไม่มี ก็แปลว่าไม่เกิดผลอะไรขึ้นกับเขา

เถรี
05-03-2019, 07:18
พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านใดที่จองเหรียญพุทธบารมีสุริยันทรงกลดไว้ โบราณเขาให้ทำน้ำมนต์ล้างหน้า แต่ใครจะรักษาโรคก็อธิษฐานเอาตามอัธยาศัย

พระพุทธเจ้าล้างหน้า พระธรรมเจ้าล้างทุกข์ พระสังฆเจ้าสร้างสุข นะโมพุทธายะ

เสกน้ำล้างหน้าทุกวัน ถ้าหาขันน้ำมนต์มาไม่ได้ จะใช้ขันอะไรก็ได้"

นายกระรอก
05-03-2019, 19:18
พระอาจารย์กล่าวว่า “ในเรื่องของการภาวนา คาถาจะยาวจะสั้นอย่างไรก็ตาม ปล่อยให้เป็นไปตามสบายไม่ต้องไปบังคับ ถึงเวลาเราแค่ตามรู้ว่าตอนนี้ลมผ่านจมูก ลมผ่านอกลงไปที่ท้อง ลมออกจากท้องผ่านอกมาปลายจมูก ส่วนตัวคาถาหรือคำภาวนาจะตรงกับคำไหน จะตรงกับช่วงไหนก็ไม่เป็นไร ทำให้เบา ๆ สบาย ๆ ดีกว่าที่จะไปกด ไปบังคับตัวเองให้เครียด ด้วยการตั้งใจว่าคำนี้ต้องลงจังหวะนี้ คำนี้ต้องลงฐานนี้ ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่ภาวนาแล้วได้ดี หรือให้อารมณ์ใจทรงตัวก็ยาก เพราะว่าเราบังคับจิตตัวเองมากจนเกินไป”

นายกระรอก
05-03-2019, 19:22
พระอาจารย์กล่าวว่า “ญาติโยมทั้งหลาย..ช่วงนี้ก็อากาศเปลี่ยนจากหนาวมาร้อน แต่ถ้าเป็นที่ทองผาภูมินี่มี ๓ ฤดูเลย เพราะฉะนั้น..ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง มีคนแก่มีคนป่วยต้องดูแลให้ดี ไม่อย่างนั้นแล้วคนแก่หรือคนป่วยเลือดลมไม่ดี ทนการเปลี่ยนแปลงของอากาศไม่ได้ ดีไม่ดีก็จะไปเอาง่าย ๆ

แม้กระทั่งตัวเราก็เหมือนกัน ถ้ารู้ว่าสุขภาพอ่อนแอ เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ ก็พยายามดูแลรักษาให้ดี ห้องปรับอากาศมีโทษมากกว่าประโยชน์ ไม่จำเป็นอย่าไปใช้ สิ่งแรกเลยก็คือ อากาศหนาวทำให้เส้นสายในตัวเราหด กลายเป็นเส้นจมเส้นตึงโดยอัตโนมัติ ถ้าสงสัยว่านอนทั้งคืน ตื่นขึ้นมาทำไมปวดไปทั้งตัว บางคนก็คอเอียงไปข้างหนึ่ง บอกว่าตกหมอน ทั้ง ๆ ที่หัวก็อยู่บนหมอนนั่นแหละ ก็เพราะว่าอากาศเย็นทำให้เส้นของเราหดตัว ถ้าใครอ่อนไหวมากก็หดมาก จึงมีอาการเช่นนั้น

ประการที่สองก็คือ ห้องปรับอากาศส่วนใหญ่แล้วอากาศใหม่ไม่มี เป็นการหมุนเวียนอากาศเก่าข้างในเท่านั้น โอกาสที่เราจะขาดออกซิเจนมีมาก พอร่างกายได้รับออกซิเจนไม่พอ ส่งไปเลี้ยงร่างกายบางส่วนไม่ถึง ร่างกายส่วนนั้นก็ต้องพยายามดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด วิธีดิ้นรนให้อยู่รอดก็คือสร้างเซลล์ที่มีความทนทานใหม่ ๆ ขึ้นมา พอสร้างขึ้นมามาก ทำอันตรายกับร่างกายตัวเองก็เดือดร้อนอีก เพราะเขาเรียกเซลล์นั้นว่า 'มะเร็ง'”

นายกระรอก
05-03-2019, 19:25
“อาตมาอยากสรุปว่า ปัจจุบันที่เป็นมะเร็งกันมากเพราะว่านอนห้องปรับอากาศด้วย เพราะฉะนั้น..ถ้ามีโอกาสก็เปิดให้อากาศถ่ายเทไว้ทุกวัน ส่วนใหญ่ผู้หญิงสมัยนี้ดี ฝึกโยคะกันบ่อย การหายใจแบบโยคะช่วยได้มาก เพราะว่าหายใจได้ทั่วท้อง การหายใจแบบโยคะ เป็นการหายใจ ๓ ช่วง ก็คือหายใจด้วยปอดช่วงบน หายใจด้วยปอดช่วงล่าง และหายใจทะลวงถึงท้องหรือสะดือ ซึ่งในส่วนนั้นทางการแพทย์เขารับไม่ได้ เพราะเขาเห็นว่าปอดมีอยู่แค่ช่วงหน้าอก จะหายใจลงไปถึงสะดือได้อย่างไร ?

อาตมาขอยืนยันว่าถ้าหายใจเป็น หัวแม่เท้าก็หายใจถึง..! เพราะว่าตัวอาตมาเองทำเป็นปกติ ร่างกายของเราทุกส่วนสามารถใช้แทนจมูกได้ ขุมขนของเราทุกขุมขนสามารถรับอากาศหรือสารอาหารเข้าไปได้ เพราะฉะนั้น..บรรดาสุภาพสตรีที่ฝึกโยคะ พยายามหายใจตามแนวโยคะ จะช่วยลดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยอื่น ๆ ลงไปได้เยอะ ส่วนสุภาพบุรุษก็ไม่ต้องไปทำตามโยคะหรอก ให้เอาอานาปานสติ ทรงอารมณ์ตั้งแต่ปฐมฌานละเอียดขึ้นไป ปราณละเอียดไปได้ทั่วตัวก็ดีพอกันนั่นแหละ”

นายกระรอก
05-03-2019, 19:27
พระอาจารย์กล่าวว่า “ตอนนี้สมาคมผู้ค้าทองกำลังหาข้อมูลอยู่ว่า คนซื้อทองไปทำอะไรกันเยอะแยะ ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจไม่ได้เรื่องอย่างนี้

ของอินเดียเขาจะมีช่วงการใช้ทองมาก ก็คือเดือนที่เป็นมงคล เขาจะมีการแต่งงานกัน ไม่ว่าจะแขกอินเดียที่เป็นฮินดูส่วนใหญ่ก็ดี หรือแขกตะวันออกกลางที่เป็นมุสลิมก็ตาม ใช้ทองคำได้อลังการมาก ก็คือโปะเข้าไปจนแทบจะเลี่ยมทองทั้งตัว ส่วนประเทศจีนส่วนใหญ่ก็คือช่วงตรุษจีน มีธรรมเนียมการให้เงิน ก็คือเพื่อให้ลูกหลานหรือว่าคนรับใช้ได้มีสตางค์เที่ยวช่วงปีใหม่ ซึ่งเราเรียกว่าตรุษจีน มาภายหลังมีการนิยมให้ทองคำมากขึ้นเรื่อย ๆ ทางประเทศจีนจึงใช้ทองคำกันมากช่วงตรุษจีน

ส่วนประเทศไทยของเราก็ใกล้เคียงกัน เพราะว่าพี่น้องเชื้อสายจีนมีมาก เพียงแต่ว่าช่วงนี้หลังตรุษจีนแล้ว เขาเลยสงสัยว่าทำไมถึงซื้อทองคำกันมาก ? ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจก็ไม่เอาไหน อาจจะคิดว่ารัฐบาลลุงตู่บริหารดีขึ้นมาหรืออย่างไร ถึงได้เงินสะพัดขนาดนี้..!”

นายกระรอก
05-03-2019, 19:29
พระอาจารย์กล่าวว่า “เหรียญพุทธบารมีสุริยันทรงกลด เนื้อชนวนหลวงพ่อนากเสร็จเรียบร้อยแล้ว รออย่างเดียวว่าจะเอาไปเข้าพิธีที่ไหน อาตมาตั้งใจมอบให้เป็นรางวัลแก่บุคคลที่เป็นเจ้าของกองทุนจัดงานวันเกิด ๖๐ ปีของอาตมา ก็คือท่านทั้งหลายสละเงินกองทุนละ ๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อที่จะจัดงานวันเกิดให้อาตมา โดยที่ไม่ได้คิดต้องการผลตอบแทนใด ๆ นอกจากแสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์

ในเมื่อท่านมีมิตรจิต อาตมาก็มีมิตรใจ หลังจากที่ทำบาตรน้ำมนต์แล้ว ก็เทส่วนที่เหลือทั้งหมดลงไปสร้างเหรียญ ได้แค่ประมาณ ๔๕๐ เหรียญ ก็คือ ๑๕๐ เหรียญสำหรับบาตรน้ำมนต์ และ ๓๐๐ เหรียญสำหรับกองทุน เพราะฉะนั้น..ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้เป็นเจ้าของกองทุนด้วย ใครจะเอาไปโก่งราคาต่อก็เชิญตามสบาย เพราะว่าให้ท่านไปแล้ว..! แต่ส่วนใหญ่ก็ถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กเอาไปอวดกัน”

เถรี
06-03-2019, 21:04
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในวัดไม่ได้ส่งผลดีต่อพระพุทธศาสนาเลย โดยเฉพาะในส่วนของการบวชนาคแล้วเสียงดัง ตามที่อาตมาได้กล่าวไปแล้วว่า พระภิกษุสามเณรของเรานั้น อันดับแรกต้องปฏิบัติตามพระธรรมวินัย อันดับที่ ๒ คือกฎหมายบ้านเมือง อันดับที่ ๓ คือจารีตประเพณี คราวนี้การแห่นาคกลายเป็นจารีตประเพณีไปแล้ว

พอมีเรื่องกระทบกระทั่งกันขึ้นมาแทนที่จะลงโทษคนผิด กลับมาบีบบังคับพระและวัดห้ามไม่ให้มีเสียงดัง ถ้าญาติโยมสังเกตจะเห็นว่าปัจจุบันนี้ข้อกฎหมายต่าง ๆ ออกมาอยู่ในลักษณะที่ทำให้การบวชเป็นไปโดยยากที่สุด น่าเบื่อหน่ายที่สุด จนกระทั่งเขาจะไม่คิดบวชกัน แต่ขณะเดียวกันถ้าหากว่าทำอะไรผิดพลาด จะโดนสึกง่ายที่สุด"

เถรี
06-03-2019, 21:05
"ถ้าหากว่าเราคิดกันแบบทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด ก็คือต้องมีใครสักคนที่วางแผนชักใยในการทำลายพุทธศาสนาอย่างถึงแก่น โดยที่อาศัยเหตุการณ์ต่าง ๆ มาค่อย ๆ ตัดรอนสิทธิในการบวชของพระไปเรื่อย ๆ

ล่าสุดจะบวชพระ ต้องส่งสำนักงานพุทธศาสนาให้ตรวจประวัติ ส่งกองปราบปรามให้ตรวจประวัติ พระเราปัจจุบันติดด้วยการทำมาหากิน การจะบวชตามประเพณีเป็นเรื่องที่สละเวลา ๓ วัน ๕ วันก็ยากแล้ว แต่ว่ามาติดขั้นตอนในการบวช ก็คือพอไปสมัครเป็นนาคแล้ว ต้องเสียเวลาอย่างน้อย ๆ ก็ ๑๕ วันกว่าที่จะได้รับอนุญาตจากทางราชการ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพระธรรมวินัยเลย"

เถรี
06-03-2019, 21:06
"พระธรรมวินัยก็คือพระอุปัชฌาย์ ๑๐ พรรษาขึ้นไป มีความเข้าใจในพระธรรมวินัยเป็นอย่างดี สามารถให้การอุปสมบทกุลบุตรได้ แล้วการบวชก็คือพ่อแม่เห็นด้วย พระอุปัชฌาย์ไม่คัดค้าน พิจารณาแล้วว่าสมควรได้ยกขึ้นอุปสัมบันก็บวชได้

แต่อย่างในปัจจุบันนี้มีการกำหนด อย่างเช่นว่า ถ้าหากว่าเป็นการปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ๒๓ จังหวัด บุคคลที่จะเป็นพระอุปัชฌาย์ต้องมี ๒๐ พรรษาขึ้นไป นี่มากกว่าที่พระพุทธเจ้าท่านกำหนด ๑ เท่าตัว แล้วพระที่กว่าจะบวชถึง ๒๐ พรรษานี่คิดว่าง่ายไหม ? ประการต่อไปก็คือการปกครองคณะสงฆ์หนอื่น ๆ อย่างน้อยก็ ๑๕ พรรษา ยกเว้นว่าอยู่ในที่กันดารอาจจะได้รับอนุมัติเป็นพิเศษ พรรษาไม่ต้องถึงแต่ก็ต้องเกิน ๑๐ อยู่ดี"

เถรี
06-03-2019, 21:07
"ก็แปลว่าระเบียบคณะสงฆ์ก็มาบีบบังคับ กฎหมายบ้านเมืองก็มาบีบบังคับ สถานการณ์การทำมาหากินการครองชีพก็มาบีบบังคับ เราเห็นว่าโอกาสที่พุทธศาสนาของเราจะแกร็นแล้วก็ตายมีสูงมาก

โดยเฉพาะเจตนาของศาสนาอื่นที่แฝงเข้ามา เพื่อที่จะทำลายพุทธศาสนาโดยตรง แม้ว่าในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้าราชการส่วนหนึ่งก็เป็นอิสลาม บ้าไหมที่รับเข้าไป ? ตรวจสอบเจอแล้วเอาออกไม่ได้ด้วย หาว่าเป็นการริดรอนสิทธิคนอื่นเขา แล้วทำไมหน่วยงานอย่างคณะกรรมการกลางอิสลามไม่เอาคนพุทธเข้าไปบริหารบ้าง ?"

เถรี
06-03-2019, 21:09
"ส่วนที่น่าตำหนิที่สุดคือส่วนราชการของเรา สำนักนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย ให้รับผิดชอบเกี่ยวกับสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ตัวสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มีหน้าที่ถวายการรับใช้ต่อพระภิกษุสงฆ์ แล้วก็กรมการศาสนาที่ส่วนหนึ่งต้องรับผิดชอบศาสนาพุทธ แต่ปัจจุบันนี้เหมือนกับเป็นกรมการศาสนาอิสลามไปแล้ว หน่วยงานทั้งหลายเหล่านี้ ตลอดถึงมหาเถรสมาคมของเรา สมควรที่จะได้รับการตำหนิอย่างมาก เกิดเหตุอะไรขึ้นไม่มีการชี้แจงต่อประชาชน ว่าที่ถูกที่ควรคืออะไร มีแต่ออกกฎ ออกระเบียบ ออกกฎหมายมาบังคับพระ แล้วท้ายที่สุดก็จะไม่เหลือพระให้โยมทำบุญ

เรื่องพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วเราไปหลงประเด็นกันหมด คำว่าหลงประเด็นก็คือ กลายเป็นว่าอาศัยกระแสสังคมในช่วงนั้น ๆ ซึ่งบางทีสื่อบางสื่อก็เป็นศาสนาอื่นเขาจ้างไว้ ให้ช่วยกันประโคมโหมให้เป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็ฉวยโอกาสออกกฎหมายหรือระเบียบอะไรมาบีบบังคับ เพื่อต้อนพระพุทธศาสนาของเราให้เล็กลงไปเรื่อย ๆ กระทั่งท้ายสุดก็ไม่มีอะไรเหลือ"

เถรี
06-03-2019, 21:10
"มีทั้งพวกที่ตระหนักถึง แต่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคิด ไม่กล้าต่อต้าน แล้วก็อีกพวกหนึ่งที่ไม่ได้ตระหนักถึง จะเป็นเพราะความโง่หรือแกล้งโง่ก็ตาม กลายเป็นแนวร่วมในการช่วยกันกระทืบและทำลายพระพุทธศาสนาไปด้วย

เรื่องพวกนี้ขอให้ญาติโยมทั้งหลายได้ตระหนักไว้ว่า ภัยของพุทธศาสนาเข้ามาจนติดตัวแล้ว อาตมาขอแค่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ให้ญาติโยมพิจารณาให้ดี ๆ ว่าพรรคไหนอวยอิสลาม พรรคไหนสนับสนุนอิสลาม พรรคไหนอิสลามตั้งขึ้นมา พรรคไหนเป็นแนวร่วมอิสลาม กรุณาอย่าเลือก ให้เลือกพรรคที่สนับสนุนศาสนาพุทธ ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะไม่เหลือศาสนาเอาไว้เลย"

เถรี
06-03-2019, 21:11
พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "ไม่ต้องไปพยายามลดน้ำหนัก ลดอาหารก็แล้วกัน โดยเฉพาะมื้อหลังเพลไปแล้ว ถือศีล ๘ ก็ไม่รอดหรอก ถ้ากินแต่น้ำหวานเข้าไปเช้ายันค่ำ น้ำหวานน้ำอัดลมนี่ตัวดีเลย โค้ก ๑ ขวดหรือ ๑ กระป๋อง มีน้ำตาลตั้ง ๖ ช้อนชา ก็เท่ากับกินน้ำตาลเข้าไปตลอดเวลา"

เถรี
06-03-2019, 21:13
พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนหน้าเมษายน วันที่ ๗​ มีการทำบุญบ้านเติมบุญหลังนี้

ตอนแรกก็ทำบุญบ้านเติมบุญกันในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนเกิดของคุณณัฐพล สุขวัฒนสิริ หรือคุณต๋อง ที่เป็นกำลังใหญ่ในการสร้างบ้านเติมบุญหลังนี้ คราวนี้ปรากฏว่าปีนี้ติดงานบรมราชาภิเษกก็เลยเลื่อนมาเดือนเมษายน คือทำก่อนเดือนหนึ่ง แต่อาตมาเห็นว่า ถ้าเลื่อนแล้วก็ให้อยู่เดือนเมษายนไปตลอดก็แล้วกัน โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนก็มีวันจักรีบรมราชวงศ์ด้วย ถ้าเลื่อนไปเลื่อนมาคนจะจำยาก ให้เอาเดือนเมษายนยาวไปเลย"

เถรี
06-03-2019, 21:15
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลายคนยังไม่ทราบว่า หลวงพ่อนาก หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อทองคำ อาตมาสร้างเป็นสมเด็จองค์ปฐมทั้งหมด บางคนก็ถามว่าใช่สมเด็จองค์ปฐมไหม ? บอกว่าใช่ทุกองค์ เพียงแต่ว่าอยู่ในคนละรูปแบบเท่านั้น

หลวงพ่อเงินอยู่ในรูปแบบพระพุทธสิหิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ก็คือพระแบบภาคเหนือ

หลวงพ่อนากเป็นแบบหลวงพ่อพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ศิลปะศรีวิชัยแบบใต้

ส่วนหลวงพ่อทองคำนั่นก็คือพระแก้วมรกต ที่เราถือว่าเป็นพระที่อยู่ภาคกลาง แต่จริง ๆ แล้วพระแก้วมรกตเป็นศิลปะล้านนา ก็แปลว่าคุมเหนือ กลาง ใต้พอดี"

เถรี
06-03-2019, 21:16
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของพระเราต้องละเอียด ทรัพย์ย้ายออกจากฐาน เศษ ๑ ส่วน ๑๖ ของเส้นผม ถือว่ากระทำกรรมนั้นสำเร็จ ถ้าราคาได้ ๕ มาสกขึ้นไป ขาดความเป็นพระเลย ต้องระวังให้ดี

๕ มาสกนี่บ้านเราตีความว่าเท่ากับเงินบาทเดียว โยมเขายังไม่ได้ประเคนก็ไปคว้าของเขามาแล้ว เดี๋ยวจะซวยแบบไม่รู้ตัว"

เถรี
06-03-2019, 21:17
ถาม : เหรียญทำน้ำมนต์สุริยันทรงกลดเนื้อนากมีมวลสารอะไรบ้างครับ ?
ตอบ : ก็มวลสารที่เหลือจากการหล่อหลวงพ่อนากนั่นแหละ ยังจะเอามวลสารอะไรอีก ?

ถาม : เผื่อจะมีแถม ?
ตอบ : อยากได้ของแถมต้องเข้ามาใกล้ ๆ ขนาดนั้นแล้วยังจะเอาอะไรอีก ?

เถรี
07-03-2019, 21:56
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ก็คือการแห่นาคเสียงดัง ทางโรงเรียนไปขอร้องเพราะว่าเด็กกำลังสอบอยู่ บรรดาขาใหญ่ไม่พอใจจึงตามไปกระทืบทั้งครูทั้งนักเรียน..!

