เถรี
04-11-2015, 15:24
ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติ คือความรู้สึกของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ เป็นการปฏิบัติธรรมวันแรกของต้นเดือนพฤศจิกายน เมื่อ ๒ วันที่ผ่านมา ทางวัดมีงานตักบาตรเทโวฯ และทอดกฐินสามัคคี ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างแล้วรู้สึกสลดใจว่า พวกเราส่วนใหญ่ก็คือนักปฏิบัติ ที่มุ่งหวังความดี มุ่งในบุญในกุศล แต่ว่าสิ่งที่กระทำไป บางทีก็ไม่สมกับเป็นนักปฏิบัติเลย
เช่น การรับสิ่งของต่าง ๆ ที่ญาติโยมนำมาใส่บาตรแก่พระภิกษุสงฆ์ แม้ว่าจะมีการนัดแนะในเบื้องต้นบางส่วนแล้ว แต่พอไปถึงสถานที่ ถึงคลังวัสดุ ฝ่ายที่นำของไปส่ง สักแต่ว่าลงของส่งเดชไป จนกระทั่งเกิดการแตก การเสียหายขึ้นมาเป็นจำนวนมาก แสดงออกถึงสภาพจิตของตนว่าหยาบมาก ไม่เห็นความสำคัญในสิ่งของทั้งหลายเหล่านั้น เห็นสักแต่ว่าเป็นของที่คนใส่บาตร จิตก็ยังหยาบพอที่จะไม่เห็นในส่วนของบุญกุศลที่คนอื่นตั้งใจกระทำ
ถ้าหากว่าสภาพจิตละเอียดกว่านั้น แม้กระทั่งเห็นคนที่ยืนรอใส่บาตรอยู่ ก็จะเห็นว่า โอหนอ...นี่คือคุณของพระพุทธเจ้าหนอ โอหนอ...นี่คือคุณของพระธรรมหนอ โอหนอ... นี่คือคุณของพระสงฆ์หนอ คนทั้งหลายเหล่านี้จึงได้สละเวลาอันมีค่าของตนเอง สละทรัพย์สินที่ตนเองหามาได้ยาก เพื่อที่จะนำมาทำบุญใส่บาตร อนุเคราะห์สงเคราะห์ต่อพระภิกษุสามเณร
เมื่อเห็นข้าวของที่คนนำมาใส่บาตรย่อมคิดว่า โอหนอ...นี่คืออานุภาพของพระพุทธเจ้าหนอ โอหนอ...นี่คืออานุภาพของพระธรรมหนอ โอหนอ...นี่คืออานุภาพของพระสงฆ์หนอ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จึงบังเกิดขึ้น จึงมีขึ้น ถ้าความรู้สึกของเราเคารพในพระรัตนตรัยเต็มเปี่ยมอย่างนี้ ก็จะปฏิบัติต่อทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเคารพ เหมือนกับที่พระภิกษุสงฆ์สามเณรต้องเคารพในทาน เคารพในวัตถุทานที่บุคคลอื่นให้ ถึงขนาดต้องถอดรองเท้าเพื่อรับในทานนั้น ๆ
ถ้าเรามีความเคารพในทาน มีความเคารพในวัตถุทาน เห็นคุณความดีว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ได้มาด้วยอานุภาพของพระรัตนตรัย เราก็จะปฏิบัติต่อสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นด้วยความเคารพ ปฏิบัติในลักษณะที่เห็นยิ่งในคุณพระรัตนตรัย ซึ่งแฝงอยู่ในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ใช่เห็นว่าเป็นวัตถุทานที่สักแต่ว่าโยนกอง ๆ ทับถมกันไปจนเกิดแตกหักเสียหายขึ้นมา
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ เป็นการปฏิบัติธรรมวันแรกของต้นเดือนพฤศจิกายน เมื่อ ๒ วันที่ผ่านมา ทางวัดมีงานตักบาตรเทโวฯ และทอดกฐินสามัคคี ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างแล้วรู้สึกสลดใจว่า พวกเราส่วนใหญ่ก็คือนักปฏิบัติ ที่มุ่งหวังความดี มุ่งในบุญในกุศล แต่ว่าสิ่งที่กระทำไป บางทีก็ไม่สมกับเป็นนักปฏิบัติเลย
เช่น การรับสิ่งของต่าง ๆ ที่ญาติโยมนำมาใส่บาตรแก่พระภิกษุสงฆ์ แม้ว่าจะมีการนัดแนะในเบื้องต้นบางส่วนแล้ว แต่พอไปถึงสถานที่ ถึงคลังวัสดุ ฝ่ายที่นำของไปส่ง สักแต่ว่าลงของส่งเดชไป จนกระทั่งเกิดการแตก การเสียหายขึ้นมาเป็นจำนวนมาก แสดงออกถึงสภาพจิตของตนว่าหยาบมาก ไม่เห็นความสำคัญในสิ่งของทั้งหลายเหล่านั้น เห็นสักแต่ว่าเป็นของที่คนใส่บาตร จิตก็ยังหยาบพอที่จะไม่เห็นในส่วนของบุญกุศลที่คนอื่นตั้งใจกระทำ
ถ้าหากว่าสภาพจิตละเอียดกว่านั้น แม้กระทั่งเห็นคนที่ยืนรอใส่บาตรอยู่ ก็จะเห็นว่า โอหนอ...นี่คือคุณของพระพุทธเจ้าหนอ โอหนอ...นี่คือคุณของพระธรรมหนอ โอหนอ... นี่คือคุณของพระสงฆ์หนอ คนทั้งหลายเหล่านี้จึงได้สละเวลาอันมีค่าของตนเอง สละทรัพย์สินที่ตนเองหามาได้ยาก เพื่อที่จะนำมาทำบุญใส่บาตร อนุเคราะห์สงเคราะห์ต่อพระภิกษุสามเณร
เมื่อเห็นข้าวของที่คนนำมาใส่บาตรย่อมคิดว่า โอหนอ...นี่คืออานุภาพของพระพุทธเจ้าหนอ โอหนอ...นี่คืออานุภาพของพระธรรมหนอ โอหนอ...นี่คืออานุภาพของพระสงฆ์หนอ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จึงบังเกิดขึ้น จึงมีขึ้น ถ้าความรู้สึกของเราเคารพในพระรัตนตรัยเต็มเปี่ยมอย่างนี้ ก็จะปฏิบัติต่อทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเคารพ เหมือนกับที่พระภิกษุสงฆ์สามเณรต้องเคารพในทาน เคารพในวัตถุทานที่บุคคลอื่นให้ ถึงขนาดต้องถอดรองเท้าเพื่อรับในทานนั้น ๆ
ถ้าเรามีความเคารพในทาน มีความเคารพในวัตถุทาน เห็นคุณความดีว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ได้มาด้วยอานุภาพของพระรัตนตรัย เราก็จะปฏิบัติต่อสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นด้วยความเคารพ ปฏิบัติในลักษณะที่เห็นยิ่งในคุณพระรัตนตรัย ซึ่งแฝงอยู่ในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ใช่เห็นว่าเป็นวัตถุทานที่สักแต่ว่าโยนกอง ๆ ทับถมกันไปจนเกิดแตกหักเสียหายขึ้นมา