เข้าระบบ

View Full Version : การเพ่งหน้าจอกับการเพ่งกสิน


ทองหยด
08-08-2018, 05:41
กราบนมัสการพระอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง

ขอกราบเรียนคำถามต่อไปนี้

๑. การเพ่งหน้าจอมือถือหรือคอมฯ ในการดูสื่ออินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลกับการเพ่งกสิณต่าง ๆ หรือจดจ่อดูลมหายใจนี่ ใช้กำลังใจคล้ายกันหรือเปล่า เพียงแต่เปลี่ยนจากด้านกิเลสมาปฏิบัติภาวนา

๒. การดูทีวี, สื่ออินเทอร์เน็ตต่าง ๆ ทางคอมฯ มือถือ จำพวก ละคร ข่าว เรื่องทางโลก ๆ โลกีย์ นอกเหนือจากธรรมะแล้ว จะเป็นการทำให้เราชินกับการส่งจิตออกข้างนอก พร้อมซึบซับกับสร้างเสริมอารมณ์กิเลสในจิตหรือไม่ ถ้าเราจำเป็นต้องเห็นหรือดู จะมีวิธีสังเกตสภาพจิตและป้องกันไม่ให้จิตใจไหลหลงไปตามสื่อเหล่านี้

๓. หากเราเห็นกิเลสของตนและยอมรับผิดได้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพราะทำตามคำสอนครูบาอาจารย์เท่านั้น เป็นเพราะสภาพจิตเราละเอียดขึ้นใช่หรือไม่ ความรู้ลักษณะนี้จะส่งผลเสริมด้านดีถึงความสามารถของจิตทางด้านอื่น ๆ เช่น ทิพจักขุญาณหรือเปล่า

กราบขอขมาและขอบพระคุณพระอาจารย์ค่ะ

ทองหยด
08-08-2018, 07:13
หมายเหตุ : คำถามนี้มาจาก การดูละคร ทั้งที่เป็นการแสดงไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่พ่อแม่ญาติพี่น้อง แต่คนดูกลับมีความรู้สึกเกิดอารมณ์ไปตามการแสดงของตัวละคร เช่นหมั่นไส้ อยากตบตัวโกง เสียน้ำตาร้องไห้ไปกับฉากแสดงรันทดลำบาก เชียร์ให้นางเอกไปรักกับพระรองเป็นต้น

เถรี
05-01-2019, 08:12
ถาม : การเพ่งหน้าจอมือถือหรือคอมฯ ในการดูสื่ออินเทอร์เน็ตหรือโซเชียล กับการเพ่งกสิณต่าง ๆ หรือจดจ่อดูลมหายใจนั้น ใช้กำลังใจคล้ายกันหรือเปล่า ? เพียงแต่เปลี่ยนจากด้านกิเลสมาปฏิบัติภาวนาใช่หรือไม่คะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ การที่คุณดูจอ คุณไม่ได้ตั้งใจจำ แต่การเพ่งภาพกสิณต้องตั้งใจจำ ไม่ใช่ตั้งใจจำเฉย ๆ ต้องควบกับลมหายใจและคำภาวนาด้วย ต่างกันลิบโลกเลย

เถรี
05-01-2019, 08:12
ถาม : การดูทีวี, สื่ออินเทอร์เน็ตต่าง ๆ ทางคอมพิวเตอร์ มือถือ จำพวก ละคร ข่าว เรื่องทางโลก ๆ โลกีย์ นอกเหนือจากธรรมะแล้ว จะเป็นการทำให้เราชินกับการส่งจิตออกข้างนอก พร้อมซึมซับกับสร้างเสริมอารมณ์กิเลสในจิตหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าแค่นี้ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ ก็จงทำต่อไป

ถาม : ถ้าเราจำเป็นต้องเห็นหรือดู จะมีวิธีสังเกตสภาพจิตและป้องกันไม่ให้จิตใจหลงไปตามสื่อเหล่านี้ ?
ตอบ : ตั้งสมาธิให้ทรงเป็นฌานไปเลย แล้วค่อยไปดู

เถรี
05-01-2019, 08:12
ถาม : หากเราเห็นกิเลสของตนและยอมรับผิดได้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพราะทำตามคำสอนครูบาอาจารย์เท่านั้น เป็นเพราะสภาพจิตเราละเอียดขึ้นใช่หรือไม่ ?
ตอบ : แปลว่าสติ สมาธิ ปัญญาสั่งสมไปถึงระดับแล้ว คราวนี้ก็เหลืออยู่อย่างเดียวว่า ทำอย่างไรที่จะตัดละให้ได้

ถาม : ความรู้ลักษณะนี้จะส่งผลเสริมด้านดีถึงความสามารถของจิตทางด้านอื่น ๆ เช่น ทิพจักขุญาณหรือเปล่า ?
ตอบ : ถ้าสภาพจิตปราศจากกิเลส ทิพจักขุญาณจะผ่องใสเองโดยอัตโนมัติ