เรื่องอย่างนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นประเพณีที่ผิดเพี้ยนไป โบราณที่เขามีการแห่นาค เพื่อที่จะให้คนที่รู้เห็นได้โมทนาว่าบ้านนี้บวชลูกชาย หลายท่านก็แห่ไปให้ญาติพี่น้องที่อยู่ต่างหมู่บ้าน ต่างตำบล ได้อนุโมทนา ได้ร่วมบุญด้วย คราวนี้พอไปไกล ๆ ก็ต้องมีอะไรสนุกสนานเฮฮาบ้าง ก็มีดนตรีไป ตอนหลังเหล้าก็ตามไปด้วย ซึ่งก็พอทน แต่พอมายุคนี้สมัยนี้บรรดาเครื่องเสียงต่าง ๆ ไม่เกรงใจใครเลย

อย่างที่วัดท่าขนุนเวลาแห่นาคอยู่ในตลาด เสียงดังไปถึงวัด ตอนหลังของวัดท่าขนุนก็น้อยลงไปมาก ปีหนึ่งอาจจะมีโผล่มาสักครั้งหนึ่ง บางทีก็ ๒-๓ ปีครั้งหนึ่ง คือคนในพื้นที่เขาบวช ถ้าอย่างนี้เขาก็จะมาขอเป็นการส่วนตัว ก็ต้องให้เขา แล้วอีกอย่างก็คือวัดท่าขนุนของเราถึงเสียงดังไม่ไปกวนใคร แล้วนาคที่แห่ไปบวชวัดอื่น ก็จะแห่เข้ามาวัดท่าขนุนเพื่อมากราบลาหลวงปู่พุก หลวงปู่สายก่อน ต้องบอกว่าเป็นค่านิยมปฏิบัติในพื้นที่เลย ที่ว่าถ้าจะบวช ก็แห่มากราบลา กราบขอขมาหลวงปู่ท่านก่อน แล้วถึงจะไปบวชกัน เพราะฉะนั้น...ถึงวัดของเราไม่ได้แห่ วัดอื่นก็ช่วยแห่ให้"

เถรี
07-03-2019, 21:59
"คราวนี้ในส่วนของวัดก็ต้องบอกว่าเจ้าอาวาสไม่ผิด เหตุที่เจ้าอาวาสไม่ผิดเพราะว่าเรื่องของวัดของพระเราต้องระมัดระวัง อันดับแรกเลยก็คือ พระธรรมวินัย ข้อที่ ๒ คือกฎหมายบ้านเมือง ข้อที่ ๓ คือจารีตประเพณี

ในเมื่อจารีตประเพณีเขานิยมกันอย่างนั้น แห่กันมาอย่างนั้น ก็ต้องอะลุ้มอล่วยกันไป แล้วถามว่าความผิดอยู่กับโรงเรียนหรือเปล่า ? ก็ไม่ใช่ เด็กกำลังสอบ ไปขอร้องให้เบาเสียงลงก็เป็นเรื่องที่ทำได้ถูกต้อง เพราะฉะนั้น...จะว่าไปความผิดตกอยู่กับบรรดาผู้ที่ไปร่วมขบวนแล้วลุแก่อำนาจ ไปทำร้ายร่างกายทั้งครูทั้งนักเรียน

ขนาดตำรวจห้ามปรามก็ไม่ฟัง ต้องบอกว่าขาดสติเพราะก็คิดว่าลูกพี่ตัวเองใหญ่ จัดการได้ทุกเรื่อง ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะว่าใบแจ้งความยังหายได้..! แต่บังเอิญว่าเรื่องนี้ดังออกสื่อกันมาก ๆ เข้า เท่ากับเป็นแรงกดดัน คราวนี้ก็จะรู้เองแหละว่าร้อยเวรหรือผู้กำกับจะทำหน้าอย่างไร ? เพราะจะว่าไปแล้วก็อยู่ในลักษณะว่ารู้เห็นเป็นใจ ก็เลยทำให้บรรดาอันธพาลในพื้นที่เขาได้ใจ แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาก็ถือว่าแมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวันด้วยกันเอง

เพราะฉะนั้น...เรื่องนี้ก็จับเฉพาะพวกลงไม้ลงมือไปเข้าคุก เรื่องของบรรดาผู้ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้มีอิทธิพลเขาก็ทำเป็นลืม ๆ กันไป คือธรรมเนียมไทยก็เป็นอย่างนี้เอง ทำใจเอาก็แล้วกัน"

เถรี
07-03-2019, 22:03
"พอมีเรื่องโด่งดังขึ้นมาสำนักงานพระพุทธศาสนาก็ออกมาประเภท 'จะต้องทำตามมติมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด' อาตมาอยากถามจริง ๆ ว่าวัดของกรรมการมหาเถรสมาคมทำแบบนี้หรือเปล่า ? แล้วอีกอย่างหนึ่ง เรื่องแบบนี้เป็นแค่มติ ต้องบอกว่าเป็นกฎระเบียบที่เขาระบุว่าให้พระจัดงานให้เรียบร้อย แล้วงานบวชพระ ที่แห่ไปก็คือโยมจัด ในเมื่อญาติโยมเป็นคนจัดแล้วพระจะไปบังคับเขาอย่างไร ?

โดยเฉพาะสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมักจะหางานให้พระทำ วันก่อนก็โทรมา 'พระอาจารย์เจ้าขา ช่วยจัดงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติในช่วงบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ให้สัก ๗ วัน' ก็เลยบอกว่า "เป็นไปไม่ได้ว่ะ ช่วงนั้นทางวัดก็ยุ่งพออยู่แล้ว วัดมีกำหนดการจัดงานที่แน่นอนอยู่แล้ว อยู่ ๆ คุณให้จัดเพิ่มขึ้นมาคุณรู้หรือเปล่าว่ารายจ่ายเท่าไร ?

อย่างของวัดท่าขนุนจัดปฏิบัติธรรมนี่เฉพาะค่าอาหารวันละหมื่น เรารับจำกัดจำนวนไม่เกิน ๓๐๐ คน เฉลี่ยหัวหนึ่งประมาณ ๓๐ บาทต่อคนต่อวัน กิน ๒ มื้อรวมน้ำปานะด้วย ๓๐ บาท คุณไปหาที่ไหนได้ ขนาดนั้นยังเจอไปวันละหมื่น..!"

เถรี
07-03-2019, 22:04
"นี่คุณจะให้จัดงาน ๗ วัน อาตมาต้องจ่ายเพิ่ม ๗๐,๐๐๐ แล้วถามจริง ๆ สำนักพุทธฯ มีงบฯ ให้ไหม ? เขาก็เลยบอกว่าไม่มี แล้วหลวงพ่อจะแนะนำวัดไหนให้เขาจัด ? ก็บอกไปว่าไม่แนะนำ เพราะอาตมาไม่นิยมหมกงานให้คนอื่นทำ คุณต้องไปโทรถามเอาเอง หรือถ้าเห็นว่าทางวัดไม่จัดให้ ตัวเองก็จัดเสีย จะได้รู้ว่าลำบากแค่ไหน ส่วนใหญ่แล้วก็คิดว่าตัวเองสั่งแล้วพระต้องทำ คงมีคนทำให้นะ แต่ไม่ใช่อาตมาหรอก อาตมานี่ถ้าไม่ว่างก็คือไม่ว่างเลย

งานหลายอย่างทางคณะสงฆ์ก็ดี ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ดี ถ้าเป็นงานที่ไม่ได้ขัดกับงานที่วัดทำอยู่ ก็เต็มใจที่จะช่วยเสริมเข้าไปให้ แต่ส่วนใหญ่แล้วมาทำให้แผนงานของเราเสียหมด อย่างวัดท่าขนุนของเรา แจ้งกำหนดการปฏิบัติงานตลอดทั้งปี ถ้าจะเข้ามาในช่วงจังหวะที่พอรับได้ก็ไม่มีปัญหา ถ้าเข้ามาในช่วงจังหวะงานอื่นเต็มมืออยู่แล้วจะไปทำอย่างไร ก็คาดว่าของเราก็สวดมนต์ทำวัตร เจริญกรรมฐานถวายเป็นพระราชกุศลไปตามปกติ แต่ว่าไม่ได้จัดงานปฏิบัติธรรมอย่างเป็นทางการให้"

เถรี
07-03-2019, 22:05
พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมที่เห็นเขาเอามะพร้าวอ่อนมาถวายอาตมาแล้วก็แห่ซื้อกันมา โปรดทราบ...อาตมาฉันไม่ได้แม้แต่คำเดียว เพราะว่าเป็นมาลาเรียอยู่ น้ำมะพร้าวเย็นมาก ลงไปเมื่อไรก็กระตุ้นมาลาเรียกำเริบขึ้นมาทันที ไม่ใช่เห็นเขาเอามามาก ๆ แล้วเราก็เสียสติซื้อตามเขาไป"

เถรี
07-03-2019, 22:10
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงมาฆบูชาทางวัดจัดงานปิดทองรอยพระพุทธบาท ก็ถือว่ารื้อฟื้นงานประจำปีวัดท่าขนุนคืนมา เพราะว่าก่อนหน้านี้ช่วงอาจารย์สมเด็จ อาจารย์สมพงษ์ งานประจำปีวัดท่าขนุนเละมาก ที่เละมากเพราะว่าชอบไปเอาละครพม่าเข้ามา พอละครพม่ามา พี่น้องพม่ามอญจะแห่มากันเยอะมาก เลิกงานเมื่อไรเราก็จะมีขยะกองมหึมาอยู่เต็มวัด เพราะว่าเขานึกจะกินตรงไหน เขานึกจะถ่ายตรงไหน เขาก็ปล่อยตามสบายของเขา

พออาตมาขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาส ช่วงประมาณ ๑๐ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากว่างานประจำปีตรงกับขึ้น ๑๓ ค่ำ ๑๔ ค่ำและ ๑๕ ค่ำเดือน ๓ อาตมาก็ตัดเหลือ ๑๕ ค่ำวันเดียว ก็คือทำบุญวันมาฆบูชา ญาติโยมเก่า ๆ หลายคนก็บ่นกันอยู่ แต่อาตมาก็ปล่อยให้เขาบ่นไป บ่นได้ไม่กี่ปีเขาก็ชินไปเอง แต่คราวนี้พอสร้างบันไดขึ้นรอยพระพุทธบาทแล้ว ทางกรรมการวัดกับทางกรรมการชุมชนส่วนหนึ่งเขาบอกว่า อยากจะรื้อฟื้นงานปิดทองพระพุทธบาทขึ้นมา เพราะว่าของเก่าเราปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลอง คราวนี้เราปิดของจริงไปเลยเพราะว่าขึ้นไปถึงได้แล้ว ก็เลยตกลงกันรื้อฟื้นงานคืนมา

พอดีว่าอยากจะจัดงานทำบุญให้อดีตเจ้าเมืองหน้าด่านทั้ง ๗ เมือง ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเป็นชาวมอญกับกะเหรี่ยง จึงเอามารวมกันเป็นงานเดียว"

เถรี
07-03-2019, 22:12
"ในงานเขามีการทรง ปรากฏว่าบรรดาเจ้าเมืองแห่กันมาชนิดที่ร่างทรงเกือบตาย แต่ละคนต่างก็บอกว่าดีใจที่ทางนี้ยังไม่ลืม ทิ้งเขาไปนานเหลือเกิน แม้กระทั่งทางด้านหลวงพ่อต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) วัดพุตะเคียน นี่ก็เป็นมอญ ที่จัดงานอย่างนี้เป็นประจำ ท่านบอกว่าโดยปกติก็ลงกัน ๒ ครั้ง ๓ ครั้ง พอคราวของพระอาจารย์เล็กนี่ลงไม่เลิก ว่ากันตั้งแต่ ๙ โมงเช้ายันเพล ต้องขอร้องให้หยุดเพราะว่าพระจะอดเพล..!

เจ็ดเจ้าเมืองที่มาก็มีเมืองท่าขนุน เมืองทองผาภูมิ เมืองไทรโยค เมืองท่าตะกั่ว ก็ยังขาดเมืองสิงห์ เมืองลุ่มสุ่ม เมืองท่ากระดานที่ไม่ได้มา ก็คือไม่เปิดโอกาสให้ลง บอกว่าขอร้องเถอะ ปีหน้าค่อยมาลงใหม่ เดี๋ยวจะจัดให้เป็นงานประจำปีไปเลย ท่านเจ้าเมืองท่าขนุนบอกว่า "อย่ารับปาก จะทำก็ทำเลย ถ้ารับปากแล้วทำไม่ได้เดี๋ยวโกรธ" จัดงานอย่างนี้เห็นอยู่อย่างหนึ่งว่า นอกจากชาวบ้านเขาดีใจที่เรายังไม่ลืมพวกเขาแล้ว แม้แต่ผีก็ดีใจ"

เถรี
07-03-2019, 22:15
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ก็มีแต่คนโทรมาเรื่องหล่อพระทองคำ ก็คือยังทำบุญได้ไหม ? ทำแล้วทองของเขาจะได้ลงเบ้าไหม ? มีอย่างนี้ด้วยนะ คือเรื่องทำบุญพอเราตั้งเจตนาก็เป็นบุญแล้ว เท่ากับเราได้บุญ แต่ท่านทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่ากำลังใจในงานบุญต่ำมาก ก็คือถ้าไม่ได้กินไม่ได้ใช้ให้เห็นซึ่งหน้า ก็เหมือนกับเขาไม่ได้บุญ ก็เลยจะอยู่ลักษณะการถามอย่างนี้

คราวนี้เรื่องของการหล่อพระทองคำ ถ้าเราเอาสารพัดทองรูปพรรณใส่ลงไป องค์พระจะด่าง อาตมาก็เลยเตรียมเป็นทองแท่งแท่งละ ๕๐ บาท เอาไว้ ๙๗ กิโลกรัมเลย โยมทำบุญมาเท่ากับว่าร่วมเป็นเจ้าภาพใน ๙๗ กิโลกรัมนั่นแหละ

ส่วนของโยมถ้าอาตมามีเวลาก็จะเอาไป Refine ใหม่ขึ้นมาเพื่อเอาไว้หล่อองค์ต่อไป แต่ถ้ามีสร้างวัตถุมงคลเป็นเนื้อทองคำนี่ใช้ทองรูปพรรณได้ เพราะว่าช่วยเพิ่มความแข็งขึ้นมาหน่อย ต้องไปเจอเตาหลอมประเภทสุญญากาศ ถ้าอย่างนั้นก็ทำได้ เพราะว่าเขาดึงลงไปทีเดียวเต็มที่เลย ส่วนใหญ่แล้วพวกทองที่น้ำหนักมากกว่า ก็จะอยู่บริเวณด้านล่าง อย่างเช่นว่าสร้างเป็นองค์พระ อยู่แถวเศียรจะไม่มีตำหนิอะไร เพราะว่าเวลาหล่อเขาจะคว่ำพิมพ์ลง"

เถรี
11-03-2019, 20:41
พระอาจารย์กล่าวว่า "จังหวัดกาญจนบุรีหาพระทั้งจังหวัดมาปลุกเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้น้อยมาก ปัจจุบันพระเกจิอาจารย์ที่ชาวบ้านเขาเชื่อถือได้มีน้อยเต็มทีแล้ว เพราะว่าหลวงพ่อเสงี่ยม วัดบ้านทวนก็มรณภาพไปแล้ว หลวงพ่อทองสุข วัดท่าตะคร้อก็มรณภาพไปแล้ว แทบจะไม่เหลือรุ่นเก่า ๆ แล้ว ตอนนี้หลัก ๆ ก็เหลือหลวงพ่อสนองชาติ วัดเย็นสนิทธรรมาราม กับหลวงพ่อชุบ วัดวังกระแจะ หลวงพ่อสนองชาติท่านเกษียณตัวเองก่อนอายุ ๘๐ ปล่อยให้หลวงพี่เสริฐ วัดทุ่งลาดหญ้าขึ้นมาเป็นเจ้าคณะตำบลแทน

อย่างอาตมาจริง ๆ แล้วก็ยัง "ไม่ได้ที่" ในสายตาชาวบ้าน เพราะเขาว่าอายุยังน้อย เขาต้องการสัก ๗๐ - ๘๐ ปีขึ้นไป แต่ก็อยากจะบอกว่าตอนอายุน้อย ๆ กรำงานได้นานกว่า อายุมากขึ้นก็ไม่ค่อยจะไหวเหมือนกัน"

เถรี
11-03-2019, 20:47
ถาม : หลวงพ่อเล็ก วัดเขาดิน ยังอยู่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มรณภาพไปหลายปีแล้ว ทำเอาอาตมาโดนคนโทรถามสนั่นเลย เพราะเขาไปลงข่าวว่า "พระเกจิดังเมืองกาญจน์ฯ หลวงพ่อเล็กมรณภาพ" อาตมาก็เพิ่งจะรู้ว่าในสายตาชาวบ้านนั้นอาตมาดัง เขาใช้คำว่า “พระเกจิดังเมืองกาญจน์ฯ”

ท่านมรณภาพไปหลายปีแล้วน่าจะประมาณ ๕-๖ ปีแล้ว วัดเขาดินได้ท่านพัฒนาจนใหญ่โต ก่อนหน้านี้มองอะไรไม่เห็นเลย

เมื่อวานนี้รองเจ้าคณะจังหวัด ท่านอาจารย์พระมหาวิสุทธิ์ วิสุทฺธิปญฺโญ เปรียญธรรม ๙ ประโยค บรรยายเรื่องธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ ว่าทำไมตอนนี้ต้องเร่งเก็บข้อมูลพระสงฆ์ชนิดหัวทิ่มหัวตำเลย เพราะว่าต้องการจะใช้สิทธิ์บัตรทองรักษาฟรี พวกเราจึงต้องเหนื่อย ท่านบอกว่าสถิติปีนี้ของโรงพยาบาลสงฆ์ พระเราป่วยเป็นโรคยอดฮิค คือ ความดัน ไขมัน หัวใจ เบาหวาน ข้อเข่าเสื่อม

เถรี
11-03-2019, 21:17
ถาม : มองสภาพแวดล้อม แล้วเกิดความรู้สึกว่าโลกนี้อันตราย ไม่น่าอยู่ ความกลัวเกิดขึ้น แต่มีความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาว่า ถ้าตายตอนนี้ลงนรกแน่ ๆ ใช่หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ยังไม่ถูก พอเห็นว่าเป็นทุกข์เป็นโทษแล้วเราจะต้องหนีไปจากตรงนี้ ในเมื่อเราจะต้องไปจากตรงนี้ สภาพจิตจะต้องปลดการยึดจากร่างกายและโลกนี้ ที่ว่ามานั้นยังไม่ใช่

เถรี
12-03-2019, 00:15
ถาม : ทำอย่างไรจึงจะมีความเป็นอยู่คล่องตัว ?
ตอบ : ไม่ต้องถามหรอก ตั้งหน้าตั้งตาภาวนาพระคาถาเงินล้านไป จะคล่องทุกเรื่องเอง แต่ว่าบางคนภาวนาแล้วก็ยังสงสัยอีกว่า ภาวนาช้ากับเร็วต่างกันตรงไหน ? น่าเหวี่ยงให้สักทีหนึ่ง...! ขอให้ได้ทำ จะช้าจะเร็วก็ช่างเถอะ ผลต่างถึงจะมีก็ขอให้เกิดผลก็แล้วกัน

เถรี
12-03-2019, 00:28
ถาม : ช่วงนี้ฝันเห็นงูบ่อย แล้วนิมิตเห็นด้วยค่ะ ?
ตอบ : ไม่เป็นไร บอกเขาว่าถ้ามาไม่ดีเดี๋ยวจะกลายเป็นงูปิ้ง..! อาตมาชอบกินมากเลย เสียดายตอนเป็นพระเขาห้ามกินเนื้องู

ก็แค่ระมัดระวังเท่านั้นเอง ถ้าหากว่าตามการตีความของทางพระพุทธศาสนา งูคือกิเลสในใจของเรา ระวังรัก โลภ โกรธ หลง จะนำหน้า เพราะฉะนั้น..ก็ต้องให้ศีลธรรมนำหน้าไว้ก่อน

เถรี
12-03-2019, 00:35
ถาม : ลูกชายฝากมาถามเรื่องทำธุรกิจ ?
ตอบ : ต้องบอกว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน จะเดินแต่ละก้าวต้องระวังสุดชีวิต คนรุ่นใหม่มักจะใจร้อน อยากจะรวยเร็ว ลงทุนมากถ้าพลาดก็เสียหายมาก

เถรี
12-03-2019, 00:38
ถาม : ผมซื้อผ้าไตรถวายไปแล้ว ทีนี้มีคนเอาเงินมาให้ทีหลัง ?
ตอบ : ถ้าไม่เกินจำนวนที่เราจ่ายไปก็รับเอาไว้ สมมติว่าเราซื้อผ้าไตรไป ๑,๐๐๐ บาท เขามอบเงินให้เรา ๕๐๐ บาท ก็ถือว่ามีส่วนกันคนละครึ่ง แต่ถ้าเขาให้มาเกินราคาผ้าไตร อันนั้นจะต้องไปทำให้เขาต่างหาก

