เข้าระบบ

View Full Version : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙


เถรี
07-11-2016, 14:45
ถาม : ผมอยากทราบว่ามีวัตถุมงคลชิ้นใดบ้าง ที่ช่วยส่งเสริมด้านการปฏิบัติธรรมให้สามารถทำหรือเข้าสมาธิได้ไว ?
ตอบ : อันดับแรก สมเด็จวัดระฆัง ไม่ได้พูดเล่นนะ เรื่องจริง...! อันดับที่สอง พระของหลวงปู่บุดดา ขอยืนยันทั้งสองรายการนี้ ถ้าพกติดตัวจะรู้สึกว่าสนับสนุนการปฏิบัติธรรมได้ดีมาก

ถาม : ผมอยากทราบว่ามีหรือไม่ครับ วัตถุมงคลที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีสมาธิระดับฌาน แต่ผู้ใช้สามารถใช้วัตถุมงคลนั้นให้สามารถส่งผล หรือแสดงอานุภาพได้เต็มที่ ? หากมี...มีวัตถุมงคลประเภทใด หรือสายไหนบ้าง ? ผมจะได้ไปเสาะหาครับ
ตอบ : หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม แต่ดูของให้เป็นนะ ถ้าดูไม่เป็นโดนเขาหลอกมาก็ตัวใครตัวมัน

ถาม : ผู้ใช้วัตถุมงคลมีสมาธิห่วย แต่มีความมั่นใจสูง วัตถุมงคลจะส่งผล หรือแสดงอานุภาพได้เต็มที่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าครูบาอาจารย์ท่านสงเคราะห์ไว้เท่าไร ถ้าครูบาอาจารย์สงเคราะห์เต็มที่อย่างหลวงพ่อกวย ห่วยแค่ไหนท่านก็ช่วย เพราะท่านรักลูกศิษย์ท่าน

ถาม : วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยในเว็บฯ หมดหรือยังคะ หรือยังจะมีมาอีก ?
ตอบ : จะพยายามหามาลงให้

เถรี
07-11-2016, 14:50
หลวงพ่อกวยเป็นพระอาจารย์ที่รักลูกศิษย์สุด ๆ แล้วรักแบบไม่มีข้อแม้ จะดีจะชั่วท่านก็รัก ขนาดลูกศิษย์ติดคุกยังตามไปช่วยเลย ไปรดน้ำมนต์ให้ บอกว่าอีกกี่วันจะได้ออกจากคุก แล้วก็เป็นไปตามนั้น

ครูบาอาจารย์ที่มาสายวิสุทธิมรรคบางรายไม่ชอบหลวงพ่อกวย เพราะหลวงพ่อกวยเล่นไสยศาสตร์เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม แต่ของทุกอย่างที่ท่านทำไว้ มีอานุภาพที่เห็นผลจริง ๆ

ถาม : แล้ววัตถุมงคลของหลวงพ่อวัดท่าขนุน สงเคราะห์ระดับไหนละคะ ?
ตอบ : ก็เหมือนกับตัวท่านนั่นแหละ ตัวใครตัวมัน...!

เถรี
07-11-2016, 14:53
ถาม : เมื่อมีคนตายแล้วเราอยากรู้ว่าเขาตายแล้วไปไหน เราต้องทำอย่างไรถึงจะรู้ได้ว่าเขาตายแล้วไปไหนเจ้าคะ ?
ตอบ : ไปร่วมงานศพเขา วันสุดท้ายก็จะรู้ว่าเขาตายแล้วถูกเอาไปไหน...! พยายามฝึกทิพจักขุญาณให้คล่องตัว พอได้แล้วก็ตามไปดูสิ...!

เถรี
07-11-2016, 14:56
ถาม : ตั้งแต่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๙ จนถึงปัจจุบันนี้ข้าพเจ้าก็ภาวนาพระคาถาเงินล้านทุกวัน (วันละ ๓๐๐ จบ) ผลก็เป็นอย่างที่ท่านบอกคือคล่องตัว เพียงแต่ว่ายังไม่ได้รับทรัพย์ก้อนใหญ่เข้ามา ข้าพเจ้ามีที่นาให้เขาเช่าอยู่ ๑๐ ไร่ ถ้าข้าพเจ้าไปเอาพันธุ์ข้าวปลูก ๑ กำมือพกติดตัวไว้ แล้วภาวนาพระคาถาเงินล้านแบบที่ข้าพเจ้าทำอยู่ทุกวันนี้ เมื่อถึงเวลาเพาะปลูก ข้าพเจ้าก็เอาพันธุ์ข้าวที่ข้าพเจ้าภาวนานี้ ให้ผู้เช่าไปผสมกับพันธุ์ข้าวที่เขาจะใช้หว่าน เพื่อให้ได้ผลผลิตเยอะ ทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ ?
ตอบ : ถูกอยู่บ้าง แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้นก็คือ สอนคนเช่าให้ภาวนา แล้วก็ให้เขาเสกเอง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปทำให้เขา

เถรี
07-11-2016, 14:59
ถาม : พระอาจารย์พอจะทราบยารักษาอาการปลายประสาทอักเสบบ้างไหมครับ ? อาการนี้น่าจะเป็นผลมาจากที่เพื่อนกระผมป่วยเป็นโรคเบาหวาน อาการของโรคคือ จะมีอาการปวดตามแข้งขา เหมือนถูกเข็มทิ่มตามขาทั้งสองข้างจนถึงเอวครับ ?
ตอบ : พาไปหาพระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา ที่อินทร์บุรีจะง่ายกว่า ทำยากินเองกว่าจะหายก็ยาก ไปให้ท่านจิ้มสักสองสามทีก็หมดเรื่องแล้ว

เถรี
07-11-2016, 15:05
ถาม : เวลาพระอรหันต์ท่านฉันอาหาร แล้วลิ้นท่านไปสัมผัสกับรสชาติอร่อย พระอรหันต์ท่านจะคิดว่าอาหารที่ท่านฉันเป็นอาหารอร่อยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถามอย่างกับอาตมาเป็นพระอรหันต์ ไปถามพระอรหันต์เองสิวะ...!

ถาม : ถ้าท่านคิดว่าอาหารที่ท่านฉันอร่อยท่านปรุงแต่งหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มั่นใจไหมว่าถ้าอธิบายไปแล้วจะเข้าใจ ? ประเภทเด็ก ป.๑ พยายามจะไปเข้าใจว่าด็อกเตอร์ท่านทำอะไร

ถาม : เวลาพระอรหันต์เห็นคนที่หล่อหรือสวย ท่านจะคิดว่าคน ๆ นั้นหล่อหรือสวย หรือเปล่าครับ ? ถ้าท่านคิดจะเรียกว่าเป็นการปรุงแต่งได้ไหมครับ ?
ตอบ : คำถามพวกนี้ข้ามไปเลย ตอบไปก็ไร้ประโยชน์ พอ ๆ กับหมาเห็นเครื่องบินนั่นแหละ...!

เถรี
07-11-2016, 15:07
ถาม : ผมเคยอ่านข้อความจากหลวงพ่อวัดท่าซุงที่ท่านสอนเกี่ยวกับนิวรณ์ ผมสงสัยตรงที่ท่านบอกประมาณว่า คนที่มีนิสัยเจ้าชู้ แต่คน ๆ นั้นสามารถกำจัดนิวรณ์ได้ในทันทีเพราะว่ามี "กำลังใจสูง" ผมอยากทราบว่า กำลังใจสูงที่หลวงพ่อท่านบอก นั่นกำลังใจระดับไหนแล้ว ? จะทำอย่างไรให้เข้าถึงกำลังใจสูงครับ ?
ตอบ : ทรงฌานสี่ให้คล่องตัวก็ทำได้อย่างเขาแล้ว

เถรี
07-11-2016, 15:10
ถาม : หลวงพ่อเล็กเคยเล่าเรื่องที่มีชายแก่ ในอดีตท่านติดเหล้ามาก แต่ท่านสามารถแสดงฤทธิ์อภิญญาได้ในขณะเพิ่งดื่มเหล้าเสร็จ ผมสงสัยว่าท่านวางกำลังใจอย่างไรให้แสดงอภิญญาตามใจนึก ขนาดศีล ๕ ท่านยังไม่มีครบเลย ?
ตอบ : ใครบอกว่าไม่ครบ ? ตอนท่านแสดงท่านผิดศีลตรงไหน ? ไม่ได้กินเหล้าไปแสดงไปนี่หว่า..!

เถรี
07-11-2016, 15:13
ถาม : ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเจตนาเป็นตัวกรรม หรือที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเล่าว่า มีคนจะบวชพระแต่ดันโดนถูกงูกัดตายก่อนจะบวช แต่คนนั้นยังได้บุญเต็มเหมือนเดิม ถ้าผมตั้งใจแบบพิเรนทร์ ๆ ไม่รู้ว่าจะทำได้จริงไหม ? แต่ตั้งใจไว้ก่อนว่าเราจะเป็นประธานสร้างพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ผมดันตายเสียก่อน ผมยังจะได้บุญเต็มไหมครับ ?
ตอบ : ได้...เพียงแต่มีปัญหาอยู่ที่ว่า ถ้าเสือกไม่ตายและไม่ได้สร้าง จะโดนใคร "ตื้บ" บ้างก็ไม่รู้...?!

เถรี
07-11-2016, 15:14
ถาม : บางวัดที่ผมเคยไปทำบุญ จะมีช้างที่จะให้เราอธิษฐานว่าคำอธิษฐานจะสำเร็จไหม แล้วใช้นิ้วก้อยยกขึ้น ถ้ายกขึ้นแปลว่าสำเร็จ ถ้ายกไม่ขึ้นแปลว่าไม่สำเร็จ ผมสงสัยว่าเป็นการเล่นกลอะไรหรือเปล่าครับ หรือเป็นอธิษฐานบารมีล้วน ๆ ?
ตอบ : ยกเองแล้วไม่รู้ว่าเล่นกลหรือเปล่า ก็ปล่อยให้โง่ต่อไป...!

เถรี
07-11-2016, 15:23
ถาม : บางครั้งจิตเผลอนึกเรื่องที่ไม่ดีแล้วรู้สึกผิดและเสียใจมาก ๆ ช่วงนี้เหมือนจะรุนแรงขึ้น ไม่อยากคิดถึงเลย แต่ก็ควบคุมได้บ้างไม่ได้บ้าง ควรทำอย่างไรดีไม่ให้นึกถึงอีกคะ ?
ตอบ : จงคิดต่อไป...ตราบใดที่สติยังไม่สมบูรณ์ เป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่คิดในเรื่องชั่ว แต่พอรู้ตัวให้คิดแต่ในสิ่งที่ดี ๆ เอาไว้ จะต้องต่อสู้ยื้อแย่งแบบนี้กันไประยะหนึ่ง จนกว่ากำลังของเราสูงกว่า จึงจะคิดดีมากกว่าคิดชั่ว

เถรี
07-11-2016, 15:26
ถาม : ชื่อจิรัฏฐญาที่ตั้งใจจะเปลี่ยน เอาไปตรวจสอบดูสำหรับคนเกิดวันเสาร์มีตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีอยู่สองตัวค่ะ แต่ชื่อเดิมความหมายก็ไม่ดีจึงตั้งใจจะเปลี่ยน ควรเปลี่ยนเป็นชื่อจิรัฏฐญาหรือชื่ออื่นดีคะ ?
ตอบ : ไม่รู้ว่าคนถามตอนเรียนคณิตศาสตร์ตกวิชานี้หรือเปล่า ? แสดงว่าสูตรคณิตศาสตร์แบบง่าย ๆ ก็จำไม่ได้ว่า ลบกับลบเป็นบวก เพราะฉะนั้น...ถ้าชื่อใครมีกาลกณีตัวหนึ่งก็หากาลกิณีมาให้ได้สองตัว ถ้ามีสามตัวให้หามาให้ได้สี่ตัวก็จะดีไปเอง..!

เถรี
07-11-2016, 15:36
ถาม : การเทศน์มหาชาติที่มีการร้องแหล่ พระที่ร้องแหล่นั้นจะติดอาบัติไหมครับ ?
ตอบ : ถ้านับจริง ๆ ก็ต้องอาบัติเหมือนกัน เพราะศีลพระห้ามไว้ชัดเจนว่าห้ามขับลำด้วยเสียงอันยาว การขับลำด้วยเสียงอันยาวเกิดโทษก็คือ ผู้ฟังหลงติดในเสียงนั้น โทษอันดับต่อไปก็คือ คนขับก็หลงติดในเสียงของตนเอง สรุปว่าโดนทั้งคู่

เถรี
07-11-2016, 15:39
ถาม : การสวดพระอภิธรรมในพิธีหลวงนั้นมีกี่ทำนอง และใครเป็นผู้แต่งทำนองต่าง ๆ นั้นขึ้นมาครับ ?
ตอบ : ปกติมีอยู่ทำนองเดียว คือ ทำนองสังโยค แต่ระยะหลังมีประเภทสวดแบบกระแทกกระทั้น อาจจะเป็นเพราะพระเห็นว่าโยมฟังแล้วมักจะหลับ ก็เลยสวดกระแทกให้ตื่น บางวัดไม่ได้กระแทกแต่เสียง กระแทกด้ามตาลปัตรด้วย ถือว่าเป็นลีลาเรียกแม่ยกอย่างหนึ่ง

เถรี
07-11-2016, 15:44
ถาม : นอกจากหลวงปู่ละมัยแล้ว มีพระรูปใดที่สร้างปิรามิดบ้างครับ ?
ตอบ : อาตมาก็เคยสร้างนะ แต่เป็นในอดีตชาติ หลวงพ่อรัตน์ รตนญาโณ อยู่ที่อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน สร้างเยอะกว่าเพื่อน ตอนนี้เสียมวยไปเรียบร้อยแล้ว เพราะคำทำนายเรื่องภัยพิบัติไม่เป็นไปตามที่ท่านบอกสักอย่าง

เถรี
07-11-2016, 15:47
ถาม : ในขณะที่ผมเล่นแบดมินตัน สมาธิผมจดจ่อกับการเล่นแบดมินตันอย่างเดียว ถ้าผมตายในตอนนั้น จะได้ไปสวรรค์ไหมครับ เพราะอย่างน้อยผมก็ตายในขณะมีสมาธิ ?
ตอบ : ขนาดเขาไม่ได้เล่นแบดมินตัน ตั้งหน้าตั้งตาภาวนายังไม่แน่ว่าจะรอดเลย นี่เล่นแบดมินตันอยู่ ยังมั่นใจเสียอีกว่าสมาธิของตัวเองจะทำให้ได้ไปสวรรค์...!

เถรี
07-11-2016, 15:52
ถาม : ตัวผมมีความรู้สึกว่า ผมไม่ใช่คนดีหรือคนเลว แต่ผมเป็นคนเทา ๆ อยู่ตรงกลางระหว่างความดีและความเลว ผมรู้ว่าอะไรดีผมก็ทำ รู้ว่าอะไรชั่วผมก็ละ แต่ถ้าผมต้องทำความชั่ว เช่น ดื่มเหล้ากับเพื่อนหรือหัวหน้า เพราะสถานการณ์บังคับ ผมก็จำเป็นต้องทำถึงไม่เต็มใจก็ตาม อยากทราบว่าความรู้สึกของผมแบบนี้ควรแก้ไหมครับ ?
ตอบ : จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรีบแก้ บุคคลที่จะเอาดีได้ ต้อง "ตัวตายดีกว่าศีลขาด" แต่นี่เป็นประเภท "ศีลขาดดีกว่าตัวตาย" ไม่ใช่ต้องรีบแก้อย่างเดียว แต่ต้องแก้กันขนานใหญ่เลย

เถรี
07-11-2016, 15:56
ถาม : สมัยที่พระสารีบุตรกับพระโมคคัลลานะ ก่อนที่ท่านจะไปบวชกับพระพุทธเจ้า ท่านได้ชวนอาจารย์คนเก่าของท่านให้ไปบวชกับพระพุทธเจ้าด้วยกัน แต่อาจารย์ของท่านปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่รู้แก่ใจอยู่แล้วว่าพระพุทธเจ้าท่านเก่งจริง ผมเลยสงสัยว่า ทำไมอาจารย์คนเก่าของพระสารีบุตร ท่านไม่ไปครับ ?
ตอบ : ไปถามท่านอาจารย์ของท่านสิ...! ดันทะลึ่งมาถามคนที่ไม่ใช่เจ้าของเรื่อง

ถาม : แล้วทำให้ผมสงสัยอีกเรื่อง ในสมัยพุทธกาลที่มีอาจารย์กับลูกศิษย์ อาจารย์นั่นด่าพระพุทธเจ้า แล้วลูกศิษย์สรรเสริญพระพุทธเจ้า แต่อาจารย์ก็รู้ดีแก่ใจอยู่แล้วว่า พระพุทธเจ้าท่านเป็นคนดีจริง ๆ ผมเลยสงสัยอีกว่า ทำไมอาจารย์คนนั้น ท่านถึงด่าพระพุทธเจ้า ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า พระพุทธเจ้าท่านดี ?
ตอบ : ก็เพราะว่าอยากด่า..!

เถรี
07-11-2016, 15:57
ถาม : การฝึกแบ่งจิตให้ทำหลาย ๆ อย่าง เช่น อ่านหนังสือแล้วดูลมหายใจไปด้วย ฝึกอย่างไรหรือครับ ? พอเวลาผมอ่านหนังสือแล้วดูลมหายใจ ถ้าผมจดจ่อลมหายใจเกินไป ผมก็อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง หรือถ้าผมจดจ่อกับการอ่านหนังสือ ผมก็กำหนดรู้ลมหายใจไม่ได้ หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับ ?
ตอบ : "มัชฌิมาปฏิปทา" คำเดียว เขาให้ขับรถตรงทาง แต่ดันขับกินซ้ายหรือขวามากเกินไป

เถรี
07-11-2016, 15:59
ถาม : พระอรหันต์ท่านมีอารมณ์รำคาญไหมครับ ถ้ามีคนหลายร้อยคนไปกวนท่าน หรือขอความช่วยเหลือจากท่าน ?
ตอบ : ไปถามท่านเองเลยครับ...!

เถรี
07-11-2016, 16:00
ถาม : ในมงคล ๓๘ มีข้อหนึ่งคือข้อที่ ๘ คือการมีศิลปะ หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับ เพราะความหมายของการมีศิลปะแต่ละคนไม่เหมือนกัน ?
ตอบ : ศิลปะในการเรียนรู้เพื่อที่จะเลี้ยงดูตนเอง ศิลปะในการดำรงชีวิต ศิลปะในการเอาตัวรอดจากวัฏสงสาร

เถรี
07-11-2016, 16:03
ถาม : ในเรื่องวัตถุต่าง ๆ ที่ได้นำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก เช่น พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร เป็นต้น หากวัตถุที่นำไปเข้าพิธีนั้นได้แตกหักลง และไม่สามารถซ่อมแซมได้ เช่น กลด, ร่ม หรือเป็นส่วนที่ไม่สามารถนำมาใช้งานต่อได้ เช่น ตลับขี้ผึ้งเปล่า เป็นต้น จึงขอรบกวนถามว่าการจะจัดการกับวัตถุที่ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกแต่เสียหายแล้วเหล่านี้ ควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะเหมาะสมครับ ?
ตอบ : หากระบะอย่างดี เป็นโลหะได้เลยยิ่งดี ใส่ลงไปเผาให้เรียบร้อย แล้วเอาผงมาทำพระต่อ...เสียดายของ

ถาม : หากนำไปทิ้งตามปกติ จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าคิดมากก็เป็น..!

เถรี
07-11-2016, 16:05
ถาม : ศาสตร์โหงวเฮ้ง มีความเกี่ยวข้องกับอภิญญาสมาบัติหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่บุคคลที่ได้อภิญญาสมาบัติ จิตของท่านจะมีกำลัง มีความผ่องใสมาก เพราะฉะนั้น...โหงวเฮ้งต่าง ๆ ของท่านก็จะดูดีกว่าคนปกติ ทั้งที่บางทีดูหน้าตาท่านก็ไม่ได้มีอะไร ต้องบอกว่าเป็นเพราะกำลังข้างในแผ่ออกมาจนถึงข้างนอก

เถรี
07-11-2016, 16:09
ถาม : โยมอยากขอคำชี้แนะจากพระอาจารย์ว่า สิ่งที่ผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ว่า แท้ที่จริงแล้วการย้ายเจดีย์จริง ๆ ก็คือการนำเงินหรือสิ่งของที่ถวายเป็นพุทธบูชา หรือศาสนสมบัติแล้ว ภายหลังได้นำมาแปลงเป็นตัวเงินเพื่อใช้จ่ายส่วนตัวในทางโลกเท่านั้น จึงต้องโทษย้ายเจดีย์และต้องรับโทษในอเวจีภูมิ ?
ตอบ : เข้าใจผิด การย้ายเจดีย์คือเจ้าของเงินตั้งเจตนาตั้งใจจะทำบุญอย่างหนึ่ง แต่คนทำดันเอาไปทำอีกอย่างหนึ่ง เขาปรับโทษเท่ากับย้ายเจดีย์ เพราะทำให้เจ้าของเงินเสียศรัทธาไป

ถาม : ควรจะแก้อย่างไรคะ ?
ตอบ : ก็เลิกย้าย..!

เถรี
07-11-2016, 16:14
ถาม : ถ้าหากโยมตั้งใจเลี่ยมทองพระห้อยคอเป็นพุทธบูชา แต่ต่อมาหากโยมตัดสินใจถอดกรอบทองที่เลี่ยมพระนั้นนำไปหล่อพระองค์ใหญ่แทน โดยเจตนาถวายเป็นศาสนสมบัติที่บรรจุอยู่ในองค์พระไปเลย

การที่หากมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากความตั้งใจเดิม คือ สละจากการเลี่ยมทองนั้น มาเพื่อส่งหล่อพระองค์ใหญ่ โยมสามารถทำในลักษณะนี้ได้หรือไม่ ? และขอกราบเรียนถามพระอาจารย์ว่าการตัดสินใจนี้เรียกว่าย้ายเจดีย์หรือไม่ ?
ตอบ : ไม่ได้ย้ายเจดีย์อย่างเดียว หาเรื่องลงนรกด้วย..! เพราะตั้งใจถวายเป็นพุทธบูชาไปแล้ว มีวิธีเดียวจะทำได้คือแกะของเก่าไปหล่อพระ แล้วทำของใหม่ให้ดีกว่าเดิม อย่างเช่น ถ้าของเก่าเป็นทองธรรมดา ของใหม่อาจจะทำเป็นทองสวิส หรือเป็นทองคำฝังเพชร

เถรี
07-11-2016, 16:22
ถาม : อานิสงส์จากกรณีที่ตั้งใจเลี่ยมทองพระห้อยคอเป็นพุทธบูชา กับการสละทองคำทั้งหมดนำไปหล่อพระองค์ใหญ่แทน อานิสงส์ต่างกันมากน้อยเพียงใดครับ ?
ตอบ : ต่างกันมาก เพราะการเลี่ยมทองพระเป็นการเสริมภายนอกให้ดูงดงามขึ้น ถ้าเกิดใหม่จะมีอานิสงส์เหมือนนางอุบลวรรณาเถรี คือมีผิวสวยเหมือนทอง แต่การหล่อพระถือว่าเป็นพุทธบูชา เกิดชาติใหม่ชาติใดก็ตาม จะต้องเป็นผู้นำเขาอยู่เสมอ

เถรี
07-11-2016, 16:31
ถาม : ทางสายวิชชาธรรมกายเห็นว่าจะเน้นทางด้านดวงแก้วอาโลกกสิณเป็นหลัก และจะมีพวกธาตุกายสิทธิ์ เช่น ดวงแก้วจักรพรรดิ เหล็กไหลวัชรธาตุ เหล็กไหลทองปลาไหล เหล็กไหลช่อทิพย์เงินยวง เหล็กไหลโกฏิปี สุริยัน-จันทรา ฯลฯ รวมถึงมีการแบ่งภาคของวัตถุธาตุศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ที่เป็นฝ่ายดีและมาร

โยมอยากทราบจากท่านพระอาจารย์ว่า เหตุใดทางสายวิชชาธรรมกายนั้น ถึงมีวัตถุธาตุกายสิทธิ์นี้โดดเด่นมากกว่าทางสายการปฏิบัติอื่น ?

