View Full Version : ธรรมเนียมชาวพุทธที่ถูกต้องเกี่ยวกับพิธีงานศพ
ขอกราบเรียนถามพระอาจารย์ ถึงธรรมเนียมชาวพุทธที่ถูกต้องเกี่ยวกับพิธีงานศพ ดังนี้ครับ
๑.  มีข้อยกเว้นใดบ้างที่ชาวพุทธจะไม่ทำการเผาศพผู้ที่เสียชีวิต แต่จะใช้การฝังศพแทนครับ 
๒.  การฝังศพ แทนการเผา จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่เสียชีวิต อย่างไรบ้างครับ
๓.  ในกรณีเผาศพ หลังจากที่เผาแล้ว การที่ญาติเก็บกระดูกบางส่วนของผู้เสียชีวิต ไว้ในที่บรรจุที่บ้าน หรือที่วัด เพื่อบูชา 
จะมีโอกาสที่จะทำให้ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตยังไปสู่ภพภูมิต่อไปทันทีเลยไม่ได้ ยังต้องวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ กระดูกของตน คอยอยู่รับเครื่องบูชา และปกป้องคุ้มครองลูกหลาน เป็นความจริงหรือไม่ครับ
๔.   การลอยอังคารทั้งหมดของผู้ที่เสียชีวิต จะทำให้ผู้ที่เสียชีวิต หมดห่วงในร่างสังขารตนเอง และมีโอกาสไปสู่ภพภูมิต่อไปได้ง่ายขึ้น เป็นความจริงหรือไม่ครับ
๕.   การสวดพระอภิธรรมในงานศพของวัดท่าขนุน ทางวัดจะเลือกใช้บทสวดใดบ้าง เพื่อสวดในงานสวดศพครับ 
๖.   การทำบุญ ๑๐๐ วัน มีจุดประสงค์เพื่ออะไร ตัวเลข ๑๐๐ วัน จะเป็นวันที่เกี่ยวกับผู้ที่เสียชีวิตอย่างไร และจำเป็นต้องทำในวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ ไหมครับ 
ถ้าวันที่  ๑๐๐ ไม่ตรงกับเสาร์ อาทิตย์ ญาติ ๆ จะทำบุญ ๑๐๐ วันในวันเสาร์ อาทิตย์ถัดมา จะต่างจากการทำบุญในวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ อย่างไรบ้างครับ
ขอกราบขอบพระคุณที่กรุณาให้ปัญญาครับ
ถาม  : มีข้อยกเว้นใดบ้างที่ชาวพุทธจะไม่ทำการเผาศพผู้ที่เสียชีวิต แต่จะใช้การฝังศพแทนครับ ?
ตอบ :  ไม่มี...ยกเว้นว่าชาวพุทธนั้นเป็นชาวพุทธมหายาน  คือ  คนจีนเขาจะนิยมฝังมากกว่า  เพราะเขาเชื่อว่าการฝังบรรพบุรุษไว้ในฮวงจุ้ยที่ดี ลูกหลานจะเจริญรุ่งเรือง
ถาม  : การฝังศพแทนการเผา จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่เสียชีวิตอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ :  ผู้ที่เสียชีวิตไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก  เพราะว่าตายไปแล้ว  แต่ถ้าหากเป็นประโยชน์  ตำราจีนเขาบอกว่า ฮวงจุ้ยที่ดีย่อมส่งผลให้ลูกหลานเจริญรุ่งเรือง
ถาม  : ในกรณีเผาศพ หลังจากที่เผาแล้ว การที่ญาติเก็บกระดูกบางส่วนของผู้เสียชีวิต ไว้ในที่บรรจุที่บ้าน หรือที่วัดเพื่อบูชา จะมีโอกาสทำให้ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตยังไปสู่ภพภูมิต่อไปทันทีเลยไม่ได้ ยังต้องวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ กระดูกของตน คอยอยู่รับเครื่องบูชา และปกป้องคุ้มครองลูกหลาน เป็นความจริงหรือไม่ครับ ?
ตอบ :  เป็นความจริงแค่ที่ว่า ผีบางตัวไปไม่ได้เพราะยึดมั่นถือมั่น  แต่เรื่องปกป้องคุ้มครองลูกหลานก็แล้วแต่เขาว่าจะมีอารมณ์ไหม
ถาม  : การลอยอังคารทั้งหมดของผู้ที่เสียชีวิต จะทำให้ผู้ที่เสียชีวิต หมดห่วงในร่างสังขารตนเอง และมีโอกาสไปสู่ภพภูมิต่อไปได้ง่ายขึ้น เป็นความจริงหรือไม่ครับ ?