เถรี
13-03-2019, 19:46
พระอาจารย์กล่าวว่า "พิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนทำช้าไป ๒ ปี จากราคา ๔๓ ล้าน ๒ แสนบาท กลายเป็น ๕๐ ล้านบาท ตอนนี้จากที่อาตมาจำหน่ายวัตถุมงคลในกระทู้คนมีเงินกับส่วนอื่น ๆ รวมกันแล้วมีเงินในมืออยู่ประมาณ ๓๐ ล้านบาท ยังขาดอีก ๒๐ ล้านบาทถ้วน ๆ"

เถรี
13-03-2019, 20:09
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้โทรศัพท์ที่โทรมา ร้อยละ ๙๙ คือถามเรื่องหล่อหลวงพ่อทองคำ เสร็จแล้วก็มีหลายคนถามว่าใช่สมเด็จองค์ปฐมไหม ? บอกว่าใช่ทั้ง ๓ องค์นั่นแหละ จะทอง จะนาก จะเงิน แสดงว่าหล่อสมเด็จองค์ปฐมมา ๓-๔ องค์แล้วยังไม่รู้ตัวเลย

แล้วก็ไม่แน่ใจว่าระยะนี้ที่เร่งโทรเข้ามาเป็นเพราะใกล้จะหมดเวลาหรือเปล่า ? ก็คืออาตมาเตรียมการมา ๖ ปี โยมไม่คิดที่จะมาทำบุญ จะมาทำเอาวินาทีสุดท้าย ตื่นเต้นกับชีวิตดีใช่ไหมที่วิ่งไล่รถเที่ยวสุดท้าย ? ถ้าเป็นอาตมานี่เที่ยวแรกมาก็ขึ้นนั่งแล้ว มัวแต่มารอเที่ยวสุดท้ายอยู่เดี๋ยวขึ้นไม่ทัน บางคนมีวิสัยอย่างนั้น ทำอะไรช้าเป็นปกติ

ไม่ใช่ช้าแล้วดีนะ ช้าแล้วพาเสียอีกด้วย อาตมาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีอยู่ปีหนึ่งเจอนิสิตที่สุดยอดมาก ทำข้อสอบเสร็จตั้งแต่ชั่วโมงแรก แต่รอวินาทีสุดท้ายแล้วค่อยส่ง ทุกวิชาจะเป็นอย่างนี้ แล้วเป็นอยู่คนเดียว ที่อาตมาเบื่อที่สุดก็คือกูจะรีบ ๆ ไป แต่เขาไม่ใช่ ต้องใช้เวลาให้ครบทุกวินาทีถึงจะพอใจ แล้วก็นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทบทวน ไม่ได้แก้ไขอะไรหรอก นั่งรอเวลาหมดแล้วค่อยส่ง

ประเภทนี้น่าจะเป็นลูกหลานของหลวงพ่อสุภัททะ แต่หลวงพ่อสุภัททะท่านเป็นพระอรหันต์นะ ในเมื่อเป็นลักษณะอย่างนั้น ตัวของเราเองถ้าไม่ได้สร้างบารมีมาอย่างท่าน เราก็มีสิทธิ์ที่จะเดี้ยง"

เถรี
13-03-2019, 20:11
"อดีตพระเอกหนังที่เพิ่งจะตายไปไม่นาน มีฉายาว่าเจ้าชายสายเสมอ รู้จักไหม ? ไม่ว่าจะนัดเวลาไหน เขาก็ไปช้าเป็นปกติ

ยิ่งทำอะไรช้ามากเท่าไร กำลังใจก็ยิ่งห่างมรรคผลมากเท่านั้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า บุคคลที่ตั้งความปรารถนาจะเอามรรคผล จะมุ่งตรงไปข้างหน้าโดยที่ไม่ได้พะวงถึงสิ่งฉุดรั้งต่าง ๆ ก็เลยเป็นคนทำอะไรเร็ว ตรงเวลา มีแต่ก่อนไม่มีหลัง เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครรู้ว่าตนเองอยู่ในประเภทเจ้าชายหรือเจ้าหญิงสายเสมอ ก็ให้พยายามปรับปรุงตัว เพื่อหนทางที่เราเดินในวัฏสงสาร ซึ่งยาวไกลไม่เห็นต้นเห็นปลาย จะได้สั้นลงบ้าง ไม่ใช่ยิ่งเดินก็ยิ่งยาวไปเรื่อย เพราะว่าเราทำอะไรช้าอยู่เสมอ

ถ้าหากว่าอยู่ในส่วนของมนุษยภูมิขึ้นไปก็ยังถือว่าท่านโชคดี แต่ถ้าช้าแล้วลงอบายภูมินี่จะยิ่งช้าหนักเข้าไปอีก เพราะว่าข้างล่างโดยเฉพาะส่วนของนรก เปรต อสุรกาย ระยะเวลาต่างกับโลกมนุษย์มาก อย่างเบา ๆ ๑ วันของเขาก็เท่ากับ ๕๐ ปีของเรา แล้วอายุก็ยาวนานเหลือเกิน เล่นกันเป็นกัป

กัปหนึ่งไม่มีใครรู้ว่าเวลายาวนานเท่าไร แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงให้ประมาณการไว้เท่านั้น ประมาณการว่ามีถังเหล็กใบหนึ่ง กว้าง ๑ โยชน์ ยาว ๑ โยชน์ สูง ๑ โยชน์ ก็คือกว้างยาวสูงด้านละ ๑๖ กิโลเมตร ๑๐๐ ปีเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดหย่อนลงไปหนึ่งเมล็ด เมล็ดพันธุ์ผักกาดเต็มเสมอขอบถังเมื่อไร ประมาณเวลาได้กัปหนึ่ง เป็นกัปหนึ่งโดยประมาณไม่ใช่ตรงเป๊ะ เราจะได้หยอดสักเมล็ดไหม ? ๑๐๐ ปีหยอดเมล็ดหนึ่ง เมื่อไม่นานที่ผ่านมาก็หลวงปู่บุญฤทธิ์ อายุ ๑๐๒ ปีเพิ่งมรณภาพ นั่นท่านหย่อนได้เมล็ดหนึ่ง พวกเรายังไม่มีสิทธิ์ได้หย่อนเลย"

เถรี
13-03-2019, 20:20
"ที่ภาษาบาลีที่บอกว่าอสังไขย หรืออสงไขย ก็มาจากคำว่าอสังขยา หรืออสังขะยะ ที่แปลว่านับไม่ได้ ก็คือบุคคลทั่วไปนับไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ได้โปรดทำอะไรให้เร็วขึ้นนิดหนึ่ง แล้วชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ ยิ่งเป็นนักปฏิบัติธรรม มีแต่ทำแล้วต้องเร็วขึ้นไปเรื่อย ๆ เพียงแต่ว่าเป็นสภาพจิตที่เร็วโดยไม่ผิดพลาด แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็มักจะช้ากันเป็นปกติ บางคนภูมิใจในความช้าของตัวเองอีกต่างหาก

หลวงพ่ออดีตเจ้าคณะอำเภอ.......... วัด........... เท่าที่รู้จักท่านมาตั้งแต่ต้นจนท่านมรณภาพ ไม่ว่าจะงานเจริญพระพุทธมนต์ สวดพุทธมนต์ที่ไหนก็ตาม เขาต้องว่ากันไปครึ่งค่อนแล้วท่านถึงจะมา คือท่านคงรู้สึกว่า การปรากฏตัวระยะนั้น สายตาทุกคนจะต้องจับมาที่ท่าน เป็นการเท่ดีหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ? แต่ถ้าอาตมาเป็นพระผู้ใหญ่หัวแถว จะไม่ชอบใจเลยที่ท้ายแถวมาช้าขนาดนี้ แล้วทุกครั้งก็จะเป็นแบบนั้น"

เถรี
13-03-2019, 20:24
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปลายเดือนนี้เป็นช่วงบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ปีที่แล้วมี ๓๐ กว่ารูป ไม่รู้ว่าพวกที่โดนตีไปบอกกล่าวต่อ ๆ กันไป แล้วปีนี้จะน้อยลงหรือเปล่า ? เพราะที่วัดประกาศไว้ชัดเจนที่สุด ใครส่งลูกมาบวชทำใจไว้เลย...โดนไม้แน่นอน พอ ๓ วันผ่านไปนี่เรียบเป็นผ้าพับไว้ เพราะรู้ว่าโดนตีแน่ ๆ อยู่บ้านดื้อได้ซนได้ เพราะรู้ว่าพ่อแม่ไม่กล้าตี แต่ไปวัดนี่พระพี่เลี้ยงแต่ละรูปพกไม้ ๓ อัน ๔ อัน

ตอนแรกอาตมาก็สงสัย ถามว่าทำไมต้องพกไม้เยอะขนาดนั้นด้วย ? พระพี่เลี้ยงบอกว่า ถ้าตีไม้หักจะได้ไม่ต้องหาใหม่ อาตมาก็เลยไม่ใช้ไม้ เพราะว่าตีแล้วไม้หัก อาตมาใช้สายไฟขนาด ๒.๕ สแควร์มิล...! ถ้าตีแล้วสายไฟขาดถึงจะยอมยกให้ แต่ถ้าหากว่าใครอยู่ครบกำหนด ก็คือบวชวันที่ ๓๑ มีนาคม สึกอย่างเร็วที่สุดวันที่ ๑๐ เมษายน ถ้าอยู่ได้ถึงอาตมาจะให้ทุนการศึกษารูปละ ๒,๐๐๐ บาท ปีที่แล้วก็มีส่วนหนึ่งบอกว่า "อย่าไปบวชนะโว้ย..หลวงพ่อตีจริง ๆ" อีกส่วนหนึ่งก็บอกว่า "มึงก็ทำดีไว้สิ ทนแค่ ๑๐ วันได้เงินไปเล่นเกมตั้ง ๒,๐๐๐ บาท" อ้าว...ตูให้ทุนการศึกษา ดันเอาไปเล่นเกม...!"

เถรี
13-03-2019, 20:26
"แต่มีสามเณรบางรูป ต้องบอกว่าบวชเณรเป็นอาชีพ เขาชอบของเขาอย่างนั้น อย่างสามเณรเตวัตร สามเณรณัฐภูมิ เมื่อไร ๆ ก็ต้องบวช บวชแล้วสึกออกไปก็นำพ่อแม่ใส่บาตรทุกวัน นับเป็นอภิชาตบุตรจริง ๆ แต่พอใส่ไปใส่มาหลังจากสึกไปแล้วสักเดือนหนึ่ง...สามเณรก็หายไป เหลือแต่พ่อแม่ที่ไม่เคยใส่บาตรยังคงใส่ต่อไป..!

เสียดายอยู่อย่างเดียวว่าทางบ้านต่อยอดจากวัดไม่ได้ อยู่วัดต้องซักผ้าเอง ถูศาลาเอง จัดที่นอนเอง ล้างจานเอง พูดง่าย ๆ ก็คือบิณฑบาตกินเองด้วย พอกลับบ้านไปเดี๋ยวพ่อแม่ก็บริการให้อีกแล้ว สามเณรก็จะจำแค่วันแรก ๆ สึกไปแล้วยังทำตัวเหมือนอยู่วัด พอสัก ๓ วัน ๕ วันไปก็เริ่มเลือน ๆ แล้ว พ่อแม่ต้องทำให้เหมือนเดิม คือถ้าทางบ้านหรือทางโรงเรียน สามารถรักษาความมีระเบียบวินัยของสามเณรเอาไว้หลังจากสึกไปแล้ว จะเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ว่ารักษาไม่ได้ ต่อยอดไม่เป็น เสียดาย...บวชเมื่อไรก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่ทุกครั้ง

ฝากลูกไปบวชเณรที่วัดสักเดือนหนึ่งก็ได้นะ กลับมานี่เปลี่ยนจากลิงเป็นคนเลย โดยเฉพาะถ้าหลวงพ่อตีเองนี่ ทีหนึ่งก็ได้ ๒ แผล เพราะว่าหวดน่อง..!"

เถรี
13-03-2019, 20:52
ถาม : ลูกชายเป็นคนสมาธิค่อนข้างสั้น มีวิธีฝึกสมาธิง่าย ๆ อย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ต้องให้เล่นกีฬาสมาธิ เล่นกีฬาพร้อมกับสมาธิ ก็คือไม่ว่าจะทำอะไร บอกเขาว่าอย่าลืมลมหายใจ พอได้เคลื่อนไหวแล้ว เหมือนกำลังจะเริ่มหมด คราวนี้ก็จะนิ่งได้ง่ายขึ้น

เถรี
14-03-2019, 22:43
พระอาจารย์กล่าวว่า "พระพรหมที่สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเรียกว่าพระพรหมเอราวัณ เหตุที่สร้างท่านเกิดจากการสร้างโรงแรมเอราวัณ ที่ถือว่าเป็นโรงแรมสำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองในสมัยโน้น มีแต่อุปสรรค เขาก็เชิญพลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือในยุคนั้น ที่ใคร ๆ เขาเรียกว่าเจ้ากรมแพทย์ตาทิพย์มาดูให้

ท่านบอกว่าที่โรงแรมติดขัดเพราะว่าไปใช้ชื่อเอราวัณที่เป็นช้างทรงของพระอินทร์ แล้วจะแก้ไขอย่างไร ? ท่านบอกให้สร้างรูปพระพรหมที่ใหญ่กว่าเอาไว้ แล้วท่านก็ช่วยทำพิธีอัญเชิญให้ ประหลาดตรงที่ว่า ตรงจุดนั้นแต่ก่อนเป็นแหล่งความเจริญมาก

อยู่ใกล้ ๆ สนามม้าราชกรีฑา แล้วก็กรมตำรวจ ห้างไดมารูเก่า แล้วต่อมาก็มีห้างซัสโก้ ตอนหลังห้างไดมารูก็เลิกกิจการไป มีการสร้างห้างเวิลด์เทรดขึ้นมาแทน เท่ากับอยู่ตรงศูนย์กลาง แต่ว่าศรัทธาของพระพรหมเอราวัณนี่ยิ่งมายิ่งมาก ตอนหลังเขามีการสร้างพระตรีมูรติ มีการสร้างพระพิฆเณศวร์ ก็ไม่สามารถที่จะแย่งศรัทธาไปจากพระพรหมได้ เพราะว่าคนที่มากราบไหว้บูชาแล้วอธิษฐานขออะไรมักจะสำเร็จ"

เถรี
14-03-2019, 22:45
"อาตมาไปสิงคโปร์ครั้งล่าสุด คนขับรถแท็กซี่มีรูปพระพรหมเอราวัณติดอยู่หน้ารถ เขาเรียกท่านว่า "อากง" ถึงเวลาต้องไปไหว้ "อากง" ปีละครั้ง ไปถวายละครชาตรี คือจ้างนางรำไปรำ เขาบอกว่า "Make my life smooth and easy." ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแล้วก็ราบรื่น ก็แสดงว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมีผลจริง

เรามาดูว่าตอนนี้ตรงนั้นกลายเป็นย่านการค้าที่ทันสมัยสุด ๆ ของกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าศรัทธาพระพรหมเอราวัณยิ่งมายิ่งมาก ตรงจุดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความเจริญยิ่งมากเท่าไร คนก็ยิ่งต้องการที่พึ่งทางใจมากเท่านั้น"

เถรี
14-03-2019, 22:48
"ที่พึ่งพระพุทธศาสนาของเรา บางทีหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเปรียบว่าเหมือนกับเพชร จะให้คนเข้าร้านขายเพชรทุกวันก็เข้าไม่ไหวหรอก ซื้อเพชรไม่ไหว แต่ถ้าหากให้เข้าร้านโชว์ห่วยขายของชำนี่เข้าได้ทุกวัน เข้าเช้าเข้าเย็นก็ได้ เขาก็เลยแวะไปหาพระพรหมเอราวัณกันมาก ก็ต้องบอกว่าท่านเบาแรงพระไปเยอะ แต่ถ้านับในเรื่องของมรรคของผลอะไรแล้ว ก็มีผลน้อยกว่า

แต่เราก็ต้องยอมรับว่าศาสนาทุกศาสนา ในเรื่องของพิธีกรรมความเชื่อเป็นฐานใหญ่สุด แล้วช่วงกลางถึงจะมาเป็นเรื่องของศีล เรื่องของหลักการปฏิบัติ ช่วงปลายถึงจะเป็นการเอามรรคเอาผล เอาความหลุดพ้นกัน ลักษณะเหมือนกับปีรามิด ฐานล่างใหญ่มาก ตรงกลางก็เล็กลงมา เหลือปลายอยู่หน่อยเดียว เพราะฉะนั้น...ญาติโยมทั้งหลายที่มาปฏิบัติธรรมตั้งใจเพื่อความหลุดพ้น ถือว่าแปลกแยกจากสังคม เป็นส่วนยอดของปีรามิดที่มีอยู่หน่อยเดียวเท่านั้น ใครจะกลับใจลงไปฐานล่างก็เอานะ"

เถรี
14-03-2019, 23:40
ถาม : ถ้าผมตั้งใจใช้ทองคำที่หล่อพระมาบูชาพระบรมธาตุจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าจะนำทองคำมาหล่อพระ ให้ตั้งใจว่าหล่อพระก่อนแล้วเราค่อยไปบูชา หลังจากนั้นค่อยลามาหล่อพระ ถ้าหากว่าคุณไปตั้งใจบูชาพระบรมธาตุก่อนแล้วลามา ประเภทนี้ผิดงานแล้ว

เถรี
15-03-2019, 21:28
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาใช้สมบัติคนตายเยอะมาก โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางใบนี้ ใช้มา ๒๐ กว่าปีแล้ว เจ้าของเป็นเอดส์ตาย ญาติเขาบอกว่าอยากให้ได้กุศล ก็เลยเอากระเป๋าของเขามาถวาย เพราะว่าไม่มีใครกล้าใช้

ไปนึกถึงสมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงกับเพื่อนยังอยู่ที่วัดบางนมโค ท่านไปเจริญกรรมฐานในป่าช้า มีญาติโยมขี้สงสัย เห็นพระอยู่ในป่าช้าก็เข้าไปชวนคุยด้วย แกชี้ไปที่เตียงถามพระท่านว่า "นี่อะไร ?" "ฝาโลง" ใช้ฝาโลงผี ๒ แผ่นมาตอกเป็นเตียง "แล้วโต๊ะล่ะ ?" "ฝาโลง" "เก้าอี้ล่ะ ?" "ฝาโลง" พอฝาโลง ๓ ครั้ง โยมวิ่งเลย เพราะคิดว่าที่นั่งคุยอยู่ต้องเป็นผี..!"

เถรี
15-03-2019, 21:33
ถาม : เครื่องทรงพระทองคำ ใครเป็นเจ้าภาพครับ ?
ตอบ : อาตมาเป็นเจ้าภาพ เพราะว่าหล่อติดกับองค์พระไปเลย

ถาม : มีการติดพลอยเพิ่มไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มีติดพลอยติดเพชรเพิ่ม ทำแบบนั้นอาตมาถือว่าไร้รสนิยม..!

เถรี
15-03-2019, 21:35
ถาม : ถ้าเราไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เลย การที่จะขึ้นสวรรค์ดาวดึงส์ยากขนาดไหนครับ ?
ตอบ : ก็ยากพอ ๆ กับเดินตีนเปล่าขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์..!