ตอบ : ไปหาตำราวิชชาธรรมกายภาคสุดท้ายมาอ่าน ความจริงทุกสายถ้าปฏิบัติไปถึงจะพบเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เพียงแต่จะนำมาเป็นสาระหรือไม่เท่านั้น ภาคสุดท้ายของวิชชาธรรมกายคือมรรคผลพิสดาร เคยได้ยินกันไหม ? แต่ไม่ต้องไปหาที่วัดธรรมกายคลองสามนะ เพราะที่นั่นท่านเน้นเอาแค่ทานเท่านั้น

เถรี
07-11-2016, 16:49
ถาม : โยมเคยได้ยินว่าธาตุกายสิทธิ์พวกนี้รับพลังงานได้ไม่สิ้นสุด ไม่จำกัด เพิ่มขึ้นเองได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะรับพลังได้มากกว่าทองคำด้วยซ้ำ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไปถามเจ้าของธาตุดีกว่า ของบางอย่างการสัมผัสของเราน้อย ก็รู้สึกว่าไม่สิ้นสุด แต่ขณะเดียวกันบางท่านสัมผัสได้มากกว่า ก็รู้ว่าจุดสิ้นสุดอยู่ที่ตรงไหน เพราะฉะนั้น...เราเองจะไปพูดเต็มปากเต็มคำก็ไม่ได้ ถ้าเราเป็นเด็กเพิ่งจะเริ่มตั้งไข่ เดินแค่นี้ไปถึงประตูก็ปางตายแล้ว แต่สำหรับอาตมา ๙๓ กิโลเมตรที่ทุ่งใหญ่ เดินวันเดียวก็ถึงแล้ว

ถาม : ธาตุกายสิทธิ์พวกนี้จะช่วยส่งเสริมด้านการปฏิบัติภาวนาของเราได้อย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ถ้าทำเป็นรูปพระพุทธก็ได้พุทธานุสติ ถ้านึกถึงพระสงฆ์ที่ท่านทำขึ้นมาก็เป็นสังฆานุสติ เมื่อมีของดีอยู่กับตัว ถ้าเกิดความกล้า ความมุ่งมั่นบากบั่นในการปฏิบัติธรรมมากขึ้น ก็จะได้ผลดีมากขึ้น

เถรี
07-11-2016, 16:53
ถาม : หากมีผู้ประสงค์ร้ายทราบว่าเรารับยันต์เกราะเพชรมา จึงผสมเหล้าลงในอาหารโดยที่เราไม่ทราบ เมื่อกินเข้าไปแล้วยันต์เกราะเพชรจะหายหรือไม่ ?
ตอบ : หาย

ถาม : หากอาราธนาวัตถุมงคลที่เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรพกติดตัวไว้ จะมีพุทธานุภาพเช่นเดียวกับการรับยันต์เกราะเพชรหรือไม่ ?
ตอบ : เหมือนกัน เพียงแต่ทั้งสองอย่างมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน การเป่ายันต์เกราะเพชรติดตัวไปไหนเราไม่ลืมแน่ แต่ถ้าทำผิดข้อห้ามก็สูญไปเลย การใช้วัตถุมงคลที่เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร เราอาจจะลืมติดตัวไปได้ แต่ถ้าละเมิดข้อห้ามก็แค่งดการคุ้มครองชั่วคราว ถ้าสามารถรักษาได้ใหม่ก็คุ้มครองได้อีก เพราะฉะนั้น...วิธีที่ดีที่สุดคือเอาสองอย่างรวมกัน

เถรี
07-11-2016, 16:58
ถาม : การฝึกจิตให้ได้ทิพจักขุญาณนั้น ถ้าเราปรารถนา เราจะสามารถทำได้ถึงขึ้นที่สามารถมองเห็นภาพเคลื่อนไหวเหมือนดูภาพยนตร์ ที่จะสามารถรับชมพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ในภาพและเสียงที่เป็นจริงได้หรือไม่ ?
ตอบ : ได้มากกว่านั้นอีก ไม่ใช่แค่ชาติเดียว ย้อนอดีตได้สารพัดชาติตามกำลังของเรา

ถาม : สิ่งที่สำคัญกว่านั้นที่ปรารถนาก็คือ ได้ฟังพระธรรมจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าโดยตรง จะสามารถตั้งใจและอธิษฐานเช่นนี้เพื่อให้เกิดผลตรงตามปรารถนาได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ขึ้นไปพระเกศแก้วจุฬามณี ถ้าวันไหนพระองค์ท่านเสด็จมาก็ได้ฟัง ถ้ารอไม่ไหวก็ขึ้นไปพระนิพพาน กราบขอพระองค์ท่านสงเคราะห์โดยตรงไปเลย

เถรี
07-11-2016, 17:02
ถาม : มีวิธีดูว่าพระรูปใดเป็นสุปฏิปันโนบ้างครับ ?
ตอบ : ไปหา "บทพิสูจน์นักบุญ" ของหลวงพ่อฤๅษีลิงเล็กมาอ่าน คาดว่าค้นเอาในอินเตอร์เน็ตก็มี

เถรี
07-11-2016, 17:04
ถาม : เหตุใดพระโบราณจึงเสกพระแบบไสยศาสตร์ และทำไมถึงมีผลทั้งที่ไม่ใช่พุทธศาสตร์ ?
ตอบ : ไม่ว่าไสยศาสตร์หรือพุทธศาสตร์ พื้นฐานก็คืออำนาจจิตที่ได้รับการฝึกมาดีแล้ว สำเร็จสัมฤทธิ์ผลเป็นมโนมยา คือ สำเร็จด้วยใจ ต้องการอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

เถรี
07-11-2016, 17:09
ถาม : หากนำพระที่เสกแบบไสยศาสตร์มาห้อยกับพระสายเรา ซึ่งมีอำนาจพระพุทธคุณ อำนาจไสยศาสตร์ในของเดิม จะถูกลบเลือนไปหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้ตั้งใจจะอธิษฐานทำลาย อำนาจนั้นก็ยังคงอยู่ เพียงแต่แสดงออกไม่ได้

ถาม : เสกแบบไสยศาสตร์และพุทธศาสตร์แตกต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : ไสยศาสตร์ส่วนใหญ่ใช้เวทย์มนต์คาถา ใช้กำลังใจเฉพาะตน ส่วนพุทธศาสตร์ส่วนใหญ่ขอบารมีพระหรือพรหมเทวดาท่านสงเคราะห์

เถรี
07-11-2016, 17:11
ถาม : ขอเทคนิคเคล็ดลับในการอธิษฐานวัตถุมงคลเพื่อใช้งานให้เกิดผลสูงสุดตามแบบฉบับของหลวงพ่อหน่อยครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นอาตมาก็วิ่งขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพาน มีอะไรจะสงเคราะห์ขอความเมตตา "เหมาหมดเลยครับ"

เถรี
07-11-2016, 17:13
ถาม : กระผมและคณะมีความตั้งใจอยากจะสร้างหุ่นขี้ผึ้งรูปหลวงปู่สายขนาดเท่าองค์จริง ถวายไว้ที่วัดท่าขนุน ?
ตอบ : เลิกคิดไปได้เลย การสร้างต้องมีสถานที่เหมาะสมเอาไว้ประดิษฐานด้วย ถ้าไม่ได้สร้างมณฑปราคาสัก ๔๐-๕๐ ล้านบาทถวายท่าน ก็อย่าคิดทำเลย

เถรี
07-11-2016, 17:18
ถาม : อยากทราบว่าน้ำมันโสฬสวังหน้ามีที่มาที่ไปอย่างไร และมีอานุภาพอย่างไรครับ ?
ตอบ : เกิดจากการปลุกและการเสกในสมัยนั้น ซึ่งเขาเชื่อกันว่าหลวงปู่โลกอุดรมาสงเคราะห์ วังหน้าในที่นี้คือกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญในรัชกาลที่ ๕ แต่ถ้าชื่อท่านเป็นฝรั่ง ก็คือ พระองค์เจ้าจอร์ช วอชิงตัน แต่รัชกาลที่ ๔ ทรงเปลี่ยนให้ใหม่ เป็นพระองค์เจ้ายอดยิ่งประยุรยศ

ถาม : น้ำมันโสฬสวังหน้าแตกต่างจากน้ำมันชาตรีอย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าทำได้ก็ไม่ต่างกัน

เถรี
07-11-2016, 17:22
ถาม : บ้านเติมบุญ มีความหมายว่าอย่างไรครับ ?
ตอบ : แปลว่าบุญของแกขาดแน่นอน ไปทำเพิ่มเสียแต่โดยดี...!

ถาม : แก้วเติมบุญที่เข้าพิธีมา ๘ วาระ จะใช้แทนเพชรจักรพรรดิได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่ควรที่จะไปใช้แทน ควรที่จะใช้ร่วมกัน มีเพชรจักรพรรดิวัดท่าซุงอยู่ ดันทะลึ่งไปใช้อย่างอื่นแทนก็โง่ตายชัก...!

เถรี
07-11-2016, 17:23
ถาม : วัตถุมงคลที่เข้ากรรมฐาน ๓ วันครั้งล่าสุด มีอานุภาพเด่นทางด้านไหนครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่จะเด่นด้านราคาแพง...!

เถรี
07-11-2016, 18:01
ถาม : ลักษณะการนอนหลับโดยทรงฌานจะมีลักษณะอย่างไร และสามารถรู้ได้อย่างไรว่าหลับโดยการทรงฌานครับ ?
ตอบ : อันดับแรก...จะรู้ลมหายใจเข้าออกเองโดยอัตโนมัติ อันดับที่สอง...รู้สึกเหมือนกับตัวเองไม่ได้นอนเลย แต่ความจริงแล้วหลับอยู่

เถรี
07-11-2016, 18:03
ถาม : หลวงพ่อมีการกล่าวถึงโหงวเฮ้งอยู่บ้าง อยากทราบว่าถ้าต้องการศึกษา ควรศึกษาจากที่ใดจึงจะเห็นผลครับ ?
ตอบ : ดูจากพระไตรปิฎกเกี่ยวกับมหาปุริสลักษณะและอนุพยัญชนะของพระพุทธเจ้า นั่นแหละ...สุดยอดตำราโหงวเฮ้งเลย

เถรี
07-11-2016, 18:30
มีใครรู้จัก "ซินแสโอ" บ้างไหม ? ถ้ารู้จักไปขอศึกษากับท่านก็ได้ แต่ไปถึงแล้วเห็นว่าหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวก็อย่าไปดูถูกว่าไม่เก่งนะ ซินแสโอแอบย่องมาที่นี่ กลัวว่าคนอื่นจะรู้ เพราะว่าท่านค่อนข้างจะดังอยู่มาก ลูกศิษย์ล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตในแผ่นดิน อาตมาก็กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าท่านมาที่นี่เหมือนกัน เพราะเดี๋ยวลูกศิษย์ท่านจะตามมา เป็นซินแสโอก็ไม่ค่อยจะดีเพราะเลือกไหว้พระ จะไหว้พระต้องดูโหงวเฮ้งก่อน..!

ซินแสโอออกหนังสือมาหลายเล่ม ถ้าตั้งใจจะศึกษาจริง ๆ หาตำราของท่านมาศึกษาก็ได้ เป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถมาก เพียงแต่ตอนที่ไปศึกษาวิชาการต่าง ๆ ต้องอดทนอดกลั้นทีเดียว คนเราต้องตั้งใจทำจึงจะสำเร็จ ฉะนั้น...อย่าไปดูถูกว่าเป็นคนหนุ่ม

พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่าดูถูกพระราชาว่าเด็ก อย่าดูถูกงูพิษว่าเล็ก อย่าดูถูกสะเก็ดไฟว่าน้อย เพราะพระราชาเด็กก็สั่งประหารชีวิตเราได้ งูพิษถึงตัวเล็กถ้ากัดเราก็ตายเหมือนกัน สะเก็ดไฟเล็กน้อยสามารถที่จะเผาผลาญป่าใหญ่ ๆ หมดไปทั้งป่า หรือเมืองใหญ่ ๆ หมดไปทั้งเมือง

และท้ายสุดพระองค์ท่านบอกว่า อย่าดูถูกสมณะว่ายังหนุ่มอยู่ อันนี้เท่ากับพระพุทธเจ้าด่าอาตมาตรง ๆ เพราะเมื่อก่อน ถ้าพระไม่แก่อาตมาจะไม่แลเลย ต้องไปเจอหลวงปู่โลกอุดร มาทีก็หน้าเด็กมาเชียว แต่ผมขาวทั้งหัว ท่านตั้งใจจะแกล้งว่าเราจะดูหัวหรือจะดูหน้าของท่าน

เถรี
07-11-2016, 18:35
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงระยะนี้เหตุการณ์บ้านเมืองของเราเหมือนกับภูเขาไฟใต้น้ำ ค่อย ๆ ปะทุรอวันระเบิด สำหรับพวกเราแล้วไม่มีอะไรดีไปกว่าการยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ถึงเวลาบารมีพระคุ้มครองรักษาเราก็จะอยู่รอดปลอดภัยเอง ส่วนคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน..!"

เถรี
07-11-2016, 18:45
พระอาจารย์กล่าวว่า "ขอเตือนคนอยู่กรุงเทพฯ ว่า ให้ รีบหากะโหลกกะลา ถัง กะละมัง หม้อ ไว้เยอะ ๆ หน่อย ตุนน้ำเอาไว้บ้าง ปีหน้าจะแล้งกว่าปีนี้ ปีนี้อาตมาเตือนไปบางคนก็ทำ แต่ยังโชคดีที่ในหลวงยังอยู่ ฝนจึงมาทันการณ์

รู้ไหมว่าเขื่อนวชิราลงกรณที่เลี้ยงคนกรุงเทพฯ ปีนี้น้ำหมดเขื่อนพอดีกับฝนลง ไม่อย่างนั้นปีนี้คนกรุงเทพฯ ได้ซมซานอดน้ำกันบ้าง ไม่แปลกใจหรือว่าทำไมอาตมาตุนน้ำข้างหลังห้องนี้เอาไว้เพียบเลย จำเป็นต้องตุนเผื่อเอาไว้ก่อน ไม่ใช่เดือดร้อนแล้วค่อยไปหาตอนที่มีแต่ของแพง

ซื้อถัง ๔๐ - ๕๐ ลิตรไว้สักสองใบก็ได้ ถังสีน้ำเงินนั่นแหละ ใส่น้ำทิ้งเอาไว้ก็ไม่เสียหลาย ถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมาถ้าขาดน้ำ อย่างน้อย ๆ เราก็ยังอยู่ได้อีกหลายวัน ถ้าใช้แบบมหา ๕ ขันก็สบาย แต่ทีละ ๕ ขันก็ยังเปลืองอยู่นะ ต้องเอาอย่างครูบาอาจารย์สมัยก่อน ท่านใช้น้ำแก้วเดียว ถึงเวลาก็หดตัวเหลือนิดหนึ่งลงไปอาบน้ำในแก้ว อาบเสร็จแล้วค่อยขยายตัวใหญ่เท่าเดิม ไม่เปลืองน้ำเลย

เสด็จในกรมหลวงชุมพรเคยทำให้คนในวังดูทีหนึ่ง ท่านเอาขวดโหลใส่ลูกกวาดสมัยก่อนมาใส่น้ำไว้ครึ่งโหล แล้วอยู่ ๆ ก็กลายเป็นองค์เล็กลงไปอยู่ข้างใน อาบน้ำสบายใจ"

เถรี
07-11-2016, 20:36
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาไม่อยากจะบอกเคล็ดลับว่า ที่ลงกระทู้คนมีเงินฯ แล้วของออกหมดเลย เพราะว่ากุมารทองหลวงพ่อกวย อาตมาบอกกุมารทองช่วยขายของให้ด้วย พอลงแม่นางกวักหลวงปู่อิ่ม ก็บอกแม่นางกวักช่วยจัดการให้ก่อนที่จะไป เพราะฉะนั้น...ใครจะเลียนแบบก็ได้นะ ไหน ๆ ก็อยู่ด้วยกันมานาน ก่อนจะไปก็ช่วยกันทำงานก่อน"

เถรี
08-11-2016, 09:04
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาว่าจะซื้อเม็ดเงินหล่อพระ ราคาก็กระโดดขึ้นกระโดดลง อาตมาเลยผลักภาระไปให้โยมแทน ให้จองเป็นเจ้าภาพเม็ดเงินหล่อพระคนละ ๑ กิโลกรัม ต้องการเจ้าภาพแค่ ๒๕๐ คน ดูท่าจะไม่ถึงแล้ว เพราะมีบางคนจองไปรายเดียว ๕ กิโลกรัม"

เถรี
08-11-2016, 09:06
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานมาถึงก็มีไปรษณีย์มาส่งจดหมาย เป็นฉบับแรกในรอบ ๖ ปี ปรากฏว่าเขาจ่าหน้าส่งถึงบ้านวิริยบารมี บ้านเลขที่ก็ไม่มี อะไรก็ไม่มี แต่ไปรษณีย์เขาเก่ง เขาส่งมาถึงเหมือนกัน แกะออกมาเป็นเงิน ๑๐๐ บาท ระบุว่าช่วยค่าใช้จ่ายบ้านวิริยบารมี ไอ้พวกสิ้นสติ..! จะทำบุญเสียอย่างก็ทำไปเรื่อย ๆ ส่งมาลักษณะนั้นโอกาสสูญหายมีเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ประการแรกก็คือเงินสดใส่ซองมา ประการที่สองไม่มีบ้านเลขที่ ไม่มีซอย ไปรษณีย์ก็เก่ง...ส่งมาถึงได้"

เถรี
08-11-2016, 09:10
พระอาจารย์เล่าว่า "งานทอดกฐินปลดหนี้ที่วัดตะเคียนงาม ได้เงินทั้งหมด ๑,๘๕๐,๐๐๐ บาทถ้วน คืออาตมามีค่านิยมว่าเติมให้เต็มไว้ เหตุที่ได้น้อยเพราะว่าพระเครื่องที่เตรียมไว้ประมูลหนีกลับวัดไปเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หนีกลับไปนอนวัดกันหมด แม้กระทั่งพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน (๒) เนื้อตะกั่ว ก็หนีกลับไปนอนวัด เป็นอะไรที่อาตมารู้สึกเครียดมาก

จัดของใส่กระเป๋าแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไปด้วย ประมูลกันได้พักเดียวของก็หมด อุตส่าห์เอาของหลวงพ่อกวยไปหลายองค์ ของหลวงพ่อคงไปหลายองค์ ยังมีของหลวงปู่หลวงพ่ออื่น ๆ อีก ท่านหนีหมด..! ไปนึกถึงหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมัยก่อนถ้าใครรับวัตถุมงคลของท่านไปแล้วทำผิดศีลผิดธรรม วัตถุมงคลจะหนีกลับ พอไปขอใหม่ท่านก็จะเตือน บอกว่า "ให้รู้จักทำให้ดี ๆ นะจ๊ะ" อาตมาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แค่จะเอาท่านไปขายเท่านั้น หนีกันหมดเลย..!

ที่เจ็บใจที่สุดก็คือ หนีไปแอ้งแม้งที่วัดประเภทเย้ยฟ้าท้าดิน ถ้าไม่ใช่อาตมาเป็นคนสมาธิดี ความจำดี คงคิดว่านี่เราสมองเสื่อมเป็นอัลไซเมอร์แล้วกระมัง ? จำได้ว่าเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วทุกอย่าง ถึงเวลาล้วงหาไม่เจอ ประสบการณ์แบบนี้อาตมาเจอบ่อย เจอจนกระทั่งเลิกแปลกใจแล้ว"

เถรี
08-11-2016, 09:15
พระอาจารย์กล่าวว่า "โดยปกติแล้วเบี้ยแก้จะมีอานุภาพไปในทางกันคุณไสย แก้อาถรรพ์ กันภูตผีปิศาจ แต่ว่ามีเบี้ยแก้อยู่ ๒-๓ สำนักที่คงกระพันแน่นอน เห็นชัด ๆ ก็คือหลวงปู่ม่วง วัดคฤหบดี ท่านเป็นลูกศิษย์สายหลวงปู่รอด วัดนายโรงนี่แหละ ใครไปรับเบี้ยแก้กับหลวงปู่ม่วง ลูกศิษย์ที่เป็นนักเลงจะดักรออยู่ปากทาง เดินออกมาเมื่อไรเจอทั้งมีดทั้งดาบ..!

อีกสำนักหนึ่งก็หลวงพ่อกา วัดแค นครชัยศรี ส่วนของหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ท่านให้คาถากำกับมา ถ้าต้องการที่จะให้ยิงไม่ออก ต้องการให้ยิงออกไม่ถูก ต้องการให้ปืนแตก ท่านบอกให้ภาวนาคาถาอย่างนี้ ๆ จริง ๆ แล้วก็คือขึ้นอยู่กับจริตนิสัยของคนทำ หลวงปู่เพิ่มท่านเป็นพระที่เมตตาสุด ๆ แต่ทำของแล้วเหนียวได้เหมือนกัน

อาตมาเป็นคนนครปฐม รู้จักหลวงปู่เพิ่มดี สมัยที่เรียนประถมมัธยมอยู่ แผ่นพับวัตถุมงคลท่านยังไปถึงโรงเรียนบ่อย ๆ พระองค์ละ ๒๐ บาทสมัยนั้นรู้สึกว่าแพงเหลือเกิน เพราะก๋วยเตี๋ยวชามละบาทเดียวเท่านั้น ถ้าเป็นสมัยนี้ก็องค์ละประมาณ ๘๐๐ บาท คราวนี้เด็ก ๆ มีเงินน้อย รวมกันทั้งห้องทำบุญแล้วได้พระมา ๒ องค์ ก็ต้องมาจับฉลากกันว่าใครจะดวงดีได้ไป ส่วนใหญ่เพื่อน ๆ เขาจะได้กัน ส่วนอาตมาไม่กลัว ถึงเวลาเก็บสตางค์ได้ก็วิ่งหาหลวงปู่ ไปบูชาเอาที่วัด

เบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่มที่หายากนักยากหนา อาตมามีเป็น ๑๐ ตัว สมัยนี้ของปลอมมีเยอะ หลวงปู่เจือรุ่นแรก ๆ เขาก็จะเล่นเป็นของหลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่เพิ่มรุ่นแรก ๆ ก็จะเล่นเป็นหลวงปู่บุญ ไอ้พวกไร้จรรยาบรรณ..! ทั้ง ๆ ที่จุดต่างมีให้เห็นชัด ๆ แต่ว่าแกล้งโง่ จะเอาสตางค์เขา เรื่องของวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ นอกจากจะต้องดูของเป็นแล้ว แหล่งที่มายังต้องน่าเชื่อถือด้วย ถ้าแหล่งที่มาไม่น่าเชื่อถือ โอกาสโดนฟันเลือดโชกก็มีเยอะ"

เถรี
08-11-2016, 09:25
พระอาจารย์พูดถึงเรื่องเม็ดเงินสร้างพระ "อาตมารับแค่ ๒๕๐ กิโลกรัม ถ้าเหลือจะเอาไปผสมในเนื้อนาก เพราะว่าเนื้อนากจะประกอบไปด้วยทองคำ เงิน ทองแดง ถ้าหากว่าเม็ดเงินบริสุทธิ์จะเหมือนกันหมด แต่ถ้าหากว่าเป็นพวกเงินรูปพรรณต่าง ๆ นี่ขอว่าไม่รับ เพราะว่ามีส่วนผสมของโลหะอื่น ทำให้เนื้อเงินดำง่าย ถึงเวลาแล้วพระจะกระดำกระด่างไม่น่าดู

ไปดูฝีมือช่างแล้วปลื้มใจ ปั้นได้สวยมาก ความจริงท่านอาจารย์สุชาติบอกว่าเกษียณแล้ว ท่านไม่ทำแล้ว สายตาแย่แล้ว ปรากฏว่าของวัดท่าขนุนนี่เท่าไรเท่ากัน ท่านเต็มใจทำให้ แล้วขอด้วยว่าให้ไปหล่อที่วัดท่าขนุน ก็เลยตกลงว่าย้ายไปหล่อที่วัด"

เถรี
08-11-2016, 09:26
พระอาจารย์กล่าวว่า "กฐินปีนี้วัดพุทธบริษัทกับสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีมีแต่คนอิจฉา วัดของเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิทอดได้ ๘ แสนกว่าบาท วัดรองเจ้าคณะอำเภอห้วยกระเจาทอดได้ ๘ แสนกว่าบาท ส่วนสองวัดนี้อยู่เฉย ๆ ซองกฐินสักซองก็ไม่ต้องพิมพ์ ได้ไปเกือบล้านบาท ขาดไปแค่หมื่นนิด ๆ

โยมใส่ตอนตักบาตรเทโวมาเยอะมาก บางรายใส่ทีหนึ่งเป็นปึก ๆ ชนิดมาเป็นแสนเลย อาตมาเทลงกองกฐินหมด ในเมื่อเทลงกองกฐิน ๓ วัด พอถึงเวลายอดเฉลี่ยจึงสูง ช่วงนี้เป็นเจ้าภาพงานศพมีแต่คนเขาแซวกัน ว่าวัดท่าขนุนได้กฐินมาก ต้องเป็นเจ้าภาพหลายวันหน่อย"

เถรี
08-11-2016, 09:37
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานแวะไปดูฝีมือปั้นพระของท่านอาจารย์สุชาติแล้ว ประทับใจมาก เหลือแค่ติดเม็ดพระศกอย่างเดียว ท่านบอกว่าอาทิตย์หน้ามาดูได้ครับ สมบูรณ์แบบแน่ ถ่ายรูปแล้วจะได้เข้าปูน แต่ท่านขอให้ไปหล่อที่วัด องค์ทางใต้นี่อ้วนมากหน่อย เป็นศิลปะศรีวิชัยแบบขนมต้ม องค์ทางเหนือนี่เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนแบบพระพุทธสิหิงค์"

เถรี
08-11-2016, 09:44
พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงงานพระบรมศพนี่ก็ดีนะ ทำให้ได้งัดเสื้อผ้าเก่า ๆ มาใช้ ทุกบ้านจะมีสีดำอยู่แล้ว ไม่ดำก็ขาวอย่างไรก็ต้องมี

ต้องบอกว่าบ้านเรานั้นมิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ทุกงาน แม้แต่งานพระบรมศพก็ยังอุตส่าห์ฉวยโอกาส แรก ๆ มีการเปิดรับบริจาคทางเว็บด้วยนะ ใครเป็นเจ้าภาพต้องจ่าย ๒๐,๐๐๐ บาท พวกประเภทศรัทธามากรีบโอนก็เสียสตางค์ฟรี แล้วก็มีพวกไปรับอาหารแจกมาขายต่อ แบบนี้ก็เกินไป

อย่างที่วัดท่าขนุนเปิดโรงทาน ก็จะมีพวกตั้งใจมาตุน ขนกลับบ้านกันแบบบันเทิงใจมาก ตอนแรก ๆ แม่ชีก็ด่าเสียหูตูบ อาตมาบอกว่าจะไปด่าเขาทำไมเล่า ? เราตั้งใจแจก เขาเอาไปหมดเราก็สบาย แต่อีกหลายรายก็ขนกันมาทั้งลูกหลานญาติโยม เดินคลำพุงมาเลย มีการส่งกองลาดตระเวนนำมาด้วย มาดูว่าที่วัดมีหรือเปล่า ถ้ามีก็ส่ง LINE บอกกัน แหม...ทันสมัยจริง ๆ ก็เท่ากับเขาประหยัดค่าอาหารไปมื้อสองมื้อ ถ้าหากว่าตุนไปมากก็ประหยัดมื้อเย็นไปอีกมื้อหนึ่ง

เพราะฉะนั้น...เปิดโรงทานต้องทำใจกว้าง ๆ ไว้ ใครเขามาก็ให้เขาไปเถอะ เรียกว่าต้องมีอุเบกขาในการให้ทานด้วย คือให้แล้วเขาจะเอาไปทำอะไรต่อก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนพวกที่ทำน่าเกลียดมาก ชนิดเอาไปวางขาย เดี๋ยวเขาก็จัดการกันเองแหละ

แต่ส่วนหนึ่งที่เห็นแล้วชอบใจก็คือบรรดาดารา โดยเฉพาะดาราสาว ๆ ที่ชอบแต่งตัวไอ้โน่นหกไอ้นี่หล่น มางานพระบรมศพ แหม...แต่งตัวได้เรียบร้อยดีมาก แสดงว่ายังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง ไม่ถึงขนาดชำรุดหมด ว่าแต่ว่าก็ทำให้ไม่ได้ดูอะไรไปอีกเป็นปีเลยนะ..!"

เถรี
08-11-2016, 17:52
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้สถิติลูกหมาที่วัดตก ได้มาแค่ ๔๐ กว่าตัว ปกติแต่ละปีจะได้ประมาณ ๕๐-๖๐ ตัวเป็นอย่างน้อย "เจ้าคนแคระทั้งเจ็ด" นี่ใหญ่กว่าลูกแมวหน่อยหนึ่งแล้วนะ โอ้โฮ...อะไรจะผอมได้ขนาดนั้น ต้องบอกว่าคลอดลูกมาอย่างชนิดที่ไม่ได้ดูเลย ข้าวปลาอาหารก็ไม่มี ดันคลอดมาได้ตั้ง ๗ ตัว..!"

