เถรี
15-10-2018, 23:33
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ ที่อยากจะเตือนพวกเราในวันนี้ก็คือเรื่องของการปฏิบัติกรรมฐาน ถ้านับในเรื่องของประโยชน์แล้วมีประโยชน์มหาศาลมาก แต่เนื่องจากว่าพวกเราทั้งหลายนั้นยังขาดกำลังใจ
กำลังใจในที่นี้จะว่าไปแล้วก็คือกำลังสมาธิ ในเมื่อสมาธิไม่ทรงตัว การที่จะรักษาอารมณ์ในการปฏิบัติให้ต่อเนื่องก็เป็นไปได้ยาก เพราะว่ามักจะฟุ้งซ่านไปกับ รัก โลภ โกรธ หลง เสียก่อน ถ้าหากว่าสมาธิจิตของเราอยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับคำภาวนา ถ้าไม่เคลื่อนไม่คลายไปไหน รัก โลภ โกรธ หลง จะโดนกำลังสมาธิกดดับลงชั่วคราว ตอนช่วงนั้นเราจะมีความสุขมาก เป็นความสุขที่พูดเป็นภาษามนุษย์ไม่ถูก
บุคคลที่โดนไฟ รัก โลภ โกรธ หลง ๔ กองเผาอยู่ตลอดเวลา ถ้าไฟดับลงเราจะมีความสุขแบบไหน ? พูดเป็นภาษาคนไม่ได้ บาลีว่าปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตัวเท่านั้น คราวนี้การปฏิบัติของเราส่วนใหญ่เราทำด้วยความอยาก อยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากเก่ง อยากดี อยากเด่น อยากดัง
ในเมื่อเราเริ่มต้นด้วยความอยาก โอกาสที่จะได้ดีก็มีน้อย เพราะว่าตัวอยากเป็นความฟุ้งซ่าน เป็นนิวรณ์ใหญ่ที่กั้นความดีไว้ไม่ให้เข้าถึง แต่ถ้าหากว่าไม่อยากแล้วเราจะปฏิบัติทำไม ? ถ้าหากว่าความอยากเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่เวลาภาวนาให้กำลังใจของเราอยู่กับคำภาวนาและลมหายใจเข้าออก ไม่ใช่อยู่กับความอยาก พูดง่าย ๆ ก็คือว่าอยากได้ แต่ตอนภาวนาให้ลืมความอยากเสียก่อน ถ้าเราสามารถทำแบบนี้ได้ กำลังสมาธิก็จะทรงตัวได้ง่ายแล้วก็เร็ว เพราะว่าสภาพจิตไม่ได้วุ่นวายด้วยความอยาก
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ ที่อยากจะเตือนพวกเราในวันนี้ก็คือเรื่องของการปฏิบัติกรรมฐาน ถ้านับในเรื่องของประโยชน์แล้วมีประโยชน์มหาศาลมาก แต่เนื่องจากว่าพวกเราทั้งหลายนั้นยังขาดกำลังใจ
กำลังใจในที่นี้จะว่าไปแล้วก็คือกำลังสมาธิ ในเมื่อสมาธิไม่ทรงตัว การที่จะรักษาอารมณ์ในการปฏิบัติให้ต่อเนื่องก็เป็นไปได้ยาก เพราะว่ามักจะฟุ้งซ่านไปกับ รัก โลภ โกรธ หลง เสียก่อน ถ้าหากว่าสมาธิจิตของเราอยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับคำภาวนา ถ้าไม่เคลื่อนไม่คลายไปไหน รัก โลภ โกรธ หลง จะโดนกำลังสมาธิกดดับลงชั่วคราว ตอนช่วงนั้นเราจะมีความสุขมาก เป็นความสุขที่พูดเป็นภาษามนุษย์ไม่ถูก
บุคคลที่โดนไฟ รัก โลภ โกรธ หลง ๔ กองเผาอยู่ตลอดเวลา ถ้าไฟดับลงเราจะมีความสุขแบบไหน ? พูดเป็นภาษาคนไม่ได้ บาลีว่าปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตัวเท่านั้น คราวนี้การปฏิบัติของเราส่วนใหญ่เราทำด้วยความอยาก อยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากเก่ง อยากดี อยากเด่น อยากดัง
ในเมื่อเราเริ่มต้นด้วยความอยาก โอกาสที่จะได้ดีก็มีน้อย เพราะว่าตัวอยากเป็นความฟุ้งซ่าน เป็นนิวรณ์ใหญ่ที่กั้นความดีไว้ไม่ให้เข้าถึง แต่ถ้าหากว่าไม่อยากแล้วเราจะปฏิบัติทำไม ? ถ้าหากว่าความอยากเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่เวลาภาวนาให้กำลังใจของเราอยู่กับคำภาวนาและลมหายใจเข้าออก ไม่ใช่อยู่กับความอยาก พูดง่าย ๆ ก็คือว่าอยากได้ แต่ตอนภาวนาให้ลืมความอยากเสียก่อน ถ้าเราสามารถทำแบบนี้ได้ กำลังสมาธิก็จะทรงตัวได้ง่ายแล้วก็เร็ว เพราะว่าสภาพจิตไม่ได้วุ่นวายด้วยความอยาก