เถรี
25-05-2017, 19:36
ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตนเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราทั้งหมด ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราทั้งหมด ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาหรือพิจารณาอย่างไรก็ได้ แล้วแต่เราถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น สำคัญอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ถ้าเราทิ้งลมหายใจเข้าออก การปฏิบัติธรรมจะไม่มีผล ส่วนการปฏิบัติที่มีผลนั้นคือ การที่เราจับลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนา จนกระทั่งทุกอย่างเป็นเองโดยอัตโนมัติ
คำว่าเป็นเองโดยอัตโนมัติก็คือ สภาพจิตของเรากำหนดรู้ลมหายใจพร้อมคำภาวนาได้โดยไม่ต้องบังคับ ถ้ายังไม่ถึงขั้นนี้โอกาสที่จะเอาชนะกิเลสก็ยังไม่มี แต่ถ้าทำถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเราขาดสติ เผลอเมื่อไร กิเลสก็ตีกลับได้ทุกเมื่ออีกเช่นกัน
แต่ว่าเท่าที่เห็นในปัจจุบันนี้ก็คือ พวกเราทั้งหลายไม่มีความจริงจังในการปฏิบัติธรรม สักแต่ว่าปฏิบัติไปเพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น เหตุใดถึงได้กล่าวเช่นนี้ ก็เพราะว่าเราปล่อยให้สภาพจิตของเรามีเวลาว่างไปฟุ้งซ่านกับ รัก โลภ โกรธ หลง มากจนเกินไป อย่างเช่นว่า อาจจะภาวนาเช้าครึ่งชั่วโมง เย็นครึ่งชั่วโมง เหลือเวลากลางวัน ๑๑ ชั่วโมงกับเวลากลางคืน ๑๒ ชั่วโมง เราปล่อยให้สภาพจิตของเราไหลตามกระแส รัก โลภ โกรธ หลง ไป ถ้าลักษณะอย่างนี้เราจะเอาตัวไม่รอด เพราะว่าทำงานในลักษณะที่ขาดทุนอยู่ทุกวัน
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น สำคัญอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ถ้าเราทิ้งลมหายใจเข้าออก การปฏิบัติธรรมจะไม่มีผล ส่วนการปฏิบัติที่มีผลนั้นคือ การที่เราจับลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนา จนกระทั่งทุกอย่างเป็นเองโดยอัตโนมัติ
คำว่าเป็นเองโดยอัตโนมัติก็คือ สภาพจิตของเรากำหนดรู้ลมหายใจพร้อมคำภาวนาได้โดยไม่ต้องบังคับ ถ้ายังไม่ถึงขั้นนี้โอกาสที่จะเอาชนะกิเลสก็ยังไม่มี แต่ถ้าทำถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเราขาดสติ เผลอเมื่อไร กิเลสก็ตีกลับได้ทุกเมื่ออีกเช่นกัน
แต่ว่าเท่าที่เห็นในปัจจุบันนี้ก็คือ พวกเราทั้งหลายไม่มีความจริงจังในการปฏิบัติธรรม สักแต่ว่าปฏิบัติไปเพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น เหตุใดถึงได้กล่าวเช่นนี้ ก็เพราะว่าเราปล่อยให้สภาพจิตของเรามีเวลาว่างไปฟุ้งซ่านกับ รัก โลภ โกรธ หลง มากจนเกินไป อย่างเช่นว่า อาจจะภาวนาเช้าครึ่งชั่วโมง เย็นครึ่งชั่วโมง เหลือเวลากลางวัน ๑๑ ชั่วโมงกับเวลากลางคืน ๑๒ ชั่วโมง เราปล่อยให้สภาพจิตของเราไหลตามกระแส รัก โลภ โกรธ หลง ไป ถ้าลักษณะอย่างนี้เราจะเอาตัวไม่รอด เพราะว่าทำงานในลักษณะที่ขาดทุนอยู่ทุกวัน