เถรี
08-11-2016, 17:53
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าอาตมาไม่เปิดกระทู้ให้บูชาเครื่องรางของขลัง จะรู้กันไหมว่ามีของขนาดนี้ ? สมัยก่อนอาตมาก็บ่นหลวงปู่จง วัดท่าซุงว่า “หลวงพี่...สะสมมาก ๆ ระวังคานกุฏิจะร้าวนะ” ไป ๆ มา ๆ น่ากลัวว่าคานกุฏิของอาตมาก็จะร้าวเหมือนกัน เลยต้องเอามาแบ่งให้น้อยลงบ้าง"

เถรี
08-11-2016, 17:54
พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหนหรอกที่มานั่งถักตะกรุดให้ลูกศิษย์ เห็นมีแต่หลวงพ่อกวยเท่านั้น ปกติก็ให้คนอื่นทำให้ทั้งนั้น นี่ท่านต้องมานั่งถักเองเสกเอง"

เถรี
08-11-2016, 17:59
พระอาจารย์กล่าวกับพระลูกศิษย์ที่มาเบิกเงินค่าเล่าเรียนว่า "วันนี้ความจริงไม่มีเงินให้พวกคุณหรอกนะ แต่ผมก็แปลก...เป็นคนไม่มีเงินได้ไม่เกิน ๑ วัน เมื่อเช้านั่งรับสังฆทานมีโยมถวายมา ๖ แสนบาท เออ...ค่อยพอใช้หน่อย ก่อนจะมานี่ช่างเขาเบิกไป ๑ ล้านกว่าบาท หมดกระเป๋าเลย ผมก็ยังว่าเดี๋ยวพระท่านมาเบิกค่าเรียนแล้วจะจ่ายอย่างไร เมื่อเช้านั่งอยู่พักหนึ่งโยมถวายมา ๖ แสนบาท...ค่อยยังชั่วหน่อย

โยมเกษียณแล้วเอาเงินออมที่ทางหน่วยงานหักเอาไว้มาทำบุญ หน่วยงานทำลักษณะนั้นก็ดีนะ เท่ากับบังคับให้ฝากเงิน แต่โยมคงจะไม่เดือดร้อน เพราะว่าเป็นเงินออมที่จมอยู่เฉย ๆ เวลาเกษียณได้เงินคืนมา ก็เลยเอามาถวายพระเพื่อทำบุญหมดเลย

บางทีศรัทธาของโยมก็น่ากลัว ถ้าคนไม่รู้จักกันจริง ๆ อาตมามักจะไล่ให้กลับบ้านไปคิดดูก่อน ดูว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินส่วนนี้ไหม ? คิดให้รอบคอบ อีกอาทิตย์หนึ่งค่อยมาให้คำตอบ โยมบางท่านก็บ่นเอาว่า ให้แล้วอาตมายังจะเรื่องมากอีก

ตอนนี้มีอยู่ ๒ รายที่เวลาจะถวายอะไรก็ต้องรีบบอกว่า “คิดรอบคอบแล้ว...ไม่เดือดร้อนครับ” เมื่อตอนกฐินโยมถวายทองคำมา ๒๔๕ บาท เขายืนยันว่าเป็นทองที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อใหม่ แล้วก็ไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งสะเทือนด้วย อาตมาจึงต้องรับเอาไว้ ถ้าเป็นพวกเราถวายทองคำ ๒๔๕ บาท คลำดูหน้าแข้งน่าจะสะอาดเอี่ยม ไม่มีเหลือสักเส้น..!"

เถรี
08-11-2016, 18:24
พระอาจารย์กล่าวกับคณะทำงานของอาจารย์บรรจบว่า "ส่วนหนึ่งที่เคยคุยเป็นการส่วนตัวกับท่านอาจารย์บรรจบก็คือ งานทำแล้วอย่าไปหวังความสำเร็จ ถามว่าถ้าไม่หวังความสำเร็จแล้วจะไปทำทำไม ? งานใหญ่เหมือนกับการสร้างบ้านแปลงเมือง กรุงโรมจะให้สร้างเสร็จภายในวันเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้...ใช่ไหม ? ก็เหลืออยู่อย่างเดียวคือเราจะต้องเป็นคนวางแนวทางเพื่อให้คนอื่นเขาก้าวตาม

ถ้าก้าวแรกซึ่งยากที่สุดไม่มี ก้าวต่อไปก็จะไม่มี ฉะนั้น...คนที่เริ่มก้าวแรกจะได้งานที่ยากที่สุด และจะหวังความสำเร็จนั้นยากมาก แต่ถึงยากที่สุดแต่ก็ต้องทำ

ยังดีใจว่าพวกเราทั้งหมดเริ่มก้าวกันแล้ว พระของเราขยับเมื่อไร เขาก็บอกว่า "ไม่ใช่กิจของสงฆ์" ในเมื่อเขาเอาตรงนี้มาตีก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงต้องอาศัยโยมออกหน้า พระก็ต้องเป็นกองหนุนให้ ลำบากอยู่เหมือนกัน"

เถรี
08-11-2016, 18:41
ถาม : ขอพรในการทำงานเพื่อศาสนาครั้งนี้ด้วยครับ
ตอบ : อาตมภาพในฐานะตัวแทนของพระสงฆ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย ขอตั้งสัตยาธิษฐานอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย อันมีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆะรัตนะเป็นประธาน ดลบันดาลให้พวกท่านทั้งหลายมีกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา ถึงพร้อมในการกระทำงานครั้งนี้เพื่อพระพุทธศาสนา ขอให้สำเร็จสัมฤทธิ์ผลจงทุกประการด้วยเทอญ

เถรี
08-11-2016, 19:08
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนพระที่วัดซึ่งบวชรุ่น ๑๐๐ ปีหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ไปอยู่ปริวาสที่วัดชากสมอ ขากลับเอาลูกอมผงพรายกุมารมาฝาก ๖ ลูก ปรากฏว่าปลอมล้วน ๆ อาตมาบอกว่า "ดูเองไม่เป็น อย่าไปจับสิวะ" บอกให้ไปขอเงินเขาคืน พระท่านบอกว่าราคาไม่แพง ไม่ต้องคืนก็ได้ นั่น...ทำรวยอีก"

เถรี
08-11-2016, 19:31
ถาม : ผงอิทธิเจ คืออะไรคะ ?
ตอบ : ผงวิเศษที่เขาลบกระดาน มีทั้งผงมหาราช ปถมัง อิทธิเจ ตรีนิสิงเห เพียงแต่คุณภาพไปคนละอย่าง

คนโบราณมีความละเอียดของใจมาก ตัวหนังสือทุกตัวจะได้รับความเคารพ ของรุ่นเราอาจจะทันที่ว่า พ่อแม่สอนให้กราบหนังสือก่อนอ่าน เนื่องจากความละเอียดของใจมีมาก ท่านก็เลยเห็นว่า อักขระทุกตัวสามารถจารึกพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้

โดยเฉพาะบรรดาท่านที่เรียนเกี่ยวกับบาลี ไม่ว่าจะเป็นสูตร เป็นสนธิ ในบาลีมูลกัจจายน์ต่าง ๆ ถึงเวลาเขียนตัวหนังสือแล้วลบก็เก็บผงเอาไว้ด้วย เอาไว้ใช้ทำประโยชน์ เพราะถือว่าทุกอย่างที่รู้กระจ่างแจ้งได้ เกิดจากอักขระทั้งหลายเหล่านี้ บาลีว่า อัตโถ อักขระสัญญะโต ตัวหนังสือมีประโยชน์ในการช่วยจำ เมื่อเป็นอย่างนั้นท่านก็เลยเห็นว่า สิ่งที่ทำมาเป็นตัวแทนในการจารึกพระธรรมได้ มีคุณค่า มีความศักดิ์สิทธิ์ ให้ความเคารพ จึงไม่ทิ้ง ไม่ได้ลบแล้วทิ้งเฉย ๆ แต่เก็บเอาไว้สร้างวัตถุมงคลต่อไปเพื่อให้คนไว้บูชา

เถรี
08-11-2016, 20:15
พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนส่วนหนึ่งด้วยความที่เคารพหลวงพ่อวัดท่าซุง กลัวว่าจะไม่มีเวลาในการปฏิบัติเมื่ออยู่กับท่านมากมายนัก ก็ทุ่มเทจนกระทั่งลืมสำนักอื่นหมด กว่าจะรู้ก็ใกล้เกลือกินด่างไปเยอะ อย่างหลวงพ่อกวย อยู่ใกล้วัดท่าซุง อาตมาวิ่งจากวัดท่าซุงไปสรรคบุรี ไปหาหลวงปู่บุดดา อย่างไรก็ต้องเจอหลวงพ่อกวยอยู่แล้ว ไม่แวะก็ไม่ได้ น้อยคนที่จะแวะ แต่อาตมาแวะทีหนึ่ง ขนวัตถุมงคลมา พวกทหารก็ปล้นจนหมดตัว เขาไม่ไปเองกันหรอกนะ รอให้อาตมาไป เพราะเขาได้ฟรีไม่เสียเงิน แต่ถ้าไปเองเขาก็เสียเงิน

หลวงพ่อกวยท่านแบ่งลูกศิษย์เป็นหลายประเภท ลูกศิษย์พระท่านให้อย่างหนึ่ง ลูกศิษย์ประเภทฆราวาสหญิงชายท่านให้อีกอย่างหนึ่ง ไม่เหมือนกัน และก็มีบางประเภทที่ท่านถูกใจ จะเอาอะไรบอก ท่านให้หมด ท่านชอบคนจริง

ความจริงลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุงน่าจะได้ไป เพราะพวกเราส่วนใหญ่ปฏิบัติกันจริงจังมากในยุคนั้น แต่ก็อย่างว่า...ทำเสียจนไม่มีเวลาจะไปไหนกันเลย"

ถาม : ตอนนี้ทางเว็บวัดท่าขนุนกำลังนิยมหลวงพ่อกวยกันค่ะ เขาบอกว่าหลวงพ่อกวยฟีเวอร์ ?
ตอบ : กว่าจะรู้จักก็หมดตลาดไปแล้ว ไปรู้จักตอนท่านมรณภาพแล้วจะมีประโยชน์อะไร เพราะคนอื่นคว้าของดีไปหมดแล้ว แต่หลวงพ่อกวยท่านเคยบอกไว้ ว่าใครกราบไหว้คิดถึงท่าน ท่านก็พร้อมที่จะช่วยเขาเสมอ

เถรี
08-11-2016, 20:18
แต่หลวงพ่อกวยมาสายพระโพธิสัตว์เดิมเต็ม ๆ อะไรที่ท่านทำได้ก็ไม่แปลกหรอก ศึกษาอะไรท่านก็ทำขึ้นหมด ท่านชอบลองนะ ของบางอย่างท่านทำชิ้นเดียว ให้ลูกศิษย์ไปใช้ดูว่าได้ผลจริงหรือเปล่า แล้วก็เลิกไปเลย ทำต่อไม่ได้ ทำต่อเดี๋ยวเสียคน

ยังแปลกใจว่า เมื่อก่อนอาตมาพกพระของท่านอยู่หนึ่งองค์ ทำไมคิดชั่วไม่ได้ ทำชั่วไม่ได้ เป็นเพราะอะไร ? พออ่านอักขระขอมออก ท่านเขียนข้างหลังองค์พระไว้ว่า "สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง" เว้นจากการทำความชั่วทั้งปวง..!

เถรี
08-11-2016, 21:48
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ไปที่ไหนก็เห็นการไว้ทุกข์ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ความจริงพระองค์ท่านไม่ได้ไปไหน งานของพระองค์ท่านยังไม่หมด เพียงแต่เปลี่ยนจากกายหยาบมาทำงานในกายละเอียดเท่านั้น

แต่พระองค์ท่านมีติงมาอย่างหนึ่งว่า ประเภท "ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป" พระองค์ท่านตรัสว่า "นั่นเป็นอธิษฐานบารมี พวกเธอแน่ใจแล้วหรือ ? ถ้าหากไปเกิดลำบากตามกันนี่ว่าฉันไม่ได้นะ" ฉะนั้น...ใครที่ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไปก็ตัวใครตัวมันเถอะ อาตมาถือว่าเตือนแล้ว"

เถรี
08-11-2016, 21:56
"อาตมาพูดถึงเรื่องของในหลวงก่อนพระองค์ท่านสวรรคตสองสามวัน ปรากฏว่าพระที่วัดไม่ได้รู้หนักรู้เบา ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร นำไปเผยแพร่ข้างนอก อาตมาไม่โดนทหารลากไปเข้าคุกก็บุญโขแล้ว เพราะกลายเป็นว่าทำให้ชาวบ้านเขาแตกตื่นกันหมด

พออาตมารู้ว่าเรื่องหลุดออกจากวัดไป เย็นนั้นก็เลยเทศน์กัณฑ์มหาราช ด่าจมดินไปเลย...! "ทำอะไรไม่รู้จักใช้หัวแม่ตีนคิด...! อะไรที่เป็นส่วนรวม อะไรที่เป็นส่วนตัว ต้องแยกแยะให้ออก เมื่อพูดในวัดเรื่องก็ควรที่จะอยู่แค่ในวัด ตักเตือนให้รู้ว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้น ควรที่จะวางตัวเองอย่างไร วางกำลังใจอย่างไร ดันทะลึ่งเอาไปเผยแพร่ออกข้างนอก"

ทหารเขายิ่งมาขอแสดงความนับถืออยู่ อาทิตย์ก่อนเขามาถามว่า วัดท่าขนุนทำอะไรให้ในหลวงบ้าง ? ยังโชคดีที่เขามาถามเจอพระรูปอื่น ถ้าเจออาตมาจะถามกลับว่า "แล้วมึงทำอะไรให้ในหลวงบ้าง ?" ที่วัดสวดพระอภิธรรมถวายในหลวงทุกวัน จัดงานปฏิบัติธรรมถวายพระองค์ท่าน ๗ วัน ส่วนพวกเขาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้เห็นหัวหรอก...! จัดงานแต่ละทีมีคนมากหน่อยก็ตามมาถ่ายรูปรายงานเจ้านาย กลัวว่าอาตมาจะพาชาวบ้านไปล้มรัฐบาลขนาดนั้นเลยหรือ ?"

เถรี
09-11-2016, 09:22
"ในหลวงสิ้นพระชมน์ลงจะทำให้เหตุการณ์บางอย่างเลื่อนออกไป แต่วาระก็คงไม่เกินปีหน้าหรือปีถัดไป เพราะว่าของทุกอย่างที่โดนกดอยู่ก็เหมือนกับน้ำเดือด ไม่มีทางระบายออกก็ต้องระเบิด ถ้าสถานการณ์หนักหน่อยก็ถึงขนาดนองเลือดกัน แต่ถ้าแย่มาก ๆ ก็จะมีภัยธรรมชาติมาห้ามทัพ แต่ภัยธรรมชาติที่มาห้ามทัพ โปรดทราบ...ใครสร้างกรรมไว้เยอะก็จงรับไว้ด้วย ของบางอย่างไม่รู้มากดีกว่า รู้มากถ้าทำใจไม่ได้ก็เครียดตายเลย"

เถรี
09-11-2016, 09:33
พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยที่อาตมาไปสร้างวัดที่พม่า เอารูปในหลวงไปติดไว้ คนพม่าก็ถามว่าพ่อเป็นใหญ่เป็นโตขนาดนี้เลยหรือ ? เขาคิดว่าอาตมาเอารูปพ่อตัวเองไปติดไว้ในศาลา ก็ "พ่อ" เหมือนกันแหละนะ "พ่อหลวง"

ท่านอาจารย์ใหญ่ธัมมะเสนะ รองเจ้าคณะรัฐมอญ ท่านบอกว่า ท่านก็สวดมนต์ไหว้พระ อุทิศส่วนกุศลให้ในหลวงอยู่ทุกวัน ทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นคนพม่า ท่านบอกว่าบุคคลที่สร้างแต่ความดี เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ควรที่จะสรรเสริญแล้วก็ช่วยเหลือกัน

มีนักท่องเที่ยวไทยไปเนปาล ไปเที่ยวภูเขาหิมาลัย แล้วก็ไปกรี๊ดกร๊าดกับความสวยของหิมาลัย เขาบอกว่าคนเนปาลโชคดีมาก ๆ ที่มีหิมาลัย ไกด์เขาบอกว่า "เอาอย่างนี้ไหม คุณยกหิมาลัยไปไว้บ้านคุณแล้วแลกกับในหลวง" เล่นเอานักท่องเที่ยวไทยยืนเซ่อไปเลย ถามว่านึกอย่างไรจะเอาหิมาลัยแลกกับในหลวง ? เขาบอกว่าคนเนปาลจะได้อยู่ดีกินดีกับเขาบ้าง แสดงว่างานที่พระองค์ท่านทำทั่วโลกเขารู้หมด

ขนาดยูเอ็นต้องจัดพิธีไว้อาลัย แล้วดูเหมือนว่าจะกำหนดวันที่ ๕ ธันวาคมเป็นวันกษัตริย์โลก The King’s Day แต่ประเทศเราไม่ค่อยรู้สึกรู้สากันหรอก อาตมาตั้งใจจะทำป้ายประชดติดที่วัดท่าขนุน ติดเมื่อไรดังแน่ ๆ "ข้าพระพุทธเจ้า "เพิ่งจะ" สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้" แหม...สำนึกกันทุกคน แต่ไม่เคยทำอะไรให้ "พ่อ" ชื่นใจเลย พอตายแล้วค่อยมาทำ

ลองติดดูสักป้ายไหม ? แล้วช่วยกันถ่ายไปลงเฟซบุ๊ก รับรองว่า ๕ วัน ๓ วันนี่คนแห่ไปดูกันบาน ถ้าจะเอาดังกว่านั้นก็ "ข้าพระพุทธเจ้า "เพิ่งจะ" สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ แต่ทรงเชื่อเถอะ...ข้าพระพุทธเจ้าจำไม่นานหรอก...เดี๋ยวก็ลืม"

เถรี
09-11-2016, 09:37
"เห็นแต่ละที่ติดป้ายจัดกิจกรรมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแล้ว อาตมาไปนึกถึงพวกที่พ่อตายแม่ตาย ถึงเวลาแล้วจัดอาหารไป แล้วไปวางไว้ แล้วเคาะโลงก๊อก ๆ “พ่อกินข้าว...แม่กินข้าว” เหมือนกันเลย ตอนท่านมีชีวิตอยู่ทำไมไม่เลี้ยงท่านให้ดี ? ตอนตายดันไปเรียกให้กินข้าว..!

สิ่งที่ในหลวงท่านอยากเห็นที่สุดก็คือ คนในชาติทำตามพระราชดำริของพระองค์ท่าน เพราะทุกอย่างที่พระองค์ท่านทำ ก็เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็มักจะฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักพออยู่พอกินตามหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน ก็ในเมื่อพระองค์ท่านทรงพระชนมชีพอยู่ไม่ได้ทำให้เห็น มาทำเอาตอนตายแล้วจะมีประโยชน์อะไร ? ก็พอ ๆ กับที่ไปเคาะโลงเรียกพ่อแม่กินข้าวตอนตายนั่นแหละ แต่ก็ยังดีที่ยังทำบ้าง ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลย"

เถรี
09-11-2016, 09:40
"ที่วัดท่าขนุน อาตมาจัดสวดอภิธรรมตอน ๖ โมงเย็น วัดอื่นเขาจะสวดตอนบ่าย ๓ โมง ๕๒ นาที ตามเวลาที่ประกาศว่าพระองค์ท่านสวรรคต อาตมาเอาตอนเย็นเพราะว่าเป็นเวลาทำวัตร ถึงเวลาสวดพระอภิธรรมเสร็จ ก็อาศัยโยมที่มาร่วมงานทำวัตรต่อไปเลย ได้ทำความดี ๒ รอบ เพราะว่าทางการไม่ได้กำหนดว่าจะเอาเวลาไหน แล้วแต่ทางวัดสะดวก

เพียงแต่มีหลายวัดที่จัดแล้วก็ประกาศหาเจ้าภาพ บรรดาหน่วยราชการเอกชนอะไรต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป แล้วเจ้าภาพตั้งเดือนหนึ่งต้องมีทุกวันไม่ใช่หาง่าย ๆ เพราะว่าหลาย ๆ วัดก็จัดกันทั้งนั้น"

เถรี
09-11-2016, 09:48
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครรู้จักคุณยายตุ้มบ้างไหม? คุณยายตุ้มอายุ ๑๐๒ ปี เป็นคุณยายที่ถือดอกบัวเหี่ยว ๆ รอรับเสด็จ คุณยายไปรอรับเสด็จตั้งแต่เช้า กว่าในหลวงจะไปถึงก็เย็น ดอกบัวเหี่ยวคามือเลย แต่ในหลวงก็ทรงก้มลงไปรับ กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ ใครว่าเข้าเฝ้าในหลวงต้องแต่งตัวดี นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวก็เข้าเฝ้าได้

พระองค์ท่านเสด็จไปถึงบ้านเขาโดยที่ไม่มีใครบอกก่อน ชาวบ้านก็อยู่บ้านตามสบาย นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวก็เข้าเฝ้าทั้งอย่างนั้น ขำที่ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เล่าให้ฟังว่า ในหลวงไปเยี่ยมบ้านชาวเขา แล้วเขาก็เอาเหล้าข้าวโพดมาเลี้ยง เทใส่ถ้วยพลาสติกเก่า ๆ มาถวาย"

เถรี
09-11-2016, 13:31
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาสร้างเมรุวัดท่าขนุน ตั้งงบไว้ ๑๕ ล้านบาท ขอแสดงความยินดีกับตัวเองด้วย ทะลุไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ยังไม่เสร็จ...! หมดไป ๑๗ ล้านกว่า ๆ แล้ว

ช่วงปลายฝนต้นหนาว ได้เคยเตือนไว้ว่า ถ้ามีคนป่วยหรือคนแก่ให้ดูแลดี ๆ เนื่องจากช่วงอากาศเปลี่ยน คนแก่หรือคนป่วยทนไม่ไหวมักจะตายกัน ที่ทองผาภูมิ พระสังฆาธิการ คือ เจ้าอาวาสวัดสะพานลาว มรณภาพ ๑ รูป ญาติโยมก็ตายติด ๆ กัน ๓ ศพ เอาไปเผาวัดท่าขนุนอีกศพหนึ่งแล้ว เมรุนี้ดูท่ากิจการจะรุ่งเรือง...! ยังสร้างไม่ทันจะเสร็จเลย เผาได้เผาดี"

เถรี
09-11-2016, 13:49
"ตอนนี้บูรณะกุฏิใหม่หลวงปู่สายเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังบูรณะกุฏิเก่าต่อ ปรากฏว่าช่างทำไปก็หัวเราะไป ช่างบอกว่าทรงกุฏิประหลาด หน้าจั่วตั้ง ๖ เมตร แต่กุฏิกว้างไม่ถึง ๖ เมตร ความจริงกุฏิหลวงปู่กว้างประมาณ ๒ เมตรครึ่งเอง แต่อาตมาทำคร่อมห้องน้ำที่อยู่นอกกุฏิไปด้วย ก็เลยออกมาหน้าตาประหลาด

ช่างก็บอกว่าจะทำอย่างไรครับ เพราะไม่อยู่ในสูตรไหนเลย ? อาตมาบอกให้พยายามปรับหน่อย ท้ายสุดก็ต้องยกหลังคาขึ้นมาประมาณเมตรกว่าเพื่อให้ได้รูป ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นทรงไทยที่หน้าตาน่าเกลียดที่สุดในโลก

วันก่อนมีโยมอยู่รายหนึ่ง เคยบวชที่วัดท่าขนุนเมื่อ ๒๐ กว่าปีก่อน เข้ามาแล้วเดินถามพระว่า นี่ใช่วัดท่าขนุนหรือเปล่า ? ....(หัวเราะ).... บอกว่าวัดนี้ปีต่อปีคุณก็จำไม่ได้แล้ว นี่คุณไม่ได้มา ๒๐ กว่าปี จะไปจำอะไรได้ เขาบวชกับหลวงปู่สาย หลวงปู่สายมรณภาพไป ๒๔ ปีแล้ว แสดงว่าเขาเป็นลูกศิษย์รุ่นท้าย ๆ เลย"

เถรี
09-11-2016, 15:18
พระอาจารย์กล่าวว่า "แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนาแข่งไม่ได้ พอพระครูกาญจนวิสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดสะพานลาวมรณภาพ เขาก็แต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาส

ท่านที่รักษาการเจ้าอาวาส คือ ท่านวิชัย ปภสฺสโร บวชรุ่นเดียวกับพระครูกิตติกาญจนธรรม เจ้าคณะตำบลปิล็อก ไม่ได้บวชรุ่นเดียวกันเฉย ๆ บวชวันเดียวกัน ชุดเดียวกัน เวลาเดียวกันด้วย แต่คนหนึ่งเป็นเจ้าคณะตำบล เป็นพระครูสัญญาบัตรไปแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งเพิ่งจะขึ้นมารักษาการเจ้าอาวาส

ของบางอย่าง ถ้าไม่ทำไว้หรือทำไว้ช้ากว่าเขา โอกาสได้ก็ยาก อาตมาถึงได้เตือนว่า เรื่องทำบุญให้ทำไว ๆ ทำง่าย ๆ ไว้ ทำง่ายทำไว ถึงเวลาเราก็ได้อะไรง่าย ๆ ได้อะไรไว ๆ"

เถรี
09-11-2016, 15:24
พระอาจารย์กล่าวว่า "ประกาศรับสมัคร ๘๙ รูปถวายในหลวง ที่ต้องการบรรดา "ทิด" เพราะงวดนี้อาตมาไม่มีเวลาอบรม ต้องเอาคนเก่า ก็มีพวกคนใหม่พยายามเสนอตัวเข้ามา บอกว่าไม่ต้อง เขาก็พยายามที่จะเอาให้ได้ จะไปขานนาควันนั้นวันนี้ อาตมาบอกว่าไม่ต้อง ถ้าอนุญาตหนึ่งคนแล้วก็ต้องอนุญาตทั้งหมด"

เถรี
09-11-2016, 15:31
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าไม่ใช่ระยะนี้ที่ราคาเงิน ราคาทอง ขึ้น ๆ ลง ๆ เอาแน่ไม่ได้ และมีแนวโน้มว่าจะขึ้นอีกมาก อาตมาก็ว่าจะซื้อเอง ปกติแล้วไม่ค่อยรบกวนโยมหรอก ปรากฏว่าบางวันเหวี่ยงขึ้นลง +๓๐๐ บาท +๔๐๐ บาท แล้วอาตมาซื้อทีหนึ่ง ๒๐๐-๓๐๐ กิโลกรัม ราคาจะต่างกันมากระดับหลายแสน

อาตมาก็เลยผลักภาระให้โยม ไปจัดการกันเอง ซื้อกันคนละกิโลกรัมก็คงไม่แพงเท่าไร ถ้าซื้อทีเป็นร้อยกิโลกรัม ต่างกันแค่ +๑๐๐ ก็แย่แล้ว"

