โอรส
19-02-2013, 22:59
ถาม : .... ?
ตอบ: คนที่เขาตั้งใจทำดีจริง ๆ ไม่มีใครหรอกที่ยอมเสียเวลากับเรานาน กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียว อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน อะไรก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ เพราะเป็นทุกข์เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ ยังไม่รู้ว่าอีกกี่ชาติกี่ภพกว่าที่จะตัดการเกิดได้ เผลอเกิดใหม่ ถ้าเกิดเราไปสร้างกรรมก็สาหัสอีก พาเรายาวไปเรื่อยอีก ก็เลยกลายเป็นว่า ถ้าเกิดใหม่..นี่น่ากลัวมาก
พระท่านถามว่า "พระอาจารย์ไม่คิดจะสึกหรือครับ ?" บอกเขาว่า "ตอนนี้นะคุณ ต่อให้น้องป๊อบ (อารียา สิริโสภา) มาคุกเข่าอยู่ตรงหน้า บอกว่า ท่านเจ้าขา สึกไปแต่งงานกับดิฉันเถอะ" อาตมาบอกว่า "ยังไม่กล้าไปเลย โลกน่ากลัวขนาดไหนก็ไม่รู้ ผมอธิบายไม่ถูก"
ตอนนี้เห็นโทษชัด ๆ เลย สึกออกไปไม่ใช่ไปแต่งกับน้องป๊อบคนเดียว ครอบครัวน้องป๊อบเราก็ต้องรับผิดชอบใช่ไหม ? ครอบครัวตัวเองก็ต้องรับผิดชอบ มีลูกก็ต้องเพิ่มความรับผิดชอบลูก มีหลานก็ต้องเพิ่มความรับผิดชอบหลาน
อาตมาบอกกับพระเขาว่า "คุณเห็นหรือยังว่าน่ากลัวขนาดไหน ?" พระเขาตอบว่า "เวลาที่ได้ยินพระอาจารย์พูดก็นึกได้ แต่พอลับหลังไปกลับคิดไม่ออก" คือเรื่องของกิเลสแรงกว่า จึงบอกกับพระท่านว่า "ถ้ากำลังใจยังทรงตัวอยู่ในระดับนี้ ผมไม่คิดจะสึกหรอก แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ ถ้ากำลังใจลดลงเมื่อไรก็อาจจะคิดไปเหมือนกัน"
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
ตอบ: คนที่เขาตั้งใจทำดีจริง ๆ ไม่มีใครหรอกที่ยอมเสียเวลากับเรานาน กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียว อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน อะไรก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ เพราะเป็นทุกข์เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ ยังไม่รู้ว่าอีกกี่ชาติกี่ภพกว่าที่จะตัดการเกิดได้ เผลอเกิดใหม่ ถ้าเกิดเราไปสร้างกรรมก็สาหัสอีก พาเรายาวไปเรื่อยอีก ก็เลยกลายเป็นว่า ถ้าเกิดใหม่..นี่น่ากลัวมาก
พระท่านถามว่า "พระอาจารย์ไม่คิดจะสึกหรือครับ ?" บอกเขาว่า "ตอนนี้นะคุณ ต่อให้น้องป๊อบ (อารียา สิริโสภา) มาคุกเข่าอยู่ตรงหน้า บอกว่า ท่านเจ้าขา สึกไปแต่งงานกับดิฉันเถอะ" อาตมาบอกว่า "ยังไม่กล้าไปเลย โลกน่ากลัวขนาดไหนก็ไม่รู้ ผมอธิบายไม่ถูก"
ตอนนี้เห็นโทษชัด ๆ เลย สึกออกไปไม่ใช่ไปแต่งกับน้องป๊อบคนเดียว ครอบครัวน้องป๊อบเราก็ต้องรับผิดชอบใช่ไหม ? ครอบครัวตัวเองก็ต้องรับผิดชอบ มีลูกก็ต้องเพิ่มความรับผิดชอบลูก มีหลานก็ต้องเพิ่มความรับผิดชอบหลาน
อาตมาบอกกับพระเขาว่า "คุณเห็นหรือยังว่าน่ากลัวขนาดไหน ?" พระเขาตอบว่า "เวลาที่ได้ยินพระอาจารย์พูดก็นึกได้ แต่พอลับหลังไปกลับคิดไม่ออก" คือเรื่องของกิเลสแรงกว่า จึงบอกกับพระท่านว่า "ถ้ากำลังใจยังทรงตัวอยู่ในระดับนี้ ผมไม่คิดจะสึกหรอก แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ ถ้ากำลังใจลดลงเมื่อไรก็อาจจะคิดไปเหมือนกัน"
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