เถรี
30-12-2018, 21:18
ขอให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าเผลอสติไปคิดถึงเรื่องอื่น เมื่อรู้ตัวให้กลับมาอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกเสียใหม่ จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ จะขอกล่าวถึงหน้าตาของฌาน ซึ่งก็คืออัปปนาสมาธิ โดยเฉพาะปฐมฌาน ให้พวกเราได้รู้จักกันไว้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่นักปฏิบัติทั้งหลาย ทำอย่างไรก็ต้องเข้าให้ถึง ถ้าเข้าไม่ถึง เราก็ไม่มีกำลังที่จะสู้กิเลส ที่จะละกิเลส ที่จะตัดกิเลสได้
ปฐมฌานนั้นประกอบด้วยองค์ ๕ ก็คือมีอาการ ๕ อย่าง ได้แก่ วิตก คือนึกว่าเราจะภาวนา วิจาร คือการที่กำหนดรู้ว่า ตอนนี้เราหายใจเข้า ตอนนี้เราหายใจออก ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้น คำภาวนาว่าอย่างไร รู้อยู่ วิจารนี้จัดเป็นส่วนของอุปจารสมาธิ คำว่า อุปจาระ แปลว่า ใกล้ขอบเขต ใกล้ขอบเขตของสมาธิ
ลำดับต่อไปก็จะเป็นปีติ ปีตินี้ประกอบไปด้วยอาการ ๕ อย่าง ขุททกาปีติ มีอาการขนลุก บางคนขนลุกเกรียวทั้งตัว เป็นเม็ด ๆ หรือเป็นหนามขนุนเลย บางคนก็มีอาการขนลุกเป็นระยะ ๆ บางคนก็รู้สึกว่าคันตรงโน้น คันตรงนี้ เหมือนอย่างกับว่าขนของเราขยับทีละเส้น เป็นต้น
ขณิกาปีติ จะมีอาการหนึ่งที่หลายคนรู้สึกอับอาย ก็คือน้ำตาไหล ถึงเวลาน้ำตาจะไหลออกมาเอง นึกถึงความดีของพระพุทธ ของพระธรรม ของพระสงฆ์ ความดีของการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อย่างไรก็ตาม น้ำตาจะไหลออกมาทันที
ลำดับต่อไปคือ โอกกันติกาปีติ ตัวจะโยกไปโยกมา ซ้ายขวา แกว่งหน้าแกว่งหลัง บางคนก็รุนแรงถึงขนาดหกคะเมนตีลังกา ดิ้นตึงดังโครมครามเหมือนผีเจ้าเข้าสิงไปเลย ลำดับต่อไปเรียกว่า อุพเพงคาปีติ จะลอยขึ้นจากพื้น สูงบ้างต่ำบ้างแล้วแต่ตนเอง บางทีก็ลอยไปไกล ๆ
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ จะขอกล่าวถึงหน้าตาของฌาน ซึ่งก็คืออัปปนาสมาธิ โดยเฉพาะปฐมฌาน ให้พวกเราได้รู้จักกันไว้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่นักปฏิบัติทั้งหลาย ทำอย่างไรก็ต้องเข้าให้ถึง ถ้าเข้าไม่ถึง เราก็ไม่มีกำลังที่จะสู้กิเลส ที่จะละกิเลส ที่จะตัดกิเลสได้
ปฐมฌานนั้นประกอบด้วยองค์ ๕ ก็คือมีอาการ ๕ อย่าง ได้แก่ วิตก คือนึกว่าเราจะภาวนา วิจาร คือการที่กำหนดรู้ว่า ตอนนี้เราหายใจเข้า ตอนนี้เราหายใจออก ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้น คำภาวนาว่าอย่างไร รู้อยู่ วิจารนี้จัดเป็นส่วนของอุปจารสมาธิ คำว่า อุปจาระ แปลว่า ใกล้ขอบเขต ใกล้ขอบเขตของสมาธิ
ลำดับต่อไปก็จะเป็นปีติ ปีตินี้ประกอบไปด้วยอาการ ๕ อย่าง ขุททกาปีติ มีอาการขนลุก บางคนขนลุกเกรียวทั้งตัว เป็นเม็ด ๆ หรือเป็นหนามขนุนเลย บางคนก็มีอาการขนลุกเป็นระยะ ๆ บางคนก็รู้สึกว่าคันตรงโน้น คันตรงนี้ เหมือนอย่างกับว่าขนของเราขยับทีละเส้น เป็นต้น
ขณิกาปีติ จะมีอาการหนึ่งที่หลายคนรู้สึกอับอาย ก็คือน้ำตาไหล ถึงเวลาน้ำตาจะไหลออกมาเอง นึกถึงความดีของพระพุทธ ของพระธรรม ของพระสงฆ์ ความดีของการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อย่างไรก็ตาม น้ำตาจะไหลออกมาทันที
ลำดับต่อไปคือ โอกกันติกาปีติ ตัวจะโยกไปโยกมา ซ้ายขวา แกว่งหน้าแกว่งหลัง บางคนก็รุนแรงถึงขนาดหกคะเมนตีลังกา ดิ้นตึงดังโครมครามเหมือนผีเจ้าเข้าสิงไปเลย ลำดับต่อไปเรียกว่า อุพเพงคาปีติ จะลอยขึ้นจากพื้น สูงบ้างต่ำบ้างแล้วแต่ตนเอง บางทีก็ลอยไปไกล ๆ