เถรี
19-05-2013, 14:47
ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตัวเอง จะนั่งขัดสมาธิก็ได้ นั่งพับเพียบก็ได้ นั่งบนเก้าอี้ห้อยเท้าก็ได้ กำหนดความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้กำหนดความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าเผลอไปคิดเรื่องอื่น รู้ตัวเมื่อไรให้ดึงความรู้สึกทั้งหมดกลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกเสียใหม่
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ สำหรับการปฏิบัติธรรมในวันนี้ อยากจะย้ำเตือนพวกเราทุกคน โดยเฉพาะท่านที่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่แล้วคนรุ่นใหม่ใจร้อน ใจเร็ว ถ้าพวกใจร้อนใจเร็วมาก ๆ เวลาไปหาพระ ก็มักจะอยากให้พระเสกให้ตนเองเป็นพระอริยเจ้าไปเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้
ในขณะเดียวกัน อีกประเภทหนึ่ง เพิ่งจะเริ่มปฏิบัติธรรม แต่อยากให้จิตของตนสงบ อยากได้ฌานสมาบัติระดับนั้นระดับนี้ อยากเป็นพระอริยเจ้าระดับนั้นระดับนี้ ก็ขอบอกว่า ท่านอยากจะสงบ แต่กลับไป "อยาก" นำหน้าเสียก่อน ตัวอยากจะทำให้เราฟุ้งซ่าน จิตจะไม่มีวันสงบได้อย่างแท้จริง การปฏิบัติของเราต้องสะสมไปทีละเล็กละน้อย เมื่อนานไปผลของการปฏิบัติก็จะมีมากขึ้น แล้วจะเริ่มเห็นผลชัดเจนต่อเมื่อปฏิบัติต่อเนื่องไประยะหนึ่งแล้ว
ดังนั้น..เราจะใจร้อนใจเร็วไม่ได้ ต้องค่อย ๆ ตามดู ตามรู้ลมหายใจเข้าออกของเราไป หายใจเข้าตามดูไปว่าเรารู้ลมได้ตลอด จมูก อก ท้อง หรือไม่ ? หายใจออกตามดูว่าลมของเราออกจากท้อง ผ่านอก มาจมูก โดยสามารถรู้ครบถ้วนทุกฐานหรือไม่ ? ถ้าสามารถทำดังนี้ได้ก็นับหนึ่ง หายใจเข้าผ่านจมูก..ผ่านกึ่งกลางอก..ลงไปสุดที่ท้อง หายใจออกจากท้อง..ผ่านกึ่งกลางอก..มาสุดที่ปลายจมูก ถ้าไม่คิดเรื่องอื่นเลยก็นับสอง ให้ค่อย ๆ สะสมไปทีละเล็กทีละน้อยเช่นนี้ ถ้าเผลอคิดเรื่องอื่นเมื่อไร ให้ดัดสันดานตนเองด้วยการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ถ้าทำดังนี้จะเห็นได้ว่า แม้แต่นับหนึ่งถึงสิบ โดยกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกไม่ให้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก จำเป็นต้องใช้ความพากเพียรพยายาม จำเป็นต้องใช้ความตั้งใจที่แน่วแน่มั่นคง จำเป็นต้องใช้ความจริงจัง จริงใจในการปฏิบัติ อย่างชนิดทุ่มเทด้วยชีวิต
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ สำหรับการปฏิบัติธรรมในวันนี้ อยากจะย้ำเตือนพวกเราทุกคน โดยเฉพาะท่านที่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่แล้วคนรุ่นใหม่ใจร้อน ใจเร็ว ถ้าพวกใจร้อนใจเร็วมาก ๆ เวลาไปหาพระ ก็มักจะอยากให้พระเสกให้ตนเองเป็นพระอริยเจ้าไปเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้
ในขณะเดียวกัน อีกประเภทหนึ่ง เพิ่งจะเริ่มปฏิบัติธรรม แต่อยากให้จิตของตนสงบ อยากได้ฌานสมาบัติระดับนั้นระดับนี้ อยากเป็นพระอริยเจ้าระดับนั้นระดับนี้ ก็ขอบอกว่า ท่านอยากจะสงบ แต่กลับไป "อยาก" นำหน้าเสียก่อน ตัวอยากจะทำให้เราฟุ้งซ่าน จิตจะไม่มีวันสงบได้อย่างแท้จริง การปฏิบัติของเราต้องสะสมไปทีละเล็กละน้อย เมื่อนานไปผลของการปฏิบัติก็จะมีมากขึ้น แล้วจะเริ่มเห็นผลชัดเจนต่อเมื่อปฏิบัติต่อเนื่องไประยะหนึ่งแล้ว
ดังนั้น..เราจะใจร้อนใจเร็วไม่ได้ ต้องค่อย ๆ ตามดู ตามรู้ลมหายใจเข้าออกของเราไป หายใจเข้าตามดูไปว่าเรารู้ลมได้ตลอด จมูก อก ท้อง หรือไม่ ? หายใจออกตามดูว่าลมของเราออกจากท้อง ผ่านอก มาจมูก โดยสามารถรู้ครบถ้วนทุกฐานหรือไม่ ? ถ้าสามารถทำดังนี้ได้ก็นับหนึ่ง หายใจเข้าผ่านจมูก..ผ่านกึ่งกลางอก..ลงไปสุดที่ท้อง หายใจออกจากท้อง..ผ่านกึ่งกลางอก..มาสุดที่ปลายจมูก ถ้าไม่คิดเรื่องอื่นเลยก็นับสอง ให้ค่อย ๆ สะสมไปทีละเล็กทีละน้อยเช่นนี้ ถ้าเผลอคิดเรื่องอื่นเมื่อไร ให้ดัดสันดานตนเองด้วยการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ถ้าทำดังนี้จะเห็นได้ว่า แม้แต่นับหนึ่งถึงสิบ โดยกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกไม่ให้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก จำเป็นต้องใช้ความพากเพียรพยายาม จำเป็นต้องใช้ความตั้งใจที่แน่วแน่มั่นคง จำเป็นต้องใช้ความจริงจัง จริงใจในการปฏิบัติ อย่างชนิดทุ่มเทด้วยชีวิต