ตอบ :  เป็นเฉพาะรายที่ยึดติดอยู่  ถ้ารายที่ไม่ยึดติดก็ไม่มีประโยชน์อะไรไปมากกว่าตัวเราที่หมดภาระดูแล  ถ้าเป็นในความคิดของอาตมาก็คือ เผาแล้วก็ลอยไปทั้งกระดูก  ลอยไปทั้งอังคารนั่นแหละ  จะได้ไม่ต้องมีภาระต่อไป ถึงเวลาครบรอบปีเราก็เอารูปของท่านมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้  สะดวกกว่าการเก็บกระดูกเยอะเลย
ถาม  : การสวดพระอภิธรรมในงานศพของวัดท่าขนุน ทางวัดจะเลือกใช้บทสวดใดบ้าง เพื่อสวดในงานสวดศพครับ ?
ตอบ :  สวดพระอภิธรรมเขาก็ระบุชัด ๆ ว่าพระอภิธรรม  แล้วจะไปเลือกอะไรได้เล่า ? นี่แสดงว่าไม่เข้าใจใช่ไหมว่าการสวดพระอภิธรรมคืออะไร ?
พระอภิธรรมมีอยู่  ๗   คัมภีร์ด้วยกัน  ตัวย่อ คือ  สัง วิ ธา  ปุ  กะ  ยะ  ปะ  ก็คือ พระสังคิณี  พระวิภังค์  พระธาตุ  พระปุคคะละปัญญัติ  พระกะถาวัตถุ   พระยะมะกะ  พระปัฏฐาน  ส่วนใหญ่เป็นการแสดงหัวข้อธรรมหลัก ๆ ย่อ ๆ  ที่ว่าเราเป็นมนุษย์ฟังแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง  เหมาะสำหรับคนที่เป็นอุคฆติตัญญู  หรือบุคคลประเภทเทวดา  นางฟ้า  หรือพรหมเท่านั้น    
พอพระท่านขึ้น กุสลาธัมมา  เทวดา นางฟ้า พรหมก็จะเข้าใจว่าธรรมที่เป็นกุศลมีอะไร  ก็มีธรรมที่ประกอบไปด้วยกายสุจริต  วจีสุจริต  มโนสุจริต  ธรรมที่เป็นอกุศลประกอบไปด้วยอะไร  ก็คือ  สิ่งที่ทำไปด้วยกายทุจริต  วจีทุจริต  มโนทุจริต  เป็นต้น  
เราฟังแค่นี้เรายังจะตาย  แล้วต้องไปขยายว่า กายทุจริตคืออะไร ?   คือ การฆ่าสัตว์  การลักทรัพย์  ประพฤติผิดในกาม  ดื่มสุราเมรัย วจีทุจริตคืออะไร ? คือ การโกหก  พูดส่อเสียด  พูดเพ้อเจ้อ  พูดคำหยาบ  มโนทุจริตคืออะไร ? คือ โลภอยากได้ของเขา  มีความเห็นผิดไปจากสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน  เป็นต้น
เราต้องขยายแล้วขยายอีก  แต่เทวดา นางฟ้า พรหม ท่านฟังหัวข้อก็เข้าใจทะลุปรุโปร่งหมด  ดังนั้น...ที่สวดกันอยู่ทุกวันนี้  ประโยชน์มักจะเกิดแก่คนเป็นน้อยมาก  นอกจากจะได้สมาธิหรือได้ความเคารพในพระรัตนตรัย
ถาม  : การทำบุญ ๑๐๐ วัน มีจุดประสงค์เพื่ออะไร ? และจำเป็นต้องทำในวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ ไหมครับ ? ถ้าจะทำบุญ ๑๐๐ วันในวันเสาร์-อาทิตย์ถัดมา จะต่างจากการทำบุญในวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ อย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ :  ต่างกันตรงที่ไม่ได้ทำวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ นั่นแหละ...!   การทำบุญ ๑๐๐ วัน เป็นธรรมเนียมประเพณีที่เกิดจากการรู้จริงของคนโบราณ   
บุคคลที่ตายไป ถ้าโชคดีมีโอกาสได้ไปตำหนักพระยายมราช   ก่อนที่จะตัดสินความจะมีเวลาอยู่ประมาณ  ๓ เดือน ถึง ๓ เดือนเศษ ๆ ของโลกมนุษย์  เนื่องด้วยระยะเวลาที่ต่างกันมาก  ๑  วันของที่นั่นเท่ากับ  ๕๐ ปีของโลกมนุษย์   ดังนั้นโบราณจึงทำบุญในระหว่าง  ๗  วัน  หลังจากนั้นก็ทำ ๕๐  วัน  ทำ  ๑๐๐  วัน  เป็นการตอกย้ำประกันความเสี่ยงว่า ผู้ตายจะต้องได้รับส่วนกุศลนั้นแน่ ๆ  ถ้าหากผู้ตายมีโอกาสโมทนาในบุญกุศลนั้น ก็จะไปเสวยส่วนของผลบุญเลย  โดยที่ไม่ต้องผ่านการตัดสินของพระยายมราช   
ดังนั้น..ถ้าไม่สะดวกในวันที่ ๑๐๐  ตรง ๆ  ควรจะทำวันก่อนในวันที่ ๙๐ กว่า ไม่ใช่ไปรอทำหลังวันที่ ๑๐๐  ถ้าเกิดท่านตัดสินตอนนั้นไปแล้วก็ซวยไป..!
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.