เถรี
09-11-2016, 15:55
พระอาจารย์กล่าวว่า "วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยในระยะนี้ที่เขาเลิกเล่นกัน หันไปเล่นเครื่องรางแทน เพราะมีการมาเปิดโปงกันว่า บรรดาลูกศิษย์ใกล้ชิดเอาแม่พิมพ์ เอาผงของวัดไปพิมพ์เพิ่มขึ้นมาอีกเยอะเลย โดยเฉพาะสมเด็จแหวกม่าน ก็เลยหันมาเล่นเครื่องราง พวกตะกรุด เชือกคาด แหวนแขน ฯลฯ ก็สงสัยเหมือนกันว่าทำเสร็จแล้วทำไมคณะกรรมการไม่ทำลายแม่พิมพ์ หรือเห็นว่าเป็นรูปพระก็เลยไม่กล้าทำลาย

อาตมาทำลายแม่พิมพ์ด้วยวิธีบรรจุพระองค์ใหญ่ วัตถุมงคลของวัดท่าขนุนทุกรุ่น ลงมาจนถึงก่อนเหรียญพุทธบารมีรุ่น ๒ แม่พิมพ์บรรจุอยู่ในสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอก วัดหนองบ้านเก่า ใครอยากเอาไปปลอมก็ต้องไปทุบสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่แล้วเอาแม่พิมพ์ออกมา...! บรรจุถวายเป็นพุทธบูชาไปเลย หมดเรื่องหมดราวไป

แม่พิมพ์วัตถุมงคลรุ่นหลัง ๆ กำลังหาที่เหมาะสมบรรจุต่อ ตอนนี้ที่ดูอยู่ คือ วัดบ้านห้วยน้ำขาว กำลังสร้างโบสถ์ใหม่ ถึงเวลาก่อฐานพระประธานเมื่อไรก็นิมนต์เลย ตอนนี้แบบที่เหลืออยู่ล่าสุด คือ แบบเหรียญพุทธบารมีรุ่น ๒ สมัยก่อนบรรดาช่างเขาทำลายแม่พิมพ์ด้วยการใช้หินเจียรคาดกลาง แต่แบบนั้นเท่ากับทำลายรูปพระไปด้วย เป็นเรื่องที่ไม่สมควร"

เถรี
09-11-2016, 16:16
พระอาจารย์กล่าวว่า "ประเทศจีนจัดสวดมนต์ถวายในหลวงอย่างใหญ่โต เมื่อวานนี้ประเทศญี่ปุ่นเกทับ ....(หัวเราะ)... จัดใหญ่กว่า แต่ที่น่าชื่นชมที่สุดก็คือ ภูฏาน

ภูฏานทั้งประเทศทุกวัดต้องจัดถวายในหลวง เป็นคำสั่งของกษัตริย์จิกมี ถ้าใครไปดูในพระบรมมหาราชวังของพระองค์ท่าน พระองค์ท่านติดพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงคู่กับสมเด็จพระราชบิดา จะเห็นว่าทันทีที่ในหลวงสวรรคต พระองค์ท่านเสด็จถึงไทยวันนั้นเลย แล้วมีใครรู้บ้างว่า วันที่ ๑๓ ตุลาคม เป็นวันครบรอบราชาภิเษกสมรสของพระองค์ท่าน ? แทนที่จะจัดฉลองกันที่ประเทศตัวเอง กลายเป็นพาพระราชินีและพระโอรสมาเมืองไทยแทน

ส่วนใหญ่บรรดาผู้นำประเทศมักจะส่งลูกไปเรียนทางตะวันตก แต่ภูฏานส่งลูกมาเรียนประเทศไทย..! สมเด็จพระราชาธิบดีองค์ก่อนของภูฏาน ต้องบอกว่ามีสายพระเนตรยาวไกลมาก นอกจากมีพระโอรสที่ขึ้นครองราชย์ถัดมา สามารถรับพระราชภาระแทนได้แล้ว ถ้าหากว่าไม่แน่นอน พระองค์ท่านที่เพิ่งพระชนมายุ ๕๐ เศษ ยังมีโอกาสยืนคอยค้ำบัลลังก์ให้กับกษัตริย์องค์ใหม่ แต่ปรากฏว่ากษัตริย์จิกมีองค์ใหม่ เป็นที่เคารพรักของชาวบ้านพอ ๆ กับสมเด็จพระราชบิดา

อ่านข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อน เพิ่งจะเสด็จขี่ม้าขี่ลาและดำเนินด้วยพระบาทไปยังหมู่บ้านที่อยู่หลังเขา ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทาง ๒-๓ วันกว่าจะออกมาโลกภายนอกได้ พระองค์ท่านบอกว่า ประเทศภูฏานเป็นประเทศเล็ก ประเทศไทยใหญ่กว่าหลายเท่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยยังเสด็จไปได้ทุกตารางนิ้ว แล้วประเทศภูฏานที่เล็กกว่า พระองค์ท่านก็ต้องไปได้เช่นกัน"

เถรี
09-11-2016, 17:23
"ทั่วโลกเห็นความดีของในหลวง ขณะที่คนไทยส่วนหนึ่งหูหนวกตาบอดขนาดไหน จึงมองไม่เห็น ไม่เห็นยังไม่พอ ยังหาเรื่องด่าไปเรื่อย โดยเฉพาะฝรั่งที่ไม่รู้จริง เอาเรื่องทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาตีมูลค่า แล้วว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลก ถ้าเป็นสมบัติของพระองค์ท่านจริง พระองค์ท่านก็รวยที่สุดในโลก

แต่รู้ไหมว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นของที่คณะราษฎร์ยึดไปจากในหลวงรัชกาลที่ ๗ แล้วตั้งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ขึ้นมาเพื่อบริหาร ก็แปลว่าเป็นของทางราชการทั้งหมด ไม่ใช่ของในหลวงอีกแล้ว แต่มีคำว่าส่วนพระมหากษัตริย์ เขาก็เลยเหมาว่าเป็นของพระมหากษัตริย์ ไอ้พวกปัญญานิ่มก็ไม่พยายามที่จะศึกษาที่มาที่ไปกันเลย"

เถรี
09-11-2016, 18:12
"ต้องบอกว่าคนเราดีแต่จับผิดคนอื่น โบราณท่านว่า แม้องค์พระปฏิมายังราคิน คนเดินดินหรือจะพ้นคนนินทา

อาตมาเคยเล่าตัวอย่างลูกอีช่างติ มีคนบอกว่าหลวงพ่อพระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในประเทศไทย เขาก็ไปเดินดูซ้ายดูขวาดูหน้าดูหลัง ดูจนครบแล้วก็บอกว่า "ก็สวยหรอก เสียอย่างเดียว...พูดไม่ได้..!" อุตส่าห์หาที่ติจนได้ ถ้าอาตมาเป็นพระพุทธชินราชจะไม่พูดหรอก แต่จะถีบมันแทน...!

คนประเภทนี้ที่ไหนก็มี เขาเรียกประเภทมือไม่พายแต่เอาตีนราน้ำ นอกจากไม่ช่วยสร้างความเจริญแล้ว ยังคอยถ่วงความเจริญเขามาตลอด"

เถรี
10-11-2016, 14:11
พระอาจารย์กล่าวว่า "พอในหลวงสวรรคตสถานการณ์บ้านเมืองกลายเป็นคลื่นใต้น้ำ ที่กลายเป็นคลื่นใต้น้ำเพราะว่าจากที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันก็สามัคคีกันชั่วคราว แต่หลังจากงานถวายพระเพลิงพระบรมศพเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ต้องดูว่ายังจะสามัคคีกันไหม ?

ช่วงเปลี่ยนผ่านมักจะมีความวุ่นวายเสมอ เพราะบุคคลก็ย่อมมีทั้งได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ฝ่ายที่เสียประโยชน์ก็อาจจะก่อความวุ่นวายขึ้นมา หรือฝ่ายที่ได้ประโยชน์อาจจะสร้างสถานการณ์เสียเองเพื่อใส่ความอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะฉะนั้น...ช่วงเวลาอย่างนี้ต้องใช้สติสัมปชัญญะให้มาก ๆ โดยเฉพาะเราจะเห็นว่า พอสิ้นในหลวงลงทางด้านปักษ์ใต้ของเราก่อการร้ายกันแหลก เพราะฉวยโอกาสต้องการดูสมรรถภาพของทางทหารตำรวจของเรา ว่าในช่วงที่สิ้นผู้นำอย่างในหลวง จะเอาอยู่ไหม ?

เพราะฉะนั้น...ในเรื่องของการข่าว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตามให้ทัน แต่ว่าปักษ์ใต้นั้นตามทันยาก เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเขาเป็นพวกเดียวกันหมด คนต่างถิ่นเข้าไปแม้แต่คนเดียว ก็เป็นอันว่าเขาเห็นอย่างชัดเจน จึงเข้าไปสืบข่าวยาก"

เถรี
10-11-2016, 14:13
"สมัยก่อนที่มี ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) เจ้าหน้าที่บางคนฝังตัวอยู่ ๒๐-๓๐ ปี จนกระทั่งเหมือนอย่างกับเป็นชาวบ้านด้วยกัน เพียงแต่ว่าเวลาไปตลาดไปทำอะไร ก็แอบแวบไปส่งข่าว พอมายุคนายกฯ ทักษิณเห็นว่า ศอ.บต.ใช้งบประมาณเยอะมาก นายกฯ ทักษิณจะคิดถึงแต่เรื่องตัวเลขกำไรขาดทุน ก็เลยสั่งยุบ ศอ.บต.

พอยุบลง บรรดาเจ้าหน้าที่การข่าวที่ฝังตัวในพื้นที่ก็อยู่ไม่ได้ เพราะนอกจากงานหมดแล้ว ก็เงินหมดอีกด้วย จึงต้องถอนตัวออกมา คราวนี้เขาก็รู้หมดว่าใครเป็นใคร จะกลับเข้าไปใหม่ก็ไม่ได้แล้ว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเราจะเห็นว่า พอเหตุการณ์ประทุขึ้นมาที เราเอาไม่อยู่แม้แต่ครั้งเดียว เพราะว่าการข่าวของเราเหมือนกับโดนปิดหูปิดตา ยกเว้นอยู่อย่างเดียวว่า พวกเดียวกันเองเขาเห็นการทำชั่วของพวกเดียวกันไม่ได้ แล้วแอบมาส่งข่าวให้บ้าง

บ้านเราเมืองเราจึงต้องรอหลังงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ว่าจะออกไปเป็นอย่างไร เพราะว่าช่วงนี้ชาวบ้านที่เดือดร้อนก็เริ่มมีการแสดงออกแล้ว คนเราถ้าท้องหิวขึ้นมาก็ไม่กลัวลูกปืนหรอก เพราะอดก็ตาย โดนลูกปืนก็ตาย"

เถรี
10-11-2016, 14:16
พระอาจารย์กล่าวถึงย่ามที่ท่านใช้เป็นประจำว่า "ในย่ามใบนี้เท่ากับมีสมเด็จพระสังฆราชอยู่ด้วย ๓ พระองค์ พระองค์แรกอยู่ที่นี่ ที่ผ้ารับประเคนตราสัญลักษณ์ ญสส. สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้ตอนฉลองพระชนมายุ ๘๔ พรรษา แล้วก็มาองค์ที่ ๒ เป็นเจ้าของย่าม คือหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประทานให้ตอนฉลองอายุ ๘๕ พรรษา แล้วก็พระองค์ที่ ๓ เจ้าของกระเป๋าใส่สตางค์ใบนี้และเข็มกลัด คือ หลวงพ่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพราะฉะนั้น...ถือย่ามไปทีหนึ่งเท่ากับมีสมเด็จพระสังฆราชเสด็จไปด้วยถึง ๓ พระองค์"

เถรี
10-11-2016, 14:16
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของงานบวช ถ้าตั้งใจจะให้อาตมาเป็นพระอุปัชฌาย์ ต้องให้อาตมากำหนดงานเอง เพราะอาตมาไม่ค่อยจะว่าง ไม่ใช่ว่าคุณกำหนดวันที่ตัวเองว่างแล้วไป คงจะได้บวชอยู่หรอก..!"

เถรี
10-11-2016, 14:41
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อเดือนก่อนวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๙ อาตมาเอาวัตถุมงคลต่าง ๆ ไปหลอมเพื่อทำเป็นชนวนในการสร้างวัตถุมงคลรุ่นต่อไป เกิดเรื่องมหัศจรรย์ที่ตนเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนก็คือ มีมีดหมอส่วนหนึ่งหลอมเท่าไรก็ไม่ละลาย ใช้ถ่านหินหมดไป ๓ กระสอบ เร่งไฟด้วยพัดลมหอยโข่ง ๒ ชั่วโมงเต็ม ๆ เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมละลาย

ช่างเขาใช้เหล็กเส้น ๘ หุน เป็นเหล็กข้ออ้อย กระแทกกระทุ้งจนกระทั่งใบมีดหงิกงอม้วนเป็นก้อนลงไป เหล็กเส้นยังละลาย แต่ใบมีดไม่ละลาย ท้ายสุดอาตมาก็เลยต้องเก็บกลับมา

ช่างเขาบอกว่า “อาจารย์หลอมนานขนาดนี้ก็ได้พลังไปเยอะแล้ว” เขาว่าอย่างนั้น ท้ายสุดก็เลยเก็บกลับมา เอาไปให้ช่างตีมีด บอกว่าช่วยตีให้กลับคืนรูปที เดี๋ยวจะเอาออกประมูลทั้งอย่างนั้นแหละ ใครอยากได้ให้เอาไปใส่ด้ามเอาเอง เพราะว่าอาตมาถอดด้ามหมดแล้ว ด้ามก็ป่นเป็นผงไปเพื่อใช้อุดตอนบรรจุแล้ว

ที่จำได้ก็มีของหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล หลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว ถ้าถามว่าสามรูปนี้เป็นใคร ? ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ แล้วที่ยังไม่ละลายอีกก็มีของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว หลวงปู่ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะท่านทั้งหลายอยู่รวมกันเลยทำให้เล่มอื่นไม่ละลายไปด้วยหรืออย่างไร ? และกระทั่งของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ที่เป็นรุ่นลูกศิษย์หลานศิษย์ก็หลอมไม่ละลาย ที่ละลายแน่ ๆ มีอยู่เล่มเดียวคือพระขรรค์ของหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน ท่านยอมรับการขอขมา ยอมให้เอาไปทำวัตถุมงคลอื่น ๆ ได้"

เถรี
10-11-2016, 14:42
"มีดหมอโบราณหน้าตาดูไม่ดี แต่คุณภาพสุดยอด แบบที่เสด็จในกรมหลวงชุมพรได้รับจากหลวงปู่ยิ้มไป แล้วก็เห็นว่าของพระองค์ท่านเองมีมีดมีพระขรรค์สวย ๆ เยอะแยะ มีดหน้าตาชาวบ้านแบบนี้ดูไม่ค่อยจะดี พระองค์ท่านก็เลยโยนน้ำไป ปรากฏว่ามีดหมอลอยทวนน้ำกลับไปวัดหนองบัว..!

แล้วไม่ใช่ว่าตัวมีดไม่ละลายอย่างเดียวนะ แม้กระทั่งเหล็กรัดปลอกก็ไม่ละลาย อะไรจะปานนั้น ถามบรรดาช่างตีมีดว่าเป็นไปได้ไหมที่ความร้อนยังไม่ถึง ๑,๕๐๐ องศา ? ช่างเขาบอกว่าเป็นไปไม่ได้ครับ ขนาดใช้ถ่านธรรมดา ถ้าเร่งด้วยพัดลมหอยโข่งแบบนี้ความร้อนต้องเกินอยู่แล้ว แล้วขนาดเหล็กเส้น ๘ หุนยังละลาย มีดหมอบาง ๆ กลับไม่ยอมละลาย

ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นมีดกะไหล่ เข้าใจคำว่ากะไหล่ไหม ? เพราะว่าอย่างอื่นที่ละลายเคลือบหน้ามาด้วย บรรดาตะกรุดของหลวงปู่หลวงพ่อสารพัดสารเพที่หลอมไปด้วย เคลือบใบมีดมาเสร็จสรรพ ตกลงว่าท่านเอากำไร"

เถรี
11-11-2016, 08:39
พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครมีธนบัตรในหลวง เจอเลขสวย ๆ ให้เก็บไว้บ้างนะ ถึงเวลาเขายกเลิกจะได้มีเป็นที่ระลึก แต่ก็อย่าเก็บมาก เก็บมากเดี๋ยวจะผอม...!"

เถรี
11-11-2016, 09:04
ถาม : ทำความสะอาดวัดมีอานิสงส์อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าเอาอานิสงส์ทำความสะอาดอย่างเดียวก็ฉลาดน้อยไปหน่อย ทำความสะอาดเสร็จให้ไปอธิษฐานขอกับพระประธาน ขอให้เราหมดกิเลสได้ง่าย ๆ เหมือนกับที่ทำความสะอาดวัด

ถาม : แล้วพระพุทธรูปทำความสะอาดอย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่ได้ปิดทองก็เช็ดล้างได้ตามปกติ ถ้าปิดทองก็อย่าไปแตะ ถ้าจำเป็นก็ใช้เครื่องเป่าลมเป่าเอา

ถาม : ใช้ซันไลต์ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าปิดทองใช้ซันไลต์ก็บรรลัยหมด..!

เถรี
11-11-2016, 15:42
พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่รู้หรือว่าตอนนี้ที่บ้านเมืองเราสงบเพราะว่าในหลวงสิ้น ? เดี๋ยวรอดูถวายพระเพลิงเสร็จสิ ทุกวันนี้ที่ลุ้นอยู่คืออย่าให้ระเบิดก่อนถวายพระเพลิง..!"

เถรี
11-11-2016, 15:56
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อกวยเป็นพระที่รักลูกศิษย์อย่างเหลือเชื่อ ถ้าเพื่อลูกศิษย์แล้วท่านทำให้ทุกอย่างจริง ๆ อาตมายังทึ่งเลยว่าพระที่รักลูกศิษย์ขนาดนี้ยังมีอยู่ พวกเราไม่ได้มาสายเดียวกับหลวงพ่อกวย

หลวงพ่อกวยท่านพระโพธิสัตว์แท้ ท่านช่วยเขาทุกเรื่อง ส่วนพวกเราถ้าเกินกำลังก็ปล่อยวาง แต่ของท่านไม่ใช่ ท่านช่วยทุกเรื่อง ต้องบอกว่าท่านเป็นหนึ่งในพระอาจารย์ในดวงใจของอาตมา เรื่องของสายธรรมครูบาอาจารย์บังเอิญทับรอยกันพอดี ถ้าได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ลูกหาของท่านก็ถือว่าโชคดี ต้องทำบุญร่วมกันมากี่ชาติก็ไม่รู้"

เถรี
11-11-2016, 15:57
พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกเรามาทำบุญแต่ส่วนใหญ่แล้วตั้งกำลังใจผิด มาถวายสังฆทานก็จริง แต่กำลังใจมุ่งมาว่าถวายพระอาจารย์เล็ก ถวายหลวงพ่อเล็ก

ถวายสังฆทานเราต้องนึกถึงหมู่สงฆ์ที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน ไม่ใช่นึกถึงพระอาจารย์เล็กที่นั่งอยู่ตรงนี้ อาตมาเป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น เป็นแค่เศษเสี้ยวเล็ก ๆ เท่านั้น

ฉะนั้น...ถ้าเรานึกผิด ยึดผิด เกาะผิด บางทีก็ได้บุญน้อยกว่าที่คิดนะ ยังโชคดีว่าอาตมายังไม่สิ้นสติ ไม่ว่าโยมจะนึกผิดหรือนึกถูก อาตมาก็เอาลงสังฆทานไว้เสมอ ถ้าเป็นที่อื่นเดี๋ยวก็บุญหายเท่านั้น"

เถรี
11-11-2016, 16:02
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จริง ๆ แล้วท่านเป็นพระอาจารย์รุ่นหลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ แต่คนกลับรู้จักท่านน้อย รู้ไหมว่าเหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เป็นเหรียญนอกเบญจภาคีที่มีโอกาสราคาขึ้นถึงหลักล้าน เขาแบ่งเป็นพระอาจารย์รุ่นหลังปี ๒๕๐๐ ความจริงท่านบวชก่อน เกิดก่อน แต่มาปรากฏชื่อเสียงช่วงหลังปี ๒๕๐๐

อย่างหลวงพ่อแดงท่านสร้างเหรียญรุ่นแรกปี ๒๕๐๓ ต้องไปถามพวกทหารแถวเพชรบุรีถึงจะรู้ว่าหลวงพ่อแดงเป็นอย่างไร แถวเพชรบุรี ถ้าเอ่ยก็ต้องหลวงพ่อโสก วัดปากคลอง หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เมืองเพชรเกจิอาจารย์ดัง ๆ เยอะมาก พอ ๆ กับนครปฐม อย่างในยุคหลัง ๆ ยังมีหลวงพ่อตัด วัดชายนา หลวงพ่อแล วัดพระทรง

หลวงปู่ฉุย วัดคงคาราม นั่นเป็นรุ่นอาจารย์ของหลวงพ่อแดงอีกที ยังมีหลวงพ่อจิตร วัดสัตตนาถปริวัตร พระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า ๆ ถ้าขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ส่วนใหญ่แล้วความสามารถเกินตัวทั้งนั้น ไม่ใช่แค่พอตัวนะ เกินตัวทั้งนั้น"

เถรี
11-11-2016, 17:21
พระอาจารย์กล่าวว่า "กระทู้ใหม่ที่จะลงมีมีดหมอของหลวงพ่อเดิมอยู่เล่มหนึ่ง ซึ่งความจริงน่าจะต้องเก็บไว้เอง ช่างตีลายเศียรพระฤๅษีชัดและสวยมากเลย ประเภทนั้นน่าจะเป็นมีดครู

แต่เราต้องเข้าใจคำว่า "ฤๅษี" ไม่ใช่ฤๅษีแบบลิเกนะ ฤๅษีก็คือฆราวาสที่นุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรม ถ้าไม่มีเวลาไปตัดผมก็เกล้ามวย ก็แค่นั้นเอง แต่คนไปคิดว่าฤๅษีเป็นประเภทนุ่งห่มหนังเสือ ไปห่มแบบนั้นได้ที่ไหนกันเล่า ? ยิ่งคนโบราณเขาถืออยู่ว่าเป็นการเบียดเบียนสัตว์

ฤๅษีที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ที่ปรากฏ ก็คือ ฤๅษีสุกกทันต์กับฤๅษีวาสุเทพ ที่ช่วยกันสร้างเมืองเชียงใหม่กับเมืองละโว้ พระฤๅษีที่ช่วยสร้างพระผงสุพรรณ พระฤๅษีที่ช่วยกันสร้างพระท่ากระดาน โดยเฉพาะฤๅษีพิมพิลาไลย ฤๅษีนารอท ฤๅษีตาวัว ฤๅษีตาไฟ ท่านทั้งหลายเหล่านี้มีตัวตนจริง ๆ หลายท่านเป็นพระอรหันต์ หลายท่านเป็นพระพรหมอนาคามี เพราะสมัยก่อนเขาปฏิบัติกันจริงจัง พอมีความสามารถก็ได้รับการอัญเชิญมาสร้างวัตถุมงคลบ้าง ช่วยสร้างเมืองบ้าง ดูทำเลตั้งเมืองบ้าง"

เถรี
11-11-2016, 17:24
ถาม : ฤๅษีโบโบอ่องล่ะครับ ?
ตอบ : นั่นเป็นฤๅษีทางพม่า ฤๅษีทางพม่าที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ฤๅษีโบโบอ่อง ฤๅษีโบมินข่อ ฤๅษีอูคันตี ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็แบบเดียวกัน นุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมอยู่ โดยเฉพาะเขาโป๊บป้าสมัยก่อนไม่มีทางขึ้นนะ ไม่มีทางขึ้นลงแต่ท่านขึ้นไปปฏิบัติธรรมกันอยู่ข้างบน เป็นยอดภูเขาไฟที่อยู่ ๆ ก็โผล่ขึ้นมากลางทุ่งเฉย ๆ แล้วเขาขึ้นลงอย่างไร ? เรื่องนี้ต้องคิดเหมือนกัน

ฉะนั้น...ไม่แปลกหรอกว่าทำไมท่านจึงกลายเป็นที่เคารพนับถือของคนจำนวนมาก ฤๅษีทั้งหลายที่เอ่ยนามมา บางท่านก็เป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ บางท่านก็กลายเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว บางท่านก็ยังเป็นพระพรหมอนาคามีอยู่

เวลาระลึกถึงท่าน ใช้คำรวมก็ได้ ท่านเคยบอกว่า นึกถึงบรมครูฤๅษีทั้ง ๑๐๘ ตน ถ้าเรานึกถึงท่าน นึกถึงถูกองค์ ท่านก็สงเคราะห์เราได้มากกว่า ถ้าเหวี่ยงแหมั่วไปหมดก็ไม่รู้ว่าจะสงเคราะห์อย่างไร สำคัญตรงที่ต้องรู้จักท่านด้วย

แบบเดียวกับหลวงพ่อวัดท่าซุง รู้จักสมเด็จองค์ปฐม หลังจากที่ท่านเปิดออกมา แต่ละคนก็แห่สร้างตามกันเต็มประเทศไทย เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมหานิกายหรือธรรมยุตสร้างสมเด็จองค์ปฐมกันแหลกราญเลย ก็ดีอยู่อย่างว่าเป็นการเผยแผ่เกียรติคุณของพระองค์ท่าน แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือ ทำอะไรมักง่าย ไม่เคารพ ไม่รู้จัก ไม่มีความคุ้นเคยเลย แต่ไปเรียกใช้ท่าน

เถรี
11-11-2016, 17:28
มีอยู่วัดหนึ่งทางด้านอำเภอหนองปรือ สร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ปรากฏว่าหล่อ ๓-๔ เที่ยวก็ไม่สำเร็จ ลักษณะว่าไม่รู้จักท่านจริง เห็นท่านมีชื่อเสียง ถ้าสร้างไว้จะดึงคนเข้าวัดได้ ช่างคนเดียวกันกับที่หล่อพระประธานวัดท่าขนุน เครื่องมือก็ชุดเดียวกัน ทำที่วัดท่าขนุนไม่มีปัญหา ฤกษ์เดียวกันด้วย หล่อของวัดท่าขนุนเสร็จก็ต้องวิ่งไปหล่อให้เขา วันเดียวกัน แต่ปรากฏว่าไม่สำเร็จ เครื่องมือเครื่องไม้พังไม่พอ แบบก็พังด้วย หล่อออกมาพรุนเป็นรังผึ้งเลย ทำเอาช่างประสาทจะกิน

ถ้าเป็นงานของวัดท่าขนุนช่างชุดนั้นมอบกายถวายชีวิตให้เลย ไม่เคยเกี่ยง ทำมากี่ครั้งไม่เคยมีปัญหา แต่พองานวัดอื่นทำแล้วทำไมมีปัญหา ต้องบอกว่าปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเขาไม่รู้จักพระองค์ท่าน ในเมื่อไม่รู้จักพระองค์ท่านแล้วไปสร้างส่งเดช ไม่รู้ด้วยว่าได้ขออนุญาตถูกต้องหรือเปล่า ?

