เถรี
30-07-2018, 23:31
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ สำหรับวันนี้เมื่อฟังจากคำถามต่าง ๆ ของเราแล้ว สรุปได้ว่าหลายท่านยังมีการปฏิบัติที่เปะปะ ถ้าเป็นอาการอย่างที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า “เหวี่ยงแห” ก็คือสักแต่ว่าทำ โดยบางทีเป้าหมายก็ยังไม่ชัดเจน
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอนพุทธบริษัทให้ปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา ซึ่งความจริงแล้วเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอริยมรรคมีองค์ ๘ เมื่อย่อลงมาแล้วเหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา
การปฏิบัติธรรมของเราทั้งหลายก็ขอให้ว่ากันตามแนวนี้ ก็คือเบื้องต้นอันดับแรก ให้เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะชำระศีลทุกข้อของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ถ้าหากว่าเป็นฆราวาสทั่วไปก็ศีล ๕ อุบาสกอุบาสิกาก็ศีล ๘ สามเณรศีล ๑๐ พระภิกษุศีล ๒๒๗ เป็นต้น พยายามไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล นี่คือเป้าหมายแรกของเราที่ต้องทำเอาไว้ให้ชัดเจน
ดังนั้น...สิ่งที่สมควรจะต้องทำต่อในแต่ละวัน คือ เราต้องระมัดระวังรักษาศีลทุกสิกขาบททุกข้ออย่าให้ผิดพลาดได้ ถ้าหากว่าผิดพลาดเสียหายตรงไหน ก็ให้ตั้งใจทันทีเดี๋ยวนั้นว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
ในเมื่อเป้าหมายทางด้านศีลของเราชัดเจนแล้ว ก็ไปดูในด้านของสมาธิ ในด้านของสมาธิ ให้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า อย่างน้อยเราต้องทรงปฐมฌานละเอียดให้ได้ เพราะว่ากำลังของปฐมฌานละเอียดนั้น ตัดกิเลสในระดับของพระโสดาบันและพระสกทาคามีได้ และโดยเฉพาะถ้าท่านใดเข้าถึงปฐมฌานละเอียดได้แล้ว โอกาสที่เข้าถึงฌานที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ก็เป็นเรื่องที่ไม่เกินความสามารถ ในเมื่อเป้าหมายของเราชัดเจนแล้ว ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประคับประคองรักษาสภาพจิตของเรา ให้อยู่กับลมหายใจเข้าให้มากเข้าไว้ในแต่ละวัน
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ สำหรับวันนี้เมื่อฟังจากคำถามต่าง ๆ ของเราแล้ว สรุปได้ว่าหลายท่านยังมีการปฏิบัติที่เปะปะ ถ้าเป็นอาการอย่างที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า “เหวี่ยงแห” ก็คือสักแต่ว่าทำ โดยบางทีเป้าหมายก็ยังไม่ชัดเจน
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสั่งสอนพุทธบริษัทให้ปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา ซึ่งความจริงแล้วเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอริยมรรคมีองค์ ๘ เมื่อย่อลงมาแล้วเหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา
การปฏิบัติธรรมของเราทั้งหลายก็ขอให้ว่ากันตามแนวนี้ ก็คือเบื้องต้นอันดับแรก ให้เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะชำระศีลทุกข้อของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ถ้าหากว่าเป็นฆราวาสทั่วไปก็ศีล ๕ อุบาสกอุบาสิกาก็ศีล ๘ สามเณรศีล ๑๐ พระภิกษุศีล ๒๒๗ เป็นต้น พยายามไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล นี่คือเป้าหมายแรกของเราที่ต้องทำเอาไว้ให้ชัดเจน
ดังนั้น...สิ่งที่สมควรจะต้องทำต่อในแต่ละวัน คือ เราต้องระมัดระวังรักษาศีลทุกสิกขาบททุกข้ออย่าให้ผิดพลาดได้ ถ้าหากว่าผิดพลาดเสียหายตรงไหน ก็ให้ตั้งใจทันทีเดี๋ยวนั้นว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
ในเมื่อเป้าหมายทางด้านศีลของเราชัดเจนแล้ว ก็ไปดูในด้านของสมาธิ ในด้านของสมาธิ ให้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า อย่างน้อยเราต้องทรงปฐมฌานละเอียดให้ได้ เพราะว่ากำลังของปฐมฌานละเอียดนั้น ตัดกิเลสในระดับของพระโสดาบันและพระสกทาคามีได้ และโดยเฉพาะถ้าท่านใดเข้าถึงปฐมฌานละเอียดได้แล้ว โอกาสที่เข้าถึงฌานที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ก็เป็นเรื่องที่ไม่เกินความสามารถ ในเมื่อเป้าหมายของเราชัดเจนแล้ว ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประคับประคองรักษาสภาพจิตของเรา ให้อยู่กับลมหายใจเข้าให้มากเข้าไว้ในแต่ละวัน