เถรี
28-04-2016, 14:54
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจออกมา จะกำหนดรู้ลมเป็นฐานเดียว ๓ ฐาน ๗ ฐาน หรือรู้ตลอดกองลมก็ได้ จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ช่วง ๒ วันที่ผ่านมาตลอดจนถึงวันนี้ มีหลายท่านที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติ ทำให้จับจุดได้ว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ส่วนหนึ่งปฏิบัติธรรมไปแล้วเจอปัญหาแล้วไปต่อไม่ได้ อีกส่วนหนึ่งไม่ได้ปฏิบัติธรรม แต่ไปคิดว่าคาดว่า เมื่อปฏิบัติแล้วน่าจะเป็นเช่นนั้นเช่นนี้
ในส่วนของปฏิบัติธรรมแล้วไปต่อไม่ได้ เพราะว่าเราลืมว่าการปฏิบัติของเรานั้น เป็นเพียงสมถกรรมฐาน เมื่อไปถึงที่สุด กำลังใจรับต่อไม่ไหว เหมือนกับเติมข้าวของลงไปเต็มภาชนะแล้ว ก็มีแต่จะล้นเสียเปล่า ๆ กำลังใจก็จะคลายออกมาเอง เราจำเป็นต้องหาวิปัสสนากรรมฐานมาให้ครุ่นคิด ไม่อย่างนั้นสภาพจิตจะเอากำลังสมาธิที่ได้ ไปฟุ้งซ่านในเรื่องของ รัก โลภ โกรธ หลง และจะเป็นการฟุ้งที่รุนแรงมาก เพราะได้กำลังสมาธิไปช่วย ทำให้บางท่านรู้สึกว่า ทำไมยิ่งปฏิบัติกิเลสยิ่งมากเป็นพิเศษ ก็เพราะว่าพวกเราปฏิบัติผิดวิธี
สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานเหมือนกับคนที่ผูกขาติดกัน ต้องผลัดกันก้าวทีละข้างถึงจะไปได้ ถ้าพยายามก้าวขาข้างเดียว เมื่อไปสุดเชือกหรือโซ่ที่ผูกไว้ก็จะโดนดึงกลับ ดังนั้น...เมื่อท่านทั้งหลายภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัว โปรดระมัดระวังเอาไว้ ถ้าสมาธิเริ่มเคลื่อนเริ่มคลายตัวออกมา ให้รีบหาวิปัสสนาญาณให้ใจได้ครุ่นคิด อย่างเช่นว่าดูในเรื่องของอริยสัจ ๔ ก็ได้ ในเรื่องของขันธ์ ๕ ก็ได้ ในเรื่องอายตนะ ๖ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ หรือปฏิจจสมุปบาทก็ได้
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ช่วง ๒ วันที่ผ่านมาตลอดจนถึงวันนี้ มีหลายท่านที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติ ทำให้จับจุดได้ว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ส่วนหนึ่งปฏิบัติธรรมไปแล้วเจอปัญหาแล้วไปต่อไม่ได้ อีกส่วนหนึ่งไม่ได้ปฏิบัติธรรม แต่ไปคิดว่าคาดว่า เมื่อปฏิบัติแล้วน่าจะเป็นเช่นนั้นเช่นนี้
ในส่วนของปฏิบัติธรรมแล้วไปต่อไม่ได้ เพราะว่าเราลืมว่าการปฏิบัติของเรานั้น เป็นเพียงสมถกรรมฐาน เมื่อไปถึงที่สุด กำลังใจรับต่อไม่ไหว เหมือนกับเติมข้าวของลงไปเต็มภาชนะแล้ว ก็มีแต่จะล้นเสียเปล่า ๆ กำลังใจก็จะคลายออกมาเอง เราจำเป็นต้องหาวิปัสสนากรรมฐานมาให้ครุ่นคิด ไม่อย่างนั้นสภาพจิตจะเอากำลังสมาธิที่ได้ ไปฟุ้งซ่านในเรื่องของ รัก โลภ โกรธ หลง และจะเป็นการฟุ้งที่รุนแรงมาก เพราะได้กำลังสมาธิไปช่วย ทำให้บางท่านรู้สึกว่า ทำไมยิ่งปฏิบัติกิเลสยิ่งมากเป็นพิเศษ ก็เพราะว่าพวกเราปฏิบัติผิดวิธี
สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานเหมือนกับคนที่ผูกขาติดกัน ต้องผลัดกันก้าวทีละข้างถึงจะไปได้ ถ้าพยายามก้าวขาข้างเดียว เมื่อไปสุดเชือกหรือโซ่ที่ผูกไว้ก็จะโดนดึงกลับ ดังนั้น...เมื่อท่านทั้งหลายภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัว โปรดระมัดระวังเอาไว้ ถ้าสมาธิเริ่มเคลื่อนเริ่มคลายตัวออกมา ให้รีบหาวิปัสสนาญาณให้ใจได้ครุ่นคิด อย่างเช่นว่าดูในเรื่องของอริยสัจ ๔ ก็ได้ ในเรื่องของขันธ์ ๕ ก็ได้ ในเรื่องอายตนะ ๖ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ หรือปฏิจจสมุปบาทก็ได้