เถรี
11-11-2016, 19:35
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงที่อาตมาเข้าพระกรรมฐาน ๓ วัน ได้เอาพระขรรค์หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือเข้าไปด้วย เพราะว่าเวลาเข้ากรรมฐาน บางทีก็มีผู้หวังดีปรารถนาดี "ส่งของขวัญของฝาก" มาให้อยู่เรื่อย อาตมาขี้เกียจรบราฆ่าฟันกับใคร จึงอาราธนาพระขรรค์หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ไว้ที่หัวเตียง ปรากฏว่าหลวงพ่อแจ่มท่านมา เนื่องจากอาตมาบ่น ๆ ว่า "ศึกษาวิชาสายของท่านไม่ทัน"

คนรุ่นหลังมักจะคิดว่าหลวงพ่อแจ่มใช้กรดกัดเหล็กจนเป็นยันต์นูนขึ้นมา แต่ความจริงแล้วท่านเขียนยันต์แล้วแช่น้ำมนต์ ยันต์จะนูนขึ้นมาเอง ตัวยันต์บาง ๆ ขนาดนั้นจะไปเอากรดกัดอีท่าไหน

หลวงพ่อแจ่มท่านบอกว่าให้ไปหาลูกศิษย์ของท่านรูปหนึ่งที่ชุมพร ท่านบอกชื่อ บอกที่อยู่ไว้ ท่านว่าอายุมากแล้วต้องรีบไปเหมือนกัน ถ้าหากว่าไปครอบครูแล้วก็ถือว่าเป็นลูกศิษย์สายของท่าน เรียนวิชาของท่านได้

แต่พระขรรค์เล่มที่ได้มาต้องบอกว่าเสียดายแทนเจ้าของ หลวงพ่อแจ่มท่านเขียนเอาไว้ชัด ๆ เลยว่า "ประจำตระกูลแซ่ตั้ง" ไม่รู้ว่าลูกหลานไม่รู้จักของดีหรืออย่างไร เอามาขายเสีย ท่านทำให้ชนิดสุดจิตสุดใจจริง ๆ ลงวิชาความรู้ไว้ครบถ้วนยังไม่พอ ด้ามแกะยังเป็นท้าวเวสสุวรรณที่สวยมาก ๆ

เมื่อไรอาตมามีโอกาสลงไปชุมพร คงไปต้องแบกบายศรีไปด้วย เพื่อไปขึ้นครู"

เถรี
11-11-2016, 19:39
"หลวงตาวัชรชัยเคยชวนไปหาหลวงลุงวงศ์ หลวงตาบอกว่า "สมาธิแกดี ภาวนาคาถาไม่นานก็ได้ผลแล้ว" เลยชวนไปเรียน แต่ช่วงนั้นอาตมาไม่กล้าทิ้งหลวงพ่อวัดท่าซุง

หลวงตาวัชรชัยแต่เดิมเป็นคนอยุธยา ท่านคุ้นเคยกับหลวงลุงวงศ์ หลวงลุงวงศ์เป็นศิษย์หลวงปู่แจ่ม หลวงลุงวงศ์เรียนวิธีจารอักขระลงเนื้อเหล็กแล้วแช่น้ำมนต์ให้นูนขึ้นมา บอกให้รีบไปเรียน ปรากฏว่าถ่วงกันไปดึงกันมา ท้ายสุดหลวงลุงมรณภาพไปก่อน

ถ้าเป็นอาตมา ของที่ครูบาอาจารย์ให้ไว้เป็นของประจำตระกูล คงไม่กล้าขยับไปไหน เหมือนกับมีดหมอหลวงพ่อกวยที่ท่านทำให้เฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นพระ อาตมาก็ไม่กล้าขยับไปไหน ปูผ้าขาววางบนแท่นไว้บนโต๊ะหมู่เลย แต่ว่าพอคนรุ่นหลัง ๆ ไปแล้ว ข้าวของหลุดมาเพราะว่าลูกหลานไม่รู้จักของ ไม่เห็นคุณค่า ไม่มีประสบการณ์เหมือนกับรุ่นรุ่นปู่รุ่นพ่อ เลยเอาไปขายเอาเงินใช้ดีกว่า"

เถรี
11-11-2016, 19:52
ถาม : เวลาเข้าป่า นอนกลางดินกินกลางทราย ระหว่างอิติปิ โสฯ ๘ ทิศ กับขีดแม่พระธรณีด้วยมีดหมอ อย่างไหนจะดีกว่ากันคะ ?
ตอบ : อาตมาไม่ค่อยขีดด้วยมีดหมอ กลัวลืม..ถ้าลืมตรงนั้นก็ไม่ต้องมีใครเข้ามาอีก ส่วนใหญ่จะใช้อิติปิ โสฯ ๘ ทิศ เสกก้อนดินโยนไป ๘ ทิศ อธิษฐานว่าพอสว่างก็ให้หมดอานุภาพ ไม่อย่างนั้นเขตนั้นจะไม่มีใครเข้าได้ ถ้าใช้มีดหมอไปขีดเอาไว้ ถึงเวลาเจ้าของที่เขาจะลำบาก เกิดเราลืมลบขึ้นมานี่ยุ่งเลย

ถาม : ถ้าฝากแม่พระธรณี ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วอาศัยนอนอยู่บนอกแม่ก็สบายแล้ว นึกถึงท่านให้คุ้มครองก็หมดเรื่อง เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่ที่ไปด้วยกันท่านชอบนอนเปล อาตมาไม่นิยม ชอบเลื้อยกับพื้นมากกว่า มั่นใจกว่ากันเยอะ

เถรี
11-11-2016, 19:59
ถาม : เรื่องศีลข้อสอง เวลาเก็บผลไม้ในป่า ใบไม้ใบหญ้า จะผิดไหมคะ ?
ตอบ : คนทั่วไปไม่เป็นไร เป็นพระอย่าไปเก็บ พระโพธิสัตว์ยิ่งไม่สมควรเก็บ

เถรี
12-11-2016, 17:37
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=25416&d=1477575959


มีโยมมารับแม่นางกวัก หลวงปู่อิ่ม วัดหัวเขา พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "หายากมาก ส่วนใหญ่เป็นแบบไม้ป้ายปูน ประเภทนางกวักลอยองค์มาเดี่ยว ๆ แบบนี้ไม่ค่อยมีหรอก"

เถรี
12-11-2016, 17:41
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครไปสักการะพระบรมศพมาหรือยัง ? ทางทองผาภูมิคุณยายล้วน หวนประไพ บอกว่า “อาจารย์... อิฉันไปตั้งแต่ตี ๒ ยังไม่ได้คิวเลย” ออกจากทองผาภูมิไปตี ๒ ยายจะไปได้คิวอะไร คนอื่นเขานอนที่สนามหลวงกันเลย

ออกจากทองผาภูมิตี ๒ ต่อให้รถไม่ติดเลย มาถึงก็น่าจะถึงประมาณตี ๕ หรือหกโมงเช้า คนอื่นเขานอนรอกันอยู่ มีทางเดียวก็คือต้องตื๊อต่อไปเลย รอคิววันต่อไป...ห้ามกลับ"

เถรี
12-11-2016, 17:46
ถาม : เป็นหูดใหญ่ค่ะ ?
ตอบ : ถ้าหูดขนาดใหญ่ก็ไม่ทันแล้ว ถ้าหูดเล็ก ๆ พวกชุมเห็ดช่วยได้ เอาใบชุมเห็ดเพสลาด (ครึ่งอ่อนครึ่งแก่)มาใบหนึ่ง ที่มีใบเล็ก ๆ เป็นแถวประมาณ ๒ นิ้วมือ เอามาย่างไฟเสียหน่อยแล้วกินเข้าไป จะถ่ายอยู่ประมาณวันหนึ่ง แล้วหูดจะยุบหมด แปลกดีเหมือนกัน

ถาม : ต้มหรือคะ ?
ตอบ : เอาไปย่าง ไม่ใช่ต้ม ย่างเกรียม ๆ แล้วก็เคี้ยวกินเข้าไป จะถ่ายอยู่ประมาณวันหนึ่ง ใครเป็นหูดแล้วสู้ไม่ไหวก็ใช้ใบชุมเห็ด แต่ก็แปลก...ถ่ายเสียจนหูดยุบหมด ที่เหลืออยู่ก็ฝ่อหล่นไปเฉย ๆ ไม่รู้ว่าแพ้อะไรกัน

เถรี
12-11-2016, 18:04
ถาม : ญาติเขาป่วย เจ็บมาก ใส่เครื่องหายใจ ?
ตอบ : ก็ให้เขาพุทโธไป เพียงแต่บอกว่าให้อยู่กับลมหายใจจริง ๆ จัง ๆ ถ้าอยู่กับลมหายใจได้ ก็จะไม่เจ็บ อย่างลุงเดฟเป็นฝรั่งด้วย เป็นกรรมการวัดของอาตมา แกเป็นมะเร็ง ลุงเดฟก็ไม่เจ็บไม่ปวดอะไร เพราะภาวนาเห็นภาพพระแล้วสบายใจ ลืมเจ็บหมด ลูกหลานเห็นเงียบ ๆ ก็ไปเขย่าเรียก พอหลุดจากสมาธิมาแกก็โวยว่าแกเจ็บ แล้วก็ภาวนาใหม่ ลูกหลานเห็นเงียบเมื่อไรก็ไปเขย่าเรียกอีก คนไม่รู้เรื่องนี่สมควรตายจริง ๆ...! สรุปแล้วลุงเดฟเป็นฝรั่ง ตายแล้วไปเป็นพรหม เราเป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธ ตายแล้วจะไปเป็นอะไร ?

ถาม : ต้องถึงฌานสี่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่จำเป็น แค่ปฐมฌานก็พอ จิตกับประสาทแยกจากกันก็ไม่รับรู้อาการร่างกายแล้ว บอกเขาว่าภาวนาก็ได้ แต่ให้ภาวนาอยู่กับลมหายใจจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่ปากสักแต่ว่าพุทโธ ๆ ไป

ฝรั่งเขาได้รับการอบรมมาในลักษณะว่า ทำอะไรแล้วทำจริงจัง เพราะฉะนั้น...เวลาทำอะไรแล้วเขาก็ทำได้ผลง่ายกว่าเรา พวกเราประเภทสบายจนเกินเหตุ เหมือนกับหนูอยู่กับถังข้าวสาร ในเมื่ออยู่บนถังข้าวสารก็ไม่มีอารมณ์ที่จะกินสักที รอแมวมางับหัวเมื่อไรแล้วจะรู้สึก..!

เถรี
12-11-2016, 18:20
ถาม : ถ้าพื้นที่ธรณีสงฆ์ ทางวัดเอาไปทำเป็นที่พักอาศัยได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเราเช่าที่ก็ปลูกได้ เพียงแต่ว่าไม่มีทางซื้อขาดได้ เพราะถ้าเป็นชื่อวัด จะซื้อได้ต่อเมื่อออกเป็นพระราชบัญญัติเท่านั้น แปลว่าต้องเข้าคณะรัฐมนตรี สภาบนสภาล่างอนุมัติเสร็จสรรพเท่านั้น

ถาม : แต่เรามีสิทธิ์เช่าได้ ?
ตอบ : มีสิทธิ์เช่าได้ ต่อให้ไปถือครองโดยปรปักษ์โดยที่พระไม่คัดค้านเลย กี่ ๑๐๐ ปีก็ไม่สามารถเอาเป็นของเราได้ เพราะว่ากฎหมายเขาบังคับไว้ เขากลัวกรรมการวัดเอาที่วัดไปขายกระมัง ? ก็เลยออกกฎหมายกันไว้เสียขนาดนั้น

เถรี
12-11-2016, 18:25
ถาม : บ้านหลังใหม่อยู่แถวไหนคะ ?
ตอบ : อยู่ข้างสถานีรถไฟฟ้าบางรักใหญ่สายสีม่วง ลงจากสถานีเดินเข้าบ้านเลย เพราะบ้านอยู่ข้างถนนใหญ่ อยู่ที่โน่นจะอบอุ่นกว่านี้เยอะ เพราะว่าบ้านทั้งหลังใส่ลงในห้องนี้แล้วยังเหลือที่ว่างของห้องนี้อีกตั้งเยอะ

ถาม : แล้วท่านย้ายไปทำไมคะ ?
ตอบ : รู้สึกว่าพวกเราห่างเหินกัน อาตมาชอบนั่งคุยกันใกล้ ๆ มากกว่า...!

ถาม : ท่านจะไปลองรถไฟฟ้าสายใหม่หรือคะ ?
ตอบ : เห็นกิจการเขาไม่ดีก็เลยย้ายไปช่วยกิจการรถไฟฟ้าหน่อย เพราะสายนั้นขาดทุน...!

ถาม : ท่านย้ายไปแล้วจะย้ายอีกไหมคะ ?
ตอบ : ก็อาจจะย้ายไปเรื่อย ๆ เพราะว่าถ้าหากว่าที่ตรงนั้นหมดสัญญา ก็ย้ายใหม่ ย้ายบ่อย ๆ จะได้ฝึกความไม่ยึดติด

เถรี
17-11-2016, 14:38
ถาม : หมอเขาตรวจเจอมะเร็งครับ ?
ตอบ : จะไปกลัวอะไรกับมะเร็ง ถ้าเราไม่กลัว มะเร็งก็จะกลัวเราเอง

ถาม : จะฝากไปอยู่ทำกรรมฐานที่วัดท่าขนุน ?
ตอบ : ถ้าไปอยู่แล้วทำกิจกรรมร่วมกับเขาไม่ได้ เดี๋ยวก็โดนไล่ออกมา อยู่บ้านดีกว่า ที่วัดมีระเบียบว่า ถ้าไม่ได้นอนโรงพยาบาล กิจกรรมทุกอย่างต้องทำร่วมกัน

อาตมาเจอมาหลายรายแล้ว ถึงเวลาเราไม่กลัวมะเร็ง ก็หายเอาดื้อ ๆ แม้กระทั่งตัวอาตมาเอง โดนกินจนเข้ากระดูก จะเดินไม่ได้อยู่แล้ว พอไม่สนใจทำงานไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆ ไปตรวจใหม่ก็หายไปเฉย ๆ ก็แสดงว่าแค่ขู่เราเท่านั้น พอเห็นเราไม่กลัวเข้ามะเร็งก็จากไปเอง

นี่แสดงว่าพวกเราเห็นอาตมาแข็งแรงดี เลยไม่รู้ว่าเคยเป็นมะเร็งมาแล้ว เป็นแล้วก็ไม่ได้บอกใคร แต่ช่วงนั้นโดนกินกระดูก กินเส้นประสาทจนจะเดินไม่ได้ แต่ยังพอขยับได้ก็ทำงานไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ใส่ใจหรอก ทำไปทำมาเดือนกว่าก็หายไปเฉย ๆ ทุกวันนี้หมอก็ยังสงสัยว่าหายได้อย่างไร ?

เถรี
17-11-2016, 14:52
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ราคาเงินราคาทองกระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ หาความแน่นอนไม่ได้ อาตมาก็เลยผลักภาระให้กับญาติโยมแทน ไปหามาร่วมหล่อพระคนละ ๑ กิโลกรัม

มีครอบครัวแสงอุทัย เคยถวายมาหลายกิโลกรัมแล้ว วันเกิดพ่อ วันเกิดแม่ วันเกิดลูก ถวายมาครั้งละ ๑ กิโลกรัม ครอบครัวนั้นไม่ต้องถวายก็บุญเหลือเฟือแล้ว

ตอนหล่อสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุงครั้งแรก อาตมาถวายทองคำไป ๗ บาท แล้วก็มีสร้อยมรกตล้อมเพชรอีก ๑ เส้น ว่าจะเก็บไปหมั้นสาวก็หมดโอกาสแล้ว สละปัจจัยถวายบูชาพระไปเลย ต้องบอกว่าพออายุ ๓๐ ไปแล้วเรื่องคิดจะมีครอบครัวก็ชักจะหาย ๆ ไป มาตอนนี้ดีใจมากเลยที่มีลูกเยอะแยะไปหมด ต้องบอกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ประหลาด ไม่มีเมียก็มีลูกได้"

เถรี
17-11-2016, 14:55
ถาม : เวลาลูกหลานหลวงพ่อทะเลาะกัน หลวงพี่ก็ไปต่อว่าหลวงพ่อว่ามีลูกเยอะ ?
ตอบ : อันนั้นว่ากันไม่ได้หรอก ตอนโมโหอาตมาก็โทษเปะปะไปเรื่อย ความจริงอยู่ที่พวกเราสันดานเสียกันเอง ทำไมถึงรักกันไม่ได้ ต้องมีการชิงดีชิงเด่นกันด้วย ?

เถรี
17-11-2016, 16:56
ถาม : มีดหมอหลวงพ่อกวยตีเองหรือครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นรุ่นเก่าท่านทำกันเองในวัด ถ้าเป็นรุ่นหลัง ๆ สั่งทำจากพยุหะคีรี ฉะนั้นรุ่น...แรก ๆ มีเท่าไรก็เก็บไว้เถอะ เพราะว่าท่านสะสมโลหะอาถรรพ์ พอได้สมควรแล้วท่านก็หลอมกันเองตีกันเอง

คนรู้จักแต่ของรุ่นหลัง ๆ เพราะว่าท่านดังมากแล้ว ของรุ่นแรก ๆ ไม่ค่อยรู้จักกัน แต่ก็ดี...เพราะของพวกนี้จะไม่แพงมาก

เถรี
17-11-2016, 18:06
พระอาจารย์กล่าวถึงพระแก้วใสเก้านิ้วทรงเครื่องว่า "งานเป่ายันต์ครั้งที่แล้วเอาเข้าพิธีไป ๙๔ องค์ อึดใจเดียวก็หมดเกลี้ยง เพราะปกติพระปิดทองคำแท้จะแพง แต่ของเราให้บูชาองค์ละ ๒,๕๐๐ บาท พักเดียวก็หมดเกลี้ยง ตอนขนเข้าพิธีว่ากันเป็นคันรถ ๙๔ องค์ ตอนบูชาโยมยังได้ไม่ถึงครึ่งแถวเลย...หมดแล้ว"

เถรี
17-11-2016, 19:21
พระอาจารย์เล่าว่า "เทอมนี้เด็ก ๆ ที่วัดก็ชวดตามเคย บอกว่าถ้าหากว่าสอบได้เกรด ๔.๐๐ เทอมไหน จะให้เงินไปดัดฟัน ปรากฏว่าไม่ได้กันสักทีหนึ่ง ลดลงมาเหลือ ๓.๕๐ ก็ยังไม่ได้อีก เทอมนี้ก็ร่อแร่ได้แค่เกรด ๒ กว่า ๆ ได้ ๒.๘๕ เขาบอกว่าว่า “หลวงพ่อ...หนูหมดอยากที่จะดัดฟันแล้ว”

เวลาเห็นคนอื่นเขาเรียนกันยากลำบาก อาตมาก็สงสัยว่ายากตรงไหนวะ ? ยากตรงไม่เข้าใจใช่ไหม ? ถ้าเข้าใจก็ไม่ยาก แต่ว่าส่วนใหญ่ทำความเข้าใจในวิชาการจะยาก เพราะเขาไม่มีหลัก หลักการก็คือเรียนวิชาอะไร ให้เราศึกษา Scope ก็คือ สังเขปรายวิชากว้าง ๆ หลังจากนั้นเวลาอาจารย์อธิบายวันนี้ว่าด้วยเรื่องอะไร ? หัวข้อหลักคืออะไร ? หัวข้อรองคืออะไร ? ฟังให้เข้าใจว่าหัวข้อรองท่านอธิบายมาอย่างไร ? ถ้าเราฟังแล้วเข้าใจ ก็เท่ากับได้หมดนั่นแหละ ถ้าไม่เข้าใจก็ถาม

อาตมาเรียนอยู่ชั้น ป. ๗ ถามจนคุณครูร้องไห้ คุณครูผู้หญิง ชื่อ ครูเฉลิม โพธิ์ทอง ผู้หญิงสมัยก่อนนี่เขาไม่กลัวนะว่าชื่อเฉลิมจะเป็นชื่อผู้ชาย เพื่อนเรียนชั้นเดียวกันกับอาตมา เป็นผู้หญิงสวยเช้งวับชื่อสมศักดิ์..! แม่อยากได้ลูกชาย พ่อก็อยากได้ลูกชาย ตั้งชื่อไว้ว่าสมศักดิ์ สมัยอาตมาก็ไม่ได้มีอัลตราซาวด์จะได้ตรวจดูได้ว่าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ออกมาก็ตั้งชื่อลูกประชดเลย เด็กหญิงสมศักดิ์ ก็ไม่เห็นเขาจะเดือดร้อนอะไร เขาก็สมศักดิ์มาเรื่อย คนสวยเสียอย่างจะชื่ออะไรก็ได้"

เถรี
17-11-2016, 19:22
"ครูเฉลิมสอนวิชาคณิตศาสตร์ อาตมาถามซอกถามแซก ถามจนครูอธิบายไม่ได้ โมโหจนร้องไห้เลย ท่านสอนเรื่องเศษส่วน เศษส่วนจำนวนเกิน เศษส่วนจำนวนคละ “แล้วเศษส่วนมาจากไหน ? ทำไมต้องมีด้วย ?” เจอลูกศิษย์สงสัยแบบนี้นี่ตายเลย เรื่องของคณิตศาสตร์เป็นการลับสมอง ให้เราหาวิธีคิดหลาย ๆ วิธี เพื่อที่จะให้ออกมาเป็นคำตอบนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยได้ใช้งาน ก็จะมีคนอยู่ประเภทเดียวเท่านั้นที่ชอบตัวเลขพวกนี้ ก็คือ พวกประเภทถ้าไม่ใช่อัจฉริยะก็ต้องบ้าไปเลย..!

วันนี้ลูกสาวมาหาแต่เช้า ลูกเจนนี่สอบคณิตศาสตร์ได้ที่ ๑ ของจังหวัด แต่เลือกเรียนสายศิลป์ ครูโกรธมาก “ทำไมเธอไม่เรียนสายวิทย์...หือ ?” เจนนี่บอกว่า “มันยากค่ะ” คนสอบคณิตศาสตร์ได้ที่ ๑ ของจังหวัดบอกว่ายาก แล้วที่เหลือจะรอดไหม ? ท้ายสุดก็กลับไปคิดตัวเลขเหมือนเดิม ปัจจุบันนี้เรียนอยู่ปี ๒ บัญชีอินเตอร์จุฬาฯ คนไม่ชอบตัวเลขต้องไปเรียนตัวเลขก็คงจะเครียดเหมือนกัน แต่ว่าโปรแกรมภาษาอังกฤษน่าจะง่ายกว่าภาษาไทย สอบเข้าทีหนึ่งติดตั้ง ๔ คณะ ทั้งจุฬาฯ ทั้งธรรมศาสตร์ ติดหมดเลย เป็นอินเตอร์โปรแกรมไป ๓ คณะ

นาน ๆ จะมีลูกที่เรียนได้อย่างใจสักที ที่เหลือต้องลุ้นเหนื่อยกว่าตัวเองเรียนเยอะเลย เด็ก ๆ เขาจะถอดใจ อาตมาบอกว่าไม่ต้องถอดใจหรอก เพราะหลวงพ่อเห็นมาเยอะแล้ว ยิ่งโตยิ่งเรียนเก่งก็มี...แปลกดี เหมือนอย่างกับว่าโตแล้วรู้จักคิด หรือมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นก็ไม่รู้ เรียนเก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็กเรียนไม่รู้เรื่อง"

เถรี
17-11-2016, 20:01
ถาม : วันก่อนหนูไปทำกายภาพบำบัด หมอที่ทำกายภาพบำบัดก็ทักว่าหนูเป็นสายพญานาค และมีวิญญาณตามมาเพียบเลย หนูก็ไม่เชื่อ หนูบอกเขาว่าหนูนับถือหลวงพ่อฤๅษี เขาก็บอกว่าหลวงพ่อฤๅษีก็สายพญานาคนั่นแหละ เขาทักหนูเยอะเลย ใช่หรือคะ ?
ตอบ : ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก

ถาม : เขาจับตัวหนู จับกระดูก แล้วก็บอกว่า "ร้อนไปหมดเลย แสบไปหมดเลย" หนูก็ว่าอะไรไม่รู้ ?
ตอบ : แสดงว่าเจอหมอไม่เต็มบาท..!

ถาม : หนูก็ว่ามียันต์เกราะเพชร หนูก็มีพระกริ่ง มีอะไรเต็มไปหมด วิญญาณจะมายุ่งกับหนูได้อย่างไร ?
ตอบ :ไม่ต้องไปใส่ใจ ทำไม่รู้ไม่ชี้ ขืนฟังมากเดี๋ยวก็บ้าไปกับเขาด้วย..!

เถรี
17-11-2016, 20:29
ถาม : ในวัดท่าขนุนมีสวดพระอภิธรรมถวายในหลวงไหมครับ ?
ตอบ : มีสวดทุกเย็น เป็นระยะเวลา ๑ เดือน

ถาม : ท่านไม่คิดจะเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมในวังบ้างหรือครับ ?
ตอบ : ตูไม่ได้กินอิ่มขนาดนั้น รู้จักคำว่า "เอาเนื้อหนูไปปะเนื้อช้าง" ไหม ? ต้องใช้หนูกี่ตัวถึงจะพอปะ ? ตูไม่ใช่หนูพุกด้วย ตูเป็นแค่หนูหริ่งตัวกระเปี๊ยกเดียว ไม่คิดที่จะไปดังขนาดนั้น

จำไว้ว่า ถ้าอยากดังก็อย่าไปหวังความสงบ หน่อยแน่...สวดอภิธรรมในวัง ชิชะ...กูยังไม่ได้สิ้นสติขนาดนั้น คนอย่างกูจะดัง ก็ไม่จำเป็นต้องไปโหนสถาบัน...!

เถรี
17-11-2016, 20:40
ถาม : สวดพระอภิธรรมถวายในหลวงได้อานิสงส์อะไรครับ ?
ตอบ : อันดับแรกได้ความกตัญญู อย่างน้อยก็ได้แสดงการตอบแทนที่เรียกว่ากตเวที อันดับที่ ๒ พระได้ซักซ้อมความคล่องตัวในการสวดมนต์ อันดับที่ ๓ ถ้าแปลออกก็เท่ากับได้ปฏิบัติธรรมอยู่ทุกวัน อันดับที่ ๔ การสวดมนต์ ถ้าไม่มีสมาธิก็สวดไม่ได้ ก็เท่ากับเราปฏิบัติสมาธิภาวนาไปด้วย อันดับสุดท้าย คนสวดได้เงิน..!

เถรี
19-11-2016, 09:13
ถาม : เวลาเราเกิดปัญหา ระหว่างการที่เราหนีไปไม่ให้รู้เห็น กับหยิบมาแก้ วิธีอย่างไหนดีกว่ากันครับ ?
ตอบ : ไม่รับรู้ด้วยวิธีไหน ?