เถรี
15-03-2019, 21:41
พระอาจารย์กล่าวว่า "การไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการไปดูงาน มีคนจำนวนหนึ่งที่มองโลกในแง่ร้าย เห็นว่าไปเที่ยวกัน แต่อาตมายืนยันว่า อาตมาไปดูงานก็คือไปดูจริง ๆ อะไรของเขาที่ดีก็จะเอามาปรับปรุงของเรา อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้เราคิดได้ว่าจะทำความเจริญให้กับศาสนาในแบบไหนก็จะทำ

อย่างเวลาไปต่างประเทศ โดยเฉพาะทางยุโรป อเมริกา เราเข้าไปในโบสถ์ของศาสนาคริสต์ อลังการมากแทบทุกโบสถ์เลย พอเข้าไปเราจะรู้สึกว่าตัวเราเล็กนิดเดียว พระเจ้าเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่ บางที่เข้าไปนี่ร้องโอ้โฮเลย ทำไมเขาสร้างได้ยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ แล้ววัดในประเทศไทยมีกี่วัดที่เราเข้าไปแล้วโอ้โฮบ้าง ? ของเขานี่แทบทุกแห่ง แต่ของเรานี่ ๒ มือนับน่าจะไม่ครบนิ้ว"

เถรี
15-03-2019, 21:43
"ฉะนั้น...ในส่วนนี้เวลาเราไป ถ้าเก็บเป็นจะได้อะไรเยอะมาก อาตมาไปดูงานตอนเรียนปริญญาเอก สรุปการดูงานให้อาจารย์ ๕ บรรทัด อาจารย์ท่านถามว่า "เอาแค่นี้จริง ๆ หรือครับ ?" บอกว่า "เนื้อหาครบไหมละครับ ?" ท่านมอง ๆ แล้วบอกว่า "ครบ" "ถ้าครบผมก็เอาแค่นี้แหละ"

อาตมาสรุปงานให้ว่า ถ้าเรารักษาของเก่าจนขายได้แบบอิตาลี รักษาธรรมชาติจนขายได้แบบสวิตเซอร์แลนด์ สร้างแบรนด์จนขายได้แบบฝรั่งเศสก็พอแล้ว แต่ทั้งหมดที่ว่ามายังไม่ต้องทำหรอก ควรสร้างจิตสำนึกของคนเราให้ได้อย่างเขาก่อน ไปดูงานมา ๑๒ วัน สรุปได้แค่ ๕ บรรทัด"

เถรี
15-03-2019, 21:44
ถาม : จิตสำนึกที่ต้องสร้างนี่คืออะไรคะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าจิตสาธารณะ เห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด เป็นต้น

เถรี
15-03-2019, 22:02
พระอาจารย์กล่าวว่า "เงินส่วนองค์อาตมาไม่ค่อยได้ใช้หรอก ส่วนใหญ่พอเผลอ ๆ ก็กลายเป็นทุนการศึกษาบ้าง เลี้ยงเด็กบ้าง อะไรบ้างไปเรื่อยเปื่อย ทุนการศึกษาในส่วนที่ใช้เงินสงฆ์ก็ใช้เงินสงฆ์ บางส่วนที่อาตมาให้เป็นการส่วนตัวก็ใช้เงินส่วนตัว

ทุนการศึกษาของวัดท่าขนุน ปีหน้าโรงเรียนที่จะได้มากที่สุด ก็คือโรงเรียนสมาคมป่าไม้แห่งประเทศไทยอุทิศ เพราะว่ามีตั้งแต่อนุบาลยันมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ก็แปลว่าจะได้ทุนระดับประถม ๒๐ ทุน ทุนระดับมัธยม ๒๐ ทุน แล้วเขาจะเปิด ปวช.ด้วย ถ้ามี ปวช.นี่ก็ต้องแบ่งกับทุนระดับมัธยม อาจจะคนละครึ่ง"

เถรี
15-03-2019, 22:15
พระอาจารย์อ่านและแปลบาลีให้ฟัง "แปลทันไหม ? ผมบาลีเถื่อนนะ แปลได้หมด แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ตอนที่เรียนไวยากรณ์ท่องไปท่องมา เหมือนกับมีอะไรแตกโป๊ะอยู่ในหัว แล้วเข้าใจหมดเลย ตั้งแต่นั้นมา เรียนหรือไม่เรียนก็ราคาเดียวกัน"

เถรี
15-03-2019, 22:16
พระอาจารย์กล่าวกับพระที่มากราบว่า "จำไว้อย่างหนึ่งว่า เป็นผู้นำเขา อารมณ์ต้องมั่นคง จะไปขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ได้"

เถรี
17-03-2019, 09:30
สนทนากับพระ "ระยะนี้ผมไปไหนก็เดือดร้อนไปหมด ถึงเวลาเขาก็ต้องขยับที่ให้ วันก่อนเจ้าคณะจังหวัดไม่อยู่ในงาน เขาบอกว่าพระอาจารย์ช่วยเป็นประธานให้หน่อย

มเหสักโข แปลว่าผู้ประกอบไปด้วยศักดิ์อันยิ่งใหญ่ ในเมื่อท่านที่ใหญ่กว่ามาถึง ท่านที่เล็กกว่าก็ต้องหลบไป แบบเดียวกับอังกุรเทพบุตร กับ อินทกเทพบุตร ถึงเวลานั่งอยู่ซ้ายขวาของพระพุทธเจ้า พอเทวดาที่เป็นมเหสักข์มาถึง ท่านอังกุรเทพบุตรก็ถอยไปเรื่อย อินทกเทพบุตรยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ต้องหลบให้ใคร ปัจจุบันนี้ดูท่าอาตมาจะเริ่มเป็นอินทกเทพบุตรแล้ว นั่งลงไปนี่แทบจะไม่ต้องถอยให้ใครแล้ว

ตอนที่ชัดที่สุดก็คือ ปีนั้นน่าจะพรรษาที่ ๕ ไปงานพระราชทานสัญญาบัตรพัศยศของคณะสงฆ์หนเหนือ ที่วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ เข้าไปนั่งอยู่ในโบสถ์ ปรากฏว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ของสำนักพุทธฯ เชียงใหม่ ไล่พระอื่นออกหมด เหลืออาตมานั่งอยู่รูปเดียว ไม่กล้าไล่ เพราะว่าอาตมาเอาหลวงพ่อวัดท่าซุงนั่งบนหัวไปด้วย คิดอยู่อย่างเดียวว่า "ถ้ามึงแน่จริงก็ไล่หลวงพ่อสิวะ..!"

ปรากฏว่าเขาไม่กล้าไล่ ปล่อยให้อยู่จนกระทั่งสมเด็จพระสังฆราชท่านเสด็จมา ท่านเลยประทานย่ามให้ใบหนึ่ง ทุกวันนี้ก็ยังเก็บย่ามนั้นไว้เป็นที่ระลึก มีย่ามของท่านใบหนึ่ง มีผ้ารับประเคนของท่านตอน ๙๐ พรรษาผืนหนึ่ง"

เถรี
17-03-2019, 09:36
พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยสร้างเกาะพระฤาษี สั่งปูน ๓๐๐ ลูก เท่าไร ๑๕,๐๐๐ กิโลกรัม รถเทรลเลอร์วิ่งไปส่งช่วงหน้าฝน เขาบอกว่า "พระอาจารย์ครับ...อย่างไรก็ต้องคลุมผ้า" อาตมาบอกว่า "ไม่ต้องคลุมหรอก..ไปเถอะ ถ้าหากว่าเทวดาปล่อยให้ปูนเปียก ถือว่าทำลายของสงฆ์..!"

ปรากฏว่าฝนตกตลอดทาง แต่ตกนำหน้ารถไปเรื่อย จนกระทั่งขนปูนเข้าที่ร่มหมด ฝนถึงได้เทลงมา อาตมาใช้วิธีนี้แหละ หน้าด้านหน่อย อันนี้ก็เหมือนกัน พระทองคำเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา เทวดาไม่ช่วยรักษาแล้วใครจะช่วย"

เถรี
17-03-2019, 09:38
พระอาจารย์กล่าวว่า "ภาระทุกวันนี้ที่รับทำ กราบเรียนหลวงพ่อวัดท่าซุงตั้งแต่แรกว่า ถ้าต้องขอเขาแม้แต่บาทเดียวนี่จะเลิกทำเลย อาตมาเป็นคนไม่ชอบขอใคร เกรงว่าจะเป็นหนี้บุญคุณ

ญาติโยมปวารณาไว้เยอะมาก ตอนสร้างเกาะพระฤาษีใหม่ ๆ ถึงขนาดบอกว่าอนุญาตให้สร้างหนี้ได้ตามใจชอบ เขาจะเคลียร์หนี้ให้ทุกสิ้นเดือน ขนาดนั้นยังไม่ไปรบกวนเขาเลย

บางทีโยมก็ทนไม่ไหว มาถึงก็ "หลวงพี่..เมื่อไรจะขอสักที ?" บอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ในกระเป๋ามีเท่าไรเอามาเท่านั้น" ปรากฏว่าเจ้านั่นดวงเฮง เปิดกระเป๋าเทมามีสี่แสนกว่า..เสร็จเรา..!"

เถรี
17-03-2019, 09:41
พระอาจารย์กล่าวว่า "ฝากบอกท่านอาจารย์สุชาติว่าขอพระพุทธลีลาประทานพรก่อนนะ เพราะดูว่าจะง่ายกว่า ปางปราบพระยาชมพูบดีหรือปางมหาจักรพรรดินี่เครื่องทรงละเอียดมาก ต้องให้เวลาท่านค่อย ๆ ปั้น ค่อย ๆ แต่ง

วันที่ ๙ มีนาคมนี้ หล่อพระทองคำ ๑ องค์หน้าตัก ๑๙ นิ้ว ใช้ทองคำ ๙๗.๕ กิโลกรัม เมื่อหล่อแล้วจะมีชนวนเพื่อที่จะให้น้ำทองแล่นถึงกันเป็นส่วนเกินหลายกิโลกรัมอยู่ อาตมาจะเอาทองคำส่วนนั้นมารวมกับทองคำที่เหลือ เพื่อหล่อองค์พระพุทธลีลาประทานพรต่อไป"

เถรี
17-03-2019, 09:48
ถาม : มีคนที่อยากไปงานหล่อพระ แต่เป็นรูมาตอยด์ ?
ตอบ : บอกเขาว่าเริ่มตั้งแต่วันนี้เลย ให้กินน้ำอุ่นเยอะ ๆ กินน้ำอุ่นวันหนึ่งให้ได้ ๓ ลิตร แล้วจะถ่ายออกมาหมด เพราะว่ารูมาตอยด์เกิดจากกรดยูริกของโปรตีนไปตกผลึกอยู่ตามข้อ ละลายได้ด้วยน้ำ ถึงเวลาร่างกายดึงออกมา จะได้ไม่กำเริบ หลังจากนั้นก็พยายามดื่มน้ำให้เยอะหน่อย ที่ให้ใช้น้ำอุ่น เพราะว่าถ้าเป็นน้ำเย็นเดี๋ยวร่างกายจะเย็นเกิน แล้วเกิดสภาวะช็อกขึ้นมาอีก ใช้น้ำอุ่นดีที่สุด ขยันเข้าห้องน้ำหน่อย ๓ - ๔ วันก็หายแล้ว

เถรี
17-03-2019, 09:50
ถาม : มีคนเป็นความดันสูง ?
ตอบ : ไม่เป็นไร เพราะว่าเมรุที่วัดเผาฟรี...!

เป็นความดันสูง กินกระเทียมหรือน้ำมันกระเทียมก็ได้ กระเทียมสดก็สัก ๓ - ๔ กลีบ เคี้ยวแล้วกลืนลงไป แต่ขอโทษ...กลิ่นติดปากไปนานเลยนะ เอาน้ำมันกระเทียมดีกว่า ใช้กระเทียมอัดเม็ดก็ได้

เถรี
17-03-2019, 21:05
ถาม : อานิสงส์ของการดูการหล่อพระผ่านยูทูบ กับการที่เราไปหล่อพระด้วยตนเองที่วัด อย่างไหนดีกว่าคะ ?
ตอบ : ดูผ่านยูทูบน่าจะดีกว่า เพราะว่าไม่เหนื่อย กำลังใจไม่เสีย ถ้าเดินทางไปต้องไปเวลากลางคืน เพื่อที่จะไปให้ทันงานที่นั่น เหนื่อยด้วย ง่วงด้วย เดี๋ยวอารมณ์เสีย ถ้ารักษาอารมณ์ไม่อยู่ บุญจะลดเสียด้วยซ้ำไป อะไรก็ได้ที่ทำให้กำลังใจเราทรงตัวอยู่ในด้านดี รัก โลภ โกรธ หลงเข้าไม่ได้ อานิสงส์จะมีมากกว่า

เถรี
17-03-2019, 21:56
ถาม : ถวายถ้วยกาแฟสีชมพูค่ะ รุ่นใหม่ ?
ตอบ : ไม่เป็นไร สีอะไรอาตมาก็ไม่ได้ใช้ทั้งนั้น เพราะว่าไม่ฉันกาแฟ...ไม่ต้องเกรงใจ เกิดมาไม่ฉันกาแฟ ไม่ฉันน้ำหวาน เคยฉันน้ำอัดลมสนับสนุนกิจการของเขาอยู่พักหนึ่ง พอเขาเปลี่ยนรสก็เลิกฉัน

เถรี
17-03-2019, 22:15
ถาม : ครั้งที่แล้วสอบถามเรื่องการดูลม กลับไปฝึก กำหนดภาพพระสบาย ๆ ปฏิบัติทุกวัน จะได้อะไรบ้างหรือเปล่าคะ เพราะว่ายังฟุ้ง ?
ตอบ : เขาเรียกว่าทำแบบโง่เกินไป ไปทำหวังผลนี่เป็นตัวฟุ้งซ่าน เรามีหน้าที่ทำ ผลจะเกิดอย่างไรก็ช่างหัวมัน ทำใจแค่นั้นแหละแล้วจะได้ ถ้าไปทำแล้วหวังจะได้ ชาตินี้ก็ไม่ได้หรอก

ถาม : ตอนนี้มัวแต่กังวลว่าทำถูกไหม ?
ตอบ : นั่นแหละ..จงกังวลต่อไป ฟุ้งซ่านได้ดีมาก

ถาม : ปล่อยไปเลยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ปล่อยไปเลย เรามีหน้าที่ทำ จะได้อย่างไรจะเป็นอย่างไรเรื่องของมัน

ถาม : คือดูลมภาวนาตามปกติ ?
ตอบ : ตามปกติ เรามีหน้าที่ทำ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรช่างมัน

ถาม : ถ้าสมมติว่า...?
ตอบ : ไม่ต้องสมมติ ไปทำอย่างที่ว่ามานั้นแหละ

เถรี
18-03-2019, 08:44
พระอาจารย์กล่าวว่า “หลังจากหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำแล้ว องค์ต่อไปคือสมเด็จพระพุทธกัสสปทองคำ ส่วนองค์ปัจจุบันในปางปราบพระยาชมพูบดี ต้องรอดูก่อนว่าจะได้เนื้ออะไร”

เถรี
18-03-2019, 08:46
พระอาจารย์กล่าวว่า “รักษากำลังใจของเราเอาไว้ให้ได้ เหมือนกับตอนที่อยู่ในสถานที่ซึ่งเขาทำความดีกัน ตอนนี้อยู่ที่นี่เรารักษากำลังใจได้ เพราะว่ากำลังใจส่วนใหญ่เขาไปทางดี ก็เลยดึงเราไปด้วย ทำอย่างไรที่จะทำให้เรายืนเองได้แบบนี้ ถ้าหากว่ายืนหยัดอยู่ได้ อยู่ที่ไหนก็สบาย”

เถรี
18-03-2019, 22:48
ถาม : พาน้องชายไปรักษากับพระ เขาไม่เชื่อแพทย์แผนไทยเลย ถ้าเขามีวิบากของเขาที่ต้องสูญเสียอวัยวะ การที่เราพยายามไปทำให้เขาไม่ต้องสูญเสียอวัยวะ จัดว่าล่วงกรรมเขาไหมคะ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าเราทำมากน้อยเท่าไร ทำมากก็เดือดร้อนมาก ทำน้อยก็เดือดร้อนน้อย

ถาม : ปกติการที่เรามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย ก็เป็นการล่วงกรรมอยู่แล้ว ?
ตอบ : ถ้าจะทำก็ไม่ต้องกลัว ถ้ากลัวก็อย่าทำ..แค่นั้นแหละ

เถรี
18-03-2019, 22:52
พระอาจารย์กล่าวว่า "มนุษย์เราสร้างขยะท่วมโลก ไม่ต้องดูอะไรมาก อาตมามารับสังฆทานที่นี่แต่ละวัน เฉพาะขยะจากการถวายทองคำนี่ประมาณหนึ่งตะกร้า

ทองคำที่ถวายมาไม่ว่าจะชิ้นใหญ่ชิ้นเล็ก จะมีสำลี ๑ ก้อน ตลับพลาสติก ๑ อัน กล่องพลาสติกหรือไม่ก็ซองกำมะหยี่ ๑ ซอง ถ้าหากว่าใครใส่มาภายในซองจดหมาย ก็จะมีซองจดหมายอีก ๑ ซอง เพราะฉะนั้น..แต่ละวันที่รับมานี่ขยะเป็นตะกร้าเลย เพราะว่าเมื่อถึงเวลาก็ลงบัญชีเสร็จแล้ว ที่เหลือก็ต้องทิ้งหมด เก็บไว้แต่ทองคำ

ตอนนี้สถิติสูงสุดอยู่ที่คนญี่ปุ่น สร้างขยะต่อคนต่อวันสูงที่สุดในโลก เพราะว่าสินค้าญี่ปุ่นทุกอย่างห่อซับห่อซ้อน เอาหีบห่อสวยไว้ก่อน"

เถรี
18-03-2019, 22:57
"วัดท่าขนุนตอนนี้มีระบบแยกขยะ แต่ก็ไม่เต็มรูปแบบ เพราะว่าขยะบางส่วนอย่างพวกถุงพลาสติก ต้องเอาไปเข้าระบบการล้างน้ำ เสร็จเรียบร้อยแล้วถึงจะเอามาตากแล้วค่อยจัดเก็บ

ทางวัดยังไม่สามารถกำจัดขยะแบบเต็มรูปแบบได้ ส่วนหนึ่งจึงต้องเผาทำลายทิ้ง คราวนี้ในการเผา..ส่วนที่ยากที่สุดคือขยะเปียก เราต้องใช้ขยะแห้งเผานำไปก่อน เลือกเศษขยะที่เผาทำลายง่าย ๆ แล้วก็เสริมขยะเปียกเข้าไปเป็นระยะ เพื่อที่จะเอากำลังไฟไล่ความชื้นแล้วจึงเผาขยะเปียกได้"

เถรี
18-03-2019, 23:01
พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นนามสกุลโยมแล้วไปนึกถึงขุนหลวงพระยาไกรสีห์ ขุนหลวงพระยาไกรสีห์นั้นอยู่ในสมัยรัชกาลที่ ๖ พระองค์ท่านตั้งตำแหน่งให้ ด้วยความที่ท่านแสดงว่าอยากได้ ในหลวงรัชกาลที่ ๖ จึงพระราชทานตั้งให้ทีเดียวเลย ก็คือทั้งขุน ทั้งหลวง ทั้งพระ ทั้งพระยา อยู่ในคนเดียว เป็นตำแหน่งขุนหลวงพระยาไกรสีห์ สมัยนี้ใครดิ้นรนวิ่งเต้นเพื่อตำแหน่งมาก ๆ ก็น่าจะตั้งให้แบบนั้นบ้าง"

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : เป็นพระราชทินนาม เพียงแต่ว่าถ้าจะให้นับก็เป็นท่านขุน เพราะว่าขึ้นด้วยขุน แต่ว่ามีทุกตำแหน่งเลยคือขุนหลวงพระยาไกรสีห์ ในเมื่ออยากได้มากก็ให้ทีเดียวครบ จะได้ไม่ต้องมาขอบ่อย ๆ

เถรี
18-03-2019, 23:04
ถาม : ถ้าเราภาวนาพระคาถา ลืมคาถาบางตัว ?
ตอบ : สำคัญอยู่ที่ความเชื่อมั่น คาถาจะผิด จะถูก จะตก จะหล่น ไม่เกี่ยวกัน ใช้ได้ทั้งนั้น

เถรี
18-03-2019, 23:14
ถาม : การที่เราภาวนาอธิษฐานเอาแบบทางโลก ?
ตอบ : อยู่ที่กำลังใจของเรา ถ้ากำลังใจทรงตัวเป็นฌาน อธิษฐานเอาอะไรก็ได้อย่างนั้น

เถรี
18-03-2019, 23:21
ถาม : บางทีเราพิจารณาเห็นว่าร่างกายเป็นทุกข์ บางทีก็พิจารณาว่าพระนิพพานเป็นสิ่งที่ดีกว่า ไม่ทราบว่าการพิจารณาทั้งสองอย่างนี้มีความต่างอย่างไร ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเห็นทุกข์ จิตใจจะเบื่อหน่ายและปล่อยวางได้ การพิจารณาว่าพระนิพพานเป็นสิ่งที่ดีกว่า ถ้าทำผิดจะกลายเป็นยึดติดอยู่ใน รัก โลภ โกรธ หลง

เถรี
18-03-2019, 23:22
ถาม : การแผ่เมตตากับอุทิศส่วนกุศล ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ : ให้เขากินข้าวกับให้ร่มเงาต่างกันตรงไหนเล่า? ก็ถ้าคนหิวข้าวมา เราเอาร่มเงาให้เขาก็ยังไม่หายหิว แต่ถ้าคนเขาต้องการร่มเงา เราเอาข้าวไปให้เขากิน เขาก็ไม่หายร้อน

เถรี
18-03-2019, 23:27
ถาม : ถ้าผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัทตั้งเป้าการเจริญเติบโตของบริษัทที่เยอะมาก ๆ ตามใจตัวเอง เช่น ๕ ปีโตเท่าตัว การที่เขาทำแบบนี้เพิ่มแรงกดดันคนในบริษัท เป็นเรื่องดีหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าทางโลกก็ดี เป็นการบริหารที่ถูกต้อง เพราะว่าคนเราถ้าไม่เผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก ก็จะไม่ดึงศักยภาพของตัวเองออกมา

ถาม : แต่เป็นการบีบคั้นจนเกินไป ?
ตอบ : เขายังรู้สึกว่าเบาไปเสียด้วยซ้ำ คุณจะไปเอาศีลเอาธรรมอะไรกับเรื่องของการค้าขายหรือเรื่องของผลประโยชน์ ? คนละประเด็นกัน คุณทะลึ่งไปหลงประเด็นเอง

เถรี
18-03-2019, 23:32
ถาม : นอกจากประเทศไทย ที่เกิดมาแล้วมีโอกาสไปพระนิพพานได้ คนประเทศอื่นมีไหมครับ ?
ตอบ : เยอะแยะไป ยุโรปก็มี อเมริกาก็มี เอเชียยิ่งเยอะ

เถรี
18-03-2019, 23:33
ถาม : ของที่เราใช้ตอนบวช เช่น จีวร บาตร พอสึกถ้าเราเอากลับมาที่บ้าน ?
ตอบ : ก็ติดหนี้สงฆ์

ถาม : การที่พระคะยั้นคะยอให้เราเอากลับบ้าน ?
ตอบ : แล้วทำไมเราต้องไปฟังท่านด้วย ?

