เถรี
25-04-2014, 11:36
ให้ทุกคนขยับนั่งในท่าที่สบายของตน อย่าลืมว่าต้องตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า คือเอาความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นวันคล้ายวันสถาปนามหาจักรีบรมราชวงศ์ ซึ่งเมื่อ ๒๓๒ ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้สถาปนาราชวงศ์จักรีขึ้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าตั้งกรุงเทพฯ ขึ้นมาเป็นเมืองหลวงแทนกรุงธนบุรี ประกอบไปด้วยองค์พระมหากษัตริย์สืบสันตติวงศ์มาถึงปัจจุบัน ๙ รัชกาลด้วยกัน ระยะเวลา ๒๓๒ ปี มีในหลวงสืบสันตติวงศ์มา ๙ รัชกาล
การสืบสันตติวงศ์ทั้ง ๙ รัชกาลนั้น ประกอบไปด้วยองค์บุรพมหากษัตริย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในยุคนั้น ๆ มาโดยตลอด แต่ถ้าจะนับองค์บุรพมหากษัตริย์ที่มีผู้รู้จัก ครุ่นคิดถึง เอ่ยถึงติดปากทั้งในและนอกประเทศ คือรัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๕ ตลอดจนกระทั่งในหลวงองค์ปัจจุบัน ก็คือรัชกาลที่ ๙
เราทั้งหลายจะเห็นได้ว่าในหลวงรัชกาลที่ ๑ นั้น ต้องทำศึกสงครามรอบบ้านเกือบตลอดทั้งรัชกาล เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง การตั้งกรุงเทพมหานครหรือกรุงรัตนโกสินทร์ของเราขึ้นมา ก็เกือบจะมาในลักษณะมือเปล่า เนื่องเพราะว่าทรัพย์สมบัติในท้องพระคลังแทบจะไม่หลงเหลือเลย ในสมัยกรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชถึงขนาดต้องไปยืมเงินเจ้าสัวเมืองจีน เพื่อเอามาสร้างบ้านแปลงเมือง จนกระทั่งกลายเป็นกรุงธนบุรีขึ้นมา
ในหลวงรัชกาลที่ ๑ จึงต้องประกอบไปด้วยความทุกข์ยากลำบาก นอกจากต้องรบทัพจับศึกแล้ว ยังต้องสร้างพระนครใหม่ ทำนุบำรุงไพร่ฟ้าประชากร อุปถัมภ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา โดยที่แทบจะไม่มีงบประมาณแผ่นดินเลย พอมาถึงสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๕ บ้านเมืองเราก็สูญเสียดินแดนให้แก่มหาอำนาจต่าง ๆ รอบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเขมรัฐตุงคบุรี หรือที่เรียกว่ารัฐฉาน หรือไทยใหญ่ในปัจจุบัน ในส่วนของหัวพันทั้งห้าทั้งหก ในส่วนของฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ในส่วนของประเทศกัมพูชา ในส่วนของ ๔ รัฐที่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งมาเลเซีย เป็นต้น ถูกบรรดามหาอำนาจบีบคั้นมารอบด้าน
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นวันคล้ายวันสถาปนามหาจักรีบรมราชวงศ์ ซึ่งเมื่อ ๒๓๒ ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้สถาปนาราชวงศ์จักรีขึ้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าตั้งกรุงเทพฯ ขึ้นมาเป็นเมืองหลวงแทนกรุงธนบุรี ประกอบไปด้วยองค์พระมหากษัตริย์สืบสันตติวงศ์มาถึงปัจจุบัน ๙ รัชกาลด้วยกัน ระยะเวลา ๒๓๒ ปี มีในหลวงสืบสันตติวงศ์มา ๙ รัชกาล
การสืบสันตติวงศ์ทั้ง ๙ รัชกาลนั้น ประกอบไปด้วยองค์บุรพมหากษัตริย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในยุคนั้น ๆ มาโดยตลอด แต่ถ้าจะนับองค์บุรพมหากษัตริย์ที่มีผู้รู้จัก ครุ่นคิดถึง เอ่ยถึงติดปากทั้งในและนอกประเทศ คือรัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๕ ตลอดจนกระทั่งในหลวงองค์ปัจจุบัน ก็คือรัชกาลที่ ๙
เราทั้งหลายจะเห็นได้ว่าในหลวงรัชกาลที่ ๑ นั้น ต้องทำศึกสงครามรอบบ้านเกือบตลอดทั้งรัชกาล เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง การตั้งกรุงเทพมหานครหรือกรุงรัตนโกสินทร์ของเราขึ้นมา ก็เกือบจะมาในลักษณะมือเปล่า เนื่องเพราะว่าทรัพย์สมบัติในท้องพระคลังแทบจะไม่หลงเหลือเลย ในสมัยกรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชถึงขนาดต้องไปยืมเงินเจ้าสัวเมืองจีน เพื่อเอามาสร้างบ้านแปลงเมือง จนกระทั่งกลายเป็นกรุงธนบุรีขึ้นมา
ในหลวงรัชกาลที่ ๑ จึงต้องประกอบไปด้วยความทุกข์ยากลำบาก นอกจากต้องรบทัพจับศึกแล้ว ยังต้องสร้างพระนครใหม่ ทำนุบำรุงไพร่ฟ้าประชากร อุปถัมภ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา โดยที่แทบจะไม่มีงบประมาณแผ่นดินเลย พอมาถึงสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๕ บ้านเมืองเราก็สูญเสียดินแดนให้แก่มหาอำนาจต่าง ๆ รอบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเขมรัฐตุงคบุรี หรือที่เรียกว่ารัฐฉาน หรือไทยใหญ่ในปัจจุบัน ในส่วนของหัวพันทั้งห้าทั้งหก ในส่วนของฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ในส่วนของประเทศกัมพูชา ในส่วนของ ๔ รัฐที่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งมาเลเซีย เป็นต้น ถูกบรรดามหาอำนาจบีบคั้นมารอบด้าน