ถาม : ถ้าหลบไปสงบสักพักหนึ่ง กับอีกแบบหนึ่งเอามาจัดการด้วยสมาธิ หรือวิปัสสนา เขาบอกว่า....?
ตอบ : ต้องถามเขาสิ ใครบอกมาแทนที่จะถามคนนั้น ดันไปถามอีกคนหนึ่ง แล้วจะรู้ไหมว่าเขาหมายถึงอะไร ?

ถาม : ผมเข้าใจว่า เขาหมายถึง การไม่เจริญในสติปัฏฐาน ๔ ?
ตอบ : สติปัฏฐาน ๔ ในปัจจุบันทำผิดร้อยละ ๙๙ ..!

ถาม : อย่างไรครับ ?
ตอบ : เขาบอกว่าจะต้องรู้เท่าทันกับปัจจุบัน เสร็จแล้วก็ปล่อยวาง โดยการที่พยายามทำอินทรีย์ ๕ พละ ๕ ให้เสมอกัน อย่างในปัจจุบันที่เห็นอยู่คือเขาพยายามใช้แค่อุปจารสมาธิ ก็เหมือนกับให้มือเปล่าขึ้นไปต่อยกับไมค์ ไทสัน โอกาสตายมีเกิน ๑๐๐ %...!

ทุกวันนี้ที่เขาทำผิดก็เพราะบุคคลที่มีสมาธิ เขาให้คลายสมาธิออกมา แล้วไปสู้กับกิเลส ควายชัด ๆ...! ในเมื่อคุณบอกว่าอินทรีย์ ๕ พละ ๕ ต้องเสมอกัน ทำไมไม่ยกอย่างอื่นขึ้นมาให้เท่ากับสมาธิที่มีอยู่ ทำไมเสือกทะลึ่งลดสมาธิลงไปจนโดนกิเลสฟัดตายห่..! ฉะนั้น...บรรดาอาจารย์สายนี้ในปัจจุบัน สอนผิดสัก ๙๙ เปอร์เซ็นต์ เห็นแล้วสงสารลูกศิษย์

ถาม : ก็คือ ต้องปล่อยวาง ?
ตอบ : ถ้ากำลังคุณไม่พอ ตายอย่างเดียว ต้องรู้หลบรู้หลีก รู้จักผ่อนหนักเป็นเบา ฉะนั้น...ลองนึกถึงที่หลวงปู่หล้าท่านบอก ว่าหัดเป็น "นักหลบ" เสียบ้าง ไม่ใช่เป็น "นักรบ" อย่างเดียว รู้ว่ารบแล้วสู้ไม่ได้ ยังทะลึ่งไปรบเขาเรียกว่าโง่...!

เถรี
19-11-2016, 09:18
ถาม : ถ้าเราเกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนา ไม่มีพระพุทธเจ้า เวลาเราทำกรรมฐาน จะถือว่าเราได้ประโยชน์หรือไม่ หรือถ้าเกิดในยุคที่มีพระพุทธเจ้า เราจะทำประโยชน์ได้มากกว่า ?
ตอบ : คุณจะทำประโยชน์อะไร ? มีประโยชน์ตน มีประโยชน์ท่าน มีประโยชน์ทั้งสองส่วน พูดง่าย ๆ ว่าถ้ารู้จักพระพุทธศาสนา เวลาปฏิบัติธรรม นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง อานิสงส์ก็ย่อมมีมากกว่าคนที่ทำสมาธิเฉย ๆ

เถรี
19-11-2016, 09:22
ถาม : เวลาเราตาย ถ้าเกิดเราไม่ภาวนา แต่เราอธิษฐานเลยว่าจะไปที่นั่น ?
ตอบ : รอตายไปก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน ขนาดตั้งใจไว้ก่อนตายยังพลาดมาเยอะแล้ว ทุกวันนี้ที่พระมัวแต่สอน จ้ำจี้จ้ำไชปากเปียกปากแฉะอยู่ ก็เพื่อตอกย้ำให้พวกคุณทำกันบ่อย ๆ ทำจนเคยชิน คติจะได้แน่นอนขึ้น คำว่า "แน่นอนขึ้น" ไม่ได้แปลว่า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะว่ากรรมอาจแทรกระหว่างนั้นได้ แต่ก็ดีกว่าปล่อยไปตามบุญตามกรรม

เถรี
19-11-2016, 09:28
ถาม : ยันต์ของหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ที่เป็นเอกลักษณ์บนมีดไม่มีหรือครับ ?
ตอบ : ไม่มี เพราะว่ายันต์ของท่านไม่ค่อยจะเหมือนกัน ตอนนั้นอยากลงอะไรท่านก็ลงไปเรื่อย เขียนไปตามแต่พื้นที่ใบมีดที่มีอยู่ ใบใหญ่ก็ได้ไปมากหน่อย อาตมาได้มีดหมอของท่านมา ๔ เล่ม ไม่เหมือนกันสักเล่ม

เถรี
19-11-2016, 09:31
ถาม : ถ้ามีคนทิ้งกระดาษที่เขาบอกว่า ให้พิมพ์แจกกระดาษนี้อีก ๑๐ แผ่น เราต้องทำตามเขาไหมครับ ? ถ้าไม่ทำแล้วจะเกิดวิบัติอย่างที่เขาว่าหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : อาตมาไม่เคยทำตามสักทีก็ยังสบายดีอยู่ ที่แสบที่สุดคือมีอยู่ครั้งหนึ่งไปซื้อหนังสือ เขาสอดอยู่ในหนังสือว่าถึงคุณผู้โชคดี อาตมาก็ว่าอะไรวะ ? หนังสือใหม่เอี่ยมในร้านเลยดันมีไอ้นี่สอดอยู่ เปิดซองออกมาเขาบอกให้ส่งต่ออีก ๙ คน ไม่อย่างนั้นจะโชคร้ายแบบนั้นแบบนี้ อาตมาก็เลยส่งลงถังขยะตรงนั้นไปเลย

ถาม : คนที่ทำเขาจะบาปไหมครับ ?
ตอบ : จะบาปตรงไหน ? ยกเว้นว่าคุณโง่ไปเชื่อ เพราะเขาเชื่ออย่างนั้น เขาก็ส่งต่อไปเรื่อย ถ้าเราไม่เชื่อ วงจรอุบาทว์ก็จบลงแค่เรา

เถรี
19-11-2016, 09:38
ถาม : สมมติเราเคยอธิษฐานในสิ่งหนึ่งและสำเร็จแล้ว พอเวลาผ่านมาอธิษฐานซ้ำได้ไหมครับ ?
ตอบ : อะไรที่ได้แล้วก็แล้วกัน แต่คำอธิษฐานสามารถเปลี่ยนใหม่ได้ สามารถตอกย้ำได้

ถาม : อธิษฐานใหม่จะได้เท่ากับกำลังจิตเดิมไหมครับ ?
ตอบ : จะได้เท่าไรก็ช่างเถอะ ตอกย้ำกำลังใจให้แน่วแน่มั่นคงแล้วกัน แต่อย่าลืมที่ในหลวงท่านเตือนไว้นะ "ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป" ท่านบอกนั่นเป็นอธิษฐานบารมีเลยนะ เธอแน่ใจแล้วหรือที่ว่าอย่างนั้น ถ้าเกิดตามกันไปแล้วลำบากยากเข็ญขึ้นมาก็อย่ามาโทษกัน

ถาม : อธิษฐานแล้วจะต้องได้ตามนั้น ?
ตอบ : ตั้งใจแล้วก็ต้องได้ตามนั้น ซื้อตั๋วแล้วขึ้นรถอย่างไรก็ต้องไปถึงปลายทาง เพียงแต่ว่าจะไปแบบไหน ถ้าหนทางเป็นเตาขนมครกตั้งแต่ต้นยันปลาย ก็เป็นเวรเป็นกรรมของคุณเอง...!

เถรี
19-11-2016, 18:57
ถาม : ในขณะที่เรากำลังทำงานอยู่ สามารถทรงอุปจารฌาน ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าทรงอิริยาบถอยู่ คนที่มีความคล่องตัว แม้แต่ฌาน ๔ ก็ทรงได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอุปจารฌานหรือว่าปฐมฌาน เพียงแต่ปฐมฌานนั้นจะครบด้วยองค์ ๕ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตารมณ์ อุปจารฌานเพียงแต่เลยปีติไปหน่อยเดียวเท่านั้น

เถรี
19-11-2016, 18:58
ถาม : เรื่องการแผ่อุเบกขาในพรหมวิหาร ที่ผมเพิ่งจะเริ่มทำก็คือจับภาพพระ ?
ตอบ : พอก่อน...ผิดตั้งแต่แรกแล้ว อุเบกขาประเทศไหนเขาให้แผ่วะ...?! เขาให้ฝึกหัดสภาพจิตให้ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว สิ่งดีเข้ามาก็ไม่ยินดี สิ่งร้ายเข้ามาก็ไม่ยินร้าย มีใครเขาไปนั่งแผ่อุเบกขา..?

เถรี
19-11-2016, 18:59
ถาม : ถ้าฝึกกสิณ ต้องเป็นวิปัสสนาก่อน หรือทำสมถกรรมฐานก่อน ?
ตอบ : กสิณคือการเริ่มฝึกสมาธิ มีวัสดุพร้อมก็ฝึกไปได้เลย เพียงแต่ให้ฝึกควบกับลมหายใจเข้าไว้

เถรี
19-11-2016, 19:17
ถาม : ขณะที่สวดมนต์ทำวัตรอยู่ แล้วมีพระมาสะกิดเรา ทำให้จิตเราส่าย ฟุ้งเป็นชั่วโมง ไม่ทราบจะมีวิธีสร้างกำลังใจป้องกันตัวไหมครับ ?
ตอบ : เกาะภาพพระแล้วสวดไป ถ้าสมาธิดี สะกิดให้ตายก็ไม่หลุด

ส่วนใหญ่พวกเราจะเห็นว่าแค่สวดมนต์ ถ้าหากว่าสวดเป็นก็ไปได้ยันพระนิพพาน แต่คนเรามักจะไปคิดว่าแค่สวดมนต์ การสวดมนต์ขั้นต้นถ้าไม่มีสมาธิจะสวดผิด ให้สังเกตว่าเราเผลอคิดเรื่องอื่นเมื่อไรจะสวดผิดทันที

ถ้าเป็นผู้ที่คล่องตัวในอานาปานสติ คำสวดมนต์ก็คือคำภาวนา เพียงแต่เป็นคำภาวนาที่ยาวหน่อยเท่านั้น สำหรับผู้ที่เข้าถึงฌานสมาบัติ การสวดมนต์คือการซักซ้อมทรงฌานตั้งเวลา ถ้าหากว่าสวดมนต์ไม่เสร็จ สมาธิเราจะไม่คลายออกมา

สำหรับผู้ที่ได้ทิพจักขุญาณ ให้กำหนดภาพพระในขณะที่สวดมนต์ไปด้วย สมาธิยิ่งทรงตัวมากเท่าไร ภาพพระจะชัดเจนแจ่มใสมากเท่านั้น สำหรับผู้ที่ได้อภิญญา ให้ยกจิตขึ้นไปสวดมนต์ถวายพระบนพระนิพพานเลย ถ้ากำลังใจเราตั้งมั่นอยู่บนพระนิพพานบ่อย ๆ สภาพจิตเคยชินกับความสะอาด ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง ของที่นั่น ถ้าจำอารมณ์นั้นได้ ลงมาแล้วประคับประคองรักษาอารมณ์นั้นไว้ ถ้าทำไปนาน ๆ จะหมดกิเลสแบบไม่รู้ตัว

สำหรับบุคคลที่แปลบาลีได้ คำสวดมนต์ส่วนใหญ่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าแปลได้ก็ทำตามไปเลย ถ้าปฏิบัติตามได้ โอกาสที่จะหลุดพ้นก็มีอย่างแน่นอน

เถรี
19-11-2016, 19:21
ฉะนั้นใครที่บอกว่า "แค่สวดมนต์" สำคัญว่าคุณสวดเป็นไหม ? อาตมาทำมาแล้วทุกรูปแบบ ถ้าไม่ได้ทำก็บอกให้ไม่ได้ สมัยเป็นฆราวาสฝึกปฏิบัติใหม่ ๆ ก็ใช้วิธีการสวดมนต์เป็นการซักซ้อมการทรงสมาธิ

ทุกคนจะสงสัยว่าทำไมพระวัดท่าขนุนเจริญกรรมฐานแล้วมานั่งทำวัตร สมาธิก็หลุดหายหมดสิ ? พวกนั้นโง่มาก...ปล่อยมันไป แต่ถ้าบุคคลที่เข้าใจ ถึงเวลาเขาจะทรงสมาธิไว้ไม่ให้เคลื่อน ไม่ให้คลายออกไป

แต่เท่าที่สังเกต พระวัดท่าขนุนส่วนใหญ่ถึงเวลาก็นั่งแข็งทื่อ ปล่อยเจ้าอาวาสสวดไปคนเดียว ทรงสมาธิได้เหมือนกันแต่ไม่ใช่สมาธิใช้งาน อย่างท่านอาจารย์เตชะ อุ้มไปทิ้งแล้วยังไม่รู้ตัวเลย พระอื่นเดินกลับกุฏิหมดแล้ว อาจารย์เตชะยังนั่งเงียบอยู่นั่น

ตั้งใจจะให้ซักซ้อมการทรงฌานใช้งาน แต่หาคนทำได้น้อยมาก ถามว่าผิดหวังไหม ? ไม่หรอก...เพราะอย่างน้อย ๆ ฌานขั้นต้นท่านได้กันหมด เพียงแต่เจ้าอาวาสเหนื่อยหน่อย เพราะคนอื่นเล่นนั่งทรงฌานกันหมด ปล่อยให้เจ้าอาวาสสวดมนต์อยู่นั่นแหละ..!

เถรี
19-11-2016, 20:09
ถาม : อุเบกขา ก็คือ ถ้าเราได้ยินเสียง ไม่ว่าเสียงนั้นจะเสียงดีหรือเสียงร้าย ก็ให้เราวางเฉยหรือครับ ?
ตอบ : รักษากำลังใจอย่าไปสนใจในเสียงนั้น เพราะทันทีที่คุณสนใจ คุณจะไปปรุงแต่ง ทันทีที่ปรุงแต่ง ถ้าไม่ชอบใจก็จะชอบใจ มี ๒ อย่างเท่านั้น ชอบใจก็เป็นราคะ ไม่ชอบใจก็เป็นโทสะ ฉะนั้น...อุเบกขาเป็นเรื่องที่จำเป็นในการฝึกปฏิบัติธรรมทุกระดับ ถ้าไม่มีอุเบกขาก็หาความเจริญในการปฏิบัติไม่ได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำได้แต่เบื้องต้นเท่านั้น เบื้องปลายสุดถ้าจะเข้าถึงจริง ๆ ต้องมีอุเบกขา โดยเฉพาะสังขารุเปกขาญาณ หยุดการปรุงแต่งทั้งปวง ในเมื่อหยุดการปรุงแต่งทั้งปวง รัก โลภ โกรธ หลง เกิดไม่ได้ แล้วจะเหลืออะไร ? กิเลสก็ตายเกลี้ยง..!

แต่สมัยนี้นักวิชาการเก่งมาก สังขารุเปกขาญาณของเขาเป็นแค่เบื้องกลางเท่านั้น เขาต้องมีมรรคฌานผลญาณอะไรให้ยุ่งไปหมด ไปนึกถึงหลวงพ่ออุตตะมะ ลุงสัจจะ มูลแก้ว จะไปเรียนอภิธรรม ท่านก็เตือน "โยมลัย อย่าไปเรียนอภิธรรมเลย เรียนไปเดี๋ยวจะไม่มีพระให้ไหว้นะ" เพราะคนเรียนอภิธรรมมักคิดว่าตัวเองเก่งกว่าพระ หารู้ไม่ว่าพระอภิธรรม พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนมนุษย์ ท่านสอนพรหมเทวดาที่เป็นอุคฆฏิตัญญูบุคคล แค่ฟังหัวข้อก็เข้าใจแล้ว ขนาดนั้นยังใช้เวลาตั้ง ๓ เดือนของมนุษย์ ลองดูสิว่าถ้าพระพุทธเจ้าเทศน์ ๓ เดือน โดยไม่ไปไหน คนฟังจะเป็นลมตายก่อนไหม ? แต่ก็ยังมีพวกเก่งกล้าสามารถไปเรียนพระอภิธรรมกัน

อาตมายอมแพ้พระอภิธรรม ขออ่านผ่านตาเท่านั้น ไม่พยายามไปแตะเลย ที่พระพุทธเจ้าท่านจำเป็นต้องสอนตั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ก็เพราะเป็นไปตามจริตของผู้ฟัง ในเมื่อเป็นไปตามจริตของผู้ฟัง ก็แปลว่าถึงจะเหมาะกับบุคคลประเภทหนึ่ง ก็ไม่แน่ว่าจะเหมาะกับบุคคลอีกประเภทหนึ่ง อย่างมหาสติปัฏฐานสูตร อาตมาว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนมนุษย์ต่างดาว คนก็ว่าพระอาจารย์เล็กเพี้ยน..!

เถรี
19-11-2016, 20:16
มหาสติปัฏฐานสูตร พระพุทธเจ้าท่านเทศน์ที่หมู่บ้านกัมมาสธัมมะนิคมของชาวกุรุ เราต้องย้อนประวัติศาสตร์กลับไปในสมัยที่โลกยังมีพระเจ้าจักรพรรดิอยู่ พระองค์ท่านต้องแสดงพระราชอำนาจด้วยการปราบได้ในทวีปทั้ง ๔ แล้วกวาดต้อนเอาบุคคลของแต่ละทวีปมาเพื่อการแสดงซึ่งพระราชอำนาจ

บุคคลที่มาจากอุตรกุรุทวีป ท่านเอาไว้ที่แคว้นกุรุ บุคคลที่มาจากอมรโคยานทวีปเอาไว้ที่เมืองอมรปุระ บุคคลที่มาจากปุพวิเทหทวีปไว้ที่เมืองเทวทหะ ก็เมืองแม่ของพระพุทธเจ้า ฉะนั้น...ใครว่าพระพุทธเจ้าฉลาดเหนือมนุษย์ น่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาว ก็ไม่ผิดหรอก คนแคว้นกุรุฉลาดขนาดไหน ? ฉลาดขนาดนกแขกเต้าที่เลี้ยงไว้ยังเจริญอสุภกรรมฐานเป็นปกติ พวกเราทำได้อย่างนกไหม ?

เราจะสังเกตว่าพอกล่าวถึงกายในกาย เราก็ได้อานาปานบรรพ คือลมหายใจเข้าออก กิริยาบถบรรพ สัมปชัญญบรรพ พวกนี้พอแตะถึง แต่พอไปถึงเวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม บางคนไปไม่เป็นเลย ก็เพราะท่านสอนเฉพาะชาวกุรุ เราเอาแค่อานาปานบรรพ คือลมหายใจเข้าออกก็พอแล้ว เพราะว่าทุกบรรพหรือว่าทุกตอน แต่ละตอนพระองค์ท่านลงท้ายจุดจบไว้ให้หมดแล้ว ทำจบก็เป็นพระอรหันต์ได้

พระองค์ท่านว่า นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ เราจะไม่ยึดสิ่งใด ๆ ในโลกนี้ ปล่อยให้หมดแล้วจะเหลืออะไร ?

เถรี
19-11-2016, 20:24
พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของกรรมฐานอย่าโลภมาก ทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้เห็นผลไปเลย แล้วของอื่นจะไม่ยาก แต่ถ้าทำแล้วยังไม่เห็นผลก็จะยากทุกประการ ฉะนั้น...อะไรที่ได้หลักแล้ว พอใจแก่ตัวเองแล้ว ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำให้จบ จบแล้วถ้าไม่ขี้เกียจค่อยขยับมาทำอย่างอื่นต่อ"

เถรี
19-11-2016, 20:55
พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่ากลัวอ้วน แต่ให้รู้จักประมาณในการกิน ถ้าหากว่ากินน้อยแล้วอ้วนแสดงว่าระบบเมตาบอลิซึ่มในร่างกายของเราพิลึกกว่าชาวบ้านเขา แต่ก็ประหยัดดี ส่วนพวกกินมากแล้วไม่อ้วนอย่างอาตมาถือว่าเลี้ยงเสียข้าวสุก..!

สาว ๆ สมัยนี้จะไปคุ้มคลั่งอะไรกับการอดข้าว ? การลดน้ำหนักที่แน่นอนคือทำงานหรือไม่ก็ออกกำลังกาย ทำงานไปทั้งวันเช้ายันค่ำ ดูสิว่าจะอ้วนไหม ? ส่วนใหญ่ที่อ้วนก็คือนั่ง ๆ นอน ๆ กินเสร็จแล้วก็นั่งเขี่ยไลน์ นอนเขี่ยไลน์ ถ้าแบบนี้รับประกันว่าเดือนเดียวเห็นผล..!

อะไรที่พอดีจะมีประโยชน์ อะไรที่ไม่พอดีก็จะมีโทษ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาวิเคราะห์ว่าออกซิเจนทำให้ร่างกายสดชื่น คลอโรฟิลทำให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มาก แล้วก็ให้พวกเราซื้อมากิน อาตมาเห็นว่ามีโทษแน่ ๆ เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเลยว่า มีธาตุไฟที่กระตุ้นร่างกายให้เจริญเติบโต และก็มีธาตุไฟที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง

อาตมาเห็นคนที่กินน้ำผัก กินคลอโรฟิล กินน้ำออกซิเจน เหี่ยวดูไม่ได้เลย ร่างกายเสื่อมเร็วกว่าปกติ เนื่องจากออกซิเจนเกิน ก็ไปผลาญเซลล์ในร่างกาย ดังนั้น...เราจะเห็นในพระอัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสในเรื่องมัชฌิมาปฏิปทา ใช้ได้ทุกเรื่องจริง ๆ อะไรที่ไม่พอดี เกินหรือขาดก็จะก่อให้เกิดโทษ

แต่โยมคนนั้นเขาไม่รู้ตัวนะ ที่ไม่รู้ตัวเพราะว่าเหมือนกับเสพติดไปแล้ว เขาบอกว่าสดชื่นดี น่าจะอายุสั้นกว่าปกติไปหลายปี อยากแข็งแรงต้องออกกำลังกาย กินอาหารให้ถูกหลัก แต่ไม่ต้องกินครบ ๕ หมู่ อย่างอาตมาได้แค่หมู่ ๑ หมู่เดียว พระครูแสงเคยเดินหาอาหารกินแค่ ๒ หมู่ ยังบอกว่าขาอ่อนเลย โดยเฉพาะแค่สหกรณ์นิคม ๘๐,๐๐๐ ไร่ก็มีตั้ง ๒ หมู่ ไม่ต้องไปกินครบ ๕ หมู่หรอก ตายก่อนแน่ ๆ...!"

เถรี
21-11-2016, 20:57
พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยก่อนเวลาอาตมาเจองูตัวใหญ่ ๆ ต้องดูก่อนว่าเป็นงูจริงหรืองูปลอม ส่วนใหญ่งูปลอมจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางเทวดาอารักษ์ ต้องการจะข่มขู่พวกโลภมาก ก็ใช้วิธีแปลงเป็นงูตัวใหญ่ ๆ คนจะได้วิ่งหนีกัน

มีคนไปขุดกรุปราสาทหินทางอีสาน เปิดกรุออกมา ปรากฏว่าฝนกระหน่ำลงมา กำลังตั้งหน้าตั้งตาจะโกยของ ทำไมอยู่ ๆ ฟ้ามืด เงยหน้าขึ้นไป เห็นเกล็ดใต้ท้องงูพาดผ่านหลุมแทบจะปิดหลุมมิด แล้วหลุมกว้างขนาดผืนพรมตรงหน้าอาตมา (ประมาณ ๓ X ๕ เมตร) คราวนี้ไม่มีใครเอาสมบัติแล้ว วิ่งกันป่าราบอย่างเดียว

อาตมาไปเจอที่บึงลับแลก็เหมือนกัน ชูหัวขึ้นมาจากบึงเลยคอไปหน่อยเดียว หัวงูเสมอกับภูเขา..! แล้วถ้ามาทั้งตัวจะใหญ่ขนาดไหน ? ประเภทนั้นดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ถ้าคุยกันรู้เรื่องก็ได้เพื่อนดีไปเลย ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็โกยเถอะโยม...!"