ถาม : ถ้าเราเอาไปถวายพระท่านอื่น ติดหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้เอามาก็ไม่เป็นไร

เถรี
20-03-2019, 17:28
ถาม : ความหมั่นเขี้ยว เกิดจากอะไร ?
ตอบ : โทสะ

ถาม : แม้จะหมั่นเขี้ยวก็ไม่ควรทำหรือครับ ?
ตอบ : ก็ รัก โลภ โกรธ หลง นั่นแหละ เพียงแต่บางเบาจนกระทั่งเราไม่รู้จัก

เถรี
20-03-2019, 17:31
ถาม : การที่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เป็นอยู่ เป็นกิเลสหรือไม่ครับ ?
ตอบ : วางกำลังใจผิดก็เป็นกิเลส ถ้าวางกำลังใจถูกเป็นธรรมะ พอใจที่มีอยู่ ไม่โลภดิ้นรนจนเกินกำลัง จัดว่าเป็นส่วนของธรรมะ แต่ถ้าพอใจว่ากูมีมากกว่าคนอื่นเขา กูมีดีกว่าคนอื่นเขา ก็เป็นกิเลส วางกำลังใจถูกก็ได้ดี วางกำลังใจผิดก็ลงเหวไป

เถรี
20-03-2019, 17:39
ถาม : ความมั่นใจที่ถูกต้องเกิดจากอะไรครับ ?
ตอบ : เกิดจากการกระทำ ความมั่นใจส่วนใหญ่เกิดจาก ศรัทธา คือความเชื่อ วิริยะ พากเพียรจนประสบกับความสำเร็จ สติ มีความรู้รอบว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แล้วก็ ปัญญา ไตร่ตรองครบถ้วนแล้ว

เถรี
20-03-2019, 17:46
ถาม : การที่คนอาหรับสวดมนต์ด้วยความศรัทธาเยอะมาก นั่งตลอดทั้งวัน ไม่ทราบปัจจัยที่ทำให้ประเทศเขาเจริญ และตัวเขาเองมีฐานะดีมาก ?
ตอบ : นั่นเป็นเรื่องสมาธิอย่างเดียว ส่วนเรื่องของปัจจัยที่ทำให้เกิดมาฐานะดีร่ำรวย ต้องมีพื้นฐานของทานมาในอดีต

เถรี
20-03-2019, 17:56
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาสายตาเอียง แต่ทำไมมองอะไรตรงก็ไม่รู้ สมัยเด็ก ๆ เป็นมากจนตาเหล่เลย แล้วเขาก็ให้ฝึกจนกระทั่งกลับคืนมา ตอนอายุมากขึ้นกล้ามเนื้อก็ล้า เหมือนจะกลับไปเป็นอย่างเดิม

คราวนี้มีผู้รู้บางท่านเขาบอกว่า พระที่อยู่ ๆ ไปแล้วสายตาเอียงมากจนกระทั่งตาเหล่ มีความเป็นไปได้อยู่อย่างหนึ่งว่า เป็นเพราะอดกลั้นเรื่องของกามราคะ เขาบอกว่าเส้นในร่างกายของเราบางเส้นจะตึง พอตึงแล้วก็ไปรั้งกล้ามเนื้อสายตา ซึ่งถ้าหากว่าไม่มีเรื่องพวกนี้ก็แปลว่าเส้นสายยังคงตึงเป็นปกติ ก็จะรั้งจนกระทั่งตาเอียงไปข้างหนึ่ง ตลกดีเหมือนกัน เป็นทฤษฎีที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ อันนี้หมอนวดเขาบอก

แบบเดียวกับที่เขากดท้องอาตมา แล้วเขาโวยว่าทำไมแข็งเป็นกระดานเลย เสร็จแล้วเขาก็บอกว่าดีแล้วละที่เส้นแข็ง พวกเส้นอ่อน ๆ แอบมีเมียทั้งนั้น เขาว่านะ สรุปแล้วในสายตาของเขาพระหาดีไม่ได้เลย ความจริงถ้าไม่มีการนวด เส้นตึงก็เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะทำงานหนัก ๆ นอนดึกนี่บางทีรั้งทั้งตัว ยิ่งนอนห้องปรับอากาศด้วย ยิ่งเย็นเส้นก็ยิ่งหดมาก"

เถรี
20-03-2019, 17:58
"สมัยเด็ก ๆ ทางบ้านมีอาเจ็กคนหนึ่ง แกมองกลางคืนเหมือนกลางวัน แกฝึกวิทยายุทธ์มา อันนั้นต้องยอมยกให้ กลางคืนนี่เรามองอะไรไม่เห็น แกเห็นหมด บอกได้หมด ขนาดนกนอนอยู่บนต้นไม้...ชี้ให้ดู อาตมาส่องไฟยังไม่ค่อยจะเห็นเลย แกถามว่าอยากจะกินนกไหม ? ชี้ให้ดู"

เถรี
21-03-2019, 00:24
พระอาจารย์กล่าวว่า “หมอเขาบอกว่าให้กินอาหารและน้ำเป็นยา ไม่เช่นนั้นแล้วท่านจะได้กินยาเป็นอาหาร พระพุทธเจ้าตรัสว่าต้องมีโภชเนมัตตัญญุตา รู้จักประมาณในการกิน ก็คือแค่พอสมควร รู้สึกอิ่มก็หยุด ไม่ใช่กินล้น กินเกิน จนกระทั่งเบรกไม่อยู่ คุมน้ำหนักไม่ได้ ห้ามปากตัวเองไม่ไหว”

เถรี
21-03-2019, 00:25
พระอาจารย์กล่าวว่า “มีคนแก่อยู่ในบ้านเหมือนมีสมบัติล้ำค่า เป็นโอกาสที่ลูกหลานจะได้แสดงความกตัญญู สร้างบุญกุศลใส่ตัวด้วย”

เถรี
21-03-2019, 00:46
ถาม : เป็นหนี้ผู้หญิงคนหนึ่ง แม่ผมอยากจะใช้หนี้มากเลยครับ ถ้าแม่ผมไม่เจอเขา จะทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : หาทายาทเขา อย่างเช่นว่าถ้าเขามีลูก ก็ดูลูกคนที่น่าให้ที่สุดแล้วก็ให้เขาไป

ถาม : ถ้าไม่เจอล่ะครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่เจอจริง ๆ ท้ายสุดก็ทำบุญให้เขาไป

เถรี
21-03-2019, 00:48
ญาติโยมเล่นกับเด็กที่มาทำบุญ พระอาจารย์จึงกล่าวว่า “ในเทวตาสังยุตต์ เทวดาได้กล่าวโศลกถวายพระพุทธเจ้าว่า “บุคคลผู้มีบุตรย่อมรื่นเริงเพราะบุตร บุคคลผู้มีโคย่อมรื่นเริงเพราะโค” ก็คืออาการอย่างนี้แหละ พระพุทธเจ้าทรงแก้ให้ว่า “บุคคลผู้มีบุตรย่อมทุกข์เพราะบุตร บุคคลผู้มีโคย่อมทุกข์เพราะโค” เจอของจริงเข้าไป เทวดาเหี่ยวไปเลย เขาเรียกว่า “Dream crusher” ผู้บดขยี้ความฝัน ..(หัวเราะ)..”

เถรี
21-03-2019, 19:28
พระอาจารย์กล่าวกับโยมคนหนึ่งว่า “ต้องแบ่งแยกให้ออกว่าเวลางานกับเวลาส่วนตัวเป็นอย่างไร เวลางานเราไปกับงาน เวลาส่วนตัวเราอยู่กับศีลกับธรรม อยู่กับการปฏิบัติของเรา ต้องแยกให้ออก

เรื่องของงานเป็นความจำเป็นในชีวิต ต้องบ้าตามเขาไป ถึงเวลาของเรา เราก็มาอยู่กับศีลกับธรรมของเรา แบ่งเวลาให้ถูก ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็มัวแต่ไปกำลังใจเศร้าหมองอยู่นั่นแหละ จะลำบากทีหลัง”

เถรี
21-03-2019, 19:29
พระอาจารย์กล่าวว่า “ในหลวงรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านบอกว่า ท่านมีขุนพลแก้ว มีขุนคลังแก้ว มีนางแก้ว ขุนพลแก้วของท่านก็คือ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ขุนคลังแก้วคือ พระยาศรีสหเทพ (ทองเพ็ง) ส่วนนางแก้วของท่านก็คือ ลูกสาวที่ช่วยงานพ่อหัวทิ่มหัวตำ ..(หัวเราะ)..”

เถรี
21-03-2019, 19:31
พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อวานกลับขึ้นไป ลงบัญชีทองคำจน ๓ ทุ่มครึ่ง ตื่นมาตี ๑ ครึ่ง ลงบัญชีต่อจนตี ๕ ครึ่งก็ยังไม่เสร็จ เพราะว่าบางทีโยมก็ถวายเป็นแผ่นเล็ก ๆ ขนาด ๑ กรัม เฉพาะ ๑ กรัมนี่ประมาณ ๓ หน้ากระดาษได้ ขนาดลงชื่อให้เป็นคณะก็บรรทัดเดียว ก็แปลว่าเมื่อวานเฉพาะที่ถวาย ๑ กรัมนี่เกิน ๖๐ คน เพราะว่าหนึ่งหน้าจะได้ประมาณ ๒๒ บรรทัด แล้วลองคิดดูว่ารวม ๆ กันหมดแล้วเท่าไร ? สูงสุด ๑๖ บาท ต่ำสุดครึ่งกรัม หรือ ๐.๐๓๑๒๕ บาท”

เถรี
21-03-2019, 19:36
พระอาจารย์กล่าวว่า “ประคำหยกพม่าขอเอาไปนั่งเสกนั่งจารก่อน เดือนหน้าค่อยเอามาลงตู้จำหน่าย แต่ว่าเดี๋ยวนี้เขาปิดห่อเก็บรักษาดีมาก

สมัยไปพม่า อาตมาบุกไปจนถึงตลาดค้าหยก เขาบอกว่า “พระอาจารย์..ที่เห็นกองพะเนินเทินทึกนั่นถวายเลยครับ หาสิบล้อมาขนเอาไปก็แล้วกัน” เป็นเศษหยกที่ติดส่วนเนื้อเขียว ๆ ไม่มาก เขาบอกว่าส่วนใหญ่แล้วเอาไปทำชิ้นเล็ก ๆ แบบโมเสกแล้วเอาไปประดับวัด อย่างที่พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เขาทำอย่างนั้นทั้งศาลาเลย ก็เลยบอกกับเขาไปว่า “ตูใช้กระเบื้องดูจะง่ายที่สุด ไปนั่งหั่นหยกทีละชิ้น กว่าจะได้สักศาลาหนึ่งคงจะหลายปี ใครจะไปมีอารมณ์วะ..!”

เถรี
21-03-2019, 19:39
"หยกที่โน่นอย่างไม่มี ๆ ชิ้นหนึ่งก็เป็นพัน ไปซื้อปลาหยกตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งประมาณข้อนิ้วก้อย เจอไป ๖๐๐ บาท นั่นขนาดอาตมาต่อราคาโหดร้ายที่สุดแล้วนะ มีพ่อออกสุจินต์ เป็นหัวหน้าคณะผู้ประสานงานระหว่างไทยพม่า ไปซื้อหยกมาก้อนหนึ่ง ๓ ล้านบาท คือการซื้อขายหยก เขาจะปาดเนื้อให้เห็นนิดเดียว ประมาณสัก ๒ นิ้วมือ ขัดจนเงาวับเลย แล้วเราก็ไปนั่งเล็งนั่งส่องคอยลุ้นเอา เพื่อประมูลแข่งกันกับเขา

พ่อออกสุจินต์เขาเล็งเสร็จแล้ว เขียวใสแบบนี้ ไม่มีแม้กระทั่งรอยตำหนิข้างใน หยกจักรพรรดิชัด ๆ แกสู้ราคาจน ๓ ล้านบาทไทย ซึ่งตอนนั้นก็คือ ๖๖ ล้านจ๊าตของพม่า ปรากฏว่าพอประมูลได้ มีคนมาให้ ๕ ล้านบาทไทย พ่อออกสุจินต์ไม่ขาย เขากะว่าผ่าออกมาแล้ว จะได้แพงกว่านั้น

พอผ่าออกมานี่แทบจะร้องไห้เลย เพราะเป็นหยกแบบเป็นกาบซ้อน ๆ กันอยู่ แต่คนปาดรู้ได้อย่างไร ? เขาปาดมุมที่มองไม่เห็นรอยซ้อนพอดี แทนที่จะได้ ๕ ล้านบาทไทยหรือมากกว่านั้น ก็กลายเป็นขายไม่ออก แต่คนปาดเขาเซียนสุด ๆ ปาดเข้ามุมที่มองแล้วทะลุหมดพอดี ไม่โดนอะไรเลย"

เถรี
21-03-2019, 19:41
"ท่านครูบาน้อยเคยเอาเงินสร้างวัดของอาตมาไปเป็น “ร้อยแสน” ของทางพม่าเขานิยมแค่หลักแสน สิบแสนก็หนึ่งล้าน ร้อยแสนก็สิบล้าน ชาวบ้านเขามาฟ้องว่า เอาเงินของครูบาเล็กไปเป็นร้อยแสนไปเล่นหยก แล้วก็เจ๊งกลับมา ก็ลักษณะนี้แหละ ต้องขึ้นกับดวง เพราะว่าช่วงนั้นอาตมาส่งเงินไปให้ท่านสร้างวัด แล้วปีท้าย ๆ ๒ ปี ท่านไม่ส่งบัญชีรับจ่าย อ้างว่างานยุ่งมาก ไม่มีเวลาส่ง เสร็จแล้วก็มีแต่ขอเบิก ๆ อาตมาก็ไม่ได้ดูว่า สิ่งที่เบิกกับสิ่งที่ทำนั้นไปกันได้ไหม เพราะว่าไว้ใจทั้งที่เขาไม่ได้ส่งบัญชีให้

ท้ายสุดก็กลายเป็นว่า ที่แท้พ่อเจ้าประคุณเตรียมจะสึก ตุนเงินเอาไว้เพื่อที่จะไปค้าขาย แถมยังยืมทองคำของญาติโยมไปอีก ๑๗ บาท เอาไปขายทำทุน โดยที่อ้างว่าพระอาจารย์เล็กยืม จนกระทั่งพ่อเจ้าประคุณสึกไป บรรดาคณะกรรมการวัดที่เคยเข้าใจผิดอาตมาว่าไปโกงเงินเขา ก็แห่กันมาที่ด่านเจดีย์สามองค์ มาขอร้องให้อาตมาหาเจ้าอาวาสใหม่ไปให้

อาตมาบอกว่า “ก็ตอนแรกพวกโยมบอกว่าอาตมาขี้โกง แล้วจะเอาเจ้าอาวาสจากอาตมาไปอีกทำไม ?” เขาบอกว่า “ไม่นึกว่าคนเราจะเปลี่ยนได้ขนาดนั้น” อาตมาก็เลยกางบัญชีให้ดู “นี่ ๑,๖๐๐ กว่าล้านพม่า ที่อาตมาให้ไปสร้างวัด แล้วจะเอาทองคำ ๑๗ บาทของคุณมาทำอะไร ?”

เถรี
21-03-2019, 19:43
พระอาจารย์กล่าวว่า “ไปพม่ามีอยู่เที่ยวหนึ่ง เข้าไปที่ตลาดโบชกอองซาน ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้ง โดยเฉพาะบรรดาสินค้าหยก สินค้าพลอย ไปเจอพระพุทธรูปถูกตามาก ๆ หนึ่งองค์ เป็นเนื้อหยกสีม่วงอ่อน ใสปิ๊งทั้งองค์ ไม่มีตำหนิเลย ถามเขาว่า “ราคาเท่าไร ?” “๔๐,๐๐๐ ดอลลาร์” ก็เลยบอกว่า “ขออภัย..ตอนนี้สร้างวัดอยู่ ยังไม่มีอารมณ์จะซื้อ..!”

แต่ว่าของพม่า เนื่องจากว่าเป็นรัฐบาลทหารแล้วเขาไม่ห้ามพวกงาช้าง หนังสัตว์ เขี้ยวสัตว์ หัวสัตว์ เขาสัตว์ สารพัด..เต็มตลาดไปหมด พวกหายาก ๆ อย่างของบ้านเรา อย่างเสือไฟ แมวลายหินอ่อนอะไรนี่ เขาถลกหนังวางขายเลย โดยเฉพาะเขากวาง หัววางอยู่ที่พื้น แต่เขาสูงเลยไหล่อาตมาอีก..! ตัวใหญ่ขนาดนั้น พวกนี้คนไทยเราเรียกว่า “กวางม้า” ก็คือ Sambar deer แล้วมีอีกอย่างคือกวางเล็ก บางคนเรียกว่า “กวางเขาเทียน” แต่ว่าทางด้านประเทศลาวเรียกว่า “กวางซี”

เถรี
21-03-2019, 19:59
"เพราะฉะนั้น..ที่เราเห็นชื่อน้ำตกตาดกวางซีนั่นคือกวางชนิดนี้ จะเป็นกวางที่ตัวเล็กกว่า แล้วสีจะออกแดง ๆ หน่อย เป็นคนละสายพันธุ์กัน บ้านเรานี่เรียกเป็นกวางม้าเหมือนกันหมด ก็พอ ๆ กับที่บอกว่าช้างค่อมแล้วไม่เชื่อ จนกระทั่งเชือกสุดท้ายตายไปแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นคนละสายพันธุ์กัน เพราะว่าช้างค่อมตัวใหญ่กว่าควายหน่อยเดียวเอง ก่อนหน้านี้รอบทะเลสาบสงขลามีตั้งเยอะ

ทางด้านบ้านจ่าตุ่มเคยเอางาช้างค่อมทำมีดให้อาตมาเล่มหนึ่ง ก็เรียบร้อย..โดนคนอมไปแล้ว..!"

เถรี
21-03-2019, 20:01
"สัตว์ในบ้านเรา ชาวบ้านรู้มากกว่า อย่างกระทิงกับเมย จริง ๆ แล้วเป็นคนละพวกกัน แต่ว่าเรารู้จักแต่กระทิง กระทิงจะหน้าผากเหลือง ถุงเท้าออกเหลือง เมยจะหน้าผากขาว ถุงเท้าขาว แล้วพวกชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เขารู้ว่าถ้าเป็นกระทิงคือพวกหน้าผากเหลืองนี่โหดมาก แต่ถ้าเมยจะค่อนข้างเชื่อง แล้วยืนยันว่าเมยเนื้ออร่อยกว่าเยอะ กระทิงเนื้อเหนียวกว่า อาตมาเองยังไม่ได้ลองดู..!

ก็พอ ๆ กับแรดกับกระซู่นั่นแหละ ความจริงในสายตาชาวบ้านชาวป่าไม่มีหรอก ของพวกเขามีแต่แรดอย่างเดียว กระซู่นั่นเป็นภาษากะเหรี่ยง เขาเรียกแรดว่ากระซู่ เรียกช้างว่ากระชอ คนไทยต้องมาแยกว่า พวกมีนอโผล่ขึ้นมา ๒ อันเรียกว่าแรด ส่วนนอเดียวเรียกว่ากระซู่"

เถรี
21-03-2019, 20:03
"อาตมาเคยไปเช่าช้างที่บ้านกะเหรี่ยงโคทะ ปรากฏว่าโดนฝรั่งแย่งไป ฝรั่งเขาหกล้มขาแพลง ก็เลยเช่าช้างไปขี่ ทั้ง ๆ ที่เจ้าของรับปากอาตมาเอาไว้แล้วว่าถึงเวลาจะไปรับ แต่ปรากฏว่าเห็นแก่ดอลลาร์เลยไปรับฝรั่ง..! อาตมาที่ขาหักจึงต้องเดินออกมาทั้งที่ขาหัก แล้วมาทันกันกลางทาง เลยชี้ให้ฝรั่งเขาดู บอกว่า “ยูแค่ขาแพลง ของไอนี่ broke เลยนะ” เขาทำหน้าช็อก ..(หัวเราะ)..”

