เถรี
10-05-2018, 19:09
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าเผลอไปคิดเรื่องอื่น รู้ตัวเมื่อไรก็ดึงกลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกใหม่ ส่วนคำภาวนาจะใช้อะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ ในส่วนของการปฏิบัติซึ่งจะกล่าวถึงในวันนี้ ก็คืออานาปานสติ คือลมหายใจเข้าออกของเรานี่เอง ซึ่งหลายคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องหญ้าปากคอก ก็คือใกล้ตัว แต่เนื่องจากว่าใกล้เกินไปจึงมองข้ามไปเสียเป็นส่วนใหญ่
คำว่าหญ้าปากคอกนี้ก็คือ ในส่วนของสมัยก่อนที่เราเลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่ เมื่อถึงเวลาเช้าเปิดคอก วัวควายที่หิวมาตลอดทั้งคืนก็ประดังกันออกจากคอกไปเพื่อที่จะไปหากิน ด้วยความที่ต่างตัวก็ต่างหวังจะไปหากิน ก็รีบมุ่งไปที่ไกล ลืมของใกล้คือหญ้าตรงปากคอกของตัวเอง
ในการปฏิบัติธรรมของเรานั้น อานาปานสติกรรมฐานเป็นกรรมฐานที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่มีอานาปานสติ กรรมฐานทุกกองปฏิบัติไปก็ไม่ได้ผล การที่เราจะต่อสู้กับกิเลส อานาปานสติยิ่งมีความสำคัญหนักเข้าไปอีก เพราะว่าถ้าขาดอานาปานสติ เราก็จะขาดกำลังจากสมาธิ เมื่อขาดกำลังจากสมาธิ เราจะเอากำลังที่ไหนไปสู้กับกิเลสได้ ? ก็แปลว่าถ้าทิ้งอานาปานสติกองเดียว ไม่ว่าจะทำกรรมฐานกองไหนก็ไม่เกิดผลทั้งสิ้น
ดังนั้น...ทุกท่านอย่าได้เห็นอานาปานสติเป็นเหมือนหญ้าปากคอก ก็คืออยู่ใกล้เพราะว่าเราหายใจอยู่ทุกวัน แต่เรามีสติระลึกรู้ตามลมหายใจไปเท่าไร เราหายใจทั้งวันเรารู้ตัวว่าเราหายใจสักวันละกี่นาที ? กี่ชั่วโมง ? ถ้าบุคคลที่เป็นนักปฏิบัติจริง ๆ ก็คือต้องรู้อยู่ตลอดเวลา รู้อยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง รู้ทั้งเวลาหลับรู้ทั้งเวลาตื่น ถามว่าหลับอยู่รู้ได้ด้วยหรือ ? อาตมาขอยืนยันว่ารู้ได้ ขอให้ทำถึงจริง ๆ เท่านั้น
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ ในส่วนของการปฏิบัติซึ่งจะกล่าวถึงในวันนี้ ก็คืออานาปานสติ คือลมหายใจเข้าออกของเรานี่เอง ซึ่งหลายคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องหญ้าปากคอก ก็คือใกล้ตัว แต่เนื่องจากว่าใกล้เกินไปจึงมองข้ามไปเสียเป็นส่วนใหญ่
คำว่าหญ้าปากคอกนี้ก็คือ ในส่วนของสมัยก่อนที่เราเลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่ เมื่อถึงเวลาเช้าเปิดคอก วัวควายที่หิวมาตลอดทั้งคืนก็ประดังกันออกจากคอกไปเพื่อที่จะไปหากิน ด้วยความที่ต่างตัวก็ต่างหวังจะไปหากิน ก็รีบมุ่งไปที่ไกล ลืมของใกล้คือหญ้าตรงปากคอกของตัวเอง
ในการปฏิบัติธรรมของเรานั้น อานาปานสติกรรมฐานเป็นกรรมฐานที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่มีอานาปานสติ กรรมฐานทุกกองปฏิบัติไปก็ไม่ได้ผล การที่เราจะต่อสู้กับกิเลส อานาปานสติยิ่งมีความสำคัญหนักเข้าไปอีก เพราะว่าถ้าขาดอานาปานสติ เราก็จะขาดกำลังจากสมาธิ เมื่อขาดกำลังจากสมาธิ เราจะเอากำลังที่ไหนไปสู้กับกิเลสได้ ? ก็แปลว่าถ้าทิ้งอานาปานสติกองเดียว ไม่ว่าจะทำกรรมฐานกองไหนก็ไม่เกิดผลทั้งสิ้น
ดังนั้น...ทุกท่านอย่าได้เห็นอานาปานสติเป็นเหมือนหญ้าปากคอก ก็คืออยู่ใกล้เพราะว่าเราหายใจอยู่ทุกวัน แต่เรามีสติระลึกรู้ตามลมหายใจไปเท่าไร เราหายใจทั้งวันเรารู้ตัวว่าเราหายใจสักวันละกี่นาที ? กี่ชั่วโมง ? ถ้าบุคคลที่เป็นนักปฏิบัติจริง ๆ ก็คือต้องรู้อยู่ตลอดเวลา รู้อยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง รู้ทั้งเวลาหลับรู้ทั้งเวลาตื่น ถามว่าหลับอยู่รู้ได้ด้วยหรือ ? อาตมาขอยืนยันว่ารู้ได้ ขอให้ทำถึงจริง ๆ เท่านั้น