เถรี
21-11-2016, 21:06
มีคนมาสมัครบวช โดยบอกว่าเคยบวชมาจากที่อื่น "ขออภัยที่ไม่สามารถรับได้ เพราะรุ่นนี้ต้องการเฉพาะพระที่บวชงาน ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย หรือ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีที่วัดท่าขนุนเท่านั้น บวชแล้วอาตมาไม่ได้กลัวว่าจะสึก แต่กลัวว่าจะอยู่ต่อ..! ก็คือ ถ้าไม่ได้รับการอบรมแล้วอยู่ต่อ เกิดทำผิดทำพลาดอะไรขึ้นมา จะพาอาตมาซวยไปด้วย

เอาเป็นว่างวดหน้าบวชถวายในหลวงครบ ๑๐๐ วันอีก ๘๙ รูป ถึงคราวนั้นจะเปิดสมัครบวชแบบทั่วไป นัดล่วงหน้าเข้าวัดก่อนบวชสักอาทิตย์หนึ่ง จะได้ไปฝึกซ้อมอบรมกันก่อน"

เถรี
21-11-2016, 21:35
มีโยมมารับตะกรุดแม่ทัพของหลวงพ่อกวย "ได้ของแท้ไป คลำให้ขึ้นใจเลยนะว่าของแท้ลักษณะรูปร่างเป็นอย่างไร ถึงเวลาจะได้จำได้ อย่างนี้เรียกว่า "ลายห้าเสา" เชือกถักเขามีลายตะเข้ขบฟัน ลายห้าเสา ฯลฯ สารพัดลาย ของหลวงปู่ปานเป็นลายเสาเดี่ยวพันตัวเอง

อาตมามีตะกรุดหลวงปู่ปานอยู่ดอกหนึ่ง ท่านอุดผงวิเศษมาให้ด้วย คาดว่าอาจจะเป็นลูกศิษย์ทำเอง ก็คือ เวลาอุดผงพระของท่าน อุดไปอุดมาก็แอบอุดให้ตะกรุดของตัวเองไปด้วย แต่โลหะก็ใช่ ลายก็ใช่ รักก็ใช่ เอาเป็นว่าดอกนี้พิเศษกว่าเขาก็แล้วกัน "

เถรี
21-11-2016, 21:39
"ส่วนใหญ่ตะกรุดของหลวงปู่ปานเป็นลายมือของหลวงพ่อเจิม หลวงพ่อเจิมเป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโค หลวงปู่ปานเป็นพระลูกวัด หลวงปู่ปานไม่อยากมีภาระเลยให้หลวงพ่อเจิมเป็นเจ้าอาวาสแทน แต่ใคร ๆ ก็ว่าหลวงปู่ปานเป็นเจ้าอาวาสทั้งนั้น เขาเรียกหลวงพ่อใหญ่ คนรุ่นเก่า ๆ ที่อาวุโสมากเขาเรียกว่า ท่านใหญ่"

เถรี
21-11-2016, 21:46
มีโยมเอาพระสมเด็จบางขุนพรหมมาถวาย "แน่ใจแล้วนะ พระสมเด็จบางขุนพรหมถ้าราคาต่ำกว่าหกหลักนี่อาตมาให้เหยียบเลย

ที่ขำที่สุดก็คือ คุณตัวเล็กออกพระสมเด็จบางขุนพรหมองค์ละร้อย ตูจะสลบ...! วันก่อนก็เห็นมีขุนแผนผงพลายกุมารองค์ละร้อย อาตมาไปตรวจเห็นอยู่ ไม่รู้ว่าลงไปหรือยัง ? ถ้าลงไปคนที่รู้จักจะลังเลว่าจริงหรือปลอม ว่าจะให้ชักออกมาลงกระทู้ประมูลแทน"

เถรี
21-11-2016, 22:17
พระอาจารย์กล่าวถึงเหรียญปาป้ามุม "เหรียญนี้ทหาร GI สร้างถวาย หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ วัตถุมงคลทุกชิ้นของหลวงพ่อมุมรับประกันยิงไม่ออก บรรดา GI เห็นทหารไทยโดนยิงเท่าไรไม่เป็นอะไรสักที ก็อยากได้วัตถุมงคลบ้าง เพื่อน ๆ จึงพาไปกราบหลวงพ่อมุม ปรากฏว่าลองแล้วเห็นว่ายิงไม่ออกจริง ๆ ก็เลยช่วยกันสร้างเหรียญถวายหลวงพ่อมุมรุ่นหนึ่ง

เหรียญรุ่นนี้ชื่อจะเป็นภาษาอังกฤษ เขียน PAPA MUM สร้างโดยศิษย์ GI อาตมาไม่รู้จักหลวงพ่อมุมสมัยนั้นหรอก พระครูแสงท่านแนะนำให้ เพราะตอนช่วงวัยรุ่นพระครูแสงเล่นวัตถุมงคลก่อน ไปหัดส่อง หัดดู รุ่นพี่ก็จะช่วยบอกว่าของแท้มีลักษณะอย่างไร ต้องศึกษาให้ครบ ท้ายสุดไปทดสอบพระถ้ำเสือพิมพ์ตุ๊กตาองค์หนึ่ง หลายคนบอกว่าปลอม เพราะสวยเกินไป แต่พอทดสอบตามที่เซียนใหญ่ท่านแนะนำ ปรากฏว่าใช่ อาตมาก็เลยรีบตะครุบไว้ ใช้ติดตัวอยู่หลายปี

ถ้าพิมพ์ใช่ เนื้อใช่ คราบกรุใช่ ไม้ตายสุดท้ายก็คือหยดน้ำลงไป ๑ หยด ถ้าหายวับไปเลยก็ของแท้ เพราะของแท้สร้างมานานจะแห้งสนิท ถ้าหยดลงไปแล้วค่อย ๆ ซึมหรือติดอยู่บนผิวก็ของปลอม ของบางอย่างถ้าสวยเกินไป เซียนก็ไม่กล้าจับ ตีว่าปลอมไว้ก่อน"

เถรี
23-11-2016, 08:44
"อาตมาถวายพระผงสุพรรณเนื้อดำแก่หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดพิชยญาติการาม สมัยที่ยังเป็นท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลีอยู่ บอกว่า "หลวงพ่อครับ...องค์นี้สวยเกินไป ถ้าไม่ใช่ของแท้ผมขออภัยด้วยนะครับ ผมอาจจะตาไม่ถึง" หายไปเดือนกว่า เจอหน้ากันใหม่ กราบเรียนถามว่า "เป็นอย่างไรครับหลวงพ่อ ?" "เฮ้ย...แท้ว่ะ" ถูกใจท่านสุด ๆ บอกว่าไม่เคยเจอพระสวยขนาดนี้

พระกรุขนาดมีหน้ามีตา ที่ภาษาเซียนเรียกว่า "หูตากระพริบ" นั้นหายาก อาตมาก็ไม่เชื่อสายตาตัวเอง ต้องดูกันหลาย ๆ ตา อะไรที่สวยเกินไป คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแตะ...กลัวพลาดแล้วเจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ"

เถรี
23-11-2016, 09:02
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อะไรที่เกี่ยวกับในหลวงขึ้นราคาหมด แต่อาตมาเตือนล่วงหน้ามาเป็นปีแล้ว จำกันได้ไหม ? ที่บอกว่าให้เก็บวัตถุ รูป หรือเหรียญในหลวงเอาไว้บ้าง"

ถาม : เขานิยมโชว์เหรียญในหลวงกัน ?
ตอบ : อาตมาไม่โชว์เหรียญหรอก ถ้าจะโชว์ต้องสมเด็จจิตรลดา องค์นี้พิมพ์เล็ก ปี ๒๕๐๘ ส่วนพิมพ์ใหญ่มีผู้หวังดีเอาทองคำแท่ง ๒๐ บาทแลกไปแล้ว องค์นี้ต้องคิดเยอะกว่าเพราะสวยกว่า

เจ้าของท่านไม่ให้หนังสือรับรองมา เพราะว่าหนังสือรับรองการพระราชทานเขาถือว่าเป็นเกียรติของวงศ์ตระกูล เขาสละให้มาแต่องค์พระ

ปี ๒๕๐๘ อาตมาเพิ่ง ๖ ขวบ องค์นี้ที่ชอบใจเพราะว่าใส่มวลสารเยอะ ลอยหน้าเพียบเลย เรื่องของเนื้อหา ของพิมพ์ทรง บางทีก็สามารถปลอมกันได้ แต่มวลสารปลอมไม่ได้

เป็นพระที่ฆราวาสสร้าง ไม่ผ่านการปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ เพียงแต่ในหลวงทรงอธิษฐานจิตไว้เท่านั้น ปัจจุบันนี้ราคาเป็นล้าน พิมพ์เล็กจะหายากเพราะว่าสร้างน้อยกว่า

เถรี
23-11-2016, 09:08
ต้องบอกว่าอาตมามีวาสนากับในหลวง เพราะสมัยฆราวาสช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๓-๔-๕ ธันวาคม อาตมาจะถือศีลแปดถวายพระองค์ท่านสามวัน พวกเราเคยทำอะไรลักษณะแบบนี้ถวายพระองค์ท่านบ้างไหม ? ลองนึกดูว่าวัยรุ่นกำลังกินกำลังนอนต้องมาอดข้าว เป็นรสชาติของชีวิตเหมือนกันนะ

รักษาศีลแปด เจริญพระกรรมฐาน ถวายเป็นพระราชกุศล เพราะฉะนั้น...ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่า ทำไมอาตมาขึ้นพระนิพพานครั้งแรกถึงได้เห็นในหลวงเป็นพระภิกษุมาขวางหน้า แสดงนิมิตให้เห็น

เถรี
23-11-2016, 09:20
องค์ในหลวงบอกใบ้ให้พวกเราทราบว่า พระองค์ท่านเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญวิริยบารมี ตั้งแต่ตอนที่พระองค์ท่านออกเหรียญและหนังสือพระมหาชนก เพียงแต่วิริยบารมีของพระองค์ท่านนั้น เป็นไปในด้านที่ทำทุกอย่างเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน

เถรี
23-11-2016, 09:33
พระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์เล็กจะสร้างน้อยกว่า แต่ถึงจะสร้างน้อย อาตมาก็มีสององค์นะ...! เพียงแต่อีกองค์อาตมายังไม่ได้เลี่ยมทองเท่านั้น ถ้ามีใครหอบทองแท่ง ๒๐ บาทมาให้ อาตมาจะตัดใจสละอีกองค์หนึ่งให้ แต่ต้องเอาไปเลี่ยมเองนะ

เถรี
23-11-2016, 15:40
ถาม : ใส่บาตรพระแถวบ้าน ถือว่าเป็นสังฆทานไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ตั้งใจว่าจะใส่ใครก็เป็นสังฆทาน ต่อให้พระรูปเดียวก็เป็นสังฆทาน แต่ถ้าตั้งใจจะว่าจะใส่หลวงปู่รูปนั้น หลวงพ่อรูปนั้น ก็ได้แค่ปาฏิกบุคลิกทาน

ถาม : ถ้าเกิดท่านรับไปแล้วเข้ากุฏิ ไปฉันรูปเดียวเป็นของตัวเอง ?
ตอบ : นั่นเรื่องของท่าน เราจะไปเดือดร้อนอะไรกับท่านด้วย เราตั้งใจถวายเป็นสังฆทาน ส่วนท่านจะทำอย่างไรก็แล้วแต่เวรแต่กรรมของท่าน

ส่วนใหญ่วัดต่าง ๆ ที่ไม่รู้จริง ที่ครูบาอาจารย์ไม่ได้อบรมมา เวลาบิณฑบาตก็มักจะไปฉันคนเดียว โอกาสที่จะเป็นโทษมีมาก เพราะถ้าเขาตั้งใจถวายเป็นสังฆทาน เท่ากับไปน้อมลาภของสงฆ์มาเพื่อตน

แต่บางที่ก็ระบุชัดจนกระทั่งอาตมาก็สยอง เคยตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ไปบ้านโยมสันต์ ภู่กร ที่พิษณุโลก เขาใช้คำว่า "ขอน้อมถวายแด่พระอริยสงฆ์" อาตมาก็มองหน้าเพื่อนพระ "แล้วกูจะได้แดกไหมนี่ ?" เพื่อนพระก็สุดยอดมาก "มึงก็เป็นสักพักสิวะ" ก็จริงของเขานะ ตอนฉันก็พยายามเกาะพระนิพพานไว้ก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นไปกินของเขาเป็นโทษแน่ ๆ

เถรี
23-11-2016, 18:11
พระอาจารย์กล่าวกับโยมที่เอาชามาถวายว่า "จำไว้...ปกติอาตมาเป็นคนไม่ฉันชา ที่ฉันเพราะมี ถ้าไม่มีก็ไม่ได้เดือดร้อน แต่สำหรับบางท่านติด พอไม่มีชาแล้วอยู่ไม่ได้ อาตมาไปงานบางที ๓-๔ วันติดกันฉันแต่ชา พอกลับวัดมาก็ฉันน้ำร้อนเปล่า ๆ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร

เรื่องของชา หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่ท่านยังเป็นนักเทศน์อยู่ ถ้าไม่ได้ฉันชาก็รู้สึกว่าเทศน์ไม่ลื่น ถ้าไปบางวัดเขาก็ไม่ได้เตรียมไว้ให้ ท้ายสุดท่านก็เลยพกชาไปเอง มีอยู่วันหนึ่งท่านกำลังเดินข้ามทุ่งอยู่ มือหนึ่งก็หิ้วกาน้ำชา รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ก็มาคิดว่า "เราบวชมาเพราะต้องการจะละกิเลส แล้วกาน้ำชานี่คืออะไรกัน ?" ว่าแล้วก็โยนโครมเข้าพุ่มไม้...เลิกฉันตั้งแต่บัดนั้นเลย"

เถรี
23-11-2016, 19:36
พระอาจารย์กล่าวว่า "บรรดาเซียนพระเขามีพระขรรค์หลวงพ่อโสกกันคนละเล่มสองเล่มก็ตั้งตัวเป็นเซียนใหญ่ ถ้ามาเห็นของอาตมานี่คงช็อกตายเลย เพราะมาทีเป็นหอบ..!"

เถรี
23-11-2016, 19:45
"เมืองเพชรฯ เป็นเมืองคนดุ โดยเฉพาะสมัยก่อนเขาเล่นอาวุธสงครามกันล้วน ๆ จะเห็นว่ามือปืนเมืองเพชรใช้แต่ เอ็ม. ๑๖ คนรุ่นเก่าเขาว่า ถ้ามีปลัดขิก ๑ อัน พระขรรค์ ๑ เล่ม ผ้ายันต์ ๑ ผืน ไปไหนไปกัน ไม่กลัวใคร แต่ปลัดขิกของหลวงพ่อโสกหายาก เพราะว่าปลัดขิก ๑ อัน ทำพระขรรค์ได้เป็นสิบเล่ม จนป่านนี้อาตมาเพิ่งมีแค่ ๑ อัน ถ้าไม่ได้คิดจะเอาเข้าพิพิธภัณฑ์ก็คงปล่อยไปนานแล้ว"

ถาม : สะสมของพวกนี้มาตั้งแต่เมื่อไรคะ ?
ตอบ : ตั้งแต่วัยรุ่น พอรู้ภาษาบรรดาพี่ ๆ ลุงป้าน้าอาเขาก็นั่งส่องกันแล้ว

ถาม : สมัยนั้นราคาแพงไหมคะ ?
ตอบ : ก็ไม่แพง สมัยนั้นพระของหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ก็แค่องค์ละ ๒๐ บาท สมัยนี้แสนหนึ่งยังซื้อไม่ได้

เถรี
23-11-2016, 20:13
พระอาจารย์กล่าวว่า "พอในหลวงสวรรคต อาตมาเขียนกลอนไม่ออก เพราะที่เคยเขียนไปก็บรรยายไว้หมดแล้ว

สามโลกจักหาใคร........... ไป่มี
พ่อดังพระสุริยศรี..............คู่ฟ้า
สว่างหล้าธาตรี............ใครเปรียบ...เทียบฤๅ
นามพ่ออยู่คู่หล้า..........ตราบฟ้า...ดินสลาย

เขียนใหม่ไม่ได้แล้ว ได้แค่นั้น ๗๐ ปีทรงสร้างคุณความดีมาเหลือคณานับ บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ เด็กรุ่นใหม่ก็สงสัยว่าทำไมรุ่นพ่อรุ่นแม่รักในหลวงกันจริง"

เถรี
23-11-2016, 20:24
พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงอาตมาไม่ได้เล่นวัตถุมงคลมาก่อน คนเล่นก่อนคือน้องชาย (พระครูแสง) สมัยเด็ก ๆ ท่านเฮี้ยนมาก ท่านศึกษาตำราทำผงมหาราช ปถมัง อิทธิเจ ตรีนิสิงเห ท่านทำหมด ถึงเวลาก็นั่งท่องคาถาเขียนลบผงไป "พินธุเอกัง สุมังพันธัง พินธุโท อังกุสังยะถา พินธุตรี ธัมมะวิชาลันทะ เอกะพินธุ วิชานะเย" ไล่ไปเรื่อย เสร็จเรียบร้อยท่านลืมหมด แต่ตำรามาอยู่ในหัวอาตมา เพราะจำที่ท่านท่องท่านทำได้

สรุปแล้วของแต่ละอย่างที่ท่านทำไว้เหมือนกับสอนอาตมา อาตมาเองเป็นคนขี้เกียจ ของยากจะไม่ทำ แต่ท่านกรอกหูอยู่ทุกวันเลยจำได้หมด อาตมาจำโองการมหาทมื่นได้ก็เพราะพระครูแสง ท่านท่องแล้วอาตมาก็จำติดหัวมา

อาตมาว่าจะทำตะกรุดมหาโสฬสตามตำราสักชุดหนึ่ง แต่ต้องเสกถึงสามปี เสกด้วยโองการมหาทมื่นวันละ ๙ จบ จะได้ครบหมื่นจบเมื่อสามปีไปแล้ว ตะกรุดของวัดสะพานสูงดังมาทุกรุ่นก็เพราะอย่างนี้แหละ เสกกันทีสามปี อีกตำราหนึ่งที่ยาก คือ หลวงพ่อเจ้าคุณสว่าง วัดเทียนถวาย ท่านทำตะกรุดหน้าผากเสือ เขียนเฉพาะวันเสาร์ห้า แล้วก็ต้องเสกผ่านอีก ๓ เสาร์ห้า สรุปแล้วตะกรุดดอกหนึ่งใช้เวลาสามปีเป็นอย่างน้อย"

เถรี
24-11-2016, 18:38
พระอาจารย์กล่าวกับพระที่มาเบิกค่าเล่าเรียนว่า "ความจริงผมเงินหมดตัวไปแล้วนะ ดันมีมาอีก มีกติกาว่า "ห้ามเงินหมดเกินข้ามวัน" มีอยู่วันหนึ่งตั้งใจแกล้ง คือหลังจากเจริญกรรมฐานตอนทุ่มครึ่ง ก็เทกระเป๋าเลี้ยงเพื่อนพระหมดเลย สั่งน้ำปานะมาเลี้ยงพระทั้งวัดเลย กะว่าเดี๋ยวพอไปนอนก็จะไม่มีสตางค์จนถึงพรุ่งนี้

ปรากฏว่า ๔ ทุ่มเขามาทุบประตูเรียกให้ไปสวดศพ เขาบอกว่าคนเพิ่งตาย อยากจะสวดวันแรกเลย ท้ายสุดก็ต้องรับสตางค์มาจนได้"

เถรี
24-11-2016, 18:39
พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "เวลาเราไม่ชอบอะไรแล้วไปผลักไสจะรู้สึกเหนื่อยนะ ทำไม่รู้ไม่ชี้จะดีกว่า คือไม่ต่อต้าน แต่ก็ไม่รับรอง กลายเป็นว่าเราไม่สร้างภาระให้ตัวเอง มัวไปผลักไปไสตั้งตัวเป็นศัตรูกันก็เหนื่อยตาย ว่าอะไรมาก็ยิ้ม "ค่ะ ๆ" รับแต่ปาก ไม่ทำหรอก ถ้าเราไม่ต่อต้านนี่แรงกดดันจะกลับไปหาเขาเอง จะกลายเป็นคนอื่นเครียด ส่วนเราสบาย"

เถรี
24-11-2016, 18:48
ถาม : แมวคนอื่นมาอาศัยอยู่กับเรา ถ้าเราจะย้ายที่อยู่แล้วเอาไปด้วยได้ไหมคะ ?
ตอบ : บอกเขาหน่อยสิว่าตอนนี้แมวมาอยู่กับเรา ย้ายไปเราจะเอาไปด้วยนะ จะได้ไม่ไปผิดศีล ไม่อย่างนั้นก็เขียนจดหมายแปะไว้ก็ได้ นึกถึงสมัยโบราณ เวลาเข้าไร่เข้าสวนคนอื่นเขา เห็นของน่ากินก็จับกิ่งไม้หักเกี่ยวไว้ แล้วก็กินไปเถอะ ถือว่าขอแล้ว หักเป็นตะขอไว้ นี่เป็นเคล็ดลับจริง ๆ นะ

อย่างพวกบ้านกะเหรี่ยงเขาจะทำ “กะโจ” ไว้ เป็นไสยศาสตร์อย่างหนึ่ง ถ้าหากใครไปกินจะปวดท้องดิ้นอยู่ตรงนั้นแหละ แต่ถ้าใครทำตะขอเกี่ยวไว้จะไม่เป็นไร เพราะถือว่าขอแล้ว

โบราณเขาบอกว่า “แมวมาหา หมามาสู่ ถือว่าเป็นมงคล” ที่เป็นมงคลเพราะอะไร เพราะว่าสัตว์เขามีสัญชาตญาณ เขารู้ว่าใครรักใครเมตตาเขา เขาก็อยากอยู่กับคนนั้น ลองไปดูสถานที่ซึ่งเขารับดูแลหมาแมวก็ได้ เอาไปฝากไว้ที่นั่นแล้วก็บริจาคเงินให้เขาหน่อย

ปีนี้วัดท่าขนุนได้ลูกหมา ๔๐ กว่าตัว สถิติตกไปหน่อย แสดงว่าเศรษฐกิจไม่ดี ช่วงเศรษฐกิจดี ๆ จะ ๖๐-๗๐ ตัวทุกปี เศรษฐกิจดีเจ้าของเลี้ยงดี หมาก็มีลูกเยอะ ครอกล่าสุด ๗ ตัว ตัวเล็กอย่างกับลูกแมว ก็เลยเรียกว่า "คนแคระทั้ง ๗" เขาอุตส่าห์เอามาปล่อยทั้งกรงเลยนะ เอากรงหิ้วมาทิ้งไว้ เลี้ยงมา ๓-๔ อาทิตย์ ตัวค่อยใหญ่ขึ้นมาหน่อย

เถรี
24-11-2016, 18:57
ถาม : ทำไมเขาเรียกคนรักแมวว่า ทาสแมว ?
ตอบ : แมวเขามีนิสัยอยากทำอะไรก็ทำ ไม่เหมือนหมาที่เรียกแล้วมา ถ้าแมวไม่ชอบใจเรียกให้ตายก็ไม่มา โดยเฉพาะนิสัยแมวดึงขึ้นหน้าก็จะถอยหลัง ดึงถอยหลังก็จะขึ้นหน้า ดึงหลังก็หย่อนท้องติดพื้น พอดึงพุงก็จะโก่งตัวขึ้น นิสัยแมวจะทำอะไรตรงกันข้ามกับที่เราต้องการหมด

ถาม : ที่เขาบอกว่าแมว ๕ หมา ๖ อย่าไปเลี้ยงนี่จริงไหมคะ ?
ตอบ : โบราณเขาถือ ส่วนใหญ่แล้วเขาดูที่นิ้วตีน ถ้าแมวมีนิ้วตีน ๕ นิ้ว หมามี ๖ นิ้ว เขาก็ไม่เอา แต่ส่วนใหญ่คนตีความผิด กลายเป็นแมวคลอดมา ๕ ตัว หมาคลอดมา ๖ ตัว เขาเลยไม่เอาไปด้วย ความจริงอะไรที่เกินจากปกติน่าจะดีนะ แต่คนโบราณไปถือกันท่าไหนก็ไม่รู้

ปกติลองไปพลิกอุ้งตีนแมวดูสิ จะมีแค่ ๔ นิ้ว แล้วถ้ามี ๕ นิ้วแล้วยังมีโคนเหมือนนิ้วหัวแม่มืออีกอันหนึ่ง แต่ถ้าอุ้งตีนหมาจะมี ๕ นิ้ว ถ้าไปเจอ ๖ นิ้วเขาก็ว่าไม่ดี แต่ก็เลี้ยงไปเถอะ อาตมาว่าอะไรเกินดีทั้งนั้นแหละ เกินดีกว่าขาด...ใช่ไหม ?

ถาม : แล้วที่เขาว่าฆ่าแมวเหมือนฆ่าเณรละคะ ?
ตอบ : แมวน่ารักมาก ถ้าใจคอโหดร้ายขนาดฆ่าแมวได้ก็ฆ่าเณรได้เหมือนกัน ฉะนั้น...ฆ่าแมวเลยเหมือนกับฆ่าเณร

เถรี
24-11-2016, 19:02
ถาม : หนูทำอะไรก็รู้สึกว่าเหนื่อย ทุกข์ไปหมด ?
ตอบ : นี่แหละคือเห็นความทุกข์ ทำอะไรก็เหนื่อยนี่แหละชัด ๆ เลย เป็นตัววิปัสสนาญาณ แล้วเป็นวิปัสสนาญาณแท้ด้วยเพราะเห็นแล้วเบื่อ รักษาความเบื่อไว้ให้ได้ แล้วพยายามใช้ปัญญาเพิ่มหน่อยว่า ถึงเราจะเบื่อแค่ไหน แต่ตราบใดที่สังขารนี้ยังอยู่ เราก็ไปพ้นไม่ได้ ฉะนั้น...เราก็จะอยู่แค่ชีวิตนี้เท่านั้น ถ้าหากว่าสิ้นชีวิตลงไปเมื่อไรเราขอไปพระนิพพาน ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีสังขารร่างกายนี้ การเกิดมาในโลกนี้ เราไม่เอาอีกแล้ว

ถาม : ไม่เรียกว่าขี้เกียจหรือคะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าขี้เกียจได้ถูกทาง ขี้เกียจเพราะเห็นโทษ ทำอะไรก็เหนื่อย

เถรี
24-11-2016, 19:06
ถาม : เวลาจับลมหายใจจะรู้สึกว่าลมหายใจยาว ไม่เหมือนก่อน ?
ตอบ : ถ้าจิตละเอียดขึ้นจะรู้สึกว่าลมยาวขึ้น

ถาม : เราควรทำอย่างไรต่อ ?
ตอบ : เรามีหน้าที่ดูตามไป ไม่ต้องไปใส่ใจ ยาวแค่ไหนก็กำหนดใจตามไป

เถรี
24-11-2016, 19:12
ถาม : เมื่อก่อนเวลาฝึกซ้อมทิพจักขุยังพอจะรู้เห็นได้ แต่ตอนนี้ไม่สามารถรู้เห็นได้แล้ว ?
ตอบ : การเห็นนั้นเป็นกำลังของอุปจารสมาธิ พอปฏิบัติไปมากขึ้น ๆ กำลังสูงขึ้นก็จะไม่เห็น ไปเห็นอีกทีตอนฌาน ๔ คล่องตัวไปเลย ฉะนั้น...ตอนนี้ที่ไม่เห็นแสดงว่ากำลังฌานสูงขึ้น ถ้าต้องการเห็นก็ทำให้คล่องตัว แล้วหย่อนกลับลงไปที่เดิม ก็จะเห็นใหม่อีก

ถาม : ลองใช้ดูหวยแต่ซื้อแล้วไม่ถูก..?
ตอบ : เรื่องปกติ สมัยอาตมาซ้อมทิพจักขุญาณก็เหมือนกัน ดูหวยนี่มาครบ ๗ ตัวเลย แต่หาซื้อไม่ได้ พอมาตอนหลังเขาตัดเล่น ๓ ตัวท้ายได้ พอตัดเล่น ๓ แค่ ๒ ตัว พอตัดเล่น ๒ ตัวก็ไปออกตัวเดียว ถ้าเล่นเลขตัวเดียวจะไม่ออกเลย เขาตั้งใจมาแกล้ง อยากรู้ว่าเราโลภหรือเปล่า ? แต่ถ้าบอกคนอื่นจะถูก เพราะเราไม่ได้ซื้อเอง แต่ว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวยุ่ง

เถรี
24-11-2016, 20:04
ถาม : เวลานอนได้ยินเสียงกรน ?
ตอบ : ตัวเราหลับแต่ใจไม่ได้หลับ เหมือนกับเรานอนไม่หลับ แต่จริง ๆ แล้วหลับ บางทีนอน ๆ ไปแล้วได้ยินเสียงตัวเองกรน ก็สงสัยว่าไม่หลับแต่กรนได้อย่างไร ? ความจริงร่างกายหลับไปแล้ว เพียงแต่หลับแบบมีสติ กำลังใจจะทรงอยู่แค่จุดเดียว ถึงเวลาเกิดอะไรขึ้น ถ้าอยากรู้ก็จะคลายความรู้สึกออกมารับรู้ข้างนอก ถ้าหากหมดก็วิ่งกลับไปที่เดิม ตอนนั้นต้องเป็นประเภทกลัวกิเลสจะกินเรา จึงหลบสุดชีวิตเลย

ถาม : เวลานอน เหมือนกับตนเองวูบ เราก็คิดว่าเราจะขยับ แต่ก็ขยับไม่ได้ คือสมาธิระดับไหนคะ ?
ตอบ : ก็คือระดับของสมาธิที่อยู่ในปฐมฌานหยาบ เราจะบังคับร่างกายไม่ได้ เพราะจิตกับประสาทแยกออกจากกัน ถ้าผีจะหลอกเขาจะหลอกตอนนี้แหละ เราจะสังเกตว่าที่เขาเรียกว่าผีอำก็อาการนี้แหละ เป็นช่วงที่เขาเข้ามา แล้วเราเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะจิตกับประสาทแยกจากกัน บังคับร่างกายไม่ได้ ให้หมั่นซ้อมลมหายใจเข้าออกไว้ เดี๋ยวพอเข้าออกได้คล่องก็จะได้ดีเอง ตั้งหน้าตั้งตาทำไป เรื่องอื่นอนุญาตให้ขี้เกียจได้ ยกเว้นเรื่องการปฏิบัติ

เถรี
24-11-2016, 20:09
ถาม : เวลาตัดร่างกาย อยากจะไปเลยแต่ไปไม่ได้ ?
ตอบ : ยังไม่ถึงเวลาไปนะสิ

ถาม : ทำไมถึงไปไม่ได้ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก เป็นเรื่องธรรมดา ถ้ายังไม่ถึงวาระนี่ อาตมาเองก็ไปไม่ได้หรอก

เถรี
24-11-2016, 20:13
ถาม : หนูเห็นเขาโพสต์เขาบอกว่า "ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป" หนูไม่รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่า รู้สึกว่าเกิดพอแล้ว ไม่อยากเกิดตามอีกแล้ว ?
ตอบ : หนูคิดถูกแล้ว เพราะหลวงพ่อพูดมา ๒ ครั้งแล้วว่า ในหลวงติงมาว่า “ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป” นี่เป็นอธิษฐานบารมี ถ้าไปเกิดร่วมกันแล้วลำบากลำบนขึ้นมา อย่าไปต่อว่าพระองค์ท่านนะ

ถาม : มีความรู้สึกละอายค่ะ ที่คิดไม่เหมือนคนอื่น ?
ตอบ : ไม่ต้องละอายหรอก เราทำถูกแล้ว อาตมาก็ไม่เคยอธิษฐานว่าขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป เพียงแต่ว่าชาตินี้มีอะไรก็ทำถวายอย่างเต็มที่

เถรี
27-11-2016, 15:07
พระอาจารย์กล่าวว่า “สมัยเด็ก ๆ เวลาเรียนหนังสือ ไปบอกพ่อแม่ว่าสอบได้ที่ ๑ แล้วเห็นพ่อแม่ดีใจ อาตมาก็ปลื้มใจไปด้วย ถึงได้บอกว่าพ่อแม่จะยากจนอย่างไรก็ตาม ถ้าลูก ๆ เรียนเก่ง พ่อแม่ก็มีกำลังใจตะเกียกตะกายหาเงินมาส่งให้เรียน สมัยนี้เห็นพ่อแม่ทุ่มเทจนแทบจะเรียนแทนลูก แต่ลูกไม่ค่อยอยากเรียนกัน เป็นเพราะอะไร ?”

เถรี
27-11-2016, 15:22
พระอาจารย์กล่าวว่า “ฝากสำหรับญาติโยมที่อยู่กรุงเทพฯ ต่างจังหวัดคงไม่ต้อง ให้หาโอ่งหรือถังใหญ่ตุนน้ำไว้บ้าง ถ้าหากว่าจะเอามากก็สัก ๓-๔ ถังก็ได้ เปิดน้ำใส่ทิ้งไว้เฉย ๆ ปีหน้าจะแล้งกว่าปีนี้ ปีนี้เตือนโยมแล้วปรากฏว่ารอดไปได้หวุดหวิด เพราะฝนมาทันพอดี”

เถรี
27-11-2016, 15:23
พระอาจารย์กล่าวว่า “ใครที่อยากลดน้ำหนักแล้วก็อยากเล่นไลน์ ให้ใช้วิธีเดินไปเล่นไลน์ไป เพราะอย่างไรเสียก็เล่นวันหนึ่ง ๒-๓ ชั่วโมงอยู่แล้ว เดินไปก็กดไป รับประกันว่าผอมแน่นอน ถ้าไม่รู้จะเดินไปไหนก็เดินวนในห้อง เดินรอบบ้าน เดินไปปากซอย จะสนุกเพลิน ๆ บางทีไม่รู้ตัวเดินไปตั้ง ๑๐-๒๐ กิโลเมตรแล้ว”

เถรี
27-11-2016, 15:26
พระอาจารย์กล่าวว่า “ตอนนี้มีการตั้งสมาพันธ์ชาวพุทธ วัตถุประสงค์เพื่อปกป้องพุทธศาสนา มีการตั้งสาขาตามภาคต่าง ๆ และมีการหาทุนส่งคนลงสมัคร ส.ส. เพื่อจะได้เป็นสิทธิ์เป็นเสียงให้กับชาวพุทธของเราบ้าง ทางสมาพันธ์ฝากหนังสือมาจำหน่าย ถ้าใครอยากจะซื้อหนังสือเพื่อช่วยสมาพันธ์ชาวพุทธก็ได้

อาตมาเองเป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาสาขาภาคตะวันตกของสมาพันธ์ชาวพุทธ ประกอบไปด้วยกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ๕ จังหวัด จะว่าไปแล้วก็ใหญ่เหมือนกัน พระเรามีหน้าที่สนับสนุนให้โยมเขาออกหน้า ไม่อย่างนั้นพอมีปัญหาเกิดอะไรขึ้นมา เขาบอกว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ พระก็เดี้ยงเลย ทำอะไรไม่ได้

แต่ว่าศาสนาอื่นเขาส่งคนไปเล่นการเมือง ไปออกกฎหมายที่สนับสนุนของเขาจนกระทั่งจะยึดประเทศไทยอยู่แล้ว จึงจำเป็นที่ศาสนาพุทธของเราต้องตื่นตัวบ้าง คราวนี้ถ้าหากว่าเราตื่นเฉย ๆ ก็ไม่มีประโยชน์ ต้องช่วยกันด้วย ในเมื่อจะช่วยกันก็ไม่ได้รบกวนมาก ซื้อหนังสือคนละเล่มสองเล่มก็พอแล้ว เพื่อหาทุนให้กับสมาพันธ์เขา

ตอนนี้ทางด้านเชียงใหม่ซึ่งเป็นสมาพันธ์ภาคเหนือกับบึงกาฬที่เป็นสมาพันธ์ภาคอีสาน มีการแสดงออกที่ชัดเจนมาก ก็คือ ต่อต้านศาสนาอิสลามทุกรูปแบบ บึงกาฬนี่ห้ามสร้างมัสยิดเลย ประกาศตนเป็นจังหวัดที่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติแห่งแรกของประเทศไทย ส่วนเชียงใหม่นั้นต่อต้านไม่ให้มีโรงงานอาหารฮาลาล เพราะว่ามีแต่จะสร้างมลพิษ กอบโกยประโยชน์ไป ไม่ได้ให้อะไรกับพื้นที่เลย"

เถรี
27-11-2016, 15:28
"ภาคตะวันตกของอาตมาไม่ห้ามหรอก แต่โตไม่ได้ ถึงเวลาพระเปิดเสียงทำวัตร ต้องถามพระครูหน่อยดู เสียงตามสายดังหน่อยเดียว เขายกมาทั้งหมู่บ้านเลย ไม่ให้เปิด แต่ของเขาละหมาดวันละ ๕ ครั้ง เสียงดังสนั่นหวั่นไหวกลับไม่เป็นไร แบบนี้แปลว่าอะไร ? แปลว่าเขาไม่ยอมอยู่ร่วมกับเราหรืออย่างไร ? ของเราเองมีอะไรเราอดทนอดกลั้นทุกอย่าง แต่ว่าอดทนอดกลั้นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะว่าเขาไม่ยอมอดทนอดกลั้นกับสิ่งที่เราทำบ้าง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้กระทบอะไรในการดำเนินชีวิตประจำวันของเขา

อาตมาเปิดเสียงตามสายที่วัดท่าขนุนครั้งแรก ปี ๒๕๔๔ เขาไปแจ้งความดำเนินคดีว่ากระจายเสียงในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต อาตมาก็เลยไปขอใบอนุญาต มีกระทั่งใบอนุญาตตั้งสถานีวิทยุให้หมดเรื่องหมดราวไปเลย สถานีวิทยุของอาตมาได้รับอนุญาตให้ตั้งเสาสูงได้ไม่เกิน ๖๐ เมตร ไอ้ ๖๐ เมตรนี่ไปได้ทั่วประเทศไทยเลยนะ

ถ้าเรามัวแต่เฉยอยู่ก็จะกลายเป็นพลังเงียบ และเงียบจนเขายึดบ้านยึดเมืองเราอยู่แล้ว แต่เราก็ยังเฉยอยู่ เพราะฉะนั้น...ตอนนี้จะเฉยไม่ได้ อิสลามเขาพยายามสนับสนุนพวกเขาให้เป็นใหญ่เป็นโต เพื่อที่จะได้ยึดครองประเทศได้ง่าย แต่ต้องบอกว่าเคลื่อนไหวแรงไปหน่อยไก่เลยตื่น เขาวางแผนว่าปี ๒๕๖๓ จะยึดประเทศไทย ตั้งเป็นสาธารณรัฐอิสลาม ก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง ๔ ปีดี"

เถรี
27-11-2016, 15:31
"แผ่นดินนี้บรรพบุรุษของเราถวายไว้เป็นพุทธบูชา พระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ถวายแผ่นดินนี้เป็นพุทธบูชาแก่ศาสนาพระพุทธโคดม ในหลวงรัชกาลที่ ๑ ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า “ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา” ในเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วเขาเป็นใคร ? จะมาเอาแผ่นดินที่พระมหากษัตริย์ของเราทุ่มเทเลือดเนื้อและชีวิตช่วงชิงไว้ให้ลูกหลานไทย

อาตมายืนยันว่าจริง ๆ แล้วอิสลามไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก เพราะจำนวนคนของเขาแค่หยิบมือเดียว เพียงแต่พวกนี้เขาเสียงดัง อาศัยการซื้อสื่อ อาศัยสร้างข่าว เมื่อไม่กี่วันก่อนก็ปลอมตัวบวชเข้ามาเป็นพระ แล้วไปโอบไหล่ถ่ายเซลฟี่กับผู้หญิง ยังดีว่าการข่าวของเราเร็ว ก็เลยเอารูปตอนที่เป็นฆราวาสมาให้ดู เขาถึงได้รู้ว่าเป็นแผนของอิสลามที่ส่งคนเข้ามาบวชเพื่อทำลายพุทธศาสนา

ปัจจุบันนี้อะไรที่ทำเลว ๆ ในวัดนอกวัดนี่สืบย้อนหลังไปเถอะ ส่วนใหญ่จะเป็นอิสลามเข้ามาเพื่อทำลายศาสนาพุทธทั้งนั้น เพราะเขาซื้อสื่ออยู่ในมือเขาแล้ว สถานีโทรทัศน์บางแห่งระดับผู้บริหารเป็นอิสลามหมดแล้ว พอถึงเวลาเรื่องเล็กนิดเดียวเขาก็ช่วยกระพือเรื่องให้ใหญ่โต ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าศาสนาพุทธไม่น่านับถือ ไม่น่าเลื่อมใส ไม่น่าเป็นที่พึงได้ ถ้าหากว่าของเราไม่มีเครื่องยึดโยงให้คนอยู่ร่วมกันได้ เขาก็จะทำลายได้ง่าย

ช่วย ๆ กันทำหน้าที่ไป ถ้าเราทำเต็มที่แล้วยังสู้เขาไม่ได้ก็ต้องบอกว่าฝีมือไม่ถึงจริง ๆ สมัยพุทธกาลเขาถึงขนาดวางแผนทำลายพระพุทธเจ้าเลย ที่เอานางสุนทรีที่เป็นลูกศิษย์ตัวเองมาฆ่าแล้วทิ้งไว้ข้างวัด แล้วก็บอกว่าโดนพระพุทธเจ้าหรือว่าพระสงฆ์ข่มขืนแล้วก็ฆ่าทิ้ง แต่เสียดายว่าพวกรับเงินไปผยองไปหน่อย ไปเมากันอยู่ในโรงเหล้าแล้วคุยเสียงดัง ราชบุรุษของพระเจ้าปเสนธิโกศลจับได้ เอาไปถวายพระเจ้าแผ่นดินให้สอบสวน โดนประหารเกลี้ยง..!"

เถรี
29-11-2016, 21:28
ถาม : ปกติผมไม่ค่อยได้อ่านธรรมะ แต่ช่วงนี้ได้อ่านธรรมะ แล้วมีความคิดไม่ดีต่อพระพุทธศาสนา ?
ตอบ : เขาเรียกว่ากิเลสมารหลอก บุคคลประเภทนี้ถ้าตั้งใจปฏิบัติธรรมจะได้ผลเร็ว มารจึงหลอกให้ปรามาสพระรัตนตรัย คือ คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี ต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าหากว่าเราคิด พูด ทำไปแล้วไม่ได้ขอขมา โอกาสที่ปฏิบัติแล้วจะได้มรรคได้ผลก็ไม่มี

ต้องบอกว่ามารเขาแกล้งเรา เราก็แค่ตั้งใจขอขมาพระทุกวัน แล้วก็เริ่มทำความดีได้แล้ว เพราะว่าถ้ามารเขากันตั้งแต่แรก แปลว่าเราทำแล้วต้องได้ดีแน่ ๆ

ถาม : ผมขอขมาทุกวัน แล้วความคิดพวกนี้จะหายไปไหมครับ ?
ตอบ : ขอขมาไปเรื่อย ๆ สักระยะหนึ่ง พอเขาเห็นว่ากวนให้ใจเราขุ่นไม่ได้เขาก็จะเลิกไปเอง แต่ถ้าหากว่ากวนแล้วเรายังขุ่น ยังหงุดหงิดอยู่ แสดงว่าเขาทำสำเร็จ

ถาม : ผมควรจะอ่าน...?
ตอบ : จะอ่านอะไรก็อ่านไปแต่ว่าให้รักษาศีลและปฏิบัติสมาธิภาวนาควบไปด้วย รักษาศีลเราจะได้มีเกราะป้องกันตัวเอง ปฏิบัติสมาธิเราจะได้มีกำลังสู้กับเขา

ถาม : ผมรักษาศีล พยายามงดเหล้าได้ ๓ อาทิตย์แล้วครับ ?
ตอบ : หยุดแค่ ๓ อาทิตย์ นี่แปลว่าเลิกได้ตลอดชีวิตแล้ว เพราะว่าเราจะอยากแค่อาทิตย์แรกเท่านั้น แต่ระวังนะ...ถ้าเจ้าพวกนี้เขาตั้งใจแกล้งจริง ๆ นี่บางทีเราจะฝันเป็นจริงเป็นจังเลยว่าเรากินเหล้า...จนตกใจ เพราะว่าฝันเหมือนจริงทุกอย่างเลย สัมผัสเหมือนจริงทุกอย่างแต่ความจริงเป็นแค่ฝัน ลองดูไปสักระยะ...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ใช่เลย ไปเริ่มต้นทำได้แล้ว เสียเวลามานานมากแล้ว

ถาม : เริ่มต้นคือ ?
ตอบ : บอกแล้วว่ารักษาศีลกับนั่งสมาธิ

ถาม : ชีวิตผมเปลี่ยนไปเยอะ แต่ไม่รู้ว่าควรจะอ่านจากตรงไหน ?
ตอบ : หาหนังสือกรรมฐาน ๔๐ หรือคู่มือปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อวัดท่าซุงมาเป็นหลัก แล้วทำตามนั้นแหละ

เถรี
30-11-2016, 19:23
ถาม : (จับแมวอาบน้ำ)
ตอบ : อย่าไปจับแมวอาบน้ำ พวกสัตว์ตระกูลแมวตระกูลเสือเขาไม่ชอบน้ำ ไปจับอาบน้ำเดี๋ยวเป็นปอดบวมตาย ยกเว้นว่าเขาจะลงไปแช่ของเขาเอง แค่เอาหวีสาง ๆ ขนให้เขาก็พอ ที่เหลือเดี๋ยวเขาทำความสะอาดของเขาเอง คนเราถ้าอาบน้ำแบบแมวก็ดีนะ เลียมือแล้วก็ลูบหน้าตัวเอง

เถรี
30-11-2016, 19:24
ถาม : เป็นหวัดมีน้ำมูก จะกำหนดภาวนาอย่างไร ?
ตอบ : กำหนดรู้ลมต่อไป พอถึงเวลาที่ลมละเอียดเกิดขึ้นจะไม่เกี่ยวกับน้ำมูกแล้วตอนนั้น พอถึงเวลาเราจะไปรำคาญเสียก่อน ช่วงแรกเป็นน้ำมูกอยู่เราก็ภาวนาของเราไป พอถึงเวลาลมละเอียดก็จะลืมไปเอง

เถรี
30-11-2016, 19:25
ถาม : จัดการกับโทสะ ?
ตอบ : เราก็ต้องสร้างสติให้เกิด พอมีสติก็จะไม่ระเบิดใส่คนอื่น หลังจากนั้นก็มาพิจารณาให้เห็นว่าเป็นโทษอย่างไร ถ้าหากว่ารู้ว่าเป็นโทษก็จะไม่ไปยุ่งอีก ฉะนั้น...อันดับแรกคือสร้างสติ วิธีสร้างสติที่ดีที่สุดก็คือ พยายามรู้ลมหายใจเข้าออกให้ได้ จริง ๆ แล้วถ้าอยู่กับลมหายใจเข้าออกได้ก็แก้ได้ทุกเรื่อง เพียงแต่ว่าถ้าจะให้คุมได้สุด ๆ ก็พยายามพิจารณาให้เห็นความไม่ดีไม่งามของความโกรธ เมื่อเห็นโทษก็จะปล่อยวางไปเอง

เถรี
30-11-2016, 19:31
ถาม : เวลาภาวนาแล้วมีอาการร้อนในร่างกาย ?
ตอบ : อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ปกติเขาไม่ให้สนใจ ถ้าเรามัวไปสนใจอยู่จะเสียการปฏิบัติ โบราณเรียกขันธมาร แค่มาแกล้งเราเท่านั้น ถ้าตามสายวิชาของหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านให้สมาทานพระกรรมฐานว่า “ขอมอบกายถวายชีวิต” ในเมื่อมอบกายถวายชีวิต แค่ร้อนนิดร้อนหน่อยเกิดขึ้นไม่ถึงตายหรอก ขนาดตายเขายังยอม เขาไม่ให้สนใจ ภาวนาไปเรื่อยเดี๋ยวก็หายไปเอง ถ้าไปสนใจภาวนาต่อไม่ได้ เขาก็ขวางเราได้สำเร็จ เขาถึงได้เรียกว่าขันธมาร คือร่างกายของเรามาขวาง

เถรี
30-11-2016, 19:34
ถาม : ภาวนาแล้วรู้สึกตัวแข็ง ตัวแข็งไม่ทราบว่าเป็นฌาน ๓ หรือเปล่า ?
ตอบ : ต้องดูว่าแข็งแบบไหน เราต้องสังเกตของเราเอง ถ้าหากว่าตัวแข็ง หูไม่ได้ยินเสียงภายนอกก็เป็นฌาน ๓ แต่ถ้ารู้สึกว่าตัวขยับไม่ได้ รู้เรื่องภายนอกทุกอย่าง บางทีเป็นแค่ปฐมฌานหยาบ เพราะจิตกับประสาทเริ่มแยกจากกัน เราต้องสังเกตของเราเอง ถ้ายังได้ยินเสียงอยู่ ยังรู้เรื่องอยู่ ไม่ถึงฌาน ๓ หรอก

ถาม : ฌาน ๑ หรือครับ ?
ตอบ : เป็นแค่ฌาน ๑ ขั้นต้น ที่เรียกว่าปฐมฌานขั้นหยาบ

ถาม : ตอนที่ภาวนาแล้วรู้สึกว่าลมหายใจร้อนมาก ?
ตอบ : เมื่อครู่บอกแล้วว่าไม่ต้องใส่ใจ พอเริ่มทรงสมาธิลมหายใจเราจะละเอียดขึ้น พอลมหายใจละเอียดขึ้นการเผาผลาญในร่างกายของเราก็ดีขึ้น บางทีก็รู้สึกว่าร้อนบ้าง ไม่ต้องไปใส่ใจ ปล่อยไป เพียงแต่ว่าถ้าไปโดนของ โดนคุณอะไรมา ก็แสดงว่ากำลังสมาธิของเราสูงกว่า เดี๋ยวก็กดของเขาพังไปเอง

เถรี
30-11-2016, 19:48
ถาม : เวลาผมนั่งสมาธิ รู้สึกร้อนเป็นไฟ ?
ตอบ : บอกแล้วว่าอย่าไปสนใจ พอข้ามตอนนั้นไปได้ก็จบ ข้ามไม่ได้ก็ร้อนไปเรื่อย เรื่องของการปฏิบัติเขาไม่ต้องการคนขี้สงสัย เขาต้องการคนจริง ทุ่มเทได้แม้แต่ชีวิต

เถรี
30-11-2016, 20:03
ถาม : หากเราโดนแกล้งโดยมีคนใส่เหล้าในอาหาร โดยที่เราไม่รู้ ยันต์เกราะเพชรจะยังอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : รู้หรือไม่รู้ก็ขาด กินยาพิษโดยไม่รู้ตายไหมเล่า ?

ถาม : โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือตั้งใจ ก็เหมือนกัน ?
ตอบ : เหมือนกัน เขาเว้นให้อย่างเดียวคือที่ผสมยาตามสูตร แต่ก็ต้องกินตามหมอสั่ง ไม่ใช่กินเอาเมาหรือเอามัน

เถรี
30-11-2016, 20:09
ถาม : ถ้ามีอะไรมาดลใจคนใกล้ชิดเราให้มากดดันเรา เราจะสู้กับแรงกดดันนั้นอย่างไร ?
ตอบ : อันดับแรกสร้างสติ ถ้าสติรู้เท่าทันเราจะรู้ว่าโทสะจะเกิด อันดับต่อไปสร้างสมาธิให้สูงเข้าไว้ จะได้มีกำลังยับยั้งตัวเอง ท้ายสุดใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิดมา ถ้าเห็นโทษก็ไม่อยากจะไปเกิดอีก

ถาม : ถ้าเราไม่ได้ผิด ?
ตอบ : เอ็งผิดตั้งแต่เกิดมาแล้ว..!

เถรี
30-11-2016, 20:11
ถาม : เวลาภาวนา ถ้าเราวิ่งจะได้ผลไหมครับ หรือต้องนั่งนิ่ง ๆ นั่งสมาธิจึงจะได้ผล ?
ตอบ : การภาวนาคาถาต้องหวังผล การที่จะหวังผลสมาธิต้องได้ถึงระดับ แล้วเอ็งวิ่งอยู่นี่ทรงสมาธิได้ระดับนั้นไหม ? ถ้าได้ก็วิ่งไป ถ้าไม่ได้ก็ทนนั่งไปก่อน

เถรี
02-12-2016, 19:53
ถาม : ทำไมพระเจ้ามันธาตุราชจึงไม่ชนะพระอินทร์ครับ ?
ตอบ : มนุษย์ขี้เหม็นอะไรจะไปชนะพระอินทร์ ? แค่เรื่องของความโลภก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว พระองค์ท่านไม่รู้จักพอ โลภอยากได้ไปเรื่อย ในเมื่อเอากิเลสไปพอกตัวแล้วจะไปสู้พระอินทร์ได้อย่างไร ?

เถรี
02-12-2016, 19:54
ถาม : อภิญญาที่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็น ถ้าอยู่ในภพเทวดา ต้องฝึกมโนมยิทธิหรือเปล่าครับจึงจะเห็นได้ ?
ตอบ : เทวดาไม่ต้องฝึก เป็นฤทธิ์โดยวิบากกรรม เกิดมาก็เป็นแล้ว จะฝึกไปทำซากอะไร ?

เถรี
02-12-2016, 19:55
ถาม : (การไหว้กันของพระ)
ตอบ : พระท่านมีธรรมเนียมอยู่ว่า ผู้ที่มีอาวุโสน้อยกว่าต้องทำสามีจิกรรม คือแสดงความเคารพผู้ที่อาวุโสมากกว่า ผู้ที่อาวุโสมากกว่าพอพระผู้น้อยแสดงความเคารพ ก็ต้องแสดงความเคารพตอบ เป็นระเบียบที่พระพุทธเจ้าทรงวางเอาไว้ ถ้าหากว่าไม่ทำก็ต้องอาบัติ (ศีลขาด)

เถรี
02-12-2016, 19:55
:4672615:เก็บตกเดือนพฤศจิกายน ปี ๕๙ หมดแล้วค่ะ :4672615:

ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า คะน้าอ่อน เถรี รัตนาวุธ

ชยาคมน์
09-12-2016, 00:48
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาสร้างเมรุวัดท่าขนุน ตั้งงบไว้ ๑๕ ล้านบาท ขอแสดงความยินดีกับตัวเองด้วย ทะลุไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ยังไม่เสร็จ...! หมดไป ๑๗ ล้านกว่า ๆ แล้ว

ช่วงปลายฝนต้นหนาว ได้เคยเตือนไว้ว่า ถ้ามีคนป่วยหรือคนแก่ให้ดูแลดี ๆ เนื่องจากช่วงอากาศเปลี่ยน คนแก่หรือคนป่วยทนไม่ไหวมักจะตายกัน ที่ทองผาภูมิ พระสังฆาธิการ คือ เจ้าอาวาสวัดสะพานลาว มรณภาพ ๑ รูป ญาติโยมก็ตายติด ๆ กัน ๓ ศพ เอาไปเผาวัดท่าขนุนอีกศพหนึ่งแล้ว เมรุนี้ดูท่ากิจการจะรุ่งเรือง...! ยังสร้างไม่ทันจะเสร็จเลย เผาได้เผาดี"

ภาพเมรุวัดท่าขนุน ณ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ (ให้น้องทีมงานภาพทางอากาศถ่ายให้ครับ)

https://www.mx7.com/i/df9/TtThpm.jpg (https://www.mx7.com/view2/zxcSSS8OOWck4Uhe)

https://www.mx7.com/i/c4f/Sf0OKJ.jpg (https://www.mx7.com/view2/zxcT2NxUL7VWalH3)

https://www.mx7.com/i/d7c/hiOzYs.jpg (https://www.mx7.com/view2/zxcTbj2hzcdHYFZe)

https://www.mx7.com/i/982/AXg5gW.jpg (https://www.mx7.com/view2/zxcThGEyFuWhPBqA)

เก็บมาฝากครับจะได้เข้าใจว่า "เมรุราคา ๑๗ ล้านกว่า ๆ หน้าตาเป็นอย่างไร"

ผมเดินผ่านตอนแรกนึกว่า "พระเจดีย์"