ถาม : โคทะนี่แถวตากหรือครับ ?
ตอบ : โคทะอยู่อุ้มผาง จากน้ำตกทีลอซู เดินออกมาทางโคทะ ออกไปปะละทะ โดยปกติเดินประมาณ ๔ ชั่วโมง วันนั้นขาหักเดิน ๓ ชั่วโมงครึ่ง..! ที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าเดินช้าไม่ได้...เจ็บ แตะพื้นแล้วเจ็บ ก็เลยต้องลื่นพรวด ๆ ไปเลย กลายเป็นเดินเร็วกว่าตอนขาดี

ส่วนช้างนี่อย่าไปเดินแข่งนะ เห็นช้างเดินเนิบ ๆ นี่ เดินก้าวหนึ่งเท่ากับเราเดิน ๓-๔ ก้าว ฉะนั้น..เดินอย่างไรก็สู้ช้างไม่ได้หรอก

เถรี
21-03-2019, 21:49
พระอาจารย์กล่าวว่า “ภาษิตจีนเขาบอกว่า ในเงื้อมมือขุนพลเข้มแข็ง ไม่มีทหารอ่อนแอ ยกเว้นว่าตั้งใจอ่อนแอเอง ..(หัวเราะ)..

เพราะฉะนั้น..พระของเราในบาลีเรียกว่า “ธรรมเสนา” ทหารในกองทัพธรรม ไม่ใช่ดินเหนียวหรือขี้ผึ้ง ที่โดนแดดโดนฝนจะได้ละลาย เพราะฉะนั้น..พระวัดท่าขนุน ฝนตกแดดออกบิณฑบาตตลอด เดินเปียกม่อลอกม่อแลกไป บางทีโยมก็บอก “โอ้โฮ..หลวงพ่อเปียกหมดเลย” อาตมาบอกว่า “ยัง..ยังเหลือใต้บาตรแห้งอยู่หน่อยหนึ่ง” ก็อุ้มบาตรไปนี่..!

ถ้าเราทำหน้าที่สวดมนต์ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐานอย่างเข้มแข็ง ถึงเวลาญาติโยมเห็นก็จะเกิดศรัทธาเอง วันก่อนไปบรรยายที่ในงานชุมชนคุณธรรม เขาให้บรรยายหัวข้อว่า “ทำอย่างไรถึงเป็นชุมชนต้นแบบ” ก็ให้เขาดูรูป บอกว่าแค่บิณฑบาตเท่านั้น คุณเรียกศรัทธาคนได้ตั้งเท่าไร

วัดท่าขนุนเดินไปที ๒๐-๓๐ รูป บางทีก็ ๔๐-๕๐ รูป เรียงเป็นแถวยาวเหยียดและเป็นระเบียบ วัดอื่นบางที ๕ รูปก็เดินไม่ตรงกันแล้ว ส่วนของเราเดินตรงกันไป นักท่องเที่ยวเห็นก็ขอถ่ายรูปกันอุตลุด บางคนก็ถ่ายคลิปไปเลย กว่าจะวนรอบตลาดนี่ไม่รู้ว่าโดนถ่ายไปเท่าไร"

เถรี
21-03-2019, 21:50
"พอได้รูปอย่างนี้เขาเอาไปลงเว็บไซต์ของเขา หรือลงไลน์ ลงอินสตาแกรมของเขา คนเห็นก็อยากมาเห็นด้วยตา แค่นี้ก็สามารถเรียกศรัทธาคนได้ไม่รู้เท่าไรแล้ว แต่ว่าบางวัดพอให้เขาดูแล้ว แทนที่จะเกิดกำลังใจ เขากลับฝ่อไปเลย เขาบอกว่าเขาทำไม่ได้หรอก เพราะว่าวัดเขามีแค่ ๕ รูป

นี่ถ้าหากว่าวัดท่าขนุนทั้งหมด ๔ สายมารวมเป็นสายเดียวจะยาวกว่านั้นอีก ..(หัวเราะ).. ยังดีว่านี่ไปอีก ๓ สาย ซึ่งเป็นคนละทิศกัน”

เถรี
21-03-2019, 21:58
พระอาจารย์กล่าวว่า “ตอนนี้แอปเปิ้ลทำท่าจะแย่แล้ว โดนหัวเหว่ยตีเสียปางตาย จนต้องหาเรื่องไปจับนางเมิ่ง เจ๊เมิ่งแกก็เลยซวย อยู่ดี ๆ ก็โดนจับได้ ตอนนี้ศาลแคนาดาตัดสินให้ส่งตัวไปสหรัฐฯ แล้ว บอกว่าไม่อยากเดือดร้อน แต่เอ็งส่งตัวไปสหรัฐฯ นั่นแหละ เอ็งกำลังจะเดือดร้อน..!

ปัจจุบันนี้การต่อสู้กันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ไม่ว่าจะทางด้านเศรษฐกิจหรือสงคราม สหรัฐฯ เพลี่ยงพล้ำตลอด แล้วมีอยู่อย่างเดียวก็คือ สงครามตัวแทนต้องเลิก ต้องถล่มกันตรง ๆ ถ้าถล่มกันตรง ๆ ก็อยู่ที่ว่าใครลงมือก่อน ? ซึ่งดูท่าว่าจีนจะเสียท่า เพราะว่าจีนเป็นสุภาพบุรุษ ลักษณะรู้ว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่ ขยับตัวแล้วกระทบมาก จึงพยายามประนีประนอมสุดฤทธิ์

แต่ว่าสหรัฐฯ ปัจจุบันนี้ มีประธานาธิบดีติงต๊อง..! พร้อมจะมีเรื่องกับทุกคน คิดว่าตัวเองยังเป็นพี่ใหญ่คับโลกอยู่ ถึงเวลาสั่งคนโน้นต้องทำอย่างนั้น คนนี้ต้องทำอย่างนี้ แต่ตัวเองนั้นเขาขออะไรไม่ให้สักอย่าง แต่ของจีนนี่พยายามอะลุ้มอล่วยสุดชีวิต ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คือไม่อยากปะทะกันแบบประเภทตัวเองชนะ เขาสูญเสียพันหนึ่ง ตัวเองเสียแปดร้อย ไม่คุ้มกันกับตอนมาฟื้นฟู แต่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปัจจุบันก็ค่อนข้างจะขาดสติสัมปชัญญะ โฉ่งฉ่างประมาณจิ๊กโก๋ในซอย ไม่รู้ว่าเป็นประธานาธิบดีได้อย่างไร ?"

เถรี
21-03-2019, 21:59
"แต่เราจะเห็นความดีของพวกเขาตรงที่ว่า ต่อให้ได้ประธานาธิบดีที่ไม่เอาไหน เขาก็ให้โอกาสบริหารงานจนครบ ๔ ปี ถึงเวลาค่อยมาเลือกใหม่ ถ้าไม่ชอบคนนี้เราก็เลือกคนอื่น แต่บ้านเราไม่ใช่ บ้านเราคุณชอบคนนี้เลือกคนนี้ ก็มีคนเอาปืนมาจี้ให้ออก ยึดอำนาจไปบริหารเอง แสดงว่าบ้านเราจริง ๆ แล้วไม่ได้เคารพกฎเกณฑ์กติกาที่มีอยู่ ระยะเวลา ๘๐ ปีของประชาธิปไตย มีการปฏิวัติ ๒๐ กว่าครั้งนี่ก็มากจนเกินไป

ปฏิวัติมา ๔ ปีกว่า ทำประเทศถอยหลังเข้าคลองไม่ทันใคร ปฏิวัติหลาย ๆ ครั้งรวม ๆ กันมา จากเสือตัวที่ ๕ แห่งเอเชีย ปัจจุบันนี้เป็นเต่าตัวสุดท้ายของอาเซียน..! แล้วก็ยังอุตส่าห์วางแผนจะสืบทอดอำนาจไปอีก ๒๐ ปี สงสัยจะไม่ได้เป็นเต่าแล้ว อาจจะเป็นแค่ก้อนหินเฉย ๆ ขยับไปไหนไม่ได้แล้ว..! ถึงได้บอกว่าใครจะตั้ง “พรรคชาติหน้าพัฒนา” ก็ให้ดูประเทศไทยเอานะ..!

อาตมาก็ได้แต่หวังว่า สร้างหลวงพ่อทองคำแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นตามที่พระท่านบอก แต่ไม่ได้ดีปุบปับนะสิ คนไข้อยู่ไอซียูมาตลอดหลายปี ถึงเวลาจะให้ฟื้นกระโดดโลดเต้นได้เลยก็เป็นไปไม่ได้ คนจีนเขาบอกว่า “โรคมาเหมือนกับภูผาถล่ม แต่โรคไปเหมือนกับสาวไหม” ก็คือไปทีละนิด ๆ กว่าจะหายอาจจะตายพอดี”

เถรี
21-03-2019, 22:04
ถาม : มีคนร่วมบุญกับเรามา แล้วเราเอาตรงนั้นไปลดภาษีของเราเอง โดยที่เราบอกเขาก่อน แบบนี้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : แบบนั้นได้ ตรงไปตรงมา

ถาม : แล้วถ้าเกิดไม่บอกละครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่บอกก็เท่ากับฉ้อโกง

เถรี
21-03-2019, 22:06
พระอาจารย์กล่าวว่า “บางทีอาตมาก็ต้องหวดหนัก ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่ค่อยจะรู้ตัวกัน โดยเฉพาะอยู่ในฐานะของครูบาอาจารย์ มัวแต่ไปเกรงใจไม่ได้ อะไรที่ไม่ถูกต้องตามธรรมตามวินัย ต้องใส่ไปทันทีเลย อย่าไปปล่อยให้ค้างคา ยิ่งค้างนานเท่าไร ความชั่วก็ยิ่งเจริญงอกงาม”

เถรี
22-03-2019, 23:55
ถาม : เขาเคยไปอ่านว่าหลวงพ่อเคยนำทองคำไปถวายพระเขี้ยวแก้วที่วัดท่าขนุนก่อนเพื่อเพิ่มอานิสงส์ให้โยม แล้วค่อยนำไปหล่อพระ เขาก็เลยเอาไปถวายพระธาตุที่บ้านก่อนเพื่อเป็นพุทธบูชา ถ้าเขาจะเอามาหล่อพระจะเป็นการสมควรหรือไม่ เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจ ?
ตอบ : ถวายไปแล้วก็แล้วกัน ถ้าเอามาก็กลายเป็นโทษย้ายพระเจดีย์

ถาม : เขายังไม่เอามาค่ะ ตั้งใจว่าจะเอามาพรุ่งนี้ มาถามหลวงพ่อให้แน่ใจ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าไม่รู้จริงแล้วทะลึ่งไปทำ

ถาม : อย่างนั้นก็ไม่ควรใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ของอาตมานั่นเขาตั้งใจให้หล่อพระ อาตมาเอาไปถวายพระเขี้ยวแก้วก่อนให้ได้อานิสงส์อีกส่วนหนึ่ง แบบนั้นเอามาหล่อพระได้ อันนี้ทะลึ่งตั้งใจจะไปถวายพระธาตุก่อน เอามาหล่อพระก็ซวยสิครับ เขาเรียกว่าโลภบุญจนสิ้นสติ..!

เถรี
23-03-2019, 00:07
ถาม : ...(ไม่ชัด)...วิธีไหว้ของเขา เขาจะหงายมือ ?
ตอบ : แล้วไปศึกษามาจากไหน ?

ถาม : หนูก็อึดอัดใจ เวลาไปไหนกับเขา ?
ตอบ : ไม่เป็นไร ปล่อยเขาไป ทำหน้าว่ากูไม่ได้มากับมึง เรื่องไหว้ ๕ ครั้งนี่มีอยู่ในตำราเหมือนกัน ตั้งแต่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรมหาเถร) วัดเทพศิรินทราวาส ท่านสอนให้ไหว้ ๕ ครั้ง

ครั้งที่ ๑ ไหว้พระพุทธ
ครั้งที่ ๒ ไหว้พระธรรม
ครั้งที่ ๓ ไหว้พระสงฆ์
ครั้งที่ ๔ ไหว้พ่อแม่
ครั้งที่ ๕ ไหว้ครูบาอาจารย์

แต่ประเภทไหว้หงายมือ อาตมาไม่รู้ว่าตำราไหน ต้องไปถามเขาเอง หรือไม่ก็กลับไปบอกเขาว่า หลวงพ่อวัดท่าขนุนบอกว่าถ้าจะให้ดีจริง ๆ ต้องไหว้ให้ครบ ๑๐๘ ครั้ง...!

ถาม : หนูก็ถามเขาว่า เขาไหว้แบบนี้มาจากไหน เขาบอกว่าพระศรีอาริย์ฯ บอกเขา เขาไปเจอพระองค์หนึ่งที่บอกว่าเป็นพระศรีอาริย์ฯ แล้วเขาก็เชื่อ พระศรีอาริย์ฯ บอกให้เขาไหว้แบบนี้ แล้วการที่หนูสงสัยเขาแบบนี้ หนูมีโทษไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มีหรอก อาตมาก็สงสัยเหมือนกัน เพราะว่าพระศรีอาริย์ฯ ที่อาตมารู้จักมรณภาพไปแล้วหลายปี ก็เลยไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นพระศรีอาริย์ฯ องค์ไหน

เถรี
23-03-2019, 00:08
ถาม : มีเด็กคนหนึ่งบอกว่าเป็นพระศรีอาริย์ฯ แล้วเด็กคนนี้บอกว่าคนนี้เคยเป็นลูก เคยเป็นน้อง เคยเป็นพี่ ก็ไล่ตบหัวไปเรื่อยเลย ทำแบบนี้ถูกไหมคะ ?
ตอบ : พระศรีอาริย์ฯ ท่านคงไม่รุ่มร่ามขนาดนั้นหรอก ประเภทมาแล้วไม่รู้จักอปจายนมัย คือการอ่อนน้อมถ่อมตนต่อคนอื่น ไม่น่าจะใช่พระศรีอาริย์ฯ ที่สร้างบารมีมา ๑๖ อสงไขยกับแสนมหากัป

เถรี
23-03-2019, 00:12
ถาม : มีครั้งหนึ่ง เด็กคนนี้ขึ้นไปนั่งบนมือพระพุทธรูป หนูเห็นแล้วตำหนิแฟน แฟนก็ยังยืนยันจะเถียงหนูอีกว่าไม่ได้ทำแบบนั้น คือทุกครั้งที่เกิดอะไรขึ้นหนูจะสงสัยทุกครั้ง จะตำหนิแฟน แล้วเหมือนกับจะทะเลาะกันตลอดเลย ?
ตอบ : สรุปว่าเรามีปัญญามากกว่า แต่ยังมีปัญญาไม่จริง

ถาม : แต่เขาบอกว่าเขามีปัญญามากเลย เวลาหนูตำหนิจะเหมือนทะเลาะกันค่ะ หนูก็อึดอัดใจทุกครั้ง ?
ตอบ : จำเอาไว้ว่าสิ่งที่ถูกต้องในโลกก็คือหลักธรรม คราวนี้หลักธรรมมีทั้งสมมติและมีทั้งปรมัตถ์ สมมตินี่ก็คือสิ่งที่ชาวโลกเขาเชื่อถือกันว่าเป็นอย่างนั้น เคารพว่าเป็นอย่างนั้น ส่วนปรมัตถ์เป็นหลักธรรมที่แท้จริง ขัดแย้งไม่ได้ อย่างเช่นว่าทุกอย่างไม่เที่ยง ทุกอย่างเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา

คราวนี้ในส่วนที่ชาวโลกสมมติแล้วเคารพกัน แล้วไปทำทะลึ่ง อย่างเช่นขึ้นไปนั่งบนฝ่ามือพระพุทธรูป เราก็รู้อยู่ว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะใช่ ก็แปลว่าเรามีปัญญามากกว่า แต่คราวนี้ปัญญาของเราที่มากกว่านั้น เราแค่เห็นข้างนอก แต่เราไม่ได้เห็นตัวเอง คือเรายังเอาเรื่องนี้ไปขัดแย้งกับสามี ก็กลายเป็นประเภทบ้านแตกสาแหรกขาดเอาง่าย ๆ ทำไม่รู้ไม่ชี้ แกล้งบ้า เออ ๆ คะ ๆ ตามเขาไป เพียงแต่อย่าไปทำตามเขาก็พอ

เถรี
23-03-2019, 00:14
ถาม : แต่เวลาไปที่อื่น คนอื่นจะมองหนูว่า ทำไมไม่บอกแฟน แฟนเธอเป็นคนเพี้ยนหรือเปล่า ?
ตอบ : บอกเขาว่าหนูเป็นคนโบราณ ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เขามีหน้าที่สอนหนู ไม่ใช่หนูสอนเขา

คนเราโต ๆ พอรู้ภาษากันแล้ว รุ่นเก่า ๆ อย่างอาตมา ถ้าโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วยังไม่รู้ภาษาอีกก็ปล่อยเลย เอาตัวของเรารอดก็พอ ทำของเราให้ดีให้ถูกเข้าไว้ นึกว่าการที่อยู่ร่วมกันมา มีแต่ความทุกข์ตลอดเวลาเช่นนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีกแล้ว หมดจากชาตินี้ไปพระนิพพานดีกว่า เอ็งจะไปกับพระศรีอาริย์ฯ ก็ไปเถอะ..!

เถรี
23-03-2019, 00:16
ถาม : ก่อนหน้านี้เขาก็เป็นลูกศิษย์วัดท่าซุงมาเหนียวแน่น ?
ตอบ : พอเจอพระศรีอาริย์ฯ ก็เป็นลูกศิษย์พระศรีอาริย์ฯ

ถาม : สรุปหนูต้องทำปกติ เฉย ๆ ?
ตอบ : ทำไม่รู้ไม่ชี้ แกล้งบ้าไหลตามเขาไป เพียงแต่ว่าอย่าไปทำอย่างเขาก็พอ

ถาม : ไม่ต้องไปตำหนิเขาแล้วใช่ไหมคะ ? แล้วที่หนูเคยสงสัยแล้วตำหนิเขา หนูเกิดโทษไหมคะ ?
ตอบ : ก็ต้องบอกว่าอะไรที่เป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม เกิดโทษทั้งนั้น แต่ถ้าเราตำหนิในส่วนที่ดี ในส่วนที่ถูก โทษก็น้อยกว่า ถ้าหากว่าติดใจก็ไปขอขมาพระรัตนตรัย

เถรี
25-03-2019, 20:05
ถาม : เวลาเราจับภาพพระ พอลืมตาก็เห็นชัดเป็นปกติ แต่พอหลับตาเห็นเป็นเงาดำ ๆ ?
ตอบ : แสดงว่าเราไปใช้สายตามอง

ถาม : ใช้สายตามองหรือครับ ?
ตอบ : ใช่...ตั้งใจมอง...หลับตาลง...นึกถึง เราจะเห็นภาพเหมือนจริงได้สักพักหนึ่ง แล้วก็หายไป ลืมตามองใหม่...หลับตาลง...นึกถึง ไม่ใช่ไปจ้อง ถ้าไปจ้องแล้วเราหลับตาลง จะเหลือแต่เงา เขาให้จำด้วยใจ ไม่ใช่จำด้วยตา

ลักษณะการเพ่งกสิณก็คือแบบนี้ ตั้งใจมอง...นึกถึง จะนึกได้อยู่สักพักหนึ่ง...แล้วก็หายไป...แล้วก็ลืมตาดู...แล้วก็นึกถึงใหม่ ทำอย่างนี้แหละ เป็นหมื่น ๆ เป็นแสน ๆ ครั้ง เดี๋ยวก็ลืมตาเห็น หลับตาเห็นเท่ากัน ถ้าไปจ้องอย่างนั้นก็ได้แต่เงา

เถรี
25-03-2019, 20:30
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องคำสั่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ให้วัดห้ามจัดงานเสียงดัง เป็นการเอามติมหาเถรสมาคมเก่ามาแถข้าง เพราะว่ามติมหาเถรสมาคมท่านกำหนดเอาไว้เป็นระเบียบว่า ต้องจัดงานให้เรียบร้อย ถูกต้องตามศีลธรรมอันดีงาม เขาก็เอาไปแถข้างว่าห้ามเสียงดัง

เอาเป็นว่าไปไล่ดูตามวัดที่เป็นกรรมการมหาเถรสมาคมเถอะ ดูว่ามีวัดไหนที่ทำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์บ้าง เอาแค่ศีล ๕ ข้อ พวกเราที่เป็นชาวพุทธ ยังรักษากันไม่ครบสักคนเลย แล้วจะให้วัดปฏิบัติตามระเบียบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ขนาดทหารยังแหกระเบียบกันเลย

ของบางอย่างเป็นไปตามจารีตประเพณี ซึ่งสำคัญเกือบจะเท่ากฎหมาย เพราะว่าท้องถิ่นเขายึดถือกันมา คุณฝืนจารีตเมื่อไรก็อยู่ไม่ได้หรอก ฉะนั้น...วัดเราต้องอนุโลมไปตามลำดับชั้น พระวินัยผิดไม่ได้ ถัดไปก็เป็นกฎหมายบ้านเมือง ถัดไปถึงเป็นจารีตประเพณี ส่วนอื่นจะห้ามอย่างไรก็ห้ามไปเถอะ สามอย่างนี้ไม่มีใครห้ามได้หรอก เพราะว่าเป็นสิ่งที่เขาทำกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ"

เถรี
25-03-2019, 20:39
"แม้กระทั่งเรื่องของพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่หาเสียงว่าจะไม่ให้มีการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ประหยัดได้แค่งบประมาณเท่านั้น จริง ๆ แล้วชายไทยทุกคนต้องบังคับให้เป็นทหาร เพราะว่าการฝึกหัดทหารอยู่ ๒ ปี สร้างระเบียบวินัยให้อย่างมหาศาลในชีวิต จากบุคคลที่ไม่เคยอยู่ในกรอบก็ต้องอยู่ในกรอบ ไม่อย่างนั้นจะโดนตีน..! จะรู้จักว่าควรจะทำตัวอย่างไร ถึงจะอยู่ในสังคมร่วมกับคนอื่นเขาได้ ไม่ใช่ถึงเวลาก็ไปไล่กระทืบเด็ก ไล่กระทืบครูกัน ถ้าจับพวกนี้ไปเป็นทหาร จะกลับเป็นคนดีหมดเลย เพราะถึงเวลาเขาสั่งเข้าแถว ถ้าตบคนแรก คนที่ ๑๐๘ ต้องล้มตามไปด้วย..!

ฉะนั้น...เรื่องของการงดเกณฑ์ทหาร จะดีก็แค่ประหยัดงบประมาณ แต่ว่าในเรื่องของระเบียบวินัย เรื่องดี ๆ ที่เคยได้จากการฝึกทหารก็จะไม่มี แต่ก็ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกด้วย เพราะว่าวันที่อาตมาจบแล้วทางกองโรงเรียนจัดงานฉลองให้ ผู้บัญชาการกองพลบอกว่า "พวกคุณตอนนี้ผ่านการฝึกปรือมาแล้วเป็นอย่างดีตามหลักสูตร ถ้าเป็นรั้วของชาติที่ดีก็จะเป็นรั้วที่แข็งแกร่ง ปกป้องประเทศชาติ ประชาชนและสถาบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ถ้าคุณเอาความรู้ความสามารถนี้ไปเป็นโจร ก็จะเป็นโจรที่อันตรายที่สุด แต่ผมยืนยันว่าถ้าทำอย่างนั้น อนาคตคือตายโหงทุกคน" เพราะถึงเวลาเขารู้ว่าเรามีความสามารถระดับนั้น ต้องจับตายอย่างเดียว จับเป็นไม่ได้ อาวุธทุกชนิดตั้งแต่เข็มเย็บผ้ายันเรือรบต้องเอามาใช้งานได้ ตำรวจที่ไหนจะไปจับได้"

เถรี
25-03-2019, 20:55
พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงนี้หลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิกำลังสร้างบันไดขึ้นพระเจดีย์บนยอดเขาปรังกาสี พระเจดีย์บนยอดเขาเป็นเจดีย์เก่าอายุเป็น ๑๐๐ ปีแล้ว ชาวกะเหรี่ยงนับถือกันมา เขาเรียกเจดีย์องค์หญิง เจดีย์องค์ชาย สร้างคู่กันมา

อาตมาเองต้องบอกว่าดวงเฮง ก่อนหน้านั้นได้ไปสร้างฉัตรยอดเจดีย์ให้ทั้ง ๒ หลัง เพราะว่าทางพี่น้องชาวกะเหรี่ยงไปสั่งฉัตรทางพม่าเอาไว้แล้วไม่มีเงินไปเอา ตอนนั้นอาตมาเพิ่งจะออกจากวัดท่าซุงมา กำลังเดินธุดงค์อย่างสนุกสนานอยู่ ก็เลยไปจ่ายเงินแทนเขา"

เถรี
25-03-2019, 20:56
"ช่วงนั้นก็เกือบจะต้องเป็นเจ้าอาวาสวัดปรังกาสีไปแล้ว เพราะว่าช่วงนั้นวัดปรังกาสีมีแต่รักษาการเจ้าอาวาสต่อเนื่องกันมา ๓ รูปแล้ว แต่ละคนที่ไปก็ล้วนแล้วแต่ออกลาย พอถึงเวลาเงินผ้าป่ากฐินมาก็หายไปพร้อมกับเงิน จนกระทั่งท่านเจ้าคณะอำเภอรูปปัจจุบัน (ตอนนั้นเป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภออยู่) ท่านมาเป็นเจ้าอาวาส ก็บูรณะวัดขนานใหญ่ พอทำข้างล่างได้พอเพียงกับความต้องการแล้ว ก็เริ่มขึ้นภูเขา ทำบันไดขึ้นยอดเขา

ท่านบอกว่า "ผมทำอย่างหลวงพ่อวัดท่าขนุนไม่ไหวหรอก ไม่มีเงิน เอาเท่านี้ก็พอแล้ว"

เถรี
25-03-2019, 20:59
ถาม : เขาบนให้ตัวเองขึ้นเป็น ผอ. ถ้าได้จะถวายทองสร้างพระ แต่ทีนี้จะต้องสร้างพระก่อนที่ผลจะออก ควรจะทำอย่างไร ?
ตอบ : ยังมีสร้างพระทองคำอีกองค์หนึ่ง ตอนนี้ทองเกินมาเยอะ ก็เลยต้องสร้างอีกองค์ ไม่เป็นไรหรอก...เอาทองมาถวายสัก ๗ - ๘ กิโลกรัมก็ได้ ไม่ว่ากัน

เถรี
25-03-2019, 21:05
ถาม : ที่ทำงานหัวหน้าเขามาด่าแม่หนู หนูรู้สึกว่าด่าแม่นี่ที่สุดในชีวิตแล้ว แต่ไม่มีความรู้สึกที่จะโกรธเขา ก็อธิบายให้เขาฟังในสิ่งที่เกิดขึ้น กลายเป็นว่าเขาเข้าใจผิด พอคุยกันเสร็จแล้ว เราก็เอะใจ ทำไมเราถึงไม่โกรธ เล่าให้คนอื่นฟัง ก็ยังงัดความรู้สึกโกรธไม่ขึ้น แต่ก็ยังรู้อยู่ในใจนะคะว่าโกรธ ไม่พอใจ อึดอัดค่ะ จากคนดุร้ายทำไมเป็นแบบนี้ ?
ตอบ : เสียดายมากไหม ? ถ้าเสียดายมากก็งัดขึ้นมาให้ได้

ถาม : ไม่ได้เสียดายค่ะ แต่งงค่ะ ?
ตอบ : เป็นเรื่องปกติ ปฏิบัติไป ๆ กำลังเราความดีสูงกว่า รัก โลภ โกรธ หลง ก็งัดเราไม่ขึ้น แต่ประมาทไม่ได้ ถ้าวันไหนเราเผลอ ก็จะโดนงัดหงายท้องอีก เพราะฉะนั้น..ต้องตั้งหน้าทำให้มากกว่านี้

เถรี
25-03-2019, 21:07
ถาม : สิ่งที่แสดงออก เป็นการแสดง แต่ไม่ใช่ของเราจริง ๆ เหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราอยู่ในบทบาท ?
ตอบ : สักแต่ว่าทำ คราวนี้ตรงสักแต่ว่าทำ อย่าให้ใจเราปรุงแต่งเป็น รัก โลภ โกรธ หลง ทำตามหน้าที่ไปเท่านั้น แล้วพยายามตีกรอบให้อยู่ในกรอบกรรมบถ ๑๐ หรือศีลของเราเอาไว้ แล้วก็พยายามต่อไป โดยเฉพาะอย่าทิ้งการภาวนา ถ้าทิ้งการภาวนา เดี๋ยวกำลังตก ก็โดนงัดหงายท้องอีก คราวนี้ไม่ต้องไปงัดหาอารมณ์นั้นแล้ว มันมาเองเลย

เถรี
25-03-2019, 21:07
ถาม : ความพอใจกับไม่พอใจ มีแค่สองอันนี้ แต่เราไม่ได้เอาสองอันนี้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : แค่สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น อย่าไปปรุงแต่งตาม ยินดีพอใจเป็นราคะ ไม่ยินดีไม่พอใจเป็นโทสะ กิเลสกินเราทั้งคู่ ต้องอยู่ตรงกลาง ๆ อย่าไปยุ่ง

เถรี
25-03-2019, 21:11
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนแตกความสามัคคี ไม่หันหน้าเข้าหากัน ก็ส่งเสริมให้นั่งรถสองแถวสิ นั่งรถสองแถวก็ต้องหันหน้าเข้าหากันเอง อยากให้เขาสามัคคีก็จัดทอดกฐินกันทุกเดือน เพราะกฐินต้องเป็นกฐินสามัคคี"

เถรี
25-03-2019, 21:56
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนเก่า ๆ อย่างคุณวิวัฒน์ - วิชัย โกศล ฝาแฝดที่เป็นหมอนวดประจำตัวหลวงพ่อวัดท่าซุง เมื่อวานก็มาที่นี่ มาแล้วก็ถามเรื่องที่ไม่น่าถาม คนรุ่นเก่า ๆ ที่วัดท่าซุงเขาจะรู้ว่า ก่อนหน้านี้อาตมาทะลึ่งรู้ไปทุกเรื่อง จนกระทั่งโดนหลวงพ่อท่านดุเอา โดยเฉพาะหลายเรื่อง อย่างการให้หวยหรือการบอกว่าคนตายไปไหน ท่านให้เลิกไปเลย แต่เขามาก็ยังเคยชินกันอยู่ ก็คือถามเลย"

เถรี
25-03-2019, 22:03
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาบอกว่าจำชื่อ-นามสกุล ได้ทุกคน เขาไม่ค่อยจะเชื่อกัน ถ้าหลุดเข้ามาในเมมโมรี่การ์ดของอาตมาแล้วไม่หายไปไหน เพราะว่าลบไม่ได้

อาทิตย์ก่อนแวะไปให้ท่านอาจารย์บ๊ะซ่อมสุขภาพให้ เจอขาเก่าวัดท่าซุง ๗ - ๘ คน มีรายหนึ่งเดินยิ้มมาแต่ไกลเลย "จำได้ไหม ? สมัยพระองค์ที่ ๑๑" ตอนนั้นอาตมายังไม่ได้บวชเลย บอกว่า "จำได้ คุณสุกัญญา ตั้งศุภวัฒนกิจ" อีกฝ่ายก็เลยยิ้มไม่หุบ เกือบ ๔๐ ปี ยังบอกชื่อบอกนามสกุลถูก เขายอมกลัวกันทั้งนั้น

อาตมาไม่ได้จำ แล้วก็ไม่ได้ลืม บอกไม่ถูกว่าเป็นอย่างไร ก็คือเวลาต้องการข้อมูลจะขึ้นมาเอง แปลว่าไม่ต้องเสียเวลาจำ แล้วก็ไม่ต้องลืม คือถ้าลืมจะจำไม่ได้ ถ้าจำเยอะ ๆ ก็เครียด จึงใช้วิธีไม่จำ"

เถรี
25-03-2019, 22:55
มีโยมพาลูกหมามาบ้านเติมบุญ "เจ้าตัวเล็ก ๆ พวกนี้พอมา อาตมายื่นมือให้กัด บางตัวก็กัดอย่างเป็นจริงเป็นจัง กัดอยู่พักใหญ่ ไม่เข้าสักทีก็เลิก บางทีบิณฑบาตอยู่ในตลาด เจอหมาตัวใหญ่ สูงเกือบถึงเอว อันนั้นเป็นพันธุ์อลาสกัน มาลามิวท์ ก็จับหัวเล่น พระเขากลัวว่าจะโดนกัดมือ บอกว่าไม่เป็นไรหรอก รู้จักกันมาหลายชาติแล้ว

มีอยู่ตัวหนึ่งเป็นลูกผสมร็อตไวเลอร์กับหมาไทย หน้าตาเลยแปลก ๆ เจอหน้าเมื่อไรอาตมาก็เตะเล่น ตอนบิณฑบาตนั่นแหละ เขาก็จะกระโดดงับซ้ายงับขวาไปเรื่อย เจ้าของก็ตกใจ ตวาดลั่นไปหมด บอกโยมไปว่า ไม่ต้องไปตวาด หมาโดนเก็บกดอยู่ในบ้าน ออกมาก็อยากจะเล่น พอเราไปเตะหยอก ๆ เขาก็เล่นด้วย"

เถรี
25-03-2019, 23:20
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนแก่ก็ค่อย ๆ ล่วงลับไปทีละคนสองคน เมื่อวานคุณวิวัฒน์มา บอกว่าหลวงพี่ไม่แก่เลย อาตมาบอกว่าแก่ไปเยอะเลย เพียงแต่ว่าคุณเห็นเหมือนเดิมเท่านั้นเอง เขาถามว่าทำอย่างไร กินยาหรือเปล่า ? อาตมาบอกว่าเป็นคนเกลียดยาที่สุด ไม่ค่อยกิน อย่าไปเครียดกับชีวิตก็พอ ถ้าเครียดมากก็จะแก่เร็ว"

เถรี
26-03-2019, 21:20
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนทั่วไปโดยเฉพาะคนแก่ อย่าไปตั้งความหวังอะไรกับชีวิตมาก ถ้าหวังมากเมื่อผิดหวังก็จะเครียด"

เถรี
26-03-2019, 21:27
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปัจจุบันนี้อาตมาฉันอาหารตามหน้าที่ คือต้องเลี้ยงร่างกาย ก็เลี้ยงไว้หน่อยให้พออยู่ได้

ส่วนใหญ่พอไปนั่งร่วมวงกับท่านอื่น หลวงปู่หลวงพ่อก็ฉันไม่เลิกยันเที่ยง ท่านเห็นอาตมาฉันไม่กี่นาที เสร็จเรียบร้อยก็ถาม "อิ่มแล้วหรือ ?" "อิ่มแล้วครับ" "จะอยู่ได้อย่างไร ตอนเย็นฉันอะไรบ้างหรือเปล่า ?" "อ๋อ...น้ำเปล่าเป็นหลักครับ" เลี้ยงไปตามหน้าที่ เรามีหน้าที่เลี้ยงก็เลี้ยงไป ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวร่างกายก็อาละวาด แต่เลี้ยงแค่ให้อยู่ได้"

เถรี
26-03-2019, 21:35
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาบอกกับพระปลัดคมสันต์ไปว่า ผมเป็นคนที่จำอะไรแล้วจำตลอดชีวิต จำแล้วไม่ลืม แต่ทั่ว ๆ ไปเขาจำแล้วมักจะลืม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสมองทำด้วยอะไร

แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนชาวบ้านก็คือ จำความดีของคน แต่ไม่จำความชั่ว ใครทำอะไรไม่ดีกับอาตมานี่ไม่สนใจหรอก แต่ถ้าใครทำความดีนี่จะจำไว้ว่าเขามีบุญคุณกับเรา เพื่อรอทดแทนตอนมีโอกาส"

เถรี
26-03-2019, 21:38
พระอาจารย์กล่าวว่า "สำนวนหัวกระไดไม่แห้ง มาจากว่าสมัยก่อนมักจะเดินเท้าเปล่า ถึงเวลาก็จะมีอ่างล้างเท้าไว้ข้างบันได ล้างเท้าเสร็จขึ้นบันได กระไดก็เปียก หัวกระไดไม่แห้งก็คือมีคนมามาก"

เถรี
26-03-2019, 21:45
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้อาตมางานท่วมหัว อยู่ ๆ ก็มีงานพิเศษเพิ่มขึ้นมา ต้องไปบรรยายว่าทำอย่างไรให้เป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ ท้ายสุดบรรดาผู้ฟังเขาสรุปว่า ต้องมีเงินอย่างวัดท่าขนุน

อย่างเช่นว่าการจัดงานปฏิบัติธรรม วัดเรารับไม่เกิน ๓๐๐ คน ค่าอาหารวันละประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาท ก็เฉลี่ยว่าวันละ ๓๕ บาท ต่อคนต่อวัน ถือว่าอาหาร ๒ มื้อ ๆ ละ ๑๕ บาท น้ำปานะอีก ๕ บาท มีที่ไหนเขาจัดได้บ้าง ? ขนาดนี้ยังจ่ายวันละหมื่น ที่อื่นเขาจึงจัดกันไม่ได้

พอเห็นของวัดท่าขนุนจัดแล้วส่งรูปสวย ๆ ไปให้ดู เขาสรุปว่า ถ้าอยากเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบต้องรวยกว่าวัดท่าขนุน ซึ่งความจริงการจัดงานปฏิบัติธรรม รายได้จะมาเอง เพราะว่าผู้ปฏิบัติธรรมทุกคนก็ทำบุญอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราอย่าไปหวังในเรื่องของผลกำไร ควรที่จะหวังว่าโยมจะได้ผลอะไรจากการปฏิบัติธรรม

อย่างที่วัดท่าขนุนหล่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำหนัก ๙๗.๕๗๕ กิโลกรัม คูณออกมาราคาเป็นร้อยล้าน ที่อื่นเขาจะมาหล่อพระเรียกคนอย่างเราได้ไหม ? ก็ไม่ได้"

เถรี
26-03-2019, 21:48
"ความจริงแล้วถ้าสร้างศรัทธาให้เกิดกับญาติโยมได้ เงินทองทั้งหลายจะมาเอง เพราะว่าคนที่อยากทำบุญมีมาก แต่เขาก็หวังว่าจะมีพระที่เขาไว้ใจได้ ซึ่งตรงนี้สำคัญที่สุดว่า ทำอย่างไรให้โยมเขาไว้ใจ อย่างของวัดท่าขนุนเราไม่บอกบุญ ไม่เรี่ยไรโดยตรงที่วัด จะไม่มีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งจัดงาน ธงสักอันก็ไม่มี ให้บอกกันปากต่อปากไปเท่านั้น ถ้าโยมอยากทำบุญก็มา ถึงเวลาก็ทำไปเลย โยมอยากจะทำบุญ เขาก็มาร่วมทำเอง

อย่างเมื่อวานครอบครัวเตชะไกรศรีถวายทองคำมา ๑๐ กว่าบาท เงินอีก ๔๐,๐๐๐ บาท ก็เพราะว่าตลอดเวลาเกือบ ๔๐ ปีที่ผ่านมา ญาติโยมก็เห็นอาตมาทำอย่างนี้มาตั้งแต่ฆราวาสจนเป็นพระ เขาเกิดความเชื่อมั่นว่า ปัจจัยทุกอย่างที่ถวายไป อาตมาเอาไปสร้างประโยชน์จริง ๆ ก็อยากจะทำบุญ

แค่ทุกวัดถ้าสามารถสร้างศรัทธาเอาไว้ได้แบบนี้ ญาติโยมก็ค่อย ๆ เข้าวัดเอง แรก ๆ ก็มีไม่กี่คนหรอก เราอย่าไปหวังอะไรมากมาย เพราะว่าพระพุทธเจ้าเทศน์ครั้งแรกยังมีผู้ฟังแค่ ๕ คน เพียงแต่ว่าเราเทศน์ไม่ได้อย่างพระองค์ท่าน เพราะว่าพระองค์ท่านเทศน์แล้วผู้ฟังเป็นพระอรหันต์หมด อาตมาเทศน์ให้ตาย คนฟังเป็นพันก็ยังเป็นกังหันอยู่นั่นแหละ...!"

เถรี
26-03-2019, 21:50
"ในเรื่องของศรัทธาญาติโยม ไม่ต้องไปหวังมาก เราตีเสียว่ามีโยมเขาเลื่อมใสศรัทธาปีละ ๑๐ คน ๑๐ ปีผ่านไป ๑๐๐ คนผลัดกันมา เราก็ตายแล้ว ใครไปหวังให้คนเข้าวัดมาก ๆ หาเรื่องเหนื่อยตายชัด ๆ..!

วัดท่าขนุนทั้งขับ ทั้งไล่ ทั้งด่า ยังอุตส่าห์ตะเกียกตะกายกันไป บางคนไปเจอกันกลางทางที่ปั๊มน้ำมันตอนที่ลงไปปัสสาวะ ดีอกดีใจ บอกว่าไปวัด ๓ ครั้งไม่เจอหลวงพ่อเลย มาเจอกันหน้าส้วมนี่แหละ"

เถรี
28-03-2019, 22:48
พูดถึงบันไดขึ้นรอยพระพุทธบาท "มีขั้นบันไดทั้งแตกทั้งร้าวอยู่ ๑๘ แผ่น เด็กวัยรุ่นที่ขึ้นไปเขาลองกระทืบดูว่าทำด้วยวัสดุอะไร ที่แน่ ๆ ไม่เกินจุดที่ ๙ เพราะว่าขึ้นเขาจนหมดแรง กระทืบไม่ไหวแล้ว พอเกินจุดที่ ๙ บันไดทุกขั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก

เด็กระยำแค่อยากรู้ว่าบันไดทำด้วยอะไร ก็ลองกระทืบจนแตกหมด ไม่ได้คิดว่าของสงฆ์จะเสียหายขนาดไหน เอาเถอะ...เอาตามที่ใจอยาก อยากให้ไปกระทืบจุดที่ ๒๓ ดูซิว่าจะยกขาขึ้นไหม ?

วันนั้นเดินขึ้นไป อาตมาก็เอาไม้กวาดไปด้วย ค่อย ๆ กวาดแล้วไปนับดูว่าแตกหรือร้าวไปกี่อัน ปรากฏว่าร้าวอยู่ ๓ แผ่น อีก ๑๕ แผ่นนั่นแตกไปเลย บางอันแตกครึ่งแผ่น ส่วนบันไดฝั่งวัดยังไม่ได้ดู ฝั่งวัดนี่อาจจะแตกเยอะกว่า เพราะว่าไม่สูง หรือไม่ก็ยังดีทั้งหมด เพราะว่าใกล้หูใกล้ตา เขาเลยไม่กล้าลองกระทืบ"

เถรี
28-03-2019, 23:02
ถาม : เหรียญทำน้ำมนต์ทองลอก ทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ไปปิดทองใหม่ แล้วก็เสกด้วย อิติปิ โสฯ ๑๐๘ จบ นะมะพะทะ ๑๐๘ จบ ก็กลับมาใช้ได้เหมือนเดิมแล้ว

ถาม : แต่ลอกนิดเดียวนะครับ ?
ตอบ : จะลอกมากหรือลอกน้อยก็เหมือนกัน ภาวนาอิติปิ โสฯ ๑๐๘ จบ นะมะพะทะ ๑๐๘ จบ แต่คราวนี้ต้องเสกให้ขลังด้วยตัวเอง อาตมาเจอหลวงพ่อวัดท่าซุงเล่นจนเดี้ยงมาแล้ว ท่านบอกว่าให้ใช้แผ่นทอง ๖ แผ่น แผ่นเงิน ๖ แผ่น เขียนยันต์แล้วก็เสกด้วยอิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๑๐๘ จบ นะมะพะทะ ๑๐๘ จบ

อาตมาเขียนเสร็จก็เอาไปถวายหลวงพ่อ ท่านบอกว่า “วิธีก็รู้แล้ว ก็เสกเองสิวะ” อ้าว...ท้ายสุดก็ล่อไป ๒ ชั่วโมงครึ่ง เหนื่อยลิ้นห้อยเลย แล้วก็ไม่มีความมั่นใจสักนิดเดียว พอวัดมีพิธีก็เอาไปซุก หลวงพ่อท่านเห็น ท่านก็หัวเราะ “ก่อนหน้านี้ข้าก็เหมือนแก ไม่เคยมั่นใจตัวเอง แต่พอถึงเวลาหลวงพ่อปานมรณภาพ ชาวบ้านเขามาหา ข้าก็ต้องมั่นใจจนได้แหละ”

เถรี
28-03-2019, 23:11
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่ออาทิตย์ก่อนครอบครัวคุณชนินทร เหตระกูล ถวายข้าวสารไป ๕๐๐ กิโลกรัม เป็นข้าวหอมมะลิ ต้องเอาไปแบ่งปันให้วัดอื่น เพราะว่าเป็นกระสอบ ๕๐ กิโลกรัม เก็บไว้นานไม่ได้ ถ้าหากว่าเป็นข้าวสุญญากาศนี่ยังเก็บได้เป็นปี ปกติเราก็แบ่งปันให้วัดอื่นอยู่แล้ว โรงเรียนก็มาขอ ป่าไม้ก็มาขอ ตชด.ก็มาขอ

ถึงเวลาเขียนรายการมาอย่างกับทางวัดเป็นห้างสรรพสินค้า เอาข้าวสารเท่านี้กิโลกรัม น้ำปลาเท่านี้ น้ำตาลเท่านี้ ถ้าเจอหน้าจะโบกให้สักที...! เขียนอย่างกับวัดท่าขนุนเป็นห้างที่จะจัดให้เขาได้ตามนั้น"

เถรี
28-03-2019, 23:17
ถาม : วันหล่อพระผมไม่ได้ไป ผมสวดมนต์โมทนาอยู่หน้าหิ้งพระได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องไปก็ได้ อยู่ที่ไหนถ้าเราตั้งใจโมทนาก็ได้เหมือนกัน

เถรี
28-03-2019, 23:27
พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นโยมผมหงอก อาตมาก็พยายามนึกว่าหงอกเพราะอะไร ? ส่วนใหญ่หงอกเพราะเครียด คราวนี้บอกโยมว่าอย่าเครียด โยมก็ดันทำไม่ได้อีก แล้วอาตมาจะช่วยอย่างไร

อย่างอาตมาตั้งแต่ฆราวาส อะไรถ้าทำไม่ได้ก็ช่างมัน แล้วก็หลับ กูไม่เครียดกับมึงหรอก อะไรที่ทำได้ก็ทุ่มเต็มที่ จนกระทั่งตอนหลังไปอ่านหนังสือเจอ ที่ใครเขาบอกว่า "ปัญหาที่แก้ไม่ได้ ไม่ใช่ปัญหา ปล่อยไปเถอะ" เออ...ความคิดเดียวกันเลย ปัญหาที่แก้ได้ เราก็แก้ไป อันไหนที่แก้ไม่ได้ก็ช่างหัวมัน โยนทิ้งไป ถึงเวลาก็หลับ

ฉะนั้น...เขาบอกนอนไม่หลับ อาตมาไม่รู้จัก รู้แต่นอนไม่ค่อยอยากจะตื่น แต่ละวันทำงานจนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงเหลือเลย"

เถรี
28-03-2019, 23:48
พระอาจารย์กล่าวว่า "ไหว้พระเวลาไหนก็ไหว้ได้ แต่ถ้าหากว่าบวงสรวง เรื่องของเทวดานี่ต้องดูเวลา อย่าให้เกิน ๙ โมงครึ่ง"

เถรี
29-03-2019, 21:54
พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของบัญชีเงินทองรายรับรายจ่ายของวัด หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเน้นอาตมาตั้งแต่พรรษาแรกที่ออกจากวัดไป ซึ่งก็คือ ๒๖ ปีที่แล้ว เพราะว่าตอนที่ออกจากวัดนั่นพรรษาที่ ๘ ผ่านมา ๒๖ ปีท่านก็ย้ำในเรื่องของบัญชีว่า ทุกอย่างจะต้องชัดเจนในเรื่องของที่มาที่ไป รับมาจากใคร จ่ายไปเรื่องอะไร ใครสอบถามจะต้องชี้แจงได้

ดังนั้นอาตมาจึงต้องลงบัญชีอย่างรอบคอบและระมัดระวังเป็นอย่างสูง แต่ญาติโยมบางคนก็ไม่ได้เกรงใจพระเลย โอนเงินมาวันละบาท โยมทำบุญแบบมีความสุขมากที่ได้โอนเงินวันละบาท แต่อาตมาต้องลงบัญชีทีละบาท ลองคิดดูว่าต้องไปไล่ลงทีละบาท ๆ ยังโชคดีนะว่าสมัยนี้พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ถ้าเป็นพรรษาแรก ๆ ที่เกาะพระฤๅษียังใช้เขียนด้วยมือ แบบนั้นเขียนกันมือหงิกแน่

อาตมายังมีบัญชีที่เขียนด้วยมืออยู่ ๗-๘ เล่ม เอาไว้มีเวลาเดี๋ยวเอาออกมาให้ประมูลกัน ขายลายมือตัวเอง...!"

เถรี
29-03-2019, 21:59
"สมัยที่เรียนประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท อาตมาเอาสมุดเล็กเชอร์มาให้เด็ก ๆ เขาดู เขาบอกว่า "อันนี้ไม่ใช่เล็กเชอร์นะหลวงพ่อ อันนี้คือคัดลายมือ" อาตมาเป็นคนจำแม่น อาจารย์ว่าไปเท่าไรก็จำได้หมด ก็เลยค่อย ๆ เขียนตามไปได้ ไม่เห็นต้องรีบเขียนเหมือนคนอื่นเขา โดยเฉพาะว่าเนื้อหาที่จดไว้ก็คือเข้าใจจริง ๆ

บอกคนรุ่นหลัง ๆ ไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วในเรื่องของการเรียน วันนี้เราเรียนเรื่องอะไรเป็นหัวข้อใหญ่ แล้วหัวข้อย่อยคืออะไร พอจำหลักตรงนี้ได้ แล้วก็ทำความเข้าใจกับเนื้อหาของหัวข้อย่อยก็จบแล้ว ถ้าเข้าใจได้ก็แปลว่าจำได้ทั้งหมด เพราะว่าหัวข้อหลักอยู่ในหัว หลังจากนั้นก่อนจะเข้าห้องเรียนชั่วโมงต่อไป ก็ทวนของเก่าสักนิดหนึ่งว่าท่านสอนไปถึงไหน

ตอนอาตมาเรียนจะเป็นบุคคลที่อาจารย์ถามทุกชั่วโมงว่า ชั่วโมงที่แล้วสอนไปถึงไหน ? พอบอกแล้วท่านก็สอนต่อจากตรงนั้นไป ถามก็แล้ว บอกก็แล้ว ยังไม่มีใครทำได้"

เถรี
01-04-2019, 08:42
พูดถึงงานทำบุญอุทิศให้ ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน "เจ้าที่ซึ่งเป็นมอญมาถึงก็ร้องไห้เลย บอกว่าก่อนหน้านี้ที่พวกเราทำกัน ไม่ได้เรียกเขาโดยตรง เขาเองก็มีสิทธิ์มีเสียงน้อย แต่งานนี้เรียกเขาโดยตรงเลย เขาบอกว่าดีใจมาก"

ถาม : แต่ที่ผ่านมาเราก็อุทิศให้เขา ?
ตอบ : ใช่...แต่ว่าไม่ใช่เขาโดยตรง เพราะว่าอีกสักพักก็มีเจ้าที่ไทยมาอีก เจ้าที่ไทยมาถึงก็บอกว่าอุดมสมบูรณ์มาก ดีไปหมด เสียอย่างเดียวหมาเยอะเหลือเกิน ก็เลยแกล้งแหย่ท่าน บอกไปว่ามีทางทำให้หมาน้อยลงบ้างไหม ? ท่านก็บอกว่า “อ๋อ...ท่านเองก็สอนกรรมฐานนี่ ก็นั่งสมาธิทำใจไปสิ” อ้าว...แล้วจะทะลึ่งบ่นไปทำไมวะ ?

ถาม : มาครบ ๗ หัวเมืองไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ครบ..เพราะว่าเวลาหมด ที่มาอันดับแรกเลยก็คือเจ้าเมืองท่าขนุน แล้วก็เจ้าเมืองเมืองทองผาภูมิ ถัดไปก็ภรรยาเจ้าเมืองทองผาภูมิ แล้วก็เจ้าเมืองไทรโยค เจ้าเมืองท่าตะกั่ว ส่วนเมืองสิงห์ ท่ากระดานกับเมืองลุ่มสุ่ม ยังไม่ทันได้ลง เวลาหมดเสียก่อน เพราะว่าพวกตัวเล็กตัวน้อยนี่ได้ท่าก็แทรกก่อนเลย กระทั่งหมูหมากาไก่ก็ยังมา

เสียดายว่าหลอกผีเจ้าที่ไม่สำเร็จ เขาเป็นงูใหญ่เฝ้าอยู่บนยอดเขาพระพุทธบาท เขาบอกชาวบ้านว่า หลวงพ่อรู้นานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร เพราะว่าไม่มีร่างเป็นหลักฐานอย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะลงกับใคร เขาบอกว่าให้จุดธูป ๙ ดอกปักบนยอดเขา เพื่อขอให้เขาดูแลอย่างเป็นทางการ

อาตมาจึงบอกเขาว่า ให้ช่วยจัดการพวกที่มาขโมยเงินขโมยของหน่อยได้ไหม ? เอาให้แข้งขาหักบ้างก็ได้ เขาบอกว่า “ไม่ทำ...บาป” โอ้โห...ตูจะบ้า รู้สึกว่าตัวเองชั่วช้าสามานย์มากเลย แต่ว่าตรงจุดนี้จะเห็นชัดว่า เรื่องของเทวดานี่หิริโอตตัปปะท่านเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ อาตมาคิดว่าไม่ถึงตายก็ไม่เป็นไร ที่ไหนได้..บาปแค่นั้นเขาก็ไม่ทำ

ในความเป็นตั้งแต่เทวดาขึ้นไป ถ้าท่านตั้งใจดูตั้งใจรู้ ท่านจะเห็นอบายภูมิชัดเจนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น..ไม่มีใครหรอกที่อยากจะเสี่ยงด้วยการทำชั่ว เป็นเรื่องที่ถ้าไม่ประมาทก็ต้องเห็นโทษอยู่แล้ว

เถรี
01-04-2019, 08:49
ถาม : ทำไมรุ่นเราอย่างท่านย่าหรือท่านท้าวพกพรหม ไม่ลงบ้างครับ ?
ตอบ : ร่างกายรับไม่ไหว วันนั้นท่านแม่ยังอุตส่าห์ย่องมาหน่อยหนึ่ง แต่คนอื่นเขาไม่รู้ ลงมาบอกว่าอะไรสมควรทำก็ทำไปเถอะ เพื่อความสามัคคีของคนส่วนใหญ่ เดี๋ยวรอดูปีหน้าว่าจะเป็นอย่างไร ทางเจ้าเมืองลุ่มสุ่ม เจ้าเมืองสิงห์ คงจะมาก่อนเลย เพราะว่างวดนี้ขอร้องท่านว่าเลยเพลแล้ว พระจะอดเพล

ถาม : ร่างที่เขาลงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วหรือครับ ?
ตอบ : เป็นร่างของอาจารย์กามเทพ อาจารย์เป็นเจ้าพิธีทางด้านนี้ พูดง่าย ๆ ว่ารุ่นเก่าเขาปล่อยมือให้แล้ว แต่ว่ารุ่นนั้นก็ยังตามดูอยู่ตลอด จะมีรุ่นเก่า ๆ ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายอยู่ ๔-๕ คนคอยดู ปรากฏว่าร่างเก่าที่ไม่ได้ลงมาหลายปีก็โดนลงไปด้วย

เป็นอะไรที่ดูแล้วสนุกมาก คนก็ดีใจ ผีก็ดีใจ อาตมาเห็นแล้วยังรู้สึกเลยว่าจัดงานแบบนี้หมดเท่าไรก็คุ้ม คนที่เขาเป็นระดับแกนนำของชุมชนมอญมาบอกว่า พวกผมมีแต่แนวคิด แต่ไม่มีสตางค์ แต่หลวงพ่อคิดแล้วหลวงพ่อทำได้ เพราะว่าหลวงพ่อมีสตางค์ แบบนี้พวกผมก็ต้องสนับสนุน

ถาม : แล้วตรงบริเวณสมเด็จองค์ปฐมหน้าวัดนั้นจริง ๆ มีกำแพงแก้วครอบอยู่ เขาเข้ามาได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : เพราะว่าเราอนุญาต เราเป็นคนเรียกเขาเอง ท่านอาจารย์ต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) มาถึงบอกว่า พระอาจารย์เล็กเริ่มก่อนเลยครับ เปิดให้ทุกโลกเลย แล้วพวกผมค่อยทำพิธี

เถรี
01-04-2019, 20:45
ถาม : คุณแม่เพิ่งเสียค่ะ มีความกังวลใจว่าคุณแม่จะไปไม่ดีค่ะ ?
ตอบ : ไม่ต้องไปกังวล เรามีหน้าที่สร้างบุญสร้างกุศลอุทิศให้เขาไป เพราะว่าถ้าเขาไปไม่ดี เราก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้มากไปกว่านี้อยู่แล้ว ฉะนั้น...มีทางเดียวก็คือสร้างบุญสร้างกุศลใน ศีล สมาธิ ปัญญา เอาไว้ ถึงเวลาก็อุทิศให้เขาบ่อย ๆ ฉวยโอกาสตอนนี้แหละที่ใจเรายังนึกผูกพันอยู่มาก จะได้มีโอกาสได้ทำบุญมากขึ้นไปด้วย

เถรี
01-04-2019, 22:24
ถาม : สวรรค์ชั้น ๕ กับชั้น ๖ มีกุศลอะไรที่ทำเหมือนกันครับ ?
ตอบ : พยายามสร้างฌานสมาบัติและอภิญญา ๕ เอาไว้ให้ได้ แต่พอได้แล้วตอนตายไม่ได้เข้าฌานตาย

ถาม : ต่างกันอย่างไรครับ ระหว่างชั้น ๕ กับชั้น ๖ ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจ ?
ตอบ : ต่างกันตรงชั้น ๕ มีหน้าที่ทำ ชั้น ๖ มีหน้าที่ใช้ แล้วจะไปแค่นั้นหรือ ?

ถาม : เปล่าครับ แค่สงสัย ?
ตอบ : นึกว่าจะไปแค่นั้น เพราะว่าแค่นั้นจะไปถึงหรือเปล่า ?

เถรี
01-04-2019, 22:26
ถาม : ใช้มโนมยิทธิดูข้อสอบนี่ถือว่าโกงไหมครับ ?
ตอบ : ถ้ามีความสามารถก็ไม่ถือว่าโกง เพียงแต่ว่าทำไปแล้วไม่มีความภาคภูมิใจ ต้องลุยเอง จริง ๆ...ตรงนี้ไม่ได้พูดเล่นนะ เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผมเรียนอยู่ ผมไม่เคยใช้เลย ยกเว้นตอนสอบนักธรรมชั้นเอก เพราะว่าตอนสอบนักธรรมเอกนี่ผมป่วยหนักจนอ่านหนังสือไม่ได้ ผมก็ไม่ได้ใช้ในลักษณะของการดูข้อสอบนะ ผมใช้ในลักษณะทำข้อสอบเหมือนดูคำเฉลย ขนาดไม่ได้ดูหนังสือยังสอบได้ที่ ๑ ของจังหวัด

เถรี
01-04-2019, 22:48
ถาม : กฎระเบียบการขอบวชพระที่ออกมาใหม่ ?
ตอบ : เหมือนเขาตั้งใจจะไม่ให้มีพระบวช เอาให้สูญพันธุ์ไปเลย เพราะว่าพวกที่ชงเรื่องขึ้นมาเป็นอิสลามทั้งนั้น ส่วนที่น่าตำหนิที่สุดก็คือมหาเถรสมาคมและมหาคณิสสรของเรา นอกจากไม่ทำอะไรที่อำนวยความสะดวกเพื่อให้พระเราบวชเรียนได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังกลายเป็นว่าช่วยกันออกกฎมาขวาง

เดี๋ยวนี้พระเราจะบวชให้ได้ ๓ วัน ๗ วันก็ยากแล้ว ยังต้องไปติดขั้นตอนขอบวชอยู่อีกเกือบเดือน แล้วเขาจะเอาเวลาที่ไหนมา ? คือถ้าอยู่ในระหว่างที่เขาตั้งใจจะบวชแล้วยื่นเรื่องก็พอได้ แต่นี่เขาบอกว่าต้องเป็นนาคก่อนแล้วค่อยให้ยื่นเรื่อง แล้วคนบวชจะเอาเวลาที่ไหนมา เฉพาะขั้นตอนแรกที่ส่งไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก็ ๑๕ วันเข้าไปแล้ว

ขอให้ภูมิใจเถอะว่า พวกคุณอาจจะเป็นพระในพระพุทธศาสนารุ่นสุดท้ายของประเทศไทยก็ได้ เราจะได้เห็นในส่วนที่ว่า ต่อไปนี้การบวชจะยากขึ้นไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ทำอะไรผิดนิดหน่อยจะโดนสึกทันที ซึ่งเป็นแผนที่ทำลายศาสนิกของพระพุทธศาสนาอย่างถึงรากถึงโคน

เถรี
01-04-2019, 22:48
:cebollita_onion-17::cebollita_onion-17: เก็บตกเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ หมดแล้วค่ะ :cebollita_onion-17::cebollita_onion-17:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี เผือกน้อย รัตนาวุธ และนายกระรอก