เถรี
24-12-2017, 08:19
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติ คือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราหายตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ เมื่อวานนี้ได้กล่าวถึงว่า สำหรับผู้ปฏิบัติใหม่ ถ้าเราไม่สามารถรักษากำลังใจอยู่กับคำภาวนานาน ๆ ได้ ก็ให้ใช้พระคาถาบทต่าง ๆ ที่เราเคยศึกษา เคยเรียนรู้มาในการภาวนา โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป
สำหรับวันนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่จะรักษากำลังใจในการปฏิบัติภาวนาของพวกเรา ให้อยู่กับลมหายใจได้นานขึ้น ก็คือเมื่อท่านทั้งหลายจับลมหายใจเข้าออก คืออานาปานสติไปสักระยะหนึ่งแล้ว เริ่มสามารถจับได้ชัดเจน สภาพกำลังใจของเราเกาะเกี่ยวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา
เมื่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกได้มั่นคงดีแล้ว ก็คลายกำลังใจลงมานิดหนึ่ง แล้วก็คิดถึงอนุสติ คือ การระลึกถึงความดีต่าง ๆ อีก ๙ ประการด้วยกัน ได้แก่ การนึกถึงความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะว่าตามหลักของ อิติปิ โสฯ ก็ได้ หรือจะพิจารณาว่าพระองค์ท่านมีคุณความดีหลัก ๆ ก็คือพระปัญญาธิคุณอันล้ำเลิศ พระบริสุทธิคุณอันประเสริฐ และพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ก็ได้
เมื่อเราระลึกจนกระทั่งรู้สึกว่าสบายใจแล้ว มีสภาพจิตที่เกาะเกี่ยวอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นแฟ้นดีแล้ว ก็คลายกำลังใจออกมา ระลึกถึงคุณความดีของพระธรรมว่า ช่วยรักษาตัวเราไม่ให้ตกไปในทางที่ชั่ว พระธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ย่อลงมาแล้ว เหลือมรรค ๘ ซึ่งก็คือ ศีล สมาธิและปัญญา ท้ายสุดก็เหลือการประคับประคองรักษาความดีไว้โดยไม่ประมาท
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ เมื่อวานนี้ได้กล่าวถึงว่า สำหรับผู้ปฏิบัติใหม่ ถ้าเราไม่สามารถรักษากำลังใจอยู่กับคำภาวนานาน ๆ ได้ ก็ให้ใช้พระคาถาบทต่าง ๆ ที่เราเคยศึกษา เคยเรียนรู้มาในการภาวนา โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป
สำหรับวันนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่จะรักษากำลังใจในการปฏิบัติภาวนาของพวกเรา ให้อยู่กับลมหายใจได้นานขึ้น ก็คือเมื่อท่านทั้งหลายจับลมหายใจเข้าออก คืออานาปานสติไปสักระยะหนึ่งแล้ว เริ่มสามารถจับได้ชัดเจน สภาพกำลังใจของเราเกาะเกี่ยวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา
เมื่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกได้มั่นคงดีแล้ว ก็คลายกำลังใจลงมานิดหนึ่ง แล้วก็คิดถึงอนุสติ คือ การระลึกถึงความดีต่าง ๆ อีก ๙ ประการด้วยกัน ได้แก่ การนึกถึงความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะว่าตามหลักของ อิติปิ โสฯ ก็ได้ หรือจะพิจารณาว่าพระองค์ท่านมีคุณความดีหลัก ๆ ก็คือพระปัญญาธิคุณอันล้ำเลิศ พระบริสุทธิคุณอันประเสริฐ และพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ก็ได้
เมื่อเราระลึกจนกระทั่งรู้สึกว่าสบายใจแล้ว มีสภาพจิตที่เกาะเกี่ยวอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นแฟ้นดีแล้ว ก็คลายกำลังใจออกมา ระลึกถึงคุณความดีของพระธรรมว่า ช่วยรักษาตัวเราไม่ให้ตกไปในทางที่ชั่ว พระธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ย่อลงมาแล้ว เหลือมรรค ๘ ซึ่งก็คือ ศีล สมาธิและปัญญา ท้ายสุดก็เหลือการประคับประคองรักษาความดีไว้โดยไม่ประมาท