เถรี
22-01-2019, 16:33
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เรื่องที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ ในการปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกเราขาดความจริงจังและเด็ดขาด อย่างที่ภาษาพระวัดป่าท่านว่า ธรรมะอยู่ฟากตาย ก็คือถ้าไม่แลกกันด้วยชีวิต โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมก็ยาก
ในเมื่อเราไม่จริงจังไม่เด็ดขาด โอกาสที่เราจะเอาชนะกิเลสก็มีน้อย ก็เหมือนกับนักมวย ถ้าหากว่าขาดการเอาจริงเอาจัง มุ่งมั่นในการต่อสู้ โอกาสที่จะชนะคู่ต่อสู้ก็ไม่มีเลย
ถามว่าแล้วความเด็ดขาดจริงจังของเราจะมาจากไหน ? ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากสมาธิ การที่เรารักษาศีลเป็นการควบคุม กาย วาจา ของเราให้อยู่ในกรอบ ระหว่างที่เราตั้งหน้าตั้งตาระมัดระวังรักษาศีล สติที่กำหนดตามดูอยู่ว่าศีลจะขาดจะพร่องหรือไม่ ก็ทำให้เราเกิดสมาธิ ดังนั้น..เมื่อเรารักษาศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์ สมาธิย่อมทรงตัวได้ง่าย คราวนี้การที่สมาธิทรงตัวถึงระดับพอใช้งานได้ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเข้าถึงปฐมฌานก็คือฌานที่ ๑
คราวนี้การที่เราจะเข้าถึงปฐมฌานได้นั้น ก็ต้องศึกษาว่ากฎเกณฑ์ของปฐมฌานประกอบด้วยอะไรบ้าง ? ก็ประกอบไปด้วยวิตก ความคิดนึกอยู่ว่าเราจะภาวนา วิจาร เราภาวนาอยู่ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้น คำภาวนาว่าอย่างไรก็รู้อยู่ ปีติ มีอาการต่าง ๆ ๕ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เช่น ขนลุก น้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลง บางทีก็ลอยขึ้นทั้งตัว หรือรู้สึกว่าตัวพอง ตัวใหญ่ ตัวแตก ตัวระเบิด เป็นต้น
สุข มีความสงบเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากอำนาจของสมาธิเริ่มกดกิเลสให้นิ่งสนิทลงได้ และเอกัคตารมณ์ มีความตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียวอยู่กับการภาวนา สิ่งรบกวนต่าง ๆ ที่เข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ไม่สามารถทำให้เราเคลื่อนคลายไปที่ไหนได้
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เรื่องที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ ในการปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกเราขาดความจริงจังและเด็ดขาด อย่างที่ภาษาพระวัดป่าท่านว่า ธรรมะอยู่ฟากตาย ก็คือถ้าไม่แลกกันด้วยชีวิต โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมก็ยาก
ในเมื่อเราไม่จริงจังไม่เด็ดขาด โอกาสที่เราจะเอาชนะกิเลสก็มีน้อย ก็เหมือนกับนักมวย ถ้าหากว่าขาดการเอาจริงเอาจัง มุ่งมั่นในการต่อสู้ โอกาสที่จะชนะคู่ต่อสู้ก็ไม่มีเลย
ถามว่าแล้วความเด็ดขาดจริงจังของเราจะมาจากไหน ? ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากสมาธิ การที่เรารักษาศีลเป็นการควบคุม กาย วาจา ของเราให้อยู่ในกรอบ ระหว่างที่เราตั้งหน้าตั้งตาระมัดระวังรักษาศีล สติที่กำหนดตามดูอยู่ว่าศีลจะขาดจะพร่องหรือไม่ ก็ทำให้เราเกิดสมาธิ ดังนั้น..เมื่อเรารักษาศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์ สมาธิย่อมทรงตัวได้ง่าย คราวนี้การที่สมาธิทรงตัวถึงระดับพอใช้งานได้ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเข้าถึงปฐมฌานก็คือฌานที่ ๑
คราวนี้การที่เราจะเข้าถึงปฐมฌานได้นั้น ก็ต้องศึกษาว่ากฎเกณฑ์ของปฐมฌานประกอบด้วยอะไรบ้าง ? ก็ประกอบไปด้วยวิตก ความคิดนึกอยู่ว่าเราจะภาวนา วิจาร เราภาวนาอยู่ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้น คำภาวนาว่าอย่างไรก็รู้อยู่ ปีติ มีอาการต่าง ๆ ๕ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เช่น ขนลุก น้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลง บางทีก็ลอยขึ้นทั้งตัว หรือรู้สึกว่าตัวพอง ตัวใหญ่ ตัวแตก ตัวระเบิด เป็นต้น
สุข มีความสงบเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากอำนาจของสมาธิเริ่มกดกิเลสให้นิ่งสนิทลงได้ และเอกัคตารมณ์ มีความตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียวอยู่กับการภาวนา สิ่งรบกวนต่าง ๆ ที่เข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ไม่สามารถทำให้เราเคลื่อนคลายไปที